บิ๊กออฟย้ำผบก.ใหม่ยึดหลักธรรมาภิบาล

ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีสัมมนา ผบก.ใหม่ แนะยึดหลักธรรมมาภิบาล เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของสัมคมและประเทศชาติเป็นหลัก มีความรักสมัครสมานสามัคคี เพื่อจะได้ประสานการปฎิบัติงานในโอกาสต่อไป

             วันนี้ ( 14 ม.ค. ) ที่ ห้องแกรนด์ฮอลล์ 2โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กทม. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธี “เปิดการสัมมนาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพผู้บังคับการที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ประจำปี2554 “ จำนวนทั้งสิ้น 63 นายที่ได้รับการแต่งตั้งทั่วประเทศ โดยมีพล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้บัญชาการศึกษาและข้าราชการตำรวจที่เข้าร่วมสัมมนาให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า “ ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรผู้นำหน่วยระดับผู้บังคับการทุกหน่วยงาน จึงมอบหมายให้กองบัญชาการศึกษา จัดทำโครงการสัมมนาเพิ่มประสิทธิภาพผู้บังคับการที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ประจำปี2554โดยมีเป้าหมายที่กลุ่มข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรระดับรองผู้บังคับการที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นเป็นผู้บังคับการในหน่วยงานต่างๆของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกองบัญชาการศึกษาได้ทุ่มเททรัพยากรต่างๆอย่างเต็มที่เพื่อให้การสัมนาสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
            พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวต่อว่า ” การที่ท่านทั้งหลายได้มาเข้ารับการสัมมนาในครั้งนี้ ผมขอให้ท่านมีความตั้งใจ เพื่อจะได้รับรู้ ความเข้าใจ ถึงแนวคิดและทิศทางการปฎิบัติราชการ อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและการสร้างทีมงาน ในอันที่จะพัฒนาวิธีการทำงานให้ก้าวหน้าสู่ระดับมาตรฐานสากล นอกจากนั้นยังจะต้องรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง และสามารถปรับระบบความคิดให้พร้อมสำหรับวัฒนธรรมการทำงานที่ปรับเปลี่ยนไป โดยยึดหลักธรรมมาภิบาล เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของสัมคมและประเทศชาติเป็นหลัก มีความรักสมัครสมานสามัคคีเพื่อจะได้ประสานการปฎิบัติงานต่อกันในโอกาสต่อไป “ผบ.ตร.กล่าว

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News

Read More

จับแก๊งมาเฟียวินจยย.เถื่อนกลางกรุง

ตามรวบแก๊งจยย.เถื่อน พาพวกรุมกระทืบวินพร้อมพงษ์ เพราะไม่พอใจที่ห้ามมาวิ่งทับเส้นทาง แต่ยังปากแข็งไม่เคยทำร้าย แถมยังเข้าไปช่วย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (14 มี.ค.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผกก.สน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสุชาติ หรือฮุย อนุกูลรังสรรค์ อายุ 40 ปี และนายพิรุณ ประดิษฐ์รอด อายุ 25ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายนายชัยรัตน์ สีหวงษ์ อายุ 37 ปี ขี่วินจยย.ซอยพร้อมพงษ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.54 โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา ย่านวัดใหม่ช่องลม แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งสองร่วมกับพวกอีกนับ 10 คน รุมทำร้ายนายชัยรัตน์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาเป็นแก๊งวินรถจยย.เถื่อน รับส่งผู้โดยสารอยู่บริเวณแยกพร้อมพงษ์ และจะคอยแย่งลูกค้าในวินจยย.ของผู้เสียหาย พร้อมทั้งข่มขู่และทำร้ายร่างกายมาตลอด โดยมีนายสุชาติเป็นหัวหน้าแก็ง กระทั่งวันเกิดเหตุกลุ่มผู้ต้องหาได้พาพวกมารุมทำร้าย โดยใช้อาวุธมีดฟันที่ศีรษะและแทงที่ชายโครงซ้าย ก่อนจะพากันหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพกลุ่มผู้ต้องหาไว้ได้ชัดเจน จนสามารถออกหมายจับได้ 17 ราย ติดตามจับกุมตัวได้ 10 ราย ยังหลบหนีอยู่อีก 7 ราย กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 ราย ขณะย่ามใจคิดว่าตำรวจไม่ติดตาม เลยย้อนกลับเข้ามาที่บ้านพัก

ขณะที่นายสุชาติให้การปฏิเสธโดยอ้างว่า ตนประกอบอาชีพขายไอศครีม ไม่ได้ขี่จยย.รับจ้างและไม่ได้ทำร้ายผู้เสียหาย เพียงแต่วันเกิดเหตุตนทั้งสองคนผ่านไปเห็นเหตุการณ์และพยายามจะเข้าไปห้ามเท่านั้น ส่วนนายพิรุณตนรู้จักดีเพราะอยู่ซอยเดียวกัน ซึ่งนายพิรุณไม่มีรถจยย.ขี่ จึงไม่ได้ไปวิ่งทับเส้นทางของผู้เสียหายแต่อย่างใด ด้านนายชัยรัตน์ผู้เสียหายให้การว่า กลุ่มผู้ต้องหามักจะมาวิ่งรถจยย.รับผู้โดยสารทับเส้นทางของวินที่ตนอยู่ แต่ไม่ได้มาเรียกเก็บเงิน เมื่อตนเข้าไปสอบถามและบอกว่าไม่ให้มาวิ่งรับผู้โดยสารย่านนี้อีก กลุ่มผู้ต้องหาได้ตบหน้าตน วันเกิดเหตุนายสุชาติและนายพิรุณ ถือเหล็กแป๊บเข้ามารุมฟาดใส่ไม่ยั้ง จากนั้นพรรคพวกที่เหลือรุมประเคนสหบาทาจนตนสลบ.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

This entry was posted in News

Read More

รวบหนุ่มค้ายาบ้าค้นเจออาก้าเป็นของแถม

บุกรวบแก๊งยาเสพติด นำตัวค้นแฟลตที่พักตะลึงเจออาวุธสงครามเพียบ อ้างรับจ้างแค่ส่งของให้ลูกค้าเท่านั้น

เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (14 มี.ค.) พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น. 8 พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ สว่างงาม ผกก.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผกก.พ.ต.ต.สายชล ปัญจชัย สว.สส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายประกิจ หรือต่อ จันทร์จรุงกิจ อายุ 26 ปี น.ส.เรไร หรือกุ้ง ส่งแสง อายุ 45 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 6,600 เม็ด ยาไอซ์ 7 กรัม กัญชา 24 กรัม ปืนอาก้าแบบพับฐาน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุนอาก้า 1 ซอง กระสุนปืนอาก้า 17 นัด ระเบิดเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก กระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 4 นัด กระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 5 นัด กระสุนปืนขนาด.22 จำนวน 1 นัด สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม เงินสด 5,600 บาท รถจยย. 1 คัน โดยจับกุมได้ที่แฟลตไม่มีชื่อ เลขที่ 1190 ซอยวุฒากาศ 29 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี
 

พล.ต.ต.ประหยัชว์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำเหร่ ได้จับกุมผู้ต้องหารายหนึ่งคดีเสพยาเสพติด และทำการสอบสวนจนทราบว่าซื้อยาเสพติดมาจากนายประกิจ และ น.ส.เรไร ซึ่งพักอยู่ในแฟลตดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าไปจับกุมกระทั่งพบของกลางทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพัก จึงควบคุมตัวมาสอบสวน จาการสอบสวนนายประกิจรับสารภาพว่า ตนเคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง เพิ่งพ้นโทษไม่นาน ต่อมาได้รู้จักกับนายเคดาว ชาว จ.อ่างทอง (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันในเรือนจำ ส่วนยาบ้าตนเพียงแค่เป็นคนส่งให้นายเคดาวเท่านั้นโดยได้ค่าจ้างครั้งละ 5,000 บาท โดยนายเคดาวจะโทรมาให้รับของและไปส่งให้กับลูกค้า ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุนนั้นเป็นของนายสิงห์ ชาว จ.สิงห์บุรี (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) เป็นเพื่อนกับนายเคดาวนำมาฝากไว้ที่ห้อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมีอาวุธที่นายทะเบียน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามรถออกได้ (อาวุธสงคราม) โดยผิดกฎหมาย ก่อนจะนำตัวไปขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News

Read More

ล็อกยกแก๊งปล้นฆ่าฝรั่ง-เมียไทย

รวบทันควันแก๊งทมิฬปล้นฆ่าฝรั่งกับเมียไทย อ้างเดือดร้อนเงิน รับสารภาพ 2 อีก 1 ยังปากแข็ง

จากเหตุคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์นายไมเคิล เรย์มอนด์ อายุ 68 ปี นักกท่องเที่ยวชาวอังกฤษ และนางสุชาดา เบ้าคำดี อายุ 52 ปี ภรรยาชาวไทย เสียชีวิตอย่างภายในห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (14 มี.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผบก.ภ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันแถลงจับกุมนายจักรรินทร์ หรือจีน อยู่เย็น อายุ 30 ปี ลูกชายผู้ช่วยผญบ.ใน ต.ห้วยยาง นายพงษ์พิทักษ์ หรือพัด ทัพสว่าง อายุ 24 ปี รปภ.ประจำรีสอร์ทที่เกิดเหตุ และนายประจักษ์ เหมือนจินดา อายุ 51 ปี พ่อครัวร้านอาหารในรีสอร์ทที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษพร้อมภรรรยาคนไทยรวม 2 ศพ

จากการสอบสวนนายประจักษ์และนายพงษ์พิทักษ์ ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันวางแผนปล้นทรัพย์ฆ่าเจ้าทรัพย์เพราะมีปัญหาทางการเงิน ส่วนนายจักรรินทร์ ยังคงให้การปฏิเสธ ต่อมาตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ โดยให้นายจักรรินทร์รออยู่ในรถยนต์ เนื่องจากเกรงว่าจะมีปัญหากระทบกระทั่งกับญาตินายจักรรินทร์

ด้านนายวีระกล่าวว่า หลังจากเกิดคดีสะเทือนขวัญปล้นฆ่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถือว่ามีผลกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศอย่างรุนแรง ส่วนมาตรการในการป้องกันเหตุในอนาคตจะร่วมกับหลายหน่วยงานวางมาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจ โดยจะกวดขันการออกใบอนุญาตประกอบการโรงแรม รีสอร์ท รวมทั้งตรวจสอบการติดตั้งกล้องวงจรปิด เนื่องจากรีสอร์ทที่เกิดเหตุไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด อีกทั้งกำชับตำรวจท้องที่ให้จัดการปัญหายาเสพติด เนื่องจากผู้ต้องหาให้รับสารภาพว่าเสพยาเสพติดก่อนลงมือก่อเหตุ.

วันพุธที่ 14 มีนาคม 2555 เวลา 17:16 น.

แหล่งที่มาข้อมูล 

This entry was posted in News

Read More

กมธ.ตำรวจสรุป ผลสอบตร.สกลฯยิงหนุ่มวิศวะทำเกินกว่าเหตุ

กมธ.ตำรวจสภาฯสรุปเหตุตร.สกลฯยิงหนุ่มวิศวกรยัดยาบ้าทำเกินกว่าเหตุ เล็งยื่นสตช.จัดการ วอน ตร.ยึดกม. – พร้อมตรวจสอบได้

ที่รัฐสภา นายสมชาย โล่ห์สถาพรพิพิธ ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของนายส่งเสริม แสงฤทธิ์ ร้องว่านายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ บุตรชาย อาชีพวิศวกร ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสกลนคร ยิงเสียชีวิตและยัดยาบ้าจำนวน 198 เม็ด โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ว่า คณะกรรมาธิการฯได้สรุปผลการสอบสวน โดยเห็นว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจค้น จับกุม และใช้อาวุธ เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 วรรคท้าย การตรวจค้นจับกุมของ พ.ต.ท.วีรวุฒิ เสียงใส กับพวกไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบให้แน่ชัดว่ารถยนต์ของผู้ตาย เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ และไม่ปรากฏว่าผู้ตายกับพวกขัดขวาง หรือมีอาวุธในรถยนต์แต่อย่างใด การกระทำของเจ้าหน้าที่จึงขัดต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรม

นายสมชายกล่าวอีกว่า ส่วนที่ผู้ร้องไม่เชื่อว่ายาบ้าที่พบในศพผู้ตายตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างนั้น คณะกรรมาธิการฯพิจารณาแล้ว ไม่เชื่อว่ายาเสพติดเป็นของผู้ตายเช่นกัน เนื่องจากผู้ตายสวมชั้นในแบบบ็อกเซอร์ จึงไม่น่าจะซุกซ่อนวัตถุอะไรไว้ได้ และในระหว่างที่บิดาผู้ตายตรวจดูทรัพย์สินที่ศพของบุตรชาย ก็ไม่พบสิ่งใดที่ผิดปกติ หากมีวัตถุสีดำที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเป็นยาเสพติดในระว่างการขนย้ายศพจากรถยนต์ไปโรงพยาบาล ก็น่าจะร่วงหล่นให้เห็นได้โดยเฉพาะกางเกงถูกตัดขาข้างหนึ่งออก อีกทั้งวัตถุสีดำที่พบไม่พบสารคัดหลั่ง เช่น คราบอุจจาระ หรือคราบเมือก เป็นต้น ดังนั้นคณะกรรมาธิการฯจะรายงานผลการพิจารณาไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป และขอให้สตช.กำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติด ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และต้องยอมรับการตรวจสอบจากทุกภาคส่วน

This entry was posted in News

Read More

"ราฟา-มาเรีย-อซาเรนกา"ลิ่ว 8 คนบีเอ็นพี

มือดังยังไม่พลาด "นาดาล-อซาเรนกา-ชาราโปวา" กอดคอลิ่ว 8 คน "บีเอ็นพี พาริบาส โอเพ่น" ที่อินเดียน เวลล์ส ได้พร้อมหน้า

การแข่งขันเทนนิสบีเอ็นพี พาริบาส โอเพ่น ที่อินเดียน เวลล์ส, แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เป็นประเภทชายเดี่ยว รอบ 3 ปรากฏว่า ราฟาเอล นาดาล มือ 2 ของโลก และของรายการ จากสเปน ยังคงไม่พลาด เมื่อหวดเอาชนะ มาร์เซล กราโนลเลอร์ส มือ 26 เพื่อนร่วมชาติ 2 เซตรวด 6-1, 6-4 ทำให้ "ราฟา" เอาชนะ กราโนลเลอร์ส ได้ 10 แมตช์ติดต่อกัน พร้อมกับผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศต่อไปสำเร็จ

ด้านผลชายเดี่ยว รอบ 3 คู่อื่น ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร (อาร์เจนตินา, มือ 9) ชนะ เฟอร์นานโด เบอร์ดาสโก (สเปน, มือ 19) 6-2, 7-6 (8-6), โธมัส เบลลุชชี (บราซิล) ชนะ นิโคไล ดาวีเดนโก (รัสเซีย) ถอนตัว, เดนิส อิสโตมิน (อุซเลกิสถาน) ชนะ ดาวด เฟอร์เรร์ (สเปน, มือ 5) 6-4, 6-3, โจ วิลฟรีด ซองกา (ฝรั่งเศส, มือ 6) ชนะ ราเด็ค สเตปาเน็ค (เช็ก, มือ 28) 6-7 (2-7), 6-3, 6-2

ฝั่งประเภทหญิงเดี่ยว เป็นรอบ 4 ปรากฏว่า วิคตอเรีย อซาเรนกา มือ 1 ของโลก และของรายการ จากเบลารุส ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม หลังไล่หวดเอาชนะ จูเลีย กอร์เกส มือ 14 จากเยอรมนี 2 เซตรวด 6-3, 6-1 ทำให้ อซาเรนกา ทำสถิติสุดยอด ชนะ 20 เกมรวดในปีนี้ โดยยังไม่แพ้ใคร และผ่านเข้ารอบ 8 คนต่อไปสำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับ อักนีสซกา รัดวานสกา มือวางอันดับ 5 จากโปแลนด์ ที่เอาชนะ เจมี แฮมป์ตัน มือไวลด์การ์ดของเจ้าถิ่น 3-6, 6-4, 3-0 (แฮมป์ตัน ถอนตัว เพราะเป็นตะคริว)

ส่วน มาเรีย ชาราโปวา สาวสวยมือ 2 ของโลก จากรัสเซีย ก็ยังไม่พลาด หลังเอาชนะ โรแบร์ตา วินชี มือ 21 จากอิตาลี 2 เซตรวด 6-2, 6-1 ทำให้ ชาราโปวา ผ่านเข้ารอบ 8 คนสำเร็จเช่นกัน ขณะที่ผลหญิงเดี่ยวคู่อื่น หลี่ นา (จีน, มือ 8) ชนะ คลารา ซาโคปาโลวา (เช็ก) 6-1, 6-0, แองเจลีค เคอร์เบอร์ (เยอรมนี, มือ 18) ชนะ คริสตินา แม็คเฮล (สหรัฐ, มือ 32) 6-3, 3-6, 7-6 (7-4)

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News

Read More

"เลเกอร์ส-เมจิก"ต่อเวลาคว้าชัยเอ็นบีเอ

"เลเกอร์ส" ต่อเวลา 2 รอบ ก่อนเฉือนชนะ "กริซซ์ลีส์" สุดมัน 116-111 "บายนัม" พระเอกตัวจริง เหมา 37 แต้ม ขณะที่ "เมจิก" ก็ต่อเวลาดับซ่า "ฮีต" 104-98 ทำให้ "ไมอามี" หยุดสถิติชนะ 3 นัดรวด

การแข่งขันบาสเกตบอลเอ็นบีเอ สหรัฐ นัดประจำวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ลอส แองเจลิส เลเกอร์ส บุกไปชนะ เมมฟิส กริซซ์ลีส์ แบบสุดมันในการต่อเวลาพิเศษถึง 2 ครั้ง 116-111 คะแนน โดย แอนดรูว์ บายนัม รับบทพระเอก ทำคนเดียว 37 คะแนน กับ 16 รีบาวด์ ขณะที่ โคบี ไบรอันต์ ทำ 22 คะแนน จาก 34 คะแนน ของตัวเองในเกมนี้ หลังจากจบครึ่งแรก

นอกจากนั้น เพา กาซอล เซ็นเตอร์สเปน ยังบวกอีก 14 คะแนน กับ 8 แอสซิสต์ ช่วยให้ เลเกอร์ส ชนะ 3 เกมติดต่อกันด้วย ส่วน มาร์ค กาซอล น้องชาย ที่เล่นให้ เมมฟิส ทำ 20 คะแนน 11 รีบาวด์ ขณะที่ มาร์รีเซ สปีตส์ ทำสูงสุดของเจ้าถิ่น 25 คะแนน โดยเกมนี้ กริซซ์ลีส์ ขึ้นนำก่อนด้วยซ้ำในช่วงต่อเวลาครั้งที่ 2 แต่ เลเกอร์ส มาทำ 6 คะแนนรวด ทำให้แซงนำ ก่อนประคองตัวคว้าชัยจนจบเกม

ด้าน ออร์แลนโด เมจิก เปิดรังต่อเวลาเอาชนะ ไมอามี ฮีต 104-98 คะแนน โดย ดไวท์ โฮเวิร์ด ซูเปอร์แมนเจ้าถิ่น ทำ 24 คะแนน กับถึง 25 รีบาวด์ ซึ่งถือเป็นเกมที่ 8 ในฤดูกาลนี้แล้วที่ โฮเวิร์ด ทำแต้ม และรีบาวด์ ถึงหลัก 20-20 และยังเป็นครั้งที่ 40 ในการเล่นเอ็นบีเอของเจ้าตัวด้วย

ขณะที่ จาเมียร์ เนลสัน ทำ 25 คะแนน รวมถึง 12 คะแนน ในควอเตอร์สุดท้าย และการต่อเวลา ช่วยให้ เมจิก พลิกจากการตามถึง 14 คะแนน ในครึ่งแรก กลับมาคว้าชัย 3 เกมรวด และเกมที่ 5 จาก 6 เกมหลังสุด ส่วน ฮีต มี ดเวย์น เวด ทำ 28 คะแนน และ คริส บอช 23 คะแนน ขณะที่ เลบรอน เจมส์ 19 คะแนน 11 รีบาวด์ 8 แอสซิสต์ แต่ทีมแพ้ และเสียสถิติหลังชนะมา 3 เกมรวด

ผลคู่อื่น โตรอนโต แรพเตอร์ส ชนะ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส 96-88, อินเดียนา เพเซอร์ส ชนะ ปอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส 92-75, ฮุสตัน ร็อกเกตส์ ชนะ โอคลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ส 104-103, ดัลลัส มาเวอร์ริกส์ ชนะ วอชิงตัน วิซาร์ดส์ 107-98, เดนเวอร์ นักเกตส์ ชนะ แอตแลนตา ฮอว์กส์ 118-117 (ต่อเวลา), โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ชนะ ซาคราเมนโต คิงส์ 115-89

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

This entry was posted in News

Read More

เสือใต้โหดยำ7-0โกเมซ4เม็ด/งูชนะแต่ร่วง

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บาเยิร์น มิวนิก เปิดรังโชว์บทโหดไล่ยำใหญ่ บาเซิล 7-0

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก ยอดทีมจากศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี เปิดรังโชว์บทโหดไล่ยำใหญ่ บาเซิล จากสวิตเซอร์แลนด์ ชนิดไม่ไว้หน้า 7-0 โดยแมตช์นี้ มาริโอ โกเมซ ศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมนี รับเหมาซัดคนเดียว 4 ประตู ในนาทีที่ 44, 49, 61 และ 66 อีก 3 ประตูได้จาก อาร์เยน ร็อบเบน ปีกทีมชาติฮอลแลนด์เบิ้ลยิง นาทีที่ 11 และ 80, โธมัส มุลเลอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี นาที 42

โดยผลนัดแรก บาเซิล เปิดบ้านเฉือนชนะ บาเยิร์น หวุดหวิด 1-0 รวมผล 2 นัด บาเยิร์น ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป ด้วยประตูรวม 7-1

ด้านเกมที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช เซเรีย อา เปิดบ้านพิชิต โอลิมปิก มาร์กเซย จากลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่เหลือผู้เล่นสิบคน 2-1 เจ้าถิ่นขึ้นนำไปก่อนจาก ดีเอโก มิลิโต นาที 75 แต่ทีมเยือนไล่ตามตีเจ๊าได้ในนาทีสุดท้ายจาก แบรนเดา ช่วงทดเจ็บงูใหญ่ได้จุดโทษ แถมนายทวารมาร์กเซย สตีฟ มันดองดา ถูกใบเหลืองแดงไล่ออกจากสนามด้วย จิอัมเปาโล ปาซซินี รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ช่วยให้ อินเตอร์ คว้าชัย 2-1 แต่ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ เนื่องจากนัดแรกบุกไปแพ้ มาร์กเซย 0-1 รวมผล 2 นัด เสมอกัน 2-2 แต่ มาร์กเซย ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยกฎยิงประตูทีมเยือน

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in

Read More