วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“มาร์ค”จวกรัฐสร้างปัญหาจ้องเลื่อนกม.ปรองดองให้สภาถก


วันนี้ ( 21 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประจำตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่าในการประชุมสภาววันที่  23 ส.ค.นี้จะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ขึ้นมาพิจารณา ว่า  ไม่ควรจะมาสร้างปัญหาตอนนี้ เราอยากให้ถอนออกไปเรื่องจะได้จบ เพราะตนได้บอกแล้วว่าการค้างร่าง พ.ร.บ.ไว้ก็จะสร้างปัญหาให้ต้องมาคอยติดตามและลุ้นทุกอาทิตย์ว่าจะเข้าสภาฯ หรือไม่  แต่โดยข้อบังคับการประชุมถ้าจะหยิบขึ้นมาพิจารณาก็ต้องเป็นสัปดาห์หน้า เพราะการประชุมสภาฯในสัปดาห์นี้ยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ต้องพิจารณา ส่วนที่มีการเสนอให้ฝ่ายค้านยื่นร่างประกบนั้น ตนเห็นว่าเป็นความพยายาม ที่จะทำให้เกิดความสับสน เพราะใครยื่นร่างประกบเข้าไปจะเนื้อหาสาระดีอย่างไร สุดท้ายเมื่อพิจารณารวม เขาก็จะเอาร่างของรัฐบาลเป็นหลัก

 “เราจะเสนอกฎหมายเข้าไปประกอบก็ต่อเมื่อเราเห็นด้วยในสาระหลัก ซึ่งกรณีนี้เราไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ล้างผิดคนโกง มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะให้พรรคอื่นเสนอเข้าไป ซึ่งไม่มีความเป็นไปได้อยู่แล้วที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์จะเสนอ ผมคิดว่าวันนี้สังคมมาไกลกว่าที่คุณวัฒนาพูดแล้ว ที่บอกว่าชื่อปรองดองก็แปลว่าดี ซึ่งสังคมเขาดูจากเนื้อหาสาระ และถ้ารัฐบาลยังเดินหน้าก็จะเป็นความขัดแย้งต่อไป วันนี้รัฐบาลควรเอาเวลามาคิดแก้ปัญหาเศรษฐกิจ  และปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ดีกว่า จะเอาประโยชน์การเมืองและผลประโยชน์ของคนไม่กี่คนมาทำเพื่ออะไร แต่คงยากเพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังต้องการตัวนี้อยู่ คงต้องทำให้คนที่อยู่ที่นี่ตอบสนอง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

“วิเชียร”ปัดข่าวถูกโยกนั่งปลัดคมนาคม


วันนี้ ( 21 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เปิดเผยว่า วันนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ได้มีการประชุมภายในเพื่อหารือถึงโครง สร้างของศูนย์ปฎิบัติการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.จชต.) หลังจากที่พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศปก.จชต. มอบให้ สมช.ไปดำเนินการจัดทำโครงสร้างของศูนย์นี้มีการประสานงาน โดยไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน และให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย ซึ่งวันนี้จึงได้เชิญตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาร่วมประชุมด้วย ทั้งนี้ ตนมอบนโบายต่อที่ประชุมสมช.ให้เน้นการติดตามสถานการณ์ ประสานงาน และประชาสัมพันธ์การทำงาน รวมทั้งบูรณาการงานการข่าว

มื่อถามกรณีที่สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) ภายใต้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) แสดงความเห็นไม่เห็นด้วยกับการตั้ง ศปก.จชต. พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า  เราต้องฟังความเห็นของ สปต.ด้วย เพราะตามพ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 มาตรา 4 ได้กำหนดให้สมช.ต้องรับฟังความเห็นของสปต. เราจึงต้องฟังความคิดและพูดคุยกับเขาเพื่อประกอบการพิจารณาและทำให้การทำงาน เป็นไปอย่างสอดคล้องกัน

พล.ต.อ.วิเชียร ยังให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะถูกย้ายจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความ มั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ไปเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อเปิดทางให้คนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาทำหน้าที่แทน ว่า ตนไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องนี้

"ปู"ปัดตอบไม่จัดการพี่ชายระหว่างไปสหรัฐฯ


วันนี้ ( 21 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ถึงกรณีที่กลุ่มกรีนยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เอาผิดกับนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในระหว่างเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ว่า ทุกอย่างต้องขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการอะไรหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นิ่ง และไม่ตอบคำถามใด ๆ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเตรียมแถลงผลงานครบ 1 ปีของรัฐบาลว่า กำลังดูอยู่ เพราะตามขั้นตอนกฎหมาย และข้อบังคับสภาฯ ต้องรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งวันนี้ทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กำลังรวบรวมอยู่ หลังจากที่ได้ข้อมูลแล้วก็จะรีบนำเสนอต่อสภาต่อไป ส่วนที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะแถลงผลงานให้สื่อมวลชนได้ทราบก่อนในวันที่ 25-26 ส.ค.นี้นั้น ไม่ใช่การแถลงผลงานรัฐบาลครบ 1 ปี  เรื่องนี้อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน คงเป็นการแถลงให้ประชาชนได้ทราบถึงความคืบหน้าในนโยบายที่เกี่ยวกับการหา แหล่งเงินทุนและกองทุนต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ออกเป็นโยบายไปแล้วหลายเรื่อง  เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สิทธิของตัวเองอย่างเต็มที่ และตรงกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

เมื่อถามว่าการแถลงผลงานครบ 1 ปีจะทำได้ทันสิ้นเดือน ส.ค.นี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังดูอยู่ อย่างไรก็ตามความจริงรัฐบาลก็ได้มีการชี้แจงเป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

620ผู้ค้าจตุจักร ร้องศาลปกครอง


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ นายสงวน ดำรงไทย กับพวกรวม 620 คน ได้มอบอำนาจให้นายวิชาญ ดวงฤทธิ์ เป็นผู้ดำเนินการแทน กรณียื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอออกคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนที่ศาล มีคำพิพากาษา โดยห้ามมิให้การรถไฟแห่งประเทศไทย นายยุทธนา ทัพเจริญ และนายจรัสพันธ์ วัชโรทัย ผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ตามลำดับ กระทำการใดอันเป็นการรบกวนการค้าขายของผู้ฟ้องคดีทั้ง 620 คน  เพราะเนื่องจากเห็นว่าผู้ถูกฟ้องทั้ง 3 ไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่จะกระทำการออกประกาศและแจ้งให้บุคคลใดเข้าทำสัญญาเช่าในแผงค้าขาย ของผู้ฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งการกระทำดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมอันไม่สุจริต ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 ในการสร้างความเดือดร้อน เสียหาย ให้แก่ผู้ฟ้องคดี ซึ่งเป็นประชาชน ประกอบอาชีพค้าขายโดยสุจริต

จึงอยากขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 ออกประกาศที่ จต.803/2555 ลงวันที่ 10 ส.ค.55 และห้ามออกประกาศในลักษณะเดียวกันกับประกาศดังกล่าว และให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 แจ้งเพิกถอนประกาศดังกล่าวและรายละเอียดรายชื่อแผงค้าบัญชีแนบท้ายประกาศ ฉบับลงวันที่ 10 ส.ค.55 จนกว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 จะมีคำพิพากษาของศาลมาแสดง ว่าศาลได้มีคำพิพากษาให้ขับไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากการเป็นผู้ค้าแผงค้าในตลาด นัดจตุจักรแล้ว หรือไปจนกว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีนี้แล้ว ดังนั้นผู้ฟ้องทั้ง 620 คน จึงขอให้ศาลไต่สวนคำร้องนี้เป็นกรณีเร่งด่วนฉุกเฉินด้วย เพื่อมิให้เกิดความเดือดร้อน เสียหาย อันมิอาจเยียวยาในภายหลังได้

ครม.เตรียมทำโครงการไซฟ่อนน้ำที่บางโฉมศรี



วันนี้ ( 21 ส.ค.)  ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุมครม.ได้รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบ อ.) และมีมติอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมให้กับกรุงเทพมหานคร(กทม.) และกรมชลประทาน รวมประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งมาจากงบประมาณตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้าง อนาคตประเทศ พ.ศ.2555 จำนวน 350,000 ล้านบาท โดยจัดสรรให้กทม.ได้รับประมาณ 128 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อเครื่องสูบน้ำชนิดจุ่ม 3 ขนาด จำนวน 30 เครื่อง และจัดสรรให้กองทัพเรือ 19.85 ล้านบาท ในรายการเรือผลักดันน้ำขนาด 100,000 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวัน ต่อลำ จำนวน 10 เครื่อง อีกทั้งให้กรมชลประทานที่ของบประมาณเพื่อใช้ในการติดตั้งตะแกรงกันขยะและแพ ลูกบวบสำหรับเครื่องสูบน้ำในตำแหน่งเดิม ประมาณ 249 ล้านบาท ใช้จ่ายจากเงินที่ส่วนราชการส่งคืนงบประมาณ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ 120,000 ล้านบาท ทั้งนี้แม้จะมีการดึงงบประมาณจากในส่วนของ 350,000 ล้านบาทไปใช้บ้างแล้ว แต่เราได้กันเงินงบประมาณ 300,000 ล้านบาท เพื่อใช้จัดทำโครงการขนาดใหญ่ในการจัดทำระบบน้ำทั่วประเทศแล้ว

นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่กรมชลประทานของบประมาณเพิ่มอีกประมาณ 603 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการทำท่อลอดระบายน้ำ(ไซฟ่อน)ที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี 263.79 ล้านบาท และโครงการประตูระบายน้ำ/สถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ จ.ปทุมธานี 340 ล้านบาทนั้น ถูกเลื่อนให้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ เพราะเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่าส่งเรื่องไม่ทันครั้งนี้ โดยทั้ง 2 โครงการนี้จะเข้าสู่การพิจารณาครม.ครั้งต่อไป พร้อมกับการจัดสรรงบประมาณ ราว 110 ล้านบาท ให้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการสร้างแนวเขื่อนกั้นน้ำที่มีความสูงระดับ น้ำทะเลปานกลาง 5 เมตร ป้องกันพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย(เอไอที) รวมถึงสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)

นายชลิตรัตน์  จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงถึงสถานการณ์น้ำ ว่า ในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) จะให้การไฟฟ้าปล่อยน้ำในเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี โดย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รายงานในที่ประชุม ครม. และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณ แม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแควใหญ่ จ.กาญจนบุรี ว่าในสัปดาห์หน้าเขื่อนวชิราลงกรณ์และเขื่อนศรีนครินทร์ จะปล่อยน้ำมากกว่าปกติ เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก ดังนั้น การปล่อยน้ำอาจจะส่งผลกระทบกับรีสอร์ทและแพในบริเวณดังกล่าว จึงขอให้เตือนประชาชนที่อยู่ตามแนวเขื่อนให้ระมัดระวังด้วย

ป.ป.ช.เลื่อนฟันซีทีเอ็กซ์28ส.ค.



วันนี้ ( 21 ส.ค.) นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมป.ป.ช.มีความเห็นให้เลื่อนการพิจารณาสำนวนการสอบสวนในคดีการจัด ซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดและการก่อสร้างระบบสายพานลำเลียง กระเป๋า (ซีทีเอ็กซ์ ) ในสนามบินสุวรรณภูมิออกไปเป็นในวันที่28ส.ค. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแปลเอกสารจากอัยการและหน่วยงานยุติธรรมของ สหรัฐอเมริกาบางส่วนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จก่อน สำหรับประกอบการลงมติอีกครั้ง นอกจากนั้นจากการตรวจสอบสำนวนยังมีกรณีเจ้าหน้าที่รัฐมีเหตุทำความผิดอีกบาง ฐาน โดยเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ของไทยไปยุ่งเกี่ยวตัวแทนจำหน่ายเครื่องซีที เอ็กซ์ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แต่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ไม่ได้ตั้งเรื่องมาแต่แรก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง 7-8 ราย

นายวิชัย กล่าวว่า สำหรับคดีนี้อัยการสูงสุดได้มีความเห็นไม่สั่งฟ้องต่อศาลทำให้ต้องมีการตั้ง คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดและปปช.เพื่อพิจารณาอีกครั้งแต่ปรากฎว่า อัยการยังยืนที่จะมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง ทำให้ป.ป.ช.ต้องนำสำนวนกลับมาพิจารณาว่าจะดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลเองหรือ ยุติการฟ้องคดีตามความเห็นของอัยการสูงสุด

นายกฯห่วงภัยแล้งเร่งทำฝนหลวง


วันนี้ ( 21 ส.ค.)  ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงการก่อนการประชุมว่า มีความเป็นห่วงปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ฝนทิ้งช่วงและภัยแล้งในอีสานและภาคใต้ ที่ผ่านมา โดยมีการสั่งการมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส.) ร่วมทำงานในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ สั่งให้สำนักงานฝนหลวงใช้สารพิเศษเพิ่มเติมในฝนหลวง และมอบให้กรมชลประทานเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่1,400 เครื่อง ส่วน ทส.นั้น  มอบให้กรมทรัพยากรน้ำเตรียมเครื่องสูบน้ำ 300 เครื่องในภาคอีสาน และส่งรถผลิตน้ำดื่มลงพื้นที่ ที่ จ.นครศรีธรรมราชและ จ.พัทลุง พร้อมทั้งเตรียมเครื่องสูบน้ำระดับจังหวัดช่วยเหลือเกษตรกร กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเตรียมรถเจาะบ่อบาดาลไปช่วยเหลือประชาชน   ส่วนกระทรวงมหาดไทยได้ประชุมผู้ว่าฯพื้นที่ฝนทิ้งช่วง คือ จ.นครศรีธรรมราช  พัทลุง สุรินทร์ บุรีรัมย์ โดยมอบจังหวัดดูแลประชาชนรวมทั้งเร่งตรวจสอบพื้นที่ที่ฝนทิ้งช่วง ที่ต้องเร่งช่วยเหลือ และยังกำชับระดับอำเภอและส่วนท้องถิ่นไปแจ้งให้ประชาชนทราบสภาพอากาศ ปัจจุบันและความช่วยเหลือของจังหวัดนั้นๆ โดยต้องดำเนินการชวยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังในการช่วยเหลือประชาชนให้ ทันท่วงทีอย่างรวดเร็วและโปร่งใส

ศาลปค.ไฟเขียวรื้อบ้านทะเลหมอกรุกอุทยานแห่งชาติทับลาน


วันที่ 20 ส.ค. ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่ขอให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาสั่งระงับการ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท ตามคำสั่งของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ในชั้นการไต่สวนยังฟังไม่ชัดเจนว่าคำสั่งของนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ให้นางวไลลักษณ์ วิชชาบุญศิริ และห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านทะเลหมอก ผู้ฟ้องคดี ทำลายหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 และคำวินิจฉัยของอธิบดีกรมอนุทยานแห่งชาติที่ให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด อีกทั้งการที่จะพิจารณาว่าคำสั่งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้นเป็น ประเด็นเกี่ยวกับเนื้อหาแห่งคดีที่ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาแสวงหาข้อ เท็จจริงต่อไปตามระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่า ด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ซึ่งไม่อาจมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่งในประเด็นดังกล่าวในชั้นนี้ได้

ขณะที่การให้คำสั่งทางปกครองดังกล่าวมีผลใช้บังคับต่อไปก็ไม่เป็นเหตุทำ ให้เกิดควยามเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังแก่ผู้ ฟ้องคดี เนื่องจากผู้ฟ้องคดี อาจขอให้ศาลกำหนดให้ชดใช้ค่าเสียหายแทนได้ อีกทั้งปัจจุบันนายเทวินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ออกคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างกรณีการบุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลานที่ได้ ดำเนินคดีอาญาไปแล้วจำนวน 49 รายและมีการฟ้องเรียกค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมทุกคดี หากศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าว อาจทำให้เกิดปัญหาโต้แย้งการออกคำสั่งอื่น ๆ ของนายเทวินทร์ และมีผลกระทบต่อการดูแลรักษาพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์และเป็นมรดกโลก การให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าวย่อมเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของ รัฐหรือแก่บริหารสาธารณะ จึงให้ยกคำร้องขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองที่ผู้ฟ้องคดีร้องขอ.

“เฉลิม” ลั่นเอาจริงเอาจังปราบยาบ้าคุกเมืองคอน


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการจับกุมยาบ้าในเรือนจำ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งซุกอยู่ในกล่องนมแลคซอย ว่า เรื่องนี้เป็นกระบวนการ ซึ่งมีการทำกันอย่างนี้บ่อย ๆ  แต่ที่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้เอาจริงเอาจัง พอมาถึงรัฐบาลชุดนี้เอาจริงเอาจังก็จับได้ตลอด ปัญหายาเพสติดต้องดำเนินการครั้งใหญ่ โดยในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ ตนจะไปประชุมครั้งใหญ่ในพื้นที่ 9 หรือ 11  จังหวัดภาคเหนือ และจะไปตรวจบริเวณชายแดนที่ทางกองทัพบกได้นำรั้วลวดหนามไปกั้นให้ด้วย ยืนยันว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรึงสถานการณ์ยาเสพติดได้ เมื่อถามว่าแต่ปัญหายาเสพติดในเรือนจำนครศรีธรรมราชมีกลุ่มอิทธิพลเข้ามา เกี่ยวข้อง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็ต้องทำลายล้างกันต่อไป ไม่เกรงกลัวอิทธิพล จะใหญ่อย่างไรก็ยอมไม่ได้
ส่วนที่มีการตั้งค่าหัวผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัด 15 ล้านนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนได้บอกกับทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดไป และได้คุยกับ ผวจ.นครศรีธรรมราชไปเมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค.แล้วว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องอย่าไปทำอะไรให้ประชาชนตกใจ  เมื่อมีหน้าที่ ถึงคราวตายก็ต้องตาย แต่ไม่ควรจะมาพูดว่ามีคนมาขู่ ต้องทำงานต่อไป ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะผวจ.ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เอาจริงเอาจัง ยืนยันว่าครั้งนี้ต้องทำการปราบปรามกันครั้งใหญ่.

เต้น วอนแดงชุมนุมอย่างสงบวันพิจารณาคดี


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำนปช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลอาญานัดฟังคำพิจารณาเพิกถอนการ ประกันตัวแกนนำนปช.ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ว่า แกนนำได้มีการทำความเข้าใจกับมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจว่า ขอให้คนที่มาให้กำลังใจทำตามหลักเกณฑ์แนวทางปฏิบัติที่ศาลได้ระบุไว้อย่าง เคร่งครัด สำหรับแกนนำที่เป็น ส.ส.ที่เลื่อนฟังคำตัดสินไปเป็นวันที่ 29  พ.ย.นั้นบางส่วนก็อาจจะเดินทางมาให้กำลังใจเพื่อนแกนนำ ส่วนคนที่นัดฟังคำพิจารณาในวันที่ 22 ส.ค.ทั้ง 19 คนนั้นทราบว่า 18 คนศาลไต่สวนเสร็จแล้ว มีเพียงนาย ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ที่จะต้องส่งหลักฐานเพิ่ม จากนั้นศาลคงจะนัดอ่านคำวินิจฉัยพร้อมกันในช่วงบ่าย
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนยังมั่นใจว่าศาลจะเมตตาให้โอกาสทุกคนได้มีอิสรภาพ ซึ่งอาจจะมีเงื่อนไข หรือหลักปฏิบัติเพิ่มเติมหรือไม่ อันนี้คงต้องรอฟัง จะเป็นบวกหรือลบพวกตนก็น้อมรับคำวินิจฉัยของศาล เคารพและจะปฏิบัติตาม ส่วนกรณีนายยศวริศ ก็ได้มีการคุยกันตลอด ศาลอาจจะติดใจเรื่องที่ขึ้นเวทีแล้วไปประกาศหมายเลขโทรศัพท์ศาล และครอบครัว โดยนายยศวริศได้เตรียมคลิปที่ได้ประกาศขอโทษบนเวทีและห้ามปรามไม่ให้ประชาชน ไป คุกคาม ซึ่งที่ผ่านมาโฆษกศาลก็แถลงแล้วว่าไม่ได้ติดใจ และไม่มีกลุ่มบุคคลไปคุกคามครอบครัวตุลาการด้วยกรณีดังกล่าวด้วย
เมื่อถามว่าจะเป็นบทเรียนให้แกนนำในการขึ้นเวทีต้องมีความระมัดระวังมาก ขึ้นหรือ ไม่ นายณัฐวุฒิ  กล่าวว่า แน่นอนว่าความรอบคอบเป็นเรื่องที่เราต้องตระหนักอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะสถานการณ์ทางการเมืองยังอยู่ในช่วงของความขัดแย้ง โดยเฉพาะพวกตนก็อยู่ในฐานะผู้ที่ถูกดำเนินคดีอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา ดังนั้นสิ่งใดก็ตามที่ละเอียดอ่อนต่อกรณีดังกล่าวเราก็ต้องรอบคอบระมัด ระวัง  แต่ตนเห็นว่ามันค่อนข้างแตกต่างกับกรณีเดียวกันที่เกิดขึ้นกับฝ่ายตรงข้าม เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ก็ถูกกล่าวหาบงการสั่งฆ่าประชาชน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีพันธะทางคดีใดๆ แม้ว่าล่าสุดศาลจะมีหมายเรียกไปเบิกความในฐานะพยานไต่สวนการเสียชีวิตของ ประชาชนหลายราย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ พูดมาตลอด 2 ปีกว่าๆ ว่าพร้อมและบริสุทธิ์ใจ ก็ยังขอเลื่อนไปอีก 2 สัปดาห์ค่อยขึ้นให้การ โดยอ้างว่าต้องเตรียมข้อมูล ดูประเด็นรายละเอียดก่อน ตนก็ประหลาดใจเพราะนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ พูดทุกวันพูดทุกเวที พูดจนขึ้นใจ พูดจนอ้าปากคนก็เห็นลิ้นไก่ว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับกรณีนี้ แต่พอถึงเวลาที่ศาลเรียกให้ไปเป็นพยานเท่านั้น กลับออกอาการ หน่วงเหนี่ยวดึงเวลา ตนจึงอยากจะเรียกร้องให้มีความกล้าหาญเหมือนที่ปากกล้าและเดินไปพูดความจริง ในศาล ไม่ใช่เฉพาะคนไทยอยากได้ยิน แต่คนทั้งโลก อยากได้ยินเสียงนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพหน้าบัลลังก์ศาลว่าจะอธิบายอย่างไรเกี่ยวกับกรณีนี้.

แค่จูงหมาเข้าบาร์ ก่อเหตุฝรั่งแทงฝรั่งดับ


เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พ.ต.ท.สมคราม ปั้นเอี่ยม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติใช้อาวุธมีดแทงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงแรมอริก้าลอดจ์ ในซอยไดอาน่า พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผกก.ป. นำกำลังตำรวจและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบร่างผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือนายโรเบิร์ต อี. ฮอลลิค อายุ 43 ปี สัญชาตินิวซีแลนด์ นอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ที่พื้นมีบาดแผล ถูกของมีคมแทงเข้าที่ไหปลาร้าซ้ายและหลังจนเป็นแผลฉกรรจ์รวม 2 แผล อาการสาหัส หน่วยกู้ภัยฯจึงรีบนำตัวส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล เพื่อให้แพทย์ช่วยรักษา แต่ภายหลังทนพิษบาดแผลไม่ไหวทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนผู้ก่อเหตุเป็น 2 สามี-ภรรยาซึ่งได้ถูกพลเมืองดีควบคุมตัวไว้ได้ในสภาพมึนเมา ทราบชื่อต่อมาคือนายอันเดรอาส ริงวัน อายุ 40 ปี สัญชาติสวีเดน (มือมีด) กับ น.ส.ดาว ผลอุตสา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 10 ต.หนองตะครอง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางอาวุธมีดปลอกผลไม้เปื้อนเลือด 1 เล่ม

จากการสอบสวนนาย นางศุภิสภา เวชสุวรรณ อายุ 47 ปี แม่บ้านร้านอรบาร์ ตั้งอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุให้การว่า ระหว่างที่นายอันเดรอาส กับ น.ส.ดาว นั่งดื่มเบียร์ที่บาร์ นายโรเบิร์ต ซึ่งเป็นลูกค้าประจำและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี ได้จูงสุนัขพันธุ์ปั๊ก ชื่อเจ้าเซเว่น เข้ามาในบาร์แล้วถามนายอันเดรอาส ว่า “เอาหมาไหม” แต่นายอันเดรอาส ไม่ชอบและออกอาการหงุดหงิด นายโรเบิร์ต จึงด่าไปว่า “ฟักยู” ทำให้ทั้งคู่เกิดการโต้เถียงกันขึ้น พวกตนจึงช่วยกันห้ามปรามจนต่างคนต่างแยกย้ายออกจากร้าน แต่พอเวลาผ่านไปไม่นาน นายอันเดรอาส กับ น.ส.ดาว ได้ย้อนกลับมาและถามหานายโรเบิร์ต แต่ไม่มีใครบอก ทั้งคู่จึงเดินจากไปกระทั่งไปพบนายโรเบิร์ต เดินจูงหมาสวนทางมาจึงใช้อาวุธมีดแทงจนบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหากับ 2 ผัวเมียในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

โจรใต้วางแผน3ชั้น ฆ่าทหารเป็นเหยื่อล่อ


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.  ร.ต.ต.รัชตะ นวลหอม ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานและชาวบ้านเสียชีวิตและได้รับบาด เจ็บ รวม 3 ราย เหตุเกิดขึ้นบริเวณข้างกำแพงรั้วของโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ หมู่ 4 และคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดดักสังหารนายสุริยา อาแวกือจิ ปลัดอำเภอระแงะ จำนวน 3 ลูกซ้อน ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 ก.ม. จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษฏา แก้วจันทร์ดี รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 นายอรุณ ศรีใส ปลัดอาวุโส อ.ระแงะ ร.ต.ท.นัฐวิทย์ บำเพ็ญศรี รอง หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบนถนนพบหลุมระเบิด จำนวน 3 จุด ซึ่งห่างกันจุดละ 10-15 เมตร และลึกขนาดใกล้เคียงกัน 2.50 เมตร กว้าง 3 เมตร และทั้ง 3 จุด มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุ้ง ต้ม หนักลูกละ 50 ก.ก. ตกกระจายเกลื่อนบนถนนและทุ่งนา ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังจุดที่คนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสีย ชีวิต เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะ อีซูซุ สีบรอนส์ทอง ทะเบียน บง-7193 นราธิวาส ซึ่งเสียหลักพุ่งชนรั้วกำแพงของโรงเรียนกูจิงลือปะได้รับความเสียหาย ภายใน พบศพ จ.ส.อ.บังเอิญ พันธุ์อยู่ อายุ 39 ปี สังกัด กองร้อยทหารพรานที่ 4515 กรมทหารพรานที่ 45 นอนจมกองอยู่อยู่ที่บริเวณเบาะหน้า และมีร่องรอยถูกกระสุนปืนเอ็ม.16 เข้าที่บริเวณศรีษะและลำตัวจนพรุนไปทั้งร่าง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย พลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลระแงะไปก่อนหน้าแล้ว คือ 1. นายนิโซ๊ะ อีดือเระ อายุ 42 ปี สมาชิก อบต.เฉลิม อ.ระแงะ ถูกยิงที่บริเวณกลางหลังและลำตัว 2. นายสมจิตร ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นชาวบ้านกูจิงลือปะ ซึ่งถูกกระสุนปืนของคนร้ายชนิดและขนาดเดียวกันที่บริเวณสีข้าง ทั้งคู่อาการสาหัส

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พ.อ.เฉลิมชัย ได้สั่งการให้ จ.ส.อ.บังเอิญ เดินทางเข้าไปสำรวจเพื่อมอบรถเข็นให้กับผู้พิการในหมู่บ้านกูจิงลือปะ โดย จ.ส.อ.บังเอิญ ได้มีการนัดแนะกับนายนิโซ๊ะและชาวบ้าน เพื่อร่วมเดินทางไปสำรวจร่วมกัน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบข้างกำแพง รั้วของโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ และยิงใส่รถกระบะที่ จ.ส.อ.บังเอิญ ขับผ่านมา ก่อนพากันหลบหนีไป

ต่อมานายสุริยา ปลัดอำเภอระแงะ ได้รับแจ้งเหตุ จึงได้นำกำลัง อส.ที่ว่าการอำเภอระแงะ รวม 6 นาย เพื่อเดินทางเข้าไปพิสูจน์และช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อถึงบริเวณทุ่งนา คนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในปารกทึบกลางทุ่งนา ได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้กลางถนนทีละ 1 ลูก รวม 3 ลูก  ในขณะที่รถกระบะที่นายสุริยา นั่งมาจอดอยู่ระหว่างกลางของระเบิดทั้ง 3 จุด แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป

และเมื่อเวลา 13.30 น. ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบจุดเกิดเหตุอยู่นั้น ได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขี่รถ จยย.เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนอา.ก้า.ยิงใส่ อส. จำนวน 2 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บริเวณจุดตรวจบ้านลูโบ๊ะกาเยาะ ม. 5 ต.เฉลิม ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 ก.ม. ที่กำลังอำนวยความสะดวกคณะของเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบเหตุ ส่งผลทำให้ อส. อาดือนัน สาและ อายุ 34 ปี เสียชีวิต และ นายมาหามะ เจ๊ะวา อายุ 41 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านลูโบีกาเยาะ ต.เฉลิมได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยพลเมืองดีที่อยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุได้นำตัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาด เจ็บส่งโรงพยาบาลระแงะเป็นการเร่งด่วนแล้ว

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 3 เหตุการณ์ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ที่ได้มีการวางแผนไว้เป็นการอย่างดีเพื่อก่อเหตุส่งท้ายวันฮารีรายอ ที่ต้องการให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความวุ่นวายตามคำประกาศที่ได้ มีการข่มขู่ไว้.

ป่าไม้จัดชุดไล่ล่าเสือ เห็นรอยเท้าชาวระยองผวา


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.นายทิวา พรหมอินทร์ นายอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมด้วยนายพิบูลย์ ไชยคุณ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญงาน และนายจีระศักดิ์ ทิพย์มูสิก นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เดินทางมาที่ อบต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เข้าพบนายปราโมทย์ ฉันทมิตร์ นายกอบต.หนองละลอก เพื่อวางแผนในการไล่ล่าเสือที่มากัดสุนัขของชาวบ้าน หมู่3 และ หมู่ 4 ต.หนองละลอก หลังมีชาวบ้านพบเห็นและกัดสุนัขตายหลายตัว จนทำให้ชาวบ้านผวาไม่กล้ามากรีดยาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น  โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำกรงกับดักมาดักเสือไว้ในสวนยาง พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่เวรยามเพื่อให้ชาวบ้านสบายใจและมากรีดยางตามปกติ
นายทิวา กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบร่องรอยว่าเป็นเสือหรือไม่ พร้อมกับนำกับดักมาวางดักเสือและได้ให้ทาง อบต.จัดเวรยามเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านนั้นถูกเสือกัดได้ จากการตรวจสอบของปศุสัตว์อำเภอ พบว่าสุนัขนั้นตายจากการถูกกัดบริเวณลำคอ และลำตัว มีร่องรอยการต่อสู้ มีคราบเลือด ซึ่งเชื่อได้ว่าสุนัขนั้นถูกทำร้ายจากสัตว์ด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและวางแผนในการไล่ล่า จับต่อไป

ด้านนายพิบูลย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบร่องรอยที่คาดว่าน่าจะเป็นเสือนั้น ซึ่งร่องรอยนั้นเป็นรอยเท้าคล้ายของสุนัข ซึ่งไม่ใช่เสือเพราะอุ้งเท้าเสือจะมีขนาดใหญ่กว่า และจากการสอบถามชาวบ้านว่าพื้นที่นี้เคยจับสัตว์อะไรได้บ้าง และชาวบ้านได้บอกว่าเคยจับชะมดได้หลายตัว และคาดว่ารอยเท้าและร่องรอยการต่อสู้คาดว่าน่าจะเป็นชะมด หรืออาจจะเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่เช่นพันธุ์ร็อตไวเลอร์ แต่ความเป็นไปได้นาจะเกิดจากชะมดต่อสู้กับสุนัขมากกว่า เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีลักษณะคล้ายกับกรณีนี้คือชะมดได้ออกมากัดสุนัขตาย โดยไม่มีการกินเนื้อและมีร่องรอยการต่อสู้ของสุนัขกับชะมด ซึ่งสุนัขไม่สามารถสู้ชะมดได้ เพราะโดยปกติเสือกับสุนัขนั้นจะไม่เข้าใกล้กันอยู่แล้ว และพื้นที่ในสวนยางนั้นไม่ใช่พื้นที่ๆเสือจะออกมาเพ่นพ่านหรือหากินได้ เพราะเสือจะอยู่ในทุ่งหญ้าโล่ง และวิ่งไล่ล่าเนื้อในพื้นที่ๆมีสัตว์ป่าอยู่ชุกชุมมากว่าที่จะอยู่ในสวนยาง
แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความสบายใจของชาวบ้าน จึงได้เตรียมกรงดักสัตว์ไว้จนกว่าจะดักสัตว์ที่เป็นปริศนาตัวนี้และจะนำส่ง ไปที่ศูนย์เพาะพันธ์เลี้ยงสัตว์ป่าต่อไป และให้ชาวบ้านระวังตัวและเวลากรีดยางให้มีเพื่อนออกมากรีดยางด้วย ถ้าพบสัตว์ที่ต้องสงสัยให้แจ้งไปยัง อบต.หนองละลอก ทันที ซึ่งจะมีชุดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อไล่ล่าสัตว์ปริศนาตัวนี้ต่อไป

เติ้งมึนปมฆ่าลูกชาดา เผยคนร้ายกะฆ่าพ่อ


กรณีคดีคนร้ายประกบยิงนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชายของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นนักการเมืองที่มีความกว้างขวางอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เมื่อวันที่ 21 ส.ค.นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีลอบยิงรถนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนาว่า ตนเพิ่งทราบ ยังไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไรจึงได้มอบหมายให้นายสมศักดิ์  ปริศนานันทกุล และนายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางไปร่วมพิธีศพของบุตรชายนายชาดา โดยขอให้นายสมศักดิ์ไปสอบถามรายละเอียดแล้วกับมารายงาน ทราบเบื้องต้นว่านายชาดาพาครอบครัวไปพักผ่อนที่จังหวัดนครราชสีมา และในช่วงเกิดเหตุนายชาดาไม่เป็นอะไรมีแต่บุตรชายที่เสียชีวิต

“ผมโทรศัพท์คุยแล้วแต่ข้อมูลละเอียดไม่กล้าถามเจ้าตัวเพราะยังเสียใจอยู่ สาเหตุยังตอบไม่ได้คงเป็นไปได้ทุกทาง คงต้องไปสอบสวนดูว่าเป็นเพราะอะไร ก็เห็นใจนายชาดาที่เป็นกำลังสำคัญของพรรค” นายบรรหาร กล่าว

นายนพดล พลเสน อดีต ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งมีความสนิทสนมกับนายชาดา  กล่าวถึงการลอบยิงรถนายชาดา เป็นผลให้นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ บุตรชาย ส.ส.ชื่อดังเสียชีวิตว่า เพิ่งทราบจากข่าวเมื่อเช้านี้ รู้สึกตกใจ แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร หรือมีความขัดแย้งอะไร ส่วนตัวใจหายและตกใจเพราะนายฟารุตเหมือนลูกเหมือนหลานเวลาบิดาเดินทางไปทำ งานก็ร่วมเดินทางไปด้วยกันเหมือนลูกเหมือนหลานไม่น่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ ขึ้นได้  ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการเดินทางไปพบนายชาดา คาดว่าจะได้เจอกันในช่วงเที่ยงตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับนายชาดา

สำหรับเหตุการณ์มือปืนพระกาฬไล่ยิงอุกอาจนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ อายุ 28 ปี เป็นลุกชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เกิดขึ้นหลังจากนายฟารุต ได้ทำพิธีละหมาดเสร็จแล้ว จึงขับรถออกจากเดอะชาโต รีสอร์ท์ เขาใหญ่ บ้านคลองเดื่อ หมู่ 6 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และลูกน้องรวม 7 คน เพื่อมาหาซื้อของใช้ที่ร้านสะดวกซื้อ หลังจากซื้อเสร็จนายชาดา ได้ขับรถยนต์ อีกคันหนึ่งขับนำหน้าเพื่อกลับที่พัก โดยนายฟารุต ขับตามหลังมา ระหว่างทางได้มีคนร้ายขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สตาร์ด้า ติดเทอร์โบ ซึ่งจอดซุ่มอยู่ตรงทางแยกก่อนเข้ารีสร็อท เพียงเล็กน้อย จากนั้นคนร้ายพยายามขับแซง

นายฟารุต เห็นผิดสังเกตจึงขับกันไม่ให้แซง พร้อมกับส่งอาวุธปืนให้ลูกน้องที่อยู่ด้านหลัง แต่ไม่ก็ทันการณ์ เพราะคนร้ายได้เร่งเครื่องแซงพร้อมกับมีชายในรถยนตืด้านหน้าและนั่งด้านหลัง อีก 2 คน ได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงเข้ามายังที่นั่งคนขับนายฟารุต กระสุนเข้าใต้หู ฝังในกะโหลก ฟุบคาพวงมาลัย รถยนต์เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง

ส่วนนายชาดา ซึ่งขับรถยนต์อยู่ข้างหน้าเป้นจังหวะทางโค้งไม่เห็นไฟรถยนต์ จึงย้อนกลับมาดู พบว่ารถยนต์ของคนร้ายได้ขับหนีออกไปพอดี โดยมือปืนที่นั่งหลัง 2 คนยิงใส่รถนายชาดา แต่ไม่โดน จากนั้นไม่นานมีรถยนต์ต้องสงสัยขับวนเวียนมาดู 5 รอบด้วยกัน อย่างไรก็ตามนายชาดาได้รีบนำตัวลูกชายส่ง รพ.และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

สำหรับประเด็นการสังหารในครั้งนี้มือปืนพระกาฬ พุ่งเป้าสังหารนายชาดา แต่ดวงยังไม่ถึงฆาต ทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด เพราะมีการเปลี่ยนรถกับลูกชายระหว่างทางกลับจากซื้อของ.

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources