วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ส.ว.ฝ่ายผู้ร้องรับถอนชื่อ“อานันท์”ออกแล้ว


วันนี้ ( 2 ก.ค.) นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ผู้ร้องร่วมกับพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ขัดต่อมาตรา 68 กล่าวว่า ขณะนี้ตนและพล.อ.สมเจตน์ ได้ถอนชื่อนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากการเป็นพยานฝ่ายผู้ร้องแล้ว เนื่องจากบุคคลที่มอบหมายให้ไปประสานนายอานันท์ ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนสาเหตุที่เสนอชื่อท่านไป เพราะมีคนในกลุ่มเห็นว่านายอานันท์ น่าจะเกี่ยวข้องและรับทราบเจตนารมณ์ ม.68 ของรัฐธรรมนูญ 2550 เพราะล้อมาจากมาตรา 63 รัฐธรรมนูญ 2540 ที่นายอานันท์ เป็นประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 จึงเสนอชื่อในบัญชีระบุพยาน

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ขณะที่ระยะเวลาการเสนอชื่อกระชั้นชิด จึงไม่สามารถประสานไปให้ทราบก่อน แต่ถือเป็นเรื่องปกติในกระบวนการยุติธรรมในการถอนชื่อพยาน หากไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ถือว่าเป็นการถือวิสาสะแต่อย่างใด อย่างก็ดี ต้องกราบขอโทษนายอานันท์ด้วย ที่ถูกพาดพิงกับเรื่องนี้พร้อมขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยและเครือข่ายหยุด ข่มขู่พยานกับศาลรัฐธรรมนูญและให้กลับมาเคารพกฎหมายหรือถือว่ามีชายชุดดำ และอาวุธสงครามถึงแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ได้.

กสม.แต่งดำประท้วงค้านตั้ง“โสภณธีณ์”


วันนี้ (2 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กมส.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีบรรดาข้าราชการและพนักงาน แต่งชุดดำเพื่อประท้วงกรณีที่นายวีรวิทย์ วีรวรวิทย์ รองเลขาธิการ คณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่งตั้งให้นายโสภณธีณ์ ตะติโชติพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักวินิจฉัยและคดีให้ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนรองเลขาธิการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แทนนายประนูญ สุวรรณภักดี รองเลขาธิการฯ ที่ล้มป่วยไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยอ้างว่าการแต่งตั้งนายโสภณธีณ์ ไม่มีเหมาะสมหลายอย่าง

ขณะที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมากลุ่มข้าราชการและพนักงาน มีหนังสือถึงประธานกรรมการสิทธิ และกรรมการสิทธิฯ 6 คนรวมทั้งขอให้พิจารณายกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายโสภณธีณ์  และมีคำสั่งให้เรียกประชุมคณะกรรมการสิทธิและผู้เกี่ยวข้องในวันที่ 3 ก.ค. และคาดว่าข้าราชการและพนักงานจะแต่งดำกันมาทำงานกันมากขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ที่แต่งชุดดำนัดจะทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยจะยืนล้อมเป็น วงกลมรอบห้องประชุม

กก.สิทธิ์ฯ เป็นงง ต้องเป็นพยานคดีแก้รธน.



วันนี้ (2 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายปริญญา ศิริสารการ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หนึ่งในพยานตามคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย การร่างการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เป็นการล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบจะต้องไปเป็นพยานในคำร้องดังกล่าว เพราะยังไม่มีหนังสือจากศาลแจ้งมา หรือมีใครมาติดต่อ อีกทั้งกรณีดังกล่าวก็มีการร้องเข้ามาให้กรรมการสิทธิ์ฯ ตรวจสอบเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการสิทธิ์ฯ ที่มีนายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เป็นประธาน จึงเกรงว่าถ้าไปเป็นพยานนั้นจะเป็นการเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงยังไม่แน่ชัดว่า จะให้ตนไปชี้แจงในประเด็นไหนอย่างไร และในฐานะอะไร แต่อย่างไรก็ตามหากศาลรัฐธรรมนูญมีหมายเรียกมาให้ตนไปชี้แจงซึ่งก็ต้องเคารพ ส่วนจะต้องไปชี้แจงในประเด็นใดก็ต้องกำหนดประเด็นในทราบ.

“ปู” ร่วมฉลอง100ปีการบินทอ.ตื่นตาโชว์บินผาดแผลง


วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 14.00 น. ที่อาคารคลังสินค้า 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการแสดงการบินเนื่องใน “วันครบรอบ 100 ปี การบินของบุพการีทหารอากาศ” ภายในงานมีการแสดงการบิน แบ่งออกเป็น 4 องก์ ประกอบด้วยองก์ที่ 1 “รักบุพการีเท่าน่านฟ้า” เป็นการแสดงเบิกน่านฟ้า เพื่อยกย่อง เชิดชู บุพการีทหารอากาศ ที่วางรากฐานการบินของประเทศจนพัฒนาเป็นกองทัพอากาศที่มีประวัติศาสตร์อัน ยาวนานกว่า 100 ปี องก์ที่ 2 “รักนภาแห่งสยาม” แสดงการบินการป้องกันภัยทางอากาศ การบินโจมตีทางอากาศ องก์ที่ 3 “รักประชาทั่วเขตคาม”  แสดงการบินสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและกำลังภาคพื้น การบินปฏิบัติฝนหลวง การปฏิบัติการควบคุมไฟป่า และองก์ที่ 4 “เทิดพระนามองค์พระมหากษัตริย์ไทย” เป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ เป็นการแสดงการวิ่งขึ้นของเครื่องบินพระที่นั่ง และการบินผ่านของเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง พร้อมกับการสวนสนามแปรขบวน ของวงดุริยางค์ทหารอากาศ บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ 
สุดท้ายเป็นองก์พิเศษ “กองทัพอากาศไทย ก้าวไกลวิสัยทัศน์แห่งศตวรรษใหม่” เป็นการแสดงปิดท้าย เพื่อแสดงถึงวิสัยทัศน์ความมุ่งหวังที่จะก้าวไปสู่กองทัพอากาศชั้นนำใน ภูมิภาค โดยมีการบินเดี่ยวแสดงสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ-16เอ ซึ่งออกแบบสีลายพิเศษในโอกาส 100 ปี นอกจากนี้ยังการบินเดี่ยวแสดงสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่แบบกริปเพน 39 ซี การแสดงการบินผาดแผลงของหมู่บินผาดแผลงบลูฟีนิกซ์ จากนั้นหมู่บินเครื่องบินฝึกแบบซีที-4อี  16  เครื่อง ทำการบินหมู่แปรอักษรตัวเลข “100” และปิดพิธีฯ ด้วยการบินปล่อยควันสีธงชาติไทย ของเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบเอยู-23เอ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั่งชมการโชว์ศักยภาพการบินเกือบ 2 ชั่วโมง.

สธ.เผยยอดผู้ป่วยไข้เลือดออก1.7หมื่นรายตายแล้ว18


วันนี้ (2 ก.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีหญิงวัย 48 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ เสียชีวิตจากการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกทั้งที่ไปสถานพยาบาลถึง 3 แห่ง ได้แก่ คลินิกแห่งหนึ่ง รพ.อำนาจเจริญ ก่อนถูกส่งตัวไปที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ว่า กรณีนี้ได้รับรายงานจากทางทีมสืบสวนสอบสวนโรคว่า ผู้ป่วยมีอาการไข้มา 3 วันแล้ว และได้ไปซื้อยามารับประทาน พออาการไม่ดีขึ้นจึงไปหาหมอที่คลินิก ก่อนไป รพ.ซึ่งมีอาการหนัก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้พบผู้ป่วยใกล้เคียงกับปี 2554 แต่น้อยกว่าการระบาดใหญ่ในปี 2553 โดยปีนี้พบผู้ป่วยแล้วกว่า 1.7 หมื่นราย เสียชีวิต 18 ราย อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าห่วงคือ พบผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะอาจคิดว่าไม่ได้เป็นโรคนี้จึงไม่ได้ระวังตัว ดังนั้นถ้าเป็น ไข้ 48 ชม.แล้วไม่หายควรรีบไปพบแพทย์ทันที เวลาเป็นไข้ไม่ควรรับประทานยาแอสไพริน หรือ ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตรียรอยด์ เพราะการกินยากลุ่มี้ทำให้ไข้ลดก็จริง แต่จะมีโอกาสเกิดเลือดออกเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรรับประทานยาพาราเซตามอลดีที่สุด

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า การเป็นโรคไข้เลือดออกจนขั้นเสียชีวิตอย่างรวดเร็วนั้น เป็นไปได้สูงว่า ไม่ใช่การได้รับเชื้อครั้งแรก อาจจะเป็นได้รับเชื้อครั้งที่ 2 และเป็นคนละชนิดกับที่ได้รับครั้งแรกทำให้อาการรุนแรง.

“พิเชษฐ์”รับถกพ.ร.บ.งบประมาณวูบคาเก้าอี้


วันนี้ (2 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ พันธวิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า มีอาการวูบจนตกเก้าอี้ ระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ประจำปี 2555 เนื่องจากเพิ่งเข้ารับการผ่าตัด แต่อาการไม่เป็นอะไรมากและสามารถนั่งร่วมประชุมต่อได้แล้ว ส่วนสาเหตุที่ไม่อยากพัก เพราะอยู่ในวาระที่สำคัญ คือพิจารณางบประมาณของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม จำนวน 5 หมื่นล้านบาท จึงอยากอยู่ร่วมให้จบ และจนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ ในเวลา 22.00 น.

“ภูมิธรรม”ฝากศาลรธน.ฝืนความรู้สึกปชช.ระวังวุ่นวาย


วันนี้ ( 2 ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และรักษาการ ผอ.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยังมั่นใจในความถูกต้องว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญดำเนินการถูกต้อง ตามกระบวนการและตามที่รัฐธรรมนูญรองรับไว้ ไม่ได้ล้มล้างการปกครองอย่างที่ถูกกล่าวหา แม้ว่าขณะนี้จะมีประเด็นทางข้อกฎหมาย แต่พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าไม่มีปัญหา เพราะเสนอขอแก้ไขตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง และยังเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าความกังวลขณะนี้ไม่ใช่บทบัญญัติกฎหมาย แต่เป็นเรื่องการเมืองจากท่าทีของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประชาชนต้องเฝ้าดู เพราะหากเป็นอย่างนั้น ประเทศชาติจะเดินต่ออย่างไรและจะวุ่นวายได้ ถ้าศาลทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกของประชาชนมาก ๆ จะมีปัญหาความเห็นส่วนตัวในเรื่องข้อกฎหมายและไม่หนักใจอะไร เพราะทำทุกอย่างถูกต้อง แต่ท่าทีของตุลาการตนเองก็ยังมึน เพราะไม่รู้ว่าจะไปทิศทางไหน เพราะหากจะเอาแบบเป็นปัญหาไม่รู้ว่าจะยึดบรรทัดฐานอะไร เพราะขณะนี้รัฐธรรมนูญใหม่ยังไม่ได้ยกร่างหรือคงเป็นรูปแบบใหม่ แบบพิเศษของการเมืองไทย.

พ่อเมืองมหาชัยยันพิจารณาเงินเดือนสธ.โปร่งใส


วันนี้ ( 2 ก.ค.) นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวถึงกรณีที่นพ.สกล ภูมิรัตน์ประพิณ ผอ.โรงพยาบาลสมุทรสาคร ตัวแทนสาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ ใน จ.สมุทรสาคร เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯและรมว.มหาดไทย  เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยระบุว่า ตนใช้อำนาจหักเงินเดือนของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งจังหวัด 0.2 เปอร์เซ็นต์ ไปโดยไม่ได้คืนกลับมา ว่า เรื่องนี้เป็นระเบียบการบริหารและนโยบายของจังหวัดสมุทรสาครที่ตกลงร่วมกัน มานานแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ที่ให้หน่วยงานในจังหวัดสมุทรสาครรวม 32 หน่วยงาน ร่วมกันพิจารณาการขึ้นเงินเดือนของทุกคน โดยขึ้นเงินเดือนปีละ 2 ครั้ง ๆ ละ 3 เปอร์เซ็นต์ รวม 6 เปอร์เซ็นต์

“ทั้งนี้มีการขึ้นเงินเดือนทุกหน่วยงาน 2.8 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน ส่วนอีก 0.2 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นการประเมินจากผู้ว่าราชการจังหวัด และตัวชี้วัดต่าง ๆ มีทุกหน่วยงานเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพในการประเมิน ขณะที่ที่ผ่านมาสาธารณสุขจังหวัดร้องเรียนมาว่าทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาว่าง ทำงานหนัก จึงขึ้นเงินเดือนให้แล้ว 2.9 เปอร์เซ็นต์ในครั้งแรกและถือว่ามากกว่าการขึ้นเงินเดือนของทุกหน่วยงานที่ ได้รับเพียง 2.8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานหลักของจังหวัด แต่เมื่อสาธารณสุขจังหวัดร้องเรียนมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดจึงตอบสนองข้อเรียกร้องไปทันที เนื่องจากเห็นใจในการปฏิบัติหน้าที่” ผวจ.สมุทรสาคร กล่าว

นายจุลภัทร กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ได้ชี้แจงให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯและรมว.มหาดไทยทราบแล้วตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา และวันนี้ได้เรียกกว่า 30 หน่วยงานในจังหวัดมายืนยันว่าตนทำเรื่องนี้ถูกต้อง โดยมีน.พ.สกล เข้ามาร่วมประชุมด้วยและได้ชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้ว ทั้งนี้พร้อมตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ทุกประการ ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่าตนจะนำมวลชนเข้ามาปะทะกับกลุ่มสาธารณสุขจังหวัดนั้น เห็นว่าไม่มีประโยชน์และไม่ทราบว่าจะทำอย่างนั้นเพราะอะไร.

นายกฯกินข้าวเที่ยงผู้นำเหล่าทัพ


วันนี้ ( 2 ก.ค.) เวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือแบบไม่เป็นทางการและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับคณะผู้ บัญชาการทางทหาร โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.อ.ธนะศักดิิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. และ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วม ก่อนเดินทางไปร่วมงาน 100 ปีการบินของบุพการีทหารอากาศ ที่อาคารคลังสินค้า 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ.

เหลือง-แดงแลกคนละหมัด จัดเสวนาดวลเดือดกลางเมืองอุดร


วันนี้(1 ก.ค.)ที่โรงแรมอุดรโฮเต็ล จ.อุดรธานี แกนนำกลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อาทิเช่น พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พิภพ ธงชัย ดร.ณรงค์ โชควัฒนา สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ และประพันธ์ คุณมี ได้เดินทางมาร่วมเสวนาในเรื่อง “ร่วมปฏิรูปประเทศไทย เพื่อหยุดการเมืองเลว” โดยมีสมาชิกกลุ่มคนเสื้อเหลืองและประชาชนทั่วไป ตลอดทั้งชาวเวียดนาม สัญชาติไทย เชื้อสายเวียดนาม ที่เกิดในจังหวัดอุดรธานี เดินทางมาร่วมในครั้งนี้
โดยแกนนำได้กล่าวถึงปัญหาสินค้าราคาแพง รัฐบาลแก้ไขไม่ได้ นอกจากนั้น ได้พูดถึงเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง โดยเปรียบเทียบประเทศอินเดียที่มีคนจำนวนมาก ฐานะยากจน แต่เวลาเลือกตั้งทุกครั้ง เขารับเงินแต่เขาจะไม่เลือกผู้ซื้อเสียง ซึ่งไม่เหมือนกับเมืองไทย ที่คนจำนวนประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่เข้าใจเรื่องของประชาธิปไตย ถ้าเขารู้ว่าเขารักบ้านรักเมือง เขาจะไม่รับเงิน สำหรับปัญหาเรื่องการขอใช้สนามบินอู่ตะเภาขององค์การน่าซ่านั้น  มันอาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝง ซึ่งในประวัติศาสตร์เคยมีมาให้เห็นแล้ว ตั้งแต่ในสมัยสงครามเวียดนาม ที่สหรัฐอเมริกาเคยใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพแล้วขนระเบิดและสารเคมีหรือฝนเหลือง ไปฆ่าประชาชนเพื่อนบ้านเสียชีวิต และพิการเป็นจำนวนมาก  จึงต้องให้รัฐบาลพิจารณาในเรื่องนี้ ก่อนที่จะให้ต่างชาติเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภาอีก
ในวันเดียวกัน ที่บริเวณสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี  ทางกลุ่มคนเสื้อแดง โดยสมาชิกชมรมคนรักอุดร กว่า ได้เดินทางมาฟังการกล่าวปราศรัยของแกนนำนปช. และส.ส.พรรคเพื่อไทย และบุคคลสำคัญภายในพรรค อาทิ นายกอบแก้ว พิกุลทอง  แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม โดยได้ชี้แจงการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 และกฎหมายการปรองดอง ที่ขณะนี้ถูกกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามกุข่าว สร้างกระแสทางการเมืองให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพื่อหวังต้องการให้รัฐบาลได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อการบริหารบ้านเมือง ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยทางแกนนำประกาศบนเวทีว่าจะไม่ยอมยุติการปราศรัย แม้ฝนจะตกก็ตาม เพราะว่าแกนนำบางส่วนทั้งนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ ก็จะเดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัยครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่คนทั้งสองกลุ่มได้เดินทางมาเปิดเวทีทางการเมืองครั้งนี้ที่ จ.อุดรธานี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังมารักษาความสงบเรียบร้อยเป็นจำนวนมาก เกรงจะมีมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ จึงต้องเข้มงวดกวดขันกับผู้ที่จะเดินทางไปร่วมในการชุมนุมครั้งนี้เป็น พิเศษ. 

ตัวแทนครู4ภาคเชียร์'ปู' พร้อมต้านปฏิวัติ


วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 09.40 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับสมาชิกเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย (ค.อ.ท.) ประกอบด้วยสหพันธ์ครูภาคเหนือ ชมรมครูภาคกลาง สมาพันธ์ครูภาคใต้ ชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย กว่า 200 คน ที่เดินทางเข้าพบเพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจในการทำงาน โดยตัวแทน ค.อ.ท. กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง มีการบิด เบือนข้อมูลความจริง มีขบวนการที่มุ่งทำลายความชอบธรรมของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล พร้อมทั้งขยายปมความขัดแย้งทางสังคม ประกอบกับมีสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในกลุ่มประเทศยุโรปที่จะส่งผลกระทบต่อ ประเทศไทย ทำให้คนไทยเกิดความวิตกกังวล ขาดความสุข และเกิดความแตกแยกในสังคม จึงเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ครอบงำและทำลายอำนาจอธิปไตย

ดังนั้นเครือข่าย ค.อ.ท. จึงขอประกาศเจตนารมณ์ร่วมที่จะยืนหยัดเคียงข้างรัฐบาลใน 4 ข้อ ได้แก่ 1. ค.อ.ท.จะสนับสนุนรัฐบาลให้บริหารประเทศต่อไปจนครบวาระ 2.จะปกป้องอำนาจอธิปไตยของปวงชนในการปกป้องคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และความเป็นธรรมให้กับประชาชนอย่างแท้จริง 3.จะร่วมกับทุกองค์กรในการต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ และ 4.ขอสนับสนุนนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ในการขับเคลื่อนโครงการกระทรวงศึกษาไทยใสสะอาด และมุ่งขจัดคอรัปชั่นในทุกรูปแบบต่อไป นอกจากนี้ทาง ค.อ.ท. ยังขอให้ช่วยสนับสนุนการแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับตัวแทนครูว่า ขอขอบคุณและซาบซึ้งต่อองค์กรวิชาชีพครูที่มาให้กำลังใจ เพราะกำลังใจเป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลพยายามมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อ ประชาชน ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงานก็มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมาตลอด เริ่มตั้งแต่สถานการณ์อุทกภัย ปัญหาเศรษฐกิจ และยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันกับตัวแทนครูว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขและปัญหาของ ประชาชนอย่างเต็มที่และเต็มศักยภาพ และพร้อมที่จะทำงานกับทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมทั้งขอให้ครูซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญ ช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจทั้งในองค์กรครูด้วยกันเอง นักศึกษา และประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ทำอย่างไรที่จะให้เกิดความมั่นใจ และความเชื่อมั่นในประเทศ ความขัดแย้งทางความคิดเกิดขึ้นได้ แต่ขออย่าให้ทำลายความสามัคคี และความเชื่อมั่นของพวกเราทุกคนการที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปให้ได้

“สถานการณ์ของรัฐบาล 7-8 เดือนที่สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้ เพราะเรามีความสามัคคี ร่วมกันเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าต่อไปเราก็จะฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้เช่นกัน และดิฉันจะนำกำลังใจที่ได้นี้ไปมอบให้กับ ครม. เพื่อที่จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานรับใช้ประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศชาติต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว พร้อมรับปากว่าจะให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการแก้ไขพ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ พ.ศ. 2539 ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะเป็นประโยชน์กับข้าราชการทุกคน.

ฝ่ายค้านไม่ยื่นร่างปรองดองฯประกบ


วันนี้ (2 ก.ค. )ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แสดงเจตนารมณ์อยากให้มีการชะลอ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ทั้ง 4 ฉบับว่า ฝ่ายค้านยินดีสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว แต่ยังไม่มีหลักประกันอะไร แม้จะเป็นเจตนาที่ดี หากจะเป็นจริงก็ควรถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ทั้ง 4 ฉบับออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรไปเลย มิฉะนั้นจะเป็นเพียงการสร้างกระแส เพื่อลดกระแสต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ชั่วคราว แต่พอถึงเวลาเปิดประชุมสภาจะมีการดำเนินการหยิบยกกฎหมายฉบับนี้ขึ้นพิจารณา และจะทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่รูปแบบเดิม จนในที่สุดประเทศจะเสี่ยงต่อความขัดแย้งและแตกแยก

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของฝ่ายค้านขอยืนยันว่า จะไม่มีการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ เข้าประกบตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอ เพราะหากทำเช่นนั้น จะเท่ากับว่าเป็นการไปร่วมกรระบวนการล้างผิด ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้น หากรัฐบาลยังคงดึงดันเดินหน้าออก พ.ร.บ.ปรองดองฯ  ฝ่ายค้านก็จะคัดค้านต่อไปแต่ไม่ได้ตั้งธงไว้ว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง เพียงแต่ทำทุกอย่างไปตามข้อเท็จจริง โดยเฉพาะจะไม่รับหลักการตั้งแต่วาระแรก.

จับแล้วแท็กซี่โจรจี้สาวบินไทย


วันนี้ (2 ก.ค.) พ.ต.อ.คมสัน แตงจุ้ย ผกก.สน.ลาดกระบัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจสามารถจับกุมนายชรินทร์ ช้ำเกตุ อายุ 35 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ น.ส.ชลลดา จาระสิทธิ์ อายุ 25 ปีพนักงานฝ่ายครัว บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ทรัพย์สินและเงินสดประมาณ 5 หมื่นบาท เหตุเกิดช่วงกลางดึกวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้แล้ว ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านพักในหมู่บ้านเอื้ออาทรหัวหมาก
พ.ต.อ.คมสัน กล่าวต่อว่า เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ อ้างว่ารถแท็กซี่ที่ผู้ต้องหาเป็นผู้ครอบครองมีการซื้อขายหลายทอด อย่างไรก็ ตามตำรวจไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากมีพยานหลักฐานแน่นหนา จึงควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน น.ส.วราภรณ์ โชติรุ่งเรืองทอง อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เดินทางมาขอดูตัวผู้ต้องหา พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ก็เดินออกมาเรียกแท็กซี่บริเวณหน้าทางเข้าเพื่อจะกลับบ้านพักที่ซอยวิภาวดี 20 แต่ไม่มีคันไหนยอมไป จึงข้ามไปเรียกฝั่งตรงข้าม จนกระทั่งได้ขึ้นรถแท็กซี่ของนายชรินทร์ จากนั้นนายชรินทร์ก็ขับพาเข้าทางลัดเพื่อจะไปออกถนนพระราม 9 แต่เมื่อขับมาได้สักระยะก็รู้สึกว่าทางเริ่มเปลี่ยวขึ้นเรื่อยๆ จึงบอกให้นายชรินทร์เปลี่ยนทางออกไปถนนใหญ่ แต่เจ้าตัวกลับเลี้ยวรถเข้าไปในซอยอาบอบนวดแห่งหนึ่ง ก่อนดับไฟและลงมือใช้มีดฟันเข้าที่มือของตนจนได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นบังคับให้ตนส่งทรัพย์สิน ประกอบด้วย โทรศัพท์ไอโฟน 4 เงินสด 1,200 บาท โดยนายชรินทร์ยังหันมาขอโทษ บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่เดี๋ยวอีกสักพักจะคืนทรัพย์สินให้ จากนั้นได้ปล่อยตนลงจากรถ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายชรินทร์เข้ามาในห้องชี้ตัวผู้ต้องหา โดยให้ยืนปะปนกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของโรงพักอีก 5 นายเพื่อให้ ผู้เสียหายที่
ถูกแท็กซี่ก่อเหตุชิงทรัพย์ทั้งหมด 4 ราย เหตุเกิดในพื้นที่ บก.น.3 และบก.น.4 ดูตัว โดยผู้เสียหายทั้งหมดชี้ตัวนายชรินทร์ว่าคือผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ

ด้าน พ.ต.ท.สายันต์ เพ็ชรยืนยง รอง ผกก.สส.สน.ลาดกระบัง กล่าวว่า หลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้องหา และผู้เสียหายทั้ง 4 รายเพิ่มเติม โดยผู้เสียหายของท้องที่สน.บางชัน กับ สน.วังทองหลางนั้น ก็จะรวบรวมรายระเอียดไว้ พร้อมประสานส่งให้พนักงานสอบสวนภายหลัง เบื้องต้นผู้ต้องหาได้แจ้งขอยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้อนุญาตให้ประกันเนื่องจากเดินทางเข้ามามอบตัวเอง โดยตั้งหลักทรัพย์ไว้ที่ 2 แสนบาท ซึ่งทางผู้ต้องหาแจ้งว่ากำลังอยู่ระหว่างหาหลักทรัพย์อยู่ และจะแจ้งให้ สน.อื่น มารับตัวไปดำเนินคดีต่อไป แต่ถ้าหากหาหลักทรัพย์มาประกันตัวไม่ได้ก็จะนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัด มีนบุรีในวันที่ 4 ก.ค.นี้.

"ชูวิทย์"บุกบ่อนดังถูกกันไม่ให้เข้าหวิดตะลุมบอน


วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 17.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้พาสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบบ่อนการพนันภายในซอยเพชรบุรี 5 ถนนเพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งว่า มีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันภายในซอยดังกล่าว โดยระหว่างที่นายชูวิทย์พาคณะสื่อมวลชน เดินเข้าไปในซอยประมาณ 200 เมตร มาถึงจุดที่ได้รับแจ้งว่าอาคารที่อยู่ภายในซอยย่อยเปิดเป็นบ่อนการพนัน แต่ปรากฏว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 30 คน กรูเข้ามาขวางไม่ให้นายชูวิทย์และสื่อมวลชนเข้าไป จนเกิดการปะทะกันถึงขั้นผลักอกกันไปมา โดยกลุ่มผู้ขัดขวางได้ขว้างก้อนน้ำแข็งและสาดน้ำใส่กลุ่มนายชูวิทย์รวมถึง สื่อมวลชนจนเปียกปอนไปตามๆ กัน

จากนั้นนายชูวิทย์ได้นำเก้าอี้มานั่งอยู่บริเวณปากทางเข้าไม่ยอมออก จากบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 นำกำลังตำรวจ สน.พญาไท จำนวนหนึ่ง เข้าระงับเหตุ และเจรจากับนายชูวิทย์ให้เดินทางกลับไปก่อน เนื่องจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในซอยไม่พอใจ เพราะทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก นายชูวิทย์จึงยอมกลับออกมาด้านนอก

โดยนายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าภายในซอยนี้มีบ่อนการพนัน เปิดให้คนเข้ามา เล่นได้ ทั้งที่บ่อนแห่งอื่นในกรุงเทพฯ ถูกปิดหมดแล้ว แต่บ่อนที่นี่ยังเปิดอยู่ จึงเดินทางมาตรวจสอบว่ามีจริงหรือไม่ และอยากจะมาเล่นบ้าง ซึ่งไม่รู้ว่าบ่อนนี้เปิดอยู่ได้อย่างไร ก่อนเดินทางมาก็ได้แจ้งให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. ทราบแล้ว ซึ่งบอกว่าจะตามมา แต่ก็ส่งตำรวจมาแทนและมาช้า เรื่องนี้ตนไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร และไม่กลัวด้วย ทั้งที่รู้ว่ามาที่นี่แล้วอันตรายแต่ก็มา และจะมาทุกวันเพราะอยากรู้ว่าที่นี่ใหญ่แค่ไหน ทำไมถึงเป็นสองมาตรฐาน ที่อื่นถูกปิดแต่ที่นี่เปิดได้ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.) ตนจะเปิดแถลงข่าวเรื่องนี้ด้วย โดยจะแจ้งรายละเอียดอีกครั้งว่าจะแถลงที่ไหนเมื่อไร จากนั้นนายชูวิทย์จึงเรียกรถแท็กซี่กลับไป.  

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources