ห่างไมค์มานาน เพราะมาเอาดีงาน ดีเจกรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม ล่าสุด เอกกี้-เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ นึกครึ้มขอหวนคืนไมค์ร้องเพลงเนื้อหาโดนใจอย่าง “คนที่เธอไม่ยอมรับ” ด้วยตัวเอง เพราะเป็นซิงเกิ้ลล่าสุดจากอัลบั้ม “คลับ ฟรายเดย์ เบดส์ ออน ทรู สตอรี่ เอิ้น พิยะดา” เพราะเนื้อหาตรงกับชีวิตมาก่อน
ดีเจเอกกี้ เผยอย่างตื่นเต้นว่า...“ตื่นเต้นมากครับ แค่ชื่อเพลงก็แอบโดนใจเอกกี้ล่ะ ที่มาที่ไปของการแต่งเพลงนี้หมอเอิ้นได้แรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าของคุณผู้ฟังรายการ “คลับ ฟรายเดย์” มันเลยมีคำคำหนึ่งที่เกิดขึ้น “คนที่เธอไม่ยอมรับ” ซึ่งบางคนอาจตีความหมายไปถึงเรื่องเพศ ซึ่งเรื่องเพศก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงมันยังหมายถึงคนในครอบครัว หรือคนรอบข้างของคนที่เรารักได้อีกด้วย ความรักมันไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คน เวลาเราคบใครหรือรักใคร ก็อยากจะบอกกับใครต่อใครว่าเราสองคนคบกันอยู่นะ รักกันอยู่นะ แต่บางครั้งมันก็ไม่สามารถแสดงออกหรือบอกใครได้ ในสถานการณ์แบบนี้เอกกี้มองว่ามันเป็นชีวิตจริงของคนในปัจจุบันเหมือนกัน บางมุมก็คล้ายชีวิตเอกกี้เหมือนกัน การยอมรับ คือความคาดหวังให้คนคนนั้นรู้สึกในตัวเรา ไม่ว่าจะมากหรือน้อย และทุกครั้งจะมีคำถามขึ้นในใจเสมอ ๆ ว่าคุ้มไหมกับความอดทนเพื่อรอคอยให้ใครบางคนยอมรับในตัวเรา เป็นความรู้สึกที่ว่า “มี” แต่เหมือน “ไม่มี” ซึ่งตอนเข้าห้องอัดหมอเอิ้นเองก็จะคอยบอกว่าต้องการอารมณ์ของเพลงนี้ จากนั้นปล่อยให้เอกกี้ทำความเข้าใจถึงอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดก่อน เพราะส่วนตัวเราไม่ได้เข้าห้องอัดตั้ง 5-6 ปี ไม่ถึงกับเคาะสนิม พอเข้าห้องอัดหมอเอิ้นก็ปล่อยให้เอกกี้ร้องยาวเทคเดียวรวดเดียวผ่านเลย ซึ่งตอนร้องก็แอบอินไปกับเนื้อเพลงเหมือนกับเอกกี้นะ อยากให้ทุก ๆ คนได้ฟังกันเยอะ ๆ นะครับ”.
ดีเจเอกกี้ เผยอย่างตื่นเต้นว่า...“ตื่นเต้นมากครับ แค่ชื่อเพลงก็แอบโดนใจเอกกี้ล่ะ ที่มาที่ไปของการแต่งเพลงนี้หมอเอิ้นได้แรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าของคุณผู้ฟังรายการ “คลับ ฟรายเดย์” มันเลยมีคำคำหนึ่งที่เกิดขึ้น “คนที่เธอไม่ยอมรับ” ซึ่งบางคนอาจตีความหมายไปถึงเรื่องเพศ ซึ่งเรื่องเพศก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงมันยังหมายถึงคนในครอบครัว หรือคนรอบข้างของคนที่เรารักได้อีกด้วย ความรักมันไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คน เวลาเราคบใครหรือรักใคร ก็อยากจะบอกกับใครต่อใครว่าเราสองคนคบกันอยู่นะ รักกันอยู่นะ แต่บางครั้งมันก็ไม่สามารถแสดงออกหรือบอกใครได้ ในสถานการณ์แบบนี้เอกกี้มองว่ามันเป็นชีวิตจริงของคนในปัจจุบันเหมือนกัน บางมุมก็คล้ายชีวิตเอกกี้เหมือนกัน การยอมรับ คือความคาดหวังให้คนคนนั้นรู้สึกในตัวเรา ไม่ว่าจะมากหรือน้อย และทุกครั้งจะมีคำถามขึ้นในใจเสมอ ๆ ว่าคุ้มไหมกับความอดทนเพื่อรอคอยให้ใครบางคนยอมรับในตัวเรา เป็นความรู้สึกที่ว่า “มี” แต่เหมือน “ไม่มี” ซึ่งตอนเข้าห้องอัดหมอเอิ้นเองก็จะคอยบอกว่าต้องการอารมณ์ของเพลงนี้ จากนั้นปล่อยให้เอกกี้ทำความเข้าใจถึงอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดก่อน เพราะส่วนตัวเราไม่ได้เข้าห้องอัดตั้ง 5-6 ปี ไม่ถึงกับเคาะสนิม พอเข้าห้องอัดหมอเอิ้นก็ปล่อยให้เอกกี้ร้องยาวเทคเดียวรวดเดียวผ่านเลย ซึ่งตอนร้องก็แอบอินไปกับเนื้อเพลงเหมือนกับเอกกี้นะ อยากให้ทุก ๆ คนได้ฟังกันเยอะ ๆ นะครับ”.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th