วันนี้ ( 28 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.ทักษิณ
พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.9
รรท.ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางขุนเทียน
ช่วยราชการ บก.อก.บช.น. พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส.สน.บางขุนเทียน
พ.ต.ท.ปัญญา กุลไทย สว.สส.สน.บางขุนเทียน และ ร.ต.อ.ภีรชาติ คุ้มสังข์ รอง
สว.สส.สน.บางขุนเทียน แถลงจับกุมนายดำ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.504/2555
ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ
โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในซอยสุขสวัสดิ์ 1 แขวงและเขตจอมทอง กรุงเทพฯ
พ.ต.อ.ทักษิณ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา นายดำ ผู้ต้องหารายนี้พร้อมกับนายสราวุธหรือเล็ก ทรัพย์ศิริ อายุ 27 ปี และ นายกฤษฎา หรือบอลแหว่ง ค้าแหวน อายุ 27 ปี ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่อริกลุ่มเด็กแว้นบริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาบางบอน เป็นเหตุให้ ด.ต.วัลลภ ใบศรี ผบ.หมู่ ป.สน.บางขุนเทียน ที่กำลังขับขี่รถ จยย.ไปตั้งด่านถูกกระสุนลูกหลงถากเข้าศีรษะได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.9 และฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ได้ร่วมกันติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ 2 ราย เหลือเพียงนายดำ ซึ่งเป็นรายสุดท้ายโดนรวบตัวได้ในวันนี้
สอบสวนนายดำ รับสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้ทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นภายในผับแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนฯ ก่อนจะออกมาข้างนอกและมาดักรอ ก่อนจะนั่งรถ จยย.ซ้อนท้ายนายกฤษฎา หรือบอลแหว่ง ค้าแหวน อายุ 27 ปี เพื่อนรุ่นพี่ และเมื่อกลุ่มที่มีเรื่องในร้านออกมา จึงใช้ปืนลูกโม่ ขนาด .32 ยิงใส่กลุ่มคู่อริไปจนหมด 8 นัด โดยไม่ทราบว่ากระสุนไปถูกใครบ้าง จากนั้นก็พากันแยกย้ายกันหลบหนี พร้อมนำปืนก่อเหตุไปโยนจากบนสะพานกรุงเทพ 1 ทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนดอดไปเที่ยวพัทยา 2 วันแล้วย้อนกลับเข้าบ้านพักจนถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
“ปกติเป็นคนชอบยิงปืน มักจะไปซ้อมยิงปืนเป็นประจำ และเมื่อประมาณ 3 เดือน ผมเข้าไปดูในอินเตอร์เน็ต ก่อนตัดสินใจสั่งซื้ออาวุธปืนลูกโม่ .32 ราคา 25,000 บาท โดยนัดเจอเพื่อส่งปืนกัน ส่วนที่ซื้อปืนมาเพราะจะเก็บไว้ป้องกันตัว ซึ่งปืนกระบอกนี้ยังไม่เคยใช้ก่อเหตุมาก่อน” นายดำ กล่าว
ด้าน ด.ต.วัลลภ ใบศรี ผบ.หมู่ ป.สน.บางขุนเทียน เหยื่อกระสุน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากตอนนั้นเลือดไหลออก จากศีรษะมาก โดยเพื่อนตำรวจช่วยกันนำตัวส่ง รพ.พระปิ่นเกล้า ให้แพทย์เย็บบาดแผล จำนวน 15 เข็ม จากนั้นก็เดินทางต่อไปที่ รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจบาดแผลซ้ำอีกครั้ง โดยหลังเกิดเรื่องมีผู้บังคับบัญชาแสดงความห่วงใยมากมายทั้งที่เป็นตำรวจและ กต.ตร.ภาคเอกชน นำดอกไม้และเงินช่วยเหลือเบื้องต้นมามอบให้
“โชคดีที่ไม่เสียชีวิตกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่ขณะนี้รู้สึกไม่สบายใจกับคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ธนกฤต ไปช่วยราชการที่ บช.น. 30 วัน ไม่ทราบจริงๆ ว่าท่านถูกสั่งย้ายด้วยเหตุอันใด เพราะที่ผ่านมา ผกก.สน.บางขุนเทียน ก็ดูแลสวัสดิการผู้ใต้บังคับบัญชาในโรงพักเป็นอย่างดีไม่มีบกพร่อง และในวันเกิดเหตุยังโทรศัพท์เข้ามาสอบถาม สวป. ซึ่งเข้าเวรในที่เกิดเหตุว่า อาการผมเป็นอย่างไร พร้อมกับกำชับให้ สวป. รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงโดยด่วนที่สุด ก่อนจะเดินทางมาเยี่ยมที่ รพ.ตำรวจ ขณะทำการตรวจรักษาบาดแผลด้วย ปัญหาน่าจะเกิดจากการสื่อสารผิดพลาด” ด.ต.วัลลภ กล่าว
พ.ต.อ.ทักษิณ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา นายดำ ผู้ต้องหารายนี้พร้อมกับนายสราวุธหรือเล็ก ทรัพย์ศิริ อายุ 27 ปี และ นายกฤษฎา หรือบอลแหว่ง ค้าแหวน อายุ 27 ปี ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่อริกลุ่มเด็กแว้นบริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาบางบอน เป็นเหตุให้ ด.ต.วัลลภ ใบศรี ผบ.หมู่ ป.สน.บางขุนเทียน ที่กำลังขับขี่รถ จยย.ไปตั้งด่านถูกกระสุนลูกหลงถากเข้าศีรษะได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.9 และฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ได้ร่วมกันติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ 2 ราย เหลือเพียงนายดำ ซึ่งเป็นรายสุดท้ายโดนรวบตัวได้ในวันนี้
สอบสวนนายดำ รับสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้ทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นภายในผับแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนฯ ก่อนจะออกมาข้างนอกและมาดักรอ ก่อนจะนั่งรถ จยย.ซ้อนท้ายนายกฤษฎา หรือบอลแหว่ง ค้าแหวน อายุ 27 ปี เพื่อนรุ่นพี่ และเมื่อกลุ่มที่มีเรื่องในร้านออกมา จึงใช้ปืนลูกโม่ ขนาด .32 ยิงใส่กลุ่มคู่อริไปจนหมด 8 นัด โดยไม่ทราบว่ากระสุนไปถูกใครบ้าง จากนั้นก็พากันแยกย้ายกันหลบหนี พร้อมนำปืนก่อเหตุไปโยนจากบนสะพานกรุงเทพ 1 ทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนดอดไปเที่ยวพัทยา 2 วันแล้วย้อนกลับเข้าบ้านพักจนถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
“ปกติเป็นคนชอบยิงปืน มักจะไปซ้อมยิงปืนเป็นประจำ และเมื่อประมาณ 3 เดือน ผมเข้าไปดูในอินเตอร์เน็ต ก่อนตัดสินใจสั่งซื้ออาวุธปืนลูกโม่ .32 ราคา 25,000 บาท โดยนัดเจอเพื่อส่งปืนกัน ส่วนที่ซื้อปืนมาเพราะจะเก็บไว้ป้องกันตัว ซึ่งปืนกระบอกนี้ยังไม่เคยใช้ก่อเหตุมาก่อน” นายดำ กล่าว
ด้าน ด.ต.วัลลภ ใบศรี ผบ.หมู่ ป.สน.บางขุนเทียน เหยื่อกระสุน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากตอนนั้นเลือดไหลออก จากศีรษะมาก โดยเพื่อนตำรวจช่วยกันนำตัวส่ง รพ.พระปิ่นเกล้า ให้แพทย์เย็บบาดแผล จำนวน 15 เข็ม จากนั้นก็เดินทางต่อไปที่ รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจบาดแผลซ้ำอีกครั้ง โดยหลังเกิดเรื่องมีผู้บังคับบัญชาแสดงความห่วงใยมากมายทั้งที่เป็นตำรวจและ กต.ตร.ภาคเอกชน นำดอกไม้และเงินช่วยเหลือเบื้องต้นมามอบให้
“โชคดีที่ไม่เสียชีวิตกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่ขณะนี้รู้สึกไม่สบายใจกับคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ธนกฤต ไปช่วยราชการที่ บช.น. 30 วัน ไม่ทราบจริงๆ ว่าท่านถูกสั่งย้ายด้วยเหตุอันใด เพราะที่ผ่านมา ผกก.สน.บางขุนเทียน ก็ดูแลสวัสดิการผู้ใต้บังคับบัญชาในโรงพักเป็นอย่างดีไม่มีบกพร่อง และในวันเกิดเหตุยังโทรศัพท์เข้ามาสอบถาม สวป. ซึ่งเข้าเวรในที่เกิดเหตุว่า อาการผมเป็นอย่างไร พร้อมกับกำชับให้ สวป. รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงโดยด่วนที่สุด ก่อนจะเดินทางมาเยี่ยมที่ รพ.ตำรวจ ขณะทำการตรวจรักษาบาดแผลด้วย ปัญหาน่าจะเกิดจากการสื่อสารผิดพลาด” ด.ต.วัลลภ กล่าว