วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

จี้รัฐทบทวนแทรกแซงราคาข้าวเกษตรกรไม่พัฒนาการผลิต


วันนี้ (28 ส.ค.) นายจารึก สิงหปรีชา ผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ร่วมกับสำนักงานเศรษฐิกจการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์ข้่าวในปีนี้การส่งออกมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปีที่่ผ่านมาโดย ตัวเลขการส่งออกอยู่ประมาณ 6.5 ล้านตันในขณะทีี่ตลาดส่งออกหลักจะอยู่ที่ประเทศ ไนจีเรีย อินโดนีเซียและอิรัก
มีสัญญานการชะลอตัวการสั่งข้าวจากไทยลดลงจากประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ลดสั่งซื้อข้าวจากไทย 40 เปอร์เซนต์ ฟิลิปปินส์ ลดการสั่งซื้อ 30 เปอร์เซนต์ เมื่อพิจารณาดูทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาพบว่าข้าวไทยปรับตัวสูงขึ้นจากปี ที่ผ่านมา  20 เปอร์เซนต์ เฉลี่ย 671 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน มีปัจจัยที่มีผลกระต่อการส่งออกข้าว เช่น ปริมาณสต็อกข้าวของอินเดียที่มีมากเพียงพอต่อการส่งออกทั้งปี ประเทศเวียดนามลดราคาข้าวเพื่อแข่งขันกับอินเดียที่ค่าเงินอ่อนค่าทำให้ราคา ข้าวในตลาดโลกยิ่งตกต่ำ ประกอบกับปากีสถานขยายปริมาณการส่งออกข้าวมากขึ้น  แต่มีปัจจัยเป็นบวกต่อสถานการณ์ข้าวไทยคือ ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่่อนค่าลงขณะที่ความต้องการข้าวจีนเพิ่มขึ้น และสภาพภัยแล้งที่จะเกิดในปีนี้ทั้งที่อินเดียและสหรัฐอเมริกา
นายจารึก กล่าวต่อว่า  สำหรับผลประมาณการแบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์ โดยใช้ฐานข้อมูลระหว่างปี 2540-2553 เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ปริมาณการผลิตข้าวภายในประเทศกับตัวแปรทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญพบว่าการเพิ่มขึ้นของราคาข้าวภายในประเทศ การเพิ่มขึ้นของราคาส่งออกข้าว การเพิ่มขึ้นของปริมาณส่งออกข้าว หรือการเพิ่มขึ้นของแรงงานทำนา แสดงให้เห็นผลที่ไม่แตกต่างกันมากนัก พบว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้มีการขยายตัวของผลผลิตข้าว เนื่องจากการแทรกแซงตลาดโดยการรับจำนำเพิ่มระดับราคาขายข้าวสูงขึ้น เป็นผลทำให้บิดเบือนของกลไกราคา กรณีนี้จะมีผลเสียคือเกิดต้นทุนสังคมสูงขึ้นและค่าครองชีพสูงขึ้นด้วย ดังนั้นกรณีกำหนดราคาข้าวจึงจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบผลได้ในส่วน ของการขยายตัวของการผลิตข้าวและผลเสียจากการบิดเบือนราคาตลาดด้วย
"ทั้งนี้การแทรกแซงราคาในทางเศรษฐศาสตร์ จะต้องทำระยะเวลาสั้นๆเท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการบิดเบือนกลไกตลาด และก่อให้เกิดส่งสัญณาญที่ผิดพลาดไปสู่เกษตกรได้เพาะราคาไม่อยู่บนความจริง จะทำให้เกษตกรขยายพื้นที่ปลูกอย่างมาก เพื่อผลิตมากๆและขายได้มากๆไม่ควบคุมคุณภาพและไม่เกิดการแข่งขันและการพัฒนา พันธุ์ข้าวคุณภาพดี เพราะไม่ว่าจะปลูกข้าวอย่างไรรัฐรับซื้อทั้งหมด รัฐจะต้องทบทวนว่าจะทำให้เกิดราคาภายในหรือภายนอกประเทศ ต้องหันไปลดต้นทุนการผลิตและส่งเสริมให้ปลูกข้าวคุณภาพดี  ถ้าปลายปีไทยไม่มีภัยพิบัติธรรมชาติคาดว่าปีหน้าปริมาณข้าวไทย ออกสู่ตลาด 25 ล้านตันข้าวสาร จากพื้นที่ปลูก 61ล้านไร่ โดยประเทศไทยอาจจะขึ้นอันดับสองของโลก แต่ราคาตลาดโลกจะไม่ขยับเพราะอินเดีย ยังมีสต๊อกข้าวอยู่ถึง 30 ล้านตันยกเว้นแต่ประสบภัยพิบัติ ในประเทศคู่แข่งสำคัญทำให้ราคาตลาดโลกสูงขึ้นแต่ไม่ถึงปี 2551 อย่างแน่นอน" นายจารึก กล่าว.

0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources