วันนี้ (12 เม.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวภายหลังการประชุมร่วมกับอัยการในคดีทุจริตการเบิกจ่ายยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีนออกจากระบบโรงพยาบาลว่า วันนี้(12 เม.ย.) ดีเอสไอได้รับสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวเพิ่มเติมจากสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก จ.เชียงใหม่ กรณีพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาแก้หวัดของรพ.สยามราษฎร์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งพบว่ามีการสั่งซื้อซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวจากบริษัท มิลาโน่ ถึง 8 ครั้งจำนวน 210,000 เม็ด ซึ่งเบื้องต้นน.ส.นิสสรณ์ พรมวัง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อของรพ.ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ปลอมลายเซ็นนายแพทย์สินทิป พัฒนะคูหา ผอ.รพ.สยามราษฎร์ และดำเนินการแต่เพียงผู้เดียวโดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 500-1000 บาท โดยมีน.ส.สุทธิณี ไม่ทราบนามสกุล เป็นผู้แทนบริษัทยาเป็นผู้นำยามาส่งแล้วนำยากลับไป พร้อมทั้งนำเงินให้น.ส.นิสสรณ์ นำเข้าบัญชีของรพ.เพื่อโอนเข้าบัญชีบริษัทยา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติออกหมายเรียกผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้กำกับดูแลรพ.รัฐ , กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ในฐานะผู้กำกับดูแลรพ.เอกชน และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ในฐานะกำกับดูแลยามาให้การกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 เม.ย. ในเวลา10.00 น.
นายธาริต กล่าวอีกว่าดีเอสไอยังได้ออกหมายเรียกผอ.รพ. 11 แห่งเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 19 และ 20 เม.ย. เพื่อให้ปากคำชี้แจงถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของผอ. ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำยาแก้หวัดออกจากโรงพยาบาลหรือไม่ รวมถึงชี้แจงกฎระเบียบ ข้อบังคับ พร้อมแสดงหลักฐานให้ชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยได้กำชับให้ผอ.รพ. เป็นผู้เข้าให้ข้อมูลพร้อมหลักฐานด้วยตนเอง โดยพนักงานสอบสวนยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนตั้งข้อสังเกตกรณีรพ. ศูนย์อุดรธานี จ.อุดรธานี มียาแก้หวัดหายไปกว่า 7 ล้านเม็ด เบิกไป 129 ครั้ง ซึ่งการสั่งซื้อยาทำในนามของรพ. แล้วนำยาเข้าระบบของรพ. รวมถึงยังจ่ายเงินในนามของรพ. แต่กลับมีการลักลอบนำยาออกไป เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ผู้บริหารจะบอกว่าไม่รู้เห็นหรือไม่มีส่วนรับผิดชอบ
สำหรับรายชื่อโรงพยาบาลทั้ง 11 แห่ง พนักงานสอบสวนดีเอสไอออกหมายเรียกเข้าให้การประกอบด้วยรพ. ศูนย์อุดรธานี จ.อุดรธานี , รพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ , รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ , รพ.ฮอด จ.เชียงใหม่ , รพ.นวมินทร์ 1 กรุงเทพฯ , รพ.สยามราษฎร์ จ.เชียงใหม่ , รพ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ , รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกษ , รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ , คลินิกสุพรชัย จ.ลพบุรี และสัมพันธ์คลินิก จ.เชียงใหม่
ด้านพ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทร์ขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าวกรณีตรวจสอบที่รพ.กมลาไสย แล้วพบกระดาษข้อความ 5 บรรทัด ในห้องคลังยาที่มีความเชื่อมโยงไปถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวนั้นกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์อยู่ระหว่างการตรวจสอบลายมือในหลักฐานดังกล่าว.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th