เมื่อเวลา 09.45 น. วันนี้( 27 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
อดีตนายกรัฐมนตรี
เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอเพื่อเข้าให้ปากคำในคดีการเสียชีวิตของ
เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน จำนวน 91 ศพ จากเหตุชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี
2553 โดยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ
ได้มารอต้อนรับและทักทายพูดคุยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โดยนายอภิสิทธิ์
ได้สอบถามนายธาริต ว่า สบายดีไหม ขณะที่นายธาริต
ตอบรับว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นนายธาริตได้พานายอภิสิทธิ์
ขึ้นไปส่งที่ห้องสอบสวน ชั้น 7
ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดเตรียมไว้สำหรับสอบปากคำนายอภิสิทธิ์
ขณะเดียวกันได้มีหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อสีเหลืองนำดอกกุหลาบมามอบเป็นกำลังใจ
ให้นายอภิสิทธิ์ ขณะที่นายวรัญชัย โชคชนะ
ได้เตรียมป้ายกระดาษมาประท้วงนายอภิสิทธิ์แต่ประท้วงไม่ทันเพราะนาย
อภิสิทธิ์เดินทางถึงก่อนเวลานัดหมาย
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ กล่าวก่อนเข้าให้ปากคำพร้อมทนายความ เพียงสั้น ๆว่า ได้เตรียมเอกสารลำดับเหตุการณ์เพื่อเข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวนซึ่งในชั้น นี้ไม่มีสิ่งใดน่าหนักใจเพราะคดีเป็นนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคดี ก่อการร้าย ตนจึงเตรียมคำให้การเพื่อชี้แจงและอธิบายเหตุจนนำไปสู่การสั่งสลายการ ชุมนุม ส่วนจะต้องนำเอกสารใดยื่นประกอบคำให้การบ้างนั้นคงต้องขอฟังทางพนักงานสอบ สวนว่ามีประเด็นใดต้องการซักถามบ้าง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าให้ข้อมูลกับกรรมการสิทธิ์(กสม.) และคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.) ไปแล้ว
นายธาริต กล่าวว่า การสอบสวนวันนี้จะมีประเด็นใดบ้างเป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยคดีดังกล่าวจะมีพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ตำรวจ และพนักงานอัยการร่วมสอบปากคำ ในส่วนดีเอสไอมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นผู้รับผิดชอบคดี ซึ่งการเรียกนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) เข้าให้ปากคำเชื่อว่าจะทำให้ข้อมูลมีความรอบด้านมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ได้สอบถามถึงระยะเวลาในการสอบสวนคดี ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าอาจต้องใช้เวลา ยังตอบไม่ได้จะเสร็จเมื่อไหร่ แต่การเรียกเข้าสอบครั้งเป็นการเรียกสอบในฐานะพยาน ไม่มีสิ่งใดน่ากังวล โดยตนได้ชี้แจงถึงคณะทำงานที่เกี่ยวข้องในคดีให้ทราบด้วย
เมื่อถามว่าตนจะต้องเข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอในฐานะเคยเป็นกรรมการ ศอฉ. หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า คงไม่ เพราะเป็นเพียงข้าราชการพลเรือนที่เข้าไปทำหน้าที่ในศอฉ. แต่ไม่เคยร่วมประชุมกับฝ่ายยุทธการ ในประเด็นนี้คงไม่ขอชี้แจงอีกแล้ว
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ กล่าวก่อนเข้าให้ปากคำพร้อมทนายความ เพียงสั้น ๆว่า ได้เตรียมเอกสารลำดับเหตุการณ์เพื่อเข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวนซึ่งในชั้น นี้ไม่มีสิ่งใดน่าหนักใจเพราะคดีเป็นนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคดี ก่อการร้าย ตนจึงเตรียมคำให้การเพื่อชี้แจงและอธิบายเหตุจนนำไปสู่การสั่งสลายการ ชุมนุม ส่วนจะต้องนำเอกสารใดยื่นประกอบคำให้การบ้างนั้นคงต้องขอฟังทางพนักงานสอบ สวนว่ามีประเด็นใดต้องการซักถามบ้าง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าให้ข้อมูลกับกรรมการสิทธิ์(กสม.) และคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.) ไปแล้ว
นายธาริต กล่าวว่า การสอบสวนวันนี้จะมีประเด็นใดบ้างเป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยคดีดังกล่าวจะมีพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ตำรวจ และพนักงานอัยการร่วมสอบปากคำ ในส่วนดีเอสไอมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นผู้รับผิดชอบคดี ซึ่งการเรียกนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) เข้าให้ปากคำเชื่อว่าจะทำให้ข้อมูลมีความรอบด้านมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ได้สอบถามถึงระยะเวลาในการสอบสวนคดี ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าอาจต้องใช้เวลา ยังตอบไม่ได้จะเสร็จเมื่อไหร่ แต่การเรียกเข้าสอบครั้งเป็นการเรียกสอบในฐานะพยาน ไม่มีสิ่งใดน่ากังวล โดยตนได้ชี้แจงถึงคณะทำงานที่เกี่ยวข้องในคดีให้ทราบด้วย
เมื่อถามว่าตนจะต้องเข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอในฐานะเคยเป็นกรรมการ ศอฉ. หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า คงไม่ เพราะเป็นเพียงข้าราชการพลเรือนที่เข้าไปทำหน้าที่ในศอฉ. แต่ไม่เคยร่วมประชุมกับฝ่ายยุทธการ ในประเด็นนี้คงไม่ขอชี้แจงอีกแล้ว
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น