วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ดูหนังออนไลน์ Red Dog เพื่อนซี้หัวใจหยุดโลก [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ The Unborn ทวงชีพกระชากวิญญาณสยอง [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Jersey Shore Shark Attack ฉลามคลั่งทะเลเลือด [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Hijacked ดับคนเดือด ปล้นระฟ้า [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Man On Fire คนจริงเผาแค้น [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Aeon Flux สวยเพชฌฆาต [DVD Master]





ดูหนังออนไลน์ Superhero Movie ไอ้แมงปอแมน ฮีโร่ซูเปอร์รั่ว [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Superhero Movie ไอ้แมงปอแมน ฮีโร่ซูเปอร์รั่ว [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ I Saw The Devil เกมโหดล่าโหด [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ I Saw The Devil เกมโหดล่าโหด [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Beverly Hills Chihuahua 3 คุณหมาไฮโซ โกบ้านนอก 3 [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Fortress ป้อมบินยึดฟ้า [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ My Bloody Valentine วาเลนไทน์หวีด [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ The Devils Advocate อาถรรพ์มัจจุราชเหนือเมฆ [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ The Devils Advocate อาถรรพ์มัจจุราชเหนือเมฆ [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ 6 Bullets 6 นัดจัดตาย [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Gamer คนเกมส์ทะลุเกมส์ [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ The Shawshank Redemption ชอว์แชงค์ มิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรง [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ The Detective 2 สืบล่าปมฆ่าสยองโลก 2 [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Bad Boy 2 คู่หูขวางนรก 2 [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ Bad Boy คู่หูขวางนรก [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ ATM ตู้ กด ตาย [DVD Master]




ดูหนังออนไลน์ The Losers โคตรทีม อ.ต.ร. แพ้ไม่เป็น [DVD Master]




บันเทิงเศร้า"เอ๋ –พัชรา แวงวรรณ"รถคว่ำเสียชีวิตที่สหรัฐฯ(Exclusive)


วันนี้ (12 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่ในวงการเพลงว่า เอ๋ –พัชรา แวงวรรณ อดีตนักร้องนำวงดิโอเวชั่น ได้เสียชีวิตแล้วที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงรีบติดต่อไปยัง นายผดุงศักดิ์ แวงวรรณ พี่ชายของ เอ๋-พัชรา  ที่บ้านพักใน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดย นายผดุงศักดิ์  พี่ชายวัย 52 ปี เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้(12 ต.ค.) ตอนตี 1 ครึ่ง ทางเจ้าหน้าที่กงสุลโทรฯมาแจ้งว่า เอ๋ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ เสียชีวิตตอนเที่ยง 45 นาทีของวันที่ 10 ต.ค. ที่เมืองริเวอร์ไซด์ ขณะเดินทางไปธุระที่เมืองลอสแองเจลิส จึงทำให้รู้สึกตกใจ และเสียใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวอีก เพราะพี่น้องก็เสียชีวิตทางรถยนต์ไปแล้วถึง 2 คน โดยเฉพาะคุณแม่ พอท่านทราบข่าวแล้วตกใจมากถึงกับเป็นลม ทุกวันนี้เอ๋เป็นหลักของครอบครัว เขาส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือนๆละ 2 หมื่นกว่าบาท ส่งเงินตรงเวลาทุกครั้ง เอ๋เป็นคนกตัญญูมาก สร้างบ้านให้พ่อแม่อยู่อย่างสุขสบายทุกวันนี้
“เอ๋ แม้ห่างจากวงการเพลงไปแต่ก็เทียวไปเทียวมาระหว่างอเมริกากับเมืองไทย ตอนแรกไปเรียนภาษาอังกฤษอยู่พักหนึ่ง พอภาษาแข็งแรง ก็ไปเรียนต่อด้านพยาบาล เหลือเวลาอีก 1 ปี 6 เดือน ก็จะเรียนจบแล้ว  แต่ก็มาจากไปซะก่อน  ไปอยู่ที่อเมริกา 10 กว่าปีแล้ว  ทำงานด้วยเรียนด้วยบางครั้งก็ร้องเพลงไปด้วย แต่ก็ทำงานพิเศษเลี้ยงดูคนชรา , สอนภาษา “เอ๋” ไม่ค่อยได้กลับมาเมืองไทย แต่จะมารับคุณแม่ไปเที่ยว ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะโทรศัพท์มาคุยเดือนละ 2-3 ครั้ง ” นายผดุงศักดิ์  กล่าว
ทางด้าน นายวิเชียร อัศว์ศิวะกุล บอสค่ายนิธิทัศน์โปรโมชั่น อดีตต้นสังกัดของ “เอ๋ –พัชรา” หลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของนักร้องสาว ระบุว่า จะเป็นผู้ดำเนินการออกค่าใช้จ่ายและนำศพกลับเมืองไทย
สำหรับ ประวัติของอดีตนักร้องเจ้าของเสียงแหบเสน่ห์ชื่อดังในยุค 80 พัชรา แวงวรรณ หรือ เอ๋ เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2507 (48 ปี) เป็นอดีตนักร้องของ ค่ายนิธิทัศน์ โปรโมชั่น เริ่มเข้าสู่วงการเพลงด้วยการเป็นนักร้องนำของวงดนตรีสตริงคอมโบชื่อดัง “วงโอเวชั่น” มีอัลบั้มมาหลายชุด ได้แก่ “รักและคิดถึง” (2525), “ที่เก่าเวลาเดิม” (2526), “รักเธอเสมอ” (2527), “รักข้ามขอบฟ้า (2528), “รักไม่รู้จบ” (2529)  หลังจากที่ โอเวชั่น ออกอัลบั้มชุดที่ 5 คือ อัลบั้ม “รักไม่รู้จบ” ในปี พ.ศ.2529 ทางต้นสังกัด นิธิทัศน์ฯ ก็แยกเธอออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว และทำอัลบั้มเดี่ยว “เพียงดวงตาและรอยยิ้ม” เมื่อปี พ.ศ.2530 โดยอัลบั้มชุดนั้นมีเพลงโด่งดังเป็นที่รู้จักอยู่หลายเพลง อาทิ “ทุยใจดำ” , “ลืมเสียเถิด” , “เพรียกหารัก” , “หนี้รัก” , “เหลือเพียงฝัน” เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นงานเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุด จากนั้นก็มีผลงานออกมาต่อมาอีก ชุดที่ 2 “ไม่รักไม่เจ็บ” ในปี พ.ศ.2531 และมีเพลงฮิตๆ อย่าง “ ไม่รักไม่เจ็บ” , “หนาวลมขมรัก” และ “สิ้นเยื่อขาดใย” เป็นต้น

ผู้ว่าฯกทม.บุกเคลียร์ใจ "ปลอดประสพ" สยบศึกถุงทราย


วันนี้(12 ต.ค.) เวลา 13.30 น. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.)ได้เดินทางมายังตึก สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ(สบอช.) ภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุม กบอ. จากนั้นเมื่อเวลา 13.45 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมายังตึกดังกล่าว แล้วขึ้นมาพบปะพูดคุยกับนายปลอดประสพ ที่ห้องรับรอง ชั้น 3 เพียงสองคน โดยไม่ได้มาร่วมการประชุมกบอ.แต่อย่างใด
ภายหลังการพูดคุยนาน 10 นาที ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า การพบกันวันนี้กับนายปลอดประสพ ได้คุยกัน 2 คน โดยตนขอบคุณที่ให้โอกาสมาพบ ซึ่งคิดว่ามีความเข้าใจตรงกันแล้ว โดยในวันนี้ กทม.ได้ชี้แจงให้กบอ.ทราบถึงเทคนิคการระบายน้ำท่วม นายปลอดประสพก็เข้าใจแล้วว่ากทม.บริหารจัดการน้ำอย่างนี้ และมีความจำเป็น แต่ถ้าถุงทรายในจุดใดที่มีน้ำฝนหมดแล้วไม่จำเป็นต้องใช้อีก ขอให้นำออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกทม.ว่าจะเอาออกไปเมื่อใด ซึ่งก็เข้าใจตรงกัน และยืนยันว่าไม่มีปัญหากับนายปลอดประสพ เพราะรู้จักกันมานาน
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนและนายปลอดประสพได้พูดถึงอนาคตว่า รัฐบาลและกทม.น่าจะมาหารือกันว่าจะพัฒนาระบบท่อระบายน้ำของกทม.อย่างไร เพราะในหลายพื้นที่เป็นท่อระบายน้ำที่เก่าแก่ มาตรฐานอาจไม่เหมือนกัน เพราะถูกสร้างมา 3 ทศวรรษแล้ว เราก็จะหารือกันต่อไปในเรื่องนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของชาวกทม. เมื่อถามว่าปัญหาถุงทรายจบวันนี้แน่นอนแล้วใช่หรือไม่ เพราะตอนที่พบกันก็บอกว่าจบ แต่ข่าวที่ออกมายังมีปัญหากันอยู่ ทำให้ประชาชนสับสน ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ตนได้บอกตั้งแต่ต้นว่าวิธีที่ดีที่สุดคือได้ชี้แจงกันในกรอบของกบอ. ดีใจที่จูนตรงกัน ไม่มีปัญหา เรื่องจะได้ยุติไม่ดีกว่าหรือ
"แนวทางที่กทม.เน้อเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ยืนยันว่ากทม.ไม่ได้ทะเลาะกับรัฐบาล เพราะในที่ประชุมกบอ.ก็มีผู้บริหารระดับสูงของกทม.มาร่วมประชุมทุกครั้ง แต่นี่อาจเป็นครั้งแรกที่หยิบยกวาระของกทม.ขึ้นมา แต่ในการทำงานก็ต้องมีเข้าใจไม่ตรงกันหรือปีนเกลียวกันบ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก จึงต้องขอโอกาสมาปรับจูนคลื่นให้ตรงกัน ก็จบ ไม่มีปัญหาใด เราต้องทำเพื่อประชาชน ตอนนี้ยิ่งกว่าจูนติดเสียอีก"ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ต่อข้อถามว่าแสดงว่ากทม.สามารถใช้เทคนิคนี้ต่อไปได้และไม่มีปัญหาใช่หรือ ไม่ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า เราจะดำเนินการตามที่เคยทำมา ซึ่งหน้าที่ของเราวันนี้คือการชี้แจงให้กบอ.รับทราบ เพราะเวลาที่ผ่านมา อาจเกิดความเข้าใจไม่ตรงกันแค่นั้น ด้านนายปลอดประสพ กล่าวในที่ประชุม กบอ.ก่อนเข้าสู่วาระพิจารณา ว่า ได้บอกกับทางกทม.ว่าต่อไปนี้ขอให้มาชี้แจงการบริหารพื้นที่กทม.ให้กบอ.ทราบ ด้วยว่าเป็นวิธีทางเทคนิค ยืนยันว่าเราไม่ได้เอาเรื่องมาเล่นการเมือง

"เพื่อไทย" เสียงแตก “ภูมิธรรม” ปัดจ่อเปิดตัวคนสำคัญเข้าพรรค


วันนี้ (12 ต.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย ผอ.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า จะมีบุคคลสำคัญยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมเปิดตัวเป็นทางการในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ซึ่งมีรายงานว่าเป็น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร.ว่า ส่วนตัวเพิ่งได้ยินเรื่องดังกล่าว แม้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เกษียณอายุราชการแล้วก็ยังไม่เคยมีการพูดคุย และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีวาระการเปิดตัวบุคคลสำคัญเป็นสมาชิกพรรคในวันที่ 16 ต.ค. สำหรับบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่นั้น จะเป็นใครคนนอกหรือคนในพรรคมาก่อนก็ได้ จะเป็นใครก็ได้ที่มีศักยภาพและสมาชิกพรรคให้การยอมรับ

สำหรับกรณีที่มีการจับตามองไปที่บุคคลในครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งนี้ไม่ใช่คุณสมบัติ การเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคที่เป็นโหวตเตอร์หรือผู้มี สิทธิออกเสียงในที่ประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 30 ต.ค.ซึ่งตามกระบวนการจะเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคเสนอบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสม เข้าสู่การคัดเลือก ส่วนข้อกรณีที่มีกฎหมายที่ว่าด้วยการยุบพรรคและตัดสิทธิ์การเมืองจะทำให้ตัว จริงไม่กล้าเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค นี่ไม่ใช่ข้อจำกัดทุกคนที่เป็นกรรมการบริหารพรรคคือตัวจริงทั้งหมด การที่ใครจะเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่ที่สมาชิกเห็นสมควร

ด้านนายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวยืนยันว่าจะมีบุคคลสำคัญมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยจริง แต่ขณะนี้ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด ขอแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ต.ค.ว่าเป็นใครและเข้ามาทำหน้าที่อะไร การที่มีผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นนี้จะทำให้พรรคเพื่อ ไทยแข็งแกร่งขึ้น

ดีเอสไอสนธิกำลังกองปราบฯจับแชร์น้ำมันหอมระเหย


วันนี้ 12 (ต.ค.) พ.ต.อ.นิรันดร์  อดุลยศักดิ์  ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สนธิกำลังร่วมกับตำรวจกองปราบปราม  นำกำลังเข้าตรวจค้นบริษัท ดิจิตอล  คราวน์  โฮลดิ้ง จำกัด  ตั้งอยู่เลขที่ 338  อาคาร  ดี. ซี. เอช. แอล  จำกัด ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ ฯ  ซึ่งจดทะเบียนกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)เป็นบริษัทขายตรงน้ำมันหอม ระเหยและตะเกียง แต่มีผู้ร้องเรียนว่าบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจในลักษณะแชร์ลูกโซ่  มีการชักชวนให้ร่วมลงทุนและหาสมาชิก เพิ่ม
โดยพ.ต.อ.นิรันดร์  กล่าวว่า   ได้ขอออกหมายจับผู้ต้องหารวม 20 คน  ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างประเทศ 3 คน  และสามารถจับกุมได้แล้วประกอบด้วย นายฮวง เชียง เชียง ชาวไต้หวัน อายุ 43 ปี เป็นกรรมการผู้จัดการ , น.ส.หว่อง คิน ซี อายุ 36 ปี ชาวฮ่องกง และ น.ส.เฉิน เป่า หยี อายุ 32 ปี ชาวฮ่องกง ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตามจับกุมโดยส่วนใหญ่ที่ ถูกออกหมายจับจะเป็นผู้ทำหน้าที่ขึ้นเวทีชักชวนให้สมาชิกเข้าร่วมลงทุนซื้อ น้ำมันหอมระเหยและตะเกียง  ซึ่งต้องเสียค่าสมัครครั้งแรกเป็นเงินกว่า 12,300 บาท ก่อนจากนั้นจึงมีโอกาสเลื่อนระดับโดยจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินปันผลจำนวน 41,000 บาท ก็ต่อเมื่อต้องจ่ายเงินลงทุนเป็นเงิน 192,600 บาทต่อราย  เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

พ.ต.อ.นิรันดร์  กล่าวต่อว่า  ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายประมาณ 70 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาทโดยประชาชนที่ถูกหลอกมีอยู่ทั่วประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก เฉียงเหนือซึ่งมีการตั้งสาขาใหญ่อีก 1 แห่งที่จังหวัดนครราชสีมา โดยวิธีการหลอกลวงจะจัดอบรมตามโรงแรมต่างๆซึ่งมีวิทยากรชักชวนให้ร่วมเป็น สมาชิกและเชิญชวนให้ซื้อสินค้าโดยโฆษณาชวนเชื่อว่าจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทน สูง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีวิธีการพูดที่น่าเชื่อถือ เจาะกลุ่มคนที่มีเงินน้อยซื้อน้อย มีเงินมากซื้อมาก  หากมีการชักชวนสมาชิกได้เพิ่มจะได้ค่าตอบแทนอีกหัวละ 21,000-26,000 บาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีการโฆษณาชักชวนสมาชิกผ่านเว็บไซด์ และอ้างว่าเงินปันผลสามารถนำไปเป็นมรดกตกทอดถึงเครือญาติได้  อย่างไรก็ตามในวันนี้(12ต.ค.) พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานรายละเอียดสมาชิก เพื่อนำไปตรวจสอบข้อมูลลูกค้าและจำนวนสินค้าทั้งหมด เพื่อนำมาวิเคราะห์ความเสียหายในภาพรวม   รวมถึงเก็บข้อมูลความเคลื่อนไหวทางการเงินด้วย
ทั้งนี้  การจะสั่งปิดบริษัทดังกล่าวเป็นอำนาจของสคบ.  ซึ่งทราบว่าก่อนหน้านี้สคบ.ได้สั่งปิดกิจการแล้วแต่บริษัทดังกล่าวไม่ดำเนิน การตามคำสั่งแต่ยอมเสียค่าปรับวันละ 10,000 บาทที่ล่าสุดมียอดค่าปรับรวมกว่า  600,000 บาทแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีรายละเอียดลูกค้าทั้งหมดไป ตรวจสอบ  รวมถึงแฟ้มเอกสารทางการเงินซึ่งพบว่าวันนี้เพียงวันเดียวมียอดสั่งซื้อมาก ถึง 39 ล้านบาท  โดยเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา พบบริษัทมีกำไรมากถึง  198 ล้านบาทด้วย   สำหรับยอดสมาชิกจากการตรวจสอบข้อมูลของสคบ.พบปี 2554 มีสมาชิกกว่า 20,000 คน  แต่ขณะนี้เชื่อว่าน่าจะมียอดสมาชิกไม่ต่ำกว่า 40,000 คน

จับลักลอบเปิดคลินิคเสริมความงาม


วันนี้ ( 11 ต.ค.) นายพิสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข  พ.ต.อ. วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.ดส.บช.น. ร.ต.อ.กิตติเมธ โชติปิติเจริญรัฐ รองสว.สส.เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ท่าข้ามเข้าจับกุมสถานเสริมความงามโดยไม่ได้ รับอนุญาตไม่มีชื่อ เลขที่ 33/15 หมู่พิศาล โครงการ 14 แขวงและเขตบางขุนเทียน
ที่เกิดเหตุเป็นทาวเฮ้าน์ สูง2ชั้น ภายในพบดัดแปลงเป็นคลีนิคเสริมความงามแบบครบวงจรอาทิ ฉีดคอลลาเจน ฉีดโบท็อก ร้อยไหม ฉีดวิตามินซี  จากการตรวจสอบพบว่าภายในห้องด้านหลังของตัวบ้าน มีการลักลอบดัดแปลงเป็นคลีนิคเสริมความงาม ส่วนบริเวณชั้น2ดัดแปลงเป็นห้องยิงเลเซอร์สำหรับรักษาสิวฝ้า จากการตรวจค้นพบของกลางอาทิ เตียงสำหรับเสริมความงาม อุปกรณ์ทางการแพทย์  วิตามินซีและคอลลาเจนชนิดเข้มข้น
นอกจากนี้ยังพบเดอร์มาร์โรเลอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดใหม่สำหรับใช้ในการผลัดเซลล์ผิวหนังที่ใบ หน้า ที่ยังไม่ได้การรับรองและใช้ทางการแพทย์เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อใน การรักษา รวมถึงยาสำหรับใช้ในการลดความอ้วนที่ไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและ ยา
โดยจับกุม นาง จิรฐา  สารบรรณ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 ม.2 ต.บ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และผู้ให้บริการเสริมความงาม เปิดเผยว่า เปิดสถานเสริมความงามดังกล่าวมากว่า 1ปี  โดยลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะทราบกันปากต่อปากแต่ไม่เคยมีคนดังมาใช้บริการ  ที่รับทำเพราะเคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งมากว่า  5 ปี เลยทำการรักษาเป็นสำหรับอุปกรณ์การเสริมความงาม รับซื้อจากตามคลีนิคที่เลิกกิจการ ส่วนพวกคอลลาเจลและสารเสริมความงามต่างๆ สั่งซื้อมาทางอินเตอร์เน็ตที่ประกาศขายโดยทั่วไป โดยการรักษาแต่ละครั้งก็จะตกอยู่ที่ราคาครั้งละ 1500 - 2000 บาท
ด้านพ.ต.อ.วิวัฒน์ เปิดเผยว่าได้รับการประสานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ช่วยเข้าร่วมตรวจสอบ สถานบริการดังกล่าวหลังจากมีผู้ร้องเรียนเข้า  มาวันนี้ทางเจ้าหน้าที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนจึงได้ประสานหน่วย งานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการล่อซื้อ  สำหรับของกลางที่พบส่วนใหญ่พบว่าไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา สำหรับเครื่องมือทางการแพทย์ก็พบว่าไม่ได้มาตรฐานรวมถึงผู้ให้การรักษาก็ไม่ ได้มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย โดยเบื้องต้นทาง เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนเพื่อขยายผลหาเว็บไซด์ที่มีการขาย ตัวยาดังกล่าวรวมถึงสถานเสริมความงามที่ลักลอบขายเครื่องมืออุปกรณ์ทางการ แพทย์ต่อไป

แซมบ้าอุ่นดุถล่มอิรักครึ่งโหล


     ศึก ฟุตบอลกระชับมิตร ที่สนาม สเวดแบงค์ สตาดิโอน เมืองมัลโม ประเทศสวีเดน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย และเจ้าภาพ เวิลด์ คัพ 2014 โชว์ฟอร์มสมราคา หลังจัดการไล่ถล่ม อิรัก ภายใต้การนำทัพของ ซิโก ตำนานดาวยิงแดนแซมบ้า ชนิดไม่ไว้หน้า 6-0 โดย ออสการ์ มิดฟิลด์จากเชลซี เหมาคนเดียว 2 ประตูนาทีที่ 22 กับ 27 ส่วนอีก 4 ลูกที่เหลือเป็นผลงานของ ริคาร์โด กากา นาทีที่ 48, ฮัลค์ นาทีที่ 56, เนย์มาร์ นาทีที่ 75 และลูคัส มูรา นาทีที่ 80

ยิงถล่มฐานทหารธารโตปะทะเดือดไม่เจ็บไม่ตาย



วันนี้ ( 12 ต.ค.) เวลา 00.15 น. นายก้องสกุล จันทราช นายอำเภอธารโต จ.ยะลาได้รับแจ้งจาก ฉก.ยะลา16 ว่า มีคนร้ายกลุ่มก่อความไม่สงบมาน้อยกว่า 10 คน พร้อมอาวุธครบมือ ทั้ง เอ็ม 16 อาก้า และลูกซอง บุกเข้าประชิดฐาน ร้อย ร.ม.1 สังกัด ฉก.16 ตั้งอยู่ในโรงเรียนบ้านบัวทอง หมู่ที่ 2 ต.บ้านแหร อ.ธารโต ยิงถล่มฐานที่ตั้งหลายสิบชุด เจ้าหน้าที่ที่ตั้งรับอยู่ในฐาน ได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ออกไป
ขณะเดียวกัน กำลังทหาร ส่วนหนึ่ง ที่แอบซุ่มอยู่นอกฐาน ได้เปิดฉากยิงเข้าใส่กลุ่มคนร้าย จนเกิดปะทะกันดุเดือดกว่า 5 นาที  คนร้ายได้อาศัยความมืดล่าถอยขึ้นเขาไป
พ.ท.ทศพล ผ่องศรีสุข ผบ.ฉก.ยะลา 16 เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยลูกน้อง ได้เฝ้าสังเกตว่าอาจมีการลอบเข้าตีฐานในเวลากลางคืน จึงได้นำกำลังออกไปซุ่มอยู่นอกฐาน เมื่อเวลาเกิดเหตุมีคนร้ายอาศัยความชำนาญพื้นที่ที่เป็นป่าเขาสวนยางและความ มืด ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ก่อน
พ.ท.ทศพล กล่าวอีกว่า ตนจึงได้สั่งการให้ลูกน้องยิงตอบโต้ จนเกิดปะทะกันดังกล่าว จากการตรวจสอบกำลังพลภายในที่ตั้งทุกคนปลอดภัย หลังเกิดเหตุในตอนเช้าตนได้สั่งการให้จัดกำลัง ชุด ปฏิบัติการ ออกไล่ล่ากลุ่มคนร้าย ซึ่งคาดว่าจะยังคงหลบหนีในพื้นที่  และเชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ธารโตและอ.บันนังสตา

รวบเมียหมอสุพัฒน์แล้ว อ้างรู้เห็นหมดแต่ไม่เกี่ยวข้อง


เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 5 ต.ค.มีรายงานว่า หลังจากที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้แกะรอยไล่ล่า น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยาหมอสุพัฒน์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของสองสามีภรรยาชาว จ.เพชรบุรี อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เจ้าหน้าที่นำกำลังไปจับกุมตัว น.ส.วิลสา ได้แล้ว ที่บ้านพักย่านคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน จากนั้นได้รีบควบคุมตัวมาที่ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 3 ทันที

ต่อมา พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภาค 7 และตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนาย จะเดินทางมาสอบปากคำ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ ทำข่าวแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัว น.ส.วิลสา ไปขึ้นรถตู้ เพื่อเดินทางไปที่ สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี คาดว่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในห้องประชุมที่มีการสอบปากคำอย่างตึงเครียดนั้น น.ส.วิลสา ให้การกับตำรวจว่า รู้เห็นเหตุการณ์ของหมอสุพัฒน์ทุกอย่าง แต่ไม่เคยเกี่ยวข้องเลยสักครั้ง

ตลาดยะลาคึกคักรับวันศุกร์ไม่หยุดขายแล้ว


วันนี้ (12 ต.ค.)  ที่บริเวณตลาดสดเช้า (ตลาดรถไฟ)และ ตลาดสดพิมลชัย ถนนกว้านเชียรบูรณะ ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา บรรยากาศโดยทั่วไปที่ตลาดสดในเช้าวันนี้ มีพี่น้องชาวไทยมุสลิม ชาวไทยพุทธ และ ชาวไทยเชื้อสายจีน ในเขตเทศบาลนครยะลา และ ในพื้นที่รอบนอก มีการออกมาจับจ่ายซื้อของ ทั้งอาหารสดประเภทไก่ เนื้อ ปลา ผัก ผลไม้ เพื่อนำไปประกอบอาหาร ทำให้บรรยากาศการค้าขายในวันนี้เริ่มดีขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากพ่อค้า แม่ค้า ที่มาขายของ และพี่น้องประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดเช้า เริ่มมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ทางจังหวัดยะลา และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ รวมทั้งผู้นำศาสนาได้มีการประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ทำให้ทุกภาคส่วนเริ่มมีคลายความกังวลในความไม่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ในขณะที่การดูแลรักษาความปลอดภัยในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 อ.เมืองยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน รวมทั้งกองกำลังภาคประชาชน ในพื้นที่จังหวัดยะลา มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และดูแลความปลอดภัยทั้งภายในบริเวณตลาดสด และภายนอกตลาด และย่านการค้าตามจุดต่างๆในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ การเดินทางโดยสารรถประจำทาง หรือรถตู้ สายยะลา-หาดใหญ่ มีพี่น้องประชาชนมาใช้บริการมากยิ่งขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่าน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากพี่น้องประชาชนเริ่มมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มีผู้มาใช้บริการโดยสารจำนวนน้อย ทำให้การเปิดบริการเดินรถเป็นไปอย่างเงียบเหงา ประกอบกับคนขับรถบางรายหยุดเดินรถ เนื่องจากเกรงในความไม่ปลอดภัยในวันศุกร์ ซึ่งภาพรวมในวันนี้การประกอบกิจการค้าขายและกิจการต่างๆในพื้นที่เริ่มดี ขึ้นเป็นอย่างมาก

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources