วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

ผบ.สส.ไม่ขวางแก้พรก.ฉุกเฉิน ห้ามทหารสลายม็อบ


Pic_245166

"พล.อ.ธนะศักดิ์" ผบ.สส. ไม่ขวางแก้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามทหารสลายม็อบ ยันทุกอย่างทำตามกติกา “ผบ.ทร.” รับไม่ขอขยายเวลาซื้อ “เรือดำน้ำ” เยอรมนี ยันทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ...

วันที่ 13 มี.ค. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุม ผบ.เหล่าทัพ ไม่ได้พูดกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ให้เขาทำกันไป เราก็ถือเป็นประชาชนคนหนึ่ง ส่วนที่มีการเสนอของคณะกรรมาธิการสภาฯ ให้แก้ไข พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ให้ทหารเข้าสลายการชุมนุมนั้น ตนคิดว่า ทหารเรามีวินัย เขาเขียนให้ทำอะไรก็ทำ ที่สำคัญอยู่ที่คนใช้ หากใช้ตามกติกา เราก็ทำตามกติกา แต่ถ้าใช้ผิดกติกา ขัดหลักทำนองคลองธรรม เราก็ให้เขาทบทวนชี้แจง ซึ่งการสั่งการเป็นไปตามสายการบังคับบัญชา ความเป็นจริงแล้วทหารไม่ต้องออกมาทำอะไรเลย เพียงแต่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย พัฒนาประเทศ ช่วยเหลือประชาชน ยกเว้นที่ออกมาเป็นมาตรฐานสากลเมื่อเกิดเหตุกลียุค แต่ก็มีกติกาเขียนอยู่แล้วว่าต้องผ่าน ครม.และผ่านสภาฯ จึงจะออกมาได้ซึ่งเราปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่าการประชุม ผบ.เหล่าทัพ เป็นการติดตามผลงานและเน้นย้ำให้เขาทำงานให้มีประสิทธิภาพ และยึดถือนโยบาย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นแนวทางในการปฏิบัติ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานกับรัฐบาลอย่างเต็มความสามารถ ในเรื่องการขุดลอกคูคลองที่ป้องกันน้ำท่วมให้ทำอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะนำเรียนไปยังรัฐบาล และนำขึ้นเว็บไซต์เพื่อเสนอให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป

พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. กล่าวถึงกระแสข่าวที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ยุติโครงการจัดซื้อเรือดำ ยู-206 เอ จากเยอรมนีจำนวน 6 ลำ วงเงิน 7,500 ล้านบาท ว่า กองทัพเรือได้ทำหน้าที่ของเราแล้ว แต่เมื่อเลยวันที่ 29 ก.พ. ตามที่เยอรมนีกำหนดต้องการคำตอบว่า จะซื้อหรือไม่ซื้อ ทางเราคงไม่ขอขยายระยะเวลาการขอซื้ออีกแล้ว เนื่องจากเราขอเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว อีกทั้งจะขอขยายระยะเวลาเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดที่ต้องคุยกันและมีค่าใช้จ่ายที่สูง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการแจ้งว่าให้กองทัพเรือกลับไปตั้งโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำรุ่นอื่นหรือไม่ขณะที่

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ตนสนับสนุนโครงการเรือดำน้ำเยอรมนีตามที่กองทัพเรือเสนอ เพราะถ้าทหารเข้มแข็ง ประเทศชาติก็เข้มแข็ง ถ้าทหารอ่อนแอประเทศชาติก็อ่อนแอ หน้าที่ตนคือ การสร้างความเข้มแข็งความเป็นปึกแผ่นให้แก่กองทัพ เราต้องพยายามหาเทคโนโลยี หาสิ่งต่างๆ ทำให้เรามีความมั่นคงเข้มแข็งแข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพ เมื่อเราเลือกสิ่งที่ดีเสนอไปแล้ว ส่วนจะได้หรือไม่ได้มีขั้นตอนไตร่ตรองว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะมีหรือไม่มี เราก็พร้อมเพราะเราถูกฝึกมาให้รบ ภายใต้ความขาดแคลนให้จงได้ เมื่อถามว่า มีข่าวลือรัฐบาลส่งเรื่องไปถามความเห็น เรื่องพระราชดำรัสที่เกี่ยวเนื่องกับเรือดำน้ำ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ข่าวลือก็เป็นข่าวลือ.

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

โจรโฉดชิงเงิน คนตาบอด ทิ้งริมทางรถไฟ



ตามรวบโจรใจบาป เห็นคนตาบอดมีเงิน แกล้งเข้าตีสนิทพาขึ้นรถไฟ ก่อนลงสถานีรังสิต พาเข้าข้างทางป่าหญ้า พูดจาข่มขู่ ชิงเงินกว่า 5 พัน ขณะเดินทางสอบ กศน. โชคดีตำรวจมาพบจึงเข้าช่วยเหลือ สารภาพไม่คิดว่าจะถูกจับได้...

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่ห้องประชุม ชั้น 3 สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายธรรมรงค์ หรือต้น ล้อมกัน อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 12/1 ม.5 ต.บ้านใหม่ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ในบริเวณสถานีรถไฟ โดยสามารถจับกุมได้ที่สถานีรถไฟจังหวัดสระบุรี ขณะนั่งดื่มสุราอยู่ จากนั้นได้นำตัวมาสอบสวนต่อ

โดยเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ ด.ต.วิเชียร ทิพย์สังข์ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับขี่รถจักรยานยนต์ตรวจตราในพื้นที่ไปถึงบริเวณชายป่าข้างสถานีรถไฟรังสิต ใกล้เคียงกับหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ก็ได้ยินเสียงผู้ชายร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาจากในป่าหญ้า จึงได้หยุดรถและเข้าไปตรวจสอบ พบชายตาบอดกำลังยืนรอความช่วยเหลืออยู่ในป่าหญ้า จึงเข้าช่วยเหลือ ทราบชื่อต่อมาคือ นายประสิทธิ์ คงสกุล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.6 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ถูกคนร้ายพูดจาข่มขู่ว่าเขามีอาวุธมีด ถ้าส่งเสียงดังหรือขัดขืน เขาจะฆ่าให้ตาย ด้วยความกลัวตนเองจึงยืนนิ่งเงียบให้เขาค้นตัว แล้วหยิบเอาเงินจำนวน 5,000 กว่าบาทในกระเป๋าของตนเองไป ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความ

จากการสอบสวน นายธรรมรงค์ ให้การว่า ตนไม่มีงานทำ เร่ร่อนไปตามสถานีรถไฟ จนเมื่อวันที่ 10 มี.ค.55 ได้พบ นายประสิทธิ์ คงสกุล เดินมาขึ้นรถไฟที่สถานีสระบุรี โดยควักเงินออกมาเพื่อจะซื้อตั๋ว แต่รถไฟที่จะขึ้นเป็นรถไฟฟรี ตนจึงได้สะกดรอยตามขึ้นมาบนรถไฟ แล้วเข้าตีสนิทชวนคุยจนมาถึงสถานีรถไฟรังสิต แล้วจึงชวนกันลงโดยอ้างว่าบ้านอยู่แถวปากเกร็ด จะช่วยไปส่งให้ เมื่อเหยื่อหลงกลลงตามมา จึงพาเดินเข้าไปในป่าข้างทาง แล้วข่มขู่ค้นตัวจนเจอเงินสดที่ติดตัวมา 5,000 กว่าบาท แล้วหลบหนีกลับมายัง จ.สระบุรี นำเงินที่ได้ไปซื้อสุราดื่ม โดยไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามมาจับกุม

ด้าน พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยัง นายสถานีรถไฟรังสิต เพื่อขอดูภาพกล้องวงจรปิดในวันที่เกิดเหตุ จนพบภาพคนร้ายขณะพาผู้เสียหายเดินออกมาจากสถานี แล้วได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี และได้เดินทางเข้าจับกุมผู้ต้องหาร่วมกัน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนมอบตัวให้พนักงานสอบสวนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

ชวนชมปรากฏการณ์ 'ดาวพฤหัสบดีเคียงดาวศุกร์' 13 มี.ค.


นายกฯเปิดตัวแสตมป์ 'หนึ่งเดียวในโลก' 99 ล้านถวายไท้องค์ราชัน


Pic_245167

นายกฯ ร่วมเปิดตัวแสตมป์ "หนึ่งเดียวในโลก" 99 ล้านถวายไท้องค์ราชัน เผยมีผู้สั่งจองแล้ว 24 ราย ล้วนเป็นบุคคลนามสกุลดัง "เสี่ยเจริญ" ไทยเบฟฯ จองคนเดียว 9 ชุด 9 ล้านบาท

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “99 ล้าน ถวายไท้องค์ราชัน” ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท.) โดยการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อเชิญชวนผู้สนใจร่วมสมทบทุนรายละ 1 ล้านบาท รวม 99 ล้านบาท เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค.2554 ทั้งนี้ ปณท.ได้จัดสร้างสิ่งสะสมชุดพิเศษที่มีเพียง “หนึ่งเดียวในโลก” ในรูปคอลเลกชั่นตราไปรษณียากรล้ำค่ารวม 3 รูปแบบในชุดเดียวกัน มอบเป็นของสมนาคุณให้แก่ผู้สมทบทุนเข้าร่วมโครงการทั้ง 99 ชุด โดยเบื้องต้นมีผู้เข้าสมทบทุนแล้ว 35 ชุด รวม 35 ล้านบาท จากผู้สั่งจอง 24 ราย โดยมี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที และ น.ส.อานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมในพิธี อย่างไรก็ตาม นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เศรษฐีอันดับ 2 ของประเทศไทย จากการจัดอันดับเศรษฐีโลกของนิตยสารฟอร์บส์ปีล่าสุด ได้สมทบทุนมากที่สุด 9 ล้านบาท จากการสั่งจอง 9 ชุด

นอกจากนี้ ยังมีมหาเศรษฐี นักธุรกิจ และนักการเมืองสั่งจอง ประกอบด้วย นายประวิทย์ มาลีนนท์ บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด เจ้าของทีวีช่อง 3 นายวิชัย เบญจรงคกุล บริษัทเบญจจินดา โฮลดิ้ง จำกัด นายประกอบ จิรกิติ นายสุรจิตร ก้องวัฒนา จากสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ส.ต.ท.) นายประยุทธ์ มหากิจศิริ เจ้าพ่อเนสกาแฟ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายทาเคชิ อุเมมัตซึ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่บาย จำกัด นายกุลบีรปาลซิงห์ สัจจเทพ ห้างค้าปืนเอราวัณ นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ อดีต รมช.มหาดไทย ม.ล.อัจฉราพร ณ สงขลา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อิมเมจพูล จำกัด น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ นายชุณห์ คชพัชรินทร์ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเฮาส์ จำกัด นางภัทรียา เลิศเรืองศุภกุล พญ.เจรียง จันทรกมล กก.ผอ.รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์ นายจิรชัย สีจร อดีตผู้บริหารบริษัท กสท น.ส.สุนันท์ สิงห์สมบุญ นายสมสุข ศรีสถิตวัฒนา นายศรีสุข รุ่งวิสัย สมาชิกวุฒิสภา นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง อดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทย นายศิระ รัตนวราห นายอนุชิต หวั่งหลี กรรมการ บริษัท ซี.อี.เอส จำกัด นายบพิธ ธุรชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญรัตน์พัฒนา จำกัด นางศิวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัท เค.เอส.สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด และนายสมพร สืบถวิลกุล ประธานคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัย

ทั้งนี้ สิ่งสะสมในคอลเลกชั่นดังกล่าวประกอบด้วย ตราไปรษณียากร 2 ชุด คือ ชุดที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ “สัตตมหามงคล ภูมิพลมหาราช” (พ.ศ.2554) ชุดที่ 1-3 รวม 15 ดวง และชุดแรกในรัชกาล “ชุดสยาม" (พ.ศ.2490-2492) จำนวน 10 ดวง 10 ชนิดราคา โดยจัดทำขึ้นใหม่ในลักษณะแผ่นตราไปรษณียากรที่ระลึก พร้อมแผ่นปรู๊ฟที่มีการลงนามโดย 3 บุคคลสำคัญ คือนายกฯ รมว.ไอซีที และกรรมการผู้จัดการใหญ่ปณท. นอกจากนี้ยังมีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ต้นแบบตราไปรษณียากรที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 3 ชุดในรูปแบบแผ่นทองคำแท้ 22 กะรัต บรรจุรวมในกล่องไม้เนื้อดีผลิตด้วยวัสดุจากต่างประเทศ โดยทั้ง 99 ชุดจะมีเลขตั้งแต่ 01-99 ไม่ซ้ำกันเลย และสีหลังแผ่นตราไปรษณียากรที่ระลึกและแผ่นปรู๊ฟยังเป็นสีที่แตกต่างกันถึง 99 เฉดสี จึงนับได้ว่ามีความโดดเด่นที่สุดในโลก

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

งคิวแก๊สหุงต้มจ่อขึ้น ผู้ค้าอ้างต้นทุนขนส่งพุ่ง


ส่งฟ้องศาล



ตำรวจ สน.ลุมพินี ควบคุมตัวนายกวีไกร โชคพัฒนเกษมสุข (เสื้อสีเทา) ผู้ต้องหาทุบรถวอยซ์ทีวีส่งฟ้องศาลแขวงปทุมวัน ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 1 ปี แต่ถูกอายัดตัวส่งศาลแขวงดุสิตฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายสาวเสื้อแดง อีกคดีเจอโทษถูกกักขัง 15 วัน.

แหล่งที่มาข้อมูล www.thairath.co.th

มิลานต้อนเลชเชนำฝูงต่อ



     ศึก กัลโช เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เอซี มิลาน ฟอร์มยังแกร่ง หลังเปิดสนาม ซาน ซิโร สอนเชิง เลชเช 2-0 โดย อันโตนิโอ โนเชริโน กดให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 7 ก่อนที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จะมาบวกเพิ่มอีกเม็ดในนาทีที่ 65 ทำให้ “ปิศาจแดงดำ” มี 57 คะแนนจาก 27 นัดยังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไป ส่วน เลชเช มี 25 คะแนนจากการลงสนามเท่ากันอยู่ที่ 18
ม้าลายฝืดบุกเจ๊าเจนัวโนสกอร์
     ยูเวนตุส ผลงานยังไม่กระเตื้อง เมื่อทำได้แค่บุกไปเสมอกับ เจนัว แบบจืดสนิท 0-0 พร้อมทำสถิติเสมอในลีกเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันเข้าให้แล้ว จากการทำได้แค่เสมอนัดนี้ทำให้ “เจ้าม้าลาย” มี 53 คะแนนจาก 27 นัดรั้งอันดับ 2 ส่วน เจนัว มี 33 คะแนนจากการลงเล่นเท่ากัน

คาตาเนียเจ๋งเปิดรังเชือดม่วงหวิว
    คาตาเนีย ทำผลงานสุดยอด หลังเปิดบ้านเชือด ฟิออเรนตินา ทีมแกร่งร่วมลีก ลงได้หวุดหวิด 1-0 โดยเจ้าถิ่นได้ประตูชัยจากการสังหารจุดโทษของ ฟรานเชสโก โลดี ในนาทีที่ 58 จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ คาตาเนีย เก็บไปแล้ว 38 คะแนนจาก 27 นัดรั้งที่ 8 ส่วน “ม่วงมหากาฬ” มี 32 คะแนนจากการลงเล่นเท่ากัน
     ผลคู่อื่น อตาลันตา เสมอ ปาร์มา 1-1 และเชเซนา แพ้ เซียนา 0-2

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ฉลามชลดวลโทษซิวแชมป์ถ้วยก.


    การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก "พรีเซนเต็ด บาย โคคา-โคลา ประจำปี 2555" ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 11 มี.ค. เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่างสองสุดยอดทีมของไทย "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กวาดเรียบมาแล้ว 4 แชมป์ กับ "ฉลามชล" ชลบุรี รองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกและแชมป์เก่ารายการนี้ โดย 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม มีดังนี้ บุรีรีมย์ ยูไนเต็ด ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ธีราทร บุญมาทัน, ประทุม ชูทอง, โอบาม่า, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, กองกลาง จักรพันธ์ แก้วพรม, สุมัญญา ปุริสาย, จิรวัฒน์ มัครมย์, สุรัตน์ สุขะ, อัสการ์ จาดิเกรอฟ, กองหน้า แฟร้งค์ อาเชมปอง ส่วน ชลบุรี ผู้รักษาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, กองหลัง นพนนท์ คชพลายุกต์, สุทธินันท์ พุกหอม, ชลทิตย์ จันทคาม, โฟเด้ ไดกิเต้, สุรีย์ สุขะ, กองกลาง อดุล หละโสะ, เจฟฟรีย์ ดูมองต์, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, กองหน้า พิภพ อ่อนโม้ และ ลูโดวิค ทาคาม
  เปิดฉากครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ครองบอลได้เหนือกว่า แค่ 4 นาที ก็ได้ลุ้นประตูจากลูกที่ สุมัญญา ได้ชิพเน้นๆ บอลเกือบจะย้อยเสียคานแต่สินทวีชัยยังปัดออกไปหวุดหวิด เกมนี้ ชลบุรี ที่เป็นรองอย่างมากพยายามเน้นการโต้กลับเป็นหลักแต่ก็เกือบจะเสียประตูอีกครั้งจากจังหวะที่อาเชมปองได้เข้าชาร์จลูกเปิดจากริมเส้นบริเวณหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลไม่โดนเท้า มิหนำซ้ำช่วงกลางครึ่งแรก พิภพ ยังต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามหลังจากได้รับบาดเจ็บ เข้าสู่นาทีที่ 31 เกมรุกของทีมปราสาทสายฟ้า ก็มาประสบความสำเร็จจนได้เมื่ออัสการ์จ่ายบอลให้ธีราทรได้ซัดเต็มข้อบอลไปแฉลบเท้าของโฟเด้เปลี่ยนทางเข้าประตูไป บุรีรัมย์ฯ จึงขึ้นนำ 1-0 จากนั้นแค่ 2 นาที กองเชียร์ปราสาทสายฟ้า ก็ได้เฮลั่นอีกครั้งเมื่ออาเชมปองซัดประตูหนีห่างเป็น 2-0 เกมทำท่าว่าจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 2-0 แต่เป็น อดุล หละโสะ ที่มายิงประตูตีไข่แตกจุดประกายความหวังให้ชลบุรีไล่มาเป็น 1-2
  เข้าสู่ครึ่งหลัง พลพรรค “เดอะ ชาร์ค” กลับมาลงสนามกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะช่วงต้นเกมนั้นเป็นฝ่ายเดินเกมพับสนามบดขยี้คู่แข่งอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังเจาะตาข่ายของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เสริมเกมรับมากกว่าเดิมทำประตูตีเสมอไม่ได้ ช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมผลัดกันเปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างสนุก จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 5 เป็น ชลบุรี ที่ได้ประตูตีเสมอ 2-2 อย่างเหลือเชื่อจากการยิงของ ลูโดวิค ทาคาม จบเกม 90 นาที จึงเสมอกันไปอย่างสุดมัน 2-2 ทำให้ต้องดวลลูกจุดโทษเพื่อหาทีมชนะเลิศ ผลปรากฏว่า นักเตะฉลามชล ยิงได้แม่นยำกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปสุดระทึก 4-3 คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก สมัยที่ 4 ติดต่อกันไปครอง ส่วน บุรีรัมย์ฯ อกหักพลาดแชมป์ไปอีกครั้ง.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

เมสซีเบิ้ลพาบาร์ซาบุกสอยราซิง



     ศึก ลา ลีกา สเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บาร์เซโลนา แชมป์เก่า ทำผลงานสุดยอด หลังบุกไปอัด ราซิง ซานตานเดร์ 2-0 โดย ลิโอเนล เมสซี ดาวยิงเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 3 สมัย โชว์ฟอร์มเป็นพระเอกเหมาซัดคนเดียว 2 ประตูในนาทีที่ 29 และ56 (จุดโทษ) ทำให้ “เจ้าบุญทุ่ม” เก็บไปแล้ว 60 คะแนนจาก 26 นัดรั้งอันดับ 2 พร้อมบีบช่องว่างจาก รีล มาดริด ทีมจ่าฝูง ลงมาเหลือ 10 คะแนน ส่วน ราซิง มี 24 คะแนนจากการลงเล่นเท่ากันอยู่ที่ 18

ค้างคาวเซ็งนำ2เม็ดโดนไล่เจ๊าเฉย
     บาเลนเซีย ทำเอาแฟนบอลฝันค้างไปตามกัน หลังโดน รีล มายอร์กา บุกมาไล่เจ๊าดุเดือด 2-2 ทั้งที่ขึ้นนำถึง 2 ประตู โดย เจ้าถิ่นสตาร์ตหรูเมื่อออกนำก่อน 2-0 จาก ติโน คอสตา นาทีที่ 23 และอาริตซ์ อาดูริซ นาทีที่ 42 แต่ทีมเยือนไม่ยอมแพ้ รัวคืนทีเดียว 2 เม็ดรวดจาก เอมิลิโอ เอ็นซู นาทีที่ 57 และบิคตอร์ นาทีที่ 66 ช่วงท้ายเกม บาเลนเซีย เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนจากการโดนใบแดงของ ติโน คอสตา นาทีที่ 85 จากการเสมอนัดนี้ทำให้ “เจ้าค้างคาว”  มี 44 คะแนนจาก 26 นัดยังอยู่ที่ 3 ส่วน “ชาวเกาะ” มี 30 คะแนนจากการลงเล่นเท่ากัน

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

บัวขาวโผล่ ขอแยกทางค่ายป.ประมุข


วันนี้ ( 12 มี.ค.) บัวขาว ป.ประมุข หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ สุดยอดนักชกแชมป์เค-วัน 2 สมัย และดีกรีนักชกมวยไทยค่าตัวแพงที่สุดของเมืองไทย ยอมออกมาเปิดใจกรณีเก็บข้าวของหนีออกจากค่าย ป.ประมุข ที่อยู่อาศัยมานานกว่า 20 ปีเป็นครั้งแรก พร้อมเทรนเนอร์คู่ใจ สายชล ธรรมรงค์ ที่มีเดีย สตูดิโอ ลาดพร้าว 101 เพื่อออกอากาศ 3 รายการ คือ ประเด็นเด็ด 7 สี ทางช่อง 7 ช่วงค่ำวันที่ 12 มี.ค., รายการรอบรั้วทั่วไทย รายการสด ช่องมีเดีย นิว แชนแนล (เคเบิลทีวี) เวลา 16.30 น. และรายการเช้านี้ที่หมอชิต ทางช่อง 7 ช่วงเช้าวันที่ 13 มี.ค.
สำหรับกรณีที่ตัดสินใจเดินออกจากค่าย  บัวขาว เผยว่า เนื่องจากมีปัญหาด้านสภาพจิตใจอย่างหนัก ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2009 แล้ว ประกอบกับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัด หนักใจ โดยเฉพาะกับคำพูดกล่าวหาว่าตนขี้เกียจ ไม่ขยันฝึกซ้อม ไม่มีระเบียบวินัย
“เปลี่ยนหัวหน้าค่ายมา 2-3 ปี แต่ก็ยังมีปัญหา แถมมากกว่าเดิมด้วย เลยตัดสินใจออกมา ไม่ได้บอกใคร ไม่ได้ปรึกษาใคร 10 วันก็ไปอยู่กับเทรนเนอร์ ไปอยู่ในที่ ๆ ผมสบายใจ ไม่ต้องเจอใคร อยู่ในห้องพักอย่างเดียว ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องผู้หญิง ผมเจอคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ ทำนองว่า กูปวดหัว กูเหนื่อยกับมึงมาเยอะแล้ว ซึ่งที่จริงผมก็ซ้อมทุกวัน และมีวินัยในการซ้อมอยู่แล้ว การออกมาไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ แต่คิดทบทวนดีแล้ว” บัวขาว กล่าว
ส่วนที่มีข่าวว่า บัวขาว เตรียมเปิดค่ายมวยใหม่เป็นของตัวเองนั้น เจ้าตัวกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงข้อเสนอเข้ามา แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร เพราะส่วนตัวก็ยังเป็นนักมวยในค่าย ป.ประมุข และยืนยันว่ายังไม่มีแนวคิดที่จะแขวนนวม เพียงแต่ต้องการพักฟื้นสภาพจิตใจสักระยะ
“อีก 2-3 วัน จะติดต่อไปทางค่ายเอง แต่คงไม่กลับไปค่ายอีกแล้ว จากนี้ยังอยากที่จะชกมวยต่อ แต่ถ้าติดสัญญากับค่าย แล้วชกไม่ได้ ก็อาจจะเลิก มีหลายทางเลือก เรื่องสัญญากับทางไทยไฟต์ ที่เหลืออีก 1 ปี คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะผมได้รับบาดเจ็บจริง ไม่สามารถขึ้นชกได้ โดยเฉพาะในนัดที่จะถึงนี้ ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี วันที่ 17 เม.ย.” บัวขาว กล่าว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องทรัพย์สิน ซึ่งมีข่าวว่า บัวขาว มีทรัพย์สินที่ติดค้างอยู่กับทางค่ายมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทเลยทีเดียว เจ้าตัวกล่าวปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง หากมีจริงก็คงเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว แต่ยอมรับว่า ยังมีเงินบางส่วนที่ทางค่ายยังตกค้างไม่ได้จ่ายให้ แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักในการตัดสินใจแยกทางกับทางค่าย
“เงินค่าตัวที่ได้ในแต่ละนัด แบ่งคนละ 50-50 ก็ไม่มีปัญหาครับ ส่วนข่าวที่ว่าผมเอารถบีเอ็มดับบลิวป้ายแดง มูลค่า 8 ล้านบาทมาด้วย ขอปฏิเสธว่าไม่จริง ผมมีรถบีเอ็มอยู่คันนึงก็จริง แต่เป็นรถมือสอง ซื้อมาล้านสาม และยังผ่อนไม่หมดด้วย” บัวขาว กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีผู้ใหญ่ในวงการกีฬาเข้ามาช่วยเป็นตัวกลาง ในการไกล่เกลี่ยปัญหากับทางค่าย ป.ประมุข จะยินดีกลับไปอยู่กับค่ายอีกหรือไม่ บัวขาว กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้
ด้าน เทรนเนอร์สายชล กล่าวว่า ที่ผ่านมาทำหน้าที่ล่อเป้า และดูแลด้านเทคนิคให้บัวขาว ยืนยันว่าบัวขาวเป็นนักชกที่มีวินัยในการซ้อม ไม่เคยเกเร ไม่มีเรื่องผู้หญิง หรือหนีเที่ยว ไม่มีนักมวยคนไหนที่หนีค่ายได้หรอก หากเขาไม่อึดอัดใจ บัวขาวเจอคำพูดที่ทำร้ายจิตใจมาเยอ ทำให้กดดัน
ทั้งนี้ก่อนจบการแถลงข่าว บัวขาว ยังได้กล่าวขอโทษแฟนมวยชาวไทย ที่ทำให้ต้องเป็นห่วง ตลอดกว่า 10 วันหลังเกิดเหตุ และขอบคุณทางค่าย ป.ประมุข ที่ให้การดูแลตนมาอย่างดีโดยตลอดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่บัวขาวเดินทางมายังมีเดีย สตูดิโอ ย่านลาดพร้าว 101 นั้น ปรากฏว่ามีรถฟอร์จูนเนอร์สีดำ ท้ายรถติดทะเบียน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และมีสติกเกอร์คำว่า “บ๊อกซิ่ง” อยู่ด้านท้าย ภายในมีชายในชุดซาฟารีสีดำ 4 คน ขับวนเวียนรอบสตูดิโอ คล้ายกับดูลาดเลา 2 รอบ ก่อนจะหายไป

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ศพนิรนามตึกร้างเป็นชาย-ตำรวจพหลฯออกหาข้อมูล


ตามที่ตำรวจสน.พหลโยธิน พบศพคนเสียชีวิตอยู่ในอาคารมิตรสมบูรณ์ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ซึ่งเคยเปิดเป็นสปาชื่อพลอยสวย โดยศพไม่สามารถระบุเพศไม่ได้ เพราะสภาพผิวหนังแห้งเห็นเป็นโครงกระดูก ที่ลำคอมีสายไฟซึ่งห้อยลงมาจากฝ้าเพดานผูกติดอยู่ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1เดือนนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทย์ผู้ทำการผ่าศพพิสูจน์พบว่า ศพดังกล่าวเป็นชาย อายุประมาณ 40 ปี สูง 160-165 ซ.ม.รูปร่างผอมเล็ก ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย แต่ไม่สามารถระบุเหตุการตายได้เนื่องจากสภาพศพเน่าเปื่อยหมดแล้ว
ทั้งนี้สภาพศพสวมใส่ชุดชั้นในแบบผู้หญิง ภายในยกทรงมีกระดาษทิชชู่ยัดอยู่ สวมใส่กำไลทองเหลือง รูปพระมีอักษร หลวงปู่ทวด และลูกประคำโลหะร้อยเป็นสร้อยข้อมือ โดยทาง พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์  ผบก.น.2 ได้สั่งการให้ทุก สน.ตรวจสอบคนหายในเขตพื้นที่ พร้อม ส่ง กก.สส.น.2 ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน สายตรวจและชุดชุมชนสัมพันธ์ ออกสืบสวนให้รู้ให้ได้ว่าผู้ตายเป็นใคร เบื้องต้น ในรัศมี  5  ก.ม. หากผู้ใดสงสัยเป็นญาติให้ติดต่อดูตำหนิรูปพรรณได้ที่ สน.พหลโยธิน
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

โจ๋กรุงเก่ายิงถล่มดับ3ศพพบยาบ้า10 เม็ด


กลางดึกที่ผ่านมา ( 13 มี.ค.) พ.ต.ท.พิมุข นาคขำพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธยิงถล่มกลุ่มวัยรุ่นมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายบริเวณถนนโรจนะ มุ่งหน้า อ.วังน้อย หน้าปั๊มแก๊ส  ม.3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.  พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก. สภ.พระนครศรีอยุธยา  พ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา  แพทย์เวรรพ.พระนครศรีอยุธยา  มูนิธิป่อเต็กตึ้ง
พบปลอกกระสุนปืน ขนาด9 มม.จำนวน7 ปลอกกระจายเกลื่อนถนน ห่างมาประมาณ 5  เมตร ศพนายชนะชัย  อายุ 18 ปี (นามสมมุติ) มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน หน้าอกซ้าย 1นัด ชายโครงขวา 1 นัด  ใกล้กันพบรถจยย.ฮฮนด้าเวฟ 125 สีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  ห่างไปประมาณ 20  เมตร พบนายณัฐพล หงษ์ทอง อายุ 20 ปี  มีข้อมือขวามีสายสินญ์ผูกอยู่จำนวนมาก ทราบว่าเพิ่งจะแต่งงานเมื่อวัน10 มี.ค. ที่ผ่านมาเป็นลูกชายนางธนภรณ์  หงส์ทอง ประธานสภาอบต.หันตะเภา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณชายโครงขวา 1นัดหน้าท้อง1นัด สะโพกซ้าย1นัด ใกล้กันพบศพรถจยย. ฮฮนด้าเวฟ125 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้าย มีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายแห่ง
ส่วนผู้บาดเจ็บ 2  ราย มีผู้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทราบชื่อนายสถิตย์  อายุ15 ปี (นามสมมุติ)  ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตรวจค้นในตัวพบยาบ้าจำนวน10 เม็ด   และนายพีระ  อายุ15 ปี (นามสมมุติ)  มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณต้นขาขวา 3นัด 
สอบสวนนายชนะชล หวังมีชอบ อายุ21 ปี อยู่บ้านเลขที่58/2 ม.5 ต.หันตะเภา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา  ที่ขับขี่รถจยย.มาในกลุ่มเดียวกันกับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มาเที่ยวและเล่นสนุกเกอร์ในตลาดแกรน์ด ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร หลังจากนั้นได้ขับขี่รถจยยมากัน 4 คัน.กำลังกลับบ้านใน อ.วังน้อยเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถยนต์กระบะนิสันนาวาร่า สีบอร์น 4 ประตู จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ รถติดสติกเกอร์ลายดอกซากูระเต็มคัน สภาพแต่งซิ่ง ขับมาประกบคนในรถชักอาวุธปืนออกมจ่อยิงกระหน่ำใส่กลุ่มของตนเองจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายได้ขับหลบหนีมุ่งไปทางอ.วังน้อย ส่วนตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะขับขี่มาคนเดียวหลบกระสุนปืนรอดมาหวุดวิด
พล.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่าเบื้องต้นกลุ่มวัยรุ่นผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตน่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นแล้วติดมายิงถล่มหรืออีกประเด็นน่าจะมีความขัดแย้งในธุรกิจที่ผิดกฎหมายตกลงกันไม่ได้แล้วติดตามายิงถล่ม เนื่องจากในตัวผู้เสียชีวิตพบยาบ้าจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนติดตามขยายผลหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันอังคารที่ 13 มีนาคม 2555 เวลา 06:07 น.


Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources