วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผจก.ทีมอัซซูรี่ยอมรับสเปนยังเต็งแชมป์บอลยูโร


เชซาเร ปรันเดลลี ผู้จัดการทีมชาติอิตาลี ยืนยันว่า ทีมชาติสเปน ยังคงเป็นทีมเต็ง และมีโอกาสคว้าแชมป์ "ยูโร 2012" มากกว่า อิตาลี ถึงแม้ทีม "อัซซูรี" เพิ่งโชว์ฟอร์มสุดยอด และเฉือนเอาชนะ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี อีกหนึ่งทีมเต็งของการแข่งขัน 2-1 พร้อมผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ สเปน ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ ก็ตาม

อิตาลี ได้ทั้ง 2 ประตูตั้งแต่ครึ่งแรกจาก มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าจอมกวน ในเกมรอบรองชนะเลิศ ที่เนชั่นแนล สเตเดี้ยม ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และถึงแม้ เมซุต โอซิล จะยิงจุดโทษตีตื้นให้ เยอรมนี ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ก็ไล่ไม่ทัน ทำให้ อิตาลี เฉือนชนะ เยอรมนี 2-1 และผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ ทีมชาติสเปน ที่โอลิมปิก สเตเดี้ยม ในกรุงเคียฟ ประเทศอิตาลี ในวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. ที่จะถึงนี้

สำหรับ อิตาลี กับ สเปน เคยพบกันมาแล้ว ในเกมรอบแรก นัดแรก กลุ่ม C ซึ่งทั้งคู่เสมอกัน 1-1 โดยที่ทีมอัซซูรีเป็นฝ่ายยิงนำไปก่อนด้วย และ อิตาลี ก็เป็นเพียงทีมเดียว ที่ยิงประตูทีมกระทิงดุได้ในขณะนี้ เพราะทีมแชมป์เก่าเพิ่งเสียประตูไปแค่ลูกเดียว นอกจากนั้นทีมเมืองมะกะโรนียังเพิ่งเอาชนะทีมกระทิงดุ ในเกมกระชับมิตร เมื่อปีที่แล้วด้วย ทำให้ผู้สันทัดกรณีมองว่า อิตาลี มีโอกาสดีที่จะเอาชนะ สเปน และคว้าแชมป์มาครอง

อย่างไรก็ตาม เชซาเร ปรันเดลลี กุนซือทีมชาติอิตาลี ออกมายืนยันหลังเกมว่า "สเปนยังคงมีโอกาสมากกว่า อิตาลี เพราะพวกเขาทำงานร่วมกันมานานหลายปี และครองบอลได้เหนือกว่าคู่ต่อสู้ในทุกเกม ดังนั้นการพบกับทีมระดับสุดยอด ซึ่งสามารถเล่นในเกมของตัวเองได้เสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้พวกเขายังคงเป็นทีมเต็งเหนือกว่าเรา"

ด้าน มาริโอ บาโลเตลลี หัวหอกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี ผู้ยิง 2 ประตูในเกมนี้ และช่วยให้ อิตาลี ยังคงไม่เคยแพ้ต่อ เยอรมนี ในการพบกันในรายการใหญ่ 8 ครั้ง ยอมรับว่า วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของตนเอง และขอมอบทั้ง 2 ประตูให้คุณแม่ ที่เข้ามาชมเกมนัดนี้ด้วย

ซูเปอร์มาริโอ กล่าวว่า "มันเป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของผมก็ว่าได้ แม่ของผมอยู่ในสนามด้วย และพ่อของผมก็ชมเกมผ่านทีวี ผมยิง 2 ประตูต่อหน้าแม่ของผม และผมอยากจะยิง 2ประตูต่อหน้าพ่อของผมในรอบชิงชนะเลิศ ที่เคียฟ"

"ลูกยางสาวไทย"โชว์ฟอร์มเทพตบเฉือน"จีน" 3-2 เซต



การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง “เวิลด์ กรังปรีซ์ 2012” รอบสุดท้าย ที่เมืองหนิงโบ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ทีมลูกยางสาวไทย อันดับ 12 ของโลก ลงสนามนัดที่สาม พบ “สาวหมวย” จีน อันดับ 5 ของโลก ซึ่งจากการพบกันครั้งล่าสุดในรายการนี้รอบแรก ที่มาเก๊า สาวไทย เป็นฝ่ายพ่ายไป 1-3 เซต สำหรับนัดนี้ "โค้ชอ๊อด" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมตบหญิงไทย ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม ได้แก่ กัปตันทีม วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, นุศรา ต้อมคำ, อัมพร หญ้าผา, มลิกา กันทอง โดยมี วรรณา บัวแก้ว เป็นตัวรับอิสระ

เริ่มเซตแรกเป็น อรอุมา ที่ตีทำแต้มให้ไทยขึ้นนำก่อน 1-0 จากนั้นสาวไทยอาศัยการเล่นบอลเร็วทำแต้มทิ้งห่างไป 8-5 แต่สาวจีนก็อาศัยบอลเร็วและเกมรับที่เหนียวแน่นทำแต้มขึ้นแท่น 24-20 แต่ มลิกา ยังตบยื้อไว้ได้ 21-24 แต่ไทยก็ต้านไม่ไหวพ่ายไป 21-25 เซตสองสาวไทยเริ่มต้นได้ดีนำไปก่อน 5-3 จากนั้นเกมเป็นไปอย่างสูสีก่อน ฐาปไพพรรณ ตีเสมอให้ไทย 16-16 และยังเป็นสาวไทยที่ทำ 6 แต้มติดนำไป 19-16 ก่อนนำขึ้นแท่น 24-22 และเป็นสาวจีนที่ตีติเน็ทให้ไทยชนะไป 25-22 ตีเสมอเป็น 1-1 เซต เซตสามเป็นสาวไทยที่ใช้การเล่นบอลเร็วนำไป 14-12 ก่อนจีนจะมาพลิกนำ 18-17 จากนั้นทั้งสองทีมเล่นกันแบบสูสีจนเสมอกัน 24-24 ก่อนผลัดกันทำแต้มแบบสุดลุ้นจนสาวไทยบล็อกลูกขึ้นแท่น 33-32 และเป็น มลิกา ที่ตบเต็มแรงเก็บเซตนี้ให้ไทย 34-32 พลิกขึ้นนำ 2-1 เซต เซตที่สี่สาวไทยเล่นบอลเสียเองบ่อยครั้ง ในขณะที่สาวจีนกลับมาเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งเกมรับและลูกตบที่เฉียบ ขาดเอาชนะไป 25-21 เสมอกัน 2-2 เซต

เซตสุดท้ายสาวไทยกลับมาช่วยกันเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมนำไปถึง 8-1 แต่สาวจีนก็กลับมาฮึดสู้ทำแต้มจี้ติด 8-9 ขณะที่สาวไทยยังรักษาเกมของตัวเองไว้ได้ทำแต้มขึ้นแท่น 14-12 และเป็น อรอุมา ที่ตบเต็มเหนี่ยวปิดเซตให้ไทยชนะไป 15-13 ส่งผลให้ไทย คว่ำ “เจ้าภาพ” จีน ไปแบบสุดลุ้น 3-2 เซต 21-25, 25-22, 34-32, 21-25, 15-13 คว้าสองแต้มแรกได้สำเร็จ โดยในนัดต่อไป ทีมสาวไทยจะพบกับ “สาวแซมบ้า” บราซิล ในวันที่ 30 มิ.ย. เวลา 12.00 น.

"พลาตินี" ปลื้มยูโรยิ่งใหญ่ ชมโปแลนด์-ยูเครนเจ้าภาพได้ประทับใจ


มิเชล พลาตินี ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ชื่นชมการทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพร่วมของ โปแลนด์ และ ยูเครน ในศึกฟุตบอลยูโร 2012 โดยชี้ว่าเป็นการแข่งขันที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง และจะอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลไปตลอดกาล
พลาตินี กล่าวว่า "โปแลนด์ และยูเครน ร่วมมือกันสร้างทัวร์นาเมนต์ที่เหลือเชื่อ และมันจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป นี่คือทัวร์นาเมนต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง สมกับวลีของการแข่งขันที่บอกว่า สร้างประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน เพราะมันประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ, โครงสร้าง, ฟุตบอล และความร่วมมือของผู้คน"
"ประชาชนชาวโปแลนด์ และยูเครน ร่วมกับทำหน้าที่เจ้าภาพได้อย่างยิ่งใหญ่ พวกเขาสร้างมาตราฐานที่สูงมาก ๆ ให้กับเจ้าภาพประเทศต่อ ๆ ไป และถือเป็นเรื่องยากทีเดียวที่จะทำได้ดีเทียบเท่า พวกเขามีความภาคภูมิใจในตัวเอง และให้การต้อนรับผู้มาเยือนทุกคนอย่างดีเยี่ยม ยูโร 2012 จึงทิ้งความทรงจำที่น่าประทับใจมากมายให้แก่แฟนบอลทั้งโลก"
"ส่วนนักเตะทุกคนก็ผลิตเกมฟุตบอลที่สุดยอด มีการทำประตูมากมาย และแฟนบอลก็ทำให้บรรยากาศสุดยอดมากยิ่งขึ้นไปอีก ผมภูมิใจกับทุกคนที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้ เพราะยูโร 2012 แสดงให้เห็นถึงคุณภาพ และเกมฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ" พลาตินี เผยในที่สุด

"ชาบี"แขวนสตั๊ด อำลากระทิงดุหลังจบชิงแชมป์ยูโร


ชาบี เอร์นานเดซ จอมทัพทีมชาติสเปน แย้มเป็นนัยว่า อาจจะอำลาทีมกระทิงดุ หลังจบยูโร 2012 เนื่องจากเริ่มมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย และยังไม่แน่ว่าจะลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ต่อไปได้หรือไม่
กองกลางวัย 32 ปี จาก บาร์เซโลนา เป็นตัวหลักของสเปนมาตลอดในช่วง 4 ปีหลังสุด และพาทีมกวาดคว้าแชมป์ยูโร 2008 และฟุตบอลโลก 2010 แต่ล่าสุด ชาบี ออกมายอมรับด้วยตนเองว่ายังไม่ทราบว่าตนเองจะรับใช้ชาติต่อไปไหวหรือไม่ เพราะอายุมากขึ้นทุกทีแล้ว
"ผมไม่รู้ว่านี่จะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของผมหรือไม่ ผมยังรู้สึกดี และยังอยากมีส่วนร่วมกับชัยชนะทุกนัดของทีม และชัยชนะของผมจะต้องมาก่อน และถ้าหากผมไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในนั้น ผมก็อาจจะไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในทีม"

กสทช.เชือดมือถืออาม่าใช้เอกสารปลอมสั่งโละทิ้ง


วันนี้ (2 ก.ค.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานกสทช.ได้ออกคำสั่งบังคับทางปกครองโดยเพิกถอนใบรับรองเครื่องโทร คมนาคมและอุปกรณ์ จำนวน 280 รุ่น จาก 27 บริษัท รวมกว่า 970,000 เครื่อง เนื่องจากใช้รายงานผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการทดสอบของต่างประเทศที่ไม่ได้ ออกโดยห้องปฏิบัติการทดสอบของต่างประเทศนั้นหรือมีการปลอมแปลง หรือแก้ไข เปลี่ยนแปลง ลดทอน แต่งเติมเนื้อหาหรือข้อมูลในรายงานผลการทดสอบให้ผิดแผกจากรายงานผลการทดสอบ ต้นฉบับ และภายใน 2-3 วันทางสำนักงานจะดำเนินการตามกฎหมายให้ดำเนินงานตามกฎหมายอาญา ทั้งนี้หากผู้ประกอบการทั้ง 27 รายไม่เห็นด้วยกับคำสั่งก็สามารถชิสิทธิอุทธรณ์ต่อกรรมการกิจการโทร คมนาคม(กทค.) ได้ภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครอง

สำนักงาน กสทช.ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ปี 2552 และพบว่าโทรศัพท์มือถือที่นำเข้าใช้เอกสารปลอมตั้งแต่ต้นปี 2554 โดยในวันที่ 20 มิ.ย.55 ที่ประชุมกสทช.มีมติให้เพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์รวม 280 รุ่น จาก 27 บริษัท และให้ผู้ประกอบการดำเนินการใน 2 ทางเลือก คือ 1.ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้นำออกเครื่องวิทยุคมนาคมตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุ คมนาคมภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศมีผลบังคับใช้ และห้ามนำเครื่องโทรคมนาคมดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักร และทำลายเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ดังกล่าวภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศสำนักงาน กสทช. มีผลบังคับใช้ และ 2.ให้รายงานการครอบครองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์แบบ/รุ่นที่ถูกเพิกถอน เฉพาะแบบ/รุ่นที่ผู้ประกอบการทั้ง 27 รายเป็นผู้นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายหรือใช้งาน แต่มิได้เป็นผู้ยื่นขอและได้รับใบรับรอง ต่อสำนักงาน กสทช. ภายใน 30 วัน

สำหรับประกาศเพิกถอนใบรับรองเรื่องเครื่องโทรคมนาคม ของกสทช. ยังอยู่ระหว่างรอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วทั้ง 27 บริษัทนำเข้ามือถือจะมีเวลาดำเนินงานตามข้อ 1 และ ข้อ 2 เป็นเวลา 30 วัน

ปัจจุบันมีปริมาณการนำเข้าโทรศัพท์มือถือเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยเฉลี่ย ปีละ 16 ล้านเครื่อง ส่วนโทรศัพท์มือถือที่พบว่ามีการใช้เอกสารปลอมมีทั้งหมด 280 รุ่น จาก 27 บริษัท ประกอบด้วย รุ่น “อาม่า” กับ “อาม่า พลัส” ของ บริษัท มีเดีย อินฟินิตี้ จำกัด และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเอ็มทีเอ็ม (MTM) พบแปลงเอกสาร 45 รุ่น และของบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ในรุ่นเจโฟน 8 รุ่น ส่วนบริษัท ทีดับบลิวแซด จำกัด (มหาชน) หรือTWZ พบว่ารุ่น โฟนวันมี 29 รุ่นที่เป็นเอกสารปลอม
ด้าน น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า โดยหลักการไม่มีหลักฐานว่าเครื่องไม่ได้มาตรฐานเพราะไม่ได้มีการพิสูจน์ เพียงแต่ผู้ขอใบอนุญาตในการนำเข้าใช้เอกสารปลอม โดยเครื่องมือถือที่ประชาชนซื้อไปแล้วถ้าใช้แล้วไม่เกิดปัญหาก็ใช้ต่อไป แต่หากพบว่าเกิดความเสียหายสามารถฟ้องตามพ.ร.บ.ความรับผิดชอบต่อความเสียหาย ที่เกิดขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคต้องชี้แจงให้ได้ว่าเสียหายอย่างไร เช่น ใช้โทรศัพท์มือถือที่มีใบรับรองคุณภาพปลอมแล้วทำให้คลื่นรบกวนอุปกรณ์ไฟฟ้า จนทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนจะคืนเครื่องมือถือได้หรือไม่ ในขณะที่ตกลงจะซื้อเครื่องมือถือจะถือว่าเป็นการสมยอมกันไปแล้ว โดยส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะได้เงินคืนหรือถ้าเกิดความเสียหายสามารถ โทรร้องเรียนที่เลขหมาย 1200 ของกสทช.ได้.

โจรเหิมยิงถล่มรถขนเงิน


วันนี้ (2 ก.ค.) พ.ต.ท.สืบ เงินคำคง พนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ดักซุ่มยิงรถขนเงินของธนาคากรุงไทย ที่บริเวณกิโลเมตรที่ 24 ถนนเชียงดาว-เวียงแหง บ้านขุนคลอง หมู่ 6 ต.ทุ่งข้าวพวง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ศตศักดิ์ พิมลทิพย์ สารวัตรใหญ่ สภ.นาหวาย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พร้อมอาวุธครบมือกว่า 20 นาย
ที่เกิดเหตุพบรถตู้สีขาว-ฟ้า ของธนาคารกรุงไทย หมายเลขทะเบียน ตส 254 กรุงเทพมหานคร หมายเลขรถ เค 216 จอดเสียหลักอยู่ริมถนน ตรวจสอบพบบริเวณกระโปรงรถด้านหน้าซ้ายมีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบ ขนาดจำนวน 4 นัด กระสุนทะลุเข้าไปในกระโปรงรถเสียหาย จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถคันดัง กล่าวได้ขนเงินจากธนาคารกรุงไทยสาขาเชียงใหม่ จะนำเงินสดจำนวน 50 ล้านบาทไปส่งให้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเวียงแหง โดยมีพนักงานนั่งมาในรถจำนวน 3 คน จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนดักอยู่บริเวณป่าข้างทางและใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดกราด ยิงใส่รถจำนวน 4 นัดซ้อน ซึ่งคนขับรถได้พยายามเร่งเครืองหลบหนีจนห่างจากจุดยิง ประมาณ 800 เมตร ก็พบรถสายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหวาย จึงรีบจอดรถแจ้งตำรวจให้สกัดจับคนร้าย แต่ก็ไร้วี่แวว ก่อนจะวิทยุขอกำลังเสริมเพื่อคุ้มกันรถนำเงินไปส่งที่จุดหมายได้อย่าง ปลอดภัย ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้า ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสจน์หลักฐาน ตรวจเก็บร่องรอยต่างๆ ที่พบเพื่อใช้เป็นแนวทางติดตามคนร้ายต่อไป
ทางด้านพ.ต.อ.วีรวุฒิ เนียมน้อย รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นไว้ที่คนร้ายต้องการปล้นเงิน แต่ก็ยังไม่ตัดเรื่องการก่อเหตุเพื่อความคึกคะนองทิ้ง ซึ่งต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยพนักงานที่นั่งมาในรถมีนายเกษม ไชยศรี เป็นคนขับ นายชานนท์ สุวรรณ และนายอภิรักษ์ พิสารัตน์ เป็นพนักงานฝ่ายบริหารจัดการทรัพย์สินของบริษัทกรุงไทยธุรกิจบริการจำกัด อย่างไรก็ตาม ได้สนธิกำลังตำรวจ กับทหาร ตชด. กว่า 50 นาย เข้าปูพรมบริเวณพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อตามล่าหาตัวคนร้ายที่เชื่อว่าน่าจะ อาศัยอยู่แถบนั้น เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว.

สธ.เผยยอดผู้ป่วยไข้เลือดออก1.7หมื่นรายตายแล้ว18


วันนี้ (2 ก.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีหญิงวัย 48 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ เสียชีวิตจากการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกทั้งที่ไปสถานพยาบาลถึง 3 แห่ง ได้แก่ คลินิกแห่งหนึ่ง รพ.อำนาจเจริญ ก่อนถูกส่งตัวไปที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ว่า กรณีนี้ได้รับรายงานจากทางทีมสืบสวนสอบสวนโรคว่า ผู้ป่วยมีอาการไข้มา 3 วันแล้ว และได้ไปซื้อยามารับประทาน พออาการไม่ดีขึ้นจึงไปหาหมอที่คลินิก ก่อนไป รพ.ซึ่งมีอาการหนัก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้พบผู้ป่วยใกล้เคียงกับปี 2554 แต่น้อยกว่าการระบาดใหญ่ในปี 2553 โดยปีนี้พบผู้ป่วยแล้วกว่า 1.7 หมื่นราย เสียชีวิต 18 ราย อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าห่วงคือ พบผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะอาจคิดว่าไม่ได้เป็นโรคนี้จึงไม่ได้ระวังตัว ดังนั้นถ้าเป็น ไข้ 48 ชม.แล้วไม่หายควรรีบไปพบแพทย์ทันที เวลาเป็นไข้ไม่ควรรับประทานยาแอสไพริน หรือ ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตรียรอยด์ เพราะการกินยากลุ่มี้ทำให้ไข้ลดก็จริง แต่จะมีโอกาสเกิดเลือดออกเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรรับประทานยาพาราเซตามอลดีที่สุด

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า การเป็นโรคไข้เลือดออกจนขั้นเสียชีวิตอย่างรวดเร็วนั้น เป็นไปได้สูงว่า ไม่ใช่การได้รับเชื้อครั้งแรก อาจจะเป็นได้รับเชื้อครั้งที่ 2 และเป็นคนละชนิดกับที่ได้รับครั้งแรกทำให้อาการรุนแรง.

รุงป่วน!โรคจิตพ่นอสุจิใส่หน้าสาวตามป้ายรถเมล์


วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้มีผู้เข้าไปโพสต์ข้อความลงในกระทู้ของเว็บไซต์ ในหัวข้อเตือนภัยสาวๆ ระวังเจอโรคจิตพ่นน้ำอสุจิใส่บริเวณป้ายรถประจำทาง หลังจากที่เจ้าตัวโดนผู้ชายสวมหมวกกันน็อก พ่นน้ำอสุจิใส่แล้วหนีไป
ทั้งนี้ผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ได้เล่าเรื่องระทึกขวัญครั้งนี้ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่เธอรอเพื่อนขับรถมารับ ที่ศาลาป้ายรถประจำทางปากซอยวิภาวดี 60 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ โดยระหว่างที่นั่งรออยู่ที่ศาลานั้น มีผู้หญิงอีก 2 คน นั่งอยู่ด้วย ก่อนจะมีผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายเหมือนพนักงานออฟฟิศทั่วไป สูงประมาณ 175 เซนติเมตร ผิวขาวเหลือง ขี่รถ จยย.มาจอดหน้าศาลา แล้วเดินลงมานั่งฝั่งตรงข้าม โดยที่ไม่ถอดหมวกกันน็อกออก ซึ่งขณะนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจอะไร นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือไปเรื่อยๆ จากนั้นไม่นานรู้สึกว่า ชายคนดังกล่าวได้ลุกมายืนตรงด้านหน้า
โดยเมื่อเงยขึ้นมามอง พบผู้ชายคนนั้นยืนช่วยตัวเองอยู่ ก่อนจะพ่นน้ำอสุจิใส่หน้าตนเองทันที โชคดีที่เบี่ยงตัวหลบได้ทัน โดยภายหลังเสร็จกิจชายคนดังกล่าวได้เดินไปขี่รถ จยย.ขับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่ามกลางความงุนงงของทุกคนที่นั่งอยู่ที่ศาลา ขณะที่ตัวเองถึงกับช็อกจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อเพื่อนที่นัดกันไว้มาถึงและทราบเรื่อง จึงได้แนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ด้วยความที่ขณะนั้นกลัวสุดขีด ทำให้จำป้ายทะเบียนรถของชายโรคจิตไม่ได้ และหากไปแจ้งความทางตำรวจคงตามจับคนร้ายลำบากเพราะไม่มีเบาะแสใดๆ จึงคิดว่าควรนำเรื่องนี้มาโพสต์ลงในเว็บไซต์เพื่อเตือนภัยคนอื่นๆแทน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ต่างเล่าประสบการณ์คล้ายๆกัน บางคนบอกว่าเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร ขณะที่บางคนให้ความเห็นว่า โชคดีที่ผู้ผู้โพสต์ข้อความไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้ รวมทั้งบางคนแสดงความเห็นว่าเธอควรตั้งสติให้ดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ท้องที่เกิดเหตุ กล่าวว่า กรณีโรคจิตพล่านปล่อยน้ำอสุจิใส่หญิงสาว บริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 60 นั้น ได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายจากกรณีนี้มาแจ้งความ แต่เบื้องต้นได้รับทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งการให้ชุดสืบสวนและสายตรวจ ลงพื้นที่เพื่อหาตัวโรคจิตรายนี้มาดำเนินคดี ทั้งนี้จากการสอบถามวิน จยย. ในซอยดังกล่าว ก็ยังไม่พบตัวโรคจิตรายนี้แต่อย่างใด แต่เพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ได้ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกตรวจในบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่
ขณะที่ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น. ดูแลงานด้านสืบสวน กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่หลังจากนี้จะสอบถามไปยังโรงพักท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะอาจจะคล้ายกับกรณีของหนุ่มซาเล้ง ทั้งนี้ถ้าหากหญิงสาวรายใดถูกโจรโรคจิตก่อเหตุลักษณะดังกล่าว ให้รีบเดินทางเข้าแจ้งความทันที เพื่อจะได้เร่งดำเนินการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
ส่วน นพ.ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวเรียกว่า กามวิปริตชนิดหนึ่ง เป็นความผิดปกติทางจิตใจ มักพบในผู้ชายที่ไม่มีความมั่นใจในความเป็นชายของตัวเอง ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ตามปกติได้ จึงแสดงพฤติกรรมดังกล่าว ปกติมักจะเจอข่าวที่ไปสำเร็จความใคร่ตามหอพักหญิงเป็นส่วนใหญ่ ตามป้ายรถเมล์ไม่ค่อยเจอ ซึ่งคนที่เป็นกามวิปริตไม่ถือว่ามีอันตราย เพราะเขาไม่มีขีดความสามารถที่จะทำอันตรายผู้หญิงได้ หากใครเจอควรเดินหนี ด่าให้อับอายเขาจะหยุดพฤติกรรมดังกล่าว แล้วแจ้งตำรวจจับข้อหาทำอนาจารในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตามในคนที่เสพยาเสพติด หรือเมาสุรา ก็อาจแสดงพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวได้เช่นกัน.

รถตู้บัณฑิตใหม่เสยต้นไม้ตายคาที่7ศพเจ็บระนาว8ราย


เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 1 ก.ค. ร.ต.ท.สนิท นุ้ยพิน พนักงานสอบสวน สภ.บ้านในหูต อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักตกลงไปในร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ที่บริเวณถนนสายเอเซีย 41 หมู่ 11 ต.นาขา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยหลังสวน
ในที่เกิดเหตุพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน น 3607 สงขลา ของสำนักกฏหมายอนุสรณ์ มรรคาเขต (สจ.โอบ) สภาพชนอัดก็อปปี้ติดกับต้นไม้จนรถพังยับทั้งคัน ตรวจสอบในซากรถพบ ผู้เสียชีวิต 7 ราย ประกอบด้วย นายมูฮะหมัด เพชรเนียม อายุ 19 ปี คนขับรถ นายดลหมีด สง่าบ้านโคก อายุ 48 ปี นายสมนึก หนูชูสุข นางฮามินะ หนูชูสุข น.ส.ปทิตตา สง่าบ้านโคก (ทั้งสามรายไม่ทราบอายุ) และผู้เสียชีวิตชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลอีก 2 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสอีก 8 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งลำเลียงผู้บาดเจ็บส่ง รพ.หลังสวน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมูฮะหมัด ได้ขับรถตู้คันดังกล่าวพาญาติพี่น้องกลับจากร่วมพิธีรับปริญญาของ น.ส.ปทิตตา ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยมุ่งหน้าลงภาคใต้ด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถได้เกิดเสียหลักพุ่งตกลงร่องกลางถนนก่อนชนเข้ากับต้นไม้อย่างไม่ทราบ สาเหตุ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ทั้งนี้ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากคนขับหลับใน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อ ไป.

เพลิงพิโรธ-แก๊สระเบิดถล่มแหลกเมืองจันทบุรี


วันนี้(1 ก.ค.) พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ วิสุทธิ์ธาภรณ์ สวส.สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านค้า จำนวน 5 คูหา กลางเมืองจันทบุรี ซอยท่าแฉลบ 2/1 ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี จึงประสาน รถดับเพลิง 10 คัน เดินทางมาตรวจสอบและระงับเหตุเพลิงไหม้ให้ด้วย

พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนัก เจ้าของบ้านและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกำลังช่วยกัน นำสิ่งของวิ่งออกมาจากในบ้านอย่างโกลาหล เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังระดมช่วยกันฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิง นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา 1-2 ครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นถังแก๊สของอู่ซ่อมรถระเบิดหลังจากใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทั้งหมด ตรวจสอบพบว่ามีร้านค้า จำนวน 5 คูหา ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมดไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแต่อย่างไร ความเสียหายในเบื้องต้นอยู่ในการประเมิน

สอบสวนทราบว่า ต้นเพลิงมาจากร้านคาราโอเกะวันทอง จากนั้นไฟได้ลุกลามมาติดร้านค้าใกล้เคียงและกินวงกว้าง ทั้งนี้โชคดีที่เจ้าของบ้านทั้ง 5 คูหา สามารถนำคนในครอบครัวออกมาจากกองเพลิงได้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้  น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรแต่ทั้งนี้และทั้งนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มี การตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้งต่อไป

ศพนิรนามฆ่าโบกปูนที่แท้เป็นเสี่ยรับจ้างถมดิน


จากกรณีการพบศพนิรนามถูกฆาตกรรมโบกปูนยัดใส่ถังน้ำมัน ก่อนนำมาทิ้งในบ่อน้ำลึก 3 เมตร กลางสวนมันสำปะหลัง ในพื้นที่หมู่ 9 ต.หนองสรวง จ.สระบุรี โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าศพชายนิรนามคนดังกล่าว อาจเป็น นายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร หนึ่งในขบวนการทุจริตการโกงสอบเข้าเป็นตำรวจชั้นประทวน ที่ถูกฆ่าตัดตอน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล จนทราบแล้วว่า ศพที่ถูกฆ่าโบกปูนดังกล่าว คือ นายเปล่งปั๊ก แซ่อึ้ง อายุ 60 ปี ชาว จ.ชลบุรี เจ้าของธุรกิจรับถมดิน โดยการพิสูจน์ทราบดังกล่าว ได้เบาะแสจากพระที่ผู้ตายใส่ห้อยคอไว้ โดยมีเพื่อนรายหนึ่งของผู้เสียชีวิตจำได้ จึงมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ศพดังกล่าวอาจเป็นนายเปล่งบั๊ก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จึงประสานความร่วมมือกับกรมการปกครอง เพื่อหาประวัติพิมพ์มือที่ นายเปล่งปั๊ก เคยทำบัตรประชาชนไว้ มาเปรียบเทียบลายนิ้วมือ ที่เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สามารถพิมพ์ได้จากนิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้างของศพ โดยใช้หลักการหาลายพิมพ์นิ้วมือจากศพที่เน่าเปื่อย แบบเดียวกับที่พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์มหาภัย พิบัติสึนามิ จนทราบว่าศพดังกล่าว คือนายเปล่งปั๊กจริง
ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่า ผู้ตายน่าจะมีความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจรับถมดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานนำข้อมูลให้กับ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป.

เร่งสรุปคดีแม่เฒ่ามะกันนั่งวีลแชร์ตกสระน้ำดับ


วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 11.00 น. ร.ต.อ.อดิศักดิ์ เหล่าดี พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลุมพินี เปิดเผยความคืบหน้าคดีนางไอลีน เอ็ม เคนวู๊ด อายุ 93 ปี ชาวอเมริกัน ที่นั่งรถวีลเเชร์พลัดตกลงไปในสระว่ายน้ำเสียชีวิต ที่เศรษฐีวรรณ เรสซิเดนซ์ คอนโดมีเนียม ถนนสุขุมวิท ซอย 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่า จากการสอบปากคำน.ส.วรรณภา จินดา อายุ 23 ปี ผู้ดูแลผู้ตาย ทราบว่า ก่อนที่จะเสียชีวิตผู้ตายมีอาการซึมเศร้าบ่อยครั้ง และชอบตัดพ้อว่าไม่มีลูกๆ มาคอยดูแล และไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่กำลังรอผลการตรวจสอบร่องรอยหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งผลการชันสูตรศพจากทางแพทย์อีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุที่แน่ชัดของเหตุการณ์ในครั้งนี้.

เลื่อนไต่สวนการเสียชีวิต“ช่างภาพรอยเตอร์”


วันนี้ (2 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณา 403 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนคำร้อง คดีหมายเลขดำ ช.1/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรการเสียชีวิตนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ สัญชาติญี่ปุ่น ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53

โดยอัยการและญาติผู้ตายได้แถลงต่อศาลขอรวมคดีชันสูตรการเสียชีวิตในคดี หมายเลขดำ ช.4/2555 ที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวน หาสาเหตุการเสียชีวิตของ นายวสันต์ ภู่ทอง อายุ 39 ปี และนายทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี แนวร่วมนปช. ที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการไต่สวน เนื่องจากคดีชันสูตรการเสียชีวิตนายฮิโรยูกิได้ทำการไต่สวนพยานซึ่งเป็นน้อง ชายนายฮิโรยูกิไปแล้ว พยานที่เหลือจึงเป็นพยานชุดเดียวกัน

ศาลพิจารณาแล้ว นัดฟังคำสั่งวันที่ 31 ก.ค. นี้ พร้อมให้อัยการและญาติผู้ตายนัดตรวจบัญชีพยานหลักฐานในวันดังกล่าวด้วย.

ตร.กรุงเก่าฟิตเร่งสาง หมายจับค้างเก่า 3 พันคดี


วันที่ 2 ก.ค.ที่ห้องประชุมกองบังคับการ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รองผบก. พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.กก.สส. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรในการบริหารจัดการติดตามจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากสถานีตำรวจ 26 สถานี รวม 219 นาย เข้าร่วมโครงการ

พล.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้สั่งการให้เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับให้ลดน้อยลงหรือ หมดไปจากสาระบบ และยังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพศูนย์ปฏิบัติการสั่งการและควบคุมการบริการ จัดการหมายจับคดีค้าง จึงจัดทำโครงการขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 ก.ค.2555 โดยดำเนินการรวบรวมหมายจับที่ยังไม่ขาดอายุความเป็นรูปเล่ม รวม 3,342 หมายพร้อมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสั่งการและควบคุม การบริหารจัดการหมายจับคดีค้างเก่าไว้ที่กองบังคับการ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้หากมีผลยอดจับกุมมากจะส่งผลให้เกิดอาชญากรรมลดลง พร้อมทั้งส่งผลให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยในชีวิต และในวันที่ 5 ก.ค. ขณะที่ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง รรท.ผบช.ภ.1 จะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าของโครงการนี้ด้วย

ปิกอัพประสานงารถตู้ สยองคาที่3ศพเจ็บ1


วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 06.00 น. พ.ต.ท.วิโรจน์ ชมมิ พนักงานสอบสวน สภ.สอยดาว จันทบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถปิกอัพชนประสานงารถตู้ทำให้มีผู้เสียชีวิตติดคาซากรถ หลายราย ที่บนถนนจันทบุรี – สระแก้ว ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 74 – 75 บ้านตาเรือง หมู่ 3 ต.ปะตง อ.สอยดาว จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกตัญญู และแพทย์เวรโรงพยาบาลสอยดาวไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน พบรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บย 517 จันทบุรี จอดกลางถนนในสภาพพังยับเยิบทั้งคัน ส่วนบริเวณเบาะที่นั่งคนขับพบศพนายจำนงค์ อุ่นเงิน อายุ 61 ปี อาชีพทำสวน สภาพถูกอัดติดคาพวงมาลัย เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำศพออกมา ห่างไปประมาณ 10 เมตร พบรถตู้อีซูซุ สีน้ำเงินคาดเทา ทะเบียน นช 32 ราชบุรี จอดอยู่ที่ริมถนนสภาพพังยับเยิบทั้งคันเช่นกัน ตรวจสอบภายในรถพบศพนายวิชา สุดเตมีย์ อายุ 28 ปี และ น.ส.สุรีรัตน์ ชินาพันธ์ อายุ 29 ปี อาชีพขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งคู่สภาพคอหัก แขนขาหัก นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 ราย ถูกนำส่ง รพ.สอยดาว ทราบชื่อ ด.ช.ภูมิ อุ่นเงิน อายุ 6 ขวบ เป็นหลานชายนายจำนงค์ที่นั่งมาด้วย
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถปิกอัพที่นายจำนงค์เป็นคนขับส่ายไปมา กระทั่งรถได้ข้ามมาวิ่งกินเลน จนเกิดชนประสานงาอย่างจังกับรถตู้ที่ขับสวนมาพอดี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

วุฒิจับมือภาคีต้านคอร์รัปชันฮึ่มขู่ถอดถอนพวกขี้โกง


วันนี้ (2 ก.ค.) ที่รัฐสภา พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ร่วมกับนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ร่วมกันแถลงความร่วมมือจากวุฒิสภาและภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ในการต่อต้านการทุจริต

พล.อ.ธีรเดช กล่าวว่า วุฒิสภาจะดำเนินการสานต่อกิจกรรมที่ภาคเอกชนและภาคีเครือข่าย ร่วมมือกันต่อต้านการคอร์รัปชั่น โดยจะสานต่อความมุ่งมั่นขจัดปัญหาในแผ่นดินไทยมานาน เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินและประเทศชาติ หากเห็นว่าสิ่งใดวุฒิสภาจะทำให้เกิดประโยชน์ ขอให้แจ้งต่อประธานคณะกรรมาธิการฯ

ด้าน นายประมนต์ กล่าวว่า คณะทำงานของภาคีฯได้ทำงานร่วมกันมากกว่า 2 ปีเศษ จนมีความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง และเชื่อว่าจะเป็นพลังผลักดันให้คณะทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งขอบคุณวุฒิสภาที่ให้ความร่วมมือเพื่อเป็นองค์กรขับเคลื่อนในเรื่อง นี้

นายมหรรณพ กล่าวว่า จะร่วมมือกับภาคีฯดำเนินการอย่างจริงจัง ในการตรวจสอบข้าราชการหรือบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชั่นและจะไม่ยอมสยบให้อำนาจใด รวมทั้งหากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิด จะให้วุฒิสภาดำเนินการถอดถอนให้ดูเป็นตัวอย่าง.

ปชป.ยื่นคำชี้แจงศาลรธน.บ่ายนี้


วันนี้ ( 2มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคฯ และนายวิรัตน์ กัลยา ศิริส.ส.สงขลา เป็น 1 ใน5 ของผู้ยื่นคำร้องได้มอบให้นายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นเอกสารคำชี้แจงในฐานะพยานผู้ร้องว่าการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ ก่อนเข้าชี้แจงต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเองในวันที่ 5 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ในคำชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ ชี้ให้เห็นว่าเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการเขียนรัฐธรรมนูญ ใหม่ที่มีผลกระทบต่อรูปแบบการปกครองและการออกแบบ ส.ส.ร. เสียงข้างมากสามารถคุมเสียงไว้ได้และร่างรัฐธรรมนูญจะอยู่ในอำนาจของรัฐบาล และเกิดการผูกขาดอำนาจ
              
ขณะที่คำชี้แจงของนายถาวร ระบุว่า รัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 291 สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้เป็นรายมาตรา แต่ไม่ให้มีการแก้ทั้งฉบับ แต่การเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับให้มีการตั้ง ส.ส.ร. เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยล้มล้างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

ฝ่ายค้านไม่ยื่นร่างปรองดองฯประกบ


วันนี้ (2 ก.ค. )ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แสดงเจตนารมณ์อยากให้มีการชะลอ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ทั้ง 4 ฉบับว่า ฝ่ายค้านยินดีสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว แต่ยังไม่มีหลักประกันอะไร แม้จะเป็นเจตนาที่ดี หากจะเป็นจริงก็ควรถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ทั้ง 4 ฉบับออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรไปเลย มิฉะนั้นจะเป็นเพียงการสร้างกระแส เพื่อลดกระแสต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ชั่วคราว แต่พอถึงเวลาเปิดประชุมสภาจะมีการดำเนินการหยิบยกกฎหมายฉบับนี้ขึ้นพิจารณา และจะทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่รูปแบบเดิม จนในที่สุดประเทศจะเสี่ยงต่อความขัดแย้งและแตกแยก

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของฝ่ายค้านขอยืนยันว่า จะไม่มีการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ เข้าประกบตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอ เพราะหากทำเช่นนั้น จะเท่ากับว่าเป็นการไปร่วมกรระบวนการล้างผิด ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้น หากรัฐบาลยังคงดึงดันเดินหน้าออก พ.ร.บ.ปรองดองฯ  ฝ่ายค้านก็จะคัดค้านต่อไปแต่ไม่ได้ตั้งธงไว้ว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง เพียงแต่ทำทุกอย่างไปตามข้อเท็จจริง โดยเฉพาะจะไม่รับหลักการตั้งแต่วาระแรก.

“จุรินทร์”ชี้ไม่เหมาะกดดันศาลรธน.


วันนี้ (2 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้ตั้งธงและเขียนคำวินิจฉัยล่วงหน้าสำหรับการวินิจฉัยว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการล้มล้างระบอบการปกครองหรือไม่ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระบวนการพยายามข่มขู่กดดันศาลให้ดำเนินการออกผลการ วินิจฉัยให้เป็นไปตามความต้องการหรือไม่ให้ขัดแย้งกับความต้องการของฝ่ายตน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรในการออกมาข่มขู่กดดันศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม

"อังกฤษ"ห่วงการเมืองไทย


วันนี้ ( 2 ก.ค.) เวลา 11.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นาย เจเรมี่ บราวน์ รมช.ต่างประเทศของสหราชอาณาจักรมาพบว่า คุยกันเรื่องยาเสพติด ความมั่นคง สถานการณ์การเมือง จึงเล่าให้ฟังตั้งแต่การปฏิวัติปี 2549 มาเลย และมีการอาฆาตพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอย่างไร และสาเหตุยาเสพติดมาจากไหน
“เขาก็แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองของไทย บอกว่าการเมืองต้องเคารพกติกาและเล่าว่าประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งแค่ 1 ครั้ง มีการแจกสปก.ตนก็คัดค้าน จนมีการเลือกตั้งใหม่ เขารู้ว่าสถานการณ์การเมืองต้องฟังเสียงประชาชนเป็นหลักและพรรคเพื่อไทยก็ ชนะการเลือกตั้ง” ร.ต.อเฉลิม กล่าว

"ปู"หายใจไม่ทั่วท้อง ลุ้นศาลรธน.ชี้ขาด


วันนี้ ( 2 ก.ค.) เวลา 10.10น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขร่างรัฐ ธรรมนูญไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เจตนารมณ์ของรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภา และได้ผ่านขั้นตอนของรัฐสภาแล้ว จึงอยากให้รอผลการวินิจฉัยและคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีแผนสำรองอะไร เพราะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาก่อน จึงไม่อยากไปก้าวล่วงอะไร เพียงแต่หวังและเชื่อมั่นว่าจะให้ความเป็นธรรมและพิจารณาจากข้อเท็จจริง

ต่อข้อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะกลับมาร้อนแรงขึ้นอีก ครั้ง เนื่องจากเริ่มมีการเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อยากขอวิงวอนทุกภาคส่วนว่า ข้อคิดเห็นที่แตกต่างกัน สามารถแสดงออกได้ภายใต้ขอบเขตและสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย แต่ขอให้อยู่ในความสงบ เพราะวันนี้ประเทศไทยไม่ใช่ว่าจะต้องมาคอยแก้ปัญหาภายในประเทศอย่างเดียว อีกทั้งต้องคอยรองรับปัญหาต่าง ๆ จากเศรษฐกิจโลกด้วย ดังนั้น จึงต้องร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นและแสดงออกให้เห็นว่าประเทศไทย สามารถก้าวพ้นปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่ง ชาติ เสนอให้ลงนามในสัตยาบันกับศาลโลก เพื่อให้มีผลต่อการพิจารณาคดีต่อการสลายการชุมนุมในปี 2553

“วิชาญ”อัด“มาร์ค”ปราศรัยเสี้ยมเข้าใจผิดปมแก้รธน.


วันนี้ ( 2 ก.ค.)  ที่รัฐสภา นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงตอบโต้การปราศรัยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ โดยโยงกับมวลชนพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการเสี้ยมและยั่วยุให้ประชาชนเห็นภาพว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ จะมีผลต่อการยุบองค์กรอิสระ และการโค่นล้มรัฐธรรมนูญ เท่ากับเป็นการสร้างประชาธิปไตยใหม่ นอกจากนั้นยังระบุว่า รัฐสภาไม่ให้ความสำคัญกับคำแปรญัตตินั้น ตนขอชี้แจงว่า กระบวนการในรัฐสภา ส.ส. 1 คน มีคะแนนเท่ากันคือ 1 เสียงแม้นายอภิสิทธิ์ จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ก็มีสิทธิ์เพียง 1 เสียงเท่านั้น

นอกจากนี้ นายวิชาญ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน ในกรณีคำร้องที่ขอให้พิจารณาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขัดต่อมาตา 68 หรือไม่ ว่า ขอเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ถ่ายทอดการไต่สวนด้วย เนื่องจากประเด็นดังกล่าวสังคมและประชาชนให้ความสนใจ ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ ควรมีการเปิดเผยการวินิจฉัยทุกมุมของการพิจารณาในกรณีดังกล่าว นอกจากนั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใน ส่วนตัวมองด้วยว่าศาลรัฐธรรมนูญ ควรให้โอกาสฝ่ายผู้ถูกร้องได้มีสิทธิชี้แจงอย่างละเอียดโดยไม่มีการตัดพยาน หรือหลักฐานใด ๆ.

นายกฯกินข้าวเที่ยงผู้นำเหล่าทัพ


วันนี้ ( 2 ก.ค.) เวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือแบบไม่เป็นทางการและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับคณะผู้ บัญชาการทางทหาร โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.อ.ธนะศักดิิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. และ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วม ก่อนเดินทางไปร่วมงาน 100 ปีการบินของบุพการีทหารอากาศ ที่อาคารคลังสินค้า 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ.

2สาวใหญ่เจ๊งพนันบ่อนรับจ้างขนยาไอซ์โดนรวบ


วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 08.00 น. พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก.สภ.เมือง จ.เชียงราย สืบทราบว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปกับรถทัวร์เพื่อ เดินทางเข้าไปส่งให้ลูกค้าในกรุงเทพมหานคร จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.เทพสวัสดิ์ สุภาวรรณ สวป. นำกำลังตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำสถานีขนส่งเชียงรายแห่งที่ 2 หมู่ 9 ต.สันทราย ออกตรวจตราภายในสถานีขนส่งอย่างเข้มงวด

จนกระทั่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจมาถึงชานชาลาที่ 2 พบรถทัวร์ของบริษัทสมบัติทัวร์ หมายเลขข้างรถ 90-4 วิ่งระหว่างเชียงราย-กรุงเทพฯ โดยเมื่อขึ้นไปตรวจสอบบนรถที่บริเวณเบาะนั่งหมายเลข 13 บี และ 13 ซี พบสาวใหญ่ 2 คน ท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจค้น พบยาไอซ์ชนิดเกล็ดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสซุกซ่อนอยู่ในยกทรง คนละ 4 ก้อน รวมทั้งหมด 8 ก้อน น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนนำตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก

สอบสวนทราบว่าสาวใหญ่ทั้ง 2 คน ชื่อนางศรีไพร สีพุด อายุ 43 ปี และ นางมณีรัตน์ งามนางนาค อายุ 35 ปี โดยทั้งคู่ ให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางมาที่ จ.เชียงราย และข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อไปเล่นการพนันที่บ่อนการพนันแห่ง หนึ่งจนเสียเงินหมดตัวทั้ง 2 คน ระหว่างนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งทราบเพียงชื่อเล่นว่าเจ้ ได้มาว่าจ้างให้ขนยา ไอซ์จำนวนดังกล่าวไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยจะได้ค่าจ้างคนล่ะ 5 หมื่นบาท จึงตัดสินใจรับงาน โดยใช้วิธีนำยาไอซ์ซุกในยกทรงแต่ก็มาถูกตำรวจจับกุมได้เสียก่อน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.เชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

เซ่นนัดชิงยูโร"จ่าลูกประดู่"แฟนอิตาลีช็อกดับคารถ


วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 07.30 น. ร.ต.ท.นเรศ บุญที ร้อยเวร สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในรถกระบะ ที่บริเวณลานจอดรถอาคารรับรอง (อาคาร 8) ฐานทัพเรือสัตหีบ หมู่ 1 ต.สัตหีบ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนพัฒน์ เนาวลักษณ์ ผกก. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ



ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ โตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน นค 332 ชลบุรี จอดดับเครื่องยนต์ เปิดกระจก และเปิดเพลงลูกกรุงทิ้งไว้ ในลักษณะกีดขวางเส้นทางเข้าออกลานจอดรถ ภายในรถบริเวณเบาะที่นั่งคนขับพบศพ พ.จ.อ.ธรรมนูญ วิมลมุกข์ อายุ 43 ปี สังกัดกรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ช่วยราชการกองบริการ อาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ แต่งกายอยู่ในชุดทำงาน สภาพเนื้อตัวชักเกร็ง ศีรษะเอียงมาทางด้านซ้าย และฟันปลอมหลุดออกมาคาอยู่บริเวณปาก ตรวจสอบไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย บนเบาะข้างคนขับพบถุงยารักษาโรคหัวใจของโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

ฝ่ายค้านไม่ยื่นร่างปรองดองฯประกบ


วันนี้ (2 ก.ค. )ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แสดงเจตนารมณ์อยากให้มีการชะลอ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ทั้ง 4 ฉบับว่า ฝ่ายค้านยินดีสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว แต่ยังไม่มีหลักประกันอะไร แม้จะเป็นเจตนาที่ดี หากจะเป็นจริงก็ควรถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ทั้ง 4 ฉบับออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรไปเลย มิฉะนั้นจะเป็นเพียงการสร้างกระแส เพื่อลดกระแสต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ชั่วคราว แต่พอถึงเวลาเปิดประชุมสภาจะมีการดำเนินการหยิบยกกฎหมายฉบับนี้ขึ้นพิจารณา และจะทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่รูปแบบเดิม จนในที่สุดประเทศจะเสี่ยงต่อความขัดแย้งและแตกแยก

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของฝ่ายค้านขอยืนยันว่า จะไม่มีการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ เข้าประกบตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอ เพราะหากทำเช่นนั้น จะเท่ากับว่าเป็นการไปร่วมกรระบวนการล้างผิด ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้น หากรัฐบาลยังคงดึงดันเดินหน้าออก พ.ร.บ.ปรองดองฯ  ฝ่ายค้านก็จะคัดค้านต่อไปแต่ไม่ได้ตั้งธงไว้ว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง เพียงแต่ทำทุกอย่างไปตามข้อเท็จจริง โดยเฉพาะจะไม่รับหลักการตั้งแต่วาระแรก.

บช.น.น้อมรับใส่เกล้าฯ จัดจราจรเส้นทางเสด็จฯ


ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชปรารภกับราชเลขาธิการเมื่อ ปี 2544 เรื่องปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่มีขบวนเสด็จฯ หากต้องปิดการจราจรเป็นเวลานานจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ราชเลขาธิการได้พิจารณาร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ เกี่ยวข้องร่วมกันหาทางแก้ไข โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งให้กองสารนิเทศ ตร. ดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือคู่มือการปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางการปฏิบัติใน การถวายความสะดวก ด้านการจราจรในการเสด็จพระราชดำเนิน (เป็นการส่วนพระองค์) แจกจ่ายข้าราชการตำรวจที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนี้จำนวน 25,000 เล่ม เพื่อให้ตำรวจทั่วประเทศมีแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องตรงกันตามที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสรับสั่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่  2 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบช.น. ดูแลงานกิจการพิเศษ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า  ในการปฏิบัตินั้นคณะกรรมการได้มีการประชุมโดยได้กำหนดแนวทางในการปฏิบัติ ในกรณีปกติไม่ได้มีหมายเสด็จจะให้รถปล่อยไหล ปล่อยสวนได้ ตำรวจจะผ่อนคลายจากที่เคยปิดการจราจรอย่างเคร่งครัด โดยทางกรมราชองครักษ์ และราชองครักษ์เวร ซึ่งติดตามขบวนทุกขบวนจะดูว่าตำรวจได้ปฏิบัติตามแนวทางที่ออกมาหรือไม่ เพราะจะมีการประชุมที่กรมราชองครักษ์ทุกเดือนอยู่แล้วในเรื่องการถวายความ ปลอดภัย โดยจะแจ้งว่าขบวนที่ผ่านเส้นทางนี้ตำรวจทำไมไม่ปล่อย ก็จะแจ้งมาให้ทราบและปรับปรุง โดยได้เน้นย้ำกับทุก สน.ที่เกี่ยวข้องว่าต้องปล่อยรถสวนทางมาได้ และจะมีการติดตามแนวทางปฏิบัติและมีการติดตามอย่างเคร่งครัด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าที่ไม่ให้มีการปิดถนนเป็นอย่างไร  พล.ต.ต.อนันต์กล่าวว่า ปกติสมัยก่อนเวลามีขบวนเสด็จจะปิดทั้งหมด เป็นถนนขาวโล่ง ๆ ต่อไปนี้จะปิดแค่ขบวนใกล้ถึงแล้วเท่านั้น พร้อมกันนี้จะให้มีการปล่อยรถสวนเลนได้ ที่ผ่านมาได้นำมาเป็นแนวทางปฏิบัติพักใหญ่แล้ว ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่สั่ง แต่ผู้ปฏิบัติกลัว จึงทำให้มีการปิดนาน แต่เมื่อมีรับสั่งเช่นนี้ก็เชื่อว่าน่าจะราบรื่นขึ้นและได้รับผลกระทบน้อยลง ส่วนกรณีคนเดินข้ามสะพานลอย ก็จะปิดห้ามคนขึ้นตามปกติ ยกเว้นมีพระราชประสงค์ยกเว้นตามแต่ละขบวน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคู่มือในการปฏิบัติที่จัดทำเป็นอย่างไรบ้าง พล.ต.ต.อนันต์กล่าวว่า คู่มือตัวนี้เป็นแนวทางการปฏิบัติในแต่ละรูปขบวน และมีภาพประกอบ ว่าปล่อยรถสวนทำอย่างไร ทางร่วม ทางแยกทำอย่างไร มีรูปภาพให้ดูด้วย โดยไม่ใช่เฉพาะในนครบาล แต่รวมถึงในส่วนของภูธรด้วย ซึ่งเรื่องนี้ท่านให้ความสำคัญและเร่งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนคู่มือในช่วงกลางถึงปลายเดือน ก.ค. ก็น่าจะเสร็จ

เมื่อถามว่ากรณีมีพระราชพิธีสำคัญ พล.ต.ต.อนันต์กล่าวว่า  หากเป็นกรณีมีพระราชพิธีก็จะปิดช้า เปิดเร็ว ให้มีผลกระทบน้อยที่สุด โดยปกติเมื่อวางกำลัง ก็จะเคลียร์พื้นที่ เส้นทาง ไม่ให้มีรถจอด รถตาย เพื่อให้รถลื่นไหล เมื่อขบวนผ่านก็ปิด ผ่านเสร็จก็ปล่อย ทำให้ลดปัญหาได้  โดยในส่วนนี้ผู้ใหญ่ต้องไปดูแลในส่วนของแนวทางการปฏิบัติ ส่วนคู่มือนั้นน่าจะนำมาแจกระดับโรงพักว่าต้องทำอย่างไรบ้าง โดยเมื่อเป็นนโยบายในการปฏิบัติก็ต้องดูว่าปฏิบัติจริงหรือไม่ และมีปัญหาต้องแก้ไขหรือไม่ อย่างไร.

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources