วันนี้ (27 ส.ค.)น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง
แสดงความรับผิดชอบหลังออกมายอมรับว่าได้โกหกเกี่ยวกับตัวเลขการส่งออกของ
ประเทศ ที่จะขยายตัวถึงร้อยละ 15 ว่า เชื่อว่าทุกคนมีเจตนาดีสำหรับประเทศ
ซึ่งนายกิตติรัตน์เองก็มีเจตนาดี คงไม่มีเหตุผลในการที่จะมาปกปิดอะไร
และตัวเลขที่นำมาอ้างอิงก็เป็นตัวเลขที่เป็นข้อมูลจริงที่ต้องนำมาชี้แจงต่อ
ประชาชนอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าแต่การออกมาพูดดังกล่าวของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะฉุดความเชื่อมั่น
ต่อนักลงทุนและภาคเศรษฐกิจต่างๆได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
เชื่อว่านายกิตติรัตน์ไม่มีเจตนาที่ไม่ดี
ถ้ามีเจตนาจริงท่านก็คงไม่พูดคำนี้
เมื่อถามว่า นายกิตติรัตน์อ้างว่ามีคนอนุญาตให้สามารถพูดโกหกได้ในบางเรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน ไม่ได้มีคำสั่งอะไรจากใครที่จะให้นายกิตติรัตน์ออกมาพูดเรื่องที่ไม่จริง เรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจไม่มีใครจะสั่งได้ ข้อมูลที่ปรากฎออกมานั้นเป็นตัวเลขจริงทั้งหมด และสำหรับตัวเลขการส่งออกที่แท้จริงนั้น ในวันนี้ทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงานว่า ณ ครึ่งปีอยู่ที่กว่า 7 % เดิมทีกระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าตลอดทั้งปีที่ 15 % แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะสถานการณ์ความผันผวนในตลาดยุโรป จึงทำให้ตัวเลขการส่งออกลดลง ซึ่งตนและรัฐบาลก็พยายามเร่งตัวเลขในส่วนอื่นๆเข้ามาช่วย ดังนั้นจึงเชื่อว่าตัวเลขการส่งออกตลอดทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 8-9 %
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ลงไปดูแลในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่ได้ รับผลกระทบเรื่องการส่งออก โดยภาพรวมคงจะต้องดูในหมวดอื่น ๆ ที่มีศักยภาพที่จะเร่งตัวเลขการส่งออกให้มากขึ้น และสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่มีตัวเลขการส่งออกลดลงนั้น ภาครัฐก็จะเข้าไปดูแลประคองธุรกิจให้ ส่วนระยะยาวก็จะมีการสนับสนุนสร้างความแข็งแรงของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการเกษตร
เมื่อถามว่า นายกิตติรัตน์อ้างว่ามีคนอนุญาตให้สามารถพูดโกหกได้ในบางเรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน ไม่ได้มีคำสั่งอะไรจากใครที่จะให้นายกิตติรัตน์ออกมาพูดเรื่องที่ไม่จริง เรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจไม่มีใครจะสั่งได้ ข้อมูลที่ปรากฎออกมานั้นเป็นตัวเลขจริงทั้งหมด และสำหรับตัวเลขการส่งออกที่แท้จริงนั้น ในวันนี้ทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงานว่า ณ ครึ่งปีอยู่ที่กว่า 7 % เดิมทีกระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าตลอดทั้งปีที่ 15 % แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะสถานการณ์ความผันผวนในตลาดยุโรป จึงทำให้ตัวเลขการส่งออกลดลง ซึ่งตนและรัฐบาลก็พยายามเร่งตัวเลขในส่วนอื่นๆเข้ามาช่วย ดังนั้นจึงเชื่อว่าตัวเลขการส่งออกตลอดทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 8-9 %
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ลงไปดูแลในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่ได้ รับผลกระทบเรื่องการส่งออก โดยภาพรวมคงจะต้องดูในหมวดอื่น ๆ ที่มีศักยภาพที่จะเร่งตัวเลขการส่งออกให้มากขึ้น และสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่มีตัวเลขการส่งออกลดลงนั้น ภาครัฐก็จะเข้าไปดูแลประคองธุรกิจให้ ส่วนระยะยาวก็จะมีการสนับสนุนสร้างความแข็งแรงของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการเกษตร