วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ดีเอสไอเรียก “แทน เทือกสุบรรณ”แจงครอบครองที่เขาแพง


วันนี้(13 มิ.ย.) ที่กรมสอสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังพนักงานสอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีการบุกรุก ที่ดิน อ.เกาะสมุย  จ.สุราษฎร์ธานี ว่า  ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งหนังสือเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองที่ดิน แปลงพิพาทมาให้ถ้อยคำ 6 ราย ประกอบด้วย นายแทน  เทือกสุบรรณ  บุตรชายนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  เจ้าของที่ดินแปลงที่เป็นข้อพิพาท , นายสามารถ  เรืองศรี  หุ้นส่วนหจก.เรืองปัญญา คอนสตรัคชั่น  อดีตเจ้าของที่ดิน , นายพงษ์ชัย  ฟ้าทวีพร  หุ้นส่วน หจก.เรืองปัญญาฯ  อดีตเจ้าของที่ดิน , นายบรรเจิด  เหล่าปิยะสกุล  ผู้รับมอบอำนาจจากนายแทน , นายอภิชาติ  พรหมแก้ว  ผู้รับมอบอำนาจจากนายแทน และนายเฉลิมชัย สังสันไทย ผู้รับมอบอำนาจจากหจก.เรืองปัญญา โดยนัดหมายให้มาพบพนักงานสอบสวนในสัปดาห์หน้า  ทั้งนี้ เหตุที่ต้องเชิญทั้ง  เข้าให้ข้อมูลเนื่องจากถือเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับที่ดินแปลงที่มี ปัญหาใน 3 ส่วน 1. ออกเอกสารสิทธิ์เกินกว่าเนื้อที่จริง (ส.ค.บวม) 2. นำเอกสารสิทธิ์จากที่อื่นมาขอออกโฉนดไม่ตรงแปลง (ส.ค.บิน) และ 3. ขอออกเอกสารสิทธิ์ในเนื้อที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์จริง
ด้าน พ.ต.ท.ประวุธ  วงศ์สีนิล  ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม  กล่าวว่า   จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบปากคำพยาน ดีเอสไอพบประเด็นที่ต้องขยายผลต่อเนื่อง โดยพบว่าโฉนดที่ดินของนายแทน ในจุดที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำอาจทับร่องน้ำสาธารณะ   ดังนั้น ดีเอสไอจำเป็นต้องตรวจสอบว่า หากมีร่องน้ำอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำจริง ร่องน้ำดังกล่าวไหลลงมาจากภูเขาหรือไม่  นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบเปรียบเทียบกับภาพถ่ายทางอากาศ และเอกสารสิทธิ์ที่ดินแปลงใกล้เคียง เบื้องต้นพบว่าเจ้าของที่ดินแปลงที่มีเนื้อที่ติดต่อกับที่ดินของนายแทนเคย ไปขอออกโฉนด แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ออกโฉนด โดยโต้แย้งพร้อมลงบันทึกว่ายังไม่ได้กันที่ดินในส่วนที่เป็นร่องน้ำสาธารณะ ออก จึงเป็นข้อพิรุธต้องตรวจสอบว่าในขั้นตอนการรังวัดเพื่อออกโฉนดที่ดินให้นาย แทนได้กันในส่วนที่เป็นร่องน้ำสาธารณะออกหรือไม่  พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวอีกว่า  ดีเอสไอยังได้ประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอข้อมูลการอ่านและแปลภาพถ่ายทางอากาศ พร้อมความเห็นของป.ป.ช.ที่ส่งไปยังกรมที่ดินให้เพิกถอนโฉนดแปลงดังกล่าว เนื่องจากเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ

ดีเอสไอช่วยเหลือแรงงานพม่าจากขบวนการค้ามนุษย์ที่ชลบุรี


วันนี้ ( 13 มิ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพศิษฐ์ สังคหะพงศ์  ผอ.ศูนย์คดีค้ามนุษย์   แถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีขบวนการค้ามนุษย์ชาวพม่าว่า  จากการสนธิกำลังร่วมกันระหว่างดีเอสไอกับตำรวจภูธรภาค 2  และตำรวจน้ำ   เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมาได้เข้าช่วยเหลือเหยื่อชาวพม่าที่ถูกหลอกลวงมาบังคับใช้แรงงานใน เรือประมงในพื้นที่ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยจับกุมผู้ต้องหาชาวพม่า เชื้อสายมอญ 3 ราย คือ นายซู หรือนายชาย อายุ 35 ปี  นายช่ำ ตา อายุ 21 ปี และ ด.ช.เน อายุ 15 ปี  เบื้องต้นตั้งข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยการข่มขืนใจให้ทำงานหรือให้บริการ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากดีเอสไอได้รับการร้องเรียนจากมูลนิธิเครือ ข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานว่ามีแรงงานชาวพม่าถูกหลอกลวงจากประเทศพม่า เข้ามาทำงานในประเทศไทย  เพื่อบังคับใช้แรงงานซึ่งอาจตกเป็นเหยื่อจากกระบวนการค้ามนุษย์ในเรือประมง ชื่อ สหชัย หมายเลข 9  และ 12  จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นและสามารถช่วยเหลือแรงงานดังกล่าวได้จำนวน 20 ราย โดยในจำนวนนี้ 9 รายสมัครมาทำงาน ส่วนอีก 11 รายถูกล่อลวง

นายธาริต  กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ดำเนินการขณะแรงงานกำลังขนถ่ายสัตว์น้ำอยู่กลาง ทะเล  ซึ่งแรงงานเหล่านี้จะถูกใช้แรงงานวันละ 20 ชั่วโมง  ได้ค่าตอบแทน 300 บาทต่อ 10 วัน หรือรายได้ต่อวันเพียง 30 บาทเท่านั้น  ทั้งนี้  แรงงานดังกล่าวจะได้ค่าแรงเพียง 10 วันต่อเดือน  เพราะส่วนที่เหลืออีก 20  วัน จะถูกหักใช้หนี้ให้กับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย  เพื่อหักเป็นค่าตัวแรงงานที่นำมาจากนายหน้าชาวพม่ารายละ 23,000 บาท  โดยจะหักหนี้ประมาณ 7 เดือน ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ถูกบังคับให้ทำงานจะไม่มีโอกาสได้ลงจากเรือ หากหัดขืนจะถูกทำร้ายร่างกายด้วย
“ดีเอสไอกำลังจับตาและเฝ้าติดตามขบวนการค้ามนุษย์ ที่มีพฤติการณ์หลอกลวงเด็กต่างด้าวให้เข้ามาขายแรงงาในประเทศไทย โดยคนต่างด้าวที่เป็นเด็กหญิงจะถูกทุบตีบังคับค้าประเวณี หรือบังคับขายแรงงาน และมีการจับตัวเหยื่อที่มีฐานะมาเรียกค่าไถ่หรือเรียกค่าคุ้มครอง”นายธาริตก ล่าว

ด้านพ.ต.ท.ไพศิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับเส้นทางการลักลอบนำชาวต่างด้าวมาบังคับขายแรงงาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมประมง  ส่วนหนึ่งเข้าเมืองมาโดยสมัครใจ แต่ส่วนใหญ่พบว่าถูกล่อลวงเข้ามาทำงาน ซึ่งขบวนการค้ามนุษย์จะนำคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองมาพักไว้ในจังหวัดภาค เหนือ  ก่อนจะขนย้ายมายัง ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อส่งขึ้นเรือประมง และอีกส่วนหนึ่งลักลอบเข้ามาทำงานในจ.ระนอง

ชงขอปล่อยตัวชั่วคราวนักโทษคดีขัดแย้งทางการเมืองรอบ 3


ที่กระทรวงยุติธรรม วันนี้(13มิ.ย.)  น.ส.รื่นฤดี  สุวรรณมงคล  โฆษกกระทรวงยุติธรรม  พร้อมด้วยนายพิทยา จินาวัฒน์  อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ  แถลงผลการประชุมเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังใน คดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองจำนวน 54 ราย ว่า  จากการหารือร่วมกับนายนรินทร์พงศ์   จินาภักดิ์   นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ที่ประชุมจึงมีมติให้ยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังเป็น ครั้งที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางสมาคมทนายความฯได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ต้องขังทุกรายเพื่อ หาพยานหลักฐานใหม่ โดยการยื่นประกันตัวครั้งที่ 3 นี้ จะใช้หลักทรัพย์ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้กองทุนยุติธรรม จำนวน 43,840,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัว และจะนำใบรับรองแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ระบุว่ามี ผู้ต้องขังกว่า 10 ราย ที่ป่วยทางจิตหรือเป็นผู้ป่วยจิตเวชจากความเครียด  ซึ่งเป็นอาการป่วยที่มีอยู่ก่อนติดคุก และอาการกำเริบขึ้นหลังถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำ
ด้านนายพิทยา  กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบผู้ต้องขังมีผู้ต้องขังบางรายที่เชื่อว่าจะไม่มีพฤติกรรม หลบหนี ซึ่งทนายความจะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมีจำนวน 48 ราย ซึ่งจะทยอยยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวตามความพร้อมของพยานหลักฐาน ทั้งนี้ กรมคุ้มครองสิทธิฯมั่นใจว่า ศาลจะรับฟังพยานหลักฐานใหม่เกี่ยวกับอาการป่วยของผู้ต้องขังเป็นเหตุให้มีคำ สั่งอนุญาตสั่งปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดีได้  รวมถึงการยื่นประกันตัวผู้ต้องขังและจำเลยในคดีความผิดมาตรา 112 ด้วย   อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไม่พบผู้ต้องขังรายใดมีอาการป่วยหนักทางสุขภาพร่างกาย และไม่พบว่ารายใดป่วยเป็นโรคมะเร็งหรือโรคร้าย แต่ส่วนใหญ่จะมีอาการทางจิต

อสส.ยื่นฟ้อง"ทักษิณ"ทุจริตปล่อยกู้ธ.กรุงไทย


วันนี้(13มิ.ย.) ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด มอบหมายให้พนักงานอัยการนำสำนวนพยานหลักฐานจากการไต่สวนของคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลความผิดปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 150 แฟ้ม 17 ลัง ยื่นฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ 1, นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือของบริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 27 ราย เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502
โดยศาลได้รับคำร้องไว้เป็นหมายเลขดำที่ อม.3/2555 และนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาเพื่อมีคำพิพากษาหรือไม่ใน วันที่ 25 ก.ค. นี้ เวลา 10.00 น.
นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล โฆษกอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ในการยื่นฟ้องคดีนี้ เป็นไปตามความเห็นที่มติร่วมกันระหว่างคณะทำงานร่วมอัยการ และ ป.ป.ช. ซึ่งเห็นว่าพฤติการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวกรวม27 คน เป็นความผิดตามกฎหมาย ขณะที่คดีนี้ไม่มีการยื่นฟ้องครอบครัวชินวัตร และนายพานทองแท้ บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนี้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จะมีการเรียกประชุมคณะผู้พิพากษา เพื่อลงมติเลือกผู้พิพากษา 9 คนในศาลฎีกาเป็นองค์คณะรับผิดชอบคดีนี้
สำหรับพฤติการณ์คดีนี้ มีการเริ่มทำสำนวนตั้งแต่ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และเมื่อคตส.หมดวาระก็ได้โอนเรื่องส่งให้ป.ป.ช.พิจารณาต่อ และได้ส่งสำนวนให้อัยการเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.51 ซึ่งคดีนี้ตามสำนวนได้มีการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวกร่วมกันกระทำความผิด กรณีธนาคารกรุงไทยฯ อนุมัติสินเชื่อจำนวนมากโดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของรัฐ โดยข้อเท็จจริงพบว่า ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้สินเชื่อกลุ่ม บมจ.กฤษดามหานคร ที่มีสถานะอยู่ในกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร เนื่องจาก ผอ.ฝ่ายกลั่นกรองสินเชื่อธุรกิจนครหลวง เคยจัดอันดับความเสี่ยงของกลุ่มกฤษดามหานครในอันดับ 5 คือไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ได้
ต่อมามีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้มีเงื่อนไขระบุว่า บมจ.กฤษดามหานครฯ ไม่สามารถที่จะขอสินเชื่อได้อีก เนื่องจากมียอดขาดทุนสะสมสูง คือมียอดสะสมสูงมาก แต่ได้มีการอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทในกลุ่มกฤษดามหานคร 3 กรณี คือ 1. การอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทอาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด จำนวนเงิน 500  ล้านบาท 2. การอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด วงเงิน 9,900 ล้านบาท (วงเงินไฟแนนซ์  8,000 ล้านบาท วงเงินซื้อที่ดินเพิ่ม 500 ล้านบาท และวงเงินพัฒนาโครงการ1,400 ล้านบาท) และ 3. การอนุมัติขายหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพของ บมจ.กฤษดามหานคร ให้กับบริษัท แกรนด์ คอมพิวเตอร์คอมมูนิเคชั่น จำกัด จำนวนเงิน 1,185,735,380 บาท ถือว่าผู้เกี่ยวข้องมีพฤติการณ์ ร่วมกันหรือสนับสนุนการกระทำความผิดกรณีธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐ เป็นการกระทำโดยทุจริต เพื่อฟื้นฟูกิจการของ บมจ.กฤษดามหานคร ประโยชน์ส่วนตนกับพวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคคลที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามสำนวนที่ปรากฏในชั้นไต่สวน คตส.มีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกกล่าวหา, กลุ่มผู้ปล่อยกู้ คือ คณะกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารกรุงไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคาร และบริษัทเอกชนผู้ขอกู้ 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด, บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเตรียล พาร์จ จำกัด และ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบุคคลที่ได้รับประโยชน์จากบริษัทเอกชนดังกล่าว

ย้าย"ผกก.สำราญราษฎร์ "นั่งเก้าอี้ สภ.กระทู้


ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ ( 13 มิ .ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร  ผบช.ภ. 8  ได้เซ็นต์คำสั่งตำรวจภูธรภาค 8 ที่ 251/2555 เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับรองผบก. –สว.  นอกวาระประจำปี  2555  โดยให้ พ.ต.อ.จิรภัทร  โพธิ์ชนะพันธุ์  ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ซึ่งถูก พล.ต.ต.คำรณวิทย์  ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. เซ็นต์คำสั่งให้ไปช่วยราชการบช.น. 30 วัน เนื่องจากไม่สนองนโยบายการทำงาน กรณีไม่ปลดป้ายวิจารณ์นายกรัฐมนตรี  เป็น ผกก.สภ.กระทู้ จ.ภูเก็ต  ซึ่งเป็น สภ.เกรดเอ ของ จ.ภูเก็ต      พ.ต.อ.โชติ  ชิดไชย  ผกก.สภ.เมืองภูก็ต   โดนเด้งเป็น ผกก.สภ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เนื่องจากมีความผิดทางวินัยเคยโดนชุดเฉพาะกิจของบก.ภ.จว.ภูเก็ตจับกุมฐาน ละเลยปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าสถานบริการ
พ.ต.ท.สมคิด  ดำเกลี้ยง  รองผกก.สส.สภ.นาบอน จว.นครศรีธรรมราช  เป็น ผกก.ฝอ.ศฝร.ภ. 8  พ.ต.ท.สุรกิตติ์  คล้ายอุดม  รองผกก.ฝอ.บก.ตชด.ภ. 2   เป็น รองผกก.ป.สภ.เกาะพะงัน  จ.สุราษฎร์ธานี     นอกจากนี้มีคำสั่ง กองบังคับการจังหวัดภูเก็ต ให้ พ.ต.อ.อารยพันธ์  พุกบัวขาว ผกก.สภ.กระทู้ จ.ภูเก็ต  เป็น ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต

นอกจากนี้มีคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ 249/2555 เรื่อง คำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ  . ให้ พ.ต.อ.ยุทธนา  ปุญชรัศมิ์  ผกก.ฝอ.บก.น. 5  นรต. 32  เพื่อนร่วมรุ่น   พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.    เป็น ผกก.สน.สำราญราษฎร์   พ.ต.อ.ภูวนาถ  ฤทธาเวช ผกก.สภ.ตะกั่วทุ่ง นรต. 36  ซึ่งเคยขอกลับพื้นที่นครบาล  เป็น ผกก.ฝอ.บก.น. 5 ทั้งนี้ ให้มีผลวันที่ 15 มิ.ย. เป็นต้นไป

สืบบางรักฟิตรวบยาบ้า 1 พันเม็ด



วันนี้ ( 13 มิ.ย.) พ.ต.ท.ศาสตรา อ่อนรัศมีสว.สส.สน.บางรัก พร้อมด้วย พ.ต.ต.สาโรจน์ จอกโคกสูง สว.สส.สน.บางรัก ร.ต.อ.สามารถ เทพมณี รอง สว.สส.สน.บางรัก ร.ต.อ.รณวิทย์ ชูช่วย สว.สส.สน.บางรัก และ ร.ต.ท.สมาร์ท จำรัสศรีสว.สส.สน.บางรัก ได้ร่วมกันจับกุม นายนครินทร์ หรือเบียร์ คงเพ็ชรขาว อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1,000 เม็ดโดยจับกุมตัวได้บริเวณริมถนนหน้าโรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์ แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม.

พ.ต.ต.สาโรจน์ เปิดเผยว่าจากการรายงานของสายลับว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นผู้ค้ายาเสพติด ในย่านเจริญกรุง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าแฝงตัวตามจุดทีนัดหมายเพื่อล่อ ซื้อยาบ้า ที่ริมถนนหน้าโรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์ แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม.เมื่อถึงเวลานัดพบนายนครินทร์ เดินมาคุยกับสายลับแล้วมีรูปพรรณสัณฐานตรงตามที่สายลับบอกไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาโดยไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ภายในตัวพบยาบ้าใส่ในกระป๋องเครื่องดื่มไมโล ซุกในกระเป๋าสะพายข้าง จึงนำตัวมาสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหาครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย

ผบ.ตร. เผยแก๊งทุจริตสอบตำรวจใช้ทีมงาน 15-20 คน ล้วนเป็นคนมีความรู้ โยงกลุ่มติวเตอร์



วันนี้ (13 มิ.ย.)  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาต  พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)   กล่าวถึงความคืบหน้าในการ สืบสวนสอบสวนการทุจริตการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิ ม. 6 หรือเทียบเท่าเข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน  ว่า  การสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง โดยเบื้องต้นมอบพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.  เข้าไปควบคุมหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนในส่วนกลาง และมอบให้ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนทุกภาคจัดชุดสืบสวนออกมาให้ สัมพันธ์กัน โดยการสืบสวนจะไม่เน้นที่ผู้เข้าสอบ แต่มุ่งเน้นเอาผิดขบวนการทุจริตให้ได้ทั้งหมด ทุกภาค จะพยายามสืบสวนจับกุมให้ได้ ทำแฟ้มประวัติบุคคลเหล่านี้ไว้ เพราะทราบว่าทำมาหลายครั้ง  ดำเนินการสืบสวน เบื้องต้นชัดเจนว่า กลุ่มที่ทำการทุจริตสอบในครั้งนี้ ในรายที่จับพบมีการซุกซ่อน อุปกรณ์รับส่งสัญญาณอิเล็คโทรนิค ที่เกิดขึ้นในหลายบช.ภ. นั้นเป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด   เป็นกลุ่มที่มีเครือข่ายทั้งประเทศ เครือข่ายนี้ใหญ่  ทำมาหลายครั้ง เข้าไปทำวิธีแบบนี้โกงสอบเข้ามาหลายหน่วยงาน  ไม่เฉพาะแค่สอบเข้าตำรวจ แต่บอกไม่ได้ว่าโกงสอบเข้าหน่วยงานราชการใดบ้างเนื่องจากยังไม่มีหลักฐาน ชัดเจน
“ถึงแม้ใครเป็นหัวหน้า ต้นตอใหญ่ ครั้งนี้สืบสวนสอบสวนโยงถึงใครดำเนินคดีหมด ตั้งใจล้างเลย   เพราะพวกนี้ทำไปทุกวงการสร้างความเสียหายทำให้ได้คนที่ไม่ดีมาทำงาน  จากการสืบสวน หากมีการวางงานในการเข้าโกงสอบแต่ละครั้ง แต่ละสนามสอบ จะมีทีมงาน 15-20 คน  ส่วนหนึ่งทำหน้าที่เข้าสอบเพื่อไปจำ หรือทำข้อสอบออกมา อาจใช้การส่งรหัสสัญญาณมายังทีมงานที่อยู่ด้านนอก เพื่อส่งสัญญาณกลับไปให้ผู้เข้าสอบอีกครั้ง เท่าที่ทราบ คิดว่าทีมงานพวกนี้ทีมๆเดิมไปสอบมาหลายสนาม พวกนี้เป็นคนที่มีความรู้แทบทั้งนั้น  มีกลุ่มติวเตอร์มาเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจทำหน้าที่ตัวกลางระหว่างทีมงานกลุ่มนี้กับผู้สมัคร ติวเตอร์ก็มีทั้งที่สอบวิชาการด้วย แต่บางทีก็สอบวิชาโกง อย่างเดียว  ส่วนที่บอกว่าเป็นอาจโยงใยเครือข่ายหน้า ม.รามคำแหงนั้น กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ มีหลักฐานเมื่อไรจะล้างทั้งเครือข่ายให้หมด เชื่อว่าพวกนี้ทำมานานได้เงินไปแล้วหลายร้อยล้านบาท ตอนนี้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนทุกหน่วยประชุมคอนเฟอเร๊นซ์กับส่วนตร.ทุกวัน ติดตามงาน จนกว่าจะจบ ” ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า  ส่วนกลุ่มที่ปลอมแปลงบัตรประชาชน แล้วเข้าสอบแทนผู้สมัครสอบตัวจริง ซึ่งจับกุมได้ที่หน่วยสอบบช.ภ.9 นั้น  เป็นการโกงสอบอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ทำกันเองไม่น่าเกี่ยวโยงกับเครือข่ายนี้ เครือข่ายที่ใช้เครื่องส่งสัญญาณเข้าทุจริตสอบตำรวจครั้งนี้เชื่อว่ามีแค่ กลุ่มเดียว  อุปกรณ์ที่เอามาใช้ก็หาง่ายซื้อได้ทั่วไปตามบ้านหม้อ ซึ่งร้านก็มีสิทธิขายไม่น่าผิดอะไร แต่กลุ่มพวกนี้เอามาใช้ในทางที่ผิด  อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่มีข้อสอบรั่วออกไปก่อนสอบแน่นอน ส่วน ด.ต.สังกัด สภ.เมืองศรีษะเกษ ที่แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วก็เป็นเพียงหนึ่งในเครือข่าย ที่ร่วมกับพลเรือน ยังสอบสวนอยู่ว่าเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง
“ส่วนเรื่องการสอบใหม่ก็เตรียมไปด้วยควบคู่กับการสืบสวนสอบสวนการทุจริต เมื่อกรณีทุจริตได้คำตอบ จบเมื่อไหร่ ก็ดำเนินการสอบใหม่ได้ทันที  เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริตซ้ำอีก ได้มอบพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.ได้หามาตรการให้รัดกุมและเป็นธรรมที่สุด ป้องกันการทุจริตสอบ อาจใช้การสอบสวนทั้งหมดก็ได้ ////

คนร้ายเหิมยิง ตร.สืบ 7 ขณะกำลังเข้าตรวจค้นยาเสพติด



เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. พ.ต.ท.ไพบูลย์ บุญยรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางกอกน้อย รับแจ้งมีเจ้าหน้าที่ถูกคนร้ายยิงขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าร้านลาบ ร้อยเอ็ด ซอยจรัญสนิทวงศ์ 28 (ซอยวัดดงมูลเหล็ก) แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ผกก.สน.บางกอกน้อย พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธ์ ผกก.สส.บก.น.7 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าดังกล่าวพบเพียงกองเลือด 1 กอง ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 2 ปลอก จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สลก-567 กทม.ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีนำตัวส่ง รพ.ธนบุรี 1 เสียชีวิตในเวลาต่อมาทราบชื่อ ด.ต.สนิท ริ้วทองชุ่ม อายุ 44 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางยี่ขัน ช่วยราชการ กก.สส.บก.น.7 ถูกยิงอาวุธขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณลำตัว 1 นัด

พ.ต.อ.เมธี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมชุดปราบปรามยาเสพติดของสืบ 7 อีก 2-3 นาย ออกตรวจในบริเวณซอยดังกล่าวต่อมาได้พบคนร้ายทราบชื่อต่อมาคือนายบุญญฤทธิ์ ด้วงไพร หรือ คิว อายุ 22 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 741 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 44 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม.ขับขี่ จยย.คันดังกล่าวมาพร้อมกับแฟนสาวท่าทางมีพิรุธเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึง เรียกขอตรวจค้น จากนั้นคนร้ายได้จอดรถและวิ่งหนีและทางผู้ตายได้พยายามวิ่งไล่จับคนร้ายจึง ยิงปืนสวนมาจำนวน 3 นัด ก่อนที่ลูกกระสุนปืนถูก ด.ต.สนิท ล้มลง เพื่อนตำรวจและพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์จึงช่วยกันพาตัวส่ง รพ.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

พ.ต.อ.เมธี กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแฟนสาวของคนร้ายซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน จากการสอบสวนทราบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวนั้นได้รู้จักกับคนร้ายเพียงไม่นาน และไม่รู้เรื่องส่วนตัวของคนร้ายมากนัก จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นของนายคิวทราบ พักอาศัยอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 23 พร้อมกันนี้ยังพบมีประวัติเคยถูกจับในคดียาเสพติด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจค้นบ้านพักของคนร้ายและเข้าไปปิดล้อม สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้)  เพื่อป้องกันคนร้ายหลบหนีไปต่างจังหวัดนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ ไป.

นักเรียนนักเลงก่อคดียิงดับ 2 ศพ


วันนี้ (13 มิ.ย.) ขณะที่ ร.ต.อ.สุเทพ ปานสีเส้ง พงส.(สบ1) สน.ดอนเมือง กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สน.ดอนเมือง ก็ได้รับแจ้งเหตุจากนายทองใบ โพธิ์ศรีราช อายุ 53 ปี พนักงานขับรถโดยสารสาย 59 วิ่งระหว่าง รังสิต - อนุสาวรีย์ชัยฯ ว่า มีนักเรียนนักเลงใช้อาวุธปืนไล่ยิงอริต่างสถาบันบนรถ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย เบื้องต้นพนักงานขับรถเมล์คันดังกล่าว ได้นำรถเข้ามาภายใน สน.ดอนเมือง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง

จากการตรวจสอบบนรถประจำทางสาย 59 สีครีมแดง หมายเลขทะเบียน 12-0332 กทม. หมายเลขข้างรถ 1-42293 บนพื้นรถเมล์คันดังกล่าว พบศพ นายวันชัย ทองสองแก้ว 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่1 โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ สภาพนอนหงายเหยียดยาวเสียชีวิต สวมเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ข้างตัวมีปลอดมีดเหน็บอยู่ ถูกยิงที่ใต้รักแร้ขึ้นมาจนถึงต้นแขนซ้ายจำนวน 8 นัด เสียชีวิตกลางทางเดินบนรถเมล์ ส่วนอีกรายชื่อนางยุพา พลายงาม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ซ.รังสิต-นครนายก 59 ต.ประชาธิปัตย์อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ผู้โดยสาร เสียชีวิตคาเบาะนั่งโดยสารฝั่งซ้ายข้างประตูทางขึ้น สวมเสื้อสีม่วง กางเกงยืนส์ ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายชัยสิทธิ์ ท้ายเมือง 22 ปี อาการสาหัส และน.ส.กาลสินี เจียนจิตภู่ อายุ 18 ปี ถูกยิงที่แขน เบื้องต้นนำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพล

สอบสวน นายทองใบ โพธิ์ศรีราช อายุ53 ปี คนขับรถเมล์ ให้การว่า ระหว่างขับรถเมล์คันดังกล่าว มาที่บริเวณเมเจอร์รัชโยธิน ก็ได้รับกลุ่มนักเรียนกลุ่มหนึ่งขึ้นมา และขับมาเรื่อยๆจนกระทั่งรถวิ่งมาถึงหน้าสถานีรถไฟดอนเมือง มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ยืนรออยู่ที่ป้ายรถเมล์อยู่ก่อนแล้ว ต่างพยายามวิ่งกรูขึ้นมาบนรถ ตนจึงปิดประตูและขับหนีออกมาทันที จนมาถึงป้ายรถเมล์ที่หน้าอาคารช่างการบินไทย ก็มีผู้โดยสารโบกรถตนจึงต้องจอดรับ จังหวะนั้นได้มีนักเรียนจำนวนประมาณ 5-6 คน ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว และหนึ่งนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นมาบนรถจำนวน 1นัด จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ตนจึงรีบขับรถเข้ามาจอดที่หน้าสน.ดอนเมืองและแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

ด้าน พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเป็นการทะเลาะซึ่งหน้า และน่าจะเป็นการลงมือของคู่อริ ซึ่งกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุอาจใช้วิธีการส่งข้อความทางโทรศัพท์มาหาเพื่อน ว่ามีคู่อริอยู่บนรถเมล์คันดังกล่าว จึงมาดักรอเพื่อก่อเหตุ ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่า ที่จุดเกิดเหตุมีนักเรียนอยู่ 6 คน ซึ่ง 1ในนั้นได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ยิงขึ้นมาบนรถ ก่อนจะวิ่งแยกย้ายหลบหนีไปซึ่งเบื้องต้นจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งผู้ก่อเหตุไม่น่าเป็นเยาวชนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร็วที่สุด

รวบแก๊งยาเสพติดยึดยาบ้า 8 แสนเม็ด-ไอซ์ 1.5 ก.ก.


วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น.  พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.9  ร่วมกันแถลงผลการจับกุม  นายการันต์ หรือตี๋ แซ่เฮ้ง อายุ 26 ปี และนายสิทธิ หรือเก๊ก สิทธิวรรธนะ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 806,000 เม็ด อาวุธปืนเล็กยาวอัตโนมัติ ขนาด .22 ยี่ห้อโคลท์เอ็ม 4 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด.22จำนวน 62 นัด เสื้อเกราะ 2 ตัว รถเบนซ์ E200 สีขาว ทะเบียน ศ–0133 กรุงเทพมหานคร 1 คัน และรถยนต์มาสด้า 2 สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน บ-2204 กรุงเทพมหานคร 1คัน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2554 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการจับกุมตัวผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยและได้สืบสวน ขยายผล จนทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวมีนายการันต์ เป็นเอเย่นต์รายใหญ่ รับยาบ้าและยาไอซ์มาเพื่อส่งจำหน่ายให้ลูกค้า  โดยรับยาบ้ามาจากนายเฉิน ชาวไต้หวัน จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม จนกระทั่งวันที่ 12 มิถุนายน นายการันต์ ได้ขับรถเบนซ์ออกจากย่านบางบัวทอง ไปยังห้างสรรพสินค้า สาขารัตนาธิเบศร์ จึงเข้าตรวจสอบที่ลานจอดรถพบยาบ้า 6,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ โดยนายการันต์รับว่ามียาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนที่บ้านพักในหมู่บ้านเนอวานา เลขที่ 11/77 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงจอมทอง เขตบางขุนเทียน กทม. มีนายสิทธิ เป็นผู้เก็บกุญแจบ้านดังกล่าวไว้
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า ต่อมาชุดจับกุมได้ให้นายการันต์ โทรศัพท์ติดต่อกับนายสิทธิเพื่อให้นำกุญแจมาเปิดห้อง เมื่อนายสิทธิขับรถเก๋งมาสด้า 2 เข้ามาจึงจับกุมตัวทันที จากการตรวจค้นภายในบ้านดังกล่าวพบยาบ้าประมาณ 800,000 เม็ด ยาไอซ์ 1.5 กิโลกรัม รวมถึงอาวุธปืนของกลางดังกล่าวจึงทำการตรวจยึดเอาไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าน่าจะมีการลำเลียงยาบ้าจากทางภาคเหนือ ของกลางทั้งหมดรวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดี พร้อมทั้งสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ยาบ้าและยาไอซ์เป็นของนายเฉิน เพื่อเตรียมส่งจำหน่ายให้ลูกค้า ทุกครั้งจะขับรถไปจอดที่จ.สุพรรณบุรีเพื่อให้คนนำยาบ้ามาใส่ไว้ในรถ จากนั้นก็จะไปขับรถกลับมาที่หมู่บ้านเนอวานา ซึ่งเช่าเอาไว้เดือนละ 40,000 บาท เพื่อนำยาบ้ามาเก็บไว้ ก่อนจะทยอยปล่อยให้กับลูกค้า เงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดจะนำไปซื้อรถยนต์และเที่ยวเตร่ ส่วนอาวุธปืนนายเฉินให้ไว้ใช้ในการคุ้มกันยาเสพติดขณะส่งให้ลูกค้า ทำมานานกว่า 2 ปีแล้ว

ประสานปปง.ยึดทรัพย์ขบวนการโกงสอบตำรวจ


วันนี้( 13  มิ.ย.)  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ต.ปิยะ  อุทาโย  โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  แถลงถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนการทุจริตการ สอบคัดเลือกบุคคลภายนอกที่จบวุฒิ ม.6 หรือเทียบเท่าเข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า  จนถึงขณะนี้พบว่า การทุจริตสอบเข้าเป็นข้าราชการตำรวจทั่วประเทศมีการทุจริตในทุกพื้นที่ แม้บางพื้นที่จะยังไม่สามารถหาหลักฐานได้ แต่มีหลักฐานบางอย่างที่พบว่ามีการส่อไปในทางทุจริต  ทั้งนี้ชุดสืบสวนได้รายงานมายัง พล.ต.อ.ปานศิริ  ประภาวัต รอง ผบ.ตร. ว่า มีสมมุติฐานว่า อาจมีการทุจริตมากกว่า 1 แบบ เช่นรูปแบบที่พบคือ การใช้เทคโนโลยีสั่นสะเทือนผ่านซิมโทรศัพท์   อีกรูปแบบหนึ่งคือสอบแทนกันโดยการปลอมบัตรประชาชนทั้งใบในพื้นที่  ซึ่งจะต้องสอบสวนต่อไปว่าใครมีส่าวนเกี่ยวข้องบ้างและออกจากทางราชการหรือ ไม่
“เครือข่ายพวกนี้ จะมีการแบ่งเป็นสาย แต่ละสายจะมีทีมที่รับผิดชอบทีเหมือนระบบขายตรง เช่นคนนี้มีสายก็ให้สายไปหาคน มีถึงขั้นไปประกาศทางเฟซบุ๊คที่จะหาคนมาสอบแทนด้วย  โดยที่บช.ภ. 9 ยืนยันว่ามือปืนที่ไปสอบแทนรับสมัครทางเฟซบุ๊ค “ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ผบ.ตร. ย้ำให้ ผบก.สส. บช.ภ. 1-9 ศชต. และ บก.สส.บช.น. หาข้อมูลเชิงลึกเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายกลุ่มนี้ พร้อมทั้ง  รายงานมายังพล.ต.อ.ปานศิริ ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์  ทุกวัน เนื่องจาก ตร. ต้องการขุดรากถอนโคนกลุ่มทุจริตการสอบคัดเลือก เพราะทราบว่า กลุ่มนี้จะทุจริตการสอบทั้งเอกชน ส่วนราชการต่าง  ๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเครือข่ายที่ถูกจับกุมได้แล้ว 20 ราย ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน  และข้อหาตามพรบ. วิทยุโทรคมนาคม และ พรบ.คอมพิวเตอร์  กับกลุ่มที่ดำเนินการทุจริตการสอบ ในท้องที่บช.ภ. 3 บช.ภ. 5 บช.ภ. 6 บางรายที่ถูกจับกุมเคยถูกจับเกี่ยวกับการทุจริตการสอบมาแล้ว เมื่อ 4-5 ปี ก่อน ที่จ.ลำปาง    สำหรับ บช.ภ. 9 แจ้งข้อหา ปลอมแปลงบัตรประชาชนด้วย    สำหรับข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน  จะสามารถประสานไปยัง ปปง. เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการยึดทรัพย์ได้ด้วย  ส่วน ดาบตำรวจสภ. ศรีสะเกษ นั้น  ยังไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้อย่างไร ต้องรอผลสอบสวนของคณะกรรมการอีกครั้ง ส่วนนักเรียนที่ทุจริตการสอบโดยการพกเครื่องสั่นเข้าห้องสอบนั้น ขณะนี้มีจำนวนประมาณ 200 คน ซึ่งเชื่อว่าจะมีเพิ่มอีกแน่นอน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า  ส่วนการจัดหาวันสอบใหม่นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำหนดวันให้เร็วที่สุดทันทีที่ผลสอบสวนของคณะ กรรมการทั้ง 4 ชุดเสร็จสิ้น  โดยไม่มีกรอบระยะเวลา  โดยให้ผู้เข้าสอบทุกคน เก็บหลักฐานการสอบไว้ เพื่อเป็นหลักฐานในการลงสมัครสอบครั้งต่อไป โดยพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ซึ่งเป็นคณะกรรมการ ที่จะดูแลการสอบจะเป็นผู้กำหนดรูปแบบการสอบซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะจัดสถานที่ สอบให้น้อยลง  หรือ ให้ผู้เข้าสอบทั้งหมด สอบในที่เดียวกัน

นายกฯน้ำตาซึมเยี่ยมเหยื่อน้ำท่วมสุโขทัย สั่งกองทัพภาค 3 เร่งซ่อมคันดิน ด้านอธิบดีกรมชลฯ ยันอีก 1-2 วันน้ำลด


วันนี้ (13 มิ.ย.)น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมชั่วคราว ที่หมู่ 2 ต.ปากพระ อ.เมือง จ.สุโขทัย เพื่อเยี่ยมประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากแนวคันกันน้ำ(ดิน) ของ อบต.ปากพระที่ติดกับแม่น้ำยม แตกพังเป็นระยะทาง 30 เมตร ประกอบกับเป็นจุดที่น้ำไหลเข้ามาเป็นคอขวด ทำให้น้ำจากแม่น้ำยมไหลทะลักเข้ามาท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหาย โดยมีนายจักริน  เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าฯสุโขทัย และนายชาติชาย สงวนพงศ์ นายอำเภอเมือง สุโขทัย รายงานสถานการณ์

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ลงไปให้กำลังใจกับชาวบ้านที่บ้านเรือนเสียหายจากน้ำท่วม และตรวจดูแนวคันดินที่พังทะลายลงมา โดยตำหนิว่าคันดินดังกล่าวพังลงมาตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำไมตอนนี้จึงยังไม่มีการดำเนินการซ่อมแซมหรือป้องกัน ซึ่งนายจักริน รายงานว่า แนวคันดินดังกล่าวเป็นแนวคันดินเก่า อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินทราย ปริมาณน้ำที่ไหลทะลักเข้ามาก็มีกำลังแรงมาก ไม่สามารถเข้าดำเนินการซ่อมได้ อย่างไรก็ตามได้มีการประสานกับทางกองทัพภาคที่ 3 ให้เร่งเข้ามาดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้าน พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3  ชี้แจงว่า ทางกองทัพได้เข้ามาสำรวจพื้นที่แล้ว แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ดินทราย ปริมาณน้ำยังมีกำลังแรงมาก ไม่สามารถนำเครื่องจักร และอุปกรณ์ขนาดใหญ่ขึ้นไปได้ เนื่องจากพื้นที่ติดกับแม่น้ำยม ดินทรุดตัวได้ง่าย จึงต้องรออีก 1-2 วันก็จะเร่งเข้าไปดำเนินการ เบื้องต้นได้ให้ความช่วยเหลือกับชาวบ้านเบ้องต้นไปก่อน

นายชาติชย สงวนพงษ์ นายอำเภอเมืองสุโขทัย กล่าวว่า สาเหตุของน้ำท่วมครั้งนี้เนื่องจากมีฝนตกติดต่อกันในอำเภอวังชิ้น .เด่นชัย และอำเภอ ลอง จ.แพร่ ระหว่างวันที่ 8-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงแม่น้ำยมเข้ามายังพื้นที่จ.สุโขทัยในวันที่ 10 มิ.ย. และเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ปริมาณน้ำไหลแรงในปริมาณ 800 ลบ.ม.ต่อวนาที ทำให้คันดินบริเวณตงปากพระขาด น้ำทะลักเข้ามาสร้างความเสียหายในพื้นที่ 3 ตำบล 2 ชุมชน 18 หมู่บ้าน ประชานได้รับความเดือดร้อน 1,381 ครัวเรือน พื้นที่เกษตรกรรมเสียหายประมาณ 3,600 ไร่ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย คือนายอำนวย อ้นป้อม อายุ 62 ปี ราษฎรหมู่ 2 ต.ยางซ้าย อาชีพหาปลา ซึ่งทางจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับครอบครัวผู้ประสบภัยแล้ว และได้ตั้งศูนย์อพยพช่วยเหลือผู้ประสบภัยชั่วคราวให้กับ 15 ครอบครัวที่บ้านเรือนเสียหาย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครอบผู้เสียชีวิตและได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม ดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่อยากมาเจอกับชาวบ้านในบรรยากาศเช่นนี้ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลได้เร่งให้ความช่วยเหลือและหามาตรการในการป้องกันทั้ง ระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งการมาครั้งนี้ของตนกับคณะ ก็เพื่อให้เห็นถึงปัญหาที่แท้จริงในพื้นที่เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือและ หามาตรการแก้ปัญาโดยเร็ว  สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งน็ขอให้ขึ้นมาอยู่ พื้นที่ที่ปลอดภัยก่อน ทางจังหวัดจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขณะนี้รัฐบาล กบอ. และกรมชลประทานได้เร่งสำรวจพื้นที่เพื่อทำเป็นพื้นที่รองรับรับน้ำแก้ปัญหา ระยะยาวทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งไม่ให้ประชาชนต้องเจอกับภาวะวิกฤติเช่นนี้อีก

ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า น้ำท่วมที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุของฝนตกฉับพลัน และคันกั้นน้ำพัง ซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 1-2 วัน ปริมาณน้ำท่วมกฌจะค่อยๆลดลงแล้ว

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบเงินช่วยเหลือทายาทของนายอำนวย ราษฎรที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์น้ำท่วม คือนางฉัน อ้นป้อม พี่สาว โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเสียใจและให้กำลังใจ พร้อมมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาเยี่ยมเยียนและให้ความช่วยเหลือ ครอบครัวของนางฉันด้วย เพราะเป็นหญิงชราและอยู่คนเดียว ไม่มีลูก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีถึงกับน้ำตาซึม เมื่อรู้ว่านางฉันเป็นพี่สาวของผู้ตาย ไม่มีอาชีพและอยู่ตัวคนเดียว จากนั้น นายกรัฐมนตรี มอบถุงยังชีพพร้อมกับให้กำลังใจครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต.ปาก พระ และต.ยางซ้าย

“ยงยุทธ” ยิ้มได้หลังป.ป.ช.ชี้ไม่กระทบตำแหน่งปัจจุบัน ยอมรับการตัดสินของ ป.ป.ช. ชี้ถ้าปรับ ครม.นายกฯจะเป็นผู้ตัดสินชะตากรรม


วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ จ.สุโขทัย  นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ สมัยดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีซื้อขายที่ดินวัดธรรมามิการาม โดยมิชอบ มีความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีความผิดวินัยร้ายแรง ว่า ตนยอมรับการชี้มูลของ ป.ป.ช.และถือเป็นขั้นตอนแรกของประบวนการยุติธรรม เพราะมีอัยการสูงสุดและศาล ซึ่งต้องเป็นไปตามขั้นตอน  เมื่อถามว่าจะดำเนินการต่อสู้คดีต่อไปอย่างไร แม้จะไม่กระทบต่อหน้าที่ในปัจจุบัน นายยงยุทธ กล่าวว่า โดยส่วนตัวคิดว่าต้องมีความรับผิดชอบ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาของกระบวนการแรก และ ป.ป.ช.ก็แถลงว่าสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งต้องดูไปตามข้อกฎหมาย

เมื่อถามว่าจะแสดงความรับผิดชอบในทางการเมืองหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ก็คิดอยู่หลายอย่างและต้องดูจังหวะ อย่าคาดคั้น เพราะตนจะใช้ดุลพินิจของตัวเอง เมื่อถามว่าจะรอถึงกระบวนการตัดสินขั้นสุดท้ายหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ก็ดูกันไป แต่ ณ วันนี้ได้มีการชี้มูลและกรรมการ ป.ป.ช.ได้บอกว่าตัวบทกฎหมายตนเองยังทำงานได้อยู่และโดยหลักกฎหมายทั่วไปถือ ว่าเรายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะพิพากษา ขอให้สื่อมวลชนมองทุกอย่างด้วยเป็นธรรมก็จะเข้าใจกันได้ เมื่อถามต่อว่าแนวทางการต่อสู้ต่อไปจะเป็นอย่างไร นายยงยุทธ กล่าวว่า อยู่ในใจแล้ว เมื่อถามว่าได้พูดคุยกันนายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย และยังไม่ได้ติดต่อใคร

เมื่อถามว่า ยังมั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่ได้ทำผิดจากคดีดังกล่าว นายยงยุทธ กล่าวว่า มนุษย์ทุกคนต้องพูดอย่างนั้น แต่สิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องไปสิ้นสุดที่ศาลหรือไปดูที่อัยการสูงสุดอีกครั้ง เมื่อถามว่า หลังจากที่ ป.ป.ช.ชี้มูลรู้สึกเครียดหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า “เห็นข่าวบอกว่าตนเองเครียด ไม่เป็นหรอกครับ ชีวิตของคนเหมือนธรรมชาติ ที่มีสว่าง มีฝนตก มีฟ้าร้อง มีท้องฟ้าที่ใสสว่าง มีชีวิตเหมือนน้องๆทุกคนที่ไม่มีอะไรที่สะดวกสบายไปตลอด ก็มีปัญหาอุปสรรค์เป็นธรรมดา

ต่อข้อถามว่าเรื่องนี้จะมีผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้นเร็วขึ้นหรือ ไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มอบให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ  เมื่อถามว่า จะไม่มีผลกระทบต่อรัฐบาลใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ยังมองไม่ออกว่าจะกระทบอย่างไร

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการให้สัมภาษณ์ นายยงยุทธ ได้ให้คนติดตามนำเอกสารข่าวการชี้แจงของนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ที่ระบุว่าการชี้มูลของ ป.ป.ช.ดังกล่าวไม่กระทบต่อการดำรงตำแหน่งในปัจจุบันมาแจกจ่ายให้กับสื่อมวล ชขึ้น และหลังจากนายยงยุทธให้สัมภาษณ์แล้ว ก็มีสีหน้ายิ้มแย้มและอารมณ์ดี พร้อมมีการชูนิ้วชี้สองมือ แสดงการสู้ๆให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ

ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยิ้มรับหลังผู้สื่อข่าวถามสบายใจหรือไม่ที่นายยงยุทธ ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี หลังถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดีซื้อขายที่ดินวัดธรรมมามิการาม โดยนายกฯไม่ตอบคำถามว่าอย่างไร

พท.ยันป.ป.ช.เชือด “ยงยุทธ”เซ่นทุจริตอัลไพน์ไม่กระทบเก้าอี้ "มท.1"


วันนี้ (13 มิ.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ว่า สงสัยว่า เหตุใดป.ป.ช.จึงมาชี้มูลคดีนายยงยุทธช่วงนี้ ซึ่งเรื่องนี้นายยงยุทธได้เตรียมข้อมูลไว้สู้คดีในชั้นอัยการ และศาล เพราะต้องต่อสู้กันอีกยาว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี และครม.ได้ให้กำลังใจนายยงยุทธให้อยู่ทำหน้าที่ต่อไป เพราะการชี้มูลของป.ป.ช.เป็นแค่ความเห็นต่างทางกฎหมาย ยังต้องต่อสู้ในชั้นอัยการ และศาลอีก และเรื่องนี้ไม่กระทบต่อปรับครม.เปลี่ยนนายยงยุทธออกจากตำแหน่ง  ทั้งนี้อยากถามป.ป.ช.กลับว่า มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เพราะบางคดีที่อยู่ในป.ป.ช.เช่น การทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงมหาดไทย การทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ สมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งอยู่ในความดูแลของนาย ประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป.ป.ช. มีความคืบหน้าถึงไหน ทำไมไม่มีการชี้มูลความผิด เพราะมีผู้ให้ข้อมูลว่า รัฐบาลที่ผ่านมาตั้งนาง วารุณี พงษ์ศิวาภัย ภรรยานายประสาท จากหัวหน้าสำนักงานจังหวัด มาเป็นรองผวจ.นครปฐม โดยข้ามอาวุโสมาหลายคน น่าจะเป็นการต่างตอบแทนหรือไม่

ผวจ.ชงเรื่องขอนายกฯทำเขื่อน-อ่างใหญ่ในสุโขทัย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังอ.สวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เพื่อตรวจประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ และคลองหกบาท ในการผันน้ำจากแม่น้ำยมสู่แม่น้ำน่าน ผ่านทางแม่น้ำยมสายเก่า และแนวผันน้ำแม่น้ำยม-แม่น้ำน่าน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมจ.สุโขทัย กำแพงเพชร และพิษณุโลก พร้อมฟังระบบการผันน้ำจากแม่น้ำยมมาแม่น้ำน่าน
โดยนายจักริน  เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.สุโขทัย กล่าวว่า เหตุที่น้ำท่วมจ.สุโขทัยเมื่อหลายวันที่ผ่านมาเพราะฝนตกในจ.แพร่หลายวัน ติดต่อกันจนน้ำที่ไหลลงแม่น้ำยมเกินความสามารถในการระบายจนเอ่อล้มท่วมบ้าน เรือนชาวบ้านริมแม่น้ำ ทั้งนี้แม่น้ำยมไม่มีเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้ด้วย

จากนั้นเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย ระหว่างที่พิธีกรเชิญนายกฯปราศรัย แต่นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ กลับเดินมาพูดที่ไมโครโฟนว่าอยากของบจากรัฐบาลมาขุดคลองน้ำไหล ความยาว 23 กม.ซึ่งจะช่วยให้การผันน้ำจากแม่น้ำยมมายังแม่น้ำน่านทำได้ดีขึ้น ทำให้นายกฯถามว่าจะใช้เวลากี่เดือน ปรากฏว่าผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ตอบไม่ได้

นายกฯจึงกล่าวว่า อยากให้แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ระยะสั้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหารือร่วมกับจังหวัดหาวิธีขยายแม่ น้ำยม และระยะยาว ให้กลุ่มจังหวัดพื้นที่กลางน้ำ ทั้ง 6 จังหวัด ไปหารือกับกบอ.และกรมชลประทานเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ให้ชาวบ้านได้มีน้ำใช้ในฤดูแล้งและป้องกันน้ำท่วมได้ในฤดูฝน

ด้านนายปลอดประสพ กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นขอนัด ผวจ.ทั้ง 6 จังหวัด มาประชุมกันในวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางไปยังเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เพื่อเข้าพักในบ้านรับรองกฟผ.จบภารกิจการลงพื้นที่ตรวจการจัดการน้ำในวันที่ 3

นายกฯน้ำตาซึมเยี่ยมเหยื่อน้ำท่วมสุโขทัย สั่งกองทัพภาค 3 เร่งซ่อมคันดิน ด้านอธิบดีกรมชลฯ ยันอีก 1-2 วันน้ำลด


วันนี้ (13 มิ.ย.)น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมชั่วคราว ที่หมู่ 2 ต.ปากพระ อ.เมือง จ.สุโขทัย เพื่อเยี่ยมประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากแนวคันกันน้ำ(ดิน) ของ อบต.ปากพระที่ติดกับแม่น้ำยม แตกพังเป็นระยะทาง 30 เมตร ประกอบกับเป็นจุดที่น้ำไหลเข้ามาเป็นคอขวด ทำให้น้ำจากแม่น้ำยมไหลทะลักเข้ามาท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหาย โดยมีนายจักริน  เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าฯสุโขทัย และนายชาติชาย สงวนพงศ์ นายอำเภอเมือง สุโขทัย รายงานสถานการณ์

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ลงไปให้กำลังใจกับชาวบ้านที่บ้านเรือนเสียหายจากน้ำท่วม และตรวจดูแนวคันดินที่พังทะลายลงมา โดยตำหนิว่าคันดินดังกล่าวพังลงมาตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำไมตอนนี้จึงยังไม่มีการดำเนินการซ่อมแซมหรือป้องกัน ซึ่งนายจักริน รายงานว่า แนวคันดินดังกล่าวเป็นแนวคันดินเก่า อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินทราย ปริมาณน้ำที่ไหลทะลักเข้ามาก็มีกำลังแรงมาก ไม่สามารถเข้าดำเนินการซ่อมได้ อย่างไรก็ตามได้มีการประสานกับทางกองทัพภาคที่ 3 ให้เร่งเข้ามาดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้าน พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3  ชี้แจงว่า ทางกองทัพได้เข้ามาสำรวจพื้นที่แล้ว แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ดินทราย ปริมาณน้ำยังมีกำลังแรงมาก ไม่สามารถนำเครื่องจักร และอุปกรณ์ขนาดใหญ่ขึ้นไปได้ เนื่องจากพื้นที่ติดกับแม่น้ำยม ดินทรุดตัวได้ง่าย จึงต้องรออีก 1-2 วันก็จะเร่งเข้าไปดำเนินการ เบื้องต้นได้ให้ความช่วยเหลือกับชาวบ้านเบ้องต้นไปก่อน

นายชาติชย สงวนพงษ์ นายอำเภอเมืองสุโขทัย กล่าวว่า สาเหตุของน้ำท่วมครั้งนี้เนื่องจากมีฝนตกติดต่อกันในอำเภอวังชิ้น .เด่นชัย และอำเภอ ลอง จ.แพร่ ระหว่างวันที่ 8-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงแม่น้ำยมเข้ามายังพื้นที่จ.สุโขทัยในวันที่ 10 มิ.ย. และเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ปริมาณน้ำไหลแรงในปริมาณ 800 ลบ.ม.ต่อวนาที ทำให้คันดินบริเวณตงปากพระขาด น้ำทะลักเข้ามาสร้างความเสียหายในพื้นที่ 3 ตำบล 2 ชุมชน 18 หมู่บ้าน ประชานได้รับความเดือดร้อน 1,381 ครัวเรือน พื้นที่เกษตรกรรมเสียหายประมาณ 3,600 ไร่ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย คือนายอำนวย อ้นป้อม อายุ 62 ปี ราษฎรหมู่ 2 ต.ยางซ้าย อาชีพหาปลา ซึ่งทางจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับครอบครัวผู้ประสบภัยแล้ว และได้ตั้งศูนย์อพยพช่วยเหลือผู้ประสบภัยชั่วคราวให้กับ 15 ครอบครัวที่บ้านเรือนเสียหาย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครอบผู้เสียชีวิตและได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม ดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่อยากมาเจอกับชาวบ้านในบรรยากาศเช่นนี้ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลได้เร่งให้ความช่วยเหลือและหามาตรการในการป้องกันทั้ง ระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งการมาครั้งนี้ของตนกับคณะ ก็เพื่อให้เห็นถึงปัญหาที่แท้จริงในพื้นที่เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือและ หามาตรการแก้ปัญาโดยเร็ว  สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งน็ขอให้ขึ้นมาอยู่ พื้นที่ที่ปลอดภัยก่อน ทางจังหวัดจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขณะนี้รัฐบาล กบอ. และกรมชลประทานได้เร่งสำรวจพื้นที่เพื่อทำเป็นพื้นที่รองรับรับน้ำแก้ปัญหา ระยะยาวทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งไม่ให้ประชาชนต้องเจอกับภาวะวิกฤติเช่นนี้อีก

ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า น้ำท่วมที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุของฝนตกฉับพลัน และคันกั้นน้ำพัง ซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 1-2 วัน ปริมาณน้ำท่วมกฌจะค่อยๆลดลงแล้ว

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบเงินช่วยเหลือทายาทของนายอำนวย ราษฎรที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์น้ำท่วม คือนางฉัน อ้นป้อม พี่สาว โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเสียใจและให้กำลังใจ พร้อมมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาเยี่ยมเยียนและให้ความช่วยเหลือ ครอบครัวของนางฉันด้วย เพราะเป็นหญิงชราและอยู่คนเดียว ไม่มีลูก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีถึงกับน้ำตาซึม เมื่อรู้ว่านางฉันเป็นพี่สาวของผู้ตาย ไม่มีอาชีพและอยู่ตัวคนเดียว จากนั้น นายกรัฐมนตรี มอบถุงยังชีพพร้อมกับให้กำลังใจครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต.ปาก พระ และต.ยางซ้าย

นักเรียนนักเลงก่อคดียิงดับ 2 ศพ


วันนี้ (13 มิ.ย.) ขณะที่ ร.ต.อ.สุเทพ ปานสีเส้ง พงส.(สบ1) สน.ดอนเมือง กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สน.ดอนเมือง ก็ได้รับแจ้งเหตุจากนายทองใบ โพธิ์ศรีราช อายุ 53 ปี พนักงานขับรถโดยสารสาย 59 วิ่งระหว่าง รังสิต - อนุสาวรีย์ชัยฯ ว่า มีนักเรียนนักเลงใช้อาวุธปืนไล่ยิงอริต่างสถาบันบนรถ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย เบื้องต้นพนักงานขับรถเมล์คันดังกล่าว ได้นำรถเข้ามาภายใน สน.ดอนเมือง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง

จากการตรวจสอบบนรถประจำทางสาย 59 สีครีมแดง หมายเลขทะเบียน 12-0332 กทม. หมายเลขข้างรถ 1-42293 บนพื้นรถเมล์คันดังกล่าว พบศพ นายวันชัย ทองสองแก้ว 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่1 โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ สภาพนอนหงายเหยียดยาวเสียชีวิต สวมเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ข้างตัวมีปลอดมีดเหน็บอยู่ ถูกยิงที่ใต้รักแร้ขึ้นมาจนถึงต้นแขนซ้ายจำนวน 8 นัด เสียชีวิตกลางทางเดินบนรถเมล์ ส่วนอีกรายชื่อนางยุพา พลายงาม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ซ.รังสิต-นครนายก 59 ต.ประชาธิปัตย์อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ผู้โดยสาร เสียชีวิตคาเบาะนั่งโดยสารฝั่งซ้ายข้างประตูทางขึ้น สวมเสื้อสีม่วง กางเกงยืนส์ ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายชัยสิทธิ์ ท้ายเมือง 22 ปี อาการสาหัส และน.ส.กาลสินี เจียนจิตภู่ อายุ 18 ปี ถูกยิงที่แขน เบื้องต้นนำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพล

สอบสวน นายทองใบ โพธิ์ศรีราช อายุ53 ปี คนขับรถเมล์ ให้การว่า ระหว่างขับรถเมล์คันดังกล่าว มาที่บริเวณเมเจอร์รัชโยธิน ก็ได้รับกลุ่มนักเรียนกลุ่มหนึ่งขึ้นมา และขับมาเรื่อยๆจนกระทั่งรถวิ่งมาถึงหน้าสถานีรถไฟดอนเมือง มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ยืนรออยู่ที่ป้ายรถเมล์อยู่ก่อนแล้ว ต่างพยายามวิ่งกรูขึ้นมาบนรถ ตนจึงปิดประตูและขับหนีออกมาทันที จนมาถึงป้ายรถเมล์ที่หน้าอาคารช่างการบินไทย ก็มีผู้โดยสารโบกรถตนจึงต้องจอดรับ จังหวะนั้นได้มีนักเรียนจำนวนประมาณ 5-6 คน ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว และหนึ่งนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นมาบนรถจำนวน 1นัด จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ตนจึงรีบขับรถเข้ามาจอดที่หน้าสน.ดอนเมืองและแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

ด้าน พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเป็นการทะเลาะซึ่งหน้า และน่าจะเป็นการลงมือของคู่อริ ซึ่งกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุอาจใช้วิธีการส่งข้อความทางโทรศัพท์มาหาเพื่อน ว่ามีคู่อริอยู่บนรถเมล์คันดังกล่าว จึงมาดักรอเพื่อก่อเหตุ ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่า ที่จุดเกิดเหตุมีนักเรียนอยู่ 6 คน ซึ่ง 1ในนั้นได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ยิงขึ้นมาบนรถ ก่อนจะวิ่งแยกย้ายหลบหนีไปซึ่งเบื้องต้นจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งผู้ก่อเหตุไม่น่าเป็นเยาวชนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร็วที่สุด

"วาเรลา"ฮีโร่ฝอยทองยิงดับโคนมท้ายเกม


ฝอยทองขึ้นนำโคนม2-1
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012 เมื่อวันพุธที่ 13 มิ.ย. ในกลุ่ม B "กรุ๊ป ออฟ เดธ" หรือ "กลุ่มแห่งความตาย" คู่แรก ที่สนามอารีนา ลวีฟ เมืองลวีฟ ประเทศยูเครน เป็นแมตช์ระหว่าง "ฝอยทอง" โปรตุเกส พบกับ "โคนม" เดนมาร์ก ซึ่งเป็นเกมนัดที่ 2 ของทั้งคู่ โดยในนัดแรก โปรตุเกส พ่าย เยอรมนี 0-1 ยังไม่มีแต้ม ทำให้แมตช์นี้ต้องเก็บคะแนนให้ได้ เพื่อรักษาความหวังในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ขณะที่ เดนมาร์ก พลิกโค่น ฮอลแลนด์ 1-0 มี 3 คะแนน หากนัดนี้เอาชนะ โปรตุเกส ได้ โอกาสผ่านเข้าสู่รอบต่อไปมีสูงมาก
เกมช่วง 10 นาทีแรก เดนมาร์ก ครองบอลทำเกมรุกได้ดีกว่า แต่หลังจากนั้น โปรตุเกส รูปเกมเริ่มดีขึ้นตามลำดับ นาที 15 นิกิ ซิมลิง มิดฟิลด์ตัวทำเกมของเดนมาร์ก มีปัญหาบาดเจ็บ เล่นต่อไม่ได้ ต้องส่ง จาค็อบ โพลเซน ลงมาทำหน้าที่แทน นาที 24 โปรตุเกส ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุม เปเป กองหลังขาโหดเป็นผู้โหม่งเข้าไป นาที 34 โปรตุเกส เกือบนำห่าง 2-0 จากการยิงฟรีคิกของ โรนัลโด ที่บอลไปแฉลบกำแพงลูกเปลี่ยนทิศข้ามคานไปไม่ห่าง นาที 36 โปรตุเกส หนีห่างเป็น 2-0 จนได้ จากลูกยิงของ เฮลเดอร์ ปอสติกา กองหน้าตัวเป้า นาที 41 เดนมาร์ก ได้ประตูตีตื้นขึ้นมาเป็น 1-2 จากการโหม่งของ นิคลาส เบนด์เนอร์ หมดครึ่งแรก ฝอยทองขึ้นนำโคนม 2-1
วาเรลาฮีโร่โปรตุเกสยิงนำชัย
ครึ่งหลังเริ่มฟาดแข้งไป 4 นาที โปรตุเกส น่าหนีห่างเป็น 3-1 เมื่อ โรนัลโด ได้บอลหลุดเข้าไปโล่ง ๆ แต่ยิงติดเซฟของ สเตฟาน อันเดอร์เซน นาที 60 เดนมาร์ก ต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 2 เนื่องจาก เดนนิส รอมเมดาห์ล มีปัญหาบาดเจ็บ ต้องส่ง โทเบียส มิคเคลเซน ลงมาทำหน้าที่แทน นาที 62 ทีมแดนโคนมได้ลุ้นตีเสมอ จากการยิงไกลของ วิลเลียม ควิสต์ แต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว นาที 78 โปรตุเกสน่านำห่างเป็น 3-1 อย่างที่สุด เมื่อ โรนัลโด ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับโกลแดนโคนม อันเดอร์เซน แต่ โรนัลโด ยิงออกไปหน้าตาเฉย พอพลาดยิงประตูที่ 3 ไม่ได้ โปรตุเกส ก็ถูกตามตีเสมอ 2-2 จนได้ในนาที 80 จากการโหม่งของ เบนด์เนอร์ เป็นประตูที่ 2 ของเขาในนัดนี้ ท้ายเกมนาที 87 โปรตุเกส ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 จากการยิงของ ซิลเวสเตร วาเรลา ช่วงทดเจ็บ เดนมาร์ก น่าได้ประตูตีเสมอจากการยิงในกรอบเขตโทษของ ลาสส์ โชน แต่ซัดหลุดกรอบออกไปไกล หมดเวลาการแข่งขัน โปรตุเกส เฉือนชนะ เดนมาร์ก 3-2 ในเกมสุดตื่นเต้น เก็บ 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ ยังมีหวังในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป โดยนัดสุดท้ายต้องลงเตะชี้ชะตากับ ฮอลแลนด์ ส่วน เดนมาร์ก ความปราชัยนัดนี้ทำให้พวกเขามี 3 คะแนนเท่าเดิม แมตช์สุดท้ายพบกับ เยอรมนี ต้องเอาชนะให้ได้ หากหวังจะผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources