ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Posted on 14:43 by netdesign | No comments
เด็กไทยคว้า2ทอง1เงิน1ทองแดงชีวโอลิมปิก
วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม 2555 เวลา 19:52 น.
วันนี้ ( 14 ก.ค. ) นางพรพรรณ ไวทยางกูร
ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
เปิดเผยว่า
ตามที่ได้คัดเลือกและจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิก
ระหว่างประเทศ วันที่ 8 - 15 ก.ค. ที่ประเทศสิงคโปร์
ผลปรากฏว่านักเรียนไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ 2 เหรียญทอง 1เหรียญเงิน
และ 1 เหรียญทองแดง ดังนี้
นางสาวเมธาวี โฉมทอง โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เหรียญทอง นายอารยะ ทะแพงพันธ์ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เหรียญทอง นายปวีณ เกลียวปิยะ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เหรียญเงิน และนายภูวนัตถ์ สังขปรีชา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญทองแดง
การแข่งขันครั้งนี้มี รศ.ดร.ธีรพงษ์ บัวบูชา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหัวหน้าทีม ดร.นพดล กิตนะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองหัวหน้าทีม รศ.ดร.พูนพิภพ เกษมทรัพย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ผศ.ดร.ปิติวงษ์ ตันติโชดก มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นผู้ช่วยหัวหน้าทีม และนางสาวอรสา ชูสกุล สสวท.ผู้จัดการทีม คณะผู้แทนโอลิมปิกวิชาการจะกลับถึงไทยวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ค. เที่ยวบิน TG 414 เวลา 17.15 น. สสวท.จะมีพิธีต้อนรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 2 ด้านใน ประตู 1
นางสาวเมธาวี โฉมทอง กล่าวว่าโอลิมปิกวิชาการมีส่วนช่วยให้เด็กไทยสนใจวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น เพราะจากที่สัมผัสมาพบว่าช่วยกระตุ้นให้เพื่อนๆ รวมทั้งตนเองสนใจค้นคว้าหาความรู้มากขึ้น ปกติอยู่ที่โรงเรียนก็แบ่งปันความรู้กับเพื่อนเพื่อทบทวนหรือเมื่อสงสัยใน ห้องเรียนก็รีบถามอาจารย์แล้วหาตำรามาอ่านเพิ่ม รู้สึกดีใจที่ได้ช่วยกิจกรรมวิชาการของโรงเรียนได้ทำค่ายให้น้องในชนบทเพราะ ชีวิตที่ได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นเป็นชีวิตที่มีคุณค่า อนาคตอยากเป็นนักวิจัยหรืออาจารย์สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อ ไป
นายอารยะ ทะแพงพันธ์ เผยว่า ก่อนจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆจึงตั้งใจทำให้ดีที่สุด ก่อนไปแข่งมีทบทวนบทเรียนและหมั่นฝึกทักษะปฏิบัติ ชอบเรียนภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์เพราะทำให้รู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราคน เดียวแต่ยังมีอีกหลายประเทศอยู่ร่วมกัน และจากที่ได้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ติวความรู้ก่อนสอบก็ทำให้พบว่าความรู้ที่ตัวเรามีสามารถถ่ายทอดให้ผู้ที่ไม่ รู้ได้และยังเป็นประโยชน์มากกว่าเก็บเอาไว้คนเดียวด้วย สำหรับอนาคตอยากทำงานที่ใช้ความรู้วิทยาศาสตร์ หรือคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย
นายปวีณ เกลียวปิยะ เผยว่า ตอนแรกไม่คาดหวังว่าจะได้เป็นผู้แทนประเทศไทยดังนั้นจึงพยายามทำหน้าที่ อย่างดีที่สุด ชอบเรียนชีววิทยาเพราะเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันและยังชอบเคมีกับภาษา อังกฤษซึ่งเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้เรื่อยๆไม่หยุด เวลาอยู่ในห้องเรียนหากสงสัยขั้นแรกจะถามอาจารย์หรือผู้รู้ ถ้ายังไม่ชัดเจนก็หาความรู้เพิ่มโดยเน้นจากตำราเป็นหลักหรืออินเตอร์เน็ต มีวิธีบริหารความเครียดคือถ้าอ่านหนังสือแล้วรู้สึกเบื่อก็จะเล่นเกม ดูโทรทัศน์ ฟังเพลงให้ผ่อนคลาย เป้าหมายชีวิตตั้งใจเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
นายภูวนัตถ์ สังขปรีชา เล่าว่า ฝึกทำข้อสอบเก่าเตรียมพร้อมก่อนไปแข่งซึ่งช่วยให้ได้ทักษะทั้งทฤษฏีและ ปฏิบัติ ด้านจิตใจก็ทำสมาธิให้เกิดสติและผ่อนคลาย เตือนตัวเองว่าห้ามเครียดแต่ถ้ารู้สึกเครียดจริงๆก็จะคุยกับคุณพ่อคุณแม่ให้ ท่านรับฟังและช่วยแนะนำ ชีวิตในโรงเรียนสนุกกับกิจกรรมติวความรู้ชีววิทยาให้รุ่นน้องสอนแล้วรู้สึก สนุก ดีใจได้แบ่งปันความรู้ให้คนอื่นแล้วความรู้ของเราก็ไม่ได้หายไปไหนด้วย อนาคตอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านการแพทย์ทำวิจัยเกี่ยวกับสารและการรักษา โรค.
นางสาวเมธาวี โฉมทอง โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เหรียญทอง นายอารยะ ทะแพงพันธ์ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เหรียญทอง นายปวีณ เกลียวปิยะ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เหรียญเงิน และนายภูวนัตถ์ สังขปรีชา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญทองแดง
การแข่งขันครั้งนี้มี รศ.ดร.ธีรพงษ์ บัวบูชา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหัวหน้าทีม ดร.นพดล กิตนะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองหัวหน้าทีม รศ.ดร.พูนพิภพ เกษมทรัพย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ผศ.ดร.ปิติวงษ์ ตันติโชดก มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นผู้ช่วยหัวหน้าทีม และนางสาวอรสา ชูสกุล สสวท.ผู้จัดการทีม คณะผู้แทนโอลิมปิกวิชาการจะกลับถึงไทยวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ค. เที่ยวบิน TG 414 เวลา 17.15 น. สสวท.จะมีพิธีต้อนรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 2 ด้านใน ประตู 1
นางสาวเมธาวี โฉมทอง กล่าวว่าโอลิมปิกวิชาการมีส่วนช่วยให้เด็กไทยสนใจวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น เพราะจากที่สัมผัสมาพบว่าช่วยกระตุ้นให้เพื่อนๆ รวมทั้งตนเองสนใจค้นคว้าหาความรู้มากขึ้น ปกติอยู่ที่โรงเรียนก็แบ่งปันความรู้กับเพื่อนเพื่อทบทวนหรือเมื่อสงสัยใน ห้องเรียนก็รีบถามอาจารย์แล้วหาตำรามาอ่านเพิ่ม รู้สึกดีใจที่ได้ช่วยกิจกรรมวิชาการของโรงเรียนได้ทำค่ายให้น้องในชนบทเพราะ ชีวิตที่ได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นเป็นชีวิตที่มีคุณค่า อนาคตอยากเป็นนักวิจัยหรืออาจารย์สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อ ไป
นายอารยะ ทะแพงพันธ์ เผยว่า ก่อนจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆจึงตั้งใจทำให้ดีที่สุด ก่อนไปแข่งมีทบทวนบทเรียนและหมั่นฝึกทักษะปฏิบัติ ชอบเรียนภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์เพราะทำให้รู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราคน เดียวแต่ยังมีอีกหลายประเทศอยู่ร่วมกัน และจากที่ได้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ติวความรู้ก่อนสอบก็ทำให้พบว่าความรู้ที่ตัวเรามีสามารถถ่ายทอดให้ผู้ที่ไม่ รู้ได้และยังเป็นประโยชน์มากกว่าเก็บเอาไว้คนเดียวด้วย สำหรับอนาคตอยากทำงานที่ใช้ความรู้วิทยาศาสตร์ หรือคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย
นายปวีณ เกลียวปิยะ เผยว่า ตอนแรกไม่คาดหวังว่าจะได้เป็นผู้แทนประเทศไทยดังนั้นจึงพยายามทำหน้าที่ อย่างดีที่สุด ชอบเรียนชีววิทยาเพราะเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันและยังชอบเคมีกับภาษา อังกฤษซึ่งเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้เรื่อยๆไม่หยุด เวลาอยู่ในห้องเรียนหากสงสัยขั้นแรกจะถามอาจารย์หรือผู้รู้ ถ้ายังไม่ชัดเจนก็หาความรู้เพิ่มโดยเน้นจากตำราเป็นหลักหรืออินเตอร์เน็ต มีวิธีบริหารความเครียดคือถ้าอ่านหนังสือแล้วรู้สึกเบื่อก็จะเล่นเกม ดูโทรทัศน์ ฟังเพลงให้ผ่อนคลาย เป้าหมายชีวิตตั้งใจเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
นายภูวนัตถ์ สังขปรีชา เล่าว่า ฝึกทำข้อสอบเก่าเตรียมพร้อมก่อนไปแข่งซึ่งช่วยให้ได้ทักษะทั้งทฤษฏีและ ปฏิบัติ ด้านจิตใจก็ทำสมาธิให้เกิดสติและผ่อนคลาย เตือนตัวเองว่าห้ามเครียดแต่ถ้ารู้สึกเครียดจริงๆก็จะคุยกับคุณพ่อคุณแม่ให้ ท่านรับฟังและช่วยแนะนำ ชีวิตในโรงเรียนสนุกกับกิจกรรมติวความรู้ชีววิทยาให้รุ่นน้องสอนแล้วรู้สึก สนุก ดีใจได้แบ่งปันความรู้ให้คนอื่นแล้วความรู้ของเราก็ไม่ได้หายไปไหนด้วย อนาคตอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านการแพทย์ทำวิจัยเกี่ยวกับสารและการรักษา โรค.
This entry was posted in News
องค์กร– ภาควิชาชีพยังเมินเสนอชื่อสรรหาส.ว.
Posted on 10:17 by netdesign | No comments
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายประพันธ์
นัยโกวิท กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง
กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ กกต.
ในการเปิดให้องค์กรภาคอื่น – ภาควิชาชีพ
ลงทะเบียนเพื่อเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสม เข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.ว่า
หลังจากกกต.เปิดรับลงทะเบียนขององค์กรภาคอื่น ตั้งแต่วันที่ 1
ส.ค.จนถึงวันนี้ ยังไม่มีองค์กรใดมาลงทะเบียนเสนอชื่อบุคคล
เพื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.
ขณะที่การเปิดลงทะเบียนเสนอชื่อบุคคลของภาควิชาชีพ ที่เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 7 – 21 ส.ค. ก็ยังไม่มีองค์กรใดมาเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหา ส.ว. เช่นเดียวกัน ทั้งนี้เชื่อว่า ในช่วงท้ายของการเปิดรับลงทะเบียนของแต่ละภาค คาดว่าจะมีองค์กรเสนอบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาอย่างแน่นอน เพราะ ส.ว. มีวาระการทำงานมากกว่า ส.ส. เป็นตำแหน่งที่สำคัญ มีบทบาทหน้าที่ในการพิจารณากฎหมายต่างๆในสภา โดยเฉพาะขณะนี้จะพิจารณาเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเชื่อว่าจะมีบุคคลสนใจเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. แต่ที่ยังไม่มีองค์กรใดเสนอชื่อบุคคลเข้ามานั้น อาจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติของบุคคลนั้นๆ ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ เพราะหากองค์กรใดที่เสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ตรงกับที่ กกต. กำหนดไว้ ก็อาจจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
ดังนั้นตนขอเน้นย้ำไปยังองค์กรต่างๆ ที่จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. ควรตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลนั้นๆ ให้รอบคอบและละเอียดถี่ถ้วนก่อน อย่างไรก็ตาม หากจะมีองค์กรใดเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. ทั้งภาคอื่น และภาควิชาชีพ ได้หรือไม่นั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ต้องให้กรรมการสรรหาเป็นผู้พิจารณา ว่าจะสามารถลงทะเบียนเข้ารับการสรรหาเป็นส.ว. ได้ทั้ง 2 ภาคเลยหรือไม่.
ขณะที่การเปิดลงทะเบียนเสนอชื่อบุคคลของภาควิชาชีพ ที่เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 7 – 21 ส.ค. ก็ยังไม่มีองค์กรใดมาเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหา ส.ว. เช่นเดียวกัน ทั้งนี้เชื่อว่า ในช่วงท้ายของการเปิดรับลงทะเบียนของแต่ละภาค คาดว่าจะมีองค์กรเสนอบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาอย่างแน่นอน เพราะ ส.ว. มีวาระการทำงานมากกว่า ส.ส. เป็นตำแหน่งที่สำคัญ มีบทบาทหน้าที่ในการพิจารณากฎหมายต่างๆในสภา โดยเฉพาะขณะนี้จะพิจารณาเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเชื่อว่าจะมีบุคคลสนใจเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. แต่ที่ยังไม่มีองค์กรใดเสนอชื่อบุคคลเข้ามานั้น อาจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติของบุคคลนั้นๆ ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ เพราะหากองค์กรใดที่เสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ตรงกับที่ กกต. กำหนดไว้ ก็อาจจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
ดังนั้นตนขอเน้นย้ำไปยังองค์กรต่างๆ ที่จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. ควรตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลนั้นๆ ให้รอบคอบและละเอียดถี่ถ้วนก่อน อย่างไรก็ตาม หากจะมีองค์กรใดเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. ทั้งภาคอื่น และภาควิชาชีพ ได้หรือไม่นั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ต้องให้กรรมการสรรหาเป็นผู้พิจารณา ว่าจะสามารถลงทะเบียนเข้ารับการสรรหาเป็นส.ว. ได้ทั้ง 2 ภาคเลยหรือไม่.
This entry was posted in News
ทับลานแจงศาลคุ้มครอง“ทะเลหมอก”ทั่วประเทศป่วน
Posted on 10:16 by netdesign | No comments
เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (7 ส.ค.) นายเทวินทร์ มีทรัพย์
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน
ให้สัมภาษณ์หลังเข้าชี้แจงต่อศาลปกครองกลางกรณีการรื้อรีสอร์ทบ้านทะหมอก
ว่า
ศาลได้ถามภาพรวมเกี่ยวกับการรื้อถอนที่เกิดขึ้นว่าหากศาลให้การคุ้มครองชั่ว
คราวจะเกิดผลอะไรขึ้นมาบ้าง ตนได้ตอบไปว่าจะมีผลต่อสาธารณะอย่างมาก
เพราะจะเป็นตัวอย่างเรื่องการบังคับใช้กฎหมายกับที่อื่นที่มีการบุกรุก
พื้นที่ป่าอนุรักษ์ จะเอาเยี่ยงอย่างตามมาอีกหลายพื้นที่
รวมทั้งเรื่องของการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่อนุรักษ์ก็จะทำได้ยากยิ่ง
ขึ้น
ที่สำคัญคือบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่มรดกโลกเขาใหญ่-ดงพญาเย็น ทางคณะกรรมการมรดกโลกได้มีข้อมติที่ต้องปฏิบัติตามมาอย่างชัดเจนว่าใน พื้นที่มรดกโลกจะต้องไม่มีรีสอร์ทและโรงแรม เพราะอาจจะทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี หากประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามก็จะเสี่ยงการถูกขึ้นบัญชีดำและถอดถอนในที่สุด อย่างไรก็ตามในวันนี้ศาลยังไม่ได้ตัดสิน จะนัดฟังคำตัดสินคุ้มครองฉุกเฉินหรือไม่ในเร็วๆ นี้ ตนได้รายงานให้นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชทราบแล้ว.
ที่สำคัญคือบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่มรดกโลกเขาใหญ่-ดงพญาเย็น ทางคณะกรรมการมรดกโลกได้มีข้อมติที่ต้องปฏิบัติตามมาอย่างชัดเจนว่าใน พื้นที่มรดกโลกจะต้องไม่มีรีสอร์ทและโรงแรม เพราะอาจจะทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี หากประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามก็จะเสี่ยงการถูกขึ้นบัญชีดำและถอดถอนในที่สุด อย่างไรก็ตามในวันนี้ศาลยังไม่ได้ตัดสิน จะนัดฟังคำตัดสินคุ้มครองฉุกเฉินหรือไม่ในเร็วๆ นี้ ตนได้รายงานให้นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชทราบแล้ว.
This entry was posted in News
“สุรพงษ์”ถกทูตไทยประจำมุสลิมหาข้อมูลเวิร์กช็อปแก้ไฟใต้
Posted on 10:16 by netdesign | No comments
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล
รมว.ต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
เอกอัครรราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยที่ประจำการในประเทศมุสลิม อาทิ มาเลเซีย
จอร์แดน อียิปต์ อิหร่าน รวมถึงหน่วยงานภายในกระทรวงฯ
ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ต่อมา เวลา 18.30 น. นายสุรพงษ์ เปิดเผยระหว่างการประชุมว่า ตนจะนำข้อสรุปจากที่ประชุมดังกล่าวไปเสนอต่อที่ประชุมเชิงปฏิบัติการแก้ ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยเบื้องต้นมี 2 แนวทางที่จะนำเสนอ คือ 1.การให้ทุนการศึกษากับนักศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องการศึกษาต่อในประเทศมุสลิม โดยเน้นให้ทุนด้านวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาพื้นที่และประเทศ เพราะต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ที่เดินทางไปศึกษาขณะนี้มีแต่เรื่องศาสนาเท่า นั้น
2.ตนและกระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงให้นานาชาติในการประชุมเวทีระหว่าง ประเทศ เช่น การประชุมองค์การความร่วมมืออิสลามโลก(โอไอซี) ที่ประเทศจิบูติ ช่วงปลายปีนี้ เป็นต้น เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย และเพื่อป้องกันไม่ให้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือบนเวทีระหว่างประเทศอีก ทั้งนี้ ที่ประชุมไม่ได้หยิบยกเรื่องการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่มาหารือ มีแต่พูดถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่าอาจมีบางพื้นที่ที่ยกเว้นได้.
ต่อมา เวลา 18.30 น. นายสุรพงษ์ เปิดเผยระหว่างการประชุมว่า ตนจะนำข้อสรุปจากที่ประชุมดังกล่าวไปเสนอต่อที่ประชุมเชิงปฏิบัติการแก้ ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยเบื้องต้นมี 2 แนวทางที่จะนำเสนอ คือ 1.การให้ทุนการศึกษากับนักศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องการศึกษาต่อในประเทศมุสลิม โดยเน้นให้ทุนด้านวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาพื้นที่และประเทศ เพราะต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ที่เดินทางไปศึกษาขณะนี้มีแต่เรื่องศาสนาเท่า นั้น
2.ตนและกระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงให้นานาชาติในการประชุมเวทีระหว่าง ประเทศ เช่น การประชุมองค์การความร่วมมืออิสลามโลก(โอไอซี) ที่ประเทศจิบูติ ช่วงปลายปีนี้ เป็นต้น เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย และเพื่อป้องกันไม่ให้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือบนเวทีระหว่างประเทศอีก ทั้งนี้ ที่ประชุมไม่ได้หยิบยกเรื่องการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่มาหารือ มีแต่พูดถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่าอาจมีบางพื้นที่ที่ยกเว้นได้.
This entry was posted in News
ผบ.ทบ.ซัดโจรใต้"หมาลอบกัด"เจ็บปวดทหารถูกฆ่า
Posted on 10:14 by netdesign | No comments
วันนี้ ( 7 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ผบ.ทบ.
แถลงถึงปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า
สถานการณ์วันนี้เกิดขึ้นจากคนในประเทศที่มีความคิดเห็นแตกต่าง
และจากการกระทำที่ผิดกฎหมายที่รวมกลุ่มขึ้นมามุ่งหวังให้ดินแดนภาคใต้เป็น
ดินแดนความมืดมิด ไม่ให้ใครเข้าไปแตะต้องได้ ไม่ใช่ขบวนการแยกดินแดนทั้งหมด
เพราะความสูญเสียเกิดขึ้นกับคนทุกศาสนา
เราได้จัดทำทำเนียบกำลังรบของข้าศึก
และติดตามจับกุมโดยใช้กระบวนการทางกฎหมาย
การแก้ไขปัญหาไม่สามารถใช้ยุทธวิธีได้อย่างเดียว ไม่เช่นนั้นจะทำให้เงื่อนไขที่เกิดขึ้นมากเกินเยียวยา ผลกระทบคือความสูญเสียและบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทหารและตำรวจไม่ใช่ไม่มีประสิทธิภาพ แต่ต้องใช้อยู่ในกรอบที่จำกัด ไม่สามารถใช้กำลังขนาดใหญ่ลงไปปิดล้อม ตรวจค้นได้ทั้งหมด นอกจากจะมีงานด้านการข่าวชัดเจน ในการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายเท่านั้น สำหรับกฎหมายพิเศษมีกฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ใช้เพียงบางข้อเท่านั้น จะเห็นว่าไม่มีผลกระทบโดยรวม อีกทั้งการใช้กฎหมายมีความรัดกุม แต่ถ้าเราไม่มีกฎหมายตัวนี้มันก็จะช้า และจะทำเกิดการทำลายหลักฐานดำเนินการอย่างรวดเร็ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การประกาศเคอร์ฟิว แค่เป็นเวลา หรือแค่บางพื้นที่ก็ยังได้รับการต่อต้าน เพราะว่ามีคนส่วนหนึ่งเขาไม่ได้เดือดร้อนก็เกรงว่าเขาจะได้รับผลกระทบจาก กฎหมายเหล่านั้น ก็รู้ว่าเป็นไปได้ยากที่จะประกาศได้ แต่เราก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง ผู้ก่อเหตุใช้ยุทธวิธีการก่อการร้ายแบบกองโจรแบบสุนัขลอบกัด และผู้ที่ใช้ก็คือไอ้โจรไทย เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ทุกรัฐบาลและทุก ผบ.ทบ.ไม่มีใครเก่งกว่าใคร สิ่งสำคัญ คือความเข้าใจที่เราไม่ได้จากพวกเรากันเอง หากมองในมิติเดียวการบาดเจ็บและการสูญเสียใครก็รับไม่ได้ และตนก็รับไม่ได้ เจ็บใจและโกรธแค้นมากกว่าคนอื่นที่ลูกน้องถูกยิง ถูกฆ่าทุกวัน แต่ตนทำได้แค่บังคับใช้กฎหมายให้งวดมากขึ้น และทำให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิเสธในภาพรวมทั้งหมด ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน นั่นคือสิ่งที่วนเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นทุกคนต้องลดความกดดัน ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะไปในทางที่ผิด วันนี้ต้องบอกลูกน้องว่าโมโหไม่ได้ เพราะผู้ก่อเหตุถูกล้างสมองว่า ถ้าเราพลาดเราบาดเจ็บ เสียชีวิต เพราะฉะนั้น ต้องระวังตัวให้มากที่สุด ถ้าระวังตัวไม่ได้ก็ต้องตาย ทุกคนที่ลงพื้นที่ไม่เคยเรียกร้องสิทธิอะไรมากมายไปกว่านี้ เช่นพิธีศพ การดูแลลูกเมีย
“ผมเจ็บปวดกว่าท่านเยอะ ดังนั้นอย่ามาบอกว่าเจ็บแค้นแทนทหารเพราะจะทำให้กำลังพลเสียขวัญ ผมถามว่าวันนี้เราเสียดินแดนซักตารางนิ้วในภาคใต้แล้วหรือยัง มีใครมาแสดงตัวรับผิดชอบหรือเปล่า มีแต่อีแอบ อีหมาลอบกัดอย่างเดียว ท่านก็ทนมันไม่ได้ แล้วจะให้ผมทนอยู่ข้างเดียวหรืออย่างไร ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่เขาไม่ได้ชื่นชมกับคนกลุ่มนี้ แต่ผมไม่เข้าใจว่าคนหลายๆ พวกพูดเหมือนกับว่าเขามีความเก่งกาจสามารถ มันจะไปเก่งกาจอะไร มันแอบลอบกัด ทำไมไม่ให้เกียรติทหารที่เป็นสุภาพบุรุษบ้าง นี่เขารู้ว่าเขาต้องตาย ยังต้องทำเลย ทำไมท่านไม่ให้กำลังใจเขา ไม่ใช่ผมเป็นผบ.ทบ.แล้วจะสบาย อยากจะเสวยสุขอยู่ในตำแหน่ง อยู่แค่2 ปีก็จะเกษียณแล้ว “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงการใช้เรือเหาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรือเหาะใช้ได้ทุกพื้นที่ แต่ตรงไหนที่อันตรายเราก็ไม่ใช้ อย่างน้อยต้องขึ้นบินอย่างต่ำ 3 พันเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกยิง คนที่คิดใช้เรือเหาะในพื้นที่ไม่ใช่ปัญญาอ่อน หรือจะเอาผลประโยชน์ แต่เขามองว่าทำอย่างไรเราจะเฝ้ามองตรวจสนามรบได้ตลอดเวลา ส่วนกรณีที่กองทัพอากาศจะใช้เครื่องบิน เอยู-23 มาช่วยลาดตระเวนคุ้มครองหน่วยภาคพื้นดินนั้น เป็นความหวังดีของรมว.กลาโหม และผบ.ทอ. อย่างน้อยก็เป็นตาข้างบน ห้ามปรามได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ขาดแคลนตำรวจพอสมควร ส่วนใหญ่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นหลัก แต่มันโหด ดังนั้นใช้เฉพาะตำรวจอาจจะไม่เหมาะ ขณะนี้เตรียมการนำตำรวจใหม่ที่ผ่านการฝึกสงครามกองโจร สงครามนอกแบบ ลงไปทำงานร่วมกับตำรวจภูธร แต่ยังฝึกไม่ทันก็เลยนำตำรวจพลร่มลงไปก่อนเพื่อไปขับเคลื่อนในทุกจังหวัด และในเขตเมือง ทางผวจ. นายอำเภอ มีกำลังฝ่ายพลเรือนเป็นหลัก ทหารจะเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เมื่อมีเหตุการณ์ก็เข้าไปช่วย แต่เวลามีเรื่องทหารโดนด่าทุกที.
การแก้ไขปัญหาไม่สามารถใช้ยุทธวิธีได้อย่างเดียว ไม่เช่นนั้นจะทำให้เงื่อนไขที่เกิดขึ้นมากเกินเยียวยา ผลกระทบคือความสูญเสียและบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทหารและตำรวจไม่ใช่ไม่มีประสิทธิภาพ แต่ต้องใช้อยู่ในกรอบที่จำกัด ไม่สามารถใช้กำลังขนาดใหญ่ลงไปปิดล้อม ตรวจค้นได้ทั้งหมด นอกจากจะมีงานด้านการข่าวชัดเจน ในการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายเท่านั้น สำหรับกฎหมายพิเศษมีกฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ใช้เพียงบางข้อเท่านั้น จะเห็นว่าไม่มีผลกระทบโดยรวม อีกทั้งการใช้กฎหมายมีความรัดกุม แต่ถ้าเราไม่มีกฎหมายตัวนี้มันก็จะช้า และจะทำเกิดการทำลายหลักฐานดำเนินการอย่างรวดเร็ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การประกาศเคอร์ฟิว แค่เป็นเวลา หรือแค่บางพื้นที่ก็ยังได้รับการต่อต้าน เพราะว่ามีคนส่วนหนึ่งเขาไม่ได้เดือดร้อนก็เกรงว่าเขาจะได้รับผลกระทบจาก กฎหมายเหล่านั้น ก็รู้ว่าเป็นไปได้ยากที่จะประกาศได้ แต่เราก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง ผู้ก่อเหตุใช้ยุทธวิธีการก่อการร้ายแบบกองโจรแบบสุนัขลอบกัด และผู้ที่ใช้ก็คือไอ้โจรไทย เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ทุกรัฐบาลและทุก ผบ.ทบ.ไม่มีใครเก่งกว่าใคร สิ่งสำคัญ คือความเข้าใจที่เราไม่ได้จากพวกเรากันเอง หากมองในมิติเดียวการบาดเจ็บและการสูญเสียใครก็รับไม่ได้ และตนก็รับไม่ได้ เจ็บใจและโกรธแค้นมากกว่าคนอื่นที่ลูกน้องถูกยิง ถูกฆ่าทุกวัน แต่ตนทำได้แค่บังคับใช้กฎหมายให้งวดมากขึ้น และทำให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิเสธในภาพรวมทั้งหมด ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน นั่นคือสิ่งที่วนเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นทุกคนต้องลดความกดดัน ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะไปในทางที่ผิด วันนี้ต้องบอกลูกน้องว่าโมโหไม่ได้ เพราะผู้ก่อเหตุถูกล้างสมองว่า ถ้าเราพลาดเราบาดเจ็บ เสียชีวิต เพราะฉะนั้น ต้องระวังตัวให้มากที่สุด ถ้าระวังตัวไม่ได้ก็ต้องตาย ทุกคนที่ลงพื้นที่ไม่เคยเรียกร้องสิทธิอะไรมากมายไปกว่านี้ เช่นพิธีศพ การดูแลลูกเมีย
“ผมเจ็บปวดกว่าท่านเยอะ ดังนั้นอย่ามาบอกว่าเจ็บแค้นแทนทหารเพราะจะทำให้กำลังพลเสียขวัญ ผมถามว่าวันนี้เราเสียดินแดนซักตารางนิ้วในภาคใต้แล้วหรือยัง มีใครมาแสดงตัวรับผิดชอบหรือเปล่า มีแต่อีแอบ อีหมาลอบกัดอย่างเดียว ท่านก็ทนมันไม่ได้ แล้วจะให้ผมทนอยู่ข้างเดียวหรืออย่างไร ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่เขาไม่ได้ชื่นชมกับคนกลุ่มนี้ แต่ผมไม่เข้าใจว่าคนหลายๆ พวกพูดเหมือนกับว่าเขามีความเก่งกาจสามารถ มันจะไปเก่งกาจอะไร มันแอบลอบกัด ทำไมไม่ให้เกียรติทหารที่เป็นสุภาพบุรุษบ้าง นี่เขารู้ว่าเขาต้องตาย ยังต้องทำเลย ทำไมท่านไม่ให้กำลังใจเขา ไม่ใช่ผมเป็นผบ.ทบ.แล้วจะสบาย อยากจะเสวยสุขอยู่ในตำแหน่ง อยู่แค่2 ปีก็จะเกษียณแล้ว “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงการใช้เรือเหาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรือเหาะใช้ได้ทุกพื้นที่ แต่ตรงไหนที่อันตรายเราก็ไม่ใช้ อย่างน้อยต้องขึ้นบินอย่างต่ำ 3 พันเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกยิง คนที่คิดใช้เรือเหาะในพื้นที่ไม่ใช่ปัญญาอ่อน หรือจะเอาผลประโยชน์ แต่เขามองว่าทำอย่างไรเราจะเฝ้ามองตรวจสนามรบได้ตลอดเวลา ส่วนกรณีที่กองทัพอากาศจะใช้เครื่องบิน เอยู-23 มาช่วยลาดตระเวนคุ้มครองหน่วยภาคพื้นดินนั้น เป็นความหวังดีของรมว.กลาโหม และผบ.ทอ. อย่างน้อยก็เป็นตาข้างบน ห้ามปรามได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ขาดแคลนตำรวจพอสมควร ส่วนใหญ่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นหลัก แต่มันโหด ดังนั้นใช้เฉพาะตำรวจอาจจะไม่เหมาะ ขณะนี้เตรียมการนำตำรวจใหม่ที่ผ่านการฝึกสงครามกองโจร สงครามนอกแบบ ลงไปทำงานร่วมกับตำรวจภูธร แต่ยังฝึกไม่ทันก็เลยนำตำรวจพลร่มลงไปก่อนเพื่อไปขับเคลื่อนในทุกจังหวัด และในเขตเมือง ทางผวจ. นายอำเภอ มีกำลังฝ่ายพลเรือนเป็นหลัก ทหารจะเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เมื่อมีเหตุการณ์ก็เข้าไปช่วย แต่เวลามีเรื่องทหารโดนด่าทุกที.
This entry was posted in News
ละคร"ศึกเก้าทัพ ธำรงรัฐ พิพัฒน์สยาม"เทิดพระเกียรติราชินี
Posted on 10:13 by netdesign | No comments
วันนี้ (7 ส.ค.)ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
เป็นประธานแถลงโครงการจัดทำหนังสือประวัติศาสตร์และจัดสร้างภาพยนตร์สารคดี
กึ่งละครเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 ส.ค.2555 เรื่อง
“ศึกเก้าทัพ ธำรงรัฐ พิพัฒน์สยาม” โดยมี นายบัณฑูร ล่ำซำ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ คุณหญิงวิมล
ศิริไพบูลย์ หรือ ทมยันตี โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า
สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เร่งเห็นทุกข์สุขของประชาชนอยู่เสมอ
แม้ว่าพระองค์ท่านทรงพระประชวรอยู่ก็ตาม
ทรงไต่ถามด้วยความห่วงใยทำอย่างไรให้ประเทศชาติไปสู่ความสำเร็จ
เรามีผืนแผ่นดินอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะพระมหากษัตริย์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ดังนั้นตนอยากให้การดำเนินการโครงการดังกล่าวเพื่อสร้างให้คนรุ่นใหม่รักษา
สถาบันพระมหากษัตริย์ให้ยั่งยืนและมั่นคงในอนาคต
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเคยมีโอกาสดูเรื่อง “ศึกเก้าทัพ ธำรงรัฐ พิพัฒน์สยาม” บ่อย เพราะสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งท่านทรงอยากให้ทหารได้ดู ซึ่งตอนแรกก็สงสัยว่าพระองค์ท่านให้ดูทำไม แต่พระองค์ท่านก็ทรงรับสั่งว่า การให้ดูบ่อย เพื่อให้ทุกคนได้ภูมิใจในความเป็นชาติ และคนไทย ทั้งนี้หากคนไทยไม่รู้ประวัติศาสตร์ชาติเราจะรักประเทศไทยได้อย่างไร เพราะว่าประวัติศาสตร์คือปัจจุบันและอนาคต ตนอยากให้คนไทยได้เรียนรู้ และนำสงครามในอดีตมาเป็นบทเรียน และเราจะต้องไม่มีสงครามอีกต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะสงครามในใจของมนุษย์จะต้องไม่เกิด อย่างไรก็ตาม การทำงานของกองทัพได้นำหลักการสู้รบทุกรูปแบบในเรื่องมาปฏิบัติไม่ได้ละทิ้ง เช่น หลักการจู่โจม การใช้สงครามกองโจร วันนี้กองทัพบกทำงานโดยใช้ตำราทุกรูปแบบ แต่สงครามปัจจุบันนี้เป็นสงครามสมัยใหม่ เป็นสงครามทางความคิด ซึ่งมีองค์ประกอบทั้งภายใน และภายนอกทำแรงเกินไปก็ไม่ได้ ทำน้อยเกินไปก็ไม่ได้
“จะต้องเข้าใจทหารเราทำด้วยความรอบคอบไม่ใช่ทหารกลัว เราไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น แต่เราจะต้องอยู่ในระเบียบวินัยเคารพกติกา ถ้าทำตามใจตัวเองโกรธแค้นก็ตอบโต้ไม่ต่างอะไรกับโจร เพราะโจรไม่เคยเคารพกฎหมาย แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านเขามาหาก็ยังชมและบอกว่าการแก้ปัญหาถูกจุดแล้ว เพราะประเทศของเขาก็มีปัญหาในลักษณะเช่นนี้ มีการใช้กำลัง ปะทะ และทุกวันนี้เขาเสียดินแดนไป ซึ่งสงครามภายในประเทศของเราวันนี้มีเยอะมากทั้งภาคใต้ เหนือ ตะวันออก และตะวันตก และที่สำคัญคือสงครามที่พวกเราจะต้องเอาชนะกันให้ได้ คือสงครามในใจของตัวเอง ทั้งนี้ผมได้ปรึกษากับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์ ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งท่านก็ให้แนวทางว่า สมเด็จพระราชินี อยากให้ทหารทำให้ทุกคนตระหนักถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ความรักชาติ รักแผ่นดิน มุ่งไปสู่ความรักความสามัคคี” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเคยมีโอกาสดูเรื่อง “ศึกเก้าทัพ ธำรงรัฐ พิพัฒน์สยาม” บ่อย เพราะสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งท่านทรงอยากให้ทหารได้ดู ซึ่งตอนแรกก็สงสัยว่าพระองค์ท่านให้ดูทำไม แต่พระองค์ท่านก็ทรงรับสั่งว่า การให้ดูบ่อย เพื่อให้ทุกคนได้ภูมิใจในความเป็นชาติ และคนไทย ทั้งนี้หากคนไทยไม่รู้ประวัติศาสตร์ชาติเราจะรักประเทศไทยได้อย่างไร เพราะว่าประวัติศาสตร์คือปัจจุบันและอนาคต ตนอยากให้คนไทยได้เรียนรู้ และนำสงครามในอดีตมาเป็นบทเรียน และเราจะต้องไม่มีสงครามอีกต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะสงครามในใจของมนุษย์จะต้องไม่เกิด อย่างไรก็ตาม การทำงานของกองทัพได้นำหลักการสู้รบทุกรูปแบบในเรื่องมาปฏิบัติไม่ได้ละทิ้ง เช่น หลักการจู่โจม การใช้สงครามกองโจร วันนี้กองทัพบกทำงานโดยใช้ตำราทุกรูปแบบ แต่สงครามปัจจุบันนี้เป็นสงครามสมัยใหม่ เป็นสงครามทางความคิด ซึ่งมีองค์ประกอบทั้งภายใน และภายนอกทำแรงเกินไปก็ไม่ได้ ทำน้อยเกินไปก็ไม่ได้
“จะต้องเข้าใจทหารเราทำด้วยความรอบคอบไม่ใช่ทหารกลัว เราไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น แต่เราจะต้องอยู่ในระเบียบวินัยเคารพกติกา ถ้าทำตามใจตัวเองโกรธแค้นก็ตอบโต้ไม่ต่างอะไรกับโจร เพราะโจรไม่เคยเคารพกฎหมาย แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านเขามาหาก็ยังชมและบอกว่าการแก้ปัญหาถูกจุดแล้ว เพราะประเทศของเขาก็มีปัญหาในลักษณะเช่นนี้ มีการใช้กำลัง ปะทะ และทุกวันนี้เขาเสียดินแดนไป ซึ่งสงครามภายในประเทศของเราวันนี้มีเยอะมากทั้งภาคใต้ เหนือ ตะวันออก และตะวันตก และที่สำคัญคือสงครามที่พวกเราจะต้องเอาชนะกันให้ได้ คือสงครามในใจของตัวเอง ทั้งนี้ผมได้ปรึกษากับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์ ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งท่านก็ให้แนวทางว่า สมเด็จพระราชินี อยากให้ทหารทำให้ทุกคนตระหนักถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ความรักชาติ รักแผ่นดิน มุ่งไปสู่ความรักความสามัคคี” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.
This entry was posted in News
ส.ส.ปชป.โวยดีเอสไอสอบผู้บริจาคพรรคหวั่นยอดวูบ
Posted on 10:12 by netdesign | No comments
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ในการประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานส.ส. เป็นประธานการประชุม
บรรดาส.ส.ได้ลุกขึ้นหารือ ว่า ได้รับการร้องเรียนว่า
ขณะนี้มีหนังสือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ
ส่งไปถึงผู้บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งถือว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้งพรรคการเมือง
โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การทำเช่นนี้มีนัยทางการเมือง ตนแปลกใจว่าทำไมถึงเลือกสอบแต่พรรคประชาธิปัตย์ ต่อไปเกรงว่าจะไม่มีใครกล้าบริจาคเงินเข้าพรรค เพราะตนก็ได้รับการร้องเรียนมาเช่นกันว่า มีผู้บริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ เพียง 400 บาท แต่กลับถูกดีเอสไอเรียกไปสอบ แต่เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากการที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา ได้ร้องต่อดีเอสไอ สอบการบริจาคเงินเข้าพรรคประชาธิปัตย์กรณีช่วยเหลืออุทกภัย ซึ่งก็ยืนยันว่าพรรคทำถูกทุกอย่าง.
โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การทำเช่นนี้มีนัยทางการเมือง ตนแปลกใจว่าทำไมถึงเลือกสอบแต่พรรคประชาธิปัตย์ ต่อไปเกรงว่าจะไม่มีใครกล้าบริจาคเงินเข้าพรรค เพราะตนก็ได้รับการร้องเรียนมาเช่นกันว่า มีผู้บริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ เพียง 400 บาท แต่กลับถูกดีเอสไอเรียกไปสอบ แต่เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากการที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา ได้ร้องต่อดีเอสไอ สอบการบริจาคเงินเข้าพรรคประชาธิปัตย์กรณีช่วยเหลืออุทกภัย ซึ่งก็ยืนยันว่าพรรคทำถูกทุกอย่าง.
This entry was posted in News
นายกฯถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระสังฆราชเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา
Posted on 10:12 by netdesign | No comments
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ตึกวชิรญาณสามัคคีพยาบาล ชั้น 6 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ได้ถวายเครื่องสักการะแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาประจำปี 2555
จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังตำหนักสมเด็จ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
เพื่อถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์
ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
เนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษาประจำปี 2555 โอกาสนี้สมเด็จพระพุฒาจารย์
ได้ให้พรว่า ขอให้นายกรัฐมนตรี ครม. และข้าราชการ
บริหารบ้านเมืองการปกครองให้เป็นไปด้วยดีตามความปรารถนาทุกประการ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดทั้งวัน นายกรัฐมนตรี ยังคงไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่อเนื่องจากช่วงวันหยุดยาวมาเป็นวันที่ 5 แล้ว โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์โดยกล่าวเพียงว่าไว้ให้สัมภาษณ์ทีเดียววันอังคาร อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ได้แจกหนังสือธรรมะชื่อ "รู้จักพระพุทธศาสนา" ของสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ให้แก่สื่อมวลชนด้วย..
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดทั้งวัน นายกรัฐมนตรี ยังคงไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่อเนื่องจากช่วงวันหยุดยาวมาเป็นวันที่ 5 แล้ว โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์โดยกล่าวเพียงว่าไว้ให้สัมภาษณ์ทีเดียววันอังคาร อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ได้แจกหนังสือธรรมะชื่อ "รู้จักพระพุทธศาสนา" ของสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ให้แก่สื่อมวลชนด้วย..
This entry was posted in News
ตั้ง"ชวลิต" ปลัดเกษตรฯ-โยกย้ายทูตเขมร
Posted on 10:11 by netdesign | No comments
วันนี้ ( 7 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า
ครม.เห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสาร (ไอซีที) ได้แก่ นายสมเกียรติ ศิริวัฒนโชค
รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงไอซีที ตามที่กระทรวงไอซีที เสนอ
นอกจากนี้ครม.เห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน กระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศ 2 ราย คือ 1.นายสมปอง สงวนบรรพ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ สาธารณรัฐฮังการี และ 2.นายธัชชยุติ ภักดี รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.อนุมัติรับโอนและแต่งตั้งข้าราชการ ประเภทบริหารระดับสูง 2 ราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) เสนอ คือ 1.นายประมุข ลมุล รองเลขาธิการศอ.บต.ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และ2.นายมณฑล สุดประเสริฐ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ศอ.บต. ทั้งนี้ทุกตำแหน่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ส่วนน.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมครม.เช่นกันว่า ที่ประชุมแต่งตั้งนายชวลิต ชูขจร รองปลัดฯ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรฯ แทนคนเก่าที่จะเกษียณในวันที่ 30 ก.ย.นี้
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เป็นการตั้งตามความเหมาะสม เพราะนายชวลิต ถือว่าเป็นคนที่มีความพร้อมทั้ งด้านงานของกระทรวง และงานกฎหมาย และมีบุคลิกที่เข้ากับคนได้ง่าย เมื่อรัฐมนตรีคนใหม่มาก็ จะทำงานไปได้กันด้วยดี ที่จำเป็นต้องแต่งตั้ งในขณะนี้เพื่อให้ปลัดคนใหม่ได้ เตรียมการการแต่งตั้งผู้ บริหารระดับ 10 ของกระทรวงเกษตรฯที่ปีนี้จะเกษี ยณหลายตำแหน่ง
แหล่งข่าวในกระทรวงเกษตรฯเปิ ดเผยว่า เดิมนายธีระ ได้วางตัวนายชลิต ดำรงศักดิ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ อดีตอธิบดีกรมชลประทาน เป็นปลั ดกระทรวงเกษตรฯ แต่ภายหลังนายชลิต แสดงความจำนงที่จะไม่เป็นปลั ดกระทรวง เนื่องจากต้องการไปเรียนรู้ งานด้านอื่นของกระทรวงเกษตรฯ โดยขอทำงานในกลุ่มงานที่ไม่เกี่ ยวกับการชลประทานทั้งหมดอย่ างไรก็ตามเดิมทีนายธีระ จะยังไม่เสนอชื่อปลัดคนใหม่เนื่ องจากได้เสนอต่อหัวหน้าพรรคชาติ ไทยพัฒนา ตั้งแต่เดือนมิ.ย.ว่าจะไม่ขอเป็ นรมว.เกษตรฯอีก หากปรับคณะรัฐมนตรีครั้ งใหม่ จึงรอการปรับครม. แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ มีการปรับครม.ประจวบกับใกล้สิ้ นปีงบประมาณจึงจำเป็นต้องเสนอชื่ อปลัดคนใหม่เพื่อให้ทั นการเสนอชื่อผู้บริหารระดับ 10 ที่ควรจะต้องเสนอครม.ให้เสร็จสิ้ นก่อนเดือน ส.ค.
นอกจากนี้ครม.เห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน กระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศ 2 ราย คือ 1.นายสมปอง สงวนบรรพ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ สาธารณรัฐฮังการี และ 2.นายธัชชยุติ ภักดี รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.อนุมัติรับโอนและแต่งตั้งข้าราชการ ประเภทบริหารระดับสูง 2 ราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) เสนอ คือ 1.นายประมุข ลมุล รองเลขาธิการศอ.บต.ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และ2.นายมณฑล สุดประเสริฐ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ศอ.บต. ทั้งนี้ทุกตำแหน่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ส่วนน.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมครม.เช่นกันว่า ที่ประชุมแต่งตั้งนายชวลิต ชูขจร รองปลัดฯ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรฯ แทนคนเก่าที่จะเกษียณในวันที่ 30 ก.ย.นี้
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เป็นการตั้งตามความเหมาะสม เพราะนายชวลิต ถือว่าเป็นคนที่มีความพร้อมทั้
แหล่งข่าวในกระทรวงเกษตรฯเปิ
This entry was posted in News
ครม.เห็นชอบปรับเงินแรกบรรจุขรก.กห.หมื่นห้า
Posted on 10:10 by netdesign | No comments
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม. ว่า
ครม.เห็นชอบการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการเลื่อนชั้นเงินเดือนเพื่อชด
เชยผู้ได้รับผลกระทบของกระทรวงกลาโหม
รายละเอียดสำคัญคือมีการปรับเงินเดือนบวกรายได้ 15,000 บาท ซึ่งกระทรวงกลาโหมปรับตามหลักเกณฑ์อื่นเพื่อให้บุคลากรได้รับเท่ากับหน่วย งานอื่น จึงเห็นควรให้ยกเลิกบัญชีคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนของบุคคลที่ได้รับการ บรรจุเข้ารับราชการทหาร ท้ายกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้า ราชการทหารและการได้รับเงินเดือนพ.ศ.2555
กำหนดการได้เงินเดือนของบุคคลที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้า ราชการทหาร ให้เป็นไปตามคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนตามบัญชีคุณวุฒิ และอัตราเงินเดือนของบุคคลที่ได้รับการบรรจุเข้าเป็นข้าราชการท้ายกฎกระทรวง ดังนี้ 1.อัตราเงินเดือน วันที่ 1 ม.ค.2556 ให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. -31 ธ.ค.2556 2. ตารางอัตราเงินเดือนปี วันที่ 1 ม.ค.2557 ให้ใช้วันที่ 1 ม.ค.2557.
รายละเอียดสำคัญคือมีการปรับเงินเดือนบวกรายได้ 15,000 บาท ซึ่งกระทรวงกลาโหมปรับตามหลักเกณฑ์อื่นเพื่อให้บุคลากรได้รับเท่ากับหน่วย งานอื่น จึงเห็นควรให้ยกเลิกบัญชีคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนของบุคคลที่ได้รับการ บรรจุเข้ารับราชการทหาร ท้ายกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้า ราชการทหารและการได้รับเงินเดือนพ.ศ.2555
กำหนดการได้เงินเดือนของบุคคลที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้า ราชการทหาร ให้เป็นไปตามคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนตามบัญชีคุณวุฒิ และอัตราเงินเดือนของบุคคลที่ได้รับการบรรจุเข้าเป็นข้าราชการท้ายกฎกระทรวง ดังนี้ 1.อัตราเงินเดือน วันที่ 1 ม.ค.2556 ให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. -31 ธ.ค.2556 2. ตารางอัตราเงินเดือนปี วันที่ 1 ม.ค.2557 ให้ใช้วันที่ 1 ม.ค.2557.
This entry was posted in News
"นายกฯปู”พร้อมฟาดฝีปาก"มาร์ค"ศึกซักฟอก
Posted on 10:09 by netdesign | No comments
ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (7 ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุม ครม.
กรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
โดยพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี ว่า เราก็มีหน้าที่ต้องชี้แจง
ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบด้วย
ตนพร้อมชี้แจงด้วยตัวเอง
เรื่องไหนที่เป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องหรืออะไรที่ต้องตอบก็ยินดีให้ความร่วม
มืออยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบหัวข้อที่ชัดเจนว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่อง อะไร ต้องรอดูจากญัตติที่ยื่นและดูรายละเอียดกันอีกครั้ง ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นนั้น ก็ต้องดูว่าเป็นประเด็นไหน เพราะทุกอย่างยังเป็นเพียงการพูดเท่านั้น ต้องรอดูรายละเอียดก่อน หากมีรายละเอียดเราก็ยินดีชี้แจง เพราะเราไม่สนับสนุนให้มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ในการทำงานรัฐบาลได้ติดตามตรวจสอบ และตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้ลงไปตรวจสอบเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
“ยืนยันว่าจะไม่ตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ทุกอย่างให้เป็นไปตามกลไกของระบอบรัฐสภา เรามีหน้าที่ที่จะตอบข้อซักถามของสมาชิกให้เข้าใจ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว และว่า ส่วนการแถลงผลงานรัฐบาลครบ 1 ปีนั้น ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน ขอให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก่อน แต่ตนตั้งใจที่จะแถลงผลการทำงานตามนโยบายรัฐบาลเมื่อครบ 1 ปีอยู่แล้ว
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านอาจไม่ยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลใน เร็วๆนี้ เพราะมีวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 วาระสอง ว่า การไม่ยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่ที่หลักฐานที่จะใช้ แสดงและอภิปรายในสภาฯ โดยหลักการ ถ้ายื่นอภิปรายฯในเรื่องการบริหาร ก็ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ เพราะถ้าฝ่ายค้านถามมา เราก็ตอบไป และถ้าเป็นเรื่องความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจเป็นเรื่องเข้าเนื้อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเคยหาเสียงในการเลือกตั้งไว้ว่าจะแก้ปัญหาภาคใต้ให้ได้ใน 99 วัน และมีส.ส.อยู่ในภาคนี้ทุกจังหวัด รวมถึงเคยเป็นรัฐบาลนาน 2 ปี 8 เดือน ก็ยังทำอะไรไม่ได้แล้วเขาจะเอาอะไรมาอภิปราย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องรับจำนำข้าวนั้น ตนได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้กำลังตำรวจ 677 คน จากกองบัญชาการ 11 แห่งตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีเอาจริงกับเรื่องนี้ อีกทั้งจากการที่ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ส่งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการจำนำข้าว ตนได้ส่งให้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนที่จ.พิษณุโลก ไปดำเนินการทันที ถ้าพบว่ามีพยานหลักฐานก็จับกุมได้เลย แต่ยืนยันว่ารัฐบาลเอาจริงในเรื่องนี้ ยังมีอีกหลายจังหวัดที่มีหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้วเช่นกัน ขณะที่ปัญหาการจ่ายเงินเยียวยากับผู้ประสบภัยน้ำท่วมและการทุจริต ถ้ามีข้อมูลก็ขอให้แจ้งมา ตนจะไปดำเนินคดี
“ผมมองว่าไม่มีอะไรเลย แต่บางคนในพรรคเพื่อไทยไปเต้น เต้นทำไม อยู่เฉยๆ เห็นญัตติก่อนแล้วค่อยมาวิเคราะห์ ผมอยู่การเมืองมานาน ถ้ามีทีเด็ด เขาไม่บอกก่อนหรอก ต้องเก็บเอาไว้”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่าหลังจากประเมินแล้ว คิดว่ามีประเด็นใดที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมา จะสามารถถูกนำชี้ให้เห็นว่าทุจริตและนำไปสู่การถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี เพราะถ้าเป็นเรื่องจำนำข้าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็รับไปดำเนินการ ทั้งนี้ถ้าเขาไม่ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีในเรื่องทุจริต ก็ไม่สามารถอภิปรายการทุจริตได้
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลจะนำข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปใช้การปรับครม.หรือ ไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ต้องอยู่ที่นายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ทันเห็นญัตติของฝ่ายค้าน ตนคิดว่าการเมืองไม่มีอะไร สบายๆ ตนพูดมาตลอดแล้วว่าถ้ารัฐบาลไม่มีเรื่องทุจริตก็อยู่ยาว และการที่พรรคประชาธิปัตย์ให้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ออกมาพูดบ่อยๆ ก็ยิ่งเติมแต้มให้รัฐบาล.
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบหัวข้อที่ชัดเจนว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่อง อะไร ต้องรอดูจากญัตติที่ยื่นและดูรายละเอียดกันอีกครั้ง ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นนั้น ก็ต้องดูว่าเป็นประเด็นไหน เพราะทุกอย่างยังเป็นเพียงการพูดเท่านั้น ต้องรอดูรายละเอียดก่อน หากมีรายละเอียดเราก็ยินดีชี้แจง เพราะเราไม่สนับสนุนให้มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ในการทำงานรัฐบาลได้ติดตามตรวจสอบ และตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้ลงไปตรวจสอบเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
“ยืนยันว่าจะไม่ตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ทุกอย่างให้เป็นไปตามกลไกของระบอบรัฐสภา เรามีหน้าที่ที่จะตอบข้อซักถามของสมาชิกให้เข้าใจ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว และว่า ส่วนการแถลงผลงานรัฐบาลครบ 1 ปีนั้น ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน ขอให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก่อน แต่ตนตั้งใจที่จะแถลงผลการทำงานตามนโยบายรัฐบาลเมื่อครบ 1 ปีอยู่แล้ว
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านอาจไม่ยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลใน เร็วๆนี้ เพราะมีวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 วาระสอง ว่า การไม่ยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่ที่หลักฐานที่จะใช้ แสดงและอภิปรายในสภาฯ โดยหลักการ ถ้ายื่นอภิปรายฯในเรื่องการบริหาร ก็ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ เพราะถ้าฝ่ายค้านถามมา เราก็ตอบไป และถ้าเป็นเรื่องความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจเป็นเรื่องเข้าเนื้อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเคยหาเสียงในการเลือกตั้งไว้ว่าจะแก้ปัญหาภาคใต้ให้ได้ใน 99 วัน และมีส.ส.อยู่ในภาคนี้ทุกจังหวัด รวมถึงเคยเป็นรัฐบาลนาน 2 ปี 8 เดือน ก็ยังทำอะไรไม่ได้แล้วเขาจะเอาอะไรมาอภิปราย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องรับจำนำข้าวนั้น ตนได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้กำลังตำรวจ 677 คน จากกองบัญชาการ 11 แห่งตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีเอาจริงกับเรื่องนี้ อีกทั้งจากการที่ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ส่งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการจำนำข้าว ตนได้ส่งให้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนที่จ.พิษณุโลก ไปดำเนินการทันที ถ้าพบว่ามีพยานหลักฐานก็จับกุมได้เลย แต่ยืนยันว่ารัฐบาลเอาจริงในเรื่องนี้ ยังมีอีกหลายจังหวัดที่มีหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้วเช่นกัน ขณะที่ปัญหาการจ่ายเงินเยียวยากับผู้ประสบภัยน้ำท่วมและการทุจริต ถ้ามีข้อมูลก็ขอให้แจ้งมา ตนจะไปดำเนินคดี
“ผมมองว่าไม่มีอะไรเลย แต่บางคนในพรรคเพื่อไทยไปเต้น เต้นทำไม อยู่เฉยๆ เห็นญัตติก่อนแล้วค่อยมาวิเคราะห์ ผมอยู่การเมืองมานาน ถ้ามีทีเด็ด เขาไม่บอกก่อนหรอก ต้องเก็บเอาไว้”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่าหลังจากประเมินแล้ว คิดว่ามีประเด็นใดที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมา จะสามารถถูกนำชี้ให้เห็นว่าทุจริตและนำไปสู่การถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี เพราะถ้าเป็นเรื่องจำนำข้าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็รับไปดำเนินการ ทั้งนี้ถ้าเขาไม่ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีในเรื่องทุจริต ก็ไม่สามารถอภิปรายการทุจริตได้
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลจะนำข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปใช้การปรับครม.หรือ ไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ต้องอยู่ที่นายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ทันเห็นญัตติของฝ่ายค้าน ตนคิดว่าการเมืองไม่มีอะไร สบายๆ ตนพูดมาตลอดแล้วว่าถ้ารัฐบาลไม่มีเรื่องทุจริตก็อยู่ยาว และการที่พรรคประชาธิปัตย์ให้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ออกมาพูดบ่อยๆ ก็ยิ่งเติมแต้มให้รัฐบาล.
This entry was posted in News
สิ้นวาเด็ง ปูเต๊ะ" พระสหายแห่งสายบุรี"ในวัย 96 ปี
Posted on 10:07 by netdesign | No comments
วันนี้ (7 ส.ค.) มีรายงานข่าวจากจ.ปัตตานีว่า นายวาเด็ง ปูเต๊ะ
พระสหายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้เสียชีวิตอย่างสงบแล้วด้วยโรคชรา เมื่อเวลา 15.00 น. ภายในบ้านพักที่
ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี ในวัย 96 ปี โดยนายธีระ
มินทราศักดิ์ ผวจ.ปัตตานีเดินทางไปบริเวณงานศพแล้ว
หลังจากนี้จะมีการประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามต่อไป ภายใน 24
ชั่วโมง คาดว่าจะมีการฝังศพที่กุโบร์ บริเวณละแวกบ้านของนายวาเด็ง ต่อไป
สำหรับ “วาเด็ง ปูเต๊ะ” หรือ “เป๊าะเด็ง” แม้ในวัย 96 ปี
แต่ความจงรักภักดีและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณไม่เคยเสื่อมคลาย
ย้อนเวลากลับไปเมื่อประมาณ 15-16 ปีที่แล้ว ขณะที่ “เป๊าะเด็ง”
กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการดูแลต้นทุเรียนและลองกองในสวน
ช่วงเวลาใกล้ค่ำได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา
หนึ่งในนั้นได้กวักมือเรียกให้เข้าไปหา แต่ตัวผู้เฒ่าเองกลับรู้สึกกล้า ๆ
กลัว ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ ผู้เฒ่าเห็นทหารกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาและกล่าวว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ
พระราชดำเนินมาทอดพระเนตรความเป็นไปได้ในการสร้างอาคาร
กั้นน้ำที่คลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี
"วันนั้น เป๊าะ กำลังทำสวนอยู่กับภรรยา (นางสาลาเมาะ ปูเต๊ะ) บริเวณประตูน้ำบ้านบาเลาะ ต.ปะเสยะวอเป็นป่าทึบ ก็มีคุณหญิงคนหนึ่งมาบอกว่า ในหลวง ต้องการพบตัวแต่ภรรยาไม่กล้าไปพบ จนกระทั่งเป๊าะเลี้ยงโคกลับมา ก็มีตำรวจมาตามเป็นครั้งที่สอง เป๊าะ ตกใจมากว่าตำรวจมาตามเรื่องอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด จนกระทั่งสื่อสารกันเข้าใจว่า ในหลวง ต้องการมาสร้างฝายกั้นน้ำคลองน้ำจืด บ้านทุ่งเค็จ ต.แป้นอ.สายบุรี เพื่อช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำแก่ชาวบ้านในการทำการเกษตร เป๊าะ ถึงกล้าไปพบ แต่ตอนนั้น เป๊าะ ยังไม่ค่อยเชื่อว่าพระองค์จะเข้ามาอยู่ในป่าในเขาแบบนี้ จึงคิดว่าคนที่มาบอกโกหก ขนาดมาพบพระองค์แล้ว เป๊าะ ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็น ในหลวง จริงหรือเปล่า จึงแอบหยิบเงินใบละ 100 บาท กับใบละ 20 บาทขึ้นมาดู จึงแน่ใจว่าเป็นพระองค์เสด็จฯ มาจริง ๆ" ลูกชายนายวาเด็ง ถ่ายทอดแปลป็นภาษาไทยไว้
ผู้เฒ่าพระสหายแห่งสายบุรี เคยให้สัมภาษณ์ถึงในหลวงมีใจความสำคัญ จนผู้ที่ได้ฟังรู้สึกตื้นตัวใจอย่างมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อ 19 ปีที่แล้ว ซึ่งมีทหารกลุ่มหนึ่งมาตามที่บ้านบอกให้เขาไปพบในหลวง ขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาทอดพระเนตรความเป็นไปได้ในการสร้างอาคาร กั้นน้ำที่คลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ อำเภอสายบุรี วาเด็ง ปูเต๊ะจึงได้เฝ้าในหลวงเป็นครั้งแรก เขาเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้น ดังนี้
“ตอน นั้นผมทราบแล้วว่า เป็นในหลวง แต่จะเข้าไปใกล้ๆ ก็ไม่กล้า
เพราะว่า นุ่งโสร่งตัวเดียว ไม่ได้สวมเสื้อ พอเข้าไปใกล้ๆ ในหลวงก็บอกว่า
จะมาขุดคลองชลประทานให้ พอได้ยินอย่างนั้น ผมก็ดีใจมาก คุยกันเยอะ
ท่านถามว่า ถ้าขุดคลองสายทุ่งเค็จนี้จะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน ผมบอกท่านว่า
คลองเส้นนี้มีที่ดินติดเขตตำบลแป้น ทางเหนือขึ้นไปสุดที อำเภอศรีสาคร
ในหลวงถามต่อว่า ถ้าไปออกทะเลจะมีกี่เกาะ ผมก็ตอบท่านไปว่า มี 4 เกาะ
ท่านก็ชมว่าเก่งสามารถจำทุกที่ที่ผ่านไปได้
แล้วท่านก็เปิดดูแผนที่ที่นำมาด้วย แล้วบอกว่า ผมรู้จริง ไม่โกหก
ทุกสิ่งที่ผมบอกมีอยู่ในแผนที่ของพระองค์แล้ว …ในหลวงคุยกับผมเป็นภาษามลายู
ท่านพูดมลายูสำเนียงไทรบุรี คุยกันก็เข้าใจเลย พอเจอกันบ่อยๆ คุยกัน
มีความเห็นตรงกัน ท่านก็เลยรับผมเป็นพระสหาย ผมบอกว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่บอกท่านไปทั้งหมดเป็นความจริง พูดโกหกไม่ได้จะเป็นบาป ”
นอกจากนี้ นายวาเด็ง ยังเคยกล่าวไว้ด้วยว่า
"ยังมีครั้งหนึ่ง ในหลวง คงจะทรงลองใจเป๊าะ
จึงตรัสถามขอที่ดินเพื่อทำโครงการพระราชดำริ ด้วยความปลาบปลื้ม เป๊าะ
จึงขอยกที่ดินถวายให้พระองค์ทันที ในหลวง จึงแย้มพระสรวล
และมีพระราชดำรัสว่าให้ เป๊าะ เป็น “พระสหาย” ตั้งแต่บัดนั้น ในหลวง
ตรัสเรื่องนี้ว่า
“วาเด็งเป็นคนซื่อตรง…จึงขอแต่งตั้งให้วาเด็งเป็นเพื่อนของในหลวง”
พร้อมทรงชวนให้ เป๊าะ และภรรยาเดินทางไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ
และเมื่อพระองค์เสด็จฯ
มาสามจังหวัดก็เรียกให้เข้าเฝ้าที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ทุกครั้งล่าสุด
ในหลวง ตรัสว่าให้วาเด็งหยุดทำงานได้แล้ว เพราะแก่แล้ว อายุมากแล้ว
ทรงเป็นห่วงสุขภาพของ เป๊าะ กลัวว่าทำงานหนักจะไม่สบาย” วาเด็ง ปูเต๊ะ
เล่าถึงเหตุการณ์วันที่ได้รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยไม่คาดฝัน จนกระทั่งได้กลายมาเป็น “พระสหาย” แห่งสายบุรี
ในเวลาต่อมาวาเด็ง ปูเต๊ะ บอกอีกว่า ตอนที่ไม่มีทีวีให้ดู เวลาอยากเห็นหน้า
ในหลวง ก็จะหยิบเงินมาดูก็พอหายคิดถึงได้บ้าง
พอมีทีวีแล้วก็จะรอดูแต่ข่าวในพระราชสำนักทุกวัน
แต่พอพระองค์ทรงพระประชวรก็ต้องมาตามดูข่าวในพระราชสำนักตอนกลางวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าญาติๆ ได้ทำพิธีฝังศพนายวาเด็ง ปูเต๊ะ ในกุโบร์ละแวกบ้านแล้ว นายมะไซนุง ดอรอแม ลูกเขย ผู้ดูแลพระสหายแห่งลุ่มน้ำสายบุรีในขณะมีชีวิตอยู่ เปิดเผยว่า ก่อนที่นายวาเด็ง ปูเต๊ะ จะเสียชีวิต ท่านได้ฝากให้ตนสานต่อเจตนารมณ์เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แนะนำเยาวชนรุ่นหลังให้ทำตามพระราชดำรัสของในหลวง ให้ดูแลผลไม้พื้นเมืองประจำถิ่น เช่น ทุเรียน ลองกอง จำปาดะ และนำขึ้นทูลเกล้าฯในหลวงทุกปีอย่างที่นายวาเด็ง ปูเต๊ะ ทำเมื่อยังมีชีวิตอยู๋
นายมะไซนุง เล่านาทีตอนที่ท่านเสียชีวิตว่า ช่วงนั้นท่านบ่นเจ็บหน้าอก จากนั้นขอน้ำจากตน หลังจากได้ดื่มน้ำ ท่านค่อยๆล้มตัวลงนอน และได้บ่นถึงพระเจ้า จากนั้นก็สิ้นใจด้วยความสงบทันที.
"วันนั้น เป๊าะ กำลังทำสวนอยู่กับภรรยา (นางสาลาเมาะ ปูเต๊ะ) บริเวณประตูน้ำบ้านบาเลาะ ต.ปะเสยะวอเป็นป่าทึบ ก็มีคุณหญิงคนหนึ่งมาบอกว่า ในหลวง ต้องการพบตัวแต่ภรรยาไม่กล้าไปพบ จนกระทั่งเป๊าะเลี้ยงโคกลับมา ก็มีตำรวจมาตามเป็นครั้งที่สอง เป๊าะ ตกใจมากว่าตำรวจมาตามเรื่องอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด จนกระทั่งสื่อสารกันเข้าใจว่า ในหลวง ต้องการมาสร้างฝายกั้นน้ำคลองน้ำจืด บ้านทุ่งเค็จ ต.แป้นอ.สายบุรี เพื่อช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำแก่ชาวบ้านในการทำการเกษตร เป๊าะ ถึงกล้าไปพบ แต่ตอนนั้น เป๊าะ ยังไม่ค่อยเชื่อว่าพระองค์จะเข้ามาอยู่ในป่าในเขาแบบนี้ จึงคิดว่าคนที่มาบอกโกหก ขนาดมาพบพระองค์แล้ว เป๊าะ ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็น ในหลวง จริงหรือเปล่า จึงแอบหยิบเงินใบละ 100 บาท กับใบละ 20 บาทขึ้นมาดู จึงแน่ใจว่าเป็นพระองค์เสด็จฯ มาจริง ๆ" ลูกชายนายวาเด็ง ถ่ายทอดแปลป็นภาษาไทยไว้
ผู้เฒ่าพระสหายแห่งสายบุรี เคยให้สัมภาษณ์ถึงในหลวงมีใจความสำคัญ จนผู้ที่ได้ฟังรู้สึกตื้นตัวใจอย่างมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อ 19 ปีที่แล้ว ซึ่งมีทหารกลุ่มหนึ่งมาตามที่บ้านบอกให้เขาไปพบในหลวง ขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาทอดพระเนตรความเป็นไปได้ในการสร้างอาคาร กั้นน้ำที่คลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ อำเภอสายบุรี วาเด็ง ปูเต๊ะจึงได้เฝ้าในหลวงเป็นครั้งแรก เขาเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้น ดังนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าญาติๆ ได้ทำพิธีฝังศพนายวาเด็ง ปูเต๊ะ ในกุโบร์ละแวกบ้านแล้ว นายมะไซนุง ดอรอแม ลูกเขย ผู้ดูแลพระสหายแห่งลุ่มน้ำสายบุรีในขณะมีชีวิตอยู่ เปิดเผยว่า ก่อนที่นายวาเด็ง ปูเต๊ะ จะเสียชีวิต ท่านได้ฝากให้ตนสานต่อเจตนารมณ์เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แนะนำเยาวชนรุ่นหลังให้ทำตามพระราชดำรัสของในหลวง ให้ดูแลผลไม้พื้นเมืองประจำถิ่น เช่น ทุเรียน ลองกอง จำปาดะ และนำขึ้นทูลเกล้าฯในหลวงทุกปีอย่างที่นายวาเด็ง ปูเต๊ะ ทำเมื่อยังมีชีวิตอยู๋
นายมะไซนุง เล่านาทีตอนที่ท่านเสียชีวิตว่า ช่วงนั้นท่านบ่นเจ็บหน้าอก จากนั้นขอน้ำจากตน หลังจากได้ดื่มน้ำ ท่านค่อยๆล้มตัวลงนอน และได้บ่นถึงพระเจ้า จากนั้นก็สิ้นใจด้วยความสงบทันที.
This entry was posted in News
แซมบ้าฮอตยำโสมขาวลิ่วชิงดำจังโก้
Posted on 10:06 by netdesign | No comments
การแข่งขันฟุตบอลชายโอลิมปิคเกมส์ 2012 รอบรองชนะเลิศ ที่สนาม โอลด์
แทรฟฟอร์ด ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ 7 ส.ค.
ที่ผ่านมา “เต็ง 1” บราซิล พบกับ เกาหลีใต้ ที่พลิกล็อกโค่น “เจ้าภาพ”
สหราชอาณาจักร ด้วยการดวลจุดโทษในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเกมนี้ พลพรรค
“โสมขาว” เริ่มต้นได้ดี เปิดเกมสู้ได้สนุกในช่วงต้น แต่กลับเป็นขุนพล
“แซมบ้า” ที่ออกนำไปก่อน 1-0 จากการแปเน้น ๆ ของ โรมูโล ในนาทีที่ 38
ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลัง เป็น บราซิล ที่ทำได้ดีกว่า และขึ้นนำเป็น 2-0 จากการยิงของ เลอันโดร ดามิเยา ในนาทีที่ 57 ก่อนที่ ดามิเยา จะบวกประตูที่ 2 ของตัวเอง ช่วยให้ทีมนำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 63 ซึ่งถือเป็นประตูที่ 6 ของดาวยิงจากสโมสรอินเตอร์นาซิอองนาล ในศึกลูกหนัง “ลอนดอนเกมส์” ขึ้นนำเดี่ยวเป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่จบเกม บราซิล จะเอาชนะไป 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เม็กซิโก ที่สนามเวมบลีย์ ในวันเสาร์ที่ 11 ส.ค. นี้ ขณะที่ เกาหลีใต้ จะไปเจอกับ ญี่ปุ่น ในเกมชิงเหรียญทองแดง ที่ มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม ในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ในวันศุกร์ที่ 10 ส.ค. นี้ต่อไป
เข้าสู่ครึ่งหลัง เป็น บราซิล ที่ทำได้ดีกว่า และขึ้นนำเป็น 2-0 จากการยิงของ เลอันโดร ดามิเยา ในนาทีที่ 57 ก่อนที่ ดามิเยา จะบวกประตูที่ 2 ของตัวเอง ช่วยให้ทีมนำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 63 ซึ่งถือเป็นประตูที่ 6 ของดาวยิงจากสโมสรอินเตอร์นาซิอองนาล ในศึกลูกหนัง “ลอนดอนเกมส์” ขึ้นนำเดี่ยวเป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่จบเกม บราซิล จะเอาชนะไป 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เม็กซิโก ที่สนามเวมบลีย์ ในวันเสาร์ที่ 11 ส.ค. นี้ ขณะที่ เกาหลีใต้ จะไปเจอกับ ญี่ปุ่น ในเกมชิงเหรียญทองแดง ที่ มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม ในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ในวันศุกร์ที่ 10 ส.ค. นี้ต่อไป
This entry was posted in News
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่
Categories
- คัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษ (62)
- เครื่องมือการแพทย์ (1)
- พุทธวจน (87)
- ยาประตำตัว (11)
- เรื่องเล่าเช้านี้ (4)
- download (227)
- english version (40)
- Food (1)
- Game (6)
- Ghost windows 10 (16)
- Ghost windows 7 (57)
- Ghost windows 8 (2)
- Ghost windows XP (24)
- joke (1)
- Movie (1438)
- Music (2)
- News (3714)
- starshow (5)
- training (350)
- windows os (2)
- www.becomz.com (19)
Blog Archive
-
▼
2012
(5018)
-
▼
สิงหาคม
(470)
-
▼
ส.ค. 08
(24)
- ประโยชน์ของการเจริญสติ พอจ คึกฤทธิ์ โสตถิผโล 01 12
- ปฎิบัติธรรมวัดนาปาพง 10 มค 54.mp4
- พุทธวจนบรรยาย ณ สวทช._2012-01-30
- พุทธวจน-บ.KPMG_26 มี.ค. 2555
- พุทธวจนบรรยาย-ลมหายใจไปวิมุตติ
- ระบบการเกิดของสัตว์และจักรวาล
- สัมภเวสี คือ สัตว์ผู้แสวงหาที่เกิด
- วัดนาป่าพง พระอาจารย์คึกฤทธิ์
- ชีวิตไม่สิ้นหวัง พุทธวจน
- พุทธวจนสนทา-แก้กรรม (สิ้นกรรม)
- อธิบายเรื่อง ขันธ์5
- เด็กไทยคว้า2ทอง1เงิน1ทองแดงชีวโอลิมปิก วันเสา...
- องค์กร– ภาควิชาชีพยังเมินเสนอชื่อสรรหาส.ว.
- ทับลานแจงศาลคุ้มครอง“ทะเลหมอก”ทั่วประเทศป่วน
- “สุรพงษ์”ถกทูตไทยประจำมุสลิมหาข้อมูลเวิร์กช็อปแก้ไ...
- ผบ.ทบ.ซัดโจรใต้"หมาลอบกัด"เจ็บปวดทหารถูกฆ่า
- ละคร"ศึกเก้าทัพ ธำรงรัฐ พิพัฒน์สยาม"เทิดพระเกียรติ...
- ส.ส.ปชป.โวยดีเอสไอสอบผู้บริจาคพรรคหวั่นยอดวูบ
- นายกฯถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระสังฆราชเนื่องในเทศ...
- ตั้ง"ชวลิต" ปลัดเกษตรฯ-โยกย้ายทูตเขมร
- ครม.เห็นชอบปรับเงินแรกบรรจุขรก.กห.หมื่นห้า
- "นายกฯปู”พร้อมฟาดฝีปาก"มาร์ค"ศึกซักฟอก
- สิ้นวาเด็ง ปูเต๊ะ" พระสหายแห่งสายบุรี"ในวัย 96 ปี
- แซมบ้าฮอตยำโสมขาวลิ่วชิงดำจังโก้
-
▼
ส.ค. 08
(24)
-
▼
สิงหาคม
(470)