วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

Trendy Review:Dell XPS 13 Ultrabook ตัวล่าสุดของ Dell


Pic_246250

Notebook ก็ยังมีขนาดใหญ่และหนักเกินจะพกพาได้สะดวก Intel จึงนำเสนอ Form Factor แบบใหม่ สำหรับ Notebook ที่เรียกว่า Ultrabook และนี่คือ Ultrabook น้องใหม่ล่าสุด จากแบรนด์ PC ชื่อดังระดับโลกอย่าง Dell ครับ...

หลังจากที่ Netbook สร้างความฮือฮาให้กับวงการ Notebook ไปได้พักใหญ่ๆ จากขนาดที่เล็กและเบาพกพาสะดวก แต่สุดท้าย เมื่อซอฟต์แวร์มีการพัฒนาให้มีความสามารถมากขึ้น บ่อยครั้งที่ประสิทธิภาพของ Netbook ไม่มากพอที่จะรันซอฟต์แวร์ที่เราจำเป็นต้องใช้ในการทำงานได้ แต่ Notebook ก็ยังมีขนาดใหญ่และหนักเกินจะพกพาได้สะดวก Intel จึงนำเสนอ Form Factor แบบใหม่ สำหรับ Notebook ที่เรียกว่า Ultrabook และนี่คือ Ultrabook น้องใหม่ล่าสุด จากแบรนด์ PC ชื่อดังระดับโลกอย่าง Dell ครับ

เริ่มตั้งแต่แกะกล่อง


เท่าที่ผมสังเกต ปกติแล้ว Notebook ที่มีขนาดเล็ก บาง และ เบา มักจะถูกออกแบบให้กล่องใส่มีขนาดเล็กและบางตามไปด้วย เรียกว่าเข้า Concept เลย แต่ว่า Dell XPS 13 นี่สวนกระแสครับ กล่องใหญ่มากๆ ทั้งๆ ที่ความจริง ดูจากเลขรุ่นก็น่าจะรู้ๆ  อยู่ว่าขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ไม่น่าจะกล่องใหญ่ขนาดนี้เลย
แกะกล่องใหญ่ออกมา ก็จะมีกล่องเล็ก 2 กล่อง กล่องแรกคือใส่ตัวเครื่อง คู่มือ และแผ่นซอฟต์แวร์ ส่วนกล่องเล็กอีกใบจะใส่ชาร์จเจอร์ครับ

เอาตัวเครื่องออกมาแล้ว ก็ต้องบอกว่าบางและเบาจริงๆ แต่น่าแปลกใจอยู่นิดๆ ว่า ทำไมมันดูเล็กๆ ผิดกับ Notebook ขนาดหน้าจอ 13 นิ้วตามปกติ เลยต้องขอเอามาเทียบกับ MacBook Air 11 นิ้ว และ MacBook Pro 13 นิ้วซะหน่อย
เห็นได้ชัดเลยว่า Dell XPS 13 นี่ ตั้งใจจะทำบน Form Factor ขนาด 11 นิ้วครับ เลยทำให้มันดูเล็กจริงๆ

ผิดกับ Ultrabook ยี่ห้ออื่นที่ผมเคยลองมา ที่จะพยายามทำตัวเครื่องเป็นแนว Unibody ใช้อลูมิเนียมตลอดทั้งเครื่อง แต่ Dell XPS นี่แหวกแนวอีกแล้ว ด้วยการใช้อลูมิเนียมในส่วนของหน้าจอ และเฟรมบางส่วนของบอดี้ แต่ว่าตัวบอดี้จริงๆ ใช้คาร์บอนไฟเบอร์ครับ ซึ่งเป็นวัสดุที่คงทนและเบามาก
หน้าจอขนาด 13 นิ้ว ขอบจอบางเอาการ เพื่อให้สามารถอยู่ใน Form Factor ที่เล็กกว่า Notebook จอ 13 นิ้วปกติได้ ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล Widescreen HD แต่ที่เจ๋งจริงๆ คือ จอเป็น Corning Gorilla Glass ทนต่อการเกิดรอยขีดข่วน สีสันแจ่มมาก ความสว่างสุดๆ ไปเลย ผมไม่แนะนำให้ท่านผู้อ่านเปิดความสว่างสุดๆ ในสภาพแสงที่ไม่เยอะครับ เพราะจะแสบตาจริงๆ
คีย์บอร์ด วาง Layout ได้ดีมากครับ ใช้พิมพ์ถนัดมือจริงๆ ตัวที่ผมได้มารีวิวนี่เป็น Engineering Unit ดังนั้นก็เลยยังไม่มีแป้นภาษาไทยครับ แต่ด้วยความที่คุ้นเคยกับแป้นดีอยู่แล้ว ก็เลยพิมพ์ได้สะดวกไม่ขัดเขินเลย ... Dell XPS 13 มาพร้อมกับไฟใต้แป้นคีย์บอร์ดด้วย และสามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ คือ ปิด, ไฟหรี่ และ ไฟสว่าง
ด้านล่างของตัวเครื่อง เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ มีช่องระบายความร้อนจุดนึงอยู่ที่นี่ (อีกจุดจะอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ถูกจอแสดงผลบังเอาไว้) เวลาใช้งานค่อนข้างร้อนอยู่ ดังนั้นไม่แนะนำให้วางเครื่องใช้งานบนตักนะครับ
ด้านซ้ายของตัวเครื่องก็มีพอร์ต USB, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และ ช่องเสียบสายชาร์จ ส่วนด้านขวา ก็เป็นพอร์ต USB, Display Port และ ปุ่มกดสำหรับเช็คระดับแบตเตอรี่ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปิดเครื่องดูว่าเหลือแบตเตอรี่แค่ไหน

สเปก และ ประสิทธิภาพ

อันนี้ขอลอกโบรชัวร์ของ Dell มาบอกเลย มีด้วยกัน 3 รุ่นครับ คือ

XPS 13 V560102TH-L312x [57,990]
•    CPU: 2nd Generation Intel Core i7-2637M 1.70GHz (มี Turbo Boost 2.0 เพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 2.80GHz ได้)
•    GPU: Intel HD 3000 Graphics
•    RAM: 4GB DDR3 1333MHz
•    HDD: Solid State Drive 256GB
•    Display: 13” 1366 x 768 พิกเซล Widescreen HD จอทนต่อรอยขีดข่วน Gorilla Glass


XPS 13 V560101TH-L312x [49,990]

•    CPU: 2nd Generation Intel Core i5-2467M 1.60GHz (มี Turbo Boost 2.0 เพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 2.30GHz ได้)
•    GPU: Intel HD 3000 Graphics
•    RAM: 4GB DDR3 1333MHz
•    HDD: Solid State Drive 256GB
•    Display: 13” 1366 x 768 พิกเซล Widescreen HD จอทนต่อรอยขีดข่วน Gorilla Glass

XPS 13 V560119TH-L312x [42,990]
•    CPU: 2nd Generation Intel Core i5-2467M 1.60GHz (มี Turbo Boost 2.0 เพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 2.30GHz ได้)
•    GPU: Intel HD 3000 Graphics
•    RAM: 4GB DDR3 1333MHz
•    HDD: Solid State Drive 128GB
•    Display: 13” 1366 x 768 พิกเซล Widescreen HD จอทนต่อรอยขีดข่วน Gorilla Glass

ทุกรุ่น น้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม ทาง Dell บอกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบ 6-cell ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 8.53 ชั่วโมง จากการทดสอบของ Dell เอง (ทดสอบด้วยรุ่น Core i5-2467M 128GB SSD ด้วย Mobile Mark 2007)

ส่วนประสิทธิภาพนั้น ขอใช้ Windows Experience Index เป็นตัววัดนะครับ อ้างอิงจากมาตรฐานของ Microsoft แล้วกัน คะแนนของ Windows Experience Index นั้นจะอยู่ที่ 1.0 – 7.9 ครับ
คะแนนค่อนข้างชัดเจนเลยว่าจุดเด่นของ Dell XPS 13 นี่อยู่ที่ HDD ซึ่งเป็นแบบ Solid State จริงๆ เพราะได้คะแนนเต็ม 7.9 เลย ส่วนจุดด้อยก็อยู่ที่ตัวกราฟิกชิปเซ็ต ที่เป็น Intel HD 3000 Graphics ครับ คือ ไม่ใช่ไม่สามารถเล่นเกม 3D ได้เลยนะ แต่ว่าพวกที่ใช้กราฟิกจัดหนักจะเล่นไม่ค่อยได้เท่านั้นเอง แต่การดูหนัง Full HD นี่ สบายๆ ครับ

ซอฟต์แวร์จากทาง Dell

Dell XPS 13 มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน ดังนี้ครับ
♣    Dell Stage เป็น Shortcut Icon บนหน้าจอ ที่ช่วยให้เข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ Music, Photos, Video, Games, Weather, Magazines (เป็นบริการของ Zinio ผู้ให้บริการ E-Magazine) ฯลฯ
♣    Dell State Remote แม้ชื่อจะเรียกว่ารีโมท แต่จริงๆ แล้วคือคุณสมบัติในการแชร์ไฟล์มัลติมีเดีย (รูปภาพ, ไฟล์เพลง และ วิดีโอ) ไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับเทคโนโลยี DLNA ผ่านเครือข่าย WiFi
♣    Dell DataSafe เป็นซอฟต์แวร์สำหรับการสำรองและกู้คืนข้อมูลครับ โดยจะเก็บข้อมูลที่สำรองไว้เอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ การใช้งานไม่ยากเย็นเลย ผมเองสามารถล้างเครื่องกลับไปเป็น Factory Setting เพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น ... นอกจากนี้ยังมี Dell DataSafe Online ที่เก็บสำรองข้อมูลจำพวกไฟล์มัลติมีเดีย ไฟล์เอกสาร ขึ้นไปยัง Cloud ของ Dell ด้วย โดยมีพื้นที่ให้ฟรี 2GB ด้วย แต่ถ้าใครคิดว่าไม่พอ ก็ซื้อพื้นที่เพิ่มได้ครับ รายละเอียดดูที่ https://www.delldatasafe.com/

ลองจับ และลองเล่น Dell XPS 13

จากที่ลองใช้งานก็พบว่า Dell XPS 13 นั้นสามารถทำงานได้ลื่นไหลสบายๆ เลย ส่วนหนึ่งคงเพราะตัวที่ผมได้มารีวิวนั้นเป็นรุ่นท็อป ใช้ CPU Core i7 1.70GHz ด้วย ... การบูตเครื่อง การรีสตาร์ทเครื่อง การเปิดใช้งานหลังจากเข้า Sleep Mode ถือว่ารวดเร็วมาก อานิสงส์จากเทคโนโลยีของ Intel ประกอบกับการที่ใช้ Solid State Drive ด้วย

การใช้งานพื้นฐานอย่างพวกท่องเว็บ การเล่นเกม Flash ต่างๆ ตลอดไปจนถึงการใช้โปรแกรมที่กินสเปกขึ้นไปอีกขั้น เช่นพวกซอฟต์แวร์แก้ไขภาพ หรือการตัดต่อวิดีโอแบบง่ายๆ ด้วยสเปก CPU และ RAM ระดับนี้ ก็ยังพอใช้งานได้ในระดับพื้นฐาน (ย้ำนะครับ ระดับพื้นฐาน)

หน้าจอแบบ Gorilla Display นั้นทำให้ผมสบายใจ เวลาที่เอา Dell XPS 13 นี่ไปใช้นำเสนองานให้เพื่อนนักศึกษา หรือ เพื่อนร่วมงานดู แล้วเวลาเขามีข้อสงสัยอะไรก็เอานิ้วจิ้มมาที่หน้าจอ เพราะมั่นใจได้ว่าเอาอยู่ ส่วนลำโพงถือว่าเสียงดังมาก ดูเหมือนว่าจะแอบฝังเอาไว้ใต้คีย์บอร์ด ซึ่งการดีไซน์แบบนี้ผมชอบ เพราะมันจะไม่มีอะไรไปปิดบังเสียงเลย

จุดที่ต้องตินิดนึงของ Dell XPS 13 ตัวนี้คือ TouchPad ที่แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ แต่เวลาใช้งานมันคลิกที่ TouchPad เพื่อทำคลิกซ้ายค้างไว้ แล้วใช้อีกนิ้วในการลากเคอร์เซอร์ของเมาส์ เพราะหากไม่คลิกที่ตรงส่วนด้านล่างซ้ายมือของ TouchPad แล้ว ระบบจะมองเป็นการแตะแล้วทำ Pinch Zoom แทน การใช้งานจึงไม่คล่องตัวเท่าไหร่ (ตรงนี้ผมชอบระบบ TouchPad ของเครื่อง MacBook มากกว่า)

บทสรุปของ Dell XPS 13


ในแง่ของการดีไซน์ ก็ต้องถือว่า Dell XPS 13 นี่ทำออกมาได้ดีครับ การที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์ทำให้ผมรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่ MacBook Air (คือ ยี่ห้ออื่นๆ เขาใช้อลูมิเนียมแบบ Unibody ก็เลยทำให้ผมรู้สึกว่า มันคือ MacBook Air) เพียงแต่ว่าจนถึง Dell XPS 13 นี่ ต้องบอกว่า Ultrabook ยังไม่มีกลิ่นอายเฉพาะตัวเท่าไหร่นัก ตรงนี้คงต้องรอดูว่า Intel กับผู้ผลิตทั้งหลายจะทำยังไงต่อไป

สเปกของ Dell XPS 13 นั้นก็ให้มาแบบไม่กั๊ก แต่ไม่ได้ให้กราฟิกชิกเซ็ตที่แรงๆ มา ก็คงด้วยเพราะอยากจะรักษาแบตเตอรี่ให้อยู่นานๆ แต่จริงๆ แล้ว หากเลือกเป็นแบบกราฟิกชิป 2 ตัว แล้วเลือกใช้ตามความเหมาะสม เช่น ตอนใช้แบบไม่เสียบปลั๊กก็ไปใช้ Intel HD 3000 Graphics ส่วนตอนเสียบปลั๊กก็ไปใช้กราฟิกชิปแรงๆ เอาไว้เล่นเกม หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้กราฟิกหนักๆ ได้ ก็น่าจะดีกว่า

ท้ายที่สุด ผมก็อยากให้มีรุ่นที่ 4 ขึ้นมาอีกซักรุ่น เอาเป็น Entry Level ที่ราคาอยู่ในซัก 35,000 – 36,000 บาท คนที่งบน้อยแต่อยากได้ Ultrabook ขนาดกะทัดรัด สเปกกำลังพอดีใช้มีทางเลือกครับ

คงเดช กี่สุขพันธ์
E-Mail: kafaak@gmail.com
Twitter: http://www.twitter.com/kafaak
Facebook: http://www.facebook.com/kafaakBlog
Google+: http://gplus.am/kafaak
YouTube: http://www.youtube.com/user/kafaak
Blog: http://www.kafaak.com

จริงใจเพื่อชาติ ชี้ขาดปรองดอง


Pic_246093

สะกดรอย “ทักษิณ” บินส่วนหน้าช่วยน้อง “ยิ่งลักษณ์”

กว่าครึ่งปีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาดเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ

ทั้งนี้นับตั้งแต่เริ่มแรกหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 จนมาถึงวันนี้ ทุกฝ่ายทั้งในและนอกแวดวงการเมืองต่างก็มองว่า

“ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกฯนอมินี

เป็นตัวแทนของพี่ชาย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง

ที่ขณะนี้ยังต้องตะลอนๆอยู่ต่างแดน บินไปประเทศนั้น โฉบมาประเทศนี้ ใช้ชีวิตประจำวันทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศ

ยังกลับบ้าน กลับเมืองไทยไม่ได้ เพราะมีโทษจำคุก มีคดีติดตัว

แต่ในฐานะที่เป็นอดีตนายกฯของประเทศไทย มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านต่างประเทศ รู้จักมักคุ้นสนิทสนมกับบรรดาผู้นำ และนักธุรกิจหลายประเทศทั่วโลก

จึงใช้โอกาสนี้คอยทำหน้าที่ “นายกฯส่วนหน้า” ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ในการเดินทางไปเจรจากับรัฐบาลเกือบทุกประเทศ ที่นายกฯยิ่งลักษณ์มีคิวที่จะเดินทางไปเยือน เพื่อเจรจาความเมือง การค้า การลงทุน กระชับความสัมพันธ์

พี่ชายที่แสนดี ช่วยเบิกทางนำร่องให้เกือบทั้งสิ้น

อย่างล่าสุด ที่นายกฯยิ่งลักษณ์มีโปรแกรมเดินทางไปเยือนประเทศเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 24–27 มีนาคมนี้

พ.ต.ท.ทักษิณก็เพิ่งเดินทางไปพบปะหารือกับผู้นำรัฐบาลเกาหลีใต้ และร่วมเสวนาเรื่องบทบาทผู้นำในประเทศมีวิกฤติเศรษฐกิจมาหมาดๆ

หรือในห้วงก่อนหน้านี้ ที่นายกฯยิ่งลักษณ์ได้รับเชิญเป็นแขกพิเศษ โดยเป็นผู้นำรัฐบาลเพียงประเทศเดียวที่ได้รับเกียรติให้ไปร่วมงานฉลองวันชาติอินเดีย

พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคนนำร่องไปเจรจากับทางรัฐ-บาลอินเดียก่อนล่วงหน้า

รวมถึงการเดินทางไปเยือนประเทศบรูไน สิงคโปร์ พม่า ลาว กัมพูชา และการเดินไปเยือนแดนปลาดิบ

ทริปล่าสุดของนายกฯยิ่งลักษณ์

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องแผนบริหารจัดการน้ำป้องกันปัญหาอุทกภัยของไทย ให้แก่บรรดานักธุรกิจนักลงทุนชาวญี่ปุ่น

ก็เป็น พ.ต.ท.ทักษิณที่ทำหน้าที่เป็นนายกฯส่วนหน้า เดินทางไปเจรจาหารือกับทางรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ กรุยทางสะดวกให้น้องสาวก่อนทั้งสิ้น

ปรากฏการณ์ตรงนี้ เป็นการตอกย้ำให้เป็นที่รับรู้กันไปทั่วโลกว่า  “ทักษิณ” คือผู้ถืออำนาจที่แท้จริงในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ถือเป็นโมเดลใหม่ของโลก

ที่ผู้กุมอำนาจตัวจริงของรัฐบาล ไม่ได้อยู่ในประเทศ แต่ทำหน้าที่และใช้อำนาจอยู่นอกประเทศ

ทั้งนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้ความเชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ ใช้ความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับบรรดาผู้นำรัฐบาลและนักธุรกิจประเทศต่างๆ

เดินสายกรุยทางช่วยนายกฯยิ่งลักษณ์ในการเดินทางไปเยือนต่างประเทศ เพื่อให้การเจรจาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นไปด้วยความราบรื่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเจรจาของรัฐบาล

ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่อย่างใด

แถมเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป ถ้าการประสานงานของ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถช่วยทำให้การดำเนินภารกิจของรัฐบาลไทยในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งด้านการเจรจาการค้า การลงทุน และความร่วมมือด้านต่างๆบรรลุผลสำเร็จ

ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะได้ประโยชน์ในการที่จะเพิ่มศักยภาพการพัฒนาประเทศ สร้างความเจริญก้าวหน้า เป็นประโยชน์แก่ประชาชนโดยส่วนรวม

ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ต้องยอมรับกันว่า การทำงานในเวทีต่างประเทศของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่สะดวกราบรื่นและประสบผลสำเร็จ

นั่นก็เพราะความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่นของพี่ชายที่ชื่อ “ทักษิณ”

อย่างไรก็ตาม การที่ พ.ต.ท.ทักษิณพยายามขับเคลื่อนการใช้อำนาจอยู่นอกประเทศในฐานะ “นายกฯส่วนหน้า”

เดินทางไปเจรจากับผู้นำรัฐบาล และกลุ่มนักธุรกิจในประเทศต่างๆ ก่อนที่นายกฯยิ่งลักษณ์จะเดินทางไปเยือนประเทศนั้นๆอย่างเป็นทางการ

ก็อาจถูกตั้งข้อสงสัย และเกิดความเคลือบแคลงจากสังคมได้เช่นกัน

เพราะด้วยภาพพฤติกรรมเก่าๆ ในสมัยที่ “ทักษิณ” นั่งเป็นนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่ถูกกล่าวหาเรื่องการใช้อำนาจรัฐ เอื้อประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง

มีเรื่องอื้อฉาว มีการฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในหลายรูปแบบ เกิดปัญหาคอรัปชันเชิงนโยบายหลายซับหลายซ้อน

จนนำมาสู่การรัฐประหารยึดอำนาจ โดนคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ตรวจสอบ และส่งสำนวนดำเนินคดีหลายคดี

รวมทั้งคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปี

จากปรากฏการณ์ต่างๆทำให้เป็นที่จับตาจากสังคม โดยเฉพาะฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามและต่อต้าน “ระบอบทักษิณ” ยังติดตามจับจ้องด้วยความไม่ไว้วางใจว่า

การขับเคลื่อนอำนาจในต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณที่เดินทางนำร่องไปเจรจาหารือกับรัฐบาลและกลุ่มนักธุรกิจในประ-เทศต่างๆ ก่อนที่นายกฯยิ่งลักษณ์จะเดินทางไปเยือนเพื่อเจรจาหารือทำข้อตกลงต่างๆอย่างเป็นทางการ

มีการเจรจาผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่ด้วยหรือไม่

แม้การเดินทางไปเป็น “นายกฯส่วนหน้า” ของ “ทักษิณ” ยังไม่มีอะไรฟ้องออกมาชัดเจนเป็นรูปธรรมว่ามีพฤติกรรมอย่างที่มีการตั้งแง่สงสัย

แต่ด้วยพฤติกรรมการเคลื่อนไหวทั้งในทางลึกและทางเปิดก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงปลายสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย พ.ต.ท.ทักษิณเทขายหุ้นชินคอร์ป ให้กองทุนเทมาเสกของสิงคโปร์

ได้เคยประกาศไว้ชัดเจนว่าเป็นความต้องการเปลี่ยนไลน์ธุรกิจ จากด้านสื่อสารโทรคมนาคมหันไปทำธุรกิจด้านพลังงาน

และก็บังเอิญเหลือเกินว่า ต่อมาในยุครัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่เกิดปัญหาเรื่องการทำบันทึกข้อตกลงยินยอมให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกได้แต่เพียงฝ่ายเดียว

มีการกล่าวหาลากโยงไปถึงประเด็นการเอื้อประโยชน์เกี่ยวกับการเข้าไปทำธุรกิจด้านพลังงานทางทะเล ทั้งก๊าซธรรมชาติ และน้ำมัน รวมถึงการพัฒนาที่ดินในกัมพูชา

และเมื่อมาถึงยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกฯยิ่งลักษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้เดินทางเข้ากัมพูชาบ่อยครั้ง

เพราะมีความสนิทสนมแนบแน่นกับสมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชา ถึงขั้นผู้นำกัมพูชาประกาศตัวเป็นเพื่อนตายของ “ทักษิณ”

ด้วยเหตุนี้ในช่วงการไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่มี  พ.ต.ท.ทักษิณทำหน้าที่เป็น “นายกฯส่วนหน้า” นำร่องไปก่อน

ก็ทำให้ถูกจับตามองในเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนในธุรกิจเกี่ยวกับทรัพยากรพลังงานทางทะเลเป็นพิเศษ

ยิ่ง พ.ต.ท.ทักษิณออกมาระบุว่า ปัญหาข้อพิพาทเขต

แดนไทย–กัมพูชา ฝ่ายไทยเสียเปรียบเขมร ต้องหาทางออกด้วยเจรจากันแบบวิน–วิน

ก็ยิ่งทำให้ฝ่ายที่จับตามองเรื่องประโยชน์ทับซ้อน เกิดความระแวงมากขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ ในห้วงก่อนที่นายกฯยิ่งลักษณ์เดินทางไปเยือนประเทศพม่าอย่างเป็นทางการ ก็เป็น พ.ต.ท.ทักษิณที่ทำหน้าที่ “นายกฯส่วนหน้า” นำร่องเข้าไปหารือกับทางการพม่า

ท่ามกลางกระแสข่าวลือหนาหูว่า มีการเจรจากันเรื่องธุรกิจพลังงาน ทั้งน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ รวมไปถึงเรื่องโครงการสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย

และเมื่อย้อนโยงกลับไปในยุคของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ก็มีเรื่องของเอ็กซิมแบงก์ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 4,000 ล้านบาท ช่วยเหลือพม่าในเรื่องการพัฒนาระบบสื่อสารโทรคมนาคม

ที่ พ.ต.ท.ทักษิณตกเป็นจำเลยฐานใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ทางธุร-กิจ และคดียังคาราคาซังอยู่ในศาล ฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ต่างๆเหล่านี้จึงเป็นเหตุให้สังคมอดระแวงสงสัยไม่ได้ว่า การทำหน้าที่ “นายกฯส่วนหน้า” ของ “ทักษิณ” ในการนำร่องไปเจรจากับรัฐบาลประเทศต่างๆก่อนที่นายกฯยิ่งลักษณ์จะเดินทางไปเยือนอย่างเป็นทางการ

จะมีปัญหาเอื้อประโยชน์ต่อการทำธุรกิจส่วนตัวแฝงอยู่ด้วยหรือไม่

ซึ่งก็คงต้องรอการพิสูจน์กันต่อไปในระยะยาว

ยิ่งในห้วงนี้ กลุ่มธุรกิจใหญ่ระดับโลกจากหลายประเทศเดินทางเข้ามาพบปะหารือกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์เป็นจำนวนมาก เพื่อหาลู่ทางลงทุนในประเทศไทย

ก็ยิ่งมีการจับตาว่า “ทักษิณ” เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเปิดดีลกับกลุ่มทุนเหล่านี้หรือไม่ มีอะไรเป็นเงื่อนไขทับซ้อนหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม หากการขับเคลื่อนอำนาจอยู่นอกประเทศของ “ทักษิณ” ในฐานะ “นายกฯส่วนหน้า” ที่มาช่วยภารกิจของน้องสาวอย่างนายกฯยิ่งลักษณ์

ดำเนินการด้วยความจริงใจ มุ่งมั่นที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติส่วนรวมอย่างตรงไปตรงมา

ทำคุณไถ่โทษ โดยไม่มีวาระแฝงเอื้อประโยชน์ส่วนตัว

การทำหน้าที่ตรงนี้ก็อาจจะเป็นอานิสงส์ ให้สิ่งที่มุ่งหวังอยากให้มีการปรองดอง อยากให้มีการให้อภัย ก็อาจเป็นไปได้ง่ายขึ้น

แต่ถ้าสิ่งที่ทำไป มีการหมกเม็ด แฝงประโยชน์ทับซ้อน แสวงประโยชน์และอำนาจเพื่อตัวเอง มากกว่าประโยชน์ของชาติ

เรื่องปรองดอง เรื่องอยากกลับบ้าน ก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก.

“ทีมการเมือง”

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

เพื่อไทยกระทุ้ง20ส.ว. ไขก๊อกเองไม่ต้องรอกกต.สอย


Pic_246165

พท.โยนรัฐบาลจัดการปมเด้ง “พนิตา” แขวะ ปชป.จ้องล้มแผนปรองดอง พร้อมกระทุ้ง 20 ส.ว.สรรหาขาดคุณสมบัติไขก๊อก ไม่ต้องรอเหมือน​ "สัก กอแสงเรือง"


เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่ากรณีที่พรรคเพื่อไทยจะจัดประชุมใหญ่สมัยสามัญประจำปี 2555 ในวันที่ 20 มี.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 7 ที่ทำการพรรคนั้น การประชุมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. โดยจะมีการพูดถึงนโยบายของพรรคที่ได้หาเสียงไว้ให้สมาชิกที่เข้าร่วมประมาณ 500 คน ได้รับทราบว่ารัฐบาลบริหารประเทศมา 6-7 เดือนทำตามนโยบายไปแล้ว 35% หากเทียบกับที่รัฐบาลต้องอยู่ครบเทอม 4 ปีชี้ให้เห็นว่า ได้ทำตามนโยบายไปแล้วเกินครึ่ง และจะได้พูดถึงวาระปรองดองรวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีแนวโน้มมาอย่างไร ให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย

ส่วนกรณีนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พี่สาวของนายประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถูกสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยการเสนอของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำให้กลุ่มรักเพื่อนที่เป็น ส.ส.จากหลายภาคในพรรคเพื่อไทย ที่สนับสนุนนายประวัฒน์ จะเสนอปลดนายสันติออกจากตำแหน่งในงานประชุมใหญ่สามัญของพรรค นายจิรายุตอบว่า เสนอมาก็ต้องถูกตีตกไป คาดว่าในที่ประชุมในวันนั้นคงจะชี้แจงว่าเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่จะพิจารณา ถึงเรื่องดังกล่าว ส.ส.ไปก้าวก่ายไม่ได้

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าน ไม่เห็นด้วยกับผลศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางปรองดองแห่งชาติ ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ที่เคยเป็นผู้นำรัฐประหารนั้น สมัยก่อนนายอภิสิทธิ์เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับ พล.อ.สนธิ แต่ตอนนี้คุยกันไม่รู้เรื่อง ใครพูดอะไรที่ไม่ตรงตามที่นายอภิสิทธิ์คิดก็ผิดไปหมด กลัวการปรองดองเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเป็นแกะดำ จึงคิดล้มกระดานปรองดองใช้หรือไม่ พยายามเหมือนต้องการออกมาเล่นนอกสภา ดังนั้นขอเรียกร้องให้ฝ่ายค้านและนายอภิสิทธิ์หันหน้าปรองดองอย่างแท้จริง อะไรที่เป็นข้อเสนอของคณะกรรมาธิการฯขอให้ลองฟังดูก่อน

"ฝ่ายค้านไม่เบื่อบ้างหรือ ที่ยังวนเวียนอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณก็มาเป็นประจำ ถือเป็นเรื่องปกติ โดยในช่วงสงกรานต์นี้ที่ท่านจะเดินทางไปที่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สมาชิกพรรคคนใดจะเดินทางไปหาถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ขอให้ฝ่ายค้านก้าวพ้น พ.ต.ท.ทักษิณได้แล้ว" รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว

นายจิรายุ ยังกล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ 20 ส.ว.สรรหา ว่า ขอเรียกร้องให้ 20 ส.ว.สรรหาที่ไม่มั่นใจในคุณสมบัติการเป็น ส.ว. ลาออก ไม่ต้องรอให้ กกต.สอยเหมือนนายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา และขณะนี้มีคนร้องเรียนมาที่พรรคให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการบริงานในช่วงที่ นายสักเข้าไปบริหารสภาทนายความ แต่เห็นว่าเป็นเรื่องภายในสภาทนายความที่ต้องสะสางกันเอง

นอกจากนี้ กรณีที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น หน่วยข่าวของพรรคเพื่อไทยที่ประจำอยู่เขตต่างๆ ของ กทม.ได้ติดตามการใช้งบของ ผอ.เขตต่างๆ ในกทม. และรองผู้ว่าฯกทม. เพื่อเตรียมรองรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. รวมถึงได้มีการขึ้นป้ายขออภัยประชาชนในความไม่สะดวกในการขุดลอกคูคลองของกทม. ทำป้ายเหมือนรัฐบาลทั้งที่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลที่กำลังลอกคูคลอง นอกจากนี้ยังมีกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึง กทม. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ลงวันที่ 14 มี.ค. 2555 เรื่องตรวจสอบการทุจริตหลายโครงการของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลวชิระของ กทม. รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ขอเรียกร้องให้ผู้ว่าฯกทม.ต้องเข้าไปจัดการสอบด้านวินัยผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่สำคัญการทุจริตครั้งนี้เกี่ยวข้องกับคนระดับนายแพทย์ใหญ่ ที่มีเลขานุการไปรู้เห็นเข้า แต่ฆ่าปิดปาก คดีไม่คืบหน้ามา 7 ปีแล้ว ทั้งที่คนในโรงพยาบาลรู้ว่าใครเป็นคนจัดการ.

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

'คากาวะ' โขกชัย เสือเหลืองนำฝูงต่อ 'เสือใต้ดุ' ขย้ำ 6-0 'ร็อบเบน' แฮตทริก


Pic_246274

"ชินจิ คากาวะ" กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น โหม่งประตูชัยให้แชมป์เก่า ดอร์ทมุนด์ เฉือนชนะเบรเมน 1-0 นำจ่าฝูงบุนเดสลีกาต่อไป ขณะที่บาเยิร์น มิวนิค โหดไม่เลิก บุกถล่มแฮร์ธา 6-0 "อาร์เยน ร็อบเบน" ซัดแฮตทริก...



โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-0 แวร์เดอร์ เบรเมน


พลพรรคเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ แชมป์เก่า เปิดรังซิกแนล อิดูนา พาร์ค รับการมาเยือนของฝูงนกนางนวล เบรเมน ท่ามกลางแฟนบอลเต็มความจุสนาม 80,720 คน แค่ 8 นาทีแรกของเกม เจ้าถิ่นได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่อิลคาย กุนโดกัน กองกลางทีมชาติเยอรมัน ตวัดบอลมาให้ชินจิ คากาวะ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น โหม่งโล่งๆ หน้าประตูเข้าไป จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายยังมีโอกาสทำประตูกันเพิ่ม แต่ได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา จบเกม ดอร์ทมุนด์ชนะ 1-0 ยังนำเป็นจ่าฝูงบุนเดสลีกาต่อไป 


แฮร์ธา เบอร์ลิน 0-6 บาเยิร์น มิวนิค


ทีมรองบ๊วย แฮร์ธา เบอร์ลิน เล่นในถิ่นโอลิมปิก สตาดิโอน ของตัวเอง พบกับทัพเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ที่ฟอร์มกำลังแรง ซัดคู่แข่ง 7 ประตูใน 2 นัดล่าสุด เริ่มครึ่งแรกไปได้ 9 นาที เสือใต้ขึ้นนำก่อน 1-0 จากลูกยิงของโธมัส มุลเลอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมัน อีก 3 นาทีต่อมา อาร์เยน ร็อบเบน ปีกทีมชาติฮอลแลนด์ กระชากบอลเข้าไปยิงในเขตโทษให้ทีมเยือนนำ 2-0 ถึงนาทีที่ 19 มุลเลอร์ถูกเสียบล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษให้บาเยิร์น ร็อบเบนรับหน้าที่ยิงไม่พลาด เป็นประตูที่ 2 ของตัวเองช่วยให้ทีมนำห่าง 3-0

เกมครึ่งหลังผ่านไปถึงนาทีที่ 50 เสือใต้ได้จุดโทษอีก เมื่อฟรองค์ ริเบรี กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสถูกเตะล้มในเขตโทษ คราวนี้ มาริโอ โกเมซ ดาวยิงทีมชาติเยอรมัน ของยิงเองไม่พลาด เสือใต้นำห่าง 4-0 จากนั้นอีกนาทีเดียว โทนี โครส กองกลางทีมชาติเยอรมัน ซัดให้ทีมเยือนนำ 5-0 ก่อนที่ในนาทีที่ 67 บาเยิร์นได้จุดโทษลูกที่ 3 ร็อบเบนซัดไม่เหลือ เป็นการทำแฮตทริกให้ตัวเองได้อีกครั้ง ช่วยให้บาเยิร์นบุกมาชนะถล่มทลาย 6-0 ยึดรองจ่าฝูงเหนียวแน่น ตามหลังดอร์ทมุนด์ 5 แต้ม 


ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 1-2 โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค


ขุนพลนายห้างขายยา เลเวอร์คูเซน เล่นในถิ่นไบอารีนา พบกับพลพรรคสิงห์หนุ่ม มึนเชนกลัดบัค ทีมอันดับ 3 ที่ยังมีหวังลุ้นแชมป์ แค่ 7 นาทีของครึ่งแรก ทีมเยือนได้ประตูนำ 1-0 จากลูกยิงของมาร์โก รอยส์ กองกลางทีมชาติเยอรมัน กว่าเจ้าถิ่นจะมาตีเสมอ 1-1 ได้ ต้องรอถึงนาทีที่ 75 จากจังหวะที่กองหลังทีมเยือนสกัดบอลไม่ดี สเตฟาน คีสลิง ดาวยิงทีมชาติเยอรมัน เลยซัดเข้าประตูไป เกมทำท่าว่าจะเสมอ แต่ก่อนจบเกม 2 นาที อิกอร์ เดอ คามาร์โก กองหน้าทีมชาติเบลเยียม ได้บอลหลุดไปยิงในเขตโทษ เป็นประตูชัยให้มึนเชนกลัดบัคบุกมาชนะ 2-1

เนิร์นแบร์ก 1-3 โวล์ฟสบวร์ก


เนิร์นแบร์ก เล่นในถิ่นอีซี เครดิต สตาดิโอน รับการมาเยือนของฝูงหมาป่า โวล์ฟสบวร์ก และแค่ 9 นาทีแรก แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮ เมื่อดาเนียล ดิดาวี กองกลางชาวเยอรมัน โหม่งให้เนิร์นแบร์กนำ 1-0 แต่อีก 6 นาทีต่อมา มาริโอ มันด์ซูคิช ดาวยิงทีมชาติโครเอเชีย โขกให้ทีมเยือนไล่ตีเสมอ 1-1 ถึงนาทีที่ 24 แพทริค เฮลเมส กองหน้าทีมชาติเยอรมัน ซัดให้หมาป่าพลิกกลับมานำ 2-1 และในนาทีที่ 53 เฮลเมสทำประตูที่ 2 ของตัวเอง ให้โวล์ฟสบวร์กบุกมาชนะ 3-1


เอาก์สบวร์ก 2-1 ไมน์ซ


ทีมน้องใหม่ เอาก์สบวร์ก กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นเต็มที่ นัดนี้เล่นในถิ่นเอสเกเอล อารีนา ของตัวเอง พบกับไมน์ซ โดยเกมในคึ่งแรกผ่านไปถึงนาทีที่ 36 ถึงจะมีประตูแรก และเป็นซามี อัลลากุย กองหน้าทีมชาติตูนิเซีย ยิงให้ทีมเยือนนำก่อน 1-0 แต่อีก 7 นาทีต่อมา คู จา ชอล กองกลางทีมชาติเกาหลีใต้ ซัดตีเสมอ 1-1 ให้เจ้าถิ่นได้สำเร็จ และในนาทีที่ 51 เซบาสเตียน ลังคัมป์ กองหลังชาวเยอรมัน ขึ้นสูงมาโขกประตูชัยให้เอาก์สบวร์ก เฉือนชนะไปหวุดหวิด 2-1


ฮัมบูร์ก 1-3 ไฟรบวร์ก


ทัพสิงห์เหนือ ฮัมบูร์ก ฟอร์มรูดลงมาท้ายตาราง ต้องเก็บชัยชนะหนีพื้นที่ตกชั้นให้ได้ นัดนี้เล่นในรังอิมเท็ค อารีนา ของตัวเอง รับการมาเยือนของฝูงจิ้งจอกแห่งป่าดำ ไฟรบวร์ก ที่หนีตกชั้นเหมือนกัน

เกมครึ่งแรกผ่านไปถึงนาทีที่ 20 โยฮันเนส ฟลุม กองกลางชาวเยอรมัน ซัดให้ทีมเยือนนำก่อน 1-0 ก่อนหมดครึ่งแรก 2 นาที ดาเนียล คาลิกูรี กองกลางชาวเยอรมัน ได้โอกาสสับไกให้จิ้งจอกนำ 2-0 จากนั้นในนาทีที่ 72 เซดริค มาเกียดี้ กองกลางทีมชาติคองโก ยิงให้ ไฟรบวร์กนำห่าง 3-0 อีก 3 นาทีต่อมา อิโว อิลิเซวิช กองกลางทีมชาติโครเอเชีย ซัดตีไข่แตกให้เจ้าถิ่น แต่ก็ทำได้แค่นั้น จบเกมไฟรบวร์กบุกมาชนะ 3-1


แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

เหล่าแข้งทองส่งแรงใจภาวนาให้ 'มูอัมบา'


Pic_246265

เหล่านักเตะชื่อดังในพรีเมียร์ลีก ร่วมกันทวีตข้อความส่งแรงใจอธิฐานให้ "ฟาบริซ มูอัมบา" กองกลางโบลตัน ปลอดภัย และหายเป็นปกติ หลังหัวใจวายคาสนาม...


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 18 มี.ค. ถึงความเคลื่อนไหวล่าสุด หลังจากที่ ฟาบริช มูอัมบา นักฟุตบอลทีมโบลตัน วันเดอร์เรอร์ มีอาการหัวใจวายขณะลงเตะเกมเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศกับทีม "ไก่เดือยทอง" ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ที่สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน ซึ่งเกมดังกล่าวถูกยกเลิกหลังจากที่ทั้งสองทีมยังเสมอกัน 1-1 

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เหล่านักฟุตบอลชื่อดังต่างร่วมกันส่งแรงใจอธิฐานให้กองกลางโบลตันปลอดภัย หนึ่งในนั้นคือ เจอร์เมน เดโฟ กองหน้าของไก่เดือยทอง ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่มูอัมบาถูกพาตัวออกจากสนามด้วย โดยเดโฟได้ออกมาทวีตว่า "ภาวนาต่อพระเจ้าถึงฟ้าบ (ฟาบริซ มูอัมบา) ขอให้เขาผ่านพ้นมันไปได้ #PrayForMuamba"

ด้านจัสติน ฮอยท์ กองหลังของมิดเดิลสโบรช์ เพื่อนร่วมรุ่นของมูอัมบา สมัยที่ยังเป็นทีมเยาวชนของอาร์เซนอล ได้ออกมาทวีตถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เขาอยู่กับผมมาตั้งแต่เด็ก ผมไม่สามารถจินตนาการถึงชีวิตที่ไม่มีคนดีๆ อย่างเขาได้

ส่วน แจ็ค วิลเชียร์ ที่เคยเล่นกับมูอัมบาสมัยอยู่อาร์เซนอลด้วยกัน ได้ออกมากล่าวว่า "หวังว่ามูอัมบาจะปลอดภัย ผมขออธิฐานให้เขา"

มีรายงานว่า ในสังคมทวิตเตอร์ เหล่าแฟนบอลที่ต้องการจะให้กำลังใจแข้งโบลตัน จะติดแท็ก #PrayForMuamba ท้ายข้อความ และในขณะนี้ แท็กดังกล่าวได้พุ่งขึ้นติดเทรนด์โลกอย่างรวดเร็ว ภายในเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งในตอนนี้ทางสกาย สปอร์ต ได้รายงานว่า โรงพยาบาลแจ้งอาการของมูอัมบาว่าอยู่ในขั้นทรงตัว

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

เชลซีเหนือเลสเตอร์ หงส์แดงรับสโต๊ก เอฟเอคัพ 8 ทีม


Pic_246278

“สิงห์บลู” เชลซี ยังหวังที่จะอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์บอลถ้วยเป็นรายการที่ 2 ของฤดูกาล เมื่อจะเปิดรังสแตมฟอร์ดบริดจ์ หมายถลก หนัง “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล เอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนนี้ (อาทิตย์ 18 มี.ค.) นัดนี้คาดว่าเชลซีจะส่งแข้งเก๋าอย่างแลมพาร์ด,เทอร์รี, ดร็อกบา และเอสเซียง ลงเป็นตัวจริง พร้อมกับมีฮวน มาตา และดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ทำเกมรุก เริ่มเตะ 21.05 น. ยิงสดทางทรูสปอร์ต ด้าน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเฝ้ารังแอนฟิลด์ปะทะ “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ก ซิตี้ คู่ปรับร่วมศึกพรีเมียร์ลีก เกมนี้หงส์แดงเจองานหนักแน่ เมื่อสโต๊กไม่ใช่ทีมที่จะถูกยัดเยียดความปราชัยให้ง่ายๆ คู่นี้เริ่มเตะ 5 ทุ่ม ถ่ายสดให้ชมทางทรูสปอร์ต และช่อง 3


ศึกฟุตบอลถ้วยรายการเก่าแก่ ที่สุดในโลก “เอฟเอคัพ อังกฤษ” รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนนี้ (อาทิตย์ที่ 18 มี.ค.) ยังคงมีเกมดวลแข้งอีก 2 คู่ โดยคู่แรก “สิงห์บลู” เชลซี ทีมอันดับ 5 พรีเมียร์ลีก จะเปิดรังสแตมฟอร์ดบริดจ์ต้อนรับการมาเยือนของ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังจากศึกแชมเปียนชิพ ซึ่งมีกลุ่มคิงเพาเวอร์จากประเทศไทย เป็นเจ้าของสโมสร เริ่มเตะเวลา 21.05 น. ถ่ายทอดสดทาง  ทรูสปอร์ต 1

โดยนัดนี้ เชลซีหวังที่จะอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์บอลถ้วยเป็นรายการที่ 2 ติดต่อกันในฤดูกาลนี้ ซึ่งคาดว่าโรแบร์โต ดิ มัตเทโอ กุนซือชั่วคราว จะยังคงส่งแข้งเก๋าอย่างจอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด, แอชลีย์ โคล, ไมเคิล เอสเซียง และดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นแกนหลักของทีมต่อไป ร่วมด้วยฮวน มาตา ปีกทีมชาติสเปน และดาเนียล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ขณะที่ทีมเยือนเลสเตอร์ ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 11 ของตารางศึกแชมเปียนชิพ และผลงาน 3 นัดหลังสุด แพ้ถึง 2 นัด ชนะแค่นัดเดียว เตรียมส่งเดวิด นูเจนท์ กองหน้าตัวเก่ง ซึ่งซัดไปแล้ว 13 ประตูในฤดูกาลนี้ ลงล่าตาข่ายเจ้าบ้านสิงห์บลู

ส่วนคู่ต่อมา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดรังแอนฟิลด์ดวลกับคู่ปรับร่วมเวทีพรีเมียร์ลีกอย่าง “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ก ซิตี้ เริ่มเตะ 23.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 และทรูสปอร์ต 1 เกมนี้หงส์แดงจะยังคงจัดทัพใหญ่ลงบู๊ มีสตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีม เป็นจอมทัพในแดนกลาง ประสานงานร่วมกับสจ๊วร์ต ดาวนิง และเดิร์ก เคาท์ ส่วนคู่หัวหอกน่าจะเป็นหลุยส์ ซัวเรซ กับแอนดี คาร์โรลล์ ด้านทีมเยือนสโต๊กเตรียมส่ง 2 ดาวเตะศิษย์เก่าหงส์แดงอย่าง เจอร์เมน เพนแนนท์ และปีเตอร์ เคราช์ ลงบู๊กับทีมเก่า

สำหรับศึกพรีเมียร์ลีก โปรแกรมวันอาทิตย์ที่ 18 มี.ค. มีเกมดวลแข้งรวม 2 คู่ โดยคู่เอกจะเป็นการลงสนามของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงทีมล่าสุด ซึ่งจะบุกไปเยือน “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมรองบ๊วยที่สนามโมลินิวซ์ กราวด์ เริ่มเตะเวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทางทรูสปอร์ต 3 เกมนี้หาก “ผีแดง” บุกมาคว้าชัยเหนือเจ้าบ้านวูล์ฟส์ได้ ก็จะนำจ่าฝูงต่อพร้อมทะยานหนีห่างอันดับ 2 แมนฯซิตี้ ออกไปเป็น 4 คะแนนก่อนทันที เนื่องจากทีม “เรือใบสีฟ้า” ไม่มีคิวลงเตะเกมลีกในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ส่วนอีกคู่นั้น “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล จะเปิดรังดวลกับ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ เริ่มเตะเวลา 23.00 น. ถ่ายสดทางทรูสปอร์ต 5

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th 

'เมืองทอง' เชือด 'บีอีซี' 2-1 โดนไล่ฝั่งละคน


Pic_246214

"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเชือด "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน 2-1 ในเกมเปิดสนามไทยพรีเมียร์ลีก 17 มี.ค. นัดนี้ถูกไล่ออกฝั่งละคน...


ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2012 นัดเปิดสนาม ระหว่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บีอีซี เทโรศาสน นัดนี้ สลาวิซา โยคาโนวิช โค้ชชาวเซอร์เบีย ลงคุมเมืองทองในศึกไทยพรีเมียร์ลีกนัดแรก เช่นเดียวกับแอนดรูว์ ออร์ด ที่คุมทีมบีอีซี นัดแรกอย่างเป็นทางการเช่นกัน นอกจากนี้ มนัส บุญจำนงค์ นักมวยสากลสมัครเล่น ก็เข้ามาชมเกมในสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ด้วย
นาทีที่ 8 อเล็กซานดาร์ โยวาโนวิช กองหลังบีอีซี รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม เมื่อไปหวดนักเตะเมืองทองจนล้มกลิ้ง
นาทีที่ 13 คลีตัน ซิลวา กองหน้าชาวบราซิลของบีอีซี สังหารฟรีคิกไปชนกำแพงนักเตะเจ้าถิ่น บอลแฉลบออกหลังไป
นาที ที่ 29 เมืองทองชวดได้ประตู เมื่อคริสเตียน คัวคู กระชากบอลขึ้นมาก่อนผ่านให้ดัสกร ทองเหลา ซัดเต็มเท้าแต่พิศาล ดอกไม้แก้ว นายทวารบีอีซีปัดบอลได้ ดัสกรตามเข้ายิงซ้ำอีกที แต่ก็ไม่ผ่านมือพิศาลอีก
จากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ หมดครึ่งแรก เมืองทอง เสมอ บีอีซี 0-0
นาทีที่ 54 บีอีซีมีลุ้นประตู เมื่อคลีตันได้บอลก่อนไหลให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ วิ่งเข้าซัดเต็มข้อ แต่บอลเข้ามือกวิน ธรรมสัจจานันท์ พอดี
นาทีที่ 63 เมืองทองแก้เกมด้วยการส่ง โคเน โมฮัมเหม็ด กองหน้าชาวไอวอรีโคสต์ ลงไปแทนคัวคู เพื่อเพิ่มพลังในการทำประตู

นาทีที่ 66 เมืองทองได้ประตูนำ 1-0 จากลูกยิงไกลสุดสวยของดัสกร

นาทีที่ 70 บีอีซีส่งรณชัย รังสิโย ลงมาแทน พานุวัฒ ยิ้มสง่า

นาทีที่ 75 ทั้ง 2 ทีมเหลือ 10 คน เมื่อฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ของเมืองทอง กับ กิลเบิร์ต คมสัน ถูกไล่ออกจากสนาม ในจังหวะที่ปะทะกันนอกเกม
นาทีที่ 77 บีอีซีส่งเอกพันธ์ อินทเสน ลงมาแทนคลีตัน นาทีที่ 79 เมืองทองส่งปิยพล บรรเทา ลงมาแทน พิชิตพงศ์ เฉยฉิว

นาทีที่ 81 เมืองทองเกือบได้ประตูที่ 2 จากลูกยิงนอกเขตโทษของดัสกร แต่พิศาลพุ่งปัดข้ามคาน

นาทีที่ 88 บีอีซีตีเสมอ 1-1 จากการสังหารลูกจุดโทษของ ฟาริด คาร์รูบี้ กองกลางชาวฝรั่งเศส

นาทีที่ 90 เมืองทองได้ประตูนำ 2-1 จากเซียกา ดักโน กองกลางชาวไอวอรีโคสต์ จบเกม เมืองทองเฉือนเอาชนะไปหวุดหวิด 2-1

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
เมืองทอง : กวิน ธรรมสัจจานันท์, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, มาริโอ ยูรอฟสกี้, ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงศ์ เฉยฉิว,
เซียกา ดักโน, ธีรศิลป์ แดงดา, คริสเตียน คัวคู

บีอีซี : พิศาล ดอกไม้แก้ว, ปรัชญ์ สมัคราษฎร์, อเล็กซานดาร์ โยวาโนวิช, กรกช วิริยอุดมศิริ, นฤบดินทร์ วีรวัฒนโนดม, ฟาริด คาร์รูบี้, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, ชนาธิป สรงกระสินธ์, กิลเบิร์ต คมสัน, พานุวัฒ ยิ้มสง่า, คลีตัน ซิลวา
ชลบุรี เอฟซี 4-0 การท่าเรือไทย เอฟซี
ชลบุรี เอฟซี 4-0 การท่าเรือไทย เอฟซี

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-1
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-1


ส่วนผลฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 17 มี.ค.
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-1 (1-0 น. 8 เอควัลลา เฮอร์แมน 2-0 น.12 เอควัลลา เฮอร์แมน 3-0 น.72 แฟรงค์ โอฮันด์ซา 3-1 น.78 วสันต์ นาทะสัน) พัทยา ยูไนเต็ด เสมอ สมุทรสงคราม 0-0, ชลบุรี เอฟซี ชนะ การท่าเรือไทย เอฟซี 4-0 (1-0 น.6 เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ 2-0 น.30 เจฟฟรี ดูม็อง 3-0 น.45 เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ 4-0 น.78 นูรูล ศรียานเก็ม)
ผลฟุตบอลยามาฮ่า ลีก 1 : กระบี่ เอฟซี ชนะ บางกอก เอฟซี 2-1, เจ-ดับบลิว รังสิต เสมอ เอฟซี ภูเก็ต 0-0, ราชประชา แพ้ ราชบุรี เอฟซี 1-3, ปตท.ระยอง เสมอ ราชนาวี 1-1, สงขลา เอฟซี ชนะ จันทบุรี เอฟซี 2-0.
ขอบคุณภาพจากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

ซิ่งแหกโค้ง



Pic_246071

รถทัวร์นำเที่ยวบรรทุกเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานเดินทางไปสัมมนาที่ จ.ภูเก็ต แล้วคนขับซิ่งลงเขาหาดป่าตอง อ.กะทู้ เสียหลักแหกโค้งเฉี่ยวชนรถสองแถวรับจ้างก่อนพุ่งชนอัดบ้านริมถนนรถพังยับ บาดเจ็บระนาวกว่า 30 คน.

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources