วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Resident Evil Damnation สงครามดับพันธุ์ไวรัส





เรื่องย่อๆ Resident Evil: Damnation
ต่อจากภาค Resident Evil Degeneration ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับ Resident Evil เวอร์ชั่นเกม ตัวเอก คือ Leon S. Kennedy เขาได้ตามสืบร่องรอยของผู้ก่อการร้ายที่ใช้อาวุธชีวภาพไปยังประเทศเล็กๆแห่งหนึ่งทางยุโรปตะวันออก ซึ่งที่ประเทศนั้นยังมีสงครามกลางเมืองแย่งชิงอำนาจกันอยู่ และได้พบว่ามีการใช้ อาวุธชีวภาพหรือเรียกมันว่า B.O.W. (bio-organic weapons)

โจรใต้ลอบกัดรายวันดักบึ้มสังหารทหารพลีชีพ1เจ็บเพียบ


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ต.ค. พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิด 2 ลูกซ้อน ลอบสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวน สังกัดชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 บนถนนในหมู่บ้านชูโว หมู่ 5 ต.บาเร๊ะใต้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1นาย และได้รับบาดเจ็บ 8 นาย จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส น.อ.สมเกียรติ ผลประยูรผบ.นย. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ศชต. รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองวิทยาการ จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร
ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ทหารล้มตะแคงอยู่ริมถนน 2 คัน โดยมีรอยเลือดเปรอะพื้นถนน ส่วนบริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมถนนมีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 3 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เพื่อนทหารได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบาเจาะ ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อ จ.อ.จิรายุ สมานทอง พลฯ สมศักดิ์ เกราเซา พลฯสุทธิพงษ์ โอเรียง ซึ่งต่างถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาและลำตัว อาการไม่สาหัส
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.อ.จิรายุ หัวหน้าชุดได้ระดมกำลังรวม 8 นาย ขี่รถ จยย. 4 คัน เพื่อลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทาง เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิด ขณะที่เจ้าหน้าที่ขี่รถ จยย.แล่นผ่าน ทำให้เจ้าหน้าที่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
ส่วนจุดที่ 2 ห่างจากจุดแรกประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดกลางถนนลึก 1.20 เมตร กว้าง 3 เมตร มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุ้ม ต้มน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยการลากสายไฟฟ้าเข้าไปป่ารกทึบ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนเ จ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ห่างไปประมาณ 30 เมตร พบรถยนต์หุ้มเกราะ วี. 150 จอดเสียหลักอยู่ข้างทาง สภาพถูกแรงระเบิดอัดบริเวณใต้ที่นั่งด้านคนขับ จนอุปกรณ์ภายในรถได้รับความเสียหาย เลือดเปรอะกระจายไปทั่ว
โดยมีผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่บริเวณเบาะนั่งคนขับ ทราบชื่อ จ.อ.อิศราวุธ พละศักดิ์ ตำแหน่งพลขับ และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 นายเพื่อนทหารช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลบาเจาะ ไปก่อนแล้วเช่นกัน ประกอบด้วย จ.อ.ยุทธพงษ์ เกษทอง จ.อ.นาดี จำปาวรรณ พลฯ มาหามะ สาเมาะ พลฯ รอกิ โล๊ะมะ และพลฯ ทหารไม่ทราบชื่ออีกหนึ่งราย ซึ่งต่างมีอาการหูอื้อและแน่นหน้าอกไม่สาหัสนัก เมื่อแพทย์การปฐมพยาบาลแล้วสามารถกลับไปรักษาตัวที่ฐาน ส่วนทหารที่เหลืออีก 7 นาย แพทย์จำเป็นต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนทราบว่า หลังจากที่ จ.อ.ยุทธพงษ์ หน.ชุดทราบว่ามีคนร้ายจุดชนวนระเบิดหวังดักสังหารชุดของ จ.อ.จิรายุ และพวกที่บริเวณบ้านชูโว จึงได้ระดมกำลังรวม 6 นาย ขึ้นรถยนต์หุ้มเกราะ วี. 150 เข้าสนับสนุนที่เกิดเหตุ แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งห่างจากจุดที่ จ.อ.จิรายุ โดนลอบวางระเบิดประมาณ 1 กิโลเมตร กลับถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทางใช้แบตเตอรี่จุดชนวน ระเบิดที่นำไปฝังไว้กลางถนนจนเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่รถยนต์หุ้มเกราะ วี 150 แล่นผ่าน ทำให้ จ.อ.อิศราวุธ ถูกแรงระเบิดอัดจนเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
เบื้องต้นคาดเป็นฝีมือผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หวังสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างแกะรอยล่าจับตามกฏหมายต่อไป.
วันเดียวกัน พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่หมู่บ้านบ้านยาว หมู่ 6 รอยต่อ หมู่ 3 บ้านต้นธง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังสืบทราบว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงกบดานอยู่ในบ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 3 บ้านต้นธง ซึ่งอยู่ในสวนยาง ระหว่างนั้นคนในบ้านเหลือบเห็นเจ้าหน้าที่ก่อนจึงขว้างระเบิด เอ็ม 26 ออกมาทำให้เจ้าหน้าที่ต่างต้องหาที่กำบังกันวุ่น แต่ระเบิดกลับด้าน คนร้ายจึงเปลี่ยนมายิงเปิดทางหนี จนเจ้าหน้าที่ต้องยิงตอบโต้ปะทะกันนานกว่า 10 นาที ซึ่งหลังสิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบศพนายอาลียะ แบเซาะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/4 หมู่ 1 ต.ช้างไห้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มีแผลถูกยิงตามลำตัวหลายนัด เจ้าหน้าที่สามารถยึดปืนขนาด 9 มม และระเบิดขว้างไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับผู้ตายเป็นแนวร่วมของกลุ่มอาร์เคเค ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ และอำเภอใกล้เคียงโดยมีหมายจับ ป.วิอาญา 2 คดี ได้แก่ คดียิงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ขณะขับลาดตระเวณ ที่ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์  เมื่อปี 2554 และคดียิง 2 สามีภรรยาเสียชีวิต และขโมยรถกระบะ โตโยต้า พีรันเนอร์ ในพทื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา  ซึ่งรถคันดังกล่าวถูกคนร้ายนำไปประกอบระเบิดก่อเหตุคาร์บอมบ์ ใน จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา 
ส่วนในช่วงบ่ายมีรายงานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ขี่รุ จยย.ประกบฆ่านายสุไห ดอเลาะ อายุ 35 ปี เสียชีวิตระหว่างขี่รถ จยย. กลับบ้าน เหตุเกิดบนถนนในพื้นที่ หมู่ 7 บ้านตือเบาะ ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง
สำหรับในช่วงเย็น ร.ต.ท.วันชัย รักบุญเมือง พงส.(สบ1) สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนร้ายประกบยิง ตชด.เสียชีวิต บนถนนสายรือเสาะ-ท่าเรือ ช่วงบริเวณบ้านยาแลเบาะ หมู่ 5 ต.รือเสาะ จึงรีบไปตรวจสอบ แต่ต้องพบกับความยากลำบาก เพราะระหว่างทางคนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบดักไว้ด้วยที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนส์ ทะเบียน ผค 1021 สงขลา เสียหลักตกคูระบายน้ำข้างทาง สภาพถูกยิงพรุนทั้งคัน เบาะคนขับพบศพ ส.ต.อ.ปรีชา สมัยไหม อายุ 40 ปี ครูโรงเรียน ตชด. บ้านละโอ หมู่ 2 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส มีแผลยิงเข้าตามร่างกายหลายแห่ง จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และ อาก้า ตกอยู่ 18 ปลอก จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังเดินทางไปเรียนหนังสือที่วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส สาขารือเสาะ แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุกลับถูก 4 คนร้าย ขี่รถ จยย. 2 คัน ประกบกระหน่ำยิงใส่ไม่หยั่ง จนรถเสียหลักตกคูดังกล่าว จากนั้นคนร้ายยังวิ่งไปขโมยปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ของผู้ตายไปด้วย ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างหาเบาะแสติดตามจับกุมต่อไป
ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงยังก่อเหตุยิงนายมาหามะ หะยีอุเซ็ง อายุ 28 ปี บริเวณตลาดสามแยกบ้านเนียง หมู่ 3 ต.เปาะเส้ง จ.ยะลา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาด้วย.

แก็งทวงหนี้ดอกโหดเมืองรถม้าซ่าตึ้บลูกหนี้เจ็บหนัก


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง หลังได้รับแจ้งมีผู้ถูกแก๊งทวงหนี้ทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ปรากฏว่าพบนางเตือนจิต สมมี อายุ 40 ปี นอนซมอยู่บนเตียงอนาถา สภาพมีแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ใบหน้าและรอบตาเขียวช้ำ จากการสอบถามผู้บาดเจ็บเล่าทั้งน้ำตาว่า เดิมตนมีสามีชื่อพลตำรวจจิรานุวัฒน์ สมมี และมีศักดิ์เป็นญาติทางสามีของนางสุนี สมมี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางคนปัจจุบัน แต่ต่อมาสามีประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำให้ครอบครัวขาดเสาหลัก ชีวิตลำบากมาก เพราะต้องเลี้ยงลูกด้วย จึงร่วมกับเพื่อนไปกู้เงิน 50,000 บาท จากนายทุนในพื้นที่ โดยต้องส่งดอกร้อยละ 20 ทุกวัน ๆ ละ 600 บาท เพื่อลงทุนค้าขาย ซึ่งตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ตนก็ส่งตลอดไม่มีปัญหา
"เมื่อช่วง 3 ทุ่มคืนที่ผ่านมา เจ้าหนี้ได้นัดให้นำเงินไปส่งให้นายโก๋ ที่หน้าโรงเรียนอนุบาลลำปาง ถนนจามเทวี ซึ่งห่างจากโรงพักเพียง 200 เมตร จึงกำเงิน 600 บาทไปส่งให้ตามข้อตกลง แต่เมื่อเจอกันนายโก๋ กลับขอเพิ่มเป็น 1,000 บาท โดยอ้างว่าวันนี้เก็บไม่เข้าเป้า เมื่อตนไม่ยอม ทำให้นายโก๋โกรธมาก โดดเตะไม่หยั่ง จนเพื่อนผู้หญิงที่มาด้วยต้องตะโกนขู่ว่าแจ้งความ นายโก๋ ถึงหยุด แต่ยังไม่วายย้อยกลับมาว่า ไม่กลัว เพราะมีเจ้านายเส้นใหญ่ แถมยังบอกว่าจะอุ้มไปฆ่าเมื่อไรก็ได้ จึงไปแจ้งความไว้กับ ร.ต.ต.สุรเชษฐ์ สุริมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เป็นหลักฐานไว้ก่อน เนื่องจากยังเจ็บที่บริเวณจมูกและหายใจติดขัด ทั้งดวงตาก็มองไม่ค่อยเห็น" นางเตือนจิต กล่าวทั้งน้ำตา.

บุกทลายคลินิกเถื่อนกลางกรุง 4 แห่ง ตะลึงมีอีกเพียบ 70-80 แห่งในกทม.


เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (21 ต.ค.) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.ดส. บช.น.และกำลังตำรวจ กก.ดส.บช.น. เข้าตรวจค้นจับกุมคลินิกผิดกฎระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ทั้งหมด 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.สีกันการแพทย์คลินิกเวชกรรม เลขที่ 311/12 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จับกุมนายจีระสิทธิ์ วิจิตรแพทย์ เจ้าของคลินิก 2.คลินิกสรงประภาการแพทย์ เลขที่ 310/116 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จับกุม น.ส.ขวัญลดา แตงทองคำ อายุประมาณ39 ปี คนดูแล 3.ศิริสุขการแพทย์ เลขที่ 9/56 ถนนช่างอากาศอุทิศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จับกุม นางอัฐชรินทร์ สุดกังวาล อายุ61 ปี คนดูแล และ 4.พร้อมแพทย์คลินิก เลขที่ 87/397 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จับกุมนางนิตยา การะวรรณ อายุ 48ปี คนดูแลคลินิก

นายพสิษฐ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณะสุขได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีการลักลอบเปิดคลิกนิคในพื้นที่ดอนเมือง โดยที่ผู้รักษาโรคไม่ใช่แพทย์ และมีการออกใบรับรองแพทย์ปลอมที่คลิกนิกเหล่านี้ จึงประสานกับ บช.น. และพ.ต.อ.วิวัฒน์ นำกำลังเข้าตรวจสอบ โดยให้สายลับแกล้งทำเป็นปวดท้องเข้าไปรักษา และขอให้ออกใบรับรองแพทย์ให้ ซึ่งทั้ง 4 คลินิกก็ได้ทำการตรวจรักษา วินิจฉัยโรค พร้อมจ่ายยา และออกใบรับรองแพทย์ให้กับสายลับ แต่คนที่ตรวจโรคให้กลับไม่ใช่แพทย์ผู้ที่ขอใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเพียงคนที่ดูแลอยู่ที่คลินิกเท่านั้น จึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้ดำเนินคดี โดยเฉพาะที่คลินิกสรงประภา พบว่าไม่มีใบอนุญาตเปิดคลินิก จึงกลายเป็นคลินิกเถื่อนอย่างชัดเจน และขณะตำรวจเข้าจับกุมแพทย์ของคลินิกดังกล่าวได้ไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน จะสืบสวนและติดตามจับกุมต่อไป นอกจากนี้ยังพบยาที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน และยาที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทที่คลินิกสรงประภาการแพทย์อีกด้วย ส่วนคลินิกที่เหลือมีใบอนุญาตถูกต้อง แต่คนตรวจไม่ใช่แพทย์ถือว่าผิดกฎหมายเหมือนกัน

นายพสิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ กทม. ยังพบว่ามีคลินิกที่กระทำการลักษณะเดียวกันอีกประมาณ 70-80 แห่ง ส่วนทั่วประเทศก็มีประมาณ 100 กว่าแห่ง จะเร่งกวาดล้างจับกุมให้หมดทุกคลินิก และยังตรวจสอบพบด้วยว่า มีข้าราชการใช้ใบรับรองแพทย์ปลอมจากคลินิกเหล่านี้เพื่อลาป่วย แล้วเอาเวลาราชการไปทำอย่างอื่นแทนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจด้วย จึงขอฝากไปยังคลินิกต่าง ๆ ที่กระทำผิดกฎหมายให้หยุดและเลิก ไม่อย่างนั้นจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เบื้องต้นจะดำเนินคดีกับคลิกนิกทั้งหมดในข้อหา ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมแปลงใบรับรองแพทย์ และขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับคลินิกสรงประภาจะเพิ่มข้อหา ประกอบกิจการสถานพยาบาล และลักลอบจำหน่ายยาซูโดอีเฟดรีน โดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มอีก 2 ข้อหา และในวันที่ 22 ต.ค.นี้จะทำเรื่องเสนอ รมว.สธ. เพื่อยื่นเรื่องให้ปิดคลินิกดังกล่าวทั้งหมด และเสนอแพทยสภาให้ดำเนินการกับแพทย์เจ้าของคลิกนิกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมืองเจ้าของท้องที่ดำเนินคดีต่อไป ส่วนแพทย์ที่เป็นผู้ขอใบอนุญาตจะเรียกมาสอบสวน พร้อมสอบปากคำพยานหรือคนที่มาใช้บริการเพิ่มเติมหากพบมีการกระทำผิดอย่าง อื่นอีกก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป.

รวบทีมฆ่าสาวซี5เร่งเค้นหาผู้บงการ


จากกรณีมือปืนดักยิง น.ส.สุรีย์ ยุวดำรงค์ชัย อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงานระดับ 5 (ซี 5) ประจำหน้าห้องจ่าจังหวัดฉะเชิงเทรา เสียชีวิตคารถเก๋ง โตโยต้า วีออส ขณะขับรถออกจากบ้านพักข้าราชการในกรมการปกครองคลองเก้าลำลูกกา เพื่อไปทำงานที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา เหตุเกิดบริเวณทางลงสะพานข้ามคลองคลองสิบ ถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา หลักกิโลเมตรที่ 23 ต.บึงทองหลาง

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ต.ค. ที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช ภ.1.คุมงานด้านการสอบสวน ได้เดินทางมาเรียกนายตำรวจที่เกี่ยงข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งมีรายงานว่า ทางชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้แล้ว 3 คน ประกอบด้วย มือปืน คนขี่ จยย. และคนชี้เป้า โดยสามารถติดตามไปจับได้ในพื้นที่ อ.ภูมะเดื่อ จ.นครปฐม และขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลติดตามล่าหาของกลางและผู้บงการ โดย พล.ต.ต.ชยุต กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนทำงานอย่างรัดกุม ส่วนรายละเอียดอื่นยังไม่สามารถเปิดเผยได้เกรงจะเสียรูปคดี
 
สำหรับผู้ต้องหาที่จับได้ทราบชื่อนายภาวินทร์ หรือตุ๋ย ก๋งเหม็ง อายุ 26 ปี มือปืน นายดนัย หรือตูน มาตะราช อายุ 29 ปี คนขี่ จยย. และชายไม่ทราบชื่อ ซึ่งทำหน้าที่ชี้เป้า อย่างไรก็ตามคดีนี้ทางนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชางดให้ ข่าว โดยคาดว่าจะมีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) ส่วนสาเหตุชุดสืบสวนรายหนึ่ง กล่าวว่า เกิดจากเรื่องทรัพย์สมบัติของผู้ตายที่มีอยู่มาก ส่วนจะผู้จ้างวานเป็นผู้ใกล้ชิดหรือไม่อยู่ระหว่างขยายผลต่อไป.

“ตู่” ให้ปากคำดีเอสไอคดี91ศพ


เมื่อวันที่ 22 ต.ค.  ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายจตุพร  พรหมพันธุ์  แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)  เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะพยานคดีการเสียชีวิตของ ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 91 ศพ จากเหตุรุนแรงทางการเมืองปี 2553
โดยกล่าวก่อนเข้าให้ปากคำว่า  ตนจะให้ปากคำเป็นถ้อยคำ  เพราะไม่ได้เตรียมเอกสารใด ๆ มาด้วย เนื่องจากทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นติดอยู่ในความทรงจำทั้งหมด  แต่หากดีเอสไอต้องการพยานเอกสาร จะนำมามอบให้ภายหลัง
ทั้งนี้จะเสนอให้ดีเอสไอขอภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพรถที่เข้า-ออก กรมทหารราบที่ 11 ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เนื่องจากมีแหล่งข่าวให้ข้อมูลที่อาจเกี่ยวข้องกับชายชุดดำ โดยพบว่ามีรถตู้บางคันมีบุคคลที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำอยู่ในรถ ซึ่งเป็นรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)   พร้อมกันนี้ยังเห็นควรให้ดีเอสไอเชิญบุคคลอีก 2 คนที่เชื่อว่าจะเป็นพยานสำคัญ คือ ทหารที่ทำหน้าที่คนเขียนแผนประทุษกรรม แผนผังล้มเจ้า เพื่อสอบถามความเชื่อมโยงไปถึงแรงจูงใจในการปฏิบัติการ  และอีกรายคือทหารผู้ทำหน้าที่รวบรวมคำสั่งของศอฉ.ทุกฉบับ

นายจตุพร  กล่าวต่อว่า  ขณะนี้ไม่ได้มีความอาฆาตแค้นทหารที่ปฏิบัติตามคำสั่ง แต่ต้องการให้มีการนำตัวผู้สั่งการมาลงโทษ  ตนตั้งข้อสังเกตเรื่องชายชุดดำว่าอาจเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ หรือจัดฉากเพื่อเอื้อประโยชน์ในการปฏิบัติการเท่านั้น  เพราะพบว่ามีการเผยแพร่ภาพชายชุดดำหลังจากวันที่เกิดเหตุ 3 วัน ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติในการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน  หากพบเห็นข้อมูลก็ต้องนำเสนอต่อสาธารณะทันที  แต่เหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. และเหตุการณ์ที่อนุสรณ์สถานมีการนำภาพชายชุดดำมาเผยแพร่ภายหลัง

ออกหมายเรียกซ้ำ "ลูก" บิ๊กกระทิงแดง


วันนี้ (22 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ดูแลงานกฎหมายและคดี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายวรยุทธ์ อยู่วิทยา ลูกชายคนเล็กของนายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของบริษัท กระทิงแดง ที่ขับรถยนต์เฟอรารี่ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ว่า พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้นัดหมายให้ผู้ต้องหามาพบที่ สน.ทองหล่อ ในวันที่ 19 ต.ค. แต่ผู้ต้องหาขอเลื่อน โดยไม่ได้ระบุวันเวลาว่าจะเข้ามาพบเมื่อใด หลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกอีกครั้ง หากไม่มาก็จะทำการยึดเงินประกัน และดำเนินการออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป

พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวอีกว่า สำหรับข้อหาที่ต้องแจ้งเพิ่มเติมก็คือ ขับรถเร็วและข้อหาที่ประกอบอื่น ๆ ซึ่งขณะนี้สามารถรวบรวมสำนวนการสอบสวนได้มากว่าร้อยละ 80 แล้ว ส่วนเรื่องสารเสพติดในร่างกาย ขณะนี้ยังไม่ได้ทำการสอบปากคำแพทย์ จึงยังไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในประเด็นเกี่ยวกับสารเสพติด อย่างไรก็ตามจะเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งสำนวนคดีให้ อัยการโดยเร็วที่สุด

ให้ออกจากราชการ"ด.ต."ขนยานรกแหกด่าน


เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยศนายดาบ สังกัด สน.ประชาชื่น กับพวกขับรถขนยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด และยาไอซ์อีก 5 กิโลกรัม แหกด่านตรวจบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ จุดตรวจ ต.นาแก อ.งาว จ.ลำปาง จนเสียหลักไปชนบ้านเรือนประชาชน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ส่วนนายดาบหลบหนีไปได้ ว่าขณะนี้ได้สั่งการให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด และเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายดาบคนดังกล่าว รวมถึงบ้านญาติและบ้านเพื่อนทุกคนที่เกี่ยวข้องแล้ว และให้บก.น.2 มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าระยะหลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจของบช.น. เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและปล้นทรัพย์บ่อย จะมีมาตรการเข้มงวดอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งผบช.น. ได้มอบนโยบายกับข้าราชตำรวจทุกนายว่าอย่าไปหากินกับความเดือดร้อนของพี่น้อง ประชาชน ซึ่งตำรวจที่นอกลู่นอกทางยากที่จะควบคุม มันมีอยู่ทั่วไป ไม่ได้มีเฉพาะในพื้นที่นครบาล แต่ก็เป็นส่วนน้อย

คุมตัวเขยโหดทำแผนฆ่าแม่ยาย


จากกรณีนางใบ แซ่อึ้ง อายุ 67 ปี ถูกนายสุรพล แซ่ฮ้อ อายุ 34 ปี ลูกเขย ใช้ไม้กระหน่ำตีเสียชีวิตจมกองเลือดภายในบ้านเลขที่ 15/41 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 23 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดยชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทพร้อมพระเลี่ยมทองหลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนนนท์ ตามจับกุมได้ในเวลาต่อมา นั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ต.ค. พ.ต.ต.พรชัย ศรีมูล พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.บางขุนนนท์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจำนวน 20 นาย ได้ควบคุมตัวนายสุรพล มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในซอยดังกล่าว โดยมีญาติพี่น้อง และชาวบ้านกว่าร้อยคนมายืนรอดูด้วยความโกรธแค้น พร้อมกับตะโกนสาปแช่งอยู่ตลอดเวลา
เมื่อตำรวจพานายสุรพลมาถึงก็รีบนำตัวไปทำแผนภายในบ้าน ซึ่งเป็นจุดแรกที่ก่อเหตุใช้ไม้หน้า 4 กระหน่ำตีนางใบแม่ยาย จนเสียชีวิต และจุดที่สองเป็นจุดทิ้งไม้บริเวณหน้าบ้านและวิ่งหลบหนีไป โดยใช้เวลาในการทำแผนประมาณ 15 นาที จึงเสร็จสิ้น โดยไม่เกิดเหตุชุลมุนแต่อย่างใด
จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นรถตู้เพื่อไปชี้จุดที่สาม ซึ่งนายสุรพลนำทองไปขายที่ร้านทองย่านบางแค ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามกฎหมายต่อไป

“เฉลิม” เดินหน้าจัดเวทีเสวนาสร้างปรองดอง


วันนี้ (22 ต.ค.) ที่วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระ ตรวจสอบความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ตั้งแต่ที่ตนได้รับแต่งตั้งเป็นประธาน ก็ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย ทั้งนี้คาดว่าอีก 2 สัปดาห์นี้ จะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการชุดที่มีนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อหารือการเดินหน้าเวทีสานเสวนาเพื่อสร้างความปรองดอง
   

“องค์กรพิทักษ์สยาม” จัดชุมนุมใหญ่ไล่ "ปู"


วันนี้ (22 ต.ค.) ที่ราชตฤณมัยสมาคมฯ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม พร้อมด้วยตัวแทนจากกลุ่มสยามสามัคคี กลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน (เสื้อหลากสี) รวมทั้งภาคีเครือข่ายอีกกว่า 10 แห่ง ร่วมกันแถลงข่าวจัดการชุมนุมใหญ่ภายใต้ชื่อว่า “รวมพลังหยุดวิกฤติและหายนะชาติ” ในวันที่ 28 ต.ค. ที่สนามม้านางเลิ้ง
พล.อ.บุญเลิศ แถลงถึงวัตถุประสงค์การจัดชุมนุมว่า องค์กรพิทักษ์สยาม รวมถึงกลุ่มต่าง ๆ ทนไม่ได้กับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 3 ประการ คือ 1.รัฐบาลปล่อยให้มีการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน โดยไม่มีการป้องกัน แต่ดูเหมือนว่าจะมีการส่งเสริมมากกว่า 2.รัฐบาลเป็นหุ่นเชิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งไม่มีประสิทธิภาพในการบริหาร และขาดธรรมาภิบาล และ 3.รัฐบาลปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้น
ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม กล่าวอีกว่า ในการชุมนุมใหญ่จะเชิญผู้ที่มีความรู้ในแต่ละด้าน เช่น การจำนำข้าว มาชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยืนยันว่าการชุมนุมที่ เกิดขึ้นเป็นไปตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ จะมาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการชุมนุมนั้น พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ได้รับการประสานจาก ร.ต.อ.เฉลิม ว่าจะมาพบในช่วงบ่ายวันที่ 24 ต.ค. นี้ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร แต่หากจะมาขอให้ยุติการชุมนุมก็ยืนยันว่าคงไม่ได้ นอกจากนี้ได้รับการประสาน จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 3 กองร้อย มาควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยให้ ทั้งนี้มั่นใจว่า สถานที่จัดการชุมนุมคือที่สนามม้านางเลิ้งมีรั้วรอบขอบชิดจึงง่ายต่อการควบ คุมรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ก็ได้เตรียมรถไว้สำหรับส่งผู้ที่มาชุมนุมตามสถานที่ต่างอีกด้วย
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคให้การสนับสนุนนั้น พล.อ.บุญเลิศ ยืนยันว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่มีพรรคการเมืองหรือนักการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะไม่ต้องการนักการเมืองอีกต่อไป ส่วนการชุมนุมครั้งนี้จะส่งสัญญาณอะไรต่อไปนั้น ตนคิดว่าก็ต้องขึ้นอยู่ที่สังคมว่าต้องการอะไร อย่างไรก็ตามขอปฏิเสธกรณีที่ทางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่ง ชาติ (นปช.) ระบุว่ากลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย โดยยืนยันว่า ตนเป็นทหาร ไม่ใช่เสื้อเหลืองและไม่เคยขึ้นเวทีการชุมนุม

ศาลปค.ไม่รับคำฟ้อง“ยะใส” กรณี3จี


เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องที่นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มกรีน กับพวกรวม 6 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช. กรณีขอให้มีคำสั่งเพิกถอนประกาศกสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม เคลื่อนที่สากลย่าน 2.1 กิ๊กกะเฮิรตซ์ และยกเลิกการประมูลคลื่นความถี่ที่จัดให้มีขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่า หลักเกณฑ์การประมูลที่กสทช.กำหนดขึ้นขัดต่อ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 และไม่เป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของสาธารณะ พ.ศ.2548

โดยศาลเห็นว่า  เมื่อพิจารณาคำขอของนายสุริยะใสกับพวกที่ขอให้ศาลเพิกถอนเพียงข้อ 6 วรรคสอง ที่กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตแต่ละราย มีสิทธิยื่นประมูลคลื่นความถี่สูงสุดไม่เกิน 15 เมกะเฮิรตซ์ และข้อ 10.2.3  ที่กำหนดราคาขั้นต่ำในการประมูลไว้ที่ 4,500  ล้านบาทต่อ 5 เมกะเฮิรตซ์ ของประกาศกสทช. โดยมิได้ประสงค์ที่จะให้ศาลฯยกเลิกประกาศทั้งฉบับประกอบกับขอให้ศาลยกเลิก การประมูลในวันที่ 16 ต.ค.หมายความว่า นายสุริยะใสและพวกประสงค์จะโต้แย้งการใช้ดุลพิพนิจในการกำหนดจำนวนช่วงคลื่น ความถี่สูงสุดที่จะอนุญาตให้ผู้รับใบอนุญาตแต่ละรายอาจประมูลได้ครั้งนี้ และมูลค่าขั้นต่ำของการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สูงสุดที่จะใช้เป็นราคา เริ่มต้นในการประมูล ซึ่งกำหนดไว้ในข้อ 6 วรรคสอง และข้อ 10.2.3  ของประกาศกสทช. ประกาศดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งทางปกครองทั่วไป

ผู้ที่จะมีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลฯ อันเกี่ยวเนื่องกับประกาศในลักษณะนี้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายโดยตรง เช่น ผู้ที่มีความประสงค์จะขอให้รับใบอนุญาต  แต่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามประกาศ   หรือผู้ที่ชนะการประมูล แต่ต่อมาภายหลังมิได้รับใบอนุญาตจากผู้ฟ้องคดี  เป็นต้น เพราะบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรือมีส่วนได้เสียใกล้ชิดที่อาจจะได้รับความเดือนดร้อน หรือเสียหายจากประกาศฉบับดังกล่าวโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่งแห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง

ดังนั้นผู้ที่จะมีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลเพื่อให้ตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจ ในการออกคำสั่งทางปกครองทั่วไป ในกรณีได้แก่ผู้ตรวจการแผ่นดิน  แต่หากเป็นบุคคลทั่วไป บุคคลดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิหรือเสีภาพและได้ความเดือดร้อน เสียหายโดยตรงจากประกาศของกสทช. แม้ว่าเหตุแห่งการฟ้องคดีของนายสุริยะใสกับพวกที่ได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในคำ ฟ้องจะมีข้อเท็จจริงพวกสมควรที่ทำให้ศาลในคดีนี้เห็นว่าอาจจะมีประเด็นที่ สมควรตรวจสอบการใช้ดุลพินิจและความชอบด้วยกฎหมายของประกาศกสทช. แต่เมื่อนายสุริยะใสกับพวกเป็นประชาชนทั่วไป มิได้มีส่วนได้เสียกับประกาศของกสทช. จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นผู้เดือดร้อนเสียหายที่จะมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง
อย่างไรก็ตามหากในอนาคตเห็นว่า กสทช.มีการกระทำทางปกครองที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์สาธารณะและ ละเมิดสิทธิเสรีภาพของนายสุริยะใสกับพวก ก็อาจนำคดีมาฟ้องต่อศาลได้

ทั้งนี้ศาลยังได้ระบุถึงอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินในกรณีนี้ไว้ด้วยว่า รัฐธรรมนูญ ฯ มาตรา 47 กำหนดให้กสทช.ซึ่งเป็นองค์กรทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนระดับชาติและท้องถิ่น และการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ดังนั้นหากมีบุคคลใดเห็นว่า กสทช.ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญตามที่กำหนดไว้นั้นหรือ ปฏิบัติล่าช้า หรือไม่มีประสิทธิภาพและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย บุคคลนั้นสมารถใช้สิทธิร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2552 มาตรา 23 และ 32 เพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและสอบสวนข้อเท็จจริงและให้ความเห็น พร้อมข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไข กับกสทช. เพื่อให้ทราบและดำเนินการต่อไปด้วย
ขณะที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นตัวแทนของรัฐในการปกป้องดูแลและคุ้มครอง ประโยชน์สาธารณะ หากพบเห็นการกระทำทางปกครองที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายย่อมจะใช้ดุลพินิจที่จะ เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครองได้ทันที เพื่อให้ศาลตรวจสอบการกระทำทางปกครองนั้นที่จะเป็นเหตุให้ประโยชน์สาธารณะ อย่างหนึ่งอย่างใดต้องเสียไป ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีสิทธิและหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดี ได้ตามมาตรา 43 ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง ฯ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีผู้ใช้สิทธิร้องเรียนหรือต้องรอให้เกิดความเสียหาย แก่ประชาชนเสียก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังมีคำสั่ง นายสุริยะใส เปิดเผยว่า จะมายื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ตามแนวทางคำสั่งศาลปกครองในช่วงเวลา 13.00 น.วันนี้

ครม.ไฟเขียวสร้างรพ.เกาะเต่า


เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี  นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุมครม.ได้อนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสร้างความเชี่อมั่นด้านสุขภาพให้ได้มาตรฐานระดับสากลแก่นักท่องเที่ยว ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ตามนโยบายการพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ประชาชนเข้าถึงและครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในชนบทห่างไกล พื้นที่พิเศษ เกาะแก่ง รวมถึงรองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของไทย
โดยแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เดินทางมายังประเทศไทยหลายล้านคน โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทะเลฝั่งอ่าวไทย สำหรับเกาะเต่า มีประชากรไทย 2,000 คน ต่างชาติ 20,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวมาเรียนดำน้ำมากถึงปีละ 4 – 5 แสนคน ถือว่ามากที่สุดในโลกที่สร้างรายได้เข้าประเทศไทย โดยเฉพาะจ.สุราษฎร์ธานี จึงเป็นการยกมาตรฐานการรักษาพยาบาลและการพัฒนายกระดับโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบลเกาะเต่า เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 10 เตียง รองรับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยใช้งบประมาณก่อสร้าง 50 ล้านบาท ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2556 – 2557
นายวิทยา กล่าวว่า กรณีที่มีการสอบถามกันมาก คือ การเรียกร้องของพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวที่ขอรับการบรรจุเป็นข้าราชการ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นัดกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ เพื่อให้ส่วนราชการเตรียมความพร้อมในการพิจารณาอัตรากำลังพลที่กำลังขาด เพื่อรองรับการเข้าสู่อาเซียน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขนั้นมีแผนที่ชัดเจนเตรียมพร้อมเสนอแล้ว
   

“ดีเอสไอ” รุดสอบรองปลัด ยธ. ปล่อยข่าวไซฟ่อนเงิน


วันนี้ (22 ต.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าสอบปากคำ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ  รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณีถูกพาดพิงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าว กรณีไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทไปฮ่องกง โดย พ.ต.อ.นิรันดร์ เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำว่า เป็นขั้นตอนการค้นหาความจริงในชั้นสืบสวน ยังไม่มีการตั้งเป้าเอาผิดบุคคลใด แต่จำเป็นต้องสอบถามข้อเท็จจริงไปตามที่นายพร้อมพงศ์  นพฤทธิ์  โฆษกพรรคเพื่อไทย ร้องให้ตรวจสอบ พ.ต.อ.ดุษฎี ในฐานะที่ให้ข่าวเรื่องดังกล่าว หลังจากนี้จะเข้าสอบปากคำนายพร้อมพงศ์ในฐานะผู้ร้อง ก่อนพิจารณาว่าการสอบสวนจะเข้าข่ายฐานความผิดใดหรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงกับ พ.ต.อ.นิรันดร์ ตามที่เคยทำหนังสือชี้แจงต่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก   รมว.ยุติธรรม ไปก่อนหน้านี้ว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าวและไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าวคดีไซฟ่อน เงิน ทั้งนี้ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ต้องการเป็นพยานเรื่องนี้ หลังมีกระแส ข่าวดังกล่าวได้มีโอกาสพบนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือ ข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภชต.) เนื่องจากต้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการ ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง

ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการสอบปากคำ พ.ต.อ.ดุษฎี  ว่า เป็นเพียงขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรณีนายพร้อมพงศ์  ร้องเรียนกล่าวหานายมงคลกิตติ์   และพ.ต.อ. ดุษฎี  ปล่อยข่าวการไซฟ่อนให้เกิดความระส่ำระสายและความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถือเป็นคดี  จึงยังไม่มีการสอบสวนแต่เป็นเพียงการเชิญเข้าให้ข้อมูลเท่านั้น  ส่วนกรณีที่ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง  รองนายกรัฐมนตรี  เรียกตนและพ.ต.อ.สีหนาท  ประยูรัตน์  เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าพบในวันที่ 24 ต.ค. เวลา 14.00 น. ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นการเรียกประชุมในเรื่องใด  แต่คาดการณ์ว่าอาจมีการสั่งการให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว

วันเดียวกัน พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สังกัดสันติบาล เข้ายื่นหนังสือและเอกสารต่าง ๆ ถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลบุคคลและเครือข่ายรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โอนหรือรับโอนเงินต่างประเทศ อันเป็นการสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำการฟอกเงิน ให้ตำรวจดำเนินการ

พ.ต.ท.สันธนะ เปิดเผยว่า มายื่นหลักฐานในฐานะประชาชน ไม่ได้เป็นตัวแทนฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่ามีการตรวจพบการไซฟ่อนเงิน จำนวน 16,000 ล้านบาท จากประเทศไทยไปยังฮ่องกง โดยน่าจะเป็นการทุจริตเงินงบประมาณจากการบริหารราชการของรัฐบาล จากข้อมูลของตนคิดว่าไม่น่าเป็นการไซฟ่อนเงินที่ต้องใช้ช่องทางตามระบบของ สถาบันการเงินที่จะตรวจสอบได้โดยภาครัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายฝ่ายยืนยันว่าไม่มีข้อมูลธุรกรรมของเงิน

พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า หากยอดเงินดังกล่าวมีการถ่ายโอนจริงจะเป็นลักษณะการฟอกเงิน 16,000 ล้านบาท ซึ่งยอดเงินดังกล่าวไม่สามารถทำได้ในครั้งเดียว ต้องดำเนินการมาหลายเดือนแล้วซึ่งกลุ่มบุคคลและเครือข่ายดังกล่าวต้องมี กิจการเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ตนมีข้อมูลทราบว่ามีกลุ่มบุคคลบางคนที่พูดได้ว่าเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ของ ฮ่องกง เข้าไป

หนุน"สหกรณ์" เป็นวาระแห่งชาติ


เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี  นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอยุทธศาสตร์ 5 ข้อในการส่งเสริมและสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ ในโอกาสทศวรรษ ครบ 100 ปี ของการสหกรณ์ไทย
โดยขอให้สำนักงบประมาณ(สงป.) พิจารณาสนับสนุนงบประมาณแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ ตามความจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้แนวทางในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์วาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์  ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1.สร้างและพัฒนาการเรียนรู้และทักษะการสหกรณ์สู่วิถีชีวิตประชาชนในชาติ 2.สนับสนุนและพัฒนาการรวมกลุ่มของประชาชนด้วยวิธีการสหกรณ์ให้เป็นฐานะราก สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 3.เพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบการผลิตการตลาดและการเงินของสหกรณ์ เน้นการสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้ผลิตสินค้าคุณภาพเพื่อยกระดับสินค้าสหกรณ์ให้ ได้มาตรฐาน
4.สนับสนุนแผนพัฒนาการสหกรณ์ให้เป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้มแข็งของ ขบวนการสหกรณ์ โดยผลักดันแผนพัฒนาการสหกรณ์สู่การปฏิบัติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้เพิ่มเรื่องของการสร้างความเป็นมืออาชีพเพื่อให้มี กลไกในการตรวจสอบและความโปร่งใสในการบริหารงานสหกรณ์ และ 5.ปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐ ขบวนการสหกรณ์ และปรับปรุงกฎหมายสหกรณ์ให้เอื้อต่อการพัฒนา รวมถึงเน้นการปฏิรูปโครงสร้างของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับงานส่งเสริม สหกรณ์

เห็นชอบศึกษาการก่อสร้างสนามบินดอนสัก


เมื่อเวลา 14.00 น.  วันที่ 22 ต.ค. ที่วิทยาลัยนานาชาติ การท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสุราษฎร์ธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.)  ถึงภาพรวมของการประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ และการลงพื้นที่ภาคใต้ ว่า
นอกเหนือจากงบประมาณเร่งด่วนที่แต่ละจังหวัดขอแล้ว ยัง มีโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่ต้องไปศึกษาเพิ่ม โดยเฉพาะจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยมีความต้องการด้านสาธารณูปโภคที่ต้อง เชื่อมโยงกัน และอีกส่วนคือแหล่งน้ำจืดเพื่อการบริโภค ซึ่งในการแก้ไขปัญหานั้น จะแก้ปัญหาทั้งเรื่องน้ำจืด และการบริหารจัดการน้ำ
โดยได้สั่งการให้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์น้ำและอุทกภัย (กบอ.) เข้าไปทำงานร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค และกรมชลประทาน เพื่อแก้ปัญหาให้ ส่วนเรื่องถนนต่างๆ ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม ไปดูเรื่องความเชื่อมต่อกันของการคมนาคมขนส่ง เพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยว และดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยได้  นอกจากนี้ก็ให้ศึกษาการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมระหว่างฝั่งอ่าวไทยกับฝั่ง อันดามันด้วย

ส่วนการศึกษาโครงการก่อสร้างสนามบินดอนสัก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบงบประมาณให้มีการศึกษาเส้นทางการคมนาคมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ และทางเรือ เพื่อให้การเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมในกลุ่มจังหวัดฝั่งอ่าวไทยเชื่อมโยงกัน ได้ และสามารถรองรับนักท่องเที่ยว ส่วนผลการศึกษาจะเป็นอย่างไร ต้องรอฟังผลสรุปจากกระทรวงคมนาคมที่ไปศึกษาร่วมกับพื้นที่
เมื่อถามว่ากรอบวงเงินที่ครม.ได้อนุมัติเพื่อระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆให้กับพื้นที่ครั้งนี้วงเงินเท่าไหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช. ) ชี้แจงตัวเลขดีกว่า เพราะมีกรอบวงเงินระยะยาวด้วย
   

“มาร์ค” ชี้ “เหลิม” สอบไซฟ่อนเงินเกมการเมือง


วันนี้ (22 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบการไซฟ่อนเงิน จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท ไปยังฮ่องกง ว่า ร.ต.อ.เฉลิม คงไม่ได้ ตรวจสอบเรื่องการทุจริต เท่ากับทำให้เป็นประเด็นการเมือง อีกทั้งมักจะส่งสัญญาณชี้นำให้เจ้าหน้าที่เลือกข้าง ดังนั้นจึงไม่ได้คาดหวังกับการตรวจสอบที่จะเกิดขึ้น และไม่คิดว่าสังคมจะได้อะไร ความจริงน่าจะให้องค์กรอิสระดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะถ้าให้รัฐบาลทำและออกมาตอบโต้กับคนที่เสนอเรื่องนี้ จะไม่มีความน่าเชื่อถือ และเชื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องคงไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหน่วยงานอื่น ๆ
ส่วนผลโพลที่เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ สมัยเป็นรัฐบาลนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกพรรคต้องมีจุดแข็ง จุดอ่อน แต่พรรคประชาธิปัตย์พยายามแก้ไขจุดอ่อน และพยายามเดินหน้าสนับสนุนโครงการที่พูดถึงอนาคตของประเทศ เพราะคนเบื่อหน่ายกับการเมืองที่ยุ่งในเรื่องของความขัดแย้ง ส่วนความเห็นที่ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำงานล่าช้านั้น ถือเป็นความพยายามของฝ่ายตรงข้ามที่พยายามเสนออะไรที่ซ้ำ ๆ ซึ่งจะเป็นภาพที่ติดตัวได้ แต่ก็พยายามที่จะลบภาพนี้ออกไปให้ได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เตรียมเร่งสรุปข้อมูลการเกณฑ์ทหารเพื่อถอดยศทางทหารว่า ถ้ามีการกลั่นแกล้งกัน ตนก็มีสิทธิตามกฎหมาย แม้ว่าจะมีการดำเนินการในช่วงเดือน พ.ย. ที่ใกล้กับช่วงเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจของรัฐบาล ก็จะไม่ส่งผลอะไรกับการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน

จ่อยื่นฟ้องดีเอสไอสอบสร้างสนามฟุตซอลโลก


ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่เป็นห่วงกรณีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่ง ขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ระหว่างวันที่  1-18 พ.ย. 55
แต่สนามแข่งขันที่เขตหนองจอก ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกทม. ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ทำให้พิธีเปิดการแข่งขันต้องย้ายมาจัดที่สนามรัชมังคลากีฬาสถานแทน  จนภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย
ดังนั้นผู้ว่าฯกทม.ต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น ตนจะเข้าไปตรวจสอบถึงการบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะทราบข้อมูลเชิงลึกว่า มีเรื่องการฮั้ว และการล็อคสเปคเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยบริษัทก่อสร้างมีปัญหาด้านการเงิน และขาดประสบการณ์ก่อสร้าง โดยจะยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) มาตรวจสอบ รวมถึงยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม. ด้วย
   

"เด็จพี่" ปูดสารพัดอักษรย่อขบวนการล้มรัฐบาล


ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ(ภตช.) นำหลักฐานเรื่องการไซฟ่อนเงินที่ฮ่องกงและฝรั่งเศสมาเปิดเผย  ยินดีตรวจสอบให้ แต่ไม่ใช่มากุข่าวหวังผลทางการเมือง โดยไม่มีหลักฐานเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลแล้วให้ฝ่ายตรงข้าม รัฐบาลนำไปขยายผล
เรื่องนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ให้นายมงคลกิตติ์ออกมาพูดเรื่องไซฟ่อนเงิน แล้วฝ่ายค้านนำมาขยายผล เพื่อโหมโรงทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลก่อนยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้รับมาว่า มีนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลชื่อย่อ “ส” ให้คนสนิทที่เป็นนักการเมืองอักษรย่อ “ถ” นำเงินไปให้ พล.อ. “อ” ที่สนามนางเลิ้ง เพื่อเป็นทุนเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อย่าคิดว่า รัฐบาลจะไม่รู้ รวมถึงการปล่อยข่าวทุจริตโครงการจำนำข้าวก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำเช่นกัน เพื่อหวังทำลายรัฐบาล
อยากถามฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลว่า จริงหรือไม่ที่มีการนำเงินไปให้ใครแถวสนามม้านางเลิ้งแล้วชักใยอยู่เบื้อง หลัง เพื่อหวังทำลายรัฐบาลตามแผนบันได 5 ขั้น ตั้งแต่เรื่องการไซฟ่อนเงิน การทุจริตงบน้ำท่วม การทุจริตนโยบายจำนำข้าว การนำเข้ารถหรู 6 หมื่นล้าน และเรื่องชายชุดดำ จึงขอประณามนักการเมืองและกลุ่มสูญเสียอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ระบุฝ่ายค้านมีข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเรื่องจำนำข้าว ถึงขั้นนายกรัฐมนตตรีและรัฐมนตรีกอดคอตายหมู่ร่วมกันว่า  เป็นแค่สีสัน วาทกรรมตามสไตล์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่มักประดิษฐ์ถ้อยคำทำลายน้ำหนักของ รัฐบาล แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาอภิปรายจริงคงไม่มีข้อมูล มีแต่การตัดแปะข่าว ขอท้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนพ.วรงค์ให้นำหลักฐานการทุจริตจำนำข้าวมาเปิดเผยก่อนการอภิปรายไม่ไว้วาง ใจ อย่าพูดลอยๆ ทราบว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านพยายามขอข้อมูลจากข้าราชการส่วนกลางและท้องถิ่นเพื่อหาความ ผิดปกติอะไรอยู่ ทั้งที่บอกว่ามีข้อมูลหมดแล้ว
ส่วนที่อ้างว่า นายกฯและรัฐมนตรีจะกอดคอตายหมู่นั้น ระวังจะถูกแฉกลับจับทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งในรัฐบาลที่แล้ว รวมถึงกรณีนายอภิสิทธิ์มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องในการสมัครเข้ารับราชการเป็น อาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า(จปร.) เชื่อว่าจะมีคนสวนกลับแทน สุดท้ายอาจต้องมาเก็บศพฝ่ายค้านแทน
   

สมุยเข้มระดมตำรวจ-ทหาร คุมถก ครม.


วันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในการประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ที่วิทยาลัยนานาชาติ การท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสุราษฎร์ธานี ว่า  มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสันติบาล และทหารจากกองทัพภาคที่ 4 รวมทั้งอาสาสมัครรักษาดินแดนกว่าพันนาย มีการตรวจวัตถุระเบิดรถยนต์ทุกคันตั้งแต่ประตูด้านหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย และมีการตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดบริเวณทางเข้า-ออกอาคารที่เป็นสถานที่ ประชุม ครม. โดยบุคคลที่จะเข้าออกจะต้องติดบัตรให้เห็นอย่างชัดเจน รวมทั้งมีการนำหุ่นยนต์ตรวจวัตถุระเบิดและวัตถุต้องสงสัยมาประจำการ นอกจากนี้ยังมีการนำสุนัขดมกลิ่นมาคอยตรวจตราโดยรอบพื้นที่ รวมทั้งมีการนำรถดับเพลิงมาเตรียมพร้อมหากเกิดกรณีฉุกเฉินด้วย

โดยเวลา 08.50 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึง โดยจอดรถบริเวณทางเข้าประตูมหาวิทยาลัย เพื่อลงไปรับหนังสือจากกลุ่มชมรมรักษ์ภูเก็ต นำโดยนายบุญศุภภะ ตัณฑัยย์ ประธานชมรม ที่นำมวลชนกว่า 30 คนมายื่นหนังสือคัดค้านการยกเลิกโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติฯ ภูเก็ต ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์สร้างรายได้เข้าประเทศ จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปทักทายอย่างเป็นกันเองกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจ

ทั้งนี้ก่อนเข้าประชุม ครม. นายกรัฐมนตรี ได้รับหนังสือจากนายประหยัด มีเพียร นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะสมุย ที่ขอให้รัฐบาลสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเมืองเกาะสมุย พ.ศ...ให้เป็นลักษณะของการปกครองแบบเมืองพิเศษ ซึ่งจะทำให้เกาะสมุยสามารถพัฒนาและสร้างรายได้ให้กับตัวเองเพิ่มมากขึ้น และได้รับหนังสือจากนายอนุสรณ์ วงศ์วิสุทธิเวช กรรมการสมาคมท่องเที่ยวเกาะสมุย ที่ขอให้เร่งพิจารณาและสนับสนุนงบประมาณเพื่อสร้างสนามบินของรัฐ (สนามบินนานาชาติ) ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับสากล ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้รับหนังสือพร้อมระบุว่าจะพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีภาคีเครือข่ายคัดค้านการขุดเจาะน้ำมัน อ.เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า ได้ยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ทบทวนโครงการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลี่ยม และโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เกาะทั้ง 3 แห่ง

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีปล่อยแตนเบียนกำจัดแมลงศัตรูมะพร้าว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของชาวเกาะสมุย โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตร รายงานว่า แตนเบียนจะสามารถไปกัดกินตัวอ่อนของแมลงดำหนาม หนอนหัวดำ ด้วงแรด และด้วงงวงมะพร้าว ซึ่งมีการระบาดสร้างความเสียหายครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.8 แสนไร่ทั่วประเทศ ขณะนี้ทางกรมวิชาการเกษตรได้ศึกษา และทดลอง หากเป็นผลดีจะขยายพื้นที่ปล่อยแตนเบียนเพิ่มขึ้น

ต่อมานายกรัฐมนตรีได้เข้ากราบนมัสการพระปลัดสมชาย อภินันโท เจ้าอาวาสวัดคงคาราม อ.เกาะสมุย และได้ร่วมตักบาตรเหรียญเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ในงานประเพณีชักพระ-ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว ซึ่งเป็นงานประจำปีของชาวเกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี โดยนายกรัฐมนตรีได้ตักบาตรเหรียญทั้งหมด 4 ถุง เป็นถุงทอง 2 ถุง และถุงเงิน 2 ถุง ๆ ละ 99 เหรียญ ร่วมกับ ครม. ซึ่งเจ้าอาวาสได้ปะพรมน้ำมนต์และให้ศีลให้พรให้เจริญรุ่งเรือง และบริหารประเทศสืบต่อไป

อย่างไรก็ตามทางการท่องเที่ยวเกาะสมุย ได้นำลิง “ไข่เล็ก” ซึ่งเป็นลิงแสนรู้ชื่อดัง เป็นลูกของลิง “ไข่นุ้ย” ซึ่งเป็นตำนานของลิงเกาะสมุย มาถือป้ายต้อนรับนายกรัฐมนตรี ในการเดินทางมาประชุมครม.ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปจับมือและหยอกล้อก่อนเข้าประชุม ครม. ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อคืนนอนหลับสบายดีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า นอนหลับดี แต่เหนื่อย.

“เสี่ยมิซูชิต้า” ใจป้ำเพิ่มสินบนจับชายชุดดำคดีละ 1 ล้าน


วันนี้ (22 ต.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสมหวัง อัสราษี รองประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่ง ชาติ (นปช.) เจ้าของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า "มิซูชิต้า" ยื่นหนังสือถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอเพิ่มเงินรางวัลนำจับให้กับผู้แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้าย ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ตั้งรางวัลนำจับไว้ 7 คดี คดีละ1 ล้านบาท  โดยตนจะขอเพิ่มรางวัลให้กับผู้แจ้งเบาะแสอีกรายละ 1 ล้านบาท เงินทั้งหมดเป็นเงินส่วนตัว เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับพยานที่จะให้ การและทำให้การทำงานของดีเอสไอมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากนี้เชื่อว่าจะมี แนวร่วมรายอื่นขอสมทบรางวัลนำจับเพิ่มเติมแต่อาจเป็นในรูปแบบของที่ดิน

ด้านนายธาริต  กล่าวว่า ไม่ขัดข้องและเป็นเจตนาของผู้ประสงค์ดีในการทำให้กระบวนการ ยุติธรรมเดินหน้าไปสู่การจับกุมคนร้าย ซึ่งจากการตรวจสอบข้อกฎหมายพบว่าสามารถทำได้ โดยผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงิน 2 ล้านบาท เมื่อสามารถแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์จนนำไปสู่การจับกุมคนร้าย ดำเนินคดีได้ ซึ่งที่ผ่านมาดีเอสไอเคยตั้งรางวัลนำจับในลักษณะนี้แต่ยังไม่ เคยมีบุคคลภายนอกมาร่วมสมทบเงินรางวัลนำจับ

“ดีเอสไอ” รุดสอบรองปลัด ยธ. ปล่อยข่าวไซฟ่อนเงิน


วันนี้ (22 ต.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าสอบปากคำ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ  รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณีถูกพาดพิงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าว กรณีไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทไปฮ่องกง โดย พ.ต.อ.นิรันดร์ เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำว่า เป็นขั้นตอนการค้นหาความจริงในชั้นสืบสวน ยังไม่มีการตั้งเป้าเอาผิดบุคคลใด แต่จำเป็นต้องสอบถามข้อเท็จจริงไปตามที่นายพร้อมพงศ์  นพฤทธิ์  โฆษกพรรคเพื่อไทย ร้องให้ตรวจสอบ พ.ต.อ.ดุษฎี ในฐานะที่ให้ข่าวเรื่องดังกล่าว หลังจากนี้จะเข้าสอบปากคำนายพร้อมพงศ์ในฐานะผู้ร้อง ก่อนพิจารณาว่าการสอบสวนจะเข้าข่ายฐานความผิดใดหรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงกับ พ.ต.อ.นิรันดร์ ตามที่เคยทำหนังสือชี้แจงต่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก   รมว.ยุติธรรม ไปก่อนหน้านี้ว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าวและไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าวคดีไซฟ่อน เงิน ทั้งนี้ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ต้องการเป็นพยานเรื่องนี้ หลังมีกระแส ข่าวดังกล่าวได้มีโอกาสพบนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือ ข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภชต.) เนื่องจากต้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการ ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง

ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการสอบปากคำ พ.ต.อ.ดุษฎี  ว่า เป็นเพียงขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรณีนายพร้อมพงศ์  ร้องเรียนกล่าวหานายมงคลกิตติ์   และพ.ต.อ. ดุษฎี  ปล่อยข่าวการไซฟ่อนให้เกิดความระส่ำระสายและความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถือเป็นคดี  จึงยังไม่มีการสอบสวนแต่เป็นเพียงการเชิญเข้าให้ข้อมูลเท่านั้น  ส่วนกรณีที่ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง  รองนายกรัฐมนตรี  เรียกตนและพ.ต.อ.สีหนาท  ประยูรัตน์  เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าพบในวันที่ 24 ต.ค. เวลา 14.00 น. ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นการเรียกประชุมในเรื่องใด  แต่คาดการณ์ว่าอาจมีการสั่งการให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว

วันเดียวกัน พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สังกัดสันติบาล เข้ายื่นหนังสือและเอกสารต่าง ๆ ถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลบุคคลและเครือข่ายรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โอนหรือรับโอนเงินต่างประเทศ อันเป็นการสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำการฟอกเงิน ให้ตำรวจดำเนินการ

พ.ต.ท.สันธนะ เปิดเผยว่า มายื่นหลักฐานในฐานะประชาชน ไม่ได้เป็นตัวแทนฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่ามีการตรวจพบการไซฟ่อนเงิน จำนวน 16,000 ล้านบาท จากประเทศไทยไปยังฮ่องกง โดยน่าจะเป็นการทุจริตเงินงบประมาณจากการบริหารราชการของรัฐบาล จากข้อมูลของตนคิดว่าไม่น่าเป็นการไซฟ่อนเงินที่ต้องใช้ช่องทางตามระบบของ สถาบันการเงินที่จะตรวจสอบได้โดยภาครัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายฝ่ายยืนยันว่าไม่มีข้อมูลธุรกรรมของเงิน

พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า หากยอดเงินดังกล่าวมีการถ่ายโอนจริงจะเป็นลักษณะการฟอกเงิน 16,000 ล้านบาท ซึ่งยอดเงินดังกล่าวไม่สามารถทำได้ในครั้งเดียว ต้องดำเนินการมาหลายเดือนแล้วซึ่งกลุ่มบุคคลและเครือข่ายดังกล่าวต้องมี กิจการเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ตนมีข้อมูลทราบว่ามีกลุ่มบุคคลบางคนที่พูดได้ว่าเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ของ ฮ่องกง เข้าไป

กทค.ปรับลดค่าบริการ3จีลง15–20%


วันนี้ (22 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกสทช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานกสทช.ได้ประกาศผลการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ตซ หรือใบอนุญาต 3 จี เมื่อวันที่ 18 ต.ค.55 ว่าวันนี้บอร์ดกทค.ได้ประกาศอัตราค่าบริการเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและกำกับ ดูแลการให้บริการทั้งประเภทเสียง และข้อมูล ของบริการ 3 จี ให้ลดลงไม่น้อยกว่า 15 – 20 %   ของอัตราค่าบริการในปัจจุบัน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวต่อว่า สำหรับประกาศนี้ส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้บริการมือถือและประเทศชาติได้รับ ประโยชน์ เมื่อคำนวณหากปรับลดราคาลง 15 % จากอัตราค่าบริการในปัจจุบัน ผลประโยชน์จะตกกับประชาชนเฉลี่ยเดือนละ 4,571.25 ล้านบาท หรือ 54,855 ล้านบาทต่อปี หรือรวม 15 ปี เป็นเงินทั้งสิ้น 822,825 ล้านบาท แต่หากคิดในอัตราที่ลดลงร้อยละ 20 ของอัตราค่าบริการปัจจุบัน ผลประโยชน์จะตกกับประชาชนเฉลี่ยเดือนละ 6,095 ล้านบาท หรือ 73,143 ล้านบาทต่อปี หรือ 15 ปี รวมเป็นเงิน 1,097,145 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามการปรับลดอัตราค่าบริการลง ได้อ้างอิงการวิเคราะห์ ศึกษาเงินประมูลของเอกชน เงินลงทุนโครงข่าย และอัตราค่าบริการ 3 จี รวม 3 ค่าย ได้แก่  บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ,  บริษัท โทเทิ่ล คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)  หรือ ดีแทค และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในอัตราค่าเฉลี่ย 899 บาท / เดือน  หลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมประมูล 3 ราย ภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการ และนำเสนอบอร์ด กทค. คาดว่าใช้ระยะเวลาดำเนินการทั้งหมด 22 วัน              
นายสุทธิพล ทวีชัยการ กสทช.ด้านกฎหมาย ระบุถึงกรณีการกล่าวหาการออกแบบประมูลเข้าข่ายพ.ร.บ.ด้วยการเสนอราคาคาต่อ หน่วยงานรัฐพ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) ว่าพร้อมเข้าชี้แจ้งทุกประเด็น เนื่องจากยืนยันได้ว่ากระบวนการได้ดำเนินอย่างรอบคอบ

“โตโน่ เดอะสตาร์” เผยอาการป่วย



วันนี้ (22 ต.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ชั้น 5 ห้อง อาร์ 515  โรงพยาบาลกรุงเทพ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากกรณีนักร้องนักแสดงหนุ่มชื่อดัง นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ เดอะสตาร์ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นลมพิษเฉียบพลันแบบรุนแรงลุกลามทั่วทั้งตัวโดยยังไม่ทราบสาเหตุ นั้น
ล่าสุดโตโน่ได้เปิดใจแก่สื่อมวลชนถึงความคืบหน้าอาการป่วยหลังเข้ารักษา ตัว ว่าสาเหตุหลักมาจากเพราะโหมงานหนักติดหลายวัน วันพฤหัส ไปถ่ายซิทคอมเรื่องนัดกับนัดตั้งแต่เช้า วันศุกร์ก็ตื่นเช้ามาถ่ายละครบ่วงวันวานอีก แล้วตอนเย็นก็ต้องไปเดินแบบ พอเดินแบบเสร็จก็กลับมาถ่ายซิทคอมต่อ
ตอนนั้นมีตุ่มขึ้น ก็เริ่มเกาที่คอเพราะนึกว่าไม่เป็นอะไรมาก  พอถ่ายเสร็จก็รู้แล้วเป็นเยอะ  จริงๆเหมือนเป็นอาการประจำตระกูลเพราะคุณพ่อเป็น แต่เป็นแล้วปกติทานยาทาคารามายก็จะหาย แต่ครั้งนี้คงทำงานหนักหลายวัน เพราะไม่อยากหยุดแล้วพักจะทำให้ทีมงานเสียเวลา อยากถ่ายให้เสร็จก่อน ไม่คิดว่าจะเป็นหนักจึงคิดว่ามาโรงพยาบาลให้คุณหมอฉีดยา แล้วขอเข้าพักที่โรงพยาบาลเพราะเราไม่ได้พักผ่อนเลยถือโอกาสนอนพักวันศุกร์ และเสาร์  ตื่นมาวันอาทิตย์จะได้ไปบวงสรวงหนังรักโง่โง่
แต่ปรากฏว่าตื่นมาลมพิษลามไปทั้งตัว ขึ้นหน้าแดงไปหมด  ออกกล้องไม่ได้  คุณหมอฉีดยาก็ยังขึ้นมาเพิ่มอีก เลยเจาะเลือดไปตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เราแพ้หนักขนาดนี้  แต่เบื้องต้นคุณหมอบอกว่าข้างในไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีไข้  แข็งแรงดี  แต่ที่อยากให้พักเพราะกลัวจะมีปัญหาอาการจากข้างนอกไปเกี่ยวข้องกับข้างใน อาจอันตรายแพ้หนักไปปิดหลอดลมหายใจได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะพักรักษาตัวนานแค่ไหนจึงจะออกจากโรงพยาบาลได้ นักร้องนักแสดงหนุ่ม กล่าวเพิ่มเติมว่า   ตอนนี้ขอพักอีก 1 สัปดาห์ รอให้คุณหมอสรุปว่าแพ้อะไร ใจอยากออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ  ครั้งนี้ถือว่าเป็นหนักที่สุดแล้ว  คุณแม่รู้ข่าวก็ตกใจเพราะข่าวเขียนว่าหามตนส่งโรงพยาบาล  ไม่ขนาดนั้นเลย  กะมาแค่ฉีดยาแล้วนอนคืนเดียวเท่านั้น
ต่อไปนี้คงไม่รอให้ร่างกายเป็นแบบนี้ คงต้องจัดเวลาพักก่อนให้พอมากขึ้น แต่เราเป็นคนรักงาน เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ในงานที่เรารักได้ไม่ใช่เรื่องง่าย  ตอนนี้รู้สึกห่วงงาน ห่วงแฟนคลับที่เป็นห่วงเรา ต้องขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ให้กำลังเป็น ได้อ่านจากทวิตเตอร์คนมาให้กำลังใจเยอะเลย  ขอบคุณกำลังใจที่ดีจะรีบหายเร็วๆ รีบไปเจอทุกคนแน่นอน
สำหรับโตโน่กำลังมีผลงานคือซิทคอมสองเรื่องนัดกับนัด และลูกพี่ลูกน้อง ทางช่อง 9  ละครเรื่อง บ่วงวันวาน คู่กับนางเอกสาว จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา ทางช่อง 5 และกำลังเริ่มต้นถ่ายทำภาพยนตร์สองเรื่องคือ รักโง่โง่ และเดอะเวย์ ที่มีกำหนดฉายปีหน้า

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources