ฉัตรชัยพ่ายแต้มมวยคิวบาขาดลอย

"ฉัตรชัย" ต้านมวยคิวบาไม่ไหว พ่ายคะแนนขาดลอย 10-22 ชวดผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองแดงอย่างน่าเสียดาย ในโอลิมปิก 2012

การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 52 กก. ชาย รอบ 16 คนสุดท้าย โอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา “เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี ขุนพลเสื้อกล้ามความหวังคว้าเหรียญรางวัลของไทย ขึ้นเวทีดวลกำปั้นกับ รามิเรซ คาร์ราชานา กำปั้นดาวรุ่งชาวคิวบา วัย 19 ปี
เริ่มต้นยกแรก ฉัตรชัย บุตรดี ออกหมัดได้จะแจ้งกว่าในต้นยก แต่ช่วงกลางถึงปลายยก รามิเรซ คาร์ราชาน ชกเข้าเป้าชัดเจน หมดยก นักมวยคิวบาขึ้นนำ 6-4
เข้าสู่ยกที่ 2 สถานการณ์ของ ฉัตรชัย ยังไม่ดีขึ้น เป็น รามิเรซ ที่คุมเกมการชกได้ดีกว่า ออกหมัดรวดเร็ว เฉียบคม หมดยกนี้ รามิเรซ นำห่าง 14-7 (คะแนนยก 2 ฉัตรชัยได้ 3 หมัด รามิเรซได้ 8 หมัด)
ยกที่ 3 ฉัตรชัย ที่เป็นรองอยู่ถึง 7 หมัด ต้องเดินหน้าลุยแหลกเพื่อหวังพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นผู้ชนะให้ได้ แต่ยิ่งชกไปยิ่งเข้าทางของกำปั้นคิวบา หมดยกสุดท้าย รามิเรซ เอาชนะไปด้วยคะแนนขาดลอย 22-10 (คะแนนยก 3 ฉัตรชัยได้ 3 หมัด รามิเรซได้ 8 หมัด) ส่งผลให้ ฉัตรชัย กระเด็นตกรอบ ชวดผ่านเข้าไปสู่รอบ 8 คนสุดท้าย ซึ่งเป็นรอบชิงเหรียญทองแดงอย่างน่าเสียดาย

This entry was posted in News

Read More

"แก้ว" เหนือชั้นกว่าอัดนักชกเอกวาดอร์ลิ่วรอบ 8 คน

ไทยเฮ"แก้ว" เหนือชั้นกว่า อัดนักชกเอกวาดอร์ลิ่วรอบ 8 คน เจอนักชกแดนโยเกิร์ต ที่เฉือนกำปั้นแดนกิมจิ ไปอย่างสนุก

วันนี้ (5 ส.ค.) การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 30 “ลอนดอนเกมส์ 2012” รุ่นไลท์ฟลายเวท 49 กก. รอบ 16 คน แก้ว พงษ์ประยูร พบกับ ควิโป ปิลาตาซิค จากเอกวาดอร์ ผลปรากฎว่า ยกแรก แก้ว อาศัยชั้นเชิงที่เหนือกว่าออกนำไปก่อน 2-1 หมัด
จากนั้นในยกที่สอง นักชกไไทยยังดักชกทำแต้มนำไปเป็น 5-3 เข้าสู่ยกสุดท้าย แก้วยังอาศัยฟุตเวิร์ก และฉากหลบ พร้อมสาวหมัดชุดใส่นักชกเอกวาดอร์ได้อย่างเหนือชั้น ทำให้จบ 3 ยก แก้วชนะไป 10-6 หมัด ผ่านเข้ารอบ 8 คน ไปพบกับ อเล็กซานดร้า อเล็กซ์ซานดรอฟ จากบัลแกเรีย ที่เอาชนะ  ชิน จองฮุน นักชกจากเกาหลีใต้ 15-14

This entry was posted in News

Read More

"น้องแต้ว" ถึงไทย แฟนกีฬาแห่ต้อนรับ

"น้องแต้ว" ถึงไทย สนามบินแทบแตก! แฟนกีฬาแห่ต้อนรับ ทำเอาน้ำตาไหล ส่วน "พ่อ-แม่" โถมกอด และหอมแก้ม จากนั้นเดินทางเข้าโรงแรมห้องสุดหรู คืนละ 1.2 แสนบาท

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. คณะนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ของไทยที่เสร็จสิ้นภาระกิจการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ทยอยเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี 917 โดยที่ได้ความสนใจมากที่สุดหนีไม่พ้น “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว เจ้าของเหรียญเงินยกน้ำหนัก รุ่น 58 กก. หญิง ซึ่งเป็นเหรียญแรก และเหรียญรางวัลเดียวของทัพนักกีฬาไทยในขณะนี้ เดินทางพร้อมด้วยคณะยกน้ำหนัก นำโดย “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, “มาดามบุษ” บุษบา ยอดบางเตย, นักกีฬา สิริวิมล ประมงคล, รัตติกาล กุลน้อย, อรรถพล แดงจันทึก, จตุภูมิ ชินวงศ์, พิทยา ตีบนอก และสต๊าฟฟ์โค้ช ขณะที่นักกีฬาชนิดอื่นๆ มีดังนี้ “แป๋ว” นันทนา คำวงศ์ จากเทเบิลเทนนิส, วิทยา คำว่อง จากยิงธนู และ ธีรวัฒน์ หอมกลิ่ม จากยูโด
สำหรับบรรยากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิคึกคึกเป็นอย่างมาก มีกองทัพสื่อมวลชนจากทุกแขนงในประเทศไทยมาร่วมรายงานข่าวจำนวนมาก รวมทั้งครอบครัว, ญาติพี่น้อง และชาวบ้านที่เดินทางมาจาก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ประมาณ 50 คน โดยส่วนใหญ่โพกผ้าคาดศีรษะเขียนข้อความร่วมยินดีกับฮีโร่สาว และยังมีเด็กๆบางส่วนร้องเพลง “สาวอีสานรอรัก” ต้อนรับการกลับบ้านด้วย นอกจากนี้ นายสมพงษ์ ชาตะวิถี อธิบดีสถาบันการพลศึกษา (สพล.) ยังได้นำรุ่นน้องของแต้วจากโรเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี และเพื่อนร่วมสถาบันการพลศึกษาจังหวัดชลบุรีอีกกว่า 50 คน เดินทางมาแสดงความยินดี ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศต่างพากันสงสัยว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และทันทีที่รู้ว่าเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์กำลังจะเดินทางมาถึงก็ ตื่นเต้น และบางคนยืนรอเพื่อจะได้ยลโฉมฮีโร่คนใหม่ด้วย

นายสมพงษ์ ชาติวิถี กล่าวว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจของ สพล. ที่สามารถพัฒนานักกีฬาจนก้าวไปถึงเหรียญโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จ และเป็นแรงใจให้ สพล. มุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาดียิ่งขึ้นไป
ขณะที่รุ่นน้องของ “แต้ว” ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี และ สพล.ชลบุรี เปิดเผยว่า “แต้ว” เป็นนักกีฬาที่ขยันฝึกซ้อม โดยจะเป็นผู้นำนักกีฬารุ่นน้องฝึกซ้อมตลอด ช่วงเช้าเวลา 05.00-08.00 น. และช่วงเย็น 16.00-19.00 น. โดยวันที่ “แต้ว” ลงแข่งขันก็ได้ร่วมใจกันเชียร์ผ่านหน้าโปรเจ็คเตอร์ โดยระหว่างชมการแข่งขันก็ได้อธิบายการเล่นยกน้ำหนักให้กับนักกีฬาชนิดอื่นๆ ที่มาร่วมเชียร์ได้เข้าใจด้วย

จากนั้นเวลาประมาณ 15.30 น. แต้ว ได้เดินทางออกมาจากห้องผู้โดยสารขอเข้า ซึ่งทันทีที่ฮีโร่สาวเห็นครอบครัว, ญาติพี่น้อง, รุ่นน้อง และเพื่อนร่วมสถาบัน, สื่อมวลชน, แฟนกีฬาชาวไทย และผู้บริหารสมาคมมารอต้อนรับจำนวนมาก เจ้าตัวถึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ก่อนจะเปิดใจว่า ขอขอบคุณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ดูแลหาทางออกจากกรณีที่สมาคมยกน้ำหนักฯ ต้องจ่ายค่าปรับเกี่ยวกับสารกระตุ้นให้กับสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (ไอดับบลิวเอฟ) จนทำให้ทีมยกน้ำหนักได้ไปแข่งขัน และสามารถคว้าเหรียญเงินมาได้ และขอขอบคุณพี่น้องชาวไทยที่ให้กำลังใจ

  น้องแต้ว กล่าวต่อว่า ตนจะยังเล่นกีฬายกน้ำหนักต่อไป และตั้งใจว่าในอีก 4 ปีข้างหน้าจะได้ร่วมทีมไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล แต่ไม่ฟันธงว่าจะได้เหรียญทองหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต ส่วนเรื่องอนาคตตั้งใจว่าอยากเป็นทหาร ซึ่งก็คงต้องปรึกษาผู้ใหญ่ และดำเนินการตามขั้นตอน
  ขอใช้ชีวิตแบบเดิมผู้สื่อข่าวถามต่อว่าการประสบความสำเร็จครั้งนี้จะทำให้ ชีวิตเปลี่ยนไปหรือไม่ สาวเสียงห้าวตอบว่า ตนก็ยังจะใช้ชีวิตเหมือนเดิม ตั้งใจฝึกซ้อมต่อไป ส่วนเหรียญเงินที่ได้มาจะมอบให้แม่เนื่องในวันแม่แห่งชาติ “แต้วไม่ได้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรเลย ส่วนใหญ่เป็นไหว้พระขอพรมากกว่า โดยเหรียญเงินนี้จะมอบให้คนไทยทุกคน และถือเป็นของขวัญให้แม่ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมนี้ด้วย”

นางอมรรัตน์ ศิริแก้ว มารดาของ “แต้ว” เปิดเผยว่า ตื่นเต้น และดีใจมากที่ได้เจอหน้าลูกสาว ดีใจมากที่สุดในชีวิตที่ “แต้ว” สามารถเหรียญรางวัลกลับมาให้ประเทศชาติได้ หลังจากนี้จะกลับไปบวชชีพราหมณ์ 9 วัน และจัดฉายหนัง 3 คืนตามที่ได้บนไว้กับหลวงพ่อวาสนา วัดโพธิ์ทอง ส่วนแหวนทองคำที่สลักนามสกุล “โพธิ์ศิริ” ซึ่งมาจากนามสกุลของพ่อ “ศิริแก้ว” และ “โพธิ์พัฒน์” ของแม่มารวมกัน ที่จะมอบลูกสาวที่บ้าน ขณะที่ทาง อ.มัญจาคีรี และจ.ขอนแก่น ได้เตรียมต้อนรับด้วยการจัดแห่รอบอำเภอ และเลี้ยงโต๊ะจีน 150 โต๊ะ

  นายคำปุ่น ศิริแก้ว บิดาฮีโร่สาว กล่าวว่า ชีวิตหลังจากนี้ก็จะให้แต้วตัดสินใจว่าจะเล่นยกน้ำหนักต่อหรือไม่ ส่วนเงินรางวัลต่างๆ ที่ได้มาก็จะให้ แต้ว เป็นคนตัดสินใจ และยืนยันว่าทางครอบครัวจะใช้ชีวิตแบบพอมีพอกินแบบเดิม ไม่สุรุ่ยสุร่ายแน่นอน เพราะเงินในส่วนนี้ถือเป็นรางวัลที่ลูกสาวต้องฝึกซ้อมมาอย่างหนักตลอดหลายปี ที่ผ่านมา

  กัปตันการบินไทยซึ่งรับหน้าที่ในเที่ยวบิน 917 ไฟล์ทที่ “แต้ว” เดินทางกลับประเทศไทย เปิดเผยว่า ระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน กัปตันได้ประกาศให้กับผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องบินทราบว่าในเที่ยวบินดัง กล่าวมีจอมพลังเหรียญเงินลอนดอนเกมส์รวมอยู่ด้วย ซึ่งผู้โดยสารทั้งลำได้พร้อมใจปรบมือแสดงความยินดี จากนั้นกัปตันได้เปิดเครื่องดื่มฉลองความสำเร็จ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย

  “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ยอมรับว่าเตรียมตัวน้อยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ก็พอใจกับ 1 เหรียญเงินที่ได้มา และถือเป็นเหรียญรางวัลแรกของทัพนักกีฬาไทย แต่ก็รู้สึกเสียดายน่าจะมีเหรียญทองแดงเพิ่มด้วย แต่นักกีฬาชุดนี้ทุกคนยังอายุน้อยยะงจะเป็นกำลังของชาติในการแข่งขันระดับ นานาชาติรายการอื่นๆ ต่อไป โดยในโอลิมปิกเกมส์ 2016 จะใช้นักกีฬาชุดนี้ และจะพัฒนานักกีฬารุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นตัวเลือกด้วย
  ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าทำไมถึงเลือกส่งนักกีฬาหญิงรุ่นละ 2 คน คือ 48 กก. และ 58 กก. โดย พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวว่า เพื่อป้องกันการผิดพลาด และนักกีฬาหญิงใน 2 รุ่นนี้ถือว่ามีโอกาสจะคว้าเหรียญมากที่สุด ซึ่งสมาคมฯ ได้ศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว

  ด้าน วรรธนะ ธัญญา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขาย รร.อิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้โรงแรมได้จัดห้องพรีเมียร์ คอนเนอร์ สวีท ไว้รอรับน้องแต้ว และทีมยกน้ำหนัก ราคาประมาณหมื่นกว่าบาท แต่ล่าสุดได้อัพเกรดขึ้นไปเป็นห้องแกรนด์ เพนต์เฮาส์ สวีท ราคาต่อคืนประมาณ 1.2 แสนบาท โดยภายในจะประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง และห้องนั่งเล่นใหญ่ 1 ห้อง ตกแต่งภายในหรูหรา และมีอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่ รวมทั้งยังสามารถมองเห็นวิวของกรุงเทพฯ ได้รอบด้าน และชัดเจน

  สำหรับห้องพักดังกล่าวตั้งอยู่บนชั้น 37 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงแรม โดยทั้งชั้นมีแค่ 3 ห้อง โดยห้องพักประเภทนี้เคยต้อนรับเหล่าคนดังจากทั่วโลกมาแล้วมากมาย นอกจากนี้ทางโรงแรมยังเตรียมเมนูอาหารหลากหลายไว้รอต้องรับ นอกจากนี้ทางโรงแรมได้เตรียมเซอร์ไพร์สด้วยเมนูพิเศษ “ส้มตำกุ้งย่าง” ปรุงโดยเชฟมือ 1 ของโรงแรมไว้รอต้อนรับ

  ความเคลื่อนไหวนักกีฬาไทยอีก 3 คน มีดังนี้ “แป๋ว” นันทนา คำวงศ์ นักตบลูกเด้งสาวไทยที่จอดป้ายรอบ 2 กล่าวว่า พอใจกับผลงาน ส่วนตัวตั้งใจจะเล่นเทเบิลเทนนิสต่ออีก 2-3 ปี แต่หากร่างกายยังไหวก็จะขอสู้ต่อในโอลิมปิกเกมส์ครั้งหน้า แต่ระหว่างนี้จะพยายามช่วยงานสมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยให้มากขึ้น อาทิ เป็นคู่ซ้อมให้รุ่นน้อง และช่วยพัฒนานักกีฬาเยาวชนด้วย
  วิทยา ทำว่อง โรบินฮู้ดที่ตกรอบ 64 คน กล่าวว่า แม้จะตกรอบแรก แต่ถือเป็นประสบการณ์ที่ได้ไปแข่งขันเวทีโอลิมปิกเกมส์ ทำให้ได้พบจุดบกพร่องของตัวเอง เพื่อแก้ไขในการแข่งขันรายกาอื่นๆ
  ธีรวัฒน์ หอมกลิ่น ยูโดร่างยักษ์ที่ตกรอบแรก กล่าวว่า ปรกติตอนอยู่เมืองไทยตนไม่ค่อยมีคู่ซ้อม เพราะเป็นรุ่นใหญ่ 100 กก. การไปแข่งขันครั้งนี้ทำให้ได้ฝึกซ้อมกับนักกีฬาชาติอื่น รวมทั้งได้เห็นการใช้ชีวิตของนักกีฬาจากประเทศต่างๆ ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดคงเป็นในเรื่องของโภชนาการที่ชาติอื่นค่อนข้างเป้ฯมือ อาชีพมาก ตนจึงจะนำประสบการณ์ที่ได้เห็นมารรายงานต่อผู้บริหารสมาคมฯ เพื่อพัฒนาต่อไป

This entry was posted in News

Read More

"น้องแต้ว"เข้าขอบคุณเดลินิวส์

“น้องแต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว นักยกน้ำหนัก รุ่น 58 กก. หญิง เจ้าของเหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ 2012 เข้าขอบคุณหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ “ดร.ประภา ตระกูล ศรีนวลนัด” บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ร่วมแสดงความยินดีมอบทองแก่นักยกเหล็กไทย

ความเคลื่อนไหวของ “น้องแต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว นักยกน้ำหนัก รุ่น 58 กก. หญิง เจ้าของเหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ 2012 และคณะนักกีฬาน้ำหนักชุดลอนดอนเกมส์ พร้อมด้วย พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และเพื่อนร่วมทีมยกเหล็กทั้ง "ฟ้า" พนิดา คำศรี, "มาย" สิริวิมล ประมงคล, "ปุ๊กลุ๊ก" รัตติกาล กุลน้อย, พิทยา ตีบนอก, จตุภูมิ ชินวงค์ และอรรถพล แดงจันทึก ซึ่งมีโปรแกรมเดินสายตั้งแต่เช้าตรู่ โดยช่วงเช้าวันที่ 6 ส.ค. เวลา 05.00 น.
โดยในช่วงบ่าย พล.ต.อินทรัตน์ ได้นำ “น้องแต้ว” และคณะยกน้ำหนัก เดินทางมาขอบคุณสื่อมวลชน  โดยเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ได้เดินทางมาขอบคุณหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ที่ให้การสนับสนุนมาเป็นอย่างดี โดยมี ดร.ประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ให้การต้อนรับ ในการนี้ ดร.ประภา ได้มอบทองคำหนัก 4 บาท และของที่ระลึกให้กับ “น้องแต้ว” ส่วนจอมพลัง 3 คนที่ได้อันดับ 4 สิริวิมล, รัตติกาล และจตุภูมิ ได้รับทองคำหนัก 2 บาท และของที่ระลึก ส่วน พิทยา และอรรถพล ได้รับของที่ระลึก ซึ่ง ดร.ประภา ได้ร่วมแสดงความยินดี และชื่นชมในความสำเร็จของจอมพลังไทย ส่วนคนที่พลาดเหรียญก็ได้ปลอบใจว่าการแข่งขันกีฬามีแพ้ มีชนะ ขอให้ตั้งใจฝึกซ้อมต่อไป
“เสธ.ยอด” ลุยต่อ ยช.เอเชีย
“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ เปิดเผยว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาสมาคมยกน้ำหนักฯ ได้เตรียมนักกีฬามาอย่างเต็มที่ใช้งบประมาณราวปีละ 40 ล้านบาท  และหลังจากนี้ก็จะพยายามสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ขึ้นมาประดับทีมชาติ โดยรายการต่อไปของนักกีฬาชุดนี้บางส่วนจะไปแข่งขันยุวชน และเยาวชนชิงชนะเลิศเลิศแห่งเอเชีย ที่ประเทศพม่า ในระหว่างวันที่ 5-12 พ.ย.นี้ ส่วน “แต้ว” จะให้พักประมาณ 6 เดือน จากนั้นอาจจะส่งไปแข่งขันรายการชิงชนะเลิศแห่งโลก ที่ประเทศโปแลนด์ ในเดือน ต.ค. ปีหน้า ส่วนอีก 4 ปีข้างหน้านักกีฬาชุดนี้จะได้ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่กรุงริโอ เดอ จา เนโร ประเทศบราซิล หรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องมีการพิจารณาคัดเลือกกับนักกีฬาคนอื่นๆ อีกครั้ง
ชอบผู้ชายคิ้วเข้ม-จมูกโด่ง
พร้อมกันนี้ “น้องแต้ว”  ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ถึงชีวิตรักด้วยว่า ตอนนี้ยังไม่มีแฟน ยืนยันว่าชอบผู้ชาย 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีสเป็คชอบผู้ชายหน้าตาน่ารัก คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ส่วนดารา และศิลปินที่ชื่นชอบ คือ พระเอกเกาหลีชื่อดัง ลี มิน โฮ ที่เคยรับบทพระเอก “เอฟ 4” เวอร์ชั่นเกาหลี และ จัสติน บีเบอร์ นักร้องวัยรุ่นระดับโลก ส่วนนักแสดงไทยที่ชื่นชอบได้แก้ “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ และ “ตุ๊กกี้ 3 ช่า” ตลกหญิงชื่อดัง ส่วนของสะสมที่ชอบ คือ ตุ๊กตาอุลตร้าแมน

This entry was posted in News

Read More

ดีเอสไอสอบกทม.ต่อสัปทานบีทีเอสไม่ชอบกฎหมาย

"ธาริต" เผย รมว.มหาดไทย ทำหนังสือยันกทม.ไม่มีอำนาจต่อสัญญาสัมปทานบีทีเอส เตรียมร่อนหนังสือให้ 3 หน่วยโต้แย้ง ก่อนเสนอเป็นคดีพิเศษรอบ 2

วันนี้ ( 7 ส.ค. ) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศา(ดีเอสไอ)  นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีการขยายสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสของ กทม.ว่า นายยงยุทธ  วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย  ทำหนังสือตอบกลับข้อซักถามของดีเอสไอเกี่ยวกับการทำสัญญาให้บริการเดินรถและ ซ่อมบำรุงระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพให้ชัดเจน   โดยระบุว่าการที่กทม.ทำสัญญาจ้างบริษัท กรุงเทพ ธนาคม ให้บริหารสัญญาจ้างโครงการระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพฯ ลงวันที่ 2 พ.ค. 2555 และต่อมาบริษัทกรุงเทพ ธนาคม ได้ทำสัญญาจ้างบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงตามสัญญาลงวันที่ 3 พ.ค. 2555 นั้น เป็นผลจากการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนของกทม.ส่วนต่อขยายซึ่งเป็นระบบ รถไฟฟ้าชนิดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า วิ่งบนรางคู่ยกระดับมีลักษณะเป็นรถราง ย่อมส่งผลให้สัญญาทั้ง  2 ฉบับดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามโครงการระบบขนส่งมวลชน ซึ่งมีลักษณะเป็นกิจการรถรางและเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจกระทรวงมหาดไทย

นายธาริต กล่าวต่อว่า ในหนังสือฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่า โครงการระบบขนส่งมวลชนของกทม.ที่ได้ดำเนินการเมื่อปี 2535 ก็เป็นกิจการเกี่ยวกับรถรางซึ่งรมว.มหาดไทยได้เคยอนุมัติให้สัมปทานตาม ประกาศคณะปฏิบัติที่ 58  ดังนั้น การที่กทม.ทำสัญญาจ้างบริษัท กรุงเทพ ธนาคม บริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนและต่อมาบริษัท กรุงเทพ ธนาคมได้ทำสัญญาจ้างบริษัท บีทีเอส ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง เป็นการดำเนินการที่มีลักษณะเป็นกิจการรถราง เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย  การดำเนินการดังกล่าวจึงอยู่ในบังคับประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 ที่ห้ามไม่ให้บุคคลใดประกอบกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค เว้นแต่จะได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรมว.มหาดไทย  ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังไม่ปรากฏว่ารมว.มหาดไทยได้เคยอนุญาต หรือให้สัมปทานเกี่ยวกับสัญญาทั้ง 2 ฉบับ

นายธาริต กล่าวอีกว่า  ตนจะทำหนังสือแจ้งไปยัง 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย กทม. บริษัท กรุงเทพ ธนาคม และบีทีเอส กลุ่มธนายง เพื่อแจ้งรายละเอียดหนังสือตอบกลับของกระทรวงมหาดไทย และสอบถามความเห็นรวมถึงข้อโต้แย้งของทั้ง 3 หน่วยงาน เมื่อได้รับคำตอบจาก 3 หน่วยงานแล้วจะเสนอให้บรรจุเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) พิจารณารับเป็นคดีพิเศษต่อไป.

This entry was posted in News

Read More

เด็กวัยรุ่นเล่นปืนลั่นเข้าเบ้าตาดับ

โจ๋ไปเที่ยวบ้านแฟนสาวถูกปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ลั่นใส่เบ้าตาดับ ตำรวจยังไม่ฟันธงว่าทำปืนลั่นเอง หรือถูกเพื่อนที่อยู่ในห้องตอนเกิดเหตุยิง รอผลตรวจเขม่าดินปืนก่อนสรุป

เมื่อตอนเที่ยงวันนี้ (6 ส.ค.) พ.ต.ท.ชัยรินทร์ พัฒนะ พงส.(สบ2) สน.ลำหิน รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บ้านเลขที่ 13 หมู่7 ถนนคู้ฝั่งเหนือ แขวงคู้ฝั่งเหนือ เขตหนองจอก จึงไปสอบสวน ในห้องนอนบ้านเกิดเหตุพบเพียงกองเลือด และปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กับปลอกกระสุนเบอร์12 จำนวน 1 ปลอกคาอยู่ในรังเพลิง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.นพรัตน์ราชธานี  แต่เสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อว่า นายวิจิตร ศรีสกุล อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 19/176 ถ.เลียบวารี 79  แขวงและเขตหนองจอก  มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์เข้าที่เบ้าตาขวากระสุนฝัง ใน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้นำตัวเพื่อนของผู้ตายอายุประมาณ 15-16 ปี  3 คน ที่อยู่ในห้องห้องนอนขณะเกิดเหตุไปสอบสวน

จากการสอบสวนนายวิชิต อามีน อายุ 36 ปี เพื่อนบ้านผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ที่หมู่บ้านซึ่งเป็นชุมชนอิสลามจัดงานเลี้ยงทำบุญ ส่วนบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของ น.ส.เปิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของ นายวิจิตร ศรีสกุล โดยขณะเกิดเหตุผู้ตายมาที่บ้านแฟนสาวเพื่อมาร่วมงานบุญด้วย ต่อมามีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หลังจากนั้นมีเด็กที่อยู่ในบ้านวิ่งมาบอกว่า นายวิจิตร ทำปืนลั่นเข้าเบ้าตาตัวเอง  เมื่อไปถึงพบว่านายวิจิตรนอนหายใจรวยริน จึงพากันอุ้มขึ้นรถเก๋งส่วนตัวไปส่ง รพ.นพรัตนราชธานี แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตก่อน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน พ.ต.ท.ชัยรินทร์ เปิดเผยว่า ต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และรอยนิ้วมือแฝง  จากนั้นจะนำตัวเพื่อนของผู้ตายส่งตรวจสอบหาคราบเขม่าของดินปืน ยังไม่ได้สรุปว่า เป็นเหตุปืนลั่นใส่ตัวเองหรือถูกผู้อื่นยิง  ส่วนศพผู้ตายจะส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ผ่าพิสูจน์ หาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อไป..

This entry was posted in News

Read More

วิสามัญ"เอ สาวร้องไห้"แก๊งยาอ่างทอง

วิสามัญ เอ สาวร้องไห้ แก๊งยาบ้าอ่างทอง หลังถูกล่อซื้อแล้วนัดส่งมอบในวัดใกล้ตลาดนัด เจ้าตัววิ่งหนีชักปืนสู้ ถูกยิงสวนดับ

เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้(6ส.ค.)  พ.ต.อ.ชัชชรินทร์  สว่างวงศ์ รอง ผบก.ภจ.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.เทิดไทย เผ่าไทย รอง ผกก.ป. สภ.บางปลาม้า ช่วยราชการ กก.สส.ภจ.สุพรรณบุรี ร.ต.ท.ชัจน์ชัย  เฉลี่ยสมบูรณ์ ร.ต.ท.รังสรร ไทยศรี รอง สว.กสส.ภจ.สุพรรณบุรี นำกำลังล่อซื้อยาบ้าจากนายศิริพงศ์  นิยม หรือเอ สาวร้องไห้ อายุ 19 ปีอยู่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 4 ต.สาวร้องไห้ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยนัดส่งยาบ้ากันที่บริเวณวัดลาดตาล หมู่ 3 ต.ดอนมะสังข์ อ.เมืองสุพรรณบุรี เมื่อถึงเวลานัด นายศิริพงศ์ พร้อมพวก 4 คนขี่ จยย.สองคัน โดย นายศิริพงศ์ ได้ขี่ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าสีแดงดำ ทะเบียน ขงง 417 สุพรรณบุรี มีเพื่อนนั่งซ้อนท้ายนำยาบ้า จำนวน 1,800 เม็ดมาส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวจับกุม นายศิริพงศ์ พร้อมพวกพยายามเร่งเครื่องหนีการจับกุมไปได้ 2 คนและจยย.ของนายศิริพงศ์ ได้ชน รถกระบะเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียหลักล้ม แต่นายศิริพงศ์ ยังไม่ยอม  ลุกขึ้นวิ่งหนีไปทางหน้าโบสถ์เพื่อเข้าไปปะปนในกลุ่มชาวบ้านที่มาซื้อของ ตลาดนัด บริเวณลานหน้าวัดเกือบ 1,000 คน ขณะเดียวกันได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.หันปากกระบอกปืนใส่ ร.ต.ท.ชัจน์ชัย  จึงใช้ปืนประจำกายยิงป้องกันตัว 3 นัดกระสุนถูกเข้าหน้าอก บาดเจ็บล้มลง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช ให้แพทย์ช่วยชีวิตแต่นายศิริพงศ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา 
จากการสืบสวนทราบว่านายศิริพงศ์ เป็นนักค้ายาบ้ารายสำคัญในพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ และพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สส.ภจ.สุพรรณบุรี จับกุมคดีครอบครองยาบ้า เมื่อไม่นานและอยู่ระหว่างประกันตัวแต่ไม่ยอมเลิกเจ้าหน้าที่จึงวางแผนล่อ ซื้อแต่เมื่อจวนตัวจึงพยายามชักปืนยิงสู้เพื่อเปิดทางหนีสุดท้ายไม่รอด ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้ได้ 1 คนคือนายจิตติศักดิ์  ชมกลิ่น อายุ 21 ปีอยู่บ้านเลขที่ 63/4 หมู่ 3 ต.สาวร้องไห้  อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่เพื่อนร่วมแก๊งของผู้ตายแต่ยอมรับว่ารู้จัก กันก่อนเกิดเหตุได้มาซื้อไก่ย่างที่ตลาดนัดใกล้ที่เกิดเหตุแล้วถูกจับอย่าง ไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายจิตติศักดิ์ ไปสอบสวนและตรวจสอบประวัติเพื่อดำเนินคดีต่อไป..

This entry was posted in News

Read More