วันนี้ ( 11 ก.ย.) ที่รัฐสภา คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน
(วิปฝ่ายค้าน) สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน ได้ร่วมกันแถลงข่าว
“รัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ปี โกหกสีขาว 19 เรื่อง” โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงเรื่องโกหกที่ 5
ตอน“ไหนว่าลาก่อนน้ำแล้งน้ำท่วม” ว่า
ตามที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศป้ายหาเสียงของ “ลาก่อนน้ำท่วมน้ำแล้ง”
แต่กลับยังมีปัญหา เช่น การชดเชยเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบครัวเรือนละ
30,000 บาท บางรายยังไม่ได้รับเงินเยียวยาในปี 2555
ที่บอกว่าน้ำจะไม่ท่วมแต่กลับพบว่าภายใน 10 วันของเดือนก.ย. น้ำท่วมไปแล้ว
22 จังหวัด และโกหกสุดท้ายมาตรการระบายน้ำออกจากเขื่อนให้เหลือเพียง
45เปอร์เซ็นต์เป็นมาตรการที่ล้มเหลวเพราะทำให้เกิดวิกฤติภัยแล้ง 8 จังหวัด
นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงโกหกสีขาวตอนที่ 6 เรื่อง “การสร้างการทุจริต แบบทั้งอุ้มและล้างผิดคนโกง”ว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการแก้ไขในปีแรกคือ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง แต่ภายหลังที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤตมิชอบ(ป.ป.ช.) ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรงคดีของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คดีส่งเสือโคร่งไปประเทศจีน โดยอัยการเตรียมยื่นฟ้องเป็นคดีอาญาแล้ว แต่นายกฯก็ยังไม่ให้นายปลอดประสพไปรายงานตัวต่ออัยการแต่อย่างใด และคดีของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ป.ป.ช.ก็ชี้ชัดแล้วว่ารัฐมนตรีมีมูลกระทำความผิดวินัยก็ไม่ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีความพยายามออกกฎหมายล้างผิดคนโกง โดยอ้างว่าเป็นกฎหมายปรองดอง รวมไปถึงการปกปิดข้อมูลการใช้งบประมาณน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท งบประมาณฉุกเฉิน 6.6 หมื่นล้านบาท และเงินกู้เพื่อป้องกันน้ำท่วมอีก 3.5 แสนล้านบาท โดยที่ทางฝ่ายค้านได้พยายามที่จะขอรายละเอียดการใช้งบ แต่รัฐบาลก็ไม่ให้ความร่วมมือจนเป็นผลทำให้เป็นประเทศล่มจม
นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงโกหกสีข่าวตอนที่ 7 เรื่อง “แก้แค้น ไม่แก้ไข แถมให้เงิน ให้ท้าย ให้ตำแหน่ง” ว่า พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายต้องการเห็นความสามัคคีปรองดองในชาติ แต่ขณะนี้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยได้มีพฤติกรรมตรงกันข้ามกับวาทกรรม นี้ตลอดเวลา โดยข่มขู่คุกคามฝ่ายที่มีความคิดเห็นที่ตรงกันข้าม เช่น พฤติกรรมของนายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง หรือแม้กระทั่งการคุกคามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในเวลาที่ลงพื้นที่ต่างๆเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีการคุกคามผู้สื่อข่าว ดารานักแสดง พระภิกษุ อีกด้วย ส่วนการแถมก็มีการให้ตำแหน่งทางการเมืองกับกลุ่มคนเสื้อแดง เช่น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือแนวร่วมคนอื่นก็ได้ตำแหน่ง
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงโกหกสีขาวตอนที่ 8 “ร้านถูกใจ ผลาญงบฯ 1,300 ล้าน” ว่า ครม.รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้มีมติเมื่อวันที่20 มี.ค.55 อนุมัติโครงการโชว์ห่วยช่วยชาติ คือ ร้านถูกใจ วงเงิน 1,320 ล้านบาท ตั้งเป้าจะต้องมีร้านถูกใจทั่วประเทศ 10,000 แห่ง โดยกำหนดเวลาตั้งแต่ เม.ย.ถึงก.ย. 55 มีเป้าหมายเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนและเป็นทางเลือกในการซื้อสินค้า ซึ่งแสดงว่ารัฐบาลการันตีว่าสินค้าทุกชนิดที่ขายในร้านถูกใจ จะต้องมีราคาที่ถูกกว่า ร้านค้าข้างนอก 10-20 เปอร์เซ็นต์ และต่อมาเมื่อ 11 เม.ย. รมว.พานิชย์ก็ยืนยันว่า เจ้าของร้านทุกร้านมีความพอใจ และตัวสินค้ามีความพร้อม 80-90 เปอร์เซ็นต์ การขนส่งพร้อมถึงเกือบ100 แต่ในความเป็นจริงที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ลงพื้นที่สำรวจถึง 4 ครั้ง พบว่าที่รัฐบาลพูดมาไม่เป็นความจริงแม้แต่ประการเดียว มีสินค้าหลายชนิดที่แพงกว่าร้านข้างนอก เช่น นมถั่วเหลืองไวตามิลค์ ซีอิ๊วขาว บางชิ้นราคาถูกจริงแต่ไม่ถึง 10-20 เปอร์ตามที่ได้อ้าง และโกหกที่ 2 การขายของเสื่อมคุณภาพ เช่น ปลากระป๋อง รวมถึงกรณีที่รัฐบาลตกลงกับร้านค้าที่เข้าร่วมจะจ่ายค่าแรงให้วันละ 300 บาท จากที่ได้ไปสำรวจจำนวน 30 ร้านจนถึงขณะนี้ ไม่มีร้านไหนได้รับเงินดังกล่าว แม้แต่ค่าตกแต่งร้านที่จะให้ 3,000 บาท ก็ไม่มี ดังนั้นร้านถูกใจ จึงเป็นร้านโชว์ห่วยที่มีสภาพเหมือนเดิมที่ไม่มีความถูกใจเพิ่มมากขึ้น
นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงโกหกสีขาวตอนที่ 6 เรื่อง “การสร้างการทุจริต แบบทั้งอุ้มและล้างผิดคนโกง”ว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการแก้ไขในปีแรกคือ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง แต่ภายหลังที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤตมิชอบ(ป.ป.ช.) ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรงคดีของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คดีส่งเสือโคร่งไปประเทศจีน โดยอัยการเตรียมยื่นฟ้องเป็นคดีอาญาแล้ว แต่นายกฯก็ยังไม่ให้นายปลอดประสพไปรายงานตัวต่ออัยการแต่อย่างใด และคดีของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ป.ป.ช.ก็ชี้ชัดแล้วว่ารัฐมนตรีมีมูลกระทำความผิดวินัยก็ไม่ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีความพยายามออกกฎหมายล้างผิดคนโกง โดยอ้างว่าเป็นกฎหมายปรองดอง รวมไปถึงการปกปิดข้อมูลการใช้งบประมาณน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท งบประมาณฉุกเฉิน 6.6 หมื่นล้านบาท และเงินกู้เพื่อป้องกันน้ำท่วมอีก 3.5 แสนล้านบาท โดยที่ทางฝ่ายค้านได้พยายามที่จะขอรายละเอียดการใช้งบ แต่รัฐบาลก็ไม่ให้ความร่วมมือจนเป็นผลทำให้เป็นประเทศล่มจม
นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงโกหกสีข่าวตอนที่ 7 เรื่อง “แก้แค้น ไม่แก้ไข แถมให้เงิน ให้ท้าย ให้ตำแหน่ง” ว่า พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายต้องการเห็นความสามัคคีปรองดองในชาติ แต่ขณะนี้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยได้มีพฤติกรรมตรงกันข้ามกับวาทกรรม นี้ตลอดเวลา โดยข่มขู่คุกคามฝ่ายที่มีความคิดเห็นที่ตรงกันข้าม เช่น พฤติกรรมของนายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง หรือแม้กระทั่งการคุกคามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในเวลาที่ลงพื้นที่ต่างๆเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีการคุกคามผู้สื่อข่าว ดารานักแสดง พระภิกษุ อีกด้วย ส่วนการแถมก็มีการให้ตำแหน่งทางการเมืองกับกลุ่มคนเสื้อแดง เช่น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือแนวร่วมคนอื่นก็ได้ตำแหน่ง
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงโกหกสีขาวตอนที่ 8 “ร้านถูกใจ ผลาญงบฯ 1,300 ล้าน” ว่า ครม.รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้มีมติเมื่อวันที่20 มี.ค.55 อนุมัติโครงการโชว์ห่วยช่วยชาติ คือ ร้านถูกใจ วงเงิน 1,320 ล้านบาท ตั้งเป้าจะต้องมีร้านถูกใจทั่วประเทศ 10,000 แห่ง โดยกำหนดเวลาตั้งแต่ เม.ย.ถึงก.ย. 55 มีเป้าหมายเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนและเป็นทางเลือกในการซื้อสินค้า ซึ่งแสดงว่ารัฐบาลการันตีว่าสินค้าทุกชนิดที่ขายในร้านถูกใจ จะต้องมีราคาที่ถูกกว่า ร้านค้าข้างนอก 10-20 เปอร์เซ็นต์ และต่อมาเมื่อ 11 เม.ย. รมว.พานิชย์ก็ยืนยันว่า เจ้าของร้านทุกร้านมีความพอใจ และตัวสินค้ามีความพร้อม 80-90 เปอร์เซ็นต์ การขนส่งพร้อมถึงเกือบ100 แต่ในความเป็นจริงที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ลงพื้นที่สำรวจถึง 4 ครั้ง พบว่าที่รัฐบาลพูดมาไม่เป็นความจริงแม้แต่ประการเดียว มีสินค้าหลายชนิดที่แพงกว่าร้านข้างนอก เช่น นมถั่วเหลืองไวตามิลค์ ซีอิ๊วขาว บางชิ้นราคาถูกจริงแต่ไม่ถึง 10-20 เปอร์ตามที่ได้อ้าง และโกหกที่ 2 การขายของเสื่อมคุณภาพ เช่น ปลากระป๋อง รวมถึงกรณีที่รัฐบาลตกลงกับร้านค้าที่เข้าร่วมจะจ่ายค่าแรงให้วันละ 300 บาท จากที่ได้ไปสำรวจจำนวน 30 ร้านจนถึงขณะนี้ ไม่มีร้านไหนได้รับเงินดังกล่าว แม้แต่ค่าตกแต่งร้านที่จะให้ 3,000 บาท ก็ไม่มี ดังนั้นร้านถูกใจ จึงเป็นร้านโชว์ห่วยที่มีสภาพเหมือนเดิมที่ไม่มีความถูกใจเพิ่มมากขึ้น