วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555

ไอบีเอ็มทุ่ม100ล้านดอลลาร์ ทำวิจัยวิเคราะห์ข้อมูล บุกตลาดบิ๊กดาต้า


Pic_243638

ไอบีเอ็ม ประกาศทุ่ม 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อการวิจัยการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาล ประกาศบุกตลาด Big Data เปิดตัวซอฟต์แวร์ InfoSphere ที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก จากหลากหลายแหล่งแบบเรียลไทม์...
บริษัท ไอบีเอ็ม รุกตอบโจทย์ตลาดองค์กรมากมายที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก จากหลากหลายแหล่งข้อมูลจำนวนมหาศาลแบบเรียลไทม์ เปิดตัวซอฟต์แวร์ตระกูล "InfoSphere" สำหรับงานประมวลผล 2 ตัว คือ InfoSphere BigInsights (อินโฟร์สเฟียร์ บิ๊กอินไซด์) และ InfoSphere Streams (อินโฟร์สเฟียร์ สตรีม) ซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุด ที่พร้อมช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพเอาชนะคู่แข่งจากข้อมูลเชิงลึก ครั้งแรกที่องค์กรทั้งหลายสามารถเชื่อมโยง และวิเคราะห์ข้อมูลนับสิบพันล้านไบต์ในฟอร์แมตเดิมๆ จนได้เป็นข้อมูลสำคัญเพียงเสี้ยววินาที อีกทั้งยังประกาศที่จะลงทุนอีก 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อความต่อเนื่องสำหรับงานวิจัยด้านเทคโนโลยีและบริการที่ช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านปริมาณและความรวดเร็ว โดยจะมุ่งเน้นการวิจัยเริ่มต้นช่วยผลักดันอนาคตการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ตลอดจนพัฒนาเพื่อความก้าวหน้าของซอฟต์แวร์ ระบบและความสามารถการให้บริการ

ข้อมูลล่าสุดของงานวิจัย 2011 IBM Global CIO Study พบว่า 83% ของซีไอโอ 3,000 คน ที่ทำแบบสำรวจระบุว่า การประยุกต์ใช้เครื่องมือวิเคราะห์และระบบธุรกิจอัจฉริยะเพื่อการดำเนินงานด้านไอที ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในแผนกลยุทธ์ เพื่อการเติบโตในสามถึงห้าปีข้างหน้า จากข้อมูลรายงานบทวิเคราะห์ล่าสุดของอุตสาหกรรมไอที คาดว่าข้อมูลในองค์กรขนาดใหญ่ใน 5 ปีข้างหน้าจะเติบโตมากกว่า 650% และ 8% ของข้อมูลที่เติบโตขึ้นเป็นข้อมูลแบบไร้โครงสร้าง (unstructured data) และมีจำนวนมหาศาล ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า "Big Data" ตัวอย่างข้อมูลเหล่านี้ ได้แก่ ข้อความทวีต ข้อมูลการคลิก รูปภาพ วิดีโอ พิกัด GPS ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ ข้อมูลการเคลื่อนไหวของหุ้น ฯลฯ

นางเจษฎา ไกรสิงขร กรรมการรองกรรมการผู้จัดใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ทั้งปริมาณและความเร็วในการเติบโตของข้อมูลนั้น เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวกับเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเติบโตขึ้นจากช่องทางใหม่ๆ ของข้อมูลอย่าง เครือข่ายสังคมออนไลน์ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์มือถือ แท็บเล็ต ด้วยความสามารถที่หลากหลายของไอบีเอ็มทั้งด้านธุรกิจและด้านเทคโนโลยี ทำให้ไอบีเอ็มสามารถตอบสนองความต้องการในการช่วยลูกค้าได้อย่างเหมาะสมลงตัวที่สุด ไม่เพียงแต่ดึงข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าออกมาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถตอบสนองต่อการเติบโตของข้อมูลได้อย่างฉับไวอีกด้วย
รอง กก.ผจก.ใหญ่ธุรกิจซอฟต์แวร์ ไอบีเอ็ม กล่าวต่อว่า เพื่อตอบโจทย์ในการจัดการ Big Data ไอบีเอ็มได้เปิดตัวชุดซอฟต์แวร์ InfoSphere BigInsights และ Infosphere Streams ตัวใหม่พร้อมใช้งาน ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่อยู่ทั่วไป ในกระบวนการทางธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยซอฟต์แวร์นี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากสิทธิบัตรมากกว่า 50 รายการ ที่คิดค้นขึ้นเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลแบบมีโครงสร้างที่พบอยู่ทั่วไปในระบบฐานข้อมูล และรวมถึงข้อมูลแบบไร้โครงสร้าง อย่างเช่น ข้อความ วิดีโอ เสียง ภาพ สื่อสังคมเครือข่าย ข้อมูลสตรีมมิ่ง เป็นต้น จึงช่วยให้สามารถตัดสินใจที่จะดำเนินการใดๆ ได้อย่างรวดเร็ว

นางเจษฎา กล่าวถึงซอฟต์แวร์ Big Insights ว่า ผลลัพธ์จากความทุ่มเทตลอด 4 ปีของนักวิทยาศาสตร์ใน IBM Research กว่า 200 ชีวิต และพลังจากเทคโนโลยีโอเพนซอร์สอย่าง Apache Hadoop ที่เป็นซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มสำหรับการประมวลผลขนาดใหญ่ และรองรับการเชื่อมต่อสตอเรจสำหรับจัดเก็บข้อมูลระดับเทระไบต์จนถึงเพตาไบต์ และยังรวมเอาเทคโนโลยีของ Watson อันประกอบด้วย การวิเคราะห์ข้อความแบบไร้โครงสร้าง การจัดทำดัชนีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว และรูปแบบข้อมูล หรือชนิดข้อมูล นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่างเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแลข้อมูล เครื่องมือในการพัฒนา และการเชื่อมต่อระดับองค์กร จึงง่ายสำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลระดับ Big Data และที่สำคัญไอบีเอ็มยังเปิดให้ดาวน์โหลด BigInsights Basic Edition ได้ฟรี เพื่อช่วยให้เชื่อมโยงและจัดการกับ BigData ได้ง่ายขึ้น

รอง กก.ผจก.ใหญ่ธุรกิจซอฟต์แวร์ ไอบีเอ็ม กล่าวอีกว่า สำหรับซอฟต์แวร์ InfoSphere Streams ที่ได้รับการพัฒนาจาก IBM Research เป็นซอฟต์แวร์เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลที่อยู่ภายในองค์กร และเพื่อการตรวจสอบข้อมูลสำหรับทุกรูปแบบการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจสร้างรูปแบบใหม่ หรือแนวโน้มใหม่ได้ตลอดเวลา ด้วยความสามารถนี้จึงช่วยให้องค์กรสามารถเฝ้าระวังและใช้ข้อมูลเชิงลึกได้ เพื่อการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม ไม่พลาดโอกาสที่เกิดขึ้น ด้วยความก้าวหน้าของซอฟต์แวร์ Streams จึงทำให้การวิเคราะห์ข้อมูล Big Data เช่น ข้อมูล Tweets ข้อมูลบล็อก เฟรมวิดีโอ EKGs, GPS และเซ็นเซอร์ หรือข้อมูลตลาดหุ้น ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 350%
นางเจษฎา กล่าวด้วยว่า จึงเรียกได้ว่า BigInsights ได้เติมเต็ม Strames ด้วยการประยุกต์การวิเคราะห์ข้อมูลประวัติศาสตร์ขององค์กรได้เช่นเดียวกับข้อมูลแบบสตรีมมิ่ง และนี้คือวงจรการวิเคราะห์ข้อมูลที่เพิ่มศักยภาพการรองรับข้อมูลที่มากกว่า และให้ผลลัพธ์การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ผลลัพธ์ที่ได้จึงพร้อมรองรับการสร้างแบบจำลองเพื่อการปรับปรุงงาน ไอบีเอ็มจึงได้สร้างโซลูชันบนพื้นฐานเทคโนโลยีโอเพนส์ซอร์ส และเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการและฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพในระดับการใช้งานเชิงธุรกิจ Hadoop มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งเมื่อประสานกับความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลของไอบีเอ็ม จึงพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการจัดการกับการเติบโตของข้อมูล Big Data

ทั้งนี้ ชุดโซลูชันของไอบีเอ็มบนพื้นฐาน Hadoop ประกอบด้วย IBM Cognos Consumer Insight ที่ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลเนื้อหาในสังคมเครือข่ายด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ทางธุรกิจพื้นฐาน และ IBM Coremetrics Explore ซึ่งสามารถหารูปแบบพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า และเจาะลึกลงไปดูถึงข้อมูลระดับโมบายได้ นอกจากนี้ Hadoop ยังเป็นซอฟต์แวร์เฟรมเวิร์กให้กับระบบการประมวลผล IBM Watson ที่ใช้สำหรับการกระจายโหลดการทำงานในการประมวลผลข้อมูลสารสนเทศ จึงตอบโจทย์ระบบที่สามารถเข้าใจภาษาธรรมชาติและให้คำตอบเฉพาะได้อย่างรวดเร็ว

ซอฟต์แวร์และบริการ Big Data ของไอบีเอ็ม ถือเป็นการตอกย้ำการริเริ่ม การวิเคราะห์ของไอบีเอ็ม เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีที่คล้ายกับ Watson ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถตอบโจทย์เฉพาะทางของธุรกิจตนเองได้ ซึ่งใกล้เคียงกับ IBM Jeopardy Challenge เกมตอบคำถามแข่งกับมนุษย์ ซึ่งเทคโนโลยี IBM Watson ได้สาธิตให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าใจภาษามนุษย์ ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูงที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาลูกค้าได้จริง ตั้งแต่ระบบการรักษาสุขภาพ ไปจนถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจค้าปลีก.

แหล่งที่มาข้อมูล หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 

ฆ่าน้องตลก


Pic_243650

ตำรวจชันสูตรศพนายธนากร ช้างกลาง น้องชายตลกดัง “โชเล่ย์ ดอกกระโดน” หลังถูกคู่ขาเกย์ฟันด้วยมีดเสียชีวิตบนที่นอนภายในบ้าน ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช แล้วชิงเอารถกระบะกับเงินสดหลบหนี.

แหล่งที่มาข้อมูล หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 

ถึงฆาต

Pic_243648

สภาพศพนางสาหร่าย อภิสมโพธิ์ อายุ 69 ปี อาชีพรับซื้อของเก่า ถูกประตูรั้วอัตโนมัติของบ้านเลขที่ 1095 ซอยแบริ่ง 48 หมู่ 1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ หนีบคอดับอนาถขณะมารับซื้อขวดน้ำพลาสติก เจ้าของบ้านยอมรับกดปุ่มรีโมตผิดจากจะเปิดประตูกลายเป็นปิดประตู.

แหล่งที่มาข้อมูล หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 

ปส.อายัดเครือข่ายยา'บังแป๊ว'อีก เรือยอชต์หรูค่าสิบล้าน


ปส.ตรวจยึดเรือยอชต์หรู เครือข่าย “บังแป๊ว” ค่า 10 ล้าน ที่จอดรอซ่อมบำรุงที่อู่ ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 40 ล้านบาท...

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรเทพ เมธาวัฒธ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานงานตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) ช่วยราชการด้านการข่าว ปส. และเจ้าหน้าที่ ปส. ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่สนามกีฬา อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นได้ร่วมกับนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุระศร ผกก.สภ.ทับสะแก พร้อมกำลังตำรวจ สภ.ทับสะแก อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) กว่า 30 นาย สนธิกำลังทำการตรวจยึดเรือยอชต์หรู ยี่ห้อเอ็มดับเบิ้ลยูมารีน หมายเลข 490003018 มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท หลังจากสืบทราบว่าเรือลำดังกล่าว มีเจ้าของเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ "บังแป๊ว คลองไผ่" สั่งให้ลูกน้องลากจูงเรือมาจากเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อนำมาซ่อมบำรุงที่อู่ซีแบนด์ยอชต์ ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ห่างจากที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทับสะแก เพียง 50 เมตร ซึ่งเรือลำดังกล่าวได้นำมาจอดที่อู่นานกว่า 5 เดือน โดยที่ยังไม่มีการซ่อมบำรุง เนื่องจากเจ้าของเรือยังไม่ได้วางเงินมัดจำในการซ่อม และล่าสุดยังไม่สามารถติดต่อเจ้าของเรือลำดังกล่าวได้ เนื่องจากผู้ครอบครองเป็นภรรยาของผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดที่ถูกยึดทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า การดำเนินการยึดเรือมาจากการจับกุมยาไอซ์หนัก 3 กิโลกรัมที่จังหวัดชุมพร มีนายดำรงเกียรติ นุกูล หรือบังแป๊ว เป็นเจ้าของ และถุกจับกุมดำเนินคดีจำคุกที่เรือนจำคลองไผ่ ล่าสุดถูกย้ายมาคุมขังที่เรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี โดยพบว่าเครือข่ายยาเสพติดอีก 2 ราย ของบังแป๊วถูกจับกุมดำเนินคดี และถูกควบคุมตัวกักขังที่เรือนจำกลาง จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาพยายามฆ่า และเป็นผู้นำยาเสพติดไปจำหน่ายในจังหวัดภาคใต้ และมักจะใช้ความรุนแรงกับลูกค้าที่มีปัญหาในการจ่ายเงินค้ายาเสพติด ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ ปส.ได้เข้าตรวจค้นเพื่อยึดของกลางอีก 9 จุด ในการขยายผลที่ จ.นครศรีธรรมราช สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับแล้ว 3 คน รวมทั้งการอายัดตัวผู้ต้องหาในเครือข่ายที่ถูกขังในเรือนจำทั้ง กทม. และต่างจังหวัดอีก 3 คน โดยประสานงานกับกรมราชทัณฑ์ จากนั้น ปส. ได้ยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดทั้งหมด มีบ้านพักหรูราคา 2.5 ล้านบาท และรถยนต์อีก 7 คัน ในจังหวัดนนทบุรี รวมมูลค่าของกลางประมาณ 40 ล้านบาท สำหรับบังแป๊วผู้ต้องหาคนสำคัญเคยถูก ปส.ยึดทรัพย์มาแล้วในปี 2551 และถูกจำคุก แต่ยังสั่งเครือข่ายให้เคลื่อนไหวค้ายาเสพติดได้ ถือว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ระดับประเทศ.

แหล่งที่มาข้อมูล หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  

'เนวิน' ย้ำดึง AV มาเล่นคอนเสิร์ต เซ็งคนไม่รู้จริงอย่าพูด


ตรงคอนเซปต์ ทำอะไรก็ผิด! "เสี่ยเน" เนวิน ชิดชอบ ตอบโต้กลุ่มคนไม่เห็นด้วยที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมดึงวงดาราหนังเอวี มาฉลองสงกรานต์ ที่สนามนิวไอ-โมบาย สเตเดียม เหน็บผิดตรงไหน? เชิญมาเล่นคอนเสิร์ต ไม่ได้มาแสดงหนังโป๊...

วันที่ 7 มี.ค. หลังจากมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ​ยูไนเต็ด มีไอเดียเชิญศิลปินวง อิบิซึ มัสแคทส์ (Ebisu Muscats) เกิร์ลกรุ๊ปจากญี่ปุ่น ที่รวมดาราหนังโป๊ หรือ เอวี (AV) กว่า 25 คน นำทีมโดย โซระ อาโออิ ดาราเอวีชื่อดัง มาแสดงในงานเทศกาลสงกรานต์ของ จ.บุรีรัมย์ ที่สนามนิวไอ-โมบาย สเตเดียม เนื่องจากไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย และเด็กๆ เยาวชน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายเนวิน ซึ่งเตรียมนำลูกทีมประเดิมสนามศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฟาดแข้งกับ คาชิวะ เรย์โซล ที่สนาม นิวไอ-โมบาย เย็นวันนี้ ออกมาชี้แจงว่า การนำศิลปิน อิบิซึ มัสแคทส์ มาโชว์ตัวยัง จ.บุรีรัมย์ ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อแสดงคอนเสิร์ต ผ่อนคลายให้กับแฟนบอล พร้อมกับติงผู้ที่ออกมาต่อต้านว่า หากไม่รู้จริง ก็ไม่สมควรออกมาพูดเช่นนี้

"คนที่ออกมาพูด รู้จริงหรือเปล่าว่า เขามาในฐานะอะไร คนที่จ้องจะว่าก็เตรียมจะว่าอย่างเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นดาราเอวีของญี่ปุ่นก็จริง แต่ที่เขามาเมืองไทย เขามาเล่นคอนเสิร์ต เขาไม่ได้มาแสดงหนังโป๊ การมาครั้งนี้ เหมือนมาผ่อนคลายให้แฟนบอล ถ้ามาเล่นหนังโป๊ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่เป็นคอนเสิร์ต" ประธานใหญ่ทีมแชมป์เซราะกราวย้ำชัด
ทั้งนี้ มีกระแสต่อต้านไอเดียดังกล่าวเกิดขึ้นในสังคมไทย นำโดย กระทรวงวัฒนธรรม ที่มองว่าไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย, องค์กรเกี่ยวกับพิทักษ์สิทธิสตรี ซึ่งมองว่า เป็นการกดขี่และลดคุณค่าของสตรีเพศ รวมถึงนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่น ก็เห็นว่าจะทำให้สังคมไทยติดเซ็กซ์ และเป็นสิ่งอัปมงคล แต่ก็มีฝ่ายที่สนับสนุน เช่น สภาวัฒนธรรม จ.บุรีรัมย์ ที่มองว่าจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังจังหวัดมากขึ้น เป็นต้น.

แข้งสายฟ้าสุดยอด! ล้มคาชิวะ 3-2 ประเดิมชัยชปล.


"จิรวัฒน์ มัครมย์" สวมบทฮีโร่ เหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังเฉือนชนะ คาชิวะ เรย์โซล สุดมันส์ 3-2 ประเดิมสามแต้ม ส่วนอีกคู่ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ บุกถล่ม ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ยับ 5-1 ศึกลูกหนังเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ช่วงค่ำที่ผ่านมา...

ศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก กลุ่ม เอช ระหว่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก เปิดสนาม นิวไอ-โมบาย สเตเดียม รับการมาเยือน คาชิวะ เรย์โซล แชมป์จากเจลีก ของญี่ปุ่น เมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา

เปิดฉาก บุรีรัมย์ ครองบอลเหนือกว่า ก่อนได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จาก จิรวัฒน์ มัครมย์ น.11 จากนั้น คาชิวะ เริ่มเล่นดีขึ้น และเกือบตีเสมอได้จาก เลอันโดร โดมิงเกส บาร์โบซา แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน โกล์บุรีรัมย์ ปัดออกไปได้ น.30 และถัดมา 2 นาที คาชิวะ ได้เสียวอีก จาก เลอันโดร คนเดิม แต่คราวนี้ ซัดถากเสา
อย่างไรก็ตาม บุรีรัมย์ เป็นฝ่ายได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะโต้กลับเร็ว บอลมาถึง อัสคาร์ จาเดียรอฟ นักเตะใหม่ชาวอุซเบกิสถาน บรรจงปั่นด้วยขวา บอลโค้งหนีมือนายทวารทีมเยือน เสียบสามเหลี่ยมสุดสวย น.40 ก่อนหมดครึ่งแรก ด้วยสกอร์นี้ โดยที่รูปเกมของบุรีรัมย์ค่อนข้างดีกว่า

ครึ่งหลัง คาชิวะ เรย์โซล เดินเครื่องบุกตั้งแต่ต้น จนตีไข่แตกได้สำเร็จ จากจังหวะเปิดเข้ากลางมาหน้าประตูบุรีรัมย์ จุนยะ ทานากะ แปโล่งๆเข้าไป น.56 ทีมเยือนไล่มาเป็น 1-2 หลังจากนั้น แผงหลังเจ้าบ้าน เริ่มรวน เปิดโอกาสให้ฮิโรกิ ซาไก ขึ้นโขกคนเดียว จากลูกเตะมุม ตุงตาข่าย น.66 ตีเสมอเป็น 2-2 จนได้
แม้จะโดนตีคืนสองลูกรวด แต่บุรีรัมย์ยังฮึดกลับมาขึ้นนำได้อีกครั้ง น.78 จากการทำชิ่งสุดสวย ก่อนเป็น จิรวัฒน์หลุดเข้าไปซัดผ่านแสกหน้าของ โกล์คาชิวะ เข้าไป จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บุรีรัมย์ เฉือนชนะ คาชิวะ ไปอย่างสนุก 3-2 คว้าชัยประเดิมสนามได้สำเร็จ

ส่วนผลการแข่งอีกคู่ในกลุ่มนี้ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ แชมป์บอลลีกของจีน บุกไปเอาชนะ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส แชมป์จากเคลีก เกาหลีใต้ ถล่มทลาย 5-1 ขณะที่นัดต่อไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน กวางโจวฯ และ คาชิวะ เรย์โซล กลับไปเล่นในบ้าน พบกับ ชุนบุคฯ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด :
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน - ธีราทร บุญมาทัน, ประทุม ชูทอง, เอควัลลา เฮอร์มาน, อัสคาร์ จาเดียรอฟ, จักรพันธ์ แก้วพรม, สุเชาว์ นุชนุ่ม, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, แฟรงค์ โอฮันด์ซา, จิรวัฒน์ มัครมย์, แฟรงค์ อาชิมปง

คาชิวะ เรย์โซล : ทาคาโนริ ซูเกโนะ  - นาโอยะ คอนโดะ, ฮิโรกิ ซาไก, มาซึชิมะ ทัตซูยะ, ฮิเดกาซึ โอทานิ, ฮิเดเอกิ คิตาจิมะ, เลอันโดร โดมิงเกส บาร์โบซา, จอร์จ วากเนอร์, จุนยะ ทานากะ, เอกิมิ บาราดะ เอกิมิ, วาตารุ ฮาชิโมโตะ
แหล่งที่มาข้อมูล ไทยรัฐ  

ปูก๊อบปี้ทักษิณ สร้างภาพลบ ฝ่ายตรวจสอบ


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์​ ก๊อบปี้ยุคทักษิณ พยายามลดชั้นฝ่ายการตรวจสอบ สร้างภาพฝ่ายค้านให้เป็นตัวถ่วงการบริหาร กรีดซ้ำ ชี้ชัดไม่เข้าใจในระบบประชาธิปไตย...

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการฟ้าวันใหม่ ทางบลู สกาย แชนแนล ทีวี ถึงการตรวจสอบการทำงานรัฐบาลของฝ่ายค้านที่ถูกบางฝ่ายวิจารณ์ว่า ฝ่ายค้านทำงานแบบขัดแข้งขัดขารัฐบาลว่า ทุกประเทศมีรัฐบาล แต่มีเฉพาะประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้นที่มีฝ่ายค้าน ซึ่งแต่ละฝ่ายก็มีบทบาทหน้าที่ของตนเอง ถ้าหากมีความเข้าใจเรื่องนี้ตรงกัน และเข้าใจว่าการตรวจสอบจะทำให้การใช้อำนาจต่างๆ ของรัฐมีความรอบคอบมากขึ้น ทุกอย่างก็จะไม่เป็นปัญหา มียุคนี้จะคล้ายๆ กับสมัยยุคคุณทักษิณ ที่จะมีการสร้างกระแสให้เกิดความเข้าใจว่า การตรวจสอบนั้นเป็นการถ่วงความเจริญ คุณทักษิณนั้นพูดชัดเลยว่า ฝ่ายค้านคล้ายๆ ไม่ต้องมีก็ได้ทำนองนั้น นั่นคือความไม่เข้าใจในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะปัจจุบันการเมืองมีการแบ่งขั้วชัดเจน เมื่อฝ่ายค้านทำการตรวจสอบก็มักจะถูกมองว่าเป็นการขัดขวางการทำงาน ดังนั้นจะมีการทำความเข้าใจกับคนกลุ่มนี้ ซึ่งสิ่งแรกรัฐบาลควรยอมรับและตระหนักถึงหน้าที่ในการให้ความเข้าใจกับประชาชน โดยมีหลักง่ายๆ ที่ตนคิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาในสถานการณ์อย่างนี้ได้ก็คือ การทำให้คนของเราคิดถึงแต่ประเด็นเนื้อหา หรือคิดถึงเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะคิดถึงตัวบุคคลที่ออกมาแสดงความเห็น

ตอกย้ำรัฐไม่มีอะไรใหม่ แผนบริหารจัดการน้ำ

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงเรื่องแผนการบริหารจัดการน้ำ ที่ ครม. มีมติอนุมัติงบประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาทใน 246 โครงการว่า ตัวโครงการส่วนใหญ่ไม่น่ามีปัญหา เพราะมีความจำเป็นต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งหัวใจในเรื่องนี้เป็นเรื่องการบริหารจัดการ เรื่องฟลัดเวย์ ว่าจะทำให้ประชาชนและนานาประเทศมั่นใจได้อย่างไร สำหรับในเรื่องงบประมาณนั้น ก็ไม่แน่ใจว่า จำเป็นต้องใช้เงินกู้หรือไม่ เพราะยังมีเงินจากงบกลางที่ยังเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก น่าจะใช้ตรงนี้ก่อน ฉะนั้นตนคิดว่า จะต้องติดตามตรงนี้อีกที ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่เพิ่งอนุมัติไปแล้วนั้น จะมีการระบุชัดเจนหรือไม่ ต้องมีการตรวจสอบกันอีกครั้ง เข้าใจว่าเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเป็นเรื่องจำเป็นจะต้องปรับปรุง ก็ว่ากันไป ประเด็นก็มีอยู่ว่า สิ่งที่ขณะนี้จะเป็นเรื่องหัวใจ ก็จะเป็นเรื่องการบริหารจัดการ เรื่องฟลัดเวย์ตรงนี้มากกว่า ซึ่งตรงนี้คือสิ่งที่เรายังรอคอยอยู่ให้เกิดความมั่นใจว่าจะเป็นอย่างไร ตัวโครงสร้างที่จะทำกันไปนั้นก็ทำกันไป แต่ต้องดูว่า ภาพรวมทิศทางของการบริหารน้ำ ทิศทางคือจะให้น้ำไปทางไหน ต้องออกมาให้ชัด    แล้วมันจะต้องสอดคล้องกับตัวโครงสร้างพื้นฐานที่จะทำกัน ถ้าถามว่ามีอะไรใหม่ ใน  ขณะนี้ต้องบอกว่า ยังไม่ได้มีความชัดเจนว่าจะมีอะไรใหม่

ชี้มติผู้ตรวจการฯ ให้นายกฯ ทบทวนใน 30 วัน
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา มีมติเกี่ยวกับการตรวจสอบนางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รมช.เกษตรฯว่า เข้าใจว่าในการพิจารณามี 2 ส่วน คือส่วนของผู้ที่ถูกแต่งตั้ง 2 คน มีการพิจารณาว่าในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ทั้ง 2 คน ไม่ได้ทำเรื่องตามที่ได้ร้องเรียน ส่วนการพิจารณาในส่วนผู้ที่แต่งตั้งนั้น มีมติว่า ผู้ที่แต่งตั้งขาดความรอบคอบ และให้กลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งภายใน 30 วัน

“รู้สึกว่าแม้แต่คนที่เอาเรื่องร้องก็ยังสับสนว่ามติคืออะไร ผมเข้าใจว่าทางผู้ตรวจการฯ ได้แยกการพิจารณาเป็น 2 ส่วน คือ คนที่ตั้ง ตัวนายกฯ มีเลขาฯ ครม. ที่เข้าไปเกี่ยวข้องในกระบวนการของการตั้งแล้วก็คนที่ถูกตั้งก็มี 2 คน สิ่งที่ผู้ตรวจการฯ พูดในส่วนของคนที่ถูกตั้ง 2 คน คือคุณณัฐวุฒิ กับคุณนลินี ผมเข้าใจว่าผู้ตรวจการฯ บอกว่า พฤติกรรมที่มีการร้องเรียนทั้งหลายนั้นเป็นเรื่องอดีต เพราะฉะนั้นคล้ายๆ กับว่าตรงนี้ก็จึงไม่มีปัญหาที่จะต้องพิจารณาว่าผิดหรือไม่ผิดจริยธรรม เพราะว่าเหมือนกับถูกร้องในขณะดำรงตำแหน่ง เขาไม่ได้ทำเรื่องพวกนี้ในระหว่างดำรงตำแหน่ง ก็จบไปก่อน

ส่วนคนที่ตั้งตัวเลขาฯ ครม. เขาก็บอกว่า ไม่ได้มีอะไร ก็หมายความว่าทำตามหน้าที่อะไรต่างๆ ไปแล้ว แต่ว่าก็บอกว่า นายกฯ นั้นขาดความรอบคอบ ในความหมายที่ว่า ควรจะได้มีการพิจารณาประเด็นที่เป็นที่มาของการร้องเรียน ฉะนั้นตรงนี้ก็จึงเป็นที่มา ที่บอกว่าให้ไปดูอีกทีว่าการตั้งนั้นคล้ายกับไปทบทวนว่า มันกระทบเกียรติภูมิของประเทศอะไรหรือไม่ โดยสรุปฟังแล้วก็หมายความว่า ทางผู้ตรวจการฯ ก็บอกเหมือนกับที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่า มันน่าจะมีประเด็นความเหมาะสมไม่เหมาะสมอยู่ ที่จะต้องพิจารณามากกว่าที่จะบอกว่าไม่มีอะไร ก็ให้นายกฯ ไปดู ก็เป็นมติที่กลางๆ ที่ทางนายกฯ จะต้องไปพิจารณา แล้วก็รู้สึกว่าต้องชี้แจงกันอีกรอบหนึ่ง

”ส่วนที่มีการระบุว่า ทำผิดจริยธรรม แต่ไม่ผิดกฎหมาย สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ควรจะนำไปอ้างในลักษณะนี้ เพราะต้องดูว่าแต่ละกรณีเป็นอย่างไร ควรดูที่ความหนักเบาของความผิดด้วย

แหล่งที่มาข้อมูล ไทยรัฐ       แหล่งที่มาข้อมูลเดลินิวส์

คลิปว่อน ผู้จัดเอเชียอัพเดท บุกประท้วง กนก ถึง อสมท


ผู้จัดรายการ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชียอัพเดท พาเสื้อแดง 20 คน บุกถึง       อสมท กลางดึก ยื่นหนังสือประท้วง “กนก รัตน์วงศ์สกุล” ผู้สื่อข่าวชื่อดัง ประท้วงอ้างทำข่าวไม่เป็นกลาง แนะ ให้รายงานใครทำอะไรที่ไหนก็พอ...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ปรากฏคลิป ที่ถูกระบุว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ​ 20 คน นำทีมโดย นาย จ.เจตน์ หรือที่มีชื่อจริงว่า นายจิรปาณ ศรีเนียน ผู้ดำเนินรายการ รายการโซเชียลกอสซิป ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชียอัพเดท ขอเข้าพบนายกนก รัตน์วงศ์สกุล ที่สำนักงานใหญ่ อสมท ช่อง 9 เพื่อยื่นหนังสือประท้วง โดยอ้างว่าทำหน้าที่อ่านข่าวอย่างไม่เป็นกลาง ซึ่งนายกนกก็ยินดีและรับหนังสือไว้ พร้อมกล่าวขอโทษอย่างสุภาพ
ทั้งนี้ หลังจากมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไป ปรากฏว่ามีกลุ่มผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากเข้าข่ายพฤติกรรมคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน




สื่อนอกตีข่าว 'ปู' ไฟเขียวจ่ายเงินชดเชยครอบครัวช่างภาพรอยเตอร์


สื่อต่างประเทศรายงาน รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เตรียมจ่ายเงินชดเชยจำนวน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 7.69 ล้านบาท) ให้แก่ครอบครัวของ นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างบันทึกภาพเหตุการณ์ที่กองทัพไทยใช้กำลังสลายการชุมนุมทางการเมือง เมื่อ 2 ปีก่อน...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 7 มี.ค.ว่า รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เตรียมจ่ายเงินชดเชยจำนวน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 7.69 ล้านบาท ให้แก่ครอบครัวของ นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นของสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่ถูกยิงเสียชีวิต ระหว่างทำหน้าที่บันทึกภาพเหตุการณ์ ที่กองทัพไทยใช้กำลังสลายการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง กลางกรุงเทพมหานคร เมื่อ 2 ปีก่อน
รายงานข่าวของสื่อต่างประเทศหลายสำนัก ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของไทย ได้ยืนยันเรื่องดังกล่าวด้วยตนเอง ก่อนที่เธอจะเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ โดยผู้นำหญิงของไทยยังเผยว่า นอกจากจะมีการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวของนายมูราโมโตะแล้ว รัฐบาลของเธอจะส่งจดหมายแสดงความเสียใจในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยอย่างเป็นทางการ ไปยังครอบครัวของช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ด้วยเช่นกัน พร้อมแสดงความหวังว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน จะไม่กระทบกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพิ่งให้ความเห็นชอบกับการจ่ายเงินชดเชยจำนวน 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2,000 ล้านบาท ให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุรุนแรงทางการเมืองในไทยนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 เป็นต้นมา.

แหล่งที่มาข้อมูล หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 

ดินแดนตะวันออกลิเบียประกาศตั้ง 'รัฐกึ่งเอกราช' ส่อเค้าแยกตัวเป็นประเทศใหม่


บรรดาผู้นำชนเผ่าและผู้นำกองกำลังติดอาวุธ รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นในเมืองเบงกาซี เมืองเอกทางภาคตะวันออกของลิเบียบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการจัดตั้ง "รัฐกึ่งเอกราช" ขึ้นทางตะวันออกของประเทศ อ้างเหตุผลต้องการปกครองตนเอง เพราะทนทุกข์กับการกดขี่ของระบอบกัดดาฟีมานาน...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 7 มี.ค. ว่า ดินแดนของลิเบียที่เคยรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายใต้การปกครองของ พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ตลอดระยะเวลากว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา อาจถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ประเทศในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากที่ดินแดนที่อุดมไปด้วยน้ำมันทางภาคตะวันออกของลิเบีย ประกาศตั้งตัวเป็น "รัฐกึ่งเอกราช"
รายงานข่าวระบุว่า บรรดาผู้นำชนเผ่าและผู้นำกองกำลังติดอาวุธ รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นในเมืองเบงกาซี เมืองเอกทางภาคตะวันออกของลิเบีย ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ต่างบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการจัดตั้ง "รัฐกึ่งเอกราช" ขึ้นทางตะวันออกของประเทศ แม้การจัดตั้งรัฐดังกล่าวจะยังไม่มีสถานะทางกฎหมายใดๆ มารองรับก็ตาม โดยระบุเหตุผลหลักที่ประชาชนทางภาคตะวันออกของลิเบีย ต้องการสิทธิ์ในการปกครองตนเองเป็นเพราะต้องทนทุกข์กับการปกครองที่กดขี่ของระบอบกัดดาฟีมานาน และไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย  แม้จะสิ้นยุคของกัดดาฟีไปแล้วก็ตาม

ดินแดนตะวันออกนำโดยเมืองเบงกาซี ประกาศไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจรัฐบาลที่ตริโปลีอีกต่อไป
ดินแดนตะวันออกนำโดยเมืองเบงกาซี ประกาศไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจรัฐบาลที่ตริโปลีอีกต่อไป
ลิเบียส่อเค้าแตกเป็นเสี่ยงหลังสิ้นกัดดาฟี
ลิเบียส่อเค้าแตกเป็นเสี่ยงหลังสิ้นกัดดาฟี
ภาคตะวันออกของลิเบียอุดมไปด้วยน้ำมัน
ภาคตะวันออกของลิเบียอุดมไปด้วยน้ำมัน

ขณะเดียวกัน การประกาศจัดตั้ง "รัฐกึ่งเอกราช" ดังกล่าว ซึ่งจะใช้ชื่อว่า "สาธารณรัฐบาร์กา" ยังมีการระบุว่า จะมีการจัดตั้งรัฐสภา กองกำลังตำรวจ และศาลของตนเองขึ้นภายในเมืองเบงกาซี ที่กำลังจะมีสถานะเป็นเมืองหลวงของลิเบียตะวันออก อย่างไรก็ดี ดินแดนแห่งใหม่นี้จะยังคงมอบอำนาจในด้านการดำเนินนโยบายต่างประเทศ และการป้องกันประเทศ ให้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลกลางของลิเบียที่กรุงตริโปลีไปก่อน
ด้านสภาเพื่อการเปลี่ยนผ่านแห่งชาติของลิเบีย (เอ็นทีซี) ซึ่งมีบทบาทเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลที่มีอำนาจปกครองประเทศ หลังการโค่นอำนาจรัฐบาลกัดดาฟีตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ออกมาแถลงตอบโต้ความพยายามแยกตัวของดินแดนฝั่งตะวันออกในครั้งนี้ โดยทางเอ็นทีซียืนยัน จะไม่ยอมรับการกระทำใดๆ ที่จะคุกคามความเป็นเอกภาพของลิเบีย.

โนเกียเปิดตัวลูเมีย 900 เพียววิวกล้องชัดขั้นเทพ

วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2555 เวลา 00:00 น.
งานโมบาย เวิลด์ คองเกรส 2012 จัดที่เมืองบาร์เซโลนา สเปน เป็นประจำทุกปี เป็นงานใหญ่ระดับโลกที่ผู้ผลิตอุปกรณ์และนักพัฒนาจากทั่วโลกจะมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในวงการโทรคมนาคม เช่น โทรศัพท์มือถือ โครงข่าย และอุปกรณ์ต่าง ๆ 

เป็นสุดยอดการประชุมระดับโลกของอุตสาหกรรมการสื่อสาร

โนเกีย ประเทศไทย  ได้พานักข่าวจากไทยไปร่วมงานเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของโนเกียในงานนี้ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ประจำปีของโนเกีย

สตีเฟน อีลอป ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารโนเกีย  กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้ว โนเกีย ได้ประกาศแผนใหม่ของบริษัท โดยประกาศให้วินโดว์ โฟน เป็นระบบปฏิบัติการหลักของโนเกีย หลังจากเปิดตัวสมาร์ทโฟนลูเมีย 800 และ 710  ไปแล้ว ซึ่งไปได้ดีมากในสหรัฐอเมริกาและยุโรป             

ขณะนี้กำลังทยอยวางจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ

สำหรับในงานนี้ ผู้บริหารสูงสุดของโนเกีย ได้เปิดตัววินโดว์ โฟน อีก 2 รุ่น คือ ลูเมีย 900 และลูเมีย  610

ลูเมีย 900 เพิ่มสีขาว จอใหญ่กว่าเดิม ราคาเกือบสองหมื่นบาท และล่าสุดคว้ารางวัลสุดยอดสมาร์ทโฟนหลายรางวัลจากงานโมบาย เวิลด์ คองเกรส ฯ

สตีเฟน อีลอป ระบุว่า  ลูเมียรุ่นใหม่ฉลาดกว่าเดิม มีบริการใหม่ ๆ เข้ามาเสริมมากขึ้น ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ โดยในสหรัฐอเมริกา ลูเมีย 900 ได้เปิดตัวไปแล้วในเดือนมกราคม เป็นสมาร์ทโฟนโนเกีย รุ่นแรกที่รองรับระบบแอลทีดี หรือ 4 จี 42 Mbps จอเคลียร์แบล็ก อะโมเลด ภาพใสคมชัดใช้ได้ดีแม้ในสภาวะแสงน้อย ขนาด 4.3 นิ้ว และแบตเตอรี่คุณภาพสูง รองรับการใช้งานได้นาน ๆ

ส่วนลูเมีย 710 เป็นวินโดว์โฟนราคาไม่แพง ที่ต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงได้ ใช้ท่องเว็บ ฟังเพลง เล่นเกม ระบบนำทาง และเข้าถึงแอพพลิเคชั่นมาร์เก็ตเพลส ของวินโดว์โฟนได้เหมือนกัน ในราคาเพียงเจ็ดพันกว่าบาท มีให้เลือกหลายสีตามสไตล์ของโนเกีย

นอกจากนี้โนเกียเปิดตัว โนเกีย รีดดิ้ง (Nokia Reading) ช่วยให้เข้าถึงการอ่านข่าว หนังสือ และหนังสือแบบมีเสียงประกอบ หลากหลายภาษา เข้าถึงการใช้งานเพียงจุดเดียว และเข้าถึงเนื้อหาได้แม้ไม่ได้เชื่อมต่อโครงข่ายการสื่อสาร

อีกรุ่นหนึ่งบนระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนเบลล์ ที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกทันทีที่เปิดตัวนั่นก็คือโนเกีย 808 เพียววิว ( Nokia 808 PureView) ซึ่งเพียววิวเป็นเทคโนโลยีการถ่ายภาพขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะโทรศัพท์มือถือโนเกียเท่านั้น เทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้ในโทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ ของโนเกียต่อไป

808 เพียววิว มีเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงขนาด 41 ล้านพิกเซล เลนส์คาร์ลไซส์ เทคโนโลยี พิกเซล โอเวอร์ แซมปลิง (pixel-over-sampling) ที่พัฒนาขึ้นโดยโนเกีย ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ละเอียด คมชัด แม้ภายใต้สภาพแสงน้อย และมีความสามารถในการเก็บภาพในไฟล์ขนาดเล็กเพื่อส่งอีเมล หรือแชร์บนสังคมออนไลน์ได้

ที่สำคัญรุ่นนี้มีระบบเสียงดอลบี้สเตอริโอ ฟังกระหึ่มในหูฟัง

ส่วนอัชชา ซึ่งเป็นฟีเจอร์รุ่นที่ขายดีของโนเกีย ก็เปิดตัวใหม่อีก 3 รุ่น คือ อัชชา 302, 202 และ 203 เฉพาะรุ่น 302 นั้นเป็นมือถือคิวเวอร์ตี้ ให้ใช้งานออฟฟิศเคลื่อนที่ ผ่านพุชเมล ปฏิทิน การเชื่อมต่อรายชื่อผู้ติดต่อ ด้วยระบบสนับสนุนเมลฟอร์เอ็กซเชนจ์เป็นครั้งแรกบนมือถือ ซีรีส์ 40 ของโนเกีย

ด้านอัชชา 202 และ 203 เป็นโทรศัพท์มือถือ 2 ซิม จอสัมผัส พร้อมฟังก์ชันให้เปลี่ยนซิมได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องปิดเครื่อง

อีกเรื่องที่น่าสนใจจากโนเกีย ก็คือ โนเกีย ไลฟ์ (Nokia Life) ซึ่งโนเกียปรับปรุงมาจากโนเกีย ไลฟ์ทูล เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต ผ่านผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีรีส์ 30 และ 40 รวมถึง อัชชา 202 และ 203 ซึ่งผู้ใช้โนเกียในอินเดีย จีน อินโดนีเซีย และไนจีเรีย จะได้รับประโยชน์จากบริการเกี่ยวกับทักษะชีวิต การดูแลบุตร การศึกษา เกษตรกรรม และความบันเทิง ซึ่งส่งผ่านระบบเอสเอ็มเอส

ส่วนค่ายอื่นก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตใหม่ ๆ ในงานนี้เหมือนกัน เช่นซัมซุง เปิดตัวกาแล็คซี่โน้ต 10.1 หน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ 1.4 กิกะเฮิรตซ์ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ จอ 10.1 นิ้ว แอลจี เปิดตัวสมาร์ทโฟน วู จอ 5 นิ้ว หน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ 1.5 กิกะเฮิรตซ์ และออพติมัส 3 แม็กซิมัม เป็นสมาร์ทโฟนจอสามมิติที่บางที่สุดในโลก บนแอนดรอยด์ 2.3

ประมาณไตรมาส 2 หรือเดือนเมษายน-พฤษภาคม เราอาจจะเริ่มเห็นของใหม่เข้ามาในเมืองไทย โดยเฉพาะตระกูลลูเมีย โนเกียจะเข้ามาพร้อมกันทั้ง 800 และ 900 รวมถึง 808 เพียววิว ที่มีกล้องชัดขั้นมหาเทพ สาเหตุที่เข้าบ้านเราช้า เพราะต้องรอให้มาร์เก็ตเพลสของไทยเสร็จก่อน

รักใครชอบใครก็เก็บเงินใส่กระปุกรอกันซะ.
ปรารถนา ฉายประเสริฐ
prathana.chai@gmail.com

แหล่งที่มาข้อมูลเดลินิวส์

อินเทลนำร่อง “แท็บเล็ตต้นแบบ” “ เสริมการเรียนรู้ ไม่ใช่แทนครู ” - ฉลาดคิด

ใกล้เข้ามาทุกที!! กับโครงการแท็บเล็ตป.1 ของรัฐบาล ที่คาดว่าจะเริ่มแจกได้ภายในภาคการศึกษาหน้า

ในขณะที่หลาย ๆ คนอาจจะยังคาใจ กับหลากหลายคำถาม เกี่ยวกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของความพร้อมในการใช้งาน

ล่าสุด…นอกจากภาครัฐจะมีการทดสอบใช้งานในโรงเรียนนำร่องแล้ว ภาคเอกชนในวงการไอทีอย่างอินเทล ก็ได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ทำโครงการนำร่องทดสอบการใช้งานแท็บเล็ตในเด็กเล็ก ที่โรงเรียนอนุบาลสามเสน กรุงเทพมหานคร

โดย “นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ” กรรมการผู้จัดการบริษัทอินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า อินเทลได้เริ่มโครงการดังกล่าวตั้งแต่ 1ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนำเสนอแท็บเล็ตพีซี ให้กับโรงเรียนอนุบาลสามเสน จำนวน 45 เครื่อง เพื่อนำไปใช้เป็นอุปกรณ์การเรียนนำร่องสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/4
ไม่ใช่แค่ตัวเครื่องที่เป็นเครื่องต้นแบบที่ใช้อินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ เท่านั้น แต่ผู้บริหารอินเทล บอกว่า โครงการนำร่องที่อินเทลใช้ชื่อว่า “อินเทล เลิร์นนิ่งซีรีส์” นี้ เป็นการนำเสนอทั้งโซลูชั่น โดยมีอินเทลเป็นตัวกลางของความร่วมมือระหว่างพันธมิตรและเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ

ซึ่งจะทำตั้งแต่การออกแบบแท็บเล็ตที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก ขนาด 7 นิ้ว จอทัชสกรีนใช้ง่ายและพกพาสะดวก ตัวเครื่องสามารถกันน้ำ กันฝุ่น และทนต่อแรงกระแทก โดยสามารถตกพื้นจากระยะความสูงประมาณ 70 เซนติเมตรได้โดยไม่ได้รับความเสียหายแม้จะไม่มีกระเป๋าหรือซองหุ้ม

และที่สำคัญก็คือมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ “คลาสรูม แมนเนจเมนต์” ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องต้นแบบ ซึ่งจะช่วยให้ครูสามารถดูแลและจัดการระบบการเรียนการสอนภายในห้องเรียนได้แบบง่าย ๆ ผ่านไวไฟ

ซอฟต์แวร์นี้ทำให้คุณครูสามารถที่จะรู้ได้ว่าเด็ก ๆ สนใจบทเรียนมากน้อยแค่ไหน เปิดบทเรียนตามที่ครูสั่งหรือไม่ หากเปิดเกมหรือนอกเหนือคำสั่งก็สามารถที่จะสั่งล็อกเครื่องได้ทันที นอกจากนี้ในเรื่องของความปลอดภัย ก็มีซอฟต์แวร์เตือนภัย ที่จะช่วยแจ้งเตือนในกรณีเครื่องถูกขโมยหรือสูญหายได้อีกด้วย

สำหรับเนื้อหา อินเทลบอกว่ามาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและมีแอพพลิเคชั่นอีกหลายตัวจากแอนดรอยด์มาร์เกต และยังได้นำโครงการอินเทล ทีช มาใช้ในโครงการนำร่องนี้อีกด้วย เพื่ออบรมครูผู้สอนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์และสามารถประยุกต์ใช้งานให้เข้ากับวิชาที่สอนได้

“ดร.ณัฏฐนันท์ ปั้นลายนาค” ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลสามเสน บอกว่า จากการทดลองใช้งานแท็บเล็ตทำให้เด็กนักเรียนตื่นเต้นและมีความสุขกับการเรียนมากขึ้น

ทั้งนี้มองว่า การใช้แท็บเล็ต ในการเรียนการสอนเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องมีครูเป็นผู้บริหารจัดการที่ดีด้วย เพราะเนื้อหาที่ใส่ลงไปจะช่วยทำให้เด็ก ๆ เข้าใจมากขึ้น สนุกและจำได้มากขึ้น แรก ๆ อาจจะเป็นภาระของครูที่จะต้องศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจกับเทคโนโลยี แต่ระยะยาวเทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยทำให้ครูสอนง่ายขึ้นด้วย

ด้าน “คุณครูปิติจิต ยี่สุ่นเทศ” ครูประจำชั้น ป.1/4 บอกว่า ได้ทดลองใช้สอนเด็กมาแล้วประมาณ  1 เดือน โดยใช้ในวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ซึ่งเด็ก ๆ ก็ให้ความสนใจ เพราะใช้ง่าย เหมาะสำหรับการเรียนเรื่องภาษาที่เน้นทักษะในการพูด

สำหรับคำถามที่ว่าจะสามารถทดแทนหนังสือหรือเป็นสื่อหลักในการเรียนการสอนได้หรือไม่ คุณครูปิติจิต บอกว่า ไม่สามารถทดแทนได้ หนังสือยังมีความจำเป็นสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะในช่วงชั้นประถมศึกษาตอนต้น ที่ต้องฝึกฝนทักษะทั้งการอ่าน และเขียน

“เทคโนโลยีจะเป็นตัวเสริม ความรู้จากภายนอกให้เด็ก ๆ ทั้งนี้โดยส่วนตัวแล้ว คุณครูมักจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ทำให้ต้องปรับตัว หาความรู้จากอินเทอร์เน็ตเพื่อนำมาจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมมากขึ้น”

แม้ยังไม่ได้มีการประเมินผล แต่จากหลาย ๆ ความคิดเห็นต่างไม่ปฏิเสธว่า เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่ดีและสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ “คุณครู” ซึ่งจะต้องมีการเตรียมความพร้อม สำหรับสื่อการสอนยุคใหม่ อย่าง แท็บเล็ต ป.1 นั่นเอง!!!.
นาตยา  คชินทร
nattayap@dailynews.co.th

“โซลาร์ฟาร์ม” พลังงานทางเลือกสีเขียว


ผลของความเจริญทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของชุมชนเมือง ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่การผลิตไฟฟ้าจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ ซึ่งในอนาคตสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นทรัพยากรที่สิ้นเปลืองและเริ่มขาดแคลนในอนาคต การใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทนจึงเป็นหนทางหนึ่งที่จะทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงไม่ขาดแคลนไฟฟ้าใช้ในอนาคต

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนด้านพลังงาน ซึ่ง บริษัท เอสพีซีจี จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์ม หรือ ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ได้รับใบอนุญาตจากภาครัฐ ก็ได้ดำเนินการเปิด โครงการโซลาร์ ฟาร์ม ของบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์(เลย1) จำกัด ที่ ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นโซล่าฟาร์มแห่งที่ 5 จาก ทั้งหมด 34 โครงการ โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ กำมเลศ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นประธานในพีธี

นายณรงค์ศักดิ์ กำมเลศ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโนบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) ซึ่งพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นพลังงานที่สะอาด ช่วยลดการพึ่งพิงการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และช่วยลดมลพิษและลดโลกร้อน ซึ่งทางบริษัท เอสพีซีจี จำกัด(มหาชน) ถือเป็นเอกชนรายแรก ๆ ที่บุกเบิกการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าเพื่อเชิงพาณิชย์

น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการโซลาร์ฟาร์ม เป็นการใช้พลังงานทดแทนที่ไม่มีมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีการใช้เชื้อเพลิง จุดสำคัญคือ เป็นการลงทุนครั้งเดียว หลังจากนั้นเพียงแค่ดูแลบำรุงรักษาระบบเท่านั้น โดยโครงการโซลาร์ เพาเวอร์ (เลย1) ใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 630 ล้านบาท บนเนื้อที่ 100 ไร่ มีกำลังการผลิตไฟฟ้า ประมาณ 7 เมกะวัตต์ รองรับการใช้ไฟฟ้าของบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ได้ประมาณ 2 หมื่นหลังคาเรือนต่อปี และได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ปีที่แล้ว

“โครงการโซลาร์ฟาร์ม ต้องใช้เงินลงทุนในครั้งแรกสูงเพื่อซื้ออุปกรณ์ที่คิดเป็นเงินลงทุนเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ส่วนอีก 25% เป็นการปรับภูมิทัศน์ สภาพแวดล้อม ก่อสร้างอาคาร ถนน และอีก 5% เป็นค่าที่ดิน อย่างไรก็ตามอุปกรณ์แผงโซลาร์เซลล์ที่ใช้เป็นของญี่ปุ่นมีอายุการใช้งานนานถึง 40-50 ปี ส่วนอุปกรณ์อินเวสเตอร์ใช้ของเยอรมันอายุการใช้งาน 25 ปี ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะถึงจุดคุ้มทุนในระยะเวลา 7 ปี”

น.ส.วันดี กล่าวต่อว่า นอกจากเรื่องเงินลงทุนที่สูงข้อจำกัดอีกอย่างของโซลาร์ฟาร์ม คือ เรื่องฤดูกาล ซึ่งหากเป็นช่วงหน้าฝน และหน้าหนาวอาจมีแสงน้อยกว่าหน้าร้อน แต่โดยรวมจะดูค่าเฉลี่ยทั้งปี อีกอย่างคือเรื่องน้ำท่วม เรื่องที่ตั้งของโครงการจึงเป็นสิ่งสำคัญ บริษัทจึงได้ทำการสำรวจเลือกสถานที่ตั้งทั้ง 34 โครงการในพื้นที่ภาคอีสาน ที่มีพื้นที่สูงความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วมน้อย และสภาพอากาศมีแสงอาทิตย์ตลอดทั้งปี โดยคาดว่าบริษัทจะก่อสร้างโครงการโซลาร์ฟาร์มเสร็จทั้ง 34 โครงการช่วงกลางปี 2556 มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 240 เมกะวัตต์
“การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกอื่น ๆ เช่น พลังงานลมยังไม่เหมาะสมกับประเทศไทย เพราะพื้นที่ที่มีกำลังลมที่แรงเพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ป่าเขาสูงการเข้าไปก่อสร้างกังหันลมต้องเข้าไปในพื้นที่ป่าส่งผลรบกวนสัตว์ป่า และเข้าไปทำการซ่อมแซมดูแลรักษายาก ส่วนไฟฟ้าจากพลังงานน้ำแม้จะมีต้นทุนที่ถูกที่สุด แต่ก็ต้องใช้เงินสร้างเขื่อน ส่งผลกระทบป่าไม้ สัตว์ป่าและประชาชนในพื้นที่ ส่วนไฟฟ้าจากโรงงานนิวเคลียร์ในประเทศไทยคงเกิดขึ้นได้ยากหลังเกิดเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่น พลังงานแสงอาทิตย์จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งไทยก็เป็นเมืองร้อนมีแสงแดดตลอดทั้งปี ส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โซลาร์เซลล์เมื่อหมดอายุการใช้งาน สามารถนำไปรีไซเคิลได้หมดด้วย” น.ส.วันดี กล่าว

ด้านนายจิราคม ปทุมานนท์ กรรมการ และผู้ออกแบบโครงการโซลาร์ฟาร์ม บริษัท เอสพีซีจี จำกัด(มหาชน) กล่าว ว่า ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นระบบผลิตไฟฟ้าที่ดีที่สุดในโลกในปัจจุบันนี้ แต่ก็มีราคาแพงมากด้วยเช่นกัน โดยโซลาร์เซลล์ 1 กลุ่ม ประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ 18 แผง ผลิตไฟฟ้าได้ 3,700 วัตต์ การติดตั้งต้องทำมุมเฉียงไปทางใต้ 15 องศา ซึ่งเป็นมุมที่คำนวณจากละติจูดที่ตั้งของประเทศไทยว่าเป็นมุมที่โซลาร์เซลล์จะได้รับแสงอาทิตย์ดีที่สุด หากเป็นประเทศอื่น ๆ มุมติดตั้งก็จะแตกต่างกันไป ช่วงเวลาเที่ยงพระอาทิตย์ตรงศีรษะจะเป็นช่วงที่เก็บพลังงานได้มากที่สุด ส่วนการดูแลรักษาเพียงใช้น้ำล้างฝุ่นจากแผงโซลาร์เซลล์เท่านั้นเพราะมีผลต่อการรับแสงอาทิตย์
    
“เมื่อแสงอาทิตย์ส่องลงแผงโซลาร์เซลล์จะมีการเก็บพลังงานทันทีจากนั้นจะส่งไปยังตัวอินเวสเตอร์เพื่อแปลงไฟจากกระแสตรงเป็นกระแสสลับที่ใช้ตามบ้านจากนั้นกระแสไฟจะเดินตามท่อเคเบิลใต้ดินเข้าสู่ตู้ที่มีหน้าที่เหมือนคัตเอาต์เปิดปิดไฟเพื่อป้อนเข้าหม้อแปลงไฟให้ได้ขนาด 230 โวลต์ ก่อนที่จะจ่ายกระแสไฟเข้าสู่ระบบจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค”

นับเป็นการผลิตไฟฟ้าที่เป็นพลังงานทางเลือกสีเขียว เพียงแต่ในตอนนี้การลงทุนยังคงต้องใช้เม็ดเงินสูง แต่หากในอนาคตราคาโซลาร์เซลล์ถูกลง การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ก็คงเป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง.
จิราวัฒน์ จารุพันธ์
แหล่งที่มาข้อมูลเดลินิว
ส์

ดินไหวเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น 5.3 ไต้หวันสะเทือนด้วยแม้ห่างเกือบ 550 กม.


เกิดแผ่นดินไหวใกล้เมืองนาฮา บนเกาะโอกินาวา ของญี่ปุ่น วัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 5.3 ริกเตอร์ เบื้องต้นยังไม่พบความเสียหาย แม้แรงสั่นสะเทือนจะสามารถรู้สึกได้ไกลถึงเมืองซูอ๋าว ในไต้หวัน ทั้งที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 550 กิโลเมตร...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 7 มี.ค. โดยอ้างสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ว่า เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล วัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 5.3 ริกเตอร์ ใกล้กับเมืองนาฮา บนเกาะโอกินาวา ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เบื้องต้นยังไม่พบรายงานความเสียหาย

รายงานของยูเอสจีเอสระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวระดับ 5.3 ริกเตอร์ในครั้งนี้ อยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกราว 42.3  กิโลเมตร ห่างจากเมืองนาฮา บนเกาะโอกินาวา ไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพียง 80 กิโลเมตร และห่างจากหมู่เกาะริวกิวของญี่ปุ่นไปทางตะวันออกราว 328 กิโลเมตร

เบื้อง ต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ รวมถึงยังไม่มีการประกาศเตือนภัยการเกิดสึนามิขนาดย่อม จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่มีรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวระดับ 5.3 ที่หมู่เกาะโอกินาวา สามารถรับรู้ได้ไกลถึงเมืองซูอ๋าว ของไต้หวัน ทั้งที่เมืองดังกล่าวอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวถึง 546 กิโลเมตร.
แผนที่เกาะโอกินาวา
แผนที่เกาะโอกินาวา
เมืองซูอ๋าวของไต้หวันสะเทือนด้วย แม้อยู่ห่างเกือบ 550 กิโลเมตร
เมืองซูอ๋าวของไต้หวันสะเทือนด้วย แม้อยู่ห่างเกือบ 550 กิโลเมตร

'สมรักษ์'หัวเสีย 'มนัส'เลิกชก 'บุญเลิศ'ให้เวลา ไม่มาจบ


“เจ้าเติ้ล” มนัส บุญจำนงค์ ยืนยันหันหลังให้ทีมชาติ เตรียมทำธุรกิจส่วนตัวกับแฟนที่ จ.ลำปาง ขณะที่ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ให้โอกาสถึงวันที่ 12 มี.ค. หากยังไม่มารายงานตัวถือว่าทุกอย่างจบ พร้อมตัดรุ่น 75 กก. ไม่ส่งคัดเลก 2 ที่คาซัคฯ ด้าน “เจ้าบาส” สมรักษ์ คำสิงห์ ประกาศไม่ช่วยเหลือมนัสอีกแล้ว...
ข่าวคืบหน้าจากเรื่องของ “เจ้าเติ้ล” มนัส บุญจำนงค์ อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก 2004 เอเธนส์เกมส์ และเหรียญเงินโอลิมปิก 2008 ปักกิ่งเกมส์ ที่ประกาศขอเลิกชกแขวนนวมกะทันหัน พร้อมสละสิทธิ์ไม่ไปคัดเลือกโอลิมปิก ทั้งๆ ที่เพิ่งประลองฝีมือ เอาชนะรุ่นน้อง ปิติพงษ์ สำเภาล่อน ได้สิทธิ์เป็นตัวแทนทีมชาติไปแข่ง เลก 2 ที่ประเทศคาซัคสถานแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปตรวจการซ้อมของนักชกทีมชาติที่การกีฬาแห่งประเทศไทย แต่ปรากฏว่าไร้เงามนัสตามคาด ซึ่งถ้าในวันจันทร์ที่ 12 มี.ค. มนัสยังไม่มาปรากฏตัวก็ต้องจบ เพราะเราให้โอกาสมาตั้งหลายครั้ง โดยในรุ่น 75 กก. ทางสมาคมส่งชื่อมนัส เป็นตัวแทนทีมชาติ และมีปิติพงษ์ สำเภาล่อน เป็นตัวสำรอง อย่างไรก็ตาม ถ้ามนัสไม่มา เราคงตัดรุ่น 75 กก.ออกไปเลย แม้จะมีตัวสำรองอยู่ ตนมองว่าปิติพงษ์ยังไม่พร้อม ไปก็ไม่มีลุ้น
ด้าน “เจ้าเติ้ล” มนัส บุญจำนงค์ เปิดใจว่า ตนจะไม่กลับมาร่วมทีมชาติแล้ว ตนมีลู่ทางทำมาหากินไว้แล้ว โดยจะไปอยู่ที่บ้านเกิดแฟน “น้องนิว” ที่ จ.ลำปาง ซึ่งได้มีการพูดคุยกันไว้แล้ว แฟนตนก็เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและสงสารตนที่ต้องกดดันกับข่าวตลอดเวลา
"น้องเขาเป็นคนดี เข้าใจผมทุกอย่าง เราก็คุยกันไว้แล้วว่า หลังจากนี้อาจไปใช้ชีวิตส่วนตัวกันที่ลำปางบ้านของเขา ไปลงทุนเปิดร้านค้าขายไม่ขอวุ่นวายกับใครแล้ว ไปใช้ชีวิตอยู่อย่างคนธรรมดา ตอนแรกแฟนผมเขาไม่อยากคบกับผมหรอกนะ เพราะมีข่าวว่าผมเจ้าชู้เป็นเพลย์บอย แต่พอคบกันไปแล้วเขาเข้าใจผมทุกอย่าง ว่าผมเป็นคนยังไง และเจอกับเรื่องราวอะไรบ้าง

" มนัส กล่าว
ขณะที่ “เจ้าบาส” สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเหรียญทองคนแรก ซึ่งพยายามช่วยเหลือมนัสทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมาคัดตัว บอกกับคนข่าวด้วยน้ำเสียงสุดเซ็งว่า ตนโทรหามนัสมา 2 วัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้เลย รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ขึ้นไปอยู่ จ.ลำปาง บ้านของแฟนสาว แต่ตนบอกเลยนะจะให้เวลาอีกไม่นาน เพราะนับจากนี้ไปคงไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ กับมนัสอีกแล้ว ตนช่วยแทบเป็นแทบตาย มันจะตกม้าตายไม่รู้กี่ครั้ง ส่วนตัวคงไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว เพราะเสียกับมนัสมาเยอะแล้ว สมาคมยอมทุกอย่าง ย้ายแคมป์ก็เพื่อมนัส แต่ทำแบบนี้มันไม่ไหวจริงๆ ที่บอกว่ายังให้โอกาสคือเป็นเรื่องของทีมชาติ ที่เจ้าตัวจะต้องดูแลตัวเอง จะต้องกลับมาจัดการด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่มาอีก ชาติหน้าก็ไม่ต้องมาแล้ว
ส่วน “เสธ.ศักดา” พ.อ.ศักดา เพ็ชรจินดา ประธานเทคนิค ที่ถูกมนัสกล่าวถึงนั้น กล่าวว่า "ไม่รู้เรื่องเลยนะว่าผมไปกดดันมนัสตรงไหน หน้าที่การงานของผมก็เยอะอยู่แล้ว ผมทำงานสองทาง ทั้งในส่วนของมวยสมัครเล่นและรับราชการเป็นรองเสนาธิการศูนย์ สงครามพิเศษที่ลพบุรี ผมทำงานหนักตลอดทั้งสัปดาห์ ผมไม่มีเวลาหรอกที่จะไปกดดันใคร เวลาและอายุเราต่างกันมากนะครับ เด็กๆ อย่างมนัส ผมไม่มีเวลาไปคุยมากนักหรอก".
แหล่งที่มาข้อมูล ไทยรัฐ  

'เนวิน' ย้ำดึง AV มาเล่นคอนเสิร์ต เซ็งคนไม่รู้จริงอย่าพูด


ตรงคอนเซปต์ ทำอะไรก็ผิด! "เสี่ยเน" เนวิน ชิดชอบ ตอบโต้กลุ่มคนไม่เห็นด้วยที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมดึงวงดาราหนังเอวี มาฉลองสงกรานต์ ที่สนามนิวไอ-โมบาย สเตเดียม เหน็บผิดตรงไหน? เชิญมาเล่นคอนเสิร์ต ไม่ได้มาแสดงหนังโป๊...

วันที่ 7 มี.ค. หลังจากมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ​ยูไนเต็ด มีไอเดียเชิญศิลปินวง อิบิซึ มัสแคทส์ (Ebisu Muscats) เกิร์ลกรุ๊ปจากญี่ปุ่น ที่รวมดาราหนังโป๊ หรือ เอวี (AV) กว่า 25 คน นำทีมโดย โซระ อาโออิ ดาราเอวีชื่อดัง มาแสดงในงานเทศกาลสงกรานต์ของ จ.บุรีรัมย์ ที่สนามนิวไอ-โมบาย สเตเดียม เนื่องจากไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย และเด็กๆ เยาวชน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายเนวิน ซึ่งเตรียมนำลูกทีมประเดิมสนามศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฟาดแข้งกับ คาชิวะ เรย์โซล ที่สนาม นิวไอ-โมบาย เย็นวันนี้ ออกมาชี้แจงว่า การนำศิลปิน อิบิซึ มัสแคทส์ มาโชว์ตัวยัง จ.บุรีรัมย์ ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อแสดงคอนเสิร์ต ผ่อนคลายให้กับแฟนบอล พร้อมกับติงผู้ที่ออกมาต่อต้านว่า หากไม่รู้จริง ก็ไม่สมควรออกมาพูดเช่นนี้

"คนที่ออกมาพูด รู้จริงหรือเปล่าว่า เขามาในฐานะอะไร คนที่จ้องจะว่าก็เตรียมจะว่าอย่างเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นดาราเอวีของญี่ปุ่นก็จริง แต่ที่เขามาเมืองไทย เขามาเล่นคอนเสิร์ต เขาไม่ได้มาแสดงหนังโป๊ การมาครั้งนี้ เหมือนมาผ่อนคลายให้แฟนบอล ถ้ามาเล่นหนังโป๊ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่เป็นคอนเสิร์ต" ประธานใหญ่ทีมแชมป์เซราะกราวย้ำชัด
ทั้งนี้ มีกระแสต่อต้านไอเดียดังกล่าวเกิดขึ้นในสังคมไทย นำโดย กระทรวงวัฒนธรรม ที่มองว่าไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย, องค์กรเกี่ยวกับพิทักษ์สิทธิสตรี ซึ่งมองว่า เป็นการกดขี่และลดคุณค่าของสตรีเพศ รวมถึงนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่น ก็เห็นว่าจะทำให้สังคมไทยติดเซ็กซ์ และเป็นสิ่งอัปมงคล แต่ก็มีฝ่ายที่สนับสนุน เช่น สภาวัฒนธรรม จ.บุรีรัมย์ ที่มองว่าจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังจังหวัดมากขึ้น เป็นต้น.
แหล่งที่มาข้อมูลเดลินิวส์

กสทช.โวยไม่เคยรับเครื่องไอโฟน4จากเอกชนมาใช้


วันนี้ (6 มี.ค.) น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ @supinya ชี้แจงกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ และพนักงานของ กสทช. รับเครื่องไอโฟน 4 มาใช้งาน โดยถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาทว่า ส่วนตัวไม่เคยรับมือถือจากบริษัทใดๆ ระวังตัวเสมอเรื่องการรับของขวัญและค่าตอบแทนต่างๆ แต่ไอโฟนที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็มาจากภาษีผู้บริโภค สำนักงาน กสทช.จัดมาให้คณะกรรมการ(บอร์ด)ใช้ทำงาน ส่วนตัวก็ใช้ทำงาน อาทิ การทวิต วอทแอพกับทีมงาน อีเมล์และอื่นๆ  เช่นเดียวกับไอแพดที่ใช้ก็มาจากภาษีผู้บริโภค เอาไว้ใช้งานติดตัวแทนเน็ตบุ๊ก ด้านหลังเครื่องไอแพดมีหมายเลขพัสดุทรัพย์สินราชการอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ขอบคุณผู้บริโภคสำหรับภาษีที่นำมาใช้จ่ายในการทำงานของ กสทช. รายได้องค์กรมาจากค่าธรรมเนียมที่เก็บจากเอกชนซึ่งเป็นต้นทุนของผู้บริโภคโทรคมนาคม
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้รับเครื่องไว้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ทราบว่ามีพนักงานคนใดรับเครื่องไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตามการเข้ามาของบริษัทเอกชนนั้นมาในรูปแบบให้ทดลองใช้ พร้อมระบุว่าเป็นการให้ กสทช.ยืมใช้งาน หากเบื่อเมื่อไรจึงจะส่งคืน ซึ่งบริษัทเอกชนส่งมาให้ทดลองใช้ไม่ได้ให้เลย และเคยบอกว่าเบื่อเมื่อไรค่อยคืน แต่ตนว่ามันคือแจก ส่วนตัวไม่ได้รับและไม่เคยคิดจะรับ.
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า หลังจากมีกระแสข่าวผ่านทวิตเตอร์ว่ามีเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานของ กสทช. รับเครื่องไอโฟน 4มาใช้งาน โดยถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันบาท ว่า ข้อเท็จจริง คือ มีบริษัทเอกชนที่ไม่ใช่โอเปอร์เรเตอร์ มอบไอโฟนให้เป็นของขวัญปีใหม่ ซึ่งช่วงนั้นได้มอบหมายให้สำนักงาน กสทช.จับฉลากแจกพนักงาน
ส่วนกรณีที่ รับเครื่องจากบริษัทเอกชนมาใช้งาน แล้วบริษัทเอกชนระบุว่า เบื่อเมื่อไรให้คืน นายฐากร กล่าวว่า ไม่มีเรื่องดังกล่าว เพราะหากพนักงาน หรือ กรรมการ (บอร์ด) คนใดต้องการใช้งาน จะซื้อเครื่องใช้เอง

เผยโบอาสร้องไห้หลังโดนไล่ออก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อังเดร วิลลาส โบอาส อดีตกุนซือเชลซี ถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ด้วยความเสียใจ เมื่อทราบว่าตนถูกไล่ออก นอกจากนี้กุนซือผู้ได้รับเงินชดเชยกว่า 10 ล้านปอนด์ ยังรู้สึกผิดหวังที่นักเตะส่วนใหญ่ไม่ได้กล่าวอำลาเขาหรือกระทั่งอวยพรให้โชคดี

อย่างไรก็ตามมีเพียง เดวิด ลุยซ์ กองหลังหัวฟู ที่ให้การสนับสนุน โบอาส มาตลอด เป็นเพียงคนเดียวที่เขียนอำลาผ่านทางทวิตเตอร์ว่า "ขอบคุณ โบอาส คุณเป็นผู้ชายที่วิเศษ"

แหล่งที่มาข้อมูลเดลินิวส์

ราฟาแบะท่ารอรับข้อเสนอเชลซี

ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตกุนซือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แทบจะถลกโชว์ขาอ่อนอ่อย โรมัน อบราโมวิช ด้วยการออกมาพูดชัดเจนว่า ต้องการเข้ารับงานคุม เชลซี โดยอวดสรรพคุณตัวเองว่ายอดเยี่ยมมีประสบการณ์โชกโชน
"ในฐานะผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก, สเปน และ อิตาลี ผมเปิดกว้างรับข้อเสนอ มีผจก.ทีมกี่คนกันที่คว้าแชมป์ทั้งใน 3 ประเทศที่ต่างกัน ผมเป็นผจก.ที่กำลังรองานอยู่ ผมไม่สามารถหยุดยั้งข่าวลือได้ และไม่สามารถห้ามปากคนพูดได้ แต่ผมต้องการความท้าทายสำหรับการลุ้นแชมป์"
ด้าน สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือชาวสวีดิชที่กำลังว่างงาน อ่อยเต็มที่ว่าพร้อมรับงานคุมเชลซี แต่เชื่อว่าคงไม่ได้คุมตอนนี้ เนื่องจากมีโรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ที่ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชั่วคราวจนจบฤดูกาล
แหล่งที่มาข้อมูลเดลินิวส์

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources