วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แจก Adobe Acrobat X Pro 10.1.3 English with serials



Adobe Acrobat Reader (โปรแกรม อ่านไฟล์ .PDF ที่ลือชื่อ) : โปรแกรมเสริมสำหรับ Browser ของคุณครับ เช่นการอ่านข่าวสารผ่านบน Internet ที่เอาไว้อ่าน Files ในตะกูล Adobe PDF (.pdf) นะครับ ซึ่งพวกไฟล์พวกนี้ จะมีอยู่ตามเวบต่างๆ ทั่วไป นะครับผม อย่างเช่นในเวบเพจของ อ.ส.ม.ท ของไทยเราครับก็มีให้อ่านกันนะครับสำหรับใน Version นี้ท่านสามารถใช้ Font ภาษาไทยได้ครับโดย Set ได้จาก Windows เลยครับผม นอกจากนี้ ก็ยังสามารถที่จะ พิมพ์ (Print) ออกมาอ่านกัน บนแผ่นกระดาษได้อีกด้วยครับท่านผม เพื่อความสะดวกครับ

นอกจากนี้แล้ว ในเวอร์ชั่นนี้ ยังมีบริการแถมการดาวน์โหลด McAfee Security Scan Plus ไปติดตั้งบนเครื่องของท่าน เพื่อความปลอดภัยจากการรุกรานของไวรัส และมัลแวร์ทั้งหลาย (ขนาด ของพื้นที่ไฟล์จะกินเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 MB. เท่านั้น)




ดูหนัง Terminator 2 Judgment Day คนเหล็ก 2029 HD







รายละเอียดเรื่องย่อ/Synopsis 
เรื่อง ราวการทำนายหายนะของมนุษยชาติที่จะดับสูญด้วยน้ำมือของสกายเน็ต เครือข่ายเครื่องจักรสมองกลขนาดยักษ์ อวสานของโลกถูกกำหนดไว้วันที่ 29 สิงหาคม 1997 เวลานี้สกายเน็ตได้ให้กำเนิด T-1000 หุ่นยนต์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ล้ำหน้ากว่า T-800 มันถูกส่งข้ามเวลามาเพื่อสังหารจอห์น คอนเนอร์ บุตรชายของซาร่าห์ ผู้ที่จะกลายเป็นผู้นำมนุษย์ ต่อต้านฝ่ายจักรกล ขณะเดียวกันทางฝ่ายมนุษย์ก็ได้ส่งหุ่นรบรุ่น T-800 อีกตัวมายังโลกปัจจุบัน เพื่อคุ้มครองผู้นำในวัยเด็กของพวกเขาให้ปลอดภัย...

ดูหนัง The Terminator คนเหล็ก 2029 HD








เรื่องย่อ The Terminator คนเหล็ก 2029 
ภาพยนตร์กล่าวถึงโลกอนาคตในปี ค.ศ. 2029 ที่ถูกปกครองด้วยคอมพิวเตอร์ชื่อ SkyNet หลังเกิดสงครามนิวเคลียร์ ฝ่ายมนุษย์ได้รวมกลุ่มขึ้นต่อต้าน นำโดย "จอห์น คอนเนอร์" ฝ่ายผู้ปกครองจึงส่ง "เดอะ เทอร์มิเนเตอร์" หุ่นยนต์สังหารรุ่น T-800 (รับบทโดย ชวาร์เซเน็กเกอร์) ย้อนเวลามายังลอสแอนเจลิส ในปี ค.ศ. 1984 เพื่อสังหาร "ซาราห์ คอนเนอร์" มารดาของจอห์น (รับบทโดย แฮมิลตัน) ฝ่ายจอห์น คอนเนอร์ก็ได้ส่ง "ไคย์ล รีส" ทหารรุ่นน้อง (รับบทโดย บีห์น) เดินทางย้อนเวลากลับมาขัดขวางเดอะ เทอร์มิเนเตอร์ 

ในระหว่างที่ซาราห์ คอนเนอร์ และไคย์ล รีส เดินทางหลบหนีการตามล่าของเดอะ เทอร์มิเนเตอร์ ก็ได้ร่วมรักกัน เหตุการณ์จึงกลายเป็นว่า แท้ที่จริงแล้ว ไคย์ล รีส นั่นเองที่เป็นบิดาของ จอห์น คอนเนอร์ 

ภาพยนตร์จบลงโดยที่เดอะ เทอร์มิเนเตอร์ ถูกทำลายไปพร้อมกับการเสียชีวิตของไคย์ล รีส ส่วนซาราห์ คอนเนอร์ ที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ ได้ขับรถตามลำพัง เดินทางออกจากสหรัฐไปยังชายแดนเม็กซิโก

ดูหนัง Iron Man 2 มหาประลัย คนเกราะเหล็ก HD








เรื่องราวภาคต่อที่คนทั่วโลกได้ทราบกันแล้วว่า มหาเศรษฐียอดนักประดิษฐ์อาวุธ โทนี่ สตาร์ค (แสดงโดย โรเบิร์ต ดาวน์นี่ย์) เปิดเผยตัวเองว่าเขาคือ ไอรอน แมน ซูเปอร์ฮีโร่ที่ช่วยปกป้องโลก เขาได้รับแรงกดดันจากทางรัฐบาล สื่อมวลชน และสาธารณชนต่างๆให้เปิดเผยเทคโนโลยีในการสร้างไอรอน แมน ให้กับกองทัพ แต่โทนี่เองกลับไม่ต้องการที่จะเผยความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเกราะเหล็กนี้ เนื่องจากกลัวว่าเทคโนโลยีนี้จะตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว มีเพียงสาวคนสนิท เพพเพอร์ พอทส์ (แสดงโดย กวินเนท พัลโทรว์) และเพื่อนตายอย่าง เจมส์ “โรดดี้” โรดส์ (แสดงโดย ดอน ชีเดล) เท่านั้นที่เห็นด้วยกับเขา โทนี่จึงพยายามคิดค้นพัฒนาชุดเกราะเหล็กขึ้นใหม่ เพื่อเตรียมรับมือกับศัตรูหน้าใหม่ที่กำลังจะปรากฏ

ดูหนัง รักสุดทีน Rak Sud Teen HD








รายละเอียดเรื่องย่อ/Synopsis 
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยมี "รัก" ครั้งไหน หรือ "สาวๆเ" รายใด ที่จะทำให้ "เอก-ถึงใจ".(มาริโอ้ เมาเร่อ).หนุ่มหน้าลูกครึ่งขวัญใจสาวๆเCEO เจ้าของร้านกางเกงยีนส์ จะต้องเกิดอาการหวั่นไหวจนหัวใจสั่นคลอน ยิ่งแท็คทีมอยู่บนบิ๊กไบค์ 2 ล้อกระชากใจพร้อมกับ 2 เพื่อนซี้ "เต็ม-เต็มสูบ".(ดีเจพล่ากุ้ง).ไอ้หนุ่มหัว AFRO สุดยียวนที่มีดีในความกวนโอ๊ยและ."จั๊ด-จัดให้".(ดีเจจั๊ด-ธีมะ กาญจนไพลิน).หนุ่มสำอางผู้มีใบหน้าหล่อเหลา แต่ต้องปกปิดซ่อนเร้นหัวใจตุ๊ดด้วยการแอ๊บแมน พูดได้ว่าชีวิตนี้นอกจากกิจการร้านกางเกงยีนส์และ.กิจกรรม "คั่วสาว" ที่เป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจของหนุ่มๆเทั้ง 3 ก็คงดำเนินต่อไปโดยไม่มีอาการสะดุด "รัก" แต่แล้วมุมมองความรัก ในการมองสาวของเพลย์บอยหนุ่มอย่าง "ถึงใจ" ต้องเปลี่ยนไปจากความคิดที่ไม่เคยเปิดหัวใจรับ "รัก" สาวใดกลับต้องมนต์ "มินท์".(ไอซ์ อะมีนา กูล).สาวสวยเซ็กซี่ที่ปรากฎกายอยู่ตรงหน้าถึง 3 ครั้ง 3 คราในเวลา 48 ชั่วโมงเข้าอย่างจัง ทั้งๆเที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หรือแท้จริงแล้วนี่คือเLOVE AT FIRST SIGHT ที่เกิดขึ้นกับเอกเข้าอย่างจัง ปฏิบัติการพิสูจน์ความรักที่จะเปลี่ยน "เพลย์บอย" ให้กลายเป็น "หนุ่มหล่อผู้ศรัทธาในความรัก" จึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับอุปสรรคนานัปการที่ต่างถาโถมประดังประเดเข้ามา เหมือนเป็นบททดสอบให้รู้ว่าการที่จะได้มาซึ่งรักแท้ จะต้องจัดเต็มขนาดไหน

ดูหนัง Iron Man มหาประลัย คน เกราะ เหล็ก HD










ไอรอน แมน หนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสุด ๆ คนหนึ่งของมาร์เวล คอมมิค กลายเป็นความสำเร็จเรื่องล่าสุดในการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ และทำรายได้เฉพาะในอเมริกามากกว่า 300 ล้านเหรียญ พร้อมกับการกลับมาของแบ็ด บอย โรเบิร์ต ดาวน์นี่ จูเนียร์ อีกครั้งในโลกภาพยนตร์ ไอรอน แมน เป็นเรื่องราวของ โทนี่ สตาร์ค นักประดิษฐ์และนักอุตสาหกรรม ปาร์ตี้บอย มหาเศรษฐีพันล้านที่ถูกลักพาตัวโดยขบวนการก่อการร้ายตะวันออกกลางและถูกบีบบังคับให้คิดค้นอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายล้างสูง แต่แทนที่เขาจะใช้สติปัญญาอันปราดเปรื่องและความอัจฉริยะในการประดิษฐ์ตามคำสั่ง โทนี่กลับใช้ความอัจฉริยะในการเอาชีวิตรอดโดยสร้างเกราะเหล็กเพื่อหลบหนีการถูกจองจำออกมาได้ และเมื่อเขากลับมายังอเมริกาเขาก็เริ่มพัฒนาเกราะเหล็กให้ไฮเทคและทรงประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมเผชิญหน้ากับลุงของเขาเองที่คิดการใหญ่และหักหลังเขา และจากนั้นมาเขาก็มีความคิดใหม่ที่จะใช้ชุดเกราะทรงพลังและปฏิญาณว่าจะพิทักษ์โลกใบนี้ในนาม ไอรอน แมน

“มาร์ค”ขวางคากม.ปรองดอง-รธน.ในวาระสภา


วันนี้ ( 1 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.ปรองดองและการลงมติร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 ว่า ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลจะคาทั้งสองเรื่องเอาไว้ในวาระการประชุมสภา โดยพรรคร่วมรัฐบาลมีมติว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาก่อน เพื่อให้เกิดความมั่นใจขึ้นว่ายังไม่มีการพิจารณาเรื่องกฎหมาย 4 ฉบับ แต่การแก้ปัญหาแบบนี้ถือว่ายังแก้ไม่สุดปล่อยให้เกิดความระแวง ความอึมครึม ถ้ารัฐบาลเข้าใจถึงเจตนารมณ์ในคำวินิจฉัยของศาลและรับทราบข้อคิดเห็นของ ประชาชนก็ไม่ควรเดินหน้าและถอนเรื่องเหล่านี้
อีกทั้งต้องทำกระบวนการของการปรองดองเอง การรับฟังความคิดเห็นอย่างถูกต้อง ไม่ใช่แอบไปทำโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่รัฐบาลจะทำให้ เกิดบรรยากาศที่ดีในทางการเมือง ที่ผ่านมาเราไม่ได้ห้ามไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่อยากให้แก้เพื่อเกิดความปรองดอง แต่ขณะนี้รูปแบบที่ทำอยู่กลายเป็นปมความขัดแย้งไปเสียแล้ว และยังมีการเอาเรื่องปรองดองมาบังหน้าการจะล้างผิดให้กับการทุจริต คอร์รัปชั่นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งสังคมยอมรับไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องไปตั้งหลักกันใหม่
ถ้าจะมีเรื่องนิรโทษกรรมก็ควรเป็นเรื่องความผิดทางการเมืองโดยแท้ การแก้รัฐธรรมนูญ กับเรื่องการสร้างความปรองดองไม่มีอะไรที่จะต้องไปแข็งตัว ทุกอย่างมีความยืดหยุ่น ในการที่จะให้ทุกฝ่ายนั้นเข้ามาร่วมที่จะแสดงความคิดเห็น

เมื่อถามว่าจากมติของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะไม่ถอนวาระนี้ และจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา หากมีจังหวะ หรือโอกาสก็จะนำเรื่องนี้เข้ามาทันที จะทำให้ตลอดสมัยประชุมนี้เป็นอย่างไรต่อไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องมาคอยลุ้น ซึ่งตนหวังว่าในการประชุมสภานัดแรกนี้จะไม่มีอะไรพิเศษ หวังว่าจะเป็นไปด้วยความราบรื่น แล้วก็ถ้าสามารถที่จะทำให้รัฐบาลถอนเรื่องร้อน ๆ ออกไปได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจะทำให้การทำงานของสภาราบรื่น ส่วนที่มองว่ารัฐบาลจะเสียหน้ากับคนเสื้อแดง หากทำตามข้อเสนอของฝ่ายค้านที่ให้ถอนวาระนี้ออกไปก่อนนั้น ตนคิดว่า ไม่ใช่เรื่องเสียหน้า มันเป็นเรื่องของการที่จะให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานได้ในบรรยากาศบ้านเมืองที่ ดี ซึ่งน่าจะเป็นความต้องการของรัฐบาล

คณะทำงานพรรคร่วมคาด 3ด.ได้ข้อสรุป


วันนี้ ( 1 ส.ค.)  นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตั้งคณะทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ จำนวน 11 คน ว่า คณะทำงานฯ ชุดนี้มีหน้าที่ศึกษาประเด็นต่างๆที่เกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตัวของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าสิ่งใด มีผลผูกพันและไม่ผูกพัน เพื่อนำไปสู่การพิจารณาโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ว่าสามารถโหวตในวาระ3 ได้หรือไม่  หรือหากมีการแก้ไขเป็นรายมาตรา จะแก้ไขในประเด็นใดบ้าง คาดว่าคงใช้เวลาศึกษาขั้นต่ำประมาณ 3-4 เดือน
สาเหตุที่ใช้เวลานานเพราะต้องใจเย็นและใช้ความรอบครอบ ไม่ต้องรีบ โดยจะเริ่มประชุมนัดแรกในสัปดาห์หน้า โดยรายชื่อทั้ง 11 คน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 7 คน ได้แก่ นายโภคิน พลกุล  อดีตประธานรัฐสภา  นายวราเทพ รัตนากร  สมาชิกพรรคเพื่อไทย  นายภูมิธรรม เวชยชัย  รักษาการ ผอ.พรรคเพื่อไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา  สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายอุดมเดช รัตนเสถียร  ประธานวิปรัฐบาล นายพีรพันธุ์ พาลุสุข  ส.ส.ยโสธร และ ตน ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา 2 คน ได้แก่ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง  นายชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี  พรรคชาติพัฒนา 1 คน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ส.ส.นครราชสีมา  และพรรคพลังชล 1 คน คือ นายสันตศักย์ จรูญ  งามพิเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ด้านนายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)กล่าวเสริมว่า  กรรมการ 11 คน มีหน้าที่พิจารณาว่าจะแก้รายมาตราจะแก้มาตราใดบ้าง เพื่อหาเหตุผลที่เหมาะสม และข้อดี ข้อเสีย เพราะตอนนี้ ความเห็นก็มีแตกต่างกันไปเยอะ ก่อนนำมารวบรวมแล้วนำเสนอพรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสภา เพราะลำพังพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว ไม่สามารถดำเนินการได้
   

.เสื้อแดงบุกสภาถอดถอน 7 ตุลาการ


วันนี้ ( 1 ส.ค.) ที่รัฐสภา นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วยส.ส.พรรคเพื่อไทย  แกนนำ นปช.อาทิ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้นำรายชื่อประชาชนเข้ายื่นเพิ่มเติมจำนวน 15,000 คนต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1  รักษาการปรานวุฒิสภา เพื่อยืนยันถึงเจตจำนงในการถอดถอนตุลาการรัฐธรรมนูญ 7 คน เนื่องจากก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ และทำตัวเหนือบทบัญญัตืรัฐธรมนูญมาตรา 68 กรณีที่รับคำร้องการยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐมธรรมนูญมาตรา 291
นางธิดา กล่าวต่อว่า โดยที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงในการถอดถอน พร้อมทั้งยื่นรายชื่อประชาชนจำนวน 23,500 ชื่อแล้วเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. แต่ปรากกว่ามีรายชื่อไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบของทางราชการ ทั้งนี้นางธิดา ยังได้กล่าวติงหลักเกณฑ์การยื่นรายชื่อประชาชนว่าทำให้เกิดความยุ่งยาก เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ผิดตรรก
ขณะที่นพ.เหวง กล่าวว่า ความจริงความผิดพลาดเล็ก ๆน้อย ๆที่ไม่ขัดเจตนารมณ์ของกฎหมายตนก็พร้อมที่จะเซ็นต์รับรองว่ารายชื่อดังกล่าว เป็นของจริง และหากเกิดความผิดพลาดก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ แต่ขณะนี้ผู้ที่ลงรายชื่อไว้อยู่ทั่วประเทศ ทั้งจังหวัดยะลา แม่ฮ่องสอน และนราธิวาส จะให้ลงวันที่ใหม่ก็เป็นเรื่องยาก
ด้านนิคม กล่าวว่า จากการตรวจสอบรายชื่อผ่านทางกกต. สำนักทะเบียนราษฎร์ ซึ่งพบว่ามีรายชื่อประชาชนจำนวน 7,515 ไม่เข้าเกณฑ์ เนื่องจากเป็นลงวันที่ก่อนที่จะมายื่นแสดงเจตจำนง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามข้อบังคับของวุฒิสภา ก่อนที่จะยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) แต่หากเห็นว่ามีปัญหาก็จะหารือกับวุฒิสภาเพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดให้กับ ประชาชนในการตรวจสอบ
สำหรับรายชื่อตุลาการรัฐธรรมนูญ  7 คน ประกอบด้วยนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานฯ นายจรัญ ภักดีธนากุล นายจรูญ อินทจาร นายเฉลิมพล เอกอุรุ นายนุรักษ์ มาประณีต นายบุญส่ง กุลบุปผา และนายสุพจน์ ไข่มุกด์ ถูกยื่นถอดถอนใน

“ธิดา”ยัน“อัมสเตอร์ดัม”ยังเป็นทนายนปช.


วันนี้ ( 1 ส.ค.) นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช.(คนเสื้อแดง) กล่าวถึงกรณีที่ปรากฎเป็นข่าวว่า นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ผู้ก่อตั้งสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ พาร์ตเนอร์ส ได้ประกาศขอยุติการทำหน้าที่เป็นล็อบบี้ยิสต์ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เนื่องจากปัญหาเรื่องค่าจ้าง ว่า เรื่องดังกล่าวตนทราบเพียงข่าวเบื้องต้นเท่านั้น แต่ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่เป็นทนายนปช.ของนายอัมสเตอร์ดัม อย่างแน่นอน เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งลาออกแต่อย่างใด
"ที่ผ่านมานายอัมสเตอร์ดัม ยังแสดงความจำนงที่ต้องการเข้ามาร่วมงานครบรอบ 6 ปีการรัฐประหารในวันที่ 19 ก.ย.55 ที่ประเทศไทยอยู่เลย และก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข้อมูลการลาออกของนายอัมสเตอร์ดัมออกมา และเห็นว่าที่ผ่านมานายอัมสเตอร์ดัมและพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงมีการหารือร่วมกันตามปกติ" นางธิดา กล่าว

“มท.3”ขอรอศาลตัดสินเรื่อง“เจ๋ง” แล้วค่อยพูดเรื่องเลขาฯใหม่



วันนี้ ( 1 ส.ค.) นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย (มท.3) กล่าวถึงกรณีที่ นายยศวริศ ชูกล่อม(เจ๋ง ดอกจิก) เลขานุการของตน ซึ่งเป็นแกนนำเสื้อแดงได้ถูกสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความในข้อหา ดูหมิ่นและข่มขู่ ว่าเรื่องนี้ต้องรอให้ศาลพิจารณาและใช้ดุลยพินิจต่างๆ ตัดสินคดีความให้เสร็จสิ้นก่อน จึงสามารถระบุได้ว่าจะเปลี่ยนตัวเลขานุการรัฐมนตรี เป็นบุคคลอื่นหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาตนและนายยศวริศ สามารถร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหา

จับยาบ้าบิ๊กล็อตกว่า 1.1 ล้านเม็ดยาไอซ์ 5.1 กก.


วันนี้(31 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ   ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร. ในฐานะเลขาธิการป.ป.ส.  พล.ต.อ.วัชรพล  ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์  โชติมา  ผบช.ปส.  พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผบช.ปส. แถลงจับกุม นายสิทธิ หรือเน หรือบี ทิพย์ดวง อายุ 25 ปี พร้อมของกลางยาบ้า  1,120,000 เม็ด ยาไอซ์ 5.1 กิโลกรัม จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 23/18 ก หมู่บ้านเลิศนิมิต 2 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติ การในการลับลอบจำหน่ายยาเสพติด จึงได้ทำการเฝ้าติดตาม กระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาเช่าบ้านหลังดังกล่าวเพื่อเก็บยาเสพติด และขณะเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงติดตามแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมตรวจค้นภายในบ้านพัก พบของกลางทั้งหมด จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนบก.ปส.3 บช.ปส.เพื่อดำเนินคดี

ด้านนายสิทธิ ให้การรับสารภาพว่า ทำหน้าที่เป็นคนจ่ายยาให้กับลูกค้าโดยจะมีคนโทรมาให้ไปรับยาและนำมาจ่ายให้ กับลูกค้าตามรายชื่อที่ได้มา โดยจะมีการโทรนัดหมายเพื่อส่งมอบยากันและไม่เคยเห็นหน้าลูกค้ามาก่อน จะได้รับค่าจ้างเม็ดละ 50 สตางค์ ยาไอซ์ กิโลกรัมละ 1 หมื่ินบาท เคยทำมาแล้ว 3 ครั้ง โดยจะมีการเปลี่ยนสถานที่เช่าบ้านไปเรื่อยๆ เพื่อเปลี่ยนที่พักยา ก่อนหน้าเคยถูกกับกุมฐานครอบครองกัญชา อยู่ระหว่างการประกันตัว

ฟ้องแม่อดีตมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สเบี้ยวเงินช่างแต่งหน้า


เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ( 31 ก.ค.) ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี  ถนนสีหบุรานุกิจ ศาลนัดไกล่เกลี่ยคู่ความคดีหมายเลขดำที่ พ.333/2555 ที่นายกฤษกร พงษ์นุ่มกุล อาชีพรับจ้างแต่งหน้า เป็นโจทก์ฟ้อง นางวรรณวิภา รสจันทร์ หรือง้าวสุวรรณ เป็นจำเลย เรื่อง ยกเลิกสัญญา เรียกคืนเงิน 800,000 บาท
นายกฤษกร กล่าวว่า รู้จักกับจำเลยซึ่งเป็นมารดาของอดีตมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สคนหนึ่งที่ไปร่วม ทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง จนมีความสนิทสนม และตกลงร่วมลงทุนเช่าพื้นที่และก่อสร้างร้านกาแฟเพื่อขายในโรงเรียนแห่ง หนึ่ง เมื่อปี 2549  ตนได้มอบเช็ค 800,000 บาท ให้นางวรรณวิภา ไปเป็นค่าก่อสร้าง แต่ปรากฏว่า ก่อสร้างแค่เพียงพื้นและโครงอาคาร เมื่อสอบถามนางวรรณวิภา อ้างว่า มีปัญหากับเจ้าของพื้นที่จึงขอหยุดสร้าง ชั่วคราว
กระทั่งเวลาผ่านไป 2 ปี  ตนจึงทวงถามถึงเงินที่ลงทุนไปแต่ก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา นาน 7 ปี จึงตัดสินใจยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา และศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันนี้แต่เมื่อถึงเวลาจำเลยไม่เดินทางมาศาล แต่ได้ส่งทนายมาขอเลื่อนนัดไกล่เกลี่ย เนื่องจากติดนัดคดีที่ศาลอื่น
ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้เลื่อนนัดไกล่เกลี่ยไปเป็นวันที่ 15 ก.ย. นี้ เวลา 13.30 น.

"เฉลิม"โนคอมเม้นต์เปิดตำแหน่งผช.ผบ.ตร.


วันนี้ (31 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)  กล่าวถึงการประชุมก.ตร. ครั้งที่ 11/2555 ในเวลา 14.30 น. วันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.)   ว่า ขณะนี้ตนยังไม่เห็นวาระ และเอกสารการประชุม จึงยังให้ความเห็น เรื่องการเปิดตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วยผบ.ตร.)  ทำหน้าที่บริหารยุทธศาสตร์ด้านงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดและการต่อต้านการ ก่อการร้าย ไม่ได้ ไม่ทราบว่าขอเปิดหรือไม่ แต่หากขอเปิดตำแหน่งแสดงว่าผู้บริหารตร.เล็งเห็นแล้วว่าจำเป็น สมควรต้องมาช่วยงานด้านยาเสพติด ตรงนี้หากมีเหตุมีผลตนก็ไม่ขัดข้อง คล้อยตาม  ขอดูรายละเอียดก่อนออกความเห็น
ส่วนบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายพลประจำปี 2555 นั้นตนเห็นที่เสนอในสื่อเท่านั้น ยังไม่เห็นฉบับเป็นทางการ จึงให้ความคิดเห็นไม่ได้เช่นกัน  การแต่งตั้งวางตัวคน แล้วแต่ตร.และคณะกรรมการกลั่นกรองเห็นชอบตนไม่ยุ่ง แต่ในฐานะประธานก.ตร.มีสิทธิสอบถามเท่านั้น หากทางผู้บริหารตร.ชี้แจงได้ก็จบ หากผู้บริหารตร.เห็นว่าใครเหมาะสมตำแหน่งไหน แสดงว่าคิดแล้วว่าเหมาะสม ตนคงไม่รู้จักตำรวจที่เท่าคณะกรรมการกลั่นกรองที่มีทั้งรองผบ.ตร.และนายนนทิ กร กาญจนจิตร เลขาก.พ.เป็นประธาน ไม่เข้าไปยุ่งยาก  ขอดูรายชื่อก่อน พูดมาเดี๋ยว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ดุเอา
มีรายงานข่าวแจ้งว่า  สำหรับบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายพลตำรวจระดับรองผบ.ตร.-ผบช. ที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองแล้ว ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง  แม้จะมีการซักถามในก.ตร.ถึงการโยกย้าย บางตำแหน่ง แต่คาดว่าจะไม่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งจากที่คณะกรรมการกลั่นกรองเสนอ เข้าก.ตร.

“เฉลิม” ปัดคุมใต้มีหน้าที่บูรณาการ3 ส่วน


วันนี้ ( 31 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลตร. กล่าวกรณีนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ดูแลปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้  ว่า เป็นความเข้าใจผิดพลาด น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกรัฐบาลแถลงผิด ความจริงคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ดูแลทหาร ตนดูแลตำรวจ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ ดูแลกระทรวงมหาด ไทย จึงให้ 3 ส่วนมาช่วยกัน
ถามว่า ก่อนหน้านี้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามบริหารเหตุการณ์ มีร.ต.อ.เฉลิมเป็นประธานฯที่ตร. แต่คล้ายว่าสถานการณ์ กลับรุนแรงขึ้น   ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มีการตั้งศูนย์ เรียก เพนตาก้อน 2 ขึ้นมาติดตามสถานการณ์ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสามารถติดตามสถานการณ์ได้ผ่านระบบเทคโนโลยี โดยไม่ต้องลงไปในพื้นที่ แล้วไปสร้างความลำบากให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังมาดูแลความปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่ในภาคใต้ก็ทำงาน เหนื่อยมาก และเสี่ยงอยู่แล้ว ผู้บังคับบัญชาลงไปก็เหนื่อยเจ้าหน้าที่เปล่าๆ ศูนย์นี้ พวกตนสามารถติดตามสถานการณ์ได้โดยไม่เหนื่อยเจ้าหน้าที่ ไม่เปลืองน้ำมันเครื่องบินในการลงพื้นที่
เมื่อถามถึงแนวทางลดความรุนแรงในพื้นที่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พันธกิจ ภารกิจในการแก้ปัญหา ทหารเป็นเจ้าภาพหลัก ส่วนอื่นเข้าไปเสริม   วันที่ 8 ส.ค. นี้ จะมีการเวิร์คช็อปนายกรัฐมนตรีจะบูรณาการกันใหม่ ในส่วนของตำรวจฟิตทุกคน ฮึกเหิม ห้าวหาญ ไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องขันน๊อต  ดีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ตนได้ข่าวอะไรมาก็มอบ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ผบช.ศชต.) และ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9)  ไปวิเคราะห์ ความรุนแรงตอนนี้ปะหลาด ตนพูดจากประสบการณ์สมัยยังเป็นตำรวจอยู่กองปราบปราม เมื่อก่อน ในช่วงถือศีลอด มุสลิมไม่ทำผิด มีความเชื่อว่ารับโทษ 2 เท่า แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ไม่ได้มอบตนดูแลคนเดียวแต่ให้บูรณากัน 3 ฝ่าย คือ ตำรวจ ทหาร มหาดไทย

ฆาตกรรมวิปริตแทงสาวใหญ่วิญญาณเฮี้ยนบอกลูก


เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (31 ก.ค. ) พ.ต.ต.ธีรกุล แสงฤทธิ์หลง  พงส.สภ.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา  ได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกทำร้ายทิ้งกลางทุ่งนา หมู่3 ต.พระนอน อ.นครหลวง จึงพร้อมด้วยพล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.กก.สส. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นกลางทุ่งนาห่างถนนสายนครหลวง-ท่าเรือ  300 เมตร ต้องเดินลัดเลาะไปตามท้องร่องสวน ได้กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ก่อนพบศพนางนาง สุขพา อายุ 56 ปี  มีบ้านพักอาศัยอยู่ ต.สามไถ อ.นครหลวง  เสียชีวิตอยู่ในป่าหญ้า  สภาพศพเน่าเปื่อยจนเห็นกระดูกบางส่วน หนอนไต่เต็มตัว สวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีขาวดำ กางเกงขายาวสีน้ำเงินถูกรูดออกมาพร้อมกางเกงในกองที่หัวเข่า มีบาดแผลถูกแทงเข้าท้องน้อยและอวัยวะเพศหลายแผล
สอบสวนนายชัยโย สุขพา อายุ 27 ปี  บุตรชายผู้ตาย ให้การน้ำตานองหน้าว่า  มีอาชีพรับเหมาต่อเติมบ้านพักอาศัยอยู่กับมารดาและภรรยา โดยมารดาไปๆมาๆ กับบ้านนายดำ สามีใหม่ซึ่งมีนิสัยชอบดื่มสุรามักจะให้มารดามาขอเงินตนเป็นประจำ  และมักทำร้ายมารดาอยู่เสมอ  ตนพยายามบอกให้เลิกราแต่มารดาก็ไม่ยอมเลิก  ก่อนเกิดเหตุมารดาบอกว่าจะไป ช่วยงานแต่งในกรุงเทพฯ   ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา  ก่อนหายตัวไป  ตนได้ออกติดตามและสอบถามคนรู้จักแล้วไม่มีใครพบเห็นไปสอบถามสามีใหม่ก็เห็น บ้านปิดประตูเงียบ  จึงคิดว่ามารดาคงหายไปกับนายดำ
กระทั่งกลางดึกที่ผ่านมา ตนเห็นเงาดำของหญิงสาวมาเกาะเสาบ้าน เหมือนจะมาบอกอะไรบางอย่างแต่พุดไม่ได้ตนคิดว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น กับมารดาแน่นอน  พอรุ่งเช้ามาจึงได้ออกติดตามหาจนกระทั่งมาพบมารดาเสียชีวิตกลางทุ่งนาหลัง บ้านนายดำ จึงคิดว่านายดำเป็นผู้ต้องสงสัยที่สุด อยากให้ตำรวจติดตามตัวนาย ดำมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ผลการสืบสวนล่าสุดตำรวจพบว่านายดำพาลูกติดอีก2 คนหลบหนีไปแล้ว โดยนำโทรศัพท์มือถือไปขายกับเพื่อนบ้าน  จึงสันนิษฐานว่าทั้งคู่อาจทะเลาะอย่างรุนแรง ขณะที่นายดำอาจอยู่ในสภาพเมามายและโกรธแค้นนางนาง  จนถึงขั้นฆาตกรรมโหดเมียตัวเองก็เป็นไปได้ ตำรวจจะเร่งติดตามตัวตามบ้านญาตินายดำเพื่อนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป

ตำรวจ"ภาค1"ระดมกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย


วันนี้ (1 ส.ค.) ที่ ตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 26-30 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมอาวุธปืนได้ทั้งหมด 198 กระบอก ลูกระเบิด 1 ลูก เครื่องกระสุนชนิดต่างๆ 2,043 นัด ยาบ้า 187,500 เม็ด ยาไอซ์ 480.14กรัม กัญชา 519 ห่อ กระท่อม 17 กก. เคตามีน 15 กรัม และยาอี 40 เม็ด ได้ผู้ต้องหา 44 ราย และนอกจากนี้ยังสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าได้อีก 44 รายด้วยฃ

พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า การระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะคดีอาวุธปืน ที่พยายามจะจับกุมเพื่อสกัดกั้นยับยั้งไม่ให้ผู้ต้องหานำไปก่อเหตุ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ปริมณฑล มีคนอาศัยอยู่มาก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เน้นเป็นพิเศษจนสามารถจับกุมได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย เพื่อตัดเครือข่ายการจำหน่าย เพราะหากผู้ค้ารายใหญ่นำยาเสพติดมาเยอะ แต่ไม่มีคนนำไปกระจายก็จะลำบากมากขึ้น รวมทั้งสามารถที่จะนำไปขยายผลเพื่อจับกุมตัวผู้ค้ารายใหญ่ได้อีกด้วย

"ดวง"มารายงานตัวไม่ขอให้สัมภาษณ์สื่อ


วันนี้  ( 1 ส.ค.)  ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.ศูนย์ฝึกอบรม (ศฝร.บช.น.) เปิดเผยกรณีรับโอน ร.ท.ดวง อยู่บำรุง ผู้บังคับหมวด กองร้อยสารวัตรทหาร สารวัตรยุทธบริการทหาร กระทรวงกลาโหม  เป็น รอง สว.ศฝร.บช.น. ว่า เมื่อมารายงานตัวแล้ว ก็จะมีหนังสือจากทหารส่งมา โดยเมื่อมารายงานตัวตามลำดับชั้นเสร็จ ในส่วนที่มาอยู่ใน กก.ของตน ในหน้าที่ของ ศฝร.บช.น. มีหน้าที่รับและฝึกอบรมตำรวจอยู่แล้ว
โดยที่ผ่านมาเห็นว่าว่าที่ ร.ต.ท.ดวง มีความสามารถด้านการใช้อาวุธปืน ก็มีนโยบายว่าหากมีความรู้ ความสามารถอย่างนี้ ต่อไปการฝึกอบรมตำรวจทั้งประทวน สัญญาบัตร ที่ต้องคลุกคลีและใช้อาวุธรวมถึงงานสายตรวจและฝ่ายสืบสวน เชื่อว่าหากมีความรู้ ความสามารถและนำมาช่วยงานตำรวจก็จะเป็นประโยชน์มาก  ที่ผ่านมาตำรวจจะชำนาญเฉพาะอาวุธที่ตนเองใช้ แต่ชนิดอื่นก็ไม่ค่อยมี รวมถึงวิธีการยิง ตำรวจบ้านเราต่างกับตำรวจเมืองนอก เพราะเมืองนอกฝึกกันย่อยครั้งและใช้งานได้จริงๆ แต่ส่วนของ บช.น.มีการฝึกค่อนข้างน้อยทั้งเรื่องการยิงปืน และยุทธวิธีตำรวจ หากมาก็อาจจะให้เป็นครูฝึกในด้านการยิงปืน
พ.ต.อ.สุพัชร กล่าวอีกว่า  เท่าที่สอบถามก็ทราบว่ามีความเรื่องปืนสั้นเก่ง  ส่วนที่ ศฝร.บช.น. จัดฝึกก็ต้องดูว่าจัดสถานที่ใด หากเป็นสาย ป. ก็ไปจัดที่โรงเรียนนายร้อย เพราะมีสนามยิงปืนด้วย โดยถือว่าดีเพราะจะถือเป็นครูฝึกวิทยากรประจำหน่วย ที่ผ่าน ศฝร.บช.น. ไม่มีครูฝึก แต่จะจัดงานต่างๆเท่านั้น แต่บุคลากรชำนาญแต่ละเรื่องไม่มี หากจัดเรื่องใดก็ต้องหาวิทยากรมาอบรม เช่น เรื่องกฎหมาย ก็ต้องให้พนักงานสอบสวน หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมาย มาอบรม เป็นต้น ตอนนี้ ศฝร.บช.น. ยังไม่มีผู้ชำนาญงานประจำจริงๆมาทำหน้าที่ในหน่วย โดยว่าที่ ร.ต.ท.ดวง อาจเป็นคนแรกที่มาประจำการในหน่วยเลย เป็นผู้เชี่ยวชาญและครูฝึกด้านการใช้อาวุธปืน
ต่อมาเวลา  11.30 น. ว่าที่ ร.ต.ท. ดวง เดินทางเข้ารายงานตัวกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์  ธูประจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.สมชาย มุสิกเจริญ ผู้บังคับการอำนวยการ (ผบก.อก.) พ.ต.อ.สุพัชร ที่ห้องสำนักงาน ผบช.น. บริเวณชั้น 2  พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวกับว่าที่ร.ต.ท.ดวงว่า ยินดีต้อนรับและขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ มีวินัย พร้อมกับจะมอบหมายให้ฝึกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลในเรื่องการใช้อาวุธปืน ยิงปืน ซึ่งเป็นหลักสูตรการฝึกรูปแบบใหม่ที่ตำรวจทุกนายต้องได้รับการอบรม โดยจะให้ว่าที่ร.ต.ท.ดวง เป็นผู้กำกับดูแลการฝึก
จากนั้นพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้สั่งการให้ ว่าที่ร.ต.ท.ดวง ไปแนะนำตัวกับรอง ผบช.น.ทุกนาย โดย พ.ต.อ.สุพัชร นำ ว่าที่ ร.ต.ท.ดวง เดินทางเข้ารายงานตัวกับ รอง ผบช.น. ทุกห้อง โดย รองผบช.น.แต่ละนายก็ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พร้อมกับบอกให้ ว่าที่ ร.ต.ท.ดวง ตั้งใจทำงาน รักษาระเบียบวินัย และให้ศึกษาการทำงานของตำรวจให้ชัดเจน เพราะแตกต่างจากทหาร  โดยจะให้เริ่มฝึกยุทธวิธีการยิงปืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและฝ่าย ปราบปราม ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. เป็นต้นไป เพราะหลังจากที่ร.ต.ท.ดวง เข้ามารายงานตัวก็ติดวันหยุดอีกหลายวัน
อย่างไรก็ตาม ร.ต.ท.ดวง ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ไม่ขอให้สัมภาษณ์ เนื่องจากเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา วันนี้ก็มารายงานตัวตามลำดับขั้นตอนเท่านั้น

เลขา ป.ป.ส.มอบเงินรางวัลนำจับตามหมายจับ


วันนี้ ( 1 ส.ค.) ที่สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง)  พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส. นายณรงค์ รัตนานุกูล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายสุขุม โอภาสนิพัทธ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และ นายวิตถวัลย์  สุนทรขจิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. มอบเงินรางวัลตามโครงการประกาศสืบจับผู้กระทำความผิดคดียาเสพติดระดับสำคัญ มาก ให้แก่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม 2 ชุดปฏิบัติการ ซึ่งสามารถจับกุมเป้าหมายนักค้ายาเสพติดตามหมายจับได้ 2 ราย ลำดับที่ 20 และ 23 เงินรางวัลเป้าหมายละ 1 แสนบาท รวมจำนวน 2 แสนบาท        
  รายแรกพ.ต.ต.สมคิด ประเชิญสุข สว.สส.สน.มีนบุรีเป็นตัวแทน สน.มีนบุรี และพ.ต.ต.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร สว.กก.1 บก.ปส.1 บช.ปส. ร่วมกันจับกุมนายชาญไชย โจเวลลานอส ได้เมื่อวันที่ 26 มี.ค.55 ตามประกาศสืบจับ ฯ  เป้าหมาย   ลำดับที่  23  เงินรางวัลนำจับ 100,000 บาท ทั้งนี้ นายชาญไชย โจเวลลานอส เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 30/2555 ลงวันที่ 3 ก.พ.55  ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 228/208 แขวง/เขตมีนบุรี กทม.ซึ่งผู้ต้องหาทำหน้าที่รับยาเสพติดจากเครือข่ายทางภาคเหนือและขับรถ ลำเลียงยาเสพติดมาเก็บพักในพื้นที่ปริมณฑลตามคำสั่ง เป็นการปฎิบัติการร่วมกันติดตามขยายผลหลังจากเมื่อวันที่ 20 ม.ค.55 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายนิพนธ์ กันชาติ พร้อมของกลางยาบ้าและยาไอซ์ล็อตใหญ่สารภาพให้การซัดทอดโดยว่ามีผู้ต้องหานำ มาส่งให้
   รายที่สอง พ.ต.ท. รุ่งศักดิ์ แสงเสียงฟ้า  รอง ผกก.บก.สปพ. เป็นตัวแทนรับมอบเงินรางวัล ได้จับกุมตัวนายศักดา หรือต๊อด หรือแบงค์ เลิศรัศมิทัศน ได้เมื่อวันที่ 16 ก.ค.55 โดยความร่วมมือระหว่าง กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) บช.น. ปฏิบัติการสืบสวนและจับกุม ตามประกาศสืบจับฯ เป้าหมายลำดับที่ 20  เงินรางวัลนำจับ 100,000 บาท ทั้งนี้ นายศักดา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 136/2554  ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2554 ข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)    ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมบริเวณกลางซอยประเสริฐมนูกิจ 48   ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบางกะปิ กทม. ซึ่งนายศักดา เป็นผู้สั่งการให้ผู้ร่วมเครือข่ายไปรับยาเสพติดเมื่อวันที่ 19 ส.ค.54 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายศรายุทธ แต่งงาม อายุ 27 ปี น.ส.บุณฑริกา สุขป้อม อายุ 25 ปี และนายชัยพฤกษ์ ศิริสุนทร อายุ 25 ปี พร้อมของกลางไอซ์ 94 ก้อน รวมน้ำหนัก 94 กิโลกรัม ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย เหตุเกิดที่ หน้าร้านเคเอฟซี ชั้น 1 ห้างเซียร์รังสิต ถนนพหลโยธิน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า โครงการประกาศสืบจับผู้กระทำความผิดคดียาเสพติดระดับสำคัญมาก โดยใช้เงินกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อจ่ายให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส ผ่านหมายเลข 1386 หรือ    เจ้าพนักงานผู้ทำการจับกุมบุคคลตามหมายจับคดียาเสพติดระดับสำคัญมาก ตามอัตราที่กำหนดไว้ในโครงการฯ เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงาน และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน     โดยถือเป็นการดำเนินการเร่งรัดการปราบปรามและแก้ไขปัญหาที่ยังคงอยู่เพื่อนำ ไปสู่การตัดวงจรปัญหา ทั้งกลุ่มผู้ผลิต ผู้ค้า กลุ่มผู้เสพผู้ติด กลุ่มเสี่ยง ลดปัญหาการแพร่ระบาดในพื้นที่และแก้ปัญหาที่กระทบต่อความเดือดร้อนของ ประชาชน
นอกจากนี้กรณีนายหน่อคำผู้ต้องหารายสำคัญ ที่ถูกจับกุมและดำเนินคดีอยู่ที่จีนนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อนำตัวกับ มาดำเนินคดี และจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียได้จับกุมชาวฮ่องกง 4 คนและออสเตรเลีย 3 คน ที่นครซิดนีย์พร้อมของกลางยาไอซ์ 306 กก.ได้เมื่อวานนี้นั้น หลังสามารถยึดยาเสพติดที่ ซุกซ่อนไว้ในเครื่องปั้นดินเผาได้ตั้งแต่ 10 วันก่อน และมีสื่อจากต่างประเทศรายงานว่ายาเสพติดล็อตดังกล่าวอาจมาจากประเทศไทยนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นพบว่ามีผู้ต้องหา 1 ใน 7 คนซึ่งเป็นชาวออสเตรเลียมีการเข้ามาประเทศไทยในวันที่ 20 เม.ย.และเดินทางออกไปเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ยืนยันว่าไทยไม่ใช่แหล่งผลิตยาเสพติด แหล่งผลิตนั้นมาจากประเทศเพื่อนบ้านมาทางภาคเหนือ ขณะนี้มีการประสานข้อมูลร่วมกันเพื่อขยายผลเครือข่ายดังกล่าวและตรวจสอบ บริษัทขนส่งที่มีการส่งของออกไปอยู่ ซึ่งกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในฮ่องกงทางการออสเตรเลียได้ติดตามมาเป็นเวลา 11 เดือนแล้ว เลขาธิการป.ป.ส.กล่าว

“แท็กซี่ป่วน” ขับรถบุกสภา



ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณหน้ารัฐสภา ถนนอู่ทองใน ว่า ในวันนี้ (1ส.ค.) เป็นวันแรกของการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไป ปรากฏว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมี ส.ส. ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 13.00 น. กันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เมื่อเวลา 11.00 น. ได้เกิดเหตุวุ่นวายเมื่อนายพงศ์พิชาญ ธนถิรพงศ์ อายุ 46 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ ได้ขับรถฝ่าเข้ามาภายในบริเวณทางลงของชั้นลอย อาคารรัฐสภา 1 พรัอมกีบบีบแตรดังลั่น เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งเข้ามาขัดขวาง และเชิญตัวให้ออกไป พร้อมกับให้นายพงศ์พิชาญ ยื่นหนังสือผ่านตัวแทนเจ้าหน้าที่รัฐสภา
สำหรับบรรยากาศการรักษาความเรียบร้อยภายในอาคารรัฐสภา นั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องตรวจค้นอาวุธเอ็กเรย์แบบสายพาน และ สแกนมือ ซึ่งได้จัดซื้อมาใหม่ มาติดตั้งบริเวณประตูทางเข้า- ออก อาคารรัฐสภา รวมถึง ทางเชื่อมจากอาคารรัฐสภา 1 ไปยังอาคารรัฐสภา 2 ด้วย

ศาลอาญาวางกฎเหล็กฟังคดีตู่-จตุพร


วันนี้ ( 1 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายจุมพล ชูวงษ์  นายชัยฤทธิ์ เทวะผลิน  และนายธรรมนิตย์ ตันติยวรงค์  รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา  นางอรอุษา กฤษณะโลม  จรัญรัตนศรี เลขานุการศาลอาญา และนายประยุทธ  ศิริล้น  ผู้อำนวยการประจำสำนักอำนวยการศาลอาญา  ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อทำความเข้าใจต่อสื่อมวลชน และกลุ่มบุคคลที่จะเดินทางมาศาลอาญา เพื่อฟังการพิจารณาเกี่ยวกับคำสั่งการเพิกถอนการประกันตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.)  และ อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย   กับพวก 24 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นจำเลยในคดีร่วมกันก่อการร้าย  ในวันที่ 9 ส.ค. นี้
โดยนายจุมพลกล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งศาลได้ออกหมายเรียกนายจตุพร พรหมพันธุ์  มาสอบถามเกี่ยวกับการกระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวที่ศาลรัฐธรรมนูญยื่นคำ ร้องขอให้ศาลเพิกถอนประกันนั้น  มีกลุ่มคนและสื่อมวลชนเดินทางมาศาลจำนวนมาก จนเกิดความไม่เรียบร้อยภายในบริเวณศาล เช่น การใช้รถติดตั้งเครื่องขยายเสียงพูดอภิปราย  ก่อให้เกิดเสียงดังเป็นเหตุให้เกิดความขัดขวางการพิจารณาคดีนี้ และคดีอื่นๆของศาลอาญา ศาลแพ่ง ศาลอุทธรณ์ ศาลแขวงพระนครเหนือ  และผู้สนับสนุนแกนนำมาให้กำลังใจมีลักษณะก่อความวุ่นวายไม่เหมาะสม มีการนำสินค้ามาวางจำหน่ายบนทางเท้า และล้ำลงไปในถนน  ทำให้การจรจรติดขัด ทั้งที่เป็นการสอบถามนายจตุพรเพียงคนเดียว
ทั้งนี้การสอบถามวันที่ 9 ส.ค. นี้ คาดว่าจะมีประชาชน ผู้สนใจ ผู้สนับสนุนและสื่อมวลชน มาศาลเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อรักษาความเรียบร้อยเพื่อให้กระบวนพิจารณาดำเนินไปด้วยความ เที่ยงธรรม  และรวดเร็ว อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30  ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15  ศาลอาญาโดยนายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา  จึงขอออกข้อกำหนดดังนี้ คือ
ห้ามมิให้ผู้ใดประพฤติตนในทางที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ก่อความรำคาญในบริเวณศาลหรือกระทำการในลักษณะที่เป็นการยั่วยุสนับสนุนใน บริเวณศาล
ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดัง อันเป็นการรบกวนการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในศาล
ห้ามมิให้ผู้ใดนำสินค้ามาวางจำหน่าย อันเป็นการกีดขวางทางเข้าออกศาลอาญา  และศาลอื่นริมถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่ศาลแขวงพระนครเหนือ ศาลอุทธรณ์  ศาลแพ่ง จรดศาลอาญา ผู้ใดฝ่าฝืนการกระทำดังกล่าว ถือกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ระวางโทษจำคุก 6 เดือน
ด้านนายประยุทธ ศิริล้น ผู้อำนวยการประจำสำนักอำนวยการศาลอาญากล่าวว่า ตนได้ประสานขอกำลังตำรวจเพิ่มจากเดิม ทั้งตำรวจนครบาล  ตำรวจคอมมานโดกองปราบ ตรึงกำลังหน้าศาล  ทั้งยังได้เตรียมสถานที่ และกางเต็นท์รองรับผู้สนับสนุนบริเวณลานจอดรถไว้แล้ว ส่วนช่างภาพ ที่ประจำจุดบริเวณด้านหลังศาล และรถโมบายถ่ายทอดสด จะต้องแจ้งรายชื่อภายในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค.
ส่วนสื่อมวลชนที่จะเข้าฟังการพิจารณาในห้องพิจารณา และสื่อมวลชนที่จะนั่งฟังการพิจารณาในห้องที่มีการถ่ายทอดโทรทัศน์วงจรปิด จะต้องแจ้งรายชื่อภายในวันที่ 8 ส.ค.ทั้งนี้ขอให้ผู้สื่อข่าวมาลงทะเบียนในวันที่ 9 ส.ค. ก่อนเวลา 08.00 น.  มิฉะนั้น จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในอาคารศาล

“ชูวิทย์” ฟ้อง “ผบช.น.” เอาจริงบ่อนลอยฟ้าย่านปิ่นเกล้าฯ


วันนี้( 1 ส.ค.)  รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาเรื่องการจับกุมบ่อนการพนักในเขตกรุงเทพมหานคร (กรณีบ่อนกิ่งเพชร) โดยเชิญพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.และพล.ต.ท.คำรณวิทย์  ธูปกระจ่าง ผบช.น.มาชี้แจง โดยผบ.ตร.ไม่ได้มามีเพียงพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่ได้เดินทางมาชี้แจงด้วยตนเอง แต่การประชุมล่าช้ากว่ากำหนดประกอบกับที่ประชุมนำเรื่องอื่นขึ้นมาพิจารณา ก่อน ทำให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่ติดราชการเตรียมงานรับเสด็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ฯ ในพิธีพระราชทานกระบี่แก่นักเรียนนายร้อยตำรวจ จึงมอบหมายให้พล.ต.ต.พิสิฎฐ์  พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น.ชี้แจงแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ก่อนที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รออยู่ในห้องรับรองและกำลังจะเดินทางกลับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.ตำรวจ เดินทางมาถึงห้องประชุมจึงเข้าไปพบพล.ต.ท.คำรณวิทย์ โดยหลังจากทักทายและรับทราบว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ติดราชการและได้มอบหมาย รองผบช.น. ชี้แจงโดยนายชูวิทย์ ได้กล่าวฝากเรื่องการตรวจสอบสถานบริการและบ่อนการพนันกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์

โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า ฝากว่ายังมีบ่อนลอยฟ้าอีกแห่งที่กลับมาเปิดให้เล่นกันอยู่ เรื่องนี้ตนมีพยานเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลเจ้าพระยาพร้อมมาให้ข้อมูลกับ กมธ.ตำรวจ  หากมีการร้องขอ ทั้งนี้บ่อนดังกล่าวยังใช้ที่จอดรถของวัดที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อให้ลูกค้าจอด รถ แม้เจ้าอาวาสจะไม่อยากให้แต่มีการขอร้องให้ใช้พื้นที่ของวันเป็นที่จอดรถ การที่มีลูกค้ามากทำให้มีคนเข้าออกบ่อนแห่งนี้จำนวนมากในแต่ละวันโดยเฉพาะ ช่วยดึกทำให้แพทย์และคนที่พักอาศัยใกล้เคียงมีความลำบาก

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ยังมีร้อนกึงผับที่เรียกว่าผับต่อ(ผับที่นักเที่ยวเดินทางไปเที่ยวต่อหลัง จากผับแรกที่ไปเที่ยวปิดแล้ว) แห่งหนึ่งชื่อเซฟเฮ้าส์อยู่ย่านซอยทองหล่อ ปรากฎว่ามีการเปิดเกินเวลาและยังให้บริการกับเยาวชนอายุ 15 ปี จึงขอเรียกร้องให้ดูแลด้วย

รมว.กลาโหมเล็งประกาศเคอร์ฟิวส์ดับไฟใต้


วันนี้ (1ส.ค.)  ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมซีเอสปัตตานี จ.ปัตตานี ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุที่พยายามเร่งให้ตัวเองมีความสำคัญมากขึ้น  จึงเป็น สาเหตุที่ทำให้เราเสียกำลังพลไปมาก เราจะนำแผนที่มีอยู่เดิมไปปฏิบัติให้เร็วขึ้น ทั้งนี้ตนได้หารือกับ ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งได้ลงความเห็นกันว่าต้องนำกำลังจากหลาย ๆ ส่วนมาช่วยกัน เพราะเห็นจุดอ่อนของกองทัพบก คือทำงานที่ไม่ใช้หน้าที่ของตนเองมากเหมือนจับฉ่าย ซึ่งก็ไม่อยากจะโทษหน่วยอื่น แต่อยากให้หน่วยต่าง ๆ เหล่านั้นส่งกำลังมาให้มาเพื่อสนับสนุนทหารด้วย เช่น การจับกุมของเถื่อน ยาเสพติด ซึ่งทหารไม่สมควรที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ทำหน้าที่เพื่อสนับสนุนเท่านั้น เพราะทหารเองนั้นมีภารกิจมากอยู่แล้ว หน้าที่ตรงนี้ขาดกำลังตำรวจที่มาดูแล จึงต้องเสริมกำลังตำรวจมาจุดนี้ ทหารอย่างเดียวรับภารกิจมากก็จะหนัก  
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า สำหรับภารกิจประจำที่ทหารทำอยู่นั้นวิเคราะห์กันว่าทหารเป็นเป้านิ่ง แต่ก็ต้องทำ เช่น การคุ้มครองพระ ครู นักเรียน  ซึ่งมีเวลาไปกลับที่แน่นอน และก็จะต้องทำกันทั้งวัน ทำให้ผู้ก่อเหตุรู้การเคลื่อนไหวจึงมีโอกาสที่จะถูกโจมตีมาก ส่วนเรื่องการวางระเบิดโรงแรมซีเอสปัตตานี จ.ปัตตานีนั้น ก็พลาดเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาโรงแรมนี้เคยถูกระเบิดมาแล้วซึ่งคิดว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยแต่ ก็มาโดน ถือว่ายังดีที่ความเสียหายน้อยไม่มีคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ทั้งนี้การที่ตนได้พูดคุยกับ ผบ.ทบ. และ ผบ.ทอ. ว่าจะนำกำลังทางอากาศเข้ามาช่วยดู แต่จะเป็นการปฏิบัติการที่เล็ก ๆ ไม่ถึงขั้นเอฟ-16 เพื่อใช้ในการลาดตระเวน โดยจะมีการติดอาวุธ เพราะว่าภารกิจประจำ เช่นบนถนนที่จะต้องไปส่งคน อย่างเช่นกรณีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุปิดถนนยิงเจ้าหน้าที่ทหารจนเสียชีวิตถึง 4 นาย ทั้งนี้คิดว่าถ้ามีเครื่องบินอยู่ข้างบนโอกาสนั้น คงเกิดขึ้นอยาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ ผบ.เหล่าทัพ พูดคุยกันก่อน          
เมื่อถามว่า การแบ่งงานให้หน่วยงานอื่น ๆ กับการเพิ่มกำลังทหารอย่างไหนจะดีกว่ากัน พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ภารกิจของใครๆก็ทำ และจะต้องทำตลอดไม่ใช่จะทำแค่สองโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น เพราะสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้มีทั้งคืน การเอาทหารลงไปก็จะต้องเข้าใจว่า เพราะต้องทำงานทั้งวันก็แย่เหมือนกันมันโอเวอร์โหลด  ที่ผ่านมาทหารทำหมด ทุกอย่างตั้งแต่ยาเสพติด ของเถื่อน การดูแลปัญหาชายแดน การตั้งด่านตรวจค้น กำลังก็หมด ซึ่งแผนต่าง ๆ ที่มีอยู่ถือว่าดีอยู่แล้ว แต่การปฏิบัติการตามแผนเป็นไปตามที่ได้สั่งการไว้หรือไม่ เพราะหน่วยปฏิบัติมีอยู่มากก็จะต้องดูตรงนี้ให้ชัดเจนด้วย ถ้าหากหน่วยปฏิบัติได้ทำการตามแผนแล้วยังมีเหตุการณ์ขึ้นแสดงว่าแผนไม่ดีก็ จะต้องไปปรับปรุงที่แผน
สำหรับในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการก็จะต้องดูแลเรื่องของโรงเรียนปอเนาะ เพราะทุกกระทรวงได้รับงบประมาณมาเหมือนกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยบอกไปกับผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปแล้ว ในเรื่องเงินที่ส่งไปช่วยเหลือทั้งด้านการศึกษาตามรายหัวถึงมือผู้รับหรือ ไม่ เช่นมีนักเรียน 100 คน แต่ทำเงินเบิกไปเป็นนักเรียน 200 คน และถามว่างบประมาณส่วนนั้นไปไหน ไม่ใช่ว่านำงบประมาณส่วนนั้นกลับมาทำร้ายเรา ก็จะต้องดูด้วย          
เมื่อถามถึงกรณีที่ที่ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี  ตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟใต้ที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่กำกับดูแลนั้น พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ศูนย์จะจัดตั้งอยู่ที่ กทม. ซึ่งต่อไปนี้ศูนย์ดังกล่าวจะคอยแก้ไขปัญหาให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นก็จะต้องรีบ แก้ไข ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ซ้ำซ้อนกลับหน่วยงานที่มีอยู่ เพียงแต่เพื่อให้การทำงานกระชับมากขึ้น ส่วนขวัญกำลังใจของทหารในพื้นที่ ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ยืนยันว่ากำลังใจดี ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม เข้ามาดูปัญหาไฟใต้ ก็จะดูแลในเรื่องของตำรวจเพื่อที่จะกำชับให้เกิดความรัดกุมตามความต้อง แต่ไม่ได้เข้ามาจุ้นจ้านในส่วนของกองทัพ
ทั้งนี้จะให้กองทัพ และ ตำรวจ ผนึกกำลังกัน เมื่อถามว่า จากที่ได้มีการหารือกับ ผบ.เหล่าทัพ ได้มีการพูดคุยเรื่องการบังคับใช้กฎหมายพิเศษเพื่อให้เกิดความรัดกุมอย่างไร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกัน และเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องทำ จึงจะต้องขอโทษหากเกิดความไม่สะดวกก็ช่วยไม่ได้ เวลาอย่างนี้จะมาเอาใจกันว่าไม่สะดวกไม่ได้แล้ว บางครั้งผู้ช่วยใหญ่ผู้ใหญ่บ้านคนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเวลา 23.00 น.ก็เรียบร้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่เราห้ามไม่ได้ แต่ถ้าถึงเวลาและอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เราก็ไม่ออกไป ก็จะมีการนำกฎหมายมาบังคับใช้ เพราะจำเป็นจะต้องทำแล้วในวันนี้ ถ้าหากมีการบังคับใช้กฎหมายแล้ว หากออกมาก็ซัดไปเลย ต้องเอามั้งไม่อย่างนั้นก็ไม่ไหว        
เมื่อว่าสถานการณ์ถึงขั้นประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่นั้น พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดเรายังไม่ได้พูดในรายละเอียดกัน ตนยังตอบไม่ได้ต้องค่อย ๆ ว่ากันไป โดยเฉพาะรายละเอียดในกฎหมายฉบับนี้ เมื่อถามว่ารัฐบาลยังสามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล ย้อนถามกลับสื่อว่าคุณคิดว่าได้หรือไม่ ผู้สื่อข่าวจึงได้ตอบกลับไปว่า สถานการณ์ในพื้นที่ยังมีการก่อเหตุเป็นรายวัน ซึ่งเป็นส่วนทางกลับที่รัฐบาลบอกคุมได้ แต่ รมว.กลาโหม ไม่ตอบคำถามสื่อ  เมื่อถามว่า รมว.กลาโหม จะลงพื้นที่พร้อมนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีว่าจะลงไปในพื้นที่เมื่อไหร่ ส่วนจำเป็นจะต้องลงหรือไม่นั้น ไม่ใช่ว่าถึงเวลาปุ๊บจะต้องลงพื้นที่ทันที วันนี้จะต้องส่งกำลังเข้าไปดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร ถ้านายกรัฐมนตรี ลงไป ก็จะต้องเอากำลังพลมาดูแลเป็น 100 คน ทำงานกันไม่ได้ รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมค่อยไป ไม่ใช่ไปสร้างภาพ แต่ก็ยอมรับว่าการที่นายกรัฐมนตรี หรือ ตนลงพื้นที่ ก็จะเป็นการลงไปให้กำลังใจกำลังพลในพื้นที่ เพียงแต่ต้องรอเวลาให้เหมาะสมเท่านั้น แต่ไม่ใช่เวลานี้เพราะมันยังไม่จำเป็น

มาร์คติงนายกฯร้องเพลงกระทบใจคนใต้


วันนี้ ( 1 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่านายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องทบทวนหลายสิ่งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในเรื่องกรอบนโยบายที่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอต่อที่ประชุมของสภา ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ในทางกลไกการปฏิบัติได้เดินตามแนวทางนั้นหรือไม่ ซึ่งจากการได้พูดคุยกับผู้สังเกตการณ์ นักวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ภาคใต้ ก็ยังยืนยันว่าขณะนี้มันยังมีความจำเป็นที่ต้องซักซ้อมทำความเข้าใจให้ทุก หน่วยงานนั้นเดินตามนโยบายหรือกรอบนโยบายตรงนั้น หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมันก็มีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรค่อนข้างเยอะ อยากให้รัฐบาลได้ให้ความสนใจ แล้วก็ใส่ใจในการที่จะเข้ามาดูเรื่องนี้

เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับในขณะที่เกิดเหตุระเบิดที่ รร.ซีเอส ปัตตานี แต่พรรคร่วมรัฐบาลมีงานเลี้ยงฉลองที่ รร. มิราเคิล แกรนด์ และมีการร้องเพลงสุขกันเถอะเรา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีระมัดระวังในเรื่องของภารกิจต่าง ๆ ว่าอย่าให้มันเกิดกระทบความรู้สึกในเรื่องที่เป็นความละเอียดอ่อนของ สถานการณ์
ด้าน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อค่ำวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการเกิดเหตุระเบิด 2 จุดที่จ.ปัตตานี ว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความห่วงใยในสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมี 17 หน่วยงานเข้าร่วม โดยมีพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี  นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ร่วมกันเป็นประธานดูแลในส่วนนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีการดำเนินงานแก้ปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง
น.ส.ศันสนีย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่สังคมออนไลน์ตั้งข้อสังเกตเรื่องความเหมาะสมในเรื่องของ 2 เหตุการณ์นี้นั้น ที่จริงแล้ว ตนขอให้ประชาชนแยกแยะด้วย เพราะระหว่างที่นายกรัฐมนตรีร่วมงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปีฮ.ศ.1433 ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุระเบิดดังกล่าวและสั่งการไปแล้ว และในการร่วมงานเลี้ยงของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ได้มีส.ส.หญิงเชิญนายกรัฐมนตรีขึ้นร้องเพลงบนเวที ซึ่งท่านเห็นว่ามีบรรยากาศการผ่อนคลายและเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง พรรคร่วมรัฐบาล นายกฯจึงขึ้นไปร้องเพลง
"โดยท่านยังได้ลงมาเชิญผู้ใหญ่ที่เป็นแกนนำของพรรคร่วมรัฐบาลขึ้นบนเวที ด้วย อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้เข้าใจว่านายกฯทำงาน แต่ตนมองว่าสิ่งที่เกิดบนเวทีไม่ได้เป็นการรื่นเริงจนเกินไป จึงขอความเห็นใจจากประชาชนให้แยกแยะ ซึ่งการแก้ปัญหาในภาคใต้นั้น รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจากที่ตนได้รับข้อมูลจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ก็พบว่าสถิติการก่อเหตุรุนแรงในเดือนรอมฎอนเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่าปีนี้ลดลง" น.ส.ศันสนีย์ กล่าว

สภากาชาดมอบโล่สดุดีศรีอาสา



วันนี้ ( 1 ส.ค.) ที่อาคารแพทยพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายแด่องค์อุปถัมภ์ และให้แก่ผู้อุปถัมภ์ อดีตผู้บริหารอาสากาชาด และผู้มีอุปการคุณต่อสำนักงานอาสากาชาดที่ล่วงลับไปแล้ว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานอาสากาชาด ครบรอบ 72 ปี

จากนั้นนายแผน ได้มอบโล่สดุดีศรีอาสาให้กับอาสากาชาด จำนวน 163 ราย เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะอาสากาชาดผู้ทำคุณประโยชน์ โดยมี นางประพีร์ ปุ้ยพันธวงศ์ ประธานอาสากาชาดกิตติมศักดิ์ เข้ารับโล่สดุดีด้วย นอกจากนี้ยังมีการมอบประกาศนียบัตรให้กับอาสาอาชาดที่ผ่านการอบรมในปี 2554-2555 จำนวน 98 ราย และเข็มเครื่องหมายประสิทธิภาพให้แก่อาสากาชาดที่ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ครบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จำนวน 275 ราย

ผู้โชคดีบอลยูโรรับรถมิราจแล้ว



วันนี้ ( 1 ส.ค.) ผู้บริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ได้มอบรถมิตซูบิชิ มิราจ 10 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 506,000 บาท รวมมูลค่า 5,060,000 บาท ซึ่งเป็นรางวัลที่ 4 ให้กับผู้โชคดีที่ส่งชิ้นส่วนหนังสือพิมพ์เดลินิวส์เข้าร่วมลุ้นโชคใหญ่ใน กิจกรรม “ลุ้นแชมป์ยูโร 2012 ลุ้นโชคกับเดลินิวส์” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เดลินิวส์ได้จัดอย่างต่อเนื่องมาเพื่อเป็นการ สมนาคุณให้แก่ผู้อ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ได้ลุ้นโชคจากผลการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ที่โปแลนด์ และยูเครนเป็นเจ้าภาพช่วงที่ผ่านมา
 “น้องฝ้าย” นางสาวบุญฑริกา แซ่โค้ว นักศึกษาสาวสวยชั้นปีที่ 2 คณะบัญชี ม.เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ วัย 20 ปี เผยว่า รู้สึกตื่นเต้นมากหลังจากรู้ว่าได้รางวัล เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับรางวัลใหญ่ขนาดนี้ เนื่องจากส่งชิ้นส่วนร่วมสนุกเพียง 9 ใบเท่านั้น
 ส่วน นางสุพัตรา สิทธิชัย ที่ทำกิจการร้านจิวเวลรี่ ซึ่งเดินทางมาจาก อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เผยว่า ที่ผ่านมาได้ร่วมกิจกรรมกับเดลินิวส์มาโดยตลอด ซึ่งเมื่อรู้ว่าได้รางวัลก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะส่งชิ้นส่วนที่ทายว่าทีม “กระทิงดุ”สเปนจะได้แชมป์มาร่วมสนุก เพียง 25 ใบเท่านั้น ซึ่งหากมีกิจกรรมแบบนี้อีกก็จะส่งมาร่วมสุนกเช่นเคยแน่นอน
 สำหรับผู้โชคดีอื่นๆที่เดินทางมารับรางวัลดังกล่าว ในวันที่ 1 ส.ค. ประกอบด้วย นายเกรียงศักดิ์ อินสวัสดิ์(กทม.), นายชัยพงษ์ เลี่ยมเปี่ยม(สุพรรณบุรี), พ.ต.ท.ชาญชัย กุณะวงษ์(เลย), นายพรชัย หวังวัฒนะ(เลย), นายมาโนต คงเรือง(สุราษฎร์ธานี), นายวีระศักดิ์ จีวะรัตน์(พังงา)

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources