วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555

หนุ่มอุดรฯแสบ ซุกยาบ้าใส่สบู่เหินฟ้าขายอิสราเอล



วันนี้ (8 เม.ย.) พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกณัฐนันท์ นานาสมบัติ ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายวีระภัทร์ อินทร์จร อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี  พร้อมด้วยของกลางยาบ้าที่ซุกซ่อนอยู่ในก้อนสบู่ตรานกแก้วและขวดเนสกาแฟ 8,000 เม็ดมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท โดยจับกุมได้ภายในอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในขณะที่นายวีระภัทร์ กำลังจะเดินทางขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไปยังประเทศอิสราเอล
สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษของวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติดประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายการบิน อัลเอล อิสราเอล แอร์ไลน์  ซึ่งเตรียมเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปยังประเทศอิสราเอล  ว่าระหว่างที่นำกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารเข้าเครื่องเอ็กซเรย์  ได้พบวัตถุต้องสงสัยอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางสีดำของนายวีระภัทร์  คาดว่าน่าจะเป็นยาเสพติด จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยภายในกระเป๋าใบดังกล่าว เมื่อตรวจสอบพบเป็นยาเสพติด จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว
จากการสอบสวนนายวีระภัทร์ ให้การรับสารภาพว่า กระเป๋าเดินทางและยาเสพติดที่พบเป็นของตนจริงโดยรับยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาจากเอเย่นต์รายหนึ่งในจังหวัดอุดร เพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่แรงงานในประเทศอิสราเอล โดยรับมาในราคาเม็ดละ 120 บาท และเอาไปจำหน่ายที่ประเทศอิสราเอลในราคาเม็ดละ 200 ซิงเกิล คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,400บาท ต่อเม็ด และยังให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้วหลายครั้ง   ในครั้งนี้คิดว่าจะทำเป็นครั้งสุดท้ายแต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ไฟไหม้ห้องพักย่านข้าวสารหนุ่มฝรั่งเศสไฟคลอกดับอนาถไฟไหม้ห้องพักย่านข้าวสารหนุ่มฝรั่งเศสไฟคลอกดับอนาถไฟไหม้ห้องพักย่านข้าวสารหนุ่มฝรั่งเศสไฟคลอกดับอนาถไฟไหม้ห้องพักย่านข้าวสารหนุ่มฝรั่งเศสไฟคลอกดับอนาถไฟไหม้ห้องพักย่านข้าวสารหนุ่มฝรั่งเศสไฟคลอกดับอนาถไฟไหม้ห้องพักย่านข้าวสารหนุ่มฝรั่งเศสไฟคลอกดับอนาถไฟไหม้ห้องพักย่านข้าวสารหนุ่มฝรั่งเศสไฟคลอกดับอนาถไฟไหม้ห้องพักย่านข้าวสารหนุ่มฝรั่งเศสไฟคลอกดับอนาถ


นักท่องเที่ยวตื่นไฟไหม้ห้องพักย่านข้าวสารกลางดึก เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำกว่าครึ่งชั่วโมงเพลิงสงบ ก่อนพบศพหนุ่มฝรั่งเศสไฟคลอกดับอนาถ ส่วนสาเหตุคาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 9 เม.ย. ร.ต.อ.ชาญชัย จังวัง พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ภายในซอยรามบุตรี ตรงข้ามโรงแรมเวียงใต้ ถ.รามบุตรี แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวน 10 คัน
 
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นปลูกติดกันจำนวน 6 คูหา เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันและแสงเพลิงพวยพุ่งออกมาจากชั้น 1 ของห้องเลขที่ 90/12 ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารชื่อแฮปปี้บาร์ โดยมีชาวไทยและชาวต่างชาติแตกตื่นหนีตายอลหม่าน เจ้าหน้าที่จึงรีบทำการดับเพลิง แต่เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นซอยคับแคบ ทำให้รถน้ำขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องนำรถดับเพลิงไปจอดบริเวณหน้าร้านซิลบาร์ ก่อนระดมฉีดน้ำ และมีการลากสายดับเพลิงขึ้นไปตามอาคารสูงบนถนนข้าวสารเพื่อควบคุมเพลิง ก่อนใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบ เบื้องต้นพบห้องถูกเพลิงไหม้จำนวน 3 คูหา และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย อยู่ที่ชั้น 3 ทราบชื่อต่อมา คือ นายชาลี ชาวฝรั่งเศส อายุประมาณ 26 ปี โดยสภาพศพถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโก
 
นายนำพงศ์ เพ่งบุญ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/57 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าของร้านให้การว่า ร้านของตนเปิดมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุไม่ได้เปิดร้านเนื่องจากร้านปิด 2 วัน เพราะอยู่ในช่วงพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ราชสุดาศิริโสภาพัณณวดี ตนจึงถือโอกาสนี้เดินทางไปเยี่ยมมารดาที่ย่านรังสิต โดยที่ร้านจะมีลูกจ้างพักอาศัยรวมอยู่กับนักท่องเที่ยวอยู่ที่ชั้นบนจำนวน 5 คน พอทราบข่าวก็รีบเดินทางกลับมา สำหรับนายชาลีที่เสียชีวิตได้เดินทางเข้าออกเมืองไทยหลายครั้ง โดยมีแฟนเป็นคนไทย และพักที่อยู่บริเวณชั้น 3 ทำอาชีพเย็บรองเท้าหนังแฮนด์แมดจำหน่ายที่อยู่ที่ย่านข้าวสาร
 
“ตนได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องในร้านที่นอนอยู่ชั้นบนบอกว่า ไฟไหม้ร้านหมดแล้ว เริ่มไหม้ตั้งแต่ชั้นล่างและลุกลามไปยังชั้นบนและห้องข้างเคียง พวกตนวิ่งหนีตายมาได้ แต่ไม่เห็นนายชาลี พอเพลิงสงบก็พบว่านายชาลีเสียชีวิตแล้ว” เจ้าของร้าน กล่าว
 
ร.ต.อ.ชาญชัย กล่าวว่า เบื้องต้นต้องรอเจ้าหน้าที่ พฐ. ทำการตรวจสอบศพว่า ใช่ชาวต่างชาติที่ชื่อนายชาลีหรือเปล่า เนื่องจากสภาพศพไหม้เกรียม ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้และต้นเพลิงต้องรอทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ล็อคตัวมือถล่มเก๋งพรุนคาน้ำตกสาริกา


ตำรวจตามล็อคตัวมือยิงเก๋งพรุนคาน้ำตกสาริกา หลังได้เบาะแสไปมั่วสุมเพื่อนโจ๋ เร่งลากตัวที่เหลืออีกกว่า 10 คนมาร่วมเข้าซังเต
จากกรณีวัยรุ่นนับสิบคนซิ่งรถจยย.ไล่ยิงกันกลางซอยเทอดไทย 19 (เชื่อมต่อซอยตากสิน 4) ถนนเทอดไทย แขวงบางยี่เรือ กทม.เป็นเหตุให้รถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีแดง หมายเลขทะเบียน ฌธ 6409 กรุงเทพมหานคร ของชาวบ้านขับผ่านมาถูกลูกหลงกระสุนปืนขนาด 9 มม.จนพรุน นับได้รวม 18 นัด ตำรวจเก็บรวบรวมปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ได้มากถึง 37 ปลอก โดยเจ้าของรถได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ช่วงเช้าตรู่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา
 
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.20 น.วันนี้ ( 9 เม.ย.)  ที่สน.บางยี่เรือ พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี โดยมี พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล สว.สส.สน.บางยี่เรือ สรุปความคืบหน้าด้านการสืบสวน สอบปากคำพยาน ตลอดจนการรวบรวมพยานหลักฐานให้ทราบใช้เวลาประมาณ 30 นาที พ.ต.อ.จีรศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดของบ้านพักใกล้เคียงจุดเกิดเหตุสามารถจับภาพคนร้ายแก๊งวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุเอาไว้ได้  12 คน ใช้รถ จยย.ที่เป็นยานพาหนะขับขี่และซ้อนท้ายกันมารวม 6 คัน ระหว่างชักปืนยิงใส่คู่อริซึ่งหลบอยู่หลังรถเก๋งของผู้เสียหายนั้นใช้เวลาเพียง 10 วินาที ก่อนจะพากันขับรถเร่งเครื่องหลบหนี

 “สำหรับเรื่องอาวุธปืนที่มีพยานเห็นว่าคล้ายกับปืนกลอูซี่นั้น จากการแกะรอยของ สว.สส.สน.บางยี่เรือ ทราบว่าไม่ใช่ปืนกลอูซี่ แต่เป็นปืนพกสั้น 9 มม. 2 กระบอก กระบอกแรกเป็นอาวุธที่ดัดแปลงเอาแมกกาซีนยาวขนาดบรรจุ 30 นัดมาใช้ ส่วนอีกกระบอกขนาด 9 มม.ธรรมดา แต่เมื่อนำมาใช้ก่อเหตุร่วมกันเสียงจึงฟังดูคล้ายปืนกลเพราะสามารถยิงต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนแมกกาซีน สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 12 คนนั้นล้วนเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ตำรวจทราบที่อยู่ทั้งหมดแล้วอยู่ระหว่างติดตามไปจับกุมตัวมาดำเนินคดีข้อหายิงปืนในที่สาธารณะเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหายและถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนหากพบความผิดมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป” พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าว 

ทั้งนี้ช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ต.ต.กฤษฏา  นุ่มนวล สว.สส.บกน.8 พร้อมด้วยกำลังจำนวนหนึ่งรับคำสั่งจากพ.ต.อ.พรชัย  ชะลอเดช  ผกก.สส.บกน.8ให้มาประสานกับ พล.ต.ต.อุฬาร  อเนกบุณย์  ผบก.ภ.จว.นครนายก  หลังจากที่สืบทราบมาว่าแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ได้หลบหนีมาแอบซ่อนตัวอยู่ที่รีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งที่ ต.สาริกา  อ.เมืองนครนายก ทางพล.ต.ต.อุฬาร จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประเสริฐ  เชิดชู  สวป.สภ.เมืองนครนายก  นำกำลังเข้าสบทบและได้เข้าปิดล้อมรีสอร์ทดังกล่าวจู่โจมจับกุมตัวได้ทั้งหมด 11 คนเป็นชาย 8 คนและหญิง 3 คน พร้อมรถปิกอัฟป้ายแดงยี่ห้ออีซูซุสีบรอนซ์เงิน  ทะเบียน ค-9233กรุงเทพฯกับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าสีขาว ทะเบียน ธห-8387กรุงเทพฯ 

เมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวนวัยรุ่นทั้งหมดผลปรากฏว่า นายธวัชชัย หรือตี๋ แซ่ตั้ง อายุ 26 ปี ยอมรับสารภาพว่า อยู่ในกลุ่มคนร้ายที่ยิงถล่มรถผู้เสียหายจริง โดยใช้ปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยิงใส่รถฮอนด้าแจ๊ส จนหมดโม่ 6 นัด นอกจากนี้ยังมีเพื่อนอีก 2 คน ทราบเพียงชื่อเล่นคือ นายเบียร์ และ นายกอล์ฟ อายุประมาณ 20 ปี ใช้ปืนขนาด 9 มม.คนละกระบอกร่วมกันยิงใส่รถผู้เสียหายด้วย แต่ไม่รู้ว่าทั้งนายเบียร์และนายกอล์ฟ หลบหนีไปไหน
สำหรับอาวุธปืนขนาด .38 กระบอกดังกล่าวนายธวัชชัย อ้างว่า ฝากให้เพื่อนสนิทไปโยนทิ้งคลองวัดนางชี ถนนเทอดไทย ตั้งแต่เมื่อวานนี้ก่อนจะเดินทางหลบหนีมากบดานที่น้ำตกสาลิกา โดยถือโอกาสมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ด้วย ส่วนวัยรุ่นที่อยู่ด้วยกันอีก 10 คน นั้นอยู่ระหว่างควบคุมตัวมาสอบสวนที่ กก.สส.บก.น.8 อย่างละเอียดหากมีผู้ใดเกี่ยวข้องก็จะถูกแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

แก๊งพะยูงเหิมแหกด่านตำรวจก่อนคว่ำเทกระจาด




ขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงแหกด่านตำรวจยางแตกรถคว่ำไหวตัววิ่งหลบหนีขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์เพื่อนร่วมขบวนการอีกคันที่เฝ้าติดตาม หนีลอยนวล
เมื่อเวลา 12.10 น.วันนี้( 9 เม.ย.) พ.ต.ท.สมเงิน คู่ตระกูล สารวัตรเวร สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ บริเวณถนนสายโคกกรวด – มทส. ช่วงบ้านหนองปลิง-โคกเพชร กม. 7 บ้านโปร่งดินสอ หมู่ 4 ต.โคกกรวด อ.เมือง จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีฟ้า ทะเบียน ปร 727 กรุงเทพมหานคร กระบะหลังต่อเป็นโครงเหล็กสำหรับบรรทุกของ  เสียหายยับเยิน ยางล้อหลังข้างซ้ายแตก มีหอมแดงบรรจุกระสอบนับร้อยกระสอบตกกระจัดกระจาย นอกจากนี้ยังพบไม้พะยูงแปรรูปเป็นท่อนเท่า ๆ กัน ขนาดหน้ากว้าง 35 ซม. ยาว 2.5 เมตร 15 ท่อน ซุกซ่อนอยู่ใต้กระสอบหอมแดง ส่วนคนขับหลบหนีไป
เมื่อตรวจค้นหลักฐานภายในรถ พบคราบเลือดเปื้อนบริเวณเบาะนั่งข้างคนขับ คาดว่ามีคนนั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งพบบิลน้ำมันที่เติมมาจากปั้มน้ำมันใน จ.ศรีสะเกษ และเอกสารสำเนาบัตรเหลืองใบแทนบัตรประชาชน ระบุชื่อ นายเกรียงไกรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี  จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบการสำนวน
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.จักรพล ตาลทรัพย์ สวป.สภ.โพธิ์กลาง นำกำลังตำรวจสายสืบมาตรวจสอบอุบัติเหตุดังกล่าว พร้อมระบุว่า เป็นรถของคนร้ายที่ลักลอบนำไม้พะยูง 15 ท่อน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซุกซ่อนมาใต้กระบะโดยมีกระสอบหอมแดงปิดทับด้านบนเพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ โดยรถกระบะคันดังกล่าวมีคนร้ายนั่งมาด้วยกัน 2 คน ก่อนขับมาเจอกับจุดสกัดของตำรวจที่ตั้งด่านบริเวณ ถ.ราชสีมา-ปักธงชัย ช่วงแยกสวนสัตว์นครราชสีมา ซึ่งตนนำกำลังตำรวจตั้งด่านอยู่ เมื่อตำรวจเรียกให้จอด คนร้ายกลับเร่งเครื่องขับฝ่าด่านแล้วเลี้ยวเข้ามาตามเส้นทาง ถ.มทส.-โคกกรวดอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงพยายามไล่ติดตาม แต่อยู่ระยะค่อนข้างไกล โดยคนร้ายขับหนีการติดตามของตำรวจมาด้วยความเร็วสูง กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งยาว 100 เมตร จนเกิดอุบัติเหตุรถยางแตก เมื่อตำรวจตามมาถึงก็พบว่า คนร้าย 2 คน หลบหนีโดยวิ่งขึ้นรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดรับคนร้ายก่อนขับหลบหนีไปทาง ถ.มิตรภาพ ตำรวจพยายามวิทยุสกัดจับแต่ยังไร้วี่แวว นอกจากนี้ยังมีรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะเป็นรถนำทาง วิ่งหลบหนีไปก่อนหน้านี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตำรวจประมวลจากหลักฐานและเหตุการณ์ มั่นใจว่าเป็นขบวนการลักลอบขนไม้พะยูง ที่นำไม้มาจากชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ ก่อนนำใส่รถกระบะที่ต่อโครงเหล็กสำหรับบรรทุกสินค้า จากนั้นก็นำผลผลิตหอมแดงที่มีการซื้อขายกันล้นตลาดในพื้นที่ดังกล่าวมาปิดทับไว้เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ โดยมีเป้าหมายส่งไม้ไปยังกรุงเทพฯ หรือจังหวัดทางภาคเหนือ โดยมีเพื่อนร่วมขบวนการเป็นรถกระบะโตโยต้า วีโก้สีดำ ไม่ทาบทะเบียนขับนำหน้าเพื่อเคลียร์เส้นทาง และมีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ขับติดตามเพื่อดูความเรียบร้อย อาศัยจังหวะในช่วงวันหยุดยาวลำเลียง ซึ่งตำรวจจะได้ติดตามจับกุมขบวนการเถื่อนมาดำเนินคดีต่อไป.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

เรียกสหกรณ์9จังหวัดแจ้งข้อหาแชร์ลอตเตอรี่


วันนี้ (9 เม.ย.)  พ.อ.ปิยะวัฒก์  กิ่งเกตุ  ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดีแชร์ลอตเตอรี่กล่าวถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า  อยู่ในขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องทั้งนิติบุคคล  กรรมการบริหารสหกรณ์และผู้จัดการสหกรณ์อีก 9 จังหวัด คือ ชัยภูมิ, ร้อยเอ็ด, สกลนคร,กาฬสินธุ์, ยโสธร, ปทุมธานี, ราชบุรี, สงขลา และเชียงราย  โดยในวันที่ 10 เม.ย.นี้ได้ให้กรรมบริหารสหกรณ์ทยอยเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา เริ่มจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชัยภูมิ จำกัด  สำหรับข้อกล่าวหาประกอบด้วยความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน  ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา  และข้อหายักยอกทรัพย์ในส่วนของกรรมการบริหารสหกรณ์และผู้จัดการสหกรณ์บางคนที่มีพฤติการณ์นำเงินของสหกรณ์ไปเล่นสลากนอกกำหนดสัญญา

อย่างไรก็ตาม การแจ้งข้อกล่าวหาจะพิจารณาพฤติกรรมในการร่วมกระทำความผิดเป็นสำคัญว่ากรรมการบริหารสหกรณ์แต่ละคนมีส่วนได้รับผลประโยชน์หรือไม่  โดยหลักการแล้วกรรมการบริหารสหกรณ์คือผู้ลงนามรับรองสัญญาต้องมีส่วนรับผิดชอบแน่นอน  แต่เนื่องจากการสอบสวนพบว่ากรรมการบริหารสหกรณ์บางแห่งระบุว่าได้คัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับการนำเงินไปลงทุนในโครงการสลากกินแบ่งรัฐบาล ดังนั้น พนักงานสอบสวนจะพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นรายบุคคล
 
พ.อ.ปิยะวัฒก์  กล่าวอีกว่า  ในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.)  พนักงานสอบสวนเตรียมเสนอสำนวนคดีแชร์ล็อตเตอรี่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนนทบุรี จำกัด ให้อธิบดีดีเอสไอเห็นชอบเป็นคดีพิเศษรวมกับคดีแชร์ล็อตเตอรี่อีก 10 จังหวัด  ที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้ด้วย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลกลุ่มเดียวกันจะได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องและสรุปสำนวนส่งฟ้องคดีพร้อมกัน  คาดว่าจะส่งฟ้องอัยการได้ภายในเดือนเม.ย.นี้
 
สำหรับสหกรณ์ 9 จังหวัด ที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอเรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ประกอบด้วย สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี จำกัด ,สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธร จำกัด,สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด ,สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด,สหกรณ์ออมทรัพย์ครูชัยภูมิ จำกัด,สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงราย จำกัด ,สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงราย จำกัด, สหกรณ์ออมทรัพย์ครูราชบุรี จำกัด,สหกรณ์ออมทรัพย์ครูราชบุรี จำกัด, สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสกลนคร จำกัด,สหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัด,และสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขสงขลา จำกัด
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

โจ๋ซิ่งจยย.ชนขอบสะพานพลัดตกลงมาดับ


ซิ่งจยย.ขึ้นสะพานมาด้วยความเร็วสูงเจอทางแยกลังเลเสียหลักชนขอบสะพาน คนขับกระเด็นตกลงมาดับอนาถกลางถนน
เมื่อเวลา 05.20 น. วันนี้( 8 เม.ย.) พ.ต.ท.ชาญชาตรี สีดาคำ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บุคคโล ได้รับแจ้งเหตุคนขับรถจยย.ชนขอบสะพานพระราม 3 ทำให้พลัดตกลงมาเสียชีวิต ที่บริเวณใกล้แยกมไหศวรรย์เพียง 50 เมตร ถนนรัชดาขาเข้า แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณกลางถนนรัชดาขาเข้าใกล้แยกมไหศวรรย์ พบศพ นายวิโรจน์ สร้อยสิงห์ อายุ 20 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 10 ต.โนน อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน มีบาดแผลแตกที่ใบหน้าและรอยถลอกตามร่างกาย ใกล้กันมีเศษกระจกตกแตกบนท้องถนน นอกจากนี้ยังพบรถจยย.ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ หมายเลขทะเบียน สขท 461 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บริเวณทางแยกบนสะพานพระราม 3 ขาลง สภาพบังโคนหน้าและไฟหน้าพังยับเยิน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อ นายทวีชัย อบอุ่น อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นผู้ซ้อนจยย.คันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยนำตัวส่ง รพ.ตากสิน
เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ตายและผู้บาดเจ็บขับขี่จยย.คันดังกล่าวมาด้วยความเร็วสูง พอมาถึงจุดเกิดเหตุเกิดความลังเลกับเส้นทางจนทำให้พุ่งชนกับขอบสะพานดังกล่าวแล้วพลัดตกลงมาเสียชีวิตดังกล่าว
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ผู้ตรวจการฯไม่เร่งรัด"ยิ่งลักษณ์"แจงตั้ง 2 รมต.



วันนี้ ( 8 เม.ย. ) นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ทางผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ดำเนินการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมถึงกรณีการแต่งตั้งนางนลินี ทวีสิน เป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ ภายใน 30 วัน ว่า ขณะนี้ถือว่าใกล้ครบกำหนดตามกรอบระยะเวลาตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินแจ้งไว้แล้ว แต่ตนเห็นว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น นายกรัฐมนตรีมีภารกิจที่ต้องปฏิบัติจำนวนมาก ดังนั้น จึงต้องให้เวลาในการดำเนินการ อย่าไปบีบ เร่งรีบหรือกดดัน เนื่องจากการที่ผู้ตรวจการฯส่งหนังสือให้นายกฯชี้แจงกลับมานั้นเป็นเรื่องของความร่วมมือ  เพราะนายกฯเป็นผู้ใช้อำนาจรัฐ และผู้ปกครองประเทศ  จึงมีหน้าที่โดยตรงในการกำกับดูแลเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี จึงเชื่อว่าทางนายกฯก็คงจะทำหนังสือชี้แจงกลับมายังผู้ตรวจการฯแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากถึงเวลาแล้วทางนายกฯยังไม่ชี้แจงมากลับมา ผู้ตรวจการฯ ก็คงทำหนังสือแจ้งเตือนไปอีกครั้ง.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

“ยงยุทธ”ฉุน ได้ข่าวไม่ดี เกี่ยวกับงบน้ำท่วม



วันนี้ (8 เม.ย.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า  ขณะนี้มีกระแสข่าวหนาหู เกี่ยวกับเรื่องของการทุจริตงบประมาณฉุกเฉินเฉพาะกิจน้ำท่วม โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และการฟื้นฟูเยียวยาก่อนน้ำจะมาในปีนี้ ว่า ต้องแบ่งปันให้กับคนในกระทรวงมหาดไทย หรือทางจังหวัด โดยมีการหักหัวคิว บางที่มีข่าวว่า ต้องจ่ายสูงถึง 35 เปอร์เซ็นต์ โดยเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นลักษณะของการแอบอ้าง รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า ไม่ยอมให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นเด็ดขาด  ทั้งนี้หากใครที่ทราบข้อมูลเบาะแส ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน สามารถแจ้งไปที่สายด่วนของศูนย์ดำรงธรรม หมายเลข 1567 กระทรวงมหาดไทย จะส่งผู้ตรวจราชการลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที
 
“เรื่องนี้มีข่าวในเกือบทุกจังหวัด ซึ่งผมยอมให้ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ขณะนี้อำนาจในการจัดซื้อจัดจ้างได้มอบให้จังหวัดไปทั้งหมดแล้ว โดยตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของเกณฑ์สำคัญการแต่งตั้งโยกย้าย  คือเรื่องผลงานปราบปรามยาเสพติด และเรื่องห้ามไม่ให้มีการทุจริตงบประมาณเยียวยาน้ำท่วม ดังนั้น ในฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายเดือนเม.ย.นี้ หากมีแค่เบาะแสว่ามีการทุจริต ไม่ต้องมีหลักฐาน จะสั่งย้าย ผวจ.หรือข้าราชการที่เข้าไปพัวพันทันที” นายยงยุทธ กล่าว

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ส.ว.สรรหามีเสียวโดนสอยยกเข่ง


วันนี้ (8 เม.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา ในฐานะผู้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบกระบวนการสรรหาส.ว. เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือด่วนที่สุด จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ ลต 0201/4756 ลงวันที่ 4 เม.ย.2555 เชิญไปให้ถ้อยคำเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงหลักฐานต่อคณะกรรมการไต่สวน เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่สำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 1 โดยระบุว่าทาง กกต.ได้มีการพิจารณากรณีตามคำร้องของตนที่ยื่นให้ตรวจสอบกรณี นายมนตรี ศรีเอี่ยมสะอาด ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เป็นกรรมการสรรหาส.ว.ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 113 เนื่องจากนายมนตรีเป็นเพียงผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ไม่ใช่ผู้พิพากษาในศาลฎีกาตามความหมายที่รัฐธรรมนูญมาตรา 133 กำหนด อันส่งผลให้กระบวนการสรรหาส.ว.เป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งทางกกต.ได้มีมติเมื่อการประชุมครั้งที่ 35/2555 เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน โดยให้มีอำนาจในการไต่สวน แสวงหาและรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนได้ส่งมอบเอกสารหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้ทั้งหมดชี้แจงต่อคณะกรรมการ ไต่สวนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมติ กกต.ต่อกรณีดังกล่าว ได้มีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 1 ให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมา โดย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ไม่ได้ร่วมประชุม เพราะถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียต่อกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็น 1 ใน 6 กรรมการสรรหา ส.ว. สำหรับ 1 เสียงข้างน้อยคือ นายสมชัย จึงประเสริฐ โดยมี นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น เป็นประธานการประชุมวาระดังกล่าว

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ยัน "ทักษิณ"ไม่แทรกแซงกฎหมายนิรโทษกรรม


วันนี้ (8 เม.ย.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีของพ.ต.ท.ทักษิณ ต่อกรณีเสียงข้างมากของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบรายงานศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองและอยู่ระหว่างดำเนินการส่งต่อให้รัฐบาลว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้แสดงความเห็นหรือมีข้อเสนอแนะใดๆ ต่อเรื่องดังกล่าว แค่พูดในหลักการว่าเวลาที่เดินทางไปประเทศต่างๆ ก็รู้สึกเศร้าใจที่การเมืองภายในประเทศคนไทยยังทะเลาะเบาะแว้งกัน ทั้งที่เรามีศักยภาพที่ดีหลายด้านมาก ส่วนตัวเองก็เป็นแค่ผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ทั้งนี้การตัดสินใจเป็นดุลพินิจของรัฐบาลและรัฐสภารวมถึงภาคส่วนของสังคมที่จะหาทางออกร่วมกัน
 
เมื่อถามถึงในฐานะที่เป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน หรือสมาชิกบ้านเลขที่ 109 ที่ถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปีต่อกรณีที่มีรายงานข่าวว่าอาจมีการเขียนนิรโทษกรรมครอบคลุมให้ นายนพดล กล่าวว่า  สมาชิกบ้านเลขที่ 109 ไม่ใช่โจรแต่เป็นเหยื่อของรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 237 ซึ่งเนื้อหาขัดกับหลักนิติธรรม การคืนความเป็นธรรมจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเราได้รับโทษจากเรื่องที่ไม่ใช่การกระทำของตัวเอง แต่ปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่ได้มีพิมพ์เขียวหรือตั้งธงเรื่องนี้ไว้ ยังไม่เห็นเนื้อหาของพ.ร.บ.ซึ่งคงต้องรอดูพัฒนาการต่อไป แต่ถือว่า 109 อดีตกรรมการบริการพรรครับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เป็นเหยื่อที่น่าเวทนา ถ้าจะมีการคืนความเป็นธรรมก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources