วันนี้ (7 เม.ย.)ที่พรรคเพื่อไทย ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า หากพรรคประชาธิปัตย์มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือรัฐบาลแก้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้จริง สิ่งแรกที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องรีบทำคือตักเตือนลูกพรรคให้ระมัดระวังการนำเสนอข้อมูลที่ล่อแหลมและเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะกรณีนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแอบไปเจรจากับขบวนการก่อความไม่สงบ และอ้างว่าเว็บไซต์ของขบวนการพูโลนำโชว์ภาพถ่ายคู่กับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง เช่น พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมได้ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ดังนั้นขอความร่วมมือสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หยุดนำประเด็นความมั่นคงของประเทศชาติมาเล่นการเมืองเพียงเพราะต้องการใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณและหวังทำลายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศอย่างไม่อาจประเมินมูลค่าความเสียหายได้นอกจากนี้ยังเป็นความเสี่ยงและล่อแหลมต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน หากเป็นเช่นนั้นนายอภิสิทธิ์และลูกพรรคจะรับผิดชอบไหวหรือไม่ หากพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาความรุนแรงภาคใต้ เชื่อว่ารัฐบาลยินดีรับฟัง
ร.ท.หญิงสุณิสายังกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยได้วิเคราะห์ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์จากการประชุมสภาผู้แทน ราษฎรเพื่อพิจารณารายงานศึกษาแนวสร้างความปรอดองดอง มีความเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางความปรองดอง และถ่วงเวลาไม่ให้เกิดความปรองดอง พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ได้ให้ความร่วมมือสร้าง ปรองดองเพราะนี่ไม่ใช่ข้อเรียกร้องของเพื่อไทยเท่านั้นแต่เป็นของประชาชน
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงเพิ่มเติมว่า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายก้าวสู่ความปรองดอง ลืมความขัดแย้งในอดีต ต้องให้อภัย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบผลงานทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการปรองดองของ หลายสถาบันนั้น ร้อยละ 80 มีความคล้ายคลึงกันกับสถาบันพระปกเกล้าและยืนยันว่าผลการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้านั้นไม่ได้มีใบสั่ง ดังนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์ไม่อยากปรองดองกับรัฐบาลถือเป็นสิทธิ แต่อยากเรียกร้องให้ปรองดองกับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย เพราะผลโหวตมีมากถึง 307 เสียง ขณะที่พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.เพียง 265 เสียง ชัดเจนว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านยังเห็นดีเห็นงามกับคนในชาติ
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงเพิ่มเติมว่า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายก้าวสู่ความปรองดอง ลืมความขัดแย้งในอดีต ต้องให้อภัย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบผลงานทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการปรองดองของ หลายสถาบันนั้น ร้อยละ 80 มีความคล้ายคลึงกันกับสถาบันพระปกเกล้าและยืนยันว่าผลการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้านั้นไม่ได้มีใบสั่ง ดังนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์ไม่อยากปรองดองกับรัฐบาลถือเป็นสิทธิ แต่อยากเรียกร้องให้ปรองดองกับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย เพราะผลโหวตมีมากถึง 307 เสียง ขณะที่พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.เพียง 265 เสียง ชัดเจนว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านยังเห็นดีเห็นงามกับคนในชาติ
ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้สำรวจผลวิจัย โดยใช้รูปแบบงานวิจัยเชิงปริมาณผ่านเครือข่าย ส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรค ไปถามตรงกับประชาชนกลุ่มตัวประมาณ 3,500 – 5,000 คนจากทุกภาค ถามว่าหลังอภิปรายเสร็จแล้วเชื่อว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นในชาติหรือไม่ ประชาชนร้อยละ 72 เชื่อว่าเกิดขึ้นได้ ร้อยละ 12 ไม่แน่ใจ ต่อข้อถามว่าปัญหาการปรองดองคืออะไร ประชาชน ร้อยละ 80 ไม่ยอมถอยหลังและลืมอดีตซึ่งกันและกัน ร้อยละ 37 ระบุว่าเป็นเพราะทิฐิระหว่างกัน เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือกับการนำเรื่องปรองดองมาหารือในการประชุมสมัย นิติบัญญัติ ร้อยละ 76 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
นายจิรายุ กล่าวว่า เมื่อถามถึงท่าทีต่อสถาบันพระปกเกล้าในเรื่องผลงานวิจัย ร้อยละ 82 เห็นว่าไม่มีจุดยืนในผลการศึกษาของตัวเอง ร้อยละ 76 เห็นว่าควรเป็นกลาง เมื่อถามว่ารัฐบาลและฝ่ายค้านใครมีท่าทีปรองดองมากกว่ากัน ร้อยละ 92 ตอบว่า ส.ส.ซีกรัฐบาลมีท่าทีปรองดองมากที่สุด ร้อยละ 77 เห็นว่าฝ่ายค้านมีท่าทีปรองดองน้อย ส่วนเหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์มีท่าทีปรองดองน้อย เพราะเกรงว่าจะถูกเอาผิดในช่วงที่เป็นรัฐบาล และยังวนเวียนอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายจิรายุ กล่าวว่า ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ใช้วาทกรรมในสภาท้าว่าไม่ต้องการนิรโทษกรรมโดยให้ยก เว้นตัวเอง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการสร้างวาทกรรมสุดเท่ห์ แต่หลอกได้แค่ไอ้จุกกับแกละสองคนเท่านั้น พรรคประชาธิปัตย์เองมีนักกฎหมายที่ก็รู้ว่าไม่ว่ากฎหมายฉบับใดไม่สามารถยก เว้นคนผิดได้แม้แต่คนเดียว ดังนั้นอย่าพูดแบบโชว์แมน เพราะในทางปฏิบัติทำไม่ได้
นายจิรายุ กล่าวต่อว่าในวันที่ 9 เม.ย.นี้ พรรคเพื่อไทยจะเรียกประชุม ส.ส.เพื่อกำหนดท่าทีและตัวบุคคลในการอภิปรายแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วาระสองเรื่องการสรรหา ส.ส.ร.ในการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 10 -12 เม.ย.ตั้งแต่ 09.00 น. และจะไม่เลื่อนวาระใดขึ้นมาพิจารณาก่อน
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น