วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปชป.ปูด3ขาพท.โจมตีศาลรธน.รายวัน


วันนี้ ( 10 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุให้ศาลรัฐธรรมนูญฟังเสียงประชาชน กรณีมีคำสั่งให้รอการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในวาระที่ 3 ว่า มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเร่งเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการลงมติทั้งคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังใช้บุคคล 3 กลุ่มออกมาโจมตีศาลรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง 1. พรรคเพื่อไทย ดิสเครดิตศาลรายวัน 2.คนเสื้อแดง ที่เดินสายรวบรวมรายชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในต่างจังหวัด ทั้งที่จริงๆส.ส.พรรคเพื่อไทยลงชื่อก็ยื่นถอดถอนเองได้ และ3. ใช้เวทีวิชาการที่จัดโดยองค์กรชี่อแปลกๆ แต่เปิดโอกาสให้นักวิชาการเสื้อแดงออกมาต่อต้านศาล แล้วใช้สื่อของตัวเองช่วยเผยแพร่ หรือใช้สื่อของรัฐช่วยโจมตีอีกทาง.

ชี้พท.ปล่อยข่าวปฏิวัติเพื่อประโยชน์การเมือง


วันนี้ ( 10 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ร้อนตัวกรณีขอให้เปิด เผยชื่อจริงจากตัวย่อของชื่อบุคคลที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าอยู่เบื้องหลังการ ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้เปิดเผยชื่อ เพราะไม่อยากเห็นการเล่นการเมืองเป็มเกมโชว์ คอยใบ้คำรายวันไปเรื่อยๆ ถ้าพรรคเพื่อไทยมีข้อมูลจริง ก็ควรจะบอกชื่อจริงออกมา เพื่อให้สังคมได้ตรวจสอบว่าบุคคลเหล่านั้นมีพฤติกรรมอย่างที่พรรคเพื่อไทย กล่าวหาหรือไม่ ส่วนข่าวลือเรื่องการรัฐประหาร เห็นว่ามีแต่พรรคเพื่อไทยที่ออกมาพูดเรื่องนี้ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น ทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารเพราะเป็นวงจร อุบาทว์ทางการเมือง.

ชี้คำล้อ“เอาอยู่”สะท้อน”ปู”แก้น้ำท่วมเหลวเอง


วันนี้ ( 10 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯบ่นท้อใจกรณีที่มีคนนำคำว่า “เอาอยู่” ไปล้อเลียน ว่า การล้อเลียนดังกล่าวเป็นการสะท้อนว่ารัฐบาลแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมาไม่ สำเร็จ สร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ ดังนั้นปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ จึงอยากให้นายกฯนำเอาบทเรียนที่ผ่านมามาแก้ปัญหา มากกว่าที่จะนึกท้อใจเสียใจและหมดกำลังใจ และถ้าปีนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้สำเร็จอีก คำว่า”เอาอยู่” จะติดตัวไป คนจะเรียกว่านายกฯเอาอยู่ไปตลอด ดังนั้นนายกฯต้องคิดปรับปรังการทำงานของตัวเอง

นายองอาจกล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยยุติการสร้างความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตุลาการกับ ฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและพรรคพวก ได้โจมตีศาลรัฐธรรมนูญ โดยอาจมีธงว่าจะไม่ให้มีศาลรัฐธรรมนูญอีกต่อไป แต่การกระทำดังกล่าว นอกจากดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญ ยังกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมและระบบนิติรัฐ จึงอยากให้ยุติการกระทำดังกล่าว ทั้งนี้ยังได้สัญญาณว่าในการประชุมรัฐสภา วันที่ 12 มิ.ย.นี้ จะมีการโหวตร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในวาระที่ 3 เห็นได้จากการที่ส.ว.ซึ่งเดินทางไปดูงานยังต่างประเทศ เริ่มทยอยกลับประเทศไทย โดยคณะสุดท้ายจะถึงประเทศไทย ในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย. จึงมีแนวโน้มสูงว่าจะมีการโหวตร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในวาระที่ 3 ในวันดังกล่าว เพราะการลงมติจะต้องอาศัยเสียงของส.ว.ด้วย

“ผมอยากเรียกร้องให้ยังนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาและประธานสภาฯ อย่าใช้วิธีลักไก่ให้โหวตร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม วาระที่ 3 ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 12 มิ.ย. และร่างพ.ร.บ.ปรองดอง วาระที่ 1 ในการประชุมสภาฯ วันที่ 13-14  มิ.ย.นี้ ซึ่งที่ผ่านมานายสมศักดิ์ก็ไม่เคยประกาศเลยว่า จะไม่ลักไก่หรือหักดิบโหวตร่างกฎหมายสำคัญทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว อยากให้นายสมศักดิ์ใช้วิจารณญาณและสามัญสำนึก ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ควรรับใบสั่งจากใครทั้งสิ้น เพราะหากนายสมศักดิ์ทำอะไรไม่โปร่งใส ก็จะไม่เป็นที่ยอมรับจากส.ส.อีกต่อไป” นายองอาจกล่าว.

ปชป.ถล่ม “ยิ่งลักษณ์”ยับ “นายกฯหุ่นบังคับทักษิณ”


วันนี้ ( 10 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า ที่ผ่านมาใช้เวลาหมดไปกับเรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียว เปรียบเสมือนเป็นรัฐบาลหรือนายกฯหุ่นบังคับภายใต้การควบคุมของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน เห็นได้จากการขยายสมัยประชุมนิติบัญญัติช่วง 2เดือน ที่มีแต่การพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพี่ชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่กับปัญหาที่สำคัญกว่ากลับไม่เคยออกจากปากโฆษกพรรคเพื่อไทยและโฆษกรัฐบาล เลย ทั้งนี้ปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดูแลแต่กลับละเลยประกอบไปด้วย 1.การจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม ที่ยังพบข้อมูลของการทุจริต อาทิ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี นครปฐม โดยมีบางส่วนยังได้รับเงินชดเชย รวมถึงบางรายร้ายแรงขนาดถูกลบตัวเลขจากต้องได้เงินชดเชย 15,000บาท คงเหลือเพียง15บาท
นายชวนนท์ กล่าวว่า 2.ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทั้งภาคใต้และภาคเหนืออาทิ ใน จ.ระนอง สุราษฎร์ธานี กระบี่ แพร่ ชุมพร ตรัง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนถึงประมาณ1แสนคน และยังไม่ทราบว่านายกฯได้ทราบเรื่องแล้วหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบยังไม่มีมาตรการใดเข้าไปช่วยเหลือ 3.ปัญหาสินค้าราคาเกษตรตกต่ำ อาทิ มันสำปะหลัง ที่กิโลกรัมละ 1.80บาท ลดลงจาก1.97บาท จากช่วงเข้ารับตำแหน่ง ยางพารา กิโลกรัมล่ะ 87.40บาท ลดลงจากเดิม120.35บาท ปาล์มน้ำมันกิโลกรัมล่ะ 4.80บาท ลดลงจากเดิม 5.75บาท 4.ปัญหาค่าครองชีพในเรื่องต้นทุนพลังงานสูงขึ้น ทั้งค่าของชีพจากราคาค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น30สตางค์ต่อหน่วย นับตั้งแต่วันที่ 15พ.ค.ที่ผ่านมา ค่ารถโดยสาร ค่ารถบริการขนส่งที่เตรียมจะปรับเพิ่มในวันที่27พ.ค.ทั้งนี้เป็นที่น่าตั้ง ข้อสังเกตว่าราคาน้ำมันดิบต่อบาร์เรลมีราคาลดลงแล้วแต่เหตุใดราคาค่าพลังงาน กลับไม่มีทีท่าว่าจะลดลงตาม
นายชวนนท์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะตั้งคณะทำงาน4คณะดำเนินการติดตามปัญหา มีสำนักโฆษกเป็นผู้รวบรวมข้อมูล ทั้งนี้เพื่อเปิดโปงความจริงให้ประชาชนทราบ ในประเด็นหลัก4ประเด็นดังกล่าว เพราะมิเช่นนั้นรัฐบาลก็จะไม่สนใจประชาชนอีก สมกับที่เขาพูดกันว่ารัฐบาลชุดนี้ “ปัญหาบ้านเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่ล้างผิด คิดแต่เรื่องพี่ หลีกหนีประชาชน”

แจงให้มะกันใช้อู่ตะเภาไม่เกี่ยวแลกวีซ่า “แม้ว”


วันนี้ ( 10 มิ.ย.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่นายกษิต ภิรมย์  อดีตรมว.ต่างประเทศ สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ข้องใจการดำเนินงานของรัฐบาล ที่ไม่ชี้แจงประเด็นความร่วมมือไทย-สหรัฐกรณีที่ไทยเปิดให้ทางสหรัฐใช้ พื้นที่ของสนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์บรรเทาสาธารณภัยและความช่วยเหลือด้าน มนุษยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และองค์การนาซ่าขอใช้พื้นที่ เพื่อจอดอากาศยานและขึ้นทำการบินตรวจสภาพอากาศ  ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องความลับ ว่า ความจริงนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้แล้วว่า องค์การนาซ่าได้มีหนังสือขอตั้งฐานปฏิบัติการในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทย โดยเริ่มต้นสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลชุดนี้ และกระทรวงการต่างประเทศได้ยื่นเสนอเรื่องต่อที่ประชุมครม. เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านแล้ว ซึ่งทางกระทรวงมองว่าเรื่องนี้ ไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะการตั้งฐานปฏิบัติการ ต้องการถ่ายภาพจากดาวเทียมเพื่อตรวจดูความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศใน ภูมิภาคนี้ และเป็นความร่วมมือ ป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น และไทยก็ได้ประโยชน์
"ต้องขอขอบคุณนายกษิต ที่กล้าพูดสวนทางกับนายอภิสิทธิ์ ที่ก่อนหน้านี้กล่าวหาว่าความร่วมมือระหว่างไทย-สหรัฐฯครั้งนี้ ดำเนินการเพื่อแลกกับวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประเด็นดังกล่าวจึงเป็นความเข้าใจผิด รัฐบาลสหรัฐฯเป็นรัฐบาลที่มีศักดิ์ศรี เคารพกฎหมาย เชื่อว่าคงไม่เห็นแก่ประโยชน์เล็กน้อย เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าบางครั้งคนที่พูดทุกเรื่องไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เพราะแม้แต่นายกษิต ยังกล้าหักต้นสังกัดเดิมของตัวเองคือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย"นายอนุสรณ์ กล่าว นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการต่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เปราะบาง และหลายครั้งถูกลากโยงมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะปลุกระดมแล้วจุดติดง่าย เช่นเดียวกับ การดำเนินการของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ต่อกรณีคดีปราสาทพระวิหาร เป็นการทำงานต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ใช้ทีมทนายและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายชุดเดิมที่รัฐบาลที่แล้วตั้ง อย่างไรก็ตามในกรณีนี้รัฐบาลน้อมรับคำแนะนำที่หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงกับประชาชนให้เข้าใจว่า ถือเป็นความจำเป็นที่ต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ แต่บางเรื่องอาจต้องรอให้กรอบการดำเนินการตกผลึกเสียก่อน และยังมีประเด็นข้อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงมารยามทางการทูต จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมดในเวลานี้ แต่ที่สุดทุกภาคส่วนต้องมีสิทธิ์ได้รับรู้ แต่เบื้องต้นไม่มีอะไรที่ไทยเสียประโยชน์และไม่กระทบกับความสัมพันธ์กับ ประเทศใดๆในภูมิภาคแน่นอน.

“สุกำพล” เผย “ประยุทธ์” สายตรงโทร.เคลียร์ข่าวลือปฏิวัติ เชื่อใจไม่ทำ


วันนี้(  10 มิ.ย.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง หลังจากที่มีกลุ่มคนเสื้อแดง-เสื้อเหลืองออกเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า ถ้าเราจะทำอะไรแล้วมานั่งกลัว หวาดระแวงก็คงไปไม่รอด ดังนั้นจะต้องตัดสินใจ หรือถ้าเราคิดว่าทำสิ่งนี้แล้วถูกต้องเพื่อไปสู่จุดเป้าหมาย ทำแล้วประเทศเกิดความสว่าง และสดใส หรือทำในสิ่งที่ดีก็ต้องเดินหน้าอย่างเต็มที่ อย่าไปกลัว นั่นคือสิ่งที่เป็นขวากหนาม ถ้ามาเป็นอยู่แบบนี้ก็คงไม่ไหวกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะมองอย่างไร ทั้งนี้จะต้องดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้จบลงก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง ส่วนกองทัพเพียงติดตามสถานการณ์ความมั่นคง เรื่องการเมืองกองทัพไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตนไม่เก่งในเรื่องการเมือง          พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวต่อว่า  เรื่องการปรองดองของคนในชาติจะต้องดำเนินการต่อไปนี้ ซึ่งเรื่องการปรองดองทุกฝ่ายจะต้องยอมรับกัน เหมือนกับตนที่มาคุมกระทรวงกลาโหม ก็มีคนมองว่าเมื่อตนเข้ามารับตำแหน่งก็จะต้องมาย้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผบ.ทบ. ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้ย้ายใครเลย เพราะมองว่าสิ่งที่ผ่านมาก็ต้องให้มันผ่านไป ไม่เคยมีใบสั่งหรือมีการส่งสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี            เมื่อถามว่าถึงเวลานี้มั่นใจหรือไม่ว่าจะยังสามารถควบคุมกองทัพ ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ โดยเฉพาะการปฏิวัติ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องปฏิวัติตนอยากถามว่าใครอยากปฏิวัติ เพราะมันทำกันไม่ได้ง่าย ๆ  คนที่ให้ตนมาดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหมมั่นใจว่าตนสามารถควบคุมกองทัพได้ ดังนั้นก็จะต้องปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดความมั่นใจของคนที่มาให้ทำงานใน หน้าที่นี้            “ผบ.ทบ.ได้โทรศัพท์มาพูดคุย และบอกว่าตอนนี้มีข่าวลือเยอะเหลือเกิน ว่าทหารจะปฏิวัติ หรือ เตรียมการที่จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ในใจของผบ.ทบ. ไม่มีอย่างข่าวที่ลือกัน ซึ่งผมก็เข้าใจกัน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาผมไม่เคยถาม ผบ.เหล่าทัพ เกี่ยวกับข่าวลือที่เกิดขึ้นเลย ตอนนี้ผบ.เหล่าทัพ โทรมาหาและรายงานให้ทราบเอง พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าผมสงสัยอะไรกับเหตุการณ์ปฏิวัติก็ให้โทรมาถาม แต่ผมบอกว่าจะโทรไปทำไมในเมื่อไม่มีอะไร ” พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว         พล.อ.สุกำพล กล่าวอีกว่า เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองมันเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้แล้ว และพรรคเพื่อไทยก็ชนะการเลือกตั้งมาอย่างตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เติบโตขึ้นมาเป็นผบ.ทบ.จึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จะกลับไปทางพรรคประชาธิปัตย์หรือ ทั้งๆ ที่รู้ว่าคนเก่ามันไม่เข้าท่าแล้ว และคนไม่เอาแล้ว ยังจะกลับไปอีกหรือ ดังนั้นจะต้องกลับมาช่วยรัฐบาลชุดนี้ ผบ.ทบ.รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ควรทำอย่างไร ต้องเปรียบเทียบให้เห็นว่า เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนั้นกับตอนนี้เป็นอย่างไร เราไม่ได้ไปสั่งแบบไม่เข้าท่าเข้าทาง เราไม่ได้ไปอะไรมาก เพียงแต่รู้หน้าที่ซึ่งกันและกัน            เมื่อถามว่า การแก้ไขปัญหาบ้านเมืองจะต้องสภาฯเท่านั้นใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า มันจะต้องแก้ไขด้วยสภาฯอย่างเดียว ทหารแก้ไขไม่ได้หรอก การปฏิวัติแค่ทหารเปลี่ยนจากขั้วนั้นมาเป็นขั้วนี้ หรือไม่ทหารก็เอาเอง มันมีอยู่แค่นั้น เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังระแวงกับเหตุการณ์ปฏิวัติอยู่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ไกล ข้อมูลที่จะรับรู้เรื่องปฏิวัติน้อยมาก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะต้องฟังข้อมูลจากทางนี้  เมื่อเราให้ความมั่นใจทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สบายใจ ทั้งนี้ตนยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้าง เพราะเขาก็ไม่สบายใจกับสถานการณ์บ้านเมือง .

"สุริยะใส"เชื่อ"รัฐ"ปะทะ "ศาลรธน."แค่ยกแรก


วันนี้ ( 10 มิ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล้่วถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างสภาฯโดยพรรคเพื่อไทยกับศาลรัฐธรรมนูญในขณะ นี้ว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากเป็นพิเศษ เพราะพรรคเพื่อไทยพยายามใช้เสียงข้างมากในสภาฯ ทำทุกวิถีทางในการสถาปนาอำนาจเดี่ยวอีกครั้งหนึ่ง จึงพยายามที่จะขัดขืนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ชะลอการลงมติ ในวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อน นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังใช้มวลชนเสื้อแดงซึ่งเป็นมวลชนของพรรคทำลายความน่า เชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญสารพัดวิธี ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยเล่มเกมยื้อไม่ลงมติวาระ 3 ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่อาจจะลงมติในที่ประชุมนัดพิเศษวันที่12มิ.ยนี้หรือถ้าที่ประชุมรัฐสภายอม ถอยรับคำสั่งศาลแต่ก็แค่ยอมในยกแรก พอถึงขั้นตอนการร่างรัฐธรรมนูญเชื่อแน่ว่าจะมีการลดทอนอำนาจของศาลรัฐ ธรรมนูญหรือออกแบบให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงได้มากขึ้น        
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่ามีประเด็นที่น่าตั้งข้อสังเกตในขณะนี้การปลุก กระแสไม่รับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยและ นปช.ลุกลามไปถึงขั้นการท้าทายอำนาจตุลาการทั้งระบบ โดยพยายามสร้างและให้ความหมายที่บิดเบือนของคำว่าตุลาการภิวัฒน์ ว่าเป็นเพียงเครื่องมือของอำมาตย์กลั่นแกล้งเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การปลุกกระแสคนเสื้อแดงเผชิญหน้ากับอำนาจตุลาการครั้งนี้  รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐบาล อย่างนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ข้าราชการการเมืองของพรรค และ สส.พรรคเพื่อไทย หลายคนไปขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีศาลรัฐธรรมนูญอย่างเปิดเผย จึงเท่ากับว่าฝ่ายบริหารโดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังเผชิญหน้ากับฝ่ายตุลาการ โดยตรง         
"นี่เป็นแค่ยกแรกของการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายบริหารกับตุลาการเพราะปลาย ทางของพ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายคือการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่หวังไปยกเลิกคำพิพากษาของศาล และนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณถือเป็นปลายทางที่แท้จริง เพราะหากในยกแรกพรรคเพื่อไทยเพลี่ยงพล้ำก็จะทำให้ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองชะตาขาดไปด้วย โอกาสได้กลับบ้านอย่างเท่ห์ๆ ก็หมดสิทธิ์ จึงต้องสร้างกระแสกดดันอำนาจตุลาการหรือศาลเพื่อเปิดทาง ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเพื่อทักษิณ  ความขัดแย้งในประเด็นที่อ่อนไหวแบบนี้น่าเป็นห่วงเพราะเป็นการสร้างเงื่อนไข ให้เกิดการรัฐประหาร ถ้าคนเสื้อแดงเกลียดกลัวการรัฐประหารและเป็นนักประชาธิปไตยจริงต้องไม่สร้าง เงื่อนไขแบบนี้และก็ต้องต่อต้านอำนาจนักการเมืองที่พยายามแทรกแซงและอยู่ เหนืออำนาจตุลาการเช่นกัน"นายสุริยะใส กล่าว.  

"มาร์ค"ซัดพท.ใช้กลยุทธ์สร้างเรื่องยื่นยุบปชป.


วันนี้(10มิ.ย.)ที่ชั้น 8 อาคารบางกอกทาวเวอร์ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย ชาแนล ได้จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อเปิดตัวสถานีอย่างเป็นทางการ โดยมีนักการเมือง โดยเฉพาะแกนนำ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และ ประชาชนทยอยเดินทางมาแสดงความยินดี อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชวน หลีกภัย ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. โดยมีนายวิทเยนตร์ มุตตามาระ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ ผู้อำนวยการสถานี คอยให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมแสดงความยินดีด้วย
โดยนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวระหว่างการเข้าแสดงความยินดี ว่า สถานีบลูสกายไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ และตนเป็นเพียงแขกรับ เชิญในการเข้าร่วมรายการเป็นประจำเท่านั้น ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึง แนวโน้มในการลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ในการประชุมรัฐสภา ว่า ไม่ควรมีการลงมติดังกลา่ว เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าและเกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง และขอให้ นายกรัฐมนตรีและครม. ต้องเร่งตราพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมสภา และเมื่อมีการเปิดสมัยประชุมสภาครั้งหน้าศาลรัฐธรรมนูญก็ว่าจะพิจารณาเรื่อง นี้เรียบร้อยแล้ว และในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ผ่านมา เห็นได้ว่า การปิดประชุมไม่ราบรื่นประธานรัฐสภาถูกกดดันจากพรรคเพื่อไทยบางส่วนที่จะให้ ลงมติอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งน่าจะมีปัญหา เพราะวาระในการพิจารณาเป็นเพียงแค่การรับทราบเท่านั้น รัฐสภาไม่มีอำนาจในการลงมติ ว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับการว่าจะทำตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากการประชุมรัฐสภาครั้งหน้ามีการดึงดันให้มีการลงมติร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 พรรคประชาธิปัตย์ก็ขอยืนยันว่าจะไม่ร่วมลงมติ เพราะถือว่าคำสั่งศาลยังมี อยู่ ส่วนจะเกิดความรุนแรงกลางสภารอบที่ 3หรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยความปรองดองนั้น ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการพิจารณาเมื่อใด แต่ยืนยันว่าไม่ควรมี เพราะยังไม่มีความจำเป็น ตนอยากให้รัฐบาลและสภา ไปตั้งหลักอะไรที่มีความจำเป็นเร่งด่วนกับการบริหารงานก็ควรนำเข้ามาพิจารณา ก่อนเช่น กฎหมายฟอกเงิน นอกจากนี้ ในหลายพื้นที่เริ่มประสบภัยพิบัติน้ำท่วมควรปิดสมัยประชุมสภา เพื่อให้ส.ส. ได้ลงพื้นที่ เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวการระดมเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานฯเข้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อ แดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งมีคำสั่งออกมา ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องชี้แจงต่อข้อถามว่าขณะนี้พรรค เพื่อไทยเดินเกมจะยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์ในข้อหาปลุกระดมมวลชน นาย อภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับบทบัญญัติเรื่องการยุบพรรคแต่กลับเป็น กลุ่มที่ยื่นยุบพรรคบ่อยที่สุดพรรคเพื่อไทยจะใช้วิธีการอย่างนี้ในการพยายาม ทำให้เกิดเรื่องการคดีแต่เมื่อเรื่องไม่มีมูลก็จะโวยวายว่าสองมาตรฐานถือว่า เป็นกลยุทธ์ของเขา.

“สุเทพ”อ้อนคนกรุงลุกขึ้นสู้ ปกป้องประเทศ


วันนี้ (10 มิ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีตอนหนึ่ง ว่า  ขณะนี้มีความพยายามที่จะต่อต้านระบบศาล โดยในวันนี้ขอมาบอกกับพี่น้องประชาชนชาวกทม. ว่าเราทำหน้าที่อยู่ในสภาเหลือบ่ากว่าแรงแล้ว ยกทั้งมือทั้งเท้าก็ยังไม่สามารถเอาชนะเสียงในสภาได้ จึงอยากขอร้องให้พี่น้องทุกชนชั้นอาชีพขอให้ช่วยพวกเราในเรื่องการปกป้อง ประเทศ รักษาระบบนิติรัฐนิติธรรมขอให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กันอย่ายอมจำนนกับพวกที่ผิด พวกที่เคยเผาบ้านเผาเมืองจับคนกทม. เป็นตัวประกันเมื่อปี 52-53 นั้น เราอย่าไปยอมเขาอีก และตนจะต่อสู้จะไม่ยอมแพ้จะรักษาบ้านเมืองไว้ให้กับลูกหลานสืบต่อไป

“ขอประกาศว่าการจัดเวทีครั้งนี้ผมเป็นคนดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งเป็นนักการเมืองที่อยู่เบื้องหน้าไม่ได้อยู่เบื้องหลัง ใครจะดำเนินคดีอะไร ให้มาดำเนินคดีกับผมได้โดยตรง ไม่ต้องไปผ่านคนอื่น ภรรยาบอกไว้แล้วว่าจะส่งข้าวห่อให้ทุกมื้อ” นายสุเทพ กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายสุเทพ กล่าวปราศรัยเสร็จ  3 พิธีกรรายการสายล่อฟ้า ได้ขึ้นจัดรายการสดบนเวทีสร้างความครึกครื้นให้กับแฟนคลับที่มารับฟังการปรา ศัยอย่างยิ่ง. 

“มาร์ค” ยันต่อต้านกฎหมายล้างผิดแต่ไม่คิดล้มรัฐบาล


วันนี้ ( 10 มิ.ย.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที“เดินหน้าผ่าความจริง หยุดล้มรัฐธรรมนูญ-ออกกฎหมายล้างผิดคนโกง ครั้งที่ 2” เป็นคนสุดท้าย โดยกล่าวถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะต่อสู้เพื่อความถูกต้องของบ้าน เมือง และต่อต้านกฎหมายล้างผิด แต่ไม่ได้คิดล้มล้างรัฐบาล ดังนั้นใครมีเจตนารมณ์เดียวกันก็ขอให้ออกมาร่วมด้วยช่วยกันกับพรรคประชาธิ ปัตย์ ให้รัฐบาลกลับใจ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังเชื่อว่ามีประชาชนอีกมากยังไม่ทราบว่าจุดหมายที่แท้ จริงของรัฐบาลคืออะไร ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนที่มาในวันนี้ช่วยกันถ่ายทอดให้ประชาชนที่เลือกพวกเขา เข้ามาเป็นรัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลเพื่อประชาชน ไม่ใช่เป็นรัฐบาลเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากและขอให้จับตาว่าในวันที่ 13-14 มิ.ย.ที่ประธานรัฐสภาแจ้งว่าจะมีการประชุมรัฐสภาได้บรรจุวาระเรื่องกฎหมาย ต่างๆ แต่ไม่ปรากฏกฎหมาย 4 ฉบับอยู่ในวาระ ทำให้เข้าใจได้ว่ารัฐบาลถอยแล้ว แต่ความเป็นจริงในวันดังกล่าวเชื่อว่าจะต้องมีคนทวงถามถึงร่าง พ.ร.บ. 4 ฉบับว่าหายไปไหน และให้นำกลับมาดำเนินการต่ออีกครั้งจนสำเร็จ
ผู้สื่อข่าว รายงานว่าในระหว่างการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงที่นายชวนขึ้น ปราศรัยปรากฏว่ามีฝนโปรยปรายลงมา แต่ประชาชนก็กางร่มและใส่เสื้อกันฝนนั่งฟังต่อไปจนจบ มีเพียงบางส่วนที่เดินทางกลับออกไปจากพื้นที่ปราศรัย.

สุดมันกระทิงดุแลกหมัดไล่เจ๊าอัซซูรี


เกมแลกกันสนุกแต่ยัง0-0
ศึกฟุตบอลยูโร 2012 รอบสุดท้าย ที่โปแลนด์ และยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มิ.ย. ในกลุ่ม C คู่แรก ที่สนามอารีนา กดานส์ค เมืองกดานส์ค ประเทศโปแลนด์ เป็นเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ระหว่าง "กระทิงดุ" สเปน ทีมเต็งจ๋าของการแข่งขันครั้งนี้ พบกับ "อัซซูรี" อิตาลี โดยเกมนี้ สเปน สร้างเซอร์ไพร้ส์ ด้วยการจัด 11 ตัวจริงไม่มีรายชื่อของศูนย์หน้าอยู่ในทีมเลย อัดกองกลางลงสนามไป 6 คน ส่วน อิตาลี ตัดสินใจถอย ดานิเล เด รอสซี จากมิดฟิลด์ลงไปเล่นเป็นกองหลัง เกมช่วง 15 นาทีแรก สเปน ได้ลุ้นประตูจาก ดาบิด ซิลบา 2 ครั้ง ขณะที่ อิตาลี ได้ลุ้นจาก มาริโอ บาโลเตลลี กับ อันเดรีย ปิร์โล แต่ยังไม่มีสกอร์ นาที 23 อิตาลี ได้โอกาสทอง อันโตนิโอ คาสซาโน หลุดเข้าไปในกรอบโทษ แต่ยิงหักข้อบอลหลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย นาที 30 สเปน ได้ลุ้นจากการยิงไกลของ อันเดรส อิเนียสตา แต่ จิอันลุยจิ บุฟฟอน ล้มตัวเซฟไว้ได้ นาที 34 คาสซาโน พาบอลลากเลื้อยเข้าไปยิง ทว่า อิเคร์ กาซิยาส ปัดบอลทิ้งพ้นอันตรายได้เช่นกัน อีก 2 นาทีต่อมา มะกะโรนีได้เสียวอีกรอบ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ได้วอลเลย์เต็มแรง ดีที่ตรงตัว กาซิยาส นาที 44 สเปน เกือบขึ้นนำ อิเนียสตา ได้บอลในกรอบโทษ แต่ซัดข้ามคานไปไกล ช่วงทดเจ็บ ติอาโก มอตตา ขึ้นโหม่งไม่ผ่านมือ กาซิยาส ที่วันนี้เหนียวหนึบเป็นมือปลาหมึก ครบ 45 นาทีแรก ยังเจ๊ากัน 0-0
สเปนไล่เจ๊าอิตาลีแบ่งแต้มกัน
เข้าสู่ครึ่งหลัง สเปน เริ่มครองเกมเหนือกว่า และได้ลุ้นก่อนจากจังหวะยิงของ เชส ฟาเบรกาส แต่ บุฟฟอน พุ่งเซฟได้สวย นาที 51 กระทิงดุน่าได้ประตูนำสุด ๆ อิเนียสตา สบโอกาสซัดเต็มข้อมุมแคบ แต่บอลหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว เกมย่างเข้าสู่นาที 61 กลายเป็น อิตาลี ที่ขึ้นนำไปก่อนจากการยิงของตัวสำรอง อันโตนิโอ ดิ นาตาเล ที่ลงมาแทน บาโลเตลลี ทว่า อีก 3 นาทีถัดมา สเปน ตามตีเสมอได้ทันควันจาก ฟาเบรกาส ท้ายเกม นาที 75 เฟอร์นันโด ตอร์เรส ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมา ได้บอลหลุดเดียวเข้าไปดวลกับ บุฟฟอน แต่เลี้ยงไม่ผ่านโกลจอมหนึบของอิตาลี จากนั้นอีก 2 นาทีต่อมา เป็นมะกะโรนีที่ได้โอกาสทอง เมื่อ ดิ นาตาเล ได้กระโดดเอี้ยวตัววอลเลย์เต็ม ๆ ในกรอบโทษชนิดไม่มีคนคุม แต่ซัดไม่ตรงกรอบ นาที 85 ตอร์เรส พลาดโอกาสสำคัญที่จะทำให้ สเปน ขึ้นนำ เมื่อได้โอกาสชิพบอลข้ามหัว บุฟฟอน แต่โด่งข้ามคานไปนิดเดียว ก่อนหมดเวลานาทีเดียว อัซซูรีได้ลุ้นบ้างจาก มาร์คิซิโอ ที่ยิงในกรอบโทษไปตรงตัว กาซิยาส อย่างน่าเสียดาย ครบ 90 นาที เสมอกันไป 1-1 ในเกมที่แลกหมัดกันอย่างสนุกตื่นเต้น มีโอกาสจบสกอร์มากมาย.

รวบแล้ว“ซาเล้ง”โรคจิตฉีดสารเคมีใส่หญิงสาว


จากเหตุการณ์เขย่าขวัญประชาชน ไอ้โรคจิตออกอาละวาดไล่ฉีดน้ำยาเคมี ซึ่งคาดว่าเป็นน้ำกรดใส่เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายตามท้องถนน รวม 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นหญิงสาว จนได้รับบาดเจ็บตามใบหน้าและร่างกาย เหตุเกิดหลายวันต่อเนื่องกัน ในหลายท้องที่ของ บช.น.ได้แก่ สน.บางซื่อ ,สุทธิสาร ,พหลโยธิน และลุมพินี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เร่งตามล่าภัยสังคมรายนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว

ความคืบหน้าวันนี้ ( 10 มิ.ย.)  ที่ สน.สุทธิสาร พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.สุทธิสาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายราชัน ธีรกิจนุกูล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193/127 แขวงและเขตดอนเมือง อาชีพขี่รถซาเล้งเก็บของเก่า คนร้ายที่ก่อเหตุฉีดสารเคมีใส่หญิงสาว จับกุมได้ที่ปากซอยอินทามระ 59 ถนนอินทามระ ย่านสะพานควาย พล.ต.ต.สำเริง เปิดเผยว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุแค่ครั้งเดียว ที่ย่านสะพานควาย แต่คาดว่าผู้ต้องหาอาจมีปัญหาทางจิต มีการระบายความอัดอั้นตันใจที่เกิดมาจน และต่อว่ารัฐบาลด้วยถ้อยคำรุนแรง เขียนลงบนกระดาษแล้วติดไว้ที่กลางหลังของตัวเอง แล้วขี่ตระเวนเก็บของเก่าไปทั่ว ส่วนสารเคมีที่คนร้ายใช้อาจเป็นแค่โซดาไฟ ไม่ใช่น้ำกรดที่สันนิษฐานแต่แรก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องหาก่อเหตุแค่ครั้งเดียว ซึ่งจะได้สอบสวนต่อไป

“สำหรับเบาะแสที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตามจับคนร้ายรายนี้ได้มาจากภาพใน กล้องวงจรปิดที่คนร้ายกำลังขี่ซาเล้ง ที่ติดไฟหน้าขนาดใหญ่ 2 ดวง ซึ่งแปลกไปจากซาเล้งทั่วไป เมื่อทีมสืบสวนออกล่าตัว ก็ตามจับได้ไม่ยาก”ผบก.น.2 เผยที่มาที่ไป

ระหว่างนั้นได้มีผู้เสียหาย 2 คน เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก คือนายมีชัย เจริญศักดิ์ และน.ส.จันทร์จิรา บุญประเสริฐ อายุ 22 ปีเท่ากัน นายมีชัยให้การว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 4 มิ.ย.พวกตนกำลังจะไปเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขะบูชาที่วัดลาดพร้าว ขณะเดินผ่านมาถึงปากซอยลาดพร้าว 26 รู้สึกเหมือนมีน้ำกระเซ็นมาถูกตามร่างกาย สักพักก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนจึงรีบพากันไปหาหมอ.

โครแอตฟอร์มหรูไล่อัดยักษ์เขียว3-1


ศึกฟุตบอลยูโร 2012 เมื่อ 10 มิ.ย. ในกลุ่ม C คู่ที่ 2 ที่สนามมูนิชิปัล สเตเดี้ยม เมืองพอชนัน ประเทศโปแลนด์ เป็นแมตช์ระหว่าง โครเอเชีย พบกับ ไอร์แลนด์ เปิดฉากการแข่งขันได้แค่ 3 นาที "ตาหมากรุก" ขึ้นนำเร็วจากการโขกของ มาริโอ มันด์ซูคิช แต่นาที 19 "ยักษ์เขียว" ตามตีเจ๊าได้จากลูกโหม่งของ เซนต์ เลดเจอร์ ท้ายครึ่งแรก นาที 43 โครเอเชีย ขึ้นนำอีกครั้งจาก นิกิตา เยลาวิช ดาวยิงสโมสรเอฟเวอร์ตัน หมดครึ่งแรก โครเอเชีย นำ ไอร์แลนด์ 2-1
ครึ่งหลังเริ่มแข่งไปได้ 4 นาที โครเอเชีย มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 จากการโหม่งของผู้ทำประตูแรก มันด์ซูคิช ที่บอลพุ่งไปชนเสาแล้วกระเด้งกลับมากระดอนหัวของ เชย์ กิฟเวน โกลยักษ์เขียว เข้าประตูไป ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน โครเอเชีย ชนะ ไอร์แลนด์ 3-1 คว้าสามแต้มเต็มประเดิมบอลยูโร2012 ได้อย่างสวยสดงดงาม

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources