แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
ในน้ำใจคน" อาจสามารถใช้เตือนตนได้ว่า จิตมนุษย์นั้น
คดเคี้ยวเลี้ยวลดเหลือคณา ปักใจเชื่อหรือไว้ใจกันง่าย ๆ ไม่ได้ ซึ่งรวมถึงจิตของเจ้าของหรือจิตของตนด้วย
วันนี้คิดดี ขยันปฏิบัติ ทำความสงบได้ง่าย ดูจิตทะลุปรุโปร่ง
พรุ่งนี้อาจกลายเป็นตรงกันข้าม กิเลสเข้ามายั่วเย้า กลายเป็นทาสของอารมณ์ไป
จิตพลุ่งพล่าน ไม่มีความสงบ ขาดความรู้เท่าทันอาการของจิต จิตของเรามันไม่เที่ยง
เมื่อมันยังไม่แน่ ยังไม่มั่นคงลงไป วันนี้มันดีได้ วันหน้ามันก็ไม่ดีได้
อย่าประมาทไป
มนุษย์นี่ที่รักอยู่สองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา
บิดาและมารดาเปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูก ท่านให้ชีวิตแก่เรา
ให้โอกาสเราได้เติบใหญ่ ให้โอกาสเราได้เลือกทางเดินของชีวิต
ให้เราได้มีโอกาสฝึกฝนและปฏิบัติตามทางอันพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้
ให้โอกาสเราฝึกฝนและปฏิบัติจนอาจสามารถพาตนให้พ้นจากวัฏฏะสงสารได้ การตอบแทนบุญคุณ
กตัญญูต่อท่าน เป็นสิ่งอันประเสริฐ
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
กายตนพึ่งได้อย่างไร การพิจารณากายเป็นส่วนหนึ่งของสติปัฏฐาน ๔ คือ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
เริ่มจากรู้ว่ากายเรามีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร รู้อิริยาบถของกาย
พิจารณาว่ากายประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ๓๒ ประการ มี ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น
เป็นของปฏิกูล ไม่สะอาด พิจารณาให้รู้ว่ากายของเราไม่เที่ยง เป็นทุกข์
ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา
เพื่อละความยึดมั่นถือมั่นในกายนี้ ช่วยให้เราอยู่กับโลกโดยหลงโลกน้อยลง
|
จงคิดตามไปเอาไม้เท้าเถิด จะประเสริฐสมรักเป็นศักดิ์ศรี
พอเสร็จคำสำแดงแจ้งคดี รูปโยคีหายวับไปกับตา
พอเสร็จคำสำแดงแจ้งคดี รูปโยคีหายวับไปกับตา