ตำรวจกองปราบ เยี่ยมชมโครงการ "ตร.ผู้รับใช้ชุมชน" ของตำรวจรัฐปะลิส
มาเลเซีย ร่างข้อสรุปเป็นแนวทางปรับใช้กับพื้นที่ จว.ชายแดนภาคใต้
วันนี้ ( 26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ ผกก.6
บก.ป. พร้อมด้วยพ.ต.ท.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย สว.กก.6 บก.ป.และเจ้าหน้าที่
กก.6 บก.ป.เข้าเยี่ยมชมโครงการตำรวจผู้รับใช้ชุมชนของตำรวจรัฐปะลิส
ประเทศมาเลเซีย
เพื่อนำแนวทางการดำเนินโครงการดังกล่าวมาปรับใช้กับหน่วยงานซึ่งมีขอบเขต
หน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ต.อ.ทินกร กล่าวว่า การไปเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับตำรวจรัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย ทำให้ได้บทสรุปเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ดังนี้ 1.หัวหน้าตำรวจรัฐปะลิส จะลงพื้นที่ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน โดยกระทำอย่างต่อเนื่อง เป็นแบบอย่างจนตำรวจที่เกี่ยวข้องก็จะทำกัน ต้องทำให้ชาวบ้านรักและไว้ใจ หาแนวทางทำให้เกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา โดยมีความจริงใจ สม่ำเสมอ สร้างแนวร่วมเครือข่ายเพื่อนตำรวจ อาสาสมัคร เปิดช่องทางการติดต่อสื่อสาร แจ้งข่าว ให้ความรู้ในการระวังป้องกันภัยทั้งต่อตนเอง และชุมชน
2.งานช่วยเหลือชาวบ้าน ตำรวจไม่ได้ทำคนเดียว ภาครัฐ มูลนิธิ หรือองค์กรเอกชน ต้องร่วมกันทำ ลงไปยังชุมชน 3.รัฐบาลให้ความสำคัญส่งเสริม ช่วยเหลือ 4.มีการปลูกฝังสร้างความรัก ความเข้าใจระหว่างตำรวจกับประชาชน ตั้งแต่ เด็กๆ เยาวชนโดยตำรวจแต่งเครื่องแบบเข้าไปดูแล พบปะเด็กในโรงเรียน ให้ความรู้ต่างๆ ให้รู้สึกว่าตำรวจใกล้ชิดกับเขา ไว้ใจได้ สัมผัสได้ เด็กก็จะซึมซับความรู้สึกดีไปอย่างเนื่อง และยาวนาน
5.มีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำข้อมูลกลับมาวิเคราะห์ ในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 6.พร้อมให้คำชี้แนะ ปรึกษา แลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝ่ายเรา อาจมีโครงการแลกเปลี่ยนตำรวจ ส่งของเราไปร่วมทำงานกับเขา และส่งตำรวจเขามาทำงานกับเรา และในส่วนของชุมชน เขามีการคุยกันไปบางส่วนในเรื่องเมืองพี่เมืองน้อง แลกเปลี่ยนข้อมูลช่วยเหลือ ส่งเสริม ระหว่างกัน
7.เป็นการเปิดศักราชความร่วมมือของ 2 รัฐแนวชายแดน คือ รัฐปะลิส กับ อ เมือง จ.สตูล แต่ยังไม่เป็นทางการ ในส่วน บช.ก.ตำรวจน้ำ เราจะมีสัมพันธภาพที่ดีมากกับเพื่อนบ้าน เชื่อว่าหากเราทำอย่างต่อเนื่องจริงใจ สม่ำเสมอ ความสัมพันธ์จะแน่นแฟ้ม เป็นหูเป็นตา ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเราทั้งสองฝั่ง และมีความยั่งยืน
8.แผนงานต่อไปจะส่งตำรวจเรา 2 คนไปเรียนภาษามลายู และไปทำงานกับเขา และจะรับตำรวจของเขามาทำงานกับเราที่บ้านหัวทาง คนของเราจะได้ภาษา ความสัมพันธ์ มีต้นทุนเดิมคือทั้ง 2 คนเป็นคนที่เรียนภาษามลายู ฟังได้แต่จะมีคำเฉพาะและสำเนียงแตกต่างกัน เราจะมีล่ามแปลที่สมบูรณ์ คนของเขามาก็จะได้ภาษาเราด้วย และถ่ายทอดภาษาเขาให้เราในบ้านเรา ต่อไปคนของเรา ชาวบ้านเข้าไปก็ไม่ต้องเป็นทางการ เขามาก็ง่าย มีการต้อนรับ รับรอง ดูแลกัน สัมพันธภาพจะดีมาก รองรับประชาคมอาเซียน ซึ่งถึงเวลาที่ต้องทำตามแนวชายแดนไทยทั้งหมด และ 9.ในส่วนเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาเห็นด้วยให้นำแนวทางนี้ไปใช้เพื่อความสงบสุข
พ.ต.อ.ทินกร กล่าวว่า การไปเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับตำรวจรัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย ทำให้ได้บทสรุปเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ดังนี้ 1.หัวหน้าตำรวจรัฐปะลิส จะลงพื้นที่ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน โดยกระทำอย่างต่อเนื่อง เป็นแบบอย่างจนตำรวจที่เกี่ยวข้องก็จะทำกัน ต้องทำให้ชาวบ้านรักและไว้ใจ หาแนวทางทำให้เกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา โดยมีความจริงใจ สม่ำเสมอ สร้างแนวร่วมเครือข่ายเพื่อนตำรวจ อาสาสมัคร เปิดช่องทางการติดต่อสื่อสาร แจ้งข่าว ให้ความรู้ในการระวังป้องกันภัยทั้งต่อตนเอง และชุมชน
2.งานช่วยเหลือชาวบ้าน ตำรวจไม่ได้ทำคนเดียว ภาครัฐ มูลนิธิ หรือองค์กรเอกชน ต้องร่วมกันทำ ลงไปยังชุมชน 3.รัฐบาลให้ความสำคัญส่งเสริม ช่วยเหลือ 4.มีการปลูกฝังสร้างความรัก ความเข้าใจระหว่างตำรวจกับประชาชน ตั้งแต่ เด็กๆ เยาวชนโดยตำรวจแต่งเครื่องแบบเข้าไปดูแล พบปะเด็กในโรงเรียน ให้ความรู้ต่างๆ ให้รู้สึกว่าตำรวจใกล้ชิดกับเขา ไว้ใจได้ สัมผัสได้ เด็กก็จะซึมซับความรู้สึกดีไปอย่างเนื่อง และยาวนาน
5.มีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำข้อมูลกลับมาวิเคราะห์ ในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 6.พร้อมให้คำชี้แนะ ปรึกษา แลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝ่ายเรา อาจมีโครงการแลกเปลี่ยนตำรวจ ส่งของเราไปร่วมทำงานกับเขา และส่งตำรวจเขามาทำงานกับเรา และในส่วนของชุมชน เขามีการคุยกันไปบางส่วนในเรื่องเมืองพี่เมืองน้อง แลกเปลี่ยนข้อมูลช่วยเหลือ ส่งเสริม ระหว่างกัน
7.เป็นการเปิดศักราชความร่วมมือของ 2 รัฐแนวชายแดน คือ รัฐปะลิส กับ อ เมือง จ.สตูล แต่ยังไม่เป็นทางการ ในส่วน บช.ก.ตำรวจน้ำ เราจะมีสัมพันธภาพที่ดีมากกับเพื่อนบ้าน เชื่อว่าหากเราทำอย่างต่อเนื่องจริงใจ สม่ำเสมอ ความสัมพันธ์จะแน่นแฟ้ม เป็นหูเป็นตา ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเราทั้งสองฝั่ง และมีความยั่งยืน
8.แผนงานต่อไปจะส่งตำรวจเรา 2 คนไปเรียนภาษามลายู และไปทำงานกับเขา และจะรับตำรวจของเขามาทำงานกับเราที่บ้านหัวทาง คนของเราจะได้ภาษา ความสัมพันธ์ มีต้นทุนเดิมคือทั้ง 2 คนเป็นคนที่เรียนภาษามลายู ฟังได้แต่จะมีคำเฉพาะและสำเนียงแตกต่างกัน เราจะมีล่ามแปลที่สมบูรณ์ คนของเขามาก็จะได้ภาษาเราด้วย และถ่ายทอดภาษาเขาให้เราในบ้านเรา ต่อไปคนของเรา ชาวบ้านเข้าไปก็ไม่ต้องเป็นทางการ เขามาก็ง่าย มีการต้อนรับ รับรอง ดูแลกัน สัมพันธภาพจะดีมาก รองรับประชาคมอาเซียน ซึ่งถึงเวลาที่ต้องทำตามแนวชายแดนไทยทั้งหมด และ 9.ในส่วนเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาเห็นด้วยให้นำแนวทางนี้ไปใช้เพื่อความสงบสุข
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น