ถ้าเอ่ยถึง “ฮิพฮอฟ” ส่วนใหญ่หลายคนต้องนึกถึงแต่หนุ่มๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ที่ร้องเพลงแนวนี้ แต่ถ้ามองในฟากของผู้หญิงหนึ่งสาวที่เราต้องนึกถึงก่อนนั่นคือ หวาย-ปัญญริสา เธียรประสิทธิ์ หรือ หวาย กามิกาเซ่ เด็กสาวที่มากความสามารถ เธออยู่ในวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 15 ปี จนตอนนี้เติบโตเป็นสาวแล้ว ไม่รู้ว่าเธอจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างในชีวิต งานนี้ ดาวต่างมุม เลยจับเธอมานั่งคุยสบายๆ ล้วงลึกถึงเรื่องต่างๆ ในชีวิตสาวหวายมาให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนเธอจริงๆ
การทำงานเพลงของเราตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“ตอนแรกที่เข้ามาวงการเพราะหวายไปร้องเพลงที่คอนเสิร์ต คุณตาชรินทร์ นันทนาคร แล้วพี่ที่อาร์เอสเห็นหวายร้องเพลงและเต้นได้ เขาเลยติดต่อมาบอกว่ากำลังหาเด็กผู้หญิงที่รักการเต้นและร้องเพลง ก็เลยเข้าไปออดิชั่นดูได้เข้ามาอยู่กามิกาเซ่ตอนนั้นได้อยู่เป็นโปรเจคจนตอนนี้มีอัลบั้มเดี่ยว 3 อัลบั้มแล้วค่ะ 5 ปีที่ผ่านมาทุกคนได้เห็นเราโตขึ้นเยอะ เพราะเราอยู่ตั้งแต่ 13-14 ปี ตอนนี้จะ 19 แล้วเขาก็จะบอกว่าเรายังเด็กตอนนี้โตแล้ว”
5 ปีบนเส้นทางงานเพลงที่ตัวเองรักมีความเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง ?
“มีเยอะค่ะ เป็นปกติที่คนเราจะตื่นเต้น เวลาทำงานก็ทำเต็มที่ที่สุด ไม่กลัวคนวิจารณ์ แต่พอเราได้ยินคนพูดเกี่ยวกับเราในทางไม่ดีทำให้เราเสียใจแล้วก็ท้อ ไม่อยากสู้ต่อ แต่พอเราโตมาเรื่อยๆ ก็รู้ไม่ควรที่จะท้อ เพราะเราเลือกที่จะมาเส้นทางนี้แล้ว แรกๆ คิดไม่อยากทำเลย รับไม่ได้ที่มีคนมาว่าเราทั้งที่ไม่รู้จักเราเลย เรื่องหลักๆ ที่เขาว่าก็เป็นเรื่องน้ำหนักบ้าง เรื่องเราร้องเพลงบ้าง เพราะเป็นนักร้องเด็กที่ร้องแนวฮิพฮอพแต่งตังเหมือนผู้ชายแต่ไม่ใช่ทอม เขาไม่เข้าใจในตัวเรา แต่พอเราโตขึ้นแนวเพลงโตขึ้นยังเป็นฮิพฮอพแต่ผสมป๊อบให้เพื่อนๆ ฟังง่ายขึ้นเขาก็เปิดใจรับเรามากขึ้น หนูมีกลุ่มแฟนคลับแต่แรกแล้ว แล้วก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆเราก็รู้สึกดีใจ เพราะเขาทำเว็บเพจแฟนคลับให้จากเดิมมีไม่กี่ร้อย ตอนนี้เพิ่มเยอะมากๆ”
ช่วงเวลาที่ท้อหาวิธีปลอบใจตัวเองให้แข็งแรงยังไง ?
“คุยกับคุณพ่อคุณแม่เยอะ ท่านเป็นคนที่สนับสนุนเราตรงนี้มาก ไม่ใช่พ่อแม่ที่ให้เรียนหนังสืออย่างเดียว ไม่ได้คิดว่าการเรียนไม่สำคัญ แต่เชื่อว่าเราสามารถทำสองอย่างพร้อมกันได้มีความรับผิดชอบพอ หวายเจอปัญหาก็เดินเข้าไปคุยเวลามีคนเขียนว่าเรา พ่อแม่ก็อธิบายให้เราฟังว่ามีคนรักก็ต้องมีคนไม่ชอบบ้าง พอโตขึ้นเชื่อซิทุกคนก็จะเข้าใจเราเอง ซึ่งพอโตมาตอนนี้ก็มีคนเปิดใจรับเรามากขึ้นจริงๆ เวลาเรามองกลับไปก็เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอ เรายังผ่านไปได้ประสบการณ์จะสอนเรา ถึงตอนนี้ยังมีคนว่าเราอยู่บ้าง แต่มันทำให้เราเข้มแข็ง เพราะถ้าอ่านแล้วไม่ใช่เรื่องจริงเราก็ปล่อยวางไป”
คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูเรายังไง ดูภายนอกเหมือนคุณหนูมาก?
“คุณพ่อคุณแม่หวายปล่อยทำอะไรก็ได้ แต่ขอให้บอกทุกเรื่องเขาเลี้ยงแบบนี้แต่เด็ก ถ้าเราจะไปข้างนอกก็ต้องบอก ที่สำคัญหวายไม่เคยโกหกคุณพ่อคุณแม่เลย ท้ายที่สุดคนที่เราจะเชื่อใจมากที่สุดก็คือคุณพ่อคุณแม่เท่านั้นค่ะ เราเรียนนานาชาติแต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ใช่ปล่อยเพราะเห็นเป็นเด็กฝรั่ง แต่ปล่อยเพราะเวลาเราอยู่สังคมอินเตอร์อาจารย์จะไม่ได้เข้ามาว่าเรา ห้ามโน่นนี่ แต่เขาจะให้เรารับผิดชอบเอง เราเป็นครอบครัวฝรั่งก็แค่สามารถคุยกับคุณพ่อคุณแม่ได้ทุกเรื่อง อย่างเพื่อนหวายบางคนไม่กล้าเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังเรื่องความรัก แต่เรื่องแบบนี้หวายสามารถบอกได้ค่ะ”
คนดูภายนอกอาจมองเราเปรี้ยวแรงแน่ ?
“ที่จริงเป็นคนตรงไปตรงมา แต่คนจะสับสนกับคำว่าแรง คนคิดอะไรแล้วพูดออกมา เวลาไปข้างนอกคนบอกว่าหยิ่งเพราะเขาไม่รู้จักเราจริงๆ บางคนเจอหน้าไม่ชอบกันก็สีหน้าเวลาที่เราไม่ยิ้มอาจดูวีนโกรธ อยากให้เข้าใจนิดนึง เราไม่สามารถทำให้ทุกคนรักเราได้ทั้งหมด แต่ว่าหวายมีหน้าที่ที่จะอธิบายให้ทุกคนฟังนี่แหละค่ะว่า จริงๆ เป็นยังไงเราจะได้เข้าใจกันมากขึ้นเนอะ เราโตแล้วมีความรักผิดชอบ เข้ามาวงการตั้งแต่อายุ 13 ปี ตอนนั้นกำลังวัยรุ่นอยู่เลย พอมาทำงานก็ไม่มีเวลา แต่ทำให้เราโตมีความรับผิดชอบมีความอดทนมาก ทำให้เราได้รู้เข้ามาทำงานไม่ได้มีโอกาสแบบนี้ให้กับทุกคน แล้วเราโชคดีขนาดไหนที่ได้รับโอกาสนี้”
เรื่องของการเรียนล่ะทำงานด้วยเรียนด้วย ?
“โอ้โห หนักเลยค่ะ ตอนแรกๆ หนักเพราะเราเรียนโรงเรียนอินเตอร์อาจารย์จะปล่อยมากกว่า พอมาท้ายเทอมจะค่อยมาบอกเราว่าเกรดไม่ดีให้ทำอะไรขาดอะไร เพื่อนๆ ทุกคนก็จะเข้าใจเพื่อนเราก็ช่วยด้วย พอมาถึงตอนนี้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาคอินเตอร์ ตอนแรกเรียนสาขาบริหารธุรกิจ แต่ตอนนี้กำลังย้ายมาเรียนนิเทศค่ะที่เราชอบจริงๆ แล้วได้ลงเรียนภาษาเพิ่มไปด้วย”
ตอนนี้ถือว่าเราอยู่จุดสูงสุดที่ตัวเองตั้งเป้าหมายไว้หรือยัง ?
“หวายอยากเป็นนักร้องจนโต เราทำได้ถึงขนาดนี้ก็มั่นใจแล้วว่าเราอยากทำต่อไปจริงๆ ซึ่งสัญญาหมดเพิ่งต่อใหม่อีก 5 ปี เราแฮปปี้มาก ไม่ใช่แค่นักร้องอย่างเดียวนะ ตอนนี้หวายเพิ่งเปิดร้านขายเบเกอร์รี่ชื่อร้าน “มันชี่” ที่แปลว่าหิวขนม อยู่แถวสุขุมวิท 71 เป็นความฝันตั้งแต่เด็กแล้วเราชอบทำคัพเค้ก จนเมื่อปีที่แล้วคุณยายเลยลงทุนกับคุณแม่ซื้อตึก 5 ชั้นลงชื่อร้านเป็นของเราให้เราได้ทำตามความฝันชั้นล่างเป็นอาหารคาเฟ่ ขนม ชั้นสองขายเสื้อผ้า อีกด้านที่สนใจคือหวายอยากเป็นนักแปลทุกคนจะตกใจเนอะ(หัวเราะ) อยากเป็นคนทำงานไปจนแก่เลย อยากเก็บเงินเพราะกว่าเราจะมีลูกมีหลานเราก็อยากทำงานเก็บเงินให้เขาไม่ลำบาก”
อะไรที่คนไม่รู้บ้างเกี่ยวกับตัวหวาย ?
“เป็นคนเซ้นซิทีฟ เครียดง่าย แต่ก็หายง่าย (หัวเราะ) เข้มแข็ง อีกอย่างเป็นคนที่เก็บเงินมาก จริงๆ นะ ดูข้างนอกเหมือนจะซื้อของเยอะแบรนด์เนมแน่ๆ แต่จริงๆ เป็นคนเก็บเงินเก่งเหมือนกัน เงินที่ได้มาจากการร้องเพลงทำงานเนี่ยไม่เคยใช้เลย ใช้ครั้งเดียวตอนซื้อไอแพด เพราะอยากได้เองที่เหลือเก็บธนาคารที่ไม่สามารถใช้ได้อีก 10 ปี เราอยากมีเงินใช้ตอนโตอยากเก็บเผื่ออายุ 30 ปี ก็มีเงินที่จะเลี้ยงน้องๆ เด็กๆ ญาติเรา เดือนนึงคุณพ่อคุณแม่ให้เงินหวายไม่เยอะนะ คนอื่นได้เป็นหมื่นแต่หวายได้ไม่กี่พันเอง ถ้าไม่พอจริงๆ หรือมีเหตุผลต้องซื้อของทำงานก็ขอได้ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ขอ แค่นี้พอแล้วสำหรับวัยเท่าหวาย อย่างแบรนด์เนมนี่ไม่เลย ซื้อแค่อย่างเดียวคือกระเป๋าตังค์ปราด้า ตอนไปฮ่องกงแล้วก็ใช้มา 3 ปีแล้ว ไม่เคยช็อปหมดเป็นหมื่นๆ คุณแม่เราก็เป็นเหมือนกันคือไม่ใช้แบรนด์เนมเก็บเงินเก่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่เราทำได้”
เรื่องความรักล่ะช่วงที่ผ่านมาเคยมีข่าวเยอะตอนนี้เงียบหายไปเลย ?
“ตอนนี้ทำงานหนักมากเช้าจรดเย็น ยังโตไม่พอ ยังเรียนด้วย เลยทำให้เราไม่มีเวลาทั้งกับตัวเอง เพื่อนๆ และครอบครัวเท่าไหร่ แล้วถ้าไม่มีเวลาให้กับพ่อแม่ขนาดนั้น หวายก็จะไม่มีเวลาพอสำหรับคนที่ดูใจแน่นอน ถามว่ามีเข้ามามั้ยก็มีเพื่อนสนิทคนนึงก็อย่างที่รู้ข่าวเขาชื่อ “อองตวน” เป็นคนฝรั่งเศส คุยแบบเพื่อนกันจะคอยให้กำลังใจเราตลอด เขาทำงานเป็นนักมวยเขาทำงานหนักเป็นคนมีระเบียบวินัยมาก ไม่เคยเจอมาก่อนในวัยนี้เขาเพิ่ง 20 ปี รักครอบครัวมาก ครอบครัวสำหรับเขาต้องมาก่อน เราเลยประทับใจเขาตรงนี้ ที่สำคัญเขาเข้าหาคุณพ่อคุณแม่ของเราท่านก็สบายใจที่เราเป็นเพื่อนกัน การมีแฟนหรือคนที่ดูใจไม่ใช่เรื่องผิด แต่ขอให้เรารู้ลิมิตและต้องบอกคุณพ่อคุณแม่ ถ้าท่านรับรู้จะดีกว่าจะได้ช่วยเราดูสบายใจทั้งสองฝ่ายค่ะ”
ฝากอะไรถึงแฟนๆ หน่อย ?
“ฝากแฟนๆ ติดตามผลงานหวายไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลที่ 2 สำหรับเพลง “เสียใจแต่ไม่แคร์” เพลงนี้เป็นเพลงที่ร้องยากมากเป็นแนวอาร์แอนด์บีที่ยาก อยากให้ลองฟังแล้วก็ติดตามหวายด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
เป็นอีกหนึ่งสาวที่มากความสามารถแล้วก็มีแนวทางการใช้ชีวิตที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีกับแฟนคลับได้ดีจริงๆ อย่างนี้
คนกลาง : เรื่อง / วรัญญู เหมือนเดช : ภาพ
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th