วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

แอฟริกาใต้จับคนไทยแก๊งค้านอแรด


วันนี้ (27 มี.ค.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ว่า ชายชาวไทยรายหนึ่งถูกตำรวจแอฟริกาใต้จับกุม ภายในบ่อนกาสิโนเอ็มเพอเรอร์ พาเลส ใกล้สนามบินหลักของเมืองโยฮันเนสเบิร์ก ในวันนี้ ฐานต้องสงสัยร่วมขบวนการลักลอบค้านอแรด ซึ่งนำออกนอกแอฟริกาใต้ ด้วยการว่าจ้างกลุ่มผู้ขายบริการทางเพศ โดยระหว่างการขับกุมตำรวจยึดเงินสด จำนวน 21,000 แรนด์ (ประมาณ 85,870 บาท) พบในตัวผู้ต้องสงสัยด้วย
นายเอเดรียน แลคเคย์ โฆษกสำนักงานสรรพากรแอฟริกาใต้ เผยว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ซึ่งยังเปิดเผยชื่อไม่ได้ จนกว่าจะถูกนำตัวขึ้นศาลในวันพุธ เป็นผู้ต้องสงสัยรายที่ 4 ที่ถูกจับกุม และร่วมขบวนการลักลอบค้านอแรด ที่มีนายจำลอง ลิ้ทะงไทย ชาวไทยอีกคนเป็นหัวหน้า โดยนายจำลองถูกจับกุมและต้องข้อหาเมื่อปีที่แล้ว ขณะนี้รอขึ้นศาลดำเนินคดีในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก เช่นเดียวกับผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน ซึ่งเป็นชายชาวไทยและเกษตรกรชาวแอฟริกาใต้
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

"กิตติรัตน์"จี้แบงก์ชาติดูแลค่าบาทให้อ่อนช่วยธุรกิจ



นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายกิตติรัตน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทเอกชนได้ปรับค่าแรงขึ้นขั้นต่ำวันละ 300 บาทไปตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายบริษัทเห็นประโยชน์ของการปรับขึ้นค่าแรงแล้ว ว่าจะทำให้เกิดแรงซื้อเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) นั้น จะได้รับประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดจากการปรับขึ้นค่าแรง เนื่องจากกำลังซื้อของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
      
อย่างไรก็ตาม ตนต้องการให้เงินบาทอ่อนค่าลงอีกเล็กน้อย เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และผู้ส่งออก ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายในต่างประเทศได้ดีขึ้น มีผลประกอบการที่ดีขึ้น ทั้งยังเป็นกำลังใจในการทำงาน ส่วนแนวทางทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงเท่าใดนั้น ตนเคยพูดไปแล้ว คงจะไม่พูดอีก ซึ่งแนวทางอาจต้องขาดดุลบ้าง แต่เชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะดูแลเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพร้อมสนับสนุนให้เกิดการควบรวมกิจการเกิดขึ้น เพราะหากมีการควบรวมกิจการจะช่วยประหยัดต้นทุนโดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็ก หากรวมกันก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น และไม่ได้มีแค่บริษัทใหญ่เท่านั้นที่จะควบรวมกิจการกันได้ โดยกระทรวงการคลังจะดูแลภาษีที่เกี่ยวข้องไม่ให้เป็นอุปสรรค โดยขณะนี้ร่างพ.ร.บ.การส่งเสริมการควบรวมกิจการในตลาดทุน อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และจะหารือกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง คาดว่าน่าจะในช่วง 2-3 เดือนนี้จะมีความคืบหน้า

อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นการควบรวมกิจการของธนาคารพาณิชย์ของไทย เนื่องจากปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ของไทยมีจำนวนไม่มาก แต่อาจจะเป็นการควบรวมกิจการของธุรกิจอื่น โดยในเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ทำ และต้องพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด
สำหรับ เรื่องกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ไม่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลจะดำเนินการทำ และต้องพิจารณาอย่างรอบคอบมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาทุกคนเข้าใจผิดว่า เป็นการเก็บภาษีจากคนรวย แต่ในข้อเท็จจริงคือ ผู้ที่มีรายได้น้อย และมีทรัพย์สินอยู่ก็ต้องเสียภาษีเช่นกัน จึงเป็นเรื่องที่อาจจะมีผลกระทบต่อผู้ที่มีรายได้น้อยด้วย อาจต้องมีภาระมาเสียภาษีเพิ่มขึ้นในอนาคตได้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย. นี้จะเป็นประเด็นสำคัญที่กดดันให้อัตราเงินเฟ้อในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีโอกาสอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่ช่วงสิ้นปีค่าเงินบาทคงไม่อ่อนค่าไปเกิน 32 บาทต่อดอลลาร์ หลังเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น
“เงินบาทปีนี้คง อ่อนค่าลง แต่คงไม่มาก และคงไม่ลงพรวดพราดเหมือนก่อน เป็นการอ่อนค่าโดยไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง ซึ่งผมมองว่าการที่เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยอย่างนี้ ก็น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ส่งออก"
สำหรับแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 55 คาดว่าจะเติบโตได้ 4% โดยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจโดยรวมได้เริ่มกลับมาฟื้นตัวจากช่วงไตรมาส 4 ปีก่อนหน้า ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ทั้งนี้ เศรษฐกิจคงจะเติบโตไม่มากเท่ากับปี 53 เพราะภาคธุรกิจรายหลายต้องปิดกิจการลง โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี ขณะที่ตัวเลขการส่งออกคงเติบโตลดลงอยู่ที่ 14-15% จากอดีตที่ 20% หลังผู้ค้าหลักของไทยอย่างยุโรปนั้นเศรษฐกิจยังคงหดตัว และเศรษฐกิจจีนปีนี้คงจะเติบโตแบบชะลอตัวลงเล็กน้อย ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว
นายอภินันท์ เกลียวปฎินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทุนภัทร กล่าวว่า  ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงสุดในเอเชีย และไม่แน่ใจว่าจะสูงสุดในโลกด้วยหรือไม่ ซึ่งเป็นผลจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย  พอมีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบ จึงหาเหตุผลที่จะขายออกมาเพื่อทำกำไร  โดย การส่งสัญญาณให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงของนายกิติรัตน์อาจมีส่งผลให้แรงซื้อของ ต่างชาติชะลอลงบ้าง แต่มองว่าเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น
นายจรัม พร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) กล่าวว่า การที่ธุรกิจที่มีศักยภาพจะเติบโตจากการดำเนินธุรกิจปกติเท่านั้น อาจไม่ทันต่อการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ดังนั้น การควบรวมกิจการจึงเป็นประโยชน์มากที่ภาคธุรกิจจะเลือกใช้ เพื่อเพิ่มมูลค่าของกิจการ เพื่อได้ประโยชน์จากการประหยัดในเชิงขนาด ทำให้บริษัทเข้มแข็ง เติบโต ตลท.พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการผลักดันให้การควบรวมกิจการเป็นวาระสำคัญ ในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสร้างโอกาสให้แก่บริษัทจดทะเบียนในตลท.รวมถึงผู้ลงทุนด้วย
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

คลังปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปี55 ขยายตัวเพิ่มจาก 5% เป็น 5.5%

วันนี้ ( 26 มี.ค.) นายสมชัย  สัจจพงษ์  ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)  กระทรวง การคลังเปิดเผยว่า สศค. ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2555 ใหม่ คาดว่าจะขยายตัวในอัตราเร่งที่ระดับ 5.5% มีช่วงการคาดการณ์ที่ 5-6% เพิ่มขึ้นจากที่ประเมินไว้เดิม 5% และเป็นการฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติเทียบกับปีก่อนที่ขยายตัว 0.1%  เนื่องจากมองว่าการลงทุนทั้งของภาครัฐและภาคเอชนรวมถึงการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นตัวขัยเคลื่อนที่สำคัญ
 
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวจากปีก่อน 3.3% มาอยู่ที่ 11.9%  ส่วนการลงทุนภาครัฐจากที่ติดลบ 8.7% ปีก่อนมาขยายตัวที่ระดับ 12.1%  ส่วนการบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.3% ปีก่อนมาอยู่ที่ 4.5% เท่ากับการบริโภคของภาครัฐที่ขยายตัว 4.5% สำหรับ การส่งออกคาดว่าจะชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจโลกที่ยังมีแนวโน้มอ่อนแอต่อไปอีก ระยะหนึ่ง โดยเฉพาะยุโรปและต้องจับตาเศรษฐกิจของจันด้วย ส่งผลการส่งออกจะขยายตัวลดลงจากปีก่อนที่ 15% เหลือเพียง 13.5%  ขณะ ที่การนำเข้ายังสูงในระดับ 23.3% จากการลงทุนที่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตามจากการเกินดุลการค้าที่จะเกินดุลลดลงในปีนี้จาก 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐเหลือ  7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ปีนี้ไทยจะเริ่มมีปัจจัยเสี่ยงจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ระดับ 0.9% ของจีดีพี หรือประมาณ 3,500 ล้านเหรียญ
 
“แม้ว่าตามหลักแล้วการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไม่ควรเกิน0.3% แต่การขาดดุลในปีนี้ เป็นผลมาจากาการนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์เพื่อการลงทุน ไม่ใช่ขาดดุลจากการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย  จึงไม่ใช่สิ่งเลวร้ายแต่เป็นการติดลบอย่างมีคุณภาพ แม้การขาดดุลจะหมายถึงการมีหนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นแต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่ จะนำมาซึ่งรายได้ในอนาคต และมั่นใจว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดคงไม่ เกิน 1-2 ปีนี้ ส่วนเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก  3.4% % มาอยู่ที่  3.6 % โดยคำนึงถึงการปรับเพิ่มค่าแรงและราคามันที่สูงขึ้นไว้แล้ว”
 
นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจเดือนก.พ.ที่ผ่านมานั้น เริ่มมีสัญญาณการฟื้นคัวในทุกด้านทั้งการ การบริโภคและการลงทุน การจำหน่ายรถยนต์นั่ง รถจักรยานยนต์   ทำให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้จะกลับมาขยายตัวเป็น บวกได้จากที่หดตัว 9.0% ในไตรมาส 4 ของปีก่อน และไตรมาสต่อไปก็จะขยายตัวเป็นบวกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนสูงสุดในไตรมาส 4 ของปีนี้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าราคาน้ำมันดิบทั้งปี เฉลี่ยอยู่ที่ 118 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล มีค่าสูงสุดที่ 123 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนที่ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 30.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ พร้อมทั้งคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้อยู่ที่ 3.25% จากขณะนี้อยู่ 3% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 3.6% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 2.3% ส่วนการส่งออกคาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 13.5% ทั้งนี้ปัจจัยที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจปีนี้โต มาจากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนสูงถึง 41% ของจีดีพี และเงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้เพื่อบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท และผลจากฐานปีที่ผ่านมาต่ำ
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

หุ้นไทยปิดตลาด ลดลง 6.12 จุด



ผู้สื่อข่าว รายงานจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันที่ 26 มี.ค.นี้ เคลื่อนไหวแกว่งตัวผันผวนตลอดวัน และดัชนีปรับตัวดิ่งลงแรงในช่วงบ่าย โดยมีแรงขายออกมาในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มพลังงาน ทำให้ดัชนีปิดตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องจาก สัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับ นักลงทุน ยังรอข่าวบวกใหม่ๆ มากระตุ้นการลงทุนอยู่ โดยดัชนีปิดตลาด ที่ระดับ 1,188.32 จุด ลดลง 6.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24,389.16 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็ม เอ ไอ ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 290.39 จุด ลดลง 0.86 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 327.12 ล้านบาท
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

หุ้นไทยภาคเช้าสดใสทะยานปิดบวก15.49จุด


วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตลาดหุ้นไทยในภาคเช้าว่า ดัชนีปิดตลาดที่ 1,203.81 จุด เพิ่มขึ้น 15.49 จุด โดยระหว่างภาคเช้า ดัชนีปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 1,204.27 จุด และต่ำสุดที่ 1,197.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,785.68 ล้านบาท ขณะที่ตลาดเอ็มเอไอ ปิดตลาดที่ 291.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 244.06 ล้านบาทบล.ฟิลลิป มองว่า ภาพรวมระหว่างวันดัชนีจะเผชิญความผันผวนสูง และน่าจะมีแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมาเป็นระยะ โดยปัจจัยบวกที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน ได้แก่ สภาพคล่องที่ยังหนุนการลงทุนทั่วโลก หลังจากนายเบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ออกมาแถลงข่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องขยายตัวเร็วขึ้น เพื่อให้อัตราการว่างงานลดลง จึงเกิดความหวังว่าเฟดอาจดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณอีกรอบ รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติต่างชาติยังเดินหน้าสะสมหุ้นไทยต่ออีก
สำหรับคำแนะนำการลงทุน ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรต่อในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และหุ้นพลังงานที่รับอานิสงส์จากการดีดตัวของราคาน้ำมัน
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

3 เอกชนจับมือลุยโครงการอสังหาฯยักษ์


วันนี้ ( 27 มี.ค.) นางชฎาทิพย์  จูตระกูล  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดเผยว่า สยามพิวรรธน์ ได้จับมือกับ บริษัท  แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านเจริญนคร ขนาดพื้นที่ 40 ไร่ ในเบื้องต้นวางงบลงทุนไว้ 35,000 ล้านบาท เพื่อวางเป้าหมายให้เป็น โครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่สุดที่เอกชนไทยทำมาในประวัติศาสตร์ และต้องการให้เป็น จุดหมายท่องเที่ยว (เวิลด์ เดสทิเนชั่น) แห่งใหม่ของโลก คาดว่า จะสามารถเปิดให้บริการในปี 58 รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
พร้อมกันนี้ ได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาจำนวน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท แกรนด์ ริเวอร์ เพลส คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท แกรนด์ ริเวอร์ พาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท แกรนด์ ริเวอร์ ฟรอนท์ คอร์ปอเรชั่น  จำกัด เข้ามาบริหารงาน สัดส่วนการถือหุ้นของโครงการแบ่งเป็นบริษัท สยามพิวรรธน์ ถือหุ้น 50% บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น 25% และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ 25% 
นางทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  กล่าวว่า ที่ดินในโครงการนี้ได้ซื้อมาจาก บริษัท สยามอรุณ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในช่วงปีก่อน และมองว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพ และอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถพัฒนาเป็นโครงการระดับโลกได้ จึงได้ร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีก ทั้งสยามพิวรรธน์ และเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยที่ดินมีราคาประมาณ 4,000 ล้านบาท
“เป้าหมายที่เอกชนจับมือกันทำโครงการใหญ่ในครั้งนี้ เพราะต้องการสื่อให้ต่างประเทศเห็นว่า ประเทศไทยยังมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีอยู่ และเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นประเทศที่มีศักยภาพดึงดูดการลงทุนที่ดีอยู่”.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

หุ้นไทยสดใสปิดตลาดสูงสุดของวันเพิ่มขึ้น18.97จุด


วันนี้( 27 มี.ค. ) ตลาดหุ้นไทยดัชนีทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยระหว่างวันต่ำสุดที่ 1,197.82 จุด ก่อนปรับขึ้นจนกระทั่งปิดตลาดที่ระดับสูงสุดของวันที่ 1,207.29 จุด เพิ่มขึ้น 18.97 จุด หรือ 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 33,176.64 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ดัชนีปิดที่ 292.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 480.10 ล้านบาท
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 28 มี.ค. คาดว่า ดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อ หากไม่มีปัจจัยบวกใดมาเพิ่มเติม ดัชนีก็อาจปรับขึ้นน้อยลง ระหว่างวันอาจอ่อนตัวบ้าง โดยมีแนวรับที่ 1,198 จุด และแนวต้านที่ 1,215 จุด สำหรับคำแนะนำการลงทุนคือ ให้เข้าซื้อหุ้นเมื่อดัชนีอ่อนตัว โดยเน้นหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และสื่อสาร ที่ราคาหุ้นยังไม่แพงมาก ส่วนหุ้นกลุ่มที่ควรชะลอการลงทุนได้แก่ ธนาคาร และค้าปลีก

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

โกร่งแนะผู้ประกอบการไปเพื่อนบ้านหากสู้ค่าแรงไม่ไหว


วันนี้ (27 มี.ค.) นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมหารือกับนายนาโอะยูกิ ชิโนฮาระ รองกรรมการผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ว่า ไอเอ็มเอฟได้สอบถามถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยได้ชี้แจงไปว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาททั่วประเทศเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว และถึงเวลาที่ผู้ประกอบการจะต้องยอมรับหากผู้ประกอบการรายใดที่ได้รับผลกระทบและไม่สามารถปรับตัวได้ก็ให้ย้ายโรงงานไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงถูกกว่า ส่วนรัฐบาลก็จะรับหน้าที่จัดหามาตรการเข้าส่งเสริมให้ผู้ประกอบการย้ายฐานการผลิตต่อไป
“ต้องทำความเข้าในว่าไทยขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมหลายอย่าง และที่มีอยู่ก็เป็นแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายกว่า 10 ล้านคน ดังนั้นจึงต้องทำใจว่าไทยจะเอาอุตสาหกรรมทุกอย่างไว้ในประเทศไม่ได้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องหนัง รวมทั้งเอสเอ็มอี ก็ควรย้ายไปเพื่อนบ้านที่ค่าแรงถูก ส่วนที่อยู่ในประเทศก็ต้องเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับผลตอบแทน”

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

เต้นชงส.ก.ย.อัดเงิน 5 พันล้าน


วันนี้(27มี.ค.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเสนอที่ประชุมพิจารณามาตรการจูงใจให้กับเกษตรการที่โค่นต้นยางพาราที่มีอายุเกิน 30 ปี เพื่อทำการปลูกยางใหม่ โดยให้ส.ก.ย. จัดสรรวงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยการโค่นต้นยางตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.54-30ก.ย.55 เพิ่มเติมอีก 10,000 บาทต่อไร่ จากเดิมที่ได้รับเงินชดเชย 16,000 บาทต่อไร่ โดยตั้งเป้าหมายการโค่นต้นยางให้ได้ 500,000 ไร่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยรักษาเสถียรภาพของยางพาราในประเทศให้มีราคาสูงขึ้น
“มองว่าตอนนี้ผลผลิตยางของประเทศมีปริมาณสูง โดยเฉลี่ยมีผลผลิตอยู่ที่ 3.5 ล้านตันต่อปี ขณะที่สต๊อกยางพาราโลกมีอยู่เพียง 1.1 ล้านตันเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องรณรงค์ให้เกษตรกรโค่นยางเพื่อปลูกยางใหม่ เพราะเฉลี่ยปัจจุบันเกษตรกรจะโค่นยางเพียง 200,000 ไร่ต่อปีเท่านั้น และเมื่อโค่นแล้วส.ก.ย.จะอุดหนุนเงินให้ แต่ครั้งนี้เราจะเพิ่มให้เป็นพิเศษ โดยตั้งเป้าหมายให้ราคายางสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันราคายางจะอยู่ที่ 108-112 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น”
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกยางพารา ตามโครงการปลูกยางพารา 800,000 ไร่ ซึ่งปัจจุบันเหลือพื้นที่ที่ต้องเพาะปลูกอยู่ 656,500 ไร่ โดยทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดพื้นที่เพาะปลูกจะต้องระมัดระวังการเข้าไปทับซ้อนพื้นที่ของป่าไม้ และเขตป่าสงวน ซึ่งการจะเข้าไปดำเนินการได้นั้นเกษตรกรจะต้องมีเอกสารสิทธิ์การใช้ที่ดินทำกินด้วย ส่วนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สสช.) เห็นว่า การเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกยังต้องคำนึงถึงผลผลิตที่จะออกมาในปริมาณสูงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกลไกราคายางในตลาดด้วย
ทั้งนี้ที่ประชุมยังแต่งตั้งคณะอนุกรรมการยางพาราแห่งชาติ เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ยางพาราแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมารฯจะประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เอกชน รัฐวิสาหกิจและตัวแทนเกษตรกรเข้าร่วมปรึกษา ในรูปแบบการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์คช็อป) โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ในการส่งออกยางพาราให้ได้ 1 ล้านล้านบาทต่อปีในปี 56 จากปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 680,000 ล้านบาท

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

ไฟว์สตาร์ คว้า สถานีสุดท้าย ทำเพลงประกอบภาพยนตร์


กำลังฮอตฮิต ติดลมบนเลยทีเดียวสำหรับศิลปินวง รูม 39 เจ้าของเพลงฮิตติดหู “หน่วง” และ “ระบายเฉย ๆ” ล่าสุดเสือปืนไวอย่างไฟว์สตาร์ฯ จึงรีบคว้าซิงเกิ้ลที่ 3 “สถานีสุดท้าย” ที่ขับร้องโดย “มน” หญิงสาวหนึ่งเดียวของวง แต่งโดยเจ้าพ่อเพลงรัก “บอย โกสิยพงษ์” มาทำเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ระทึกขวัญ 3 มิติ “407 เที่ยวบินผี” นำแสดงโดย มาช่า วัฒนพานิช และ ปีเตอร์ ไนท์ และเพียงแค่ได้ยินเรื่องราวของภาพยนตร์ “บอย โกสิยพงษ์ ” ก็ถึงกับตบหน้าตักบอกว่า “สถานีสุดท้าย” ช่างเหมาะกับ “407 เที่ยวบินผี” จริง ๆ.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

เกมล่าเกม สร้างปรากฏการณ์ ยึดตำแหน่ง อันดับ 1 ทุกประเทศที่เข้าฉาย


กลายเป็นภาพยนตร์ที่มากกว่าคำว่าปรากฏการณ์ไปแล้วสำหรับ “เดอะ อังเกอร์ เกมส์” หรือชื่อภาษาไทยว่า “เกมล่าเกม” ที่ทำลายทุกสถิติเป็นว่าเล่น ตั้งแต่ยอดจองตั๋วล่วงหน้า รายได้รอบมิดไนท์และล่าสุด เดอะ อังเกอร์ เกมส์ ได้สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ด้วยรายได้เปิดตัวในอเมริกา 3 วัน( 23-25 มีนาคม) ที่กวาดรายได้ไปถึง 155 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 4,805 ล้านบาท จากโรงฉาย 4,137 โรง จอฉาย 10,000 จอ

ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของภาพยนตร์ภาคแรกที่เปิดตัวสุดสัปดาห์ด้วยตัวเลขที่สูงสุดตลอดกาล และเมื่อนับรวมภาพยนตร์ทุกเรื่อง เดอะ อังเกอร์ เกมส์ เป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดตลอดกาลในอันดับที่ 3 ตามหลังเพียง แฮร์รี่ พอตเตอร์เท่านั้น

นอกจากกระหึ่มทุกสถิติในโลกแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับการคาดหมายว่า จะทำสถิติรายได้ขึ้นอันดับ 1 ในทุกประเทศที่เข้าฉายและแน่นอนรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยภาพยนตร์ได้เปิดฉายพร้อมกัน 67 ประเทศทั่วโลก ด้วยจำนวนโรงฉายประมาณ 7,700 โรง โดยรายได้นอกอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 59.25 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ยอดรวมรายได้ทั่วโลกสุดสัปดาห์แรกอยู่ที่ 214 ล้านเหรียญสหรัฐ.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

อัพเดทหนังใหม่ วันที่ 28 มีนาคม 2555


สงครามมหาเทพพิโรธ
แนวแอ๊คชั่น
ผู้กำกับโจนาธาน ลีเบสแมน
นักแสดงแซม เวิร์ทธิงตัน, เลียม นีสัน, บิล ไนท์ลี่ย์, ราฟล์ไฟล์น
กำหนดฉาย 29 มีนาคม 55
เรื่องย่อ

สิบปีหลังจากวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ที่เอาชนะอสูรทะเล คราเคนได้ เพอร์เซอุส โอรสกึ่งเทพของมหาเทพเซอุส ได้พยายามกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบในหมู่บ้านชาวประมง และเลี้ยงดูลูกชายเฮเลียส วัย 10 ขวบ ตามลำพัง

ขณะเดียวกันก็เกิดการชิงอำนาจกันระหว่างเทพและไตตัน ด้วยความที่ขาดการบูชาจากมนุษย์ ทำให้เหล่าเทพเริ่มอ่อนพลังในการควบคุมไตตันที่ถูกคุมขังเอาไว้ รวมถึงโครโนส พญายักษ์ผู้เกรี้ยวกราดผู้นำของเหล่าไตตัน บิดาของมหาเทพเซอุส, เทพฮาเดส และ โปเซดอน

เทพทั้งสามโค่นอำนาจของบิดาเมื่อนานมาแล้ว และส่งให้ไปจองจำอยู่ในคุกใต้โลกทาร์ทารัสเพอร์ เซอุส ไม่อาจเพิกเฉยต่อชะตาที่แท้จริงของเขาได้ เมื่อฮาเดสร่วมมือกับอาเรส โอรสเทพของเซอุส แปรพักตร์ไปอยู่ฝ่ายไตตัน และทำข้อตกลงกับโครโนสในการจับกุมเซอุสไว้ อำนาจของไตตันเริ่มทวีคูณขึ้นเมื่อเซอุสอ่อน กำลังลง และนับแต่นั้นนรกได้คุกคามโลก
รัก 555 อย่าท้าก๋อย!
แนวตลก
ผู้กำกับจตุรงค์ พลบูรณ์
นักแสดงปกฉัตร เทียมชัย, สตาร์บัค, พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล, จตุรงค์ พลบูรณ์, จิ้ม ชวนชื่น, ชมพร เทียมชัย, สลับเนตร สาลินี
กำหนดฉาย 29 มีนาคม 55
เรื่องย่อ

พิมพ์ชนก หรือ พิม นักกีฬาว่ายน้ำสาวหน้าตาดีแต่ฝีมือไม่เอาไหน นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ แต่ปัญหาของเธอจริง ๆ นั้นคือแข่งว่ายน้ำแต่ละครั้ง เธอต้องการเงินจากการแข่งขันเพื่อนำมาช่วยรักษาเพื่อนรักที่กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือด อีกด้านหนึ่งคณะผู้จัดการแข่งขันที่ใช้ชื่อว่า “ว่ายน้ำตามใจผู้จัด” (เป็นการแข่งขันว่ายน้ำแบบพิสดาร อาทิ ปิดตาว่าย, เอายางรัดหน้าว่าย, ผูกขาว่าย ฯลฯ) ซึ่งผู้จัดงานเล็งเห็นว่าพิมสามารถดึงดูดคนดูได้ เพราะหน้าตาสวยถึงแม้ฝีมือจะไม่เอาไหนก็ตาม จึงให้โฟกัส เป็นธุระช่วยจัดหาโค้ชให้กับพิมและโค้ชผู้นั้นก็คือ ฮายาโตะ หนุ่มใหญ่แดนอาทิตย์อุทัยผู้ซึ่งเคยเป็นอดีตนินจานักฆ่า ที่ตัดสินใจหันหลังให้กับวงการ

ด้วยการว่ายน้ำจากเกาะฮอกไกโด ข้ามผ่านฮ่องกง ไต้หวัน ไหหลำ ผ่านอ่าวตังเกี๋ย แล้วมาขึ้นฝั่งที่บางปิ้ง โดยติดมากับอวนของชาวประมง แต่สุดท้ายฮายาโตะก็มาเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นเล็ก ๆ ขึ้นในเมืองหลวง เพียงเพื่อหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งฮายาโตะคงจะได้พบหน้ากับรุ่นพี่อย่างบาบะ ที่พลัดพรากกันระหว่างทางที่ว่ายน้ำตามด้วยกันมา นั่นคือความหวังอันสูงสุดของฮายาโตะ เพราะบาบะเป็นคน ๆ เดียวที่ฮายาโตะยอมก้มหัวให้เพราะครั้งหนึ่งบาบะเคยช่วยชีวิตเขาไว้

ฮายาโตะถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาว่ายน้ำให้พิมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่มีเดิมพันเป็นเงินรางวัลจำนวนมหา ศาล และการได้ถูกบันทึกชื่อลงกินเนสส์บุ๊ก แต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อคู่แข่งคนสำคัญของพิมคือ แอนนา ฉายาสปีดโบ๊ตนรก อดีตเพื่อนรักคนสนิทของพิมและข้าวหอม ซึ่งแอนนามีโค้ชประจำตัวคือบาบะ เพื่อนรุ่นพี่ของฮายาโตะนั่นเอง เป้าหมายสูงสุดอย่างเดียวของแอนนาคือต้องการชนะการแข่งขันและมีชื่อบันทึกในกินเนสส์บุ๊ก โดยที่เธอไม่สนใจมิตรภาพความเป็นเพื่อนที่เคยมีให้กับพิมมาก่อน ส่วนอีกด้าน แฟรงก์เฟิร์ต แฟนหนุ่มของพิม ผู้ที่เป็นคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างและคอยเป็นกำลังใจให้พิมอยู่ตลอดเวลาเพียงเพราะว่ารัก แล้วมิตรภาพระหว่างพิมและแอนนาจะกลับมาเป็นเพื่อนรักกันได้เหมือนเดิมหรือไม่ ต้องไปติดตามชมกันในโรงภาพยนตร์
ผิดแผนรัก พลิกแผนเลิฟ
แนวตลก, โรแมนติก, ดราม่า, มิวสิคอล
ผู้กำกับชาคุน บาทร่า
นักแสดงอิมราน คาน, คารินา คาปู้, แรม คาปู้, บูมาน ไอรานิ, ราทน่า ปาทราค
กำหนดฉาย29 มีนาคม 55 / เข้าฉายเฉพาะ พารากอน
เรื่องย่อ

เรื่องราวเกิดขึ้นที่รัฐลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อราฮุน สถาปนิกหนุ่มวัย 26 ปี ผู้ที่มีชีวิตเป็นไปตามที่พ่อแม่วางไว้ให้ทุกอย่างและเขาก็พอใจกับการมีชีวิตแบบนั้น แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่มาวันหนึ่งเขาตกงาน ด้วยความกลัวว่าพ่อแม่จะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาจึงตัดสินใจปิดบังความลับนี้ไว้ และพยายามหางานใหม่ทำ

และแล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็ทำให้เขาได้มาพบกับไรน่า ช่างแต่งผมที่ใช้ชีวิตแบบอิสระ ซึ่งตรงกันข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง ทั้งคู่พบกันที่บาร์แห่งหนึ่งในวันขอบคุณพระเจ้า หลังจากดื่มเหล้าด้วยกันจนเมาแทบจะไม่ได้สติ พอตื่นเช้าขึ้นมาทั้งคู่พบว่า
ได้เข้าพิธีแต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่เลยตัดสินใจให้การแต่งงานที่เกิดขึ้นนั้นเป็นโมฆะอย่างเร็วที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้

โดยศาลตัดสินให้ทั้งคู่เข้ามาให้การในชั้นศาลอีกสิบวันข้างหน้า ช่วงระหว่างสิบวันก่อนถึงวันให้การนั้น ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันซึ่งมีทั้งทะเลาะกันบ้าง โต้เถียงกันบ้าง และที่สำคัญคือทั้งคู่มีความสุขด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ทั้งคู่มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันมากกว่าคำว่าเพื่อน เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร เว้นวรรคให้ต่อเติมเอง.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th 

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources