เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง
ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
ได้เดินทางมาที่ศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่อง
มาจากพระราชดำริ ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
เพื่อเตรียมความพร้อมรับเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยมีนายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผวจ.ราชบุรี และนายปิติธรรม ฐิติมนตรี รอง
ผวจ.ราชบุรี นำตรวจดูความเรียบร้อย
ขณะเดียวกัน นายดิสธร ได้เน้นย้ำให้ทหารช่าง จ.ราชบุรี สร้างพลับพลาที่ประทับ ที่ดำเนินการก่อสร้างมาแล้ว 4 วันและแล้วเสร็จไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ดัดแปลงจากอาคารศาลาเอนกประสงค์ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.ราชบุรี หลังคามุงด้วยหญ้าแฝก โดยมีจุดให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรเห็นต้นประดู่ที่พระองค์เสด็จมาทรงปลูกเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2539
ส่วนสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว กรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี นำกำลังทหารพร้อมเครื่องจักรกลหนักเข้าปรับพื้นที่เป็นสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ ชั่วคราวอยู่ทางด้านข้างทางเข้าศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขา ชะงุ้มฯ เพื่อให้มีความพร้อมรับเสด็จพระราชดำเนิน อีกทั้งจัดกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่จากโรงเรียนการบินกำแพงแสน ปรับเตรียมพื้นที่สนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ที่บริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียนหนองโพพิทยา เพื่อให้พระองค์ท่านเสด็จมายังสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี
ส่วนที่บริเวณสนามหญ้าในสหกรณ์โคนมหนองโพ ราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ได้จัดเตรียมสร้างพลับพลาที่ประทับ โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาธิการและผังเมือง ฝ่ายพลับพลาที่ประทับ จัดส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการก่อสร้างและประทับรถยนต์พระที่นั่งมายัง พลับพลาที่ประทับ ภายในสหกรณ์โคนมหนองโพ จากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการความเป็นมาของสหกรณ์ ภายใต้ร่มพระบารมี ตลอด 80 ปี และการสาธิตการรีดนมวัว
ด้าน นายวุฒิพงษ์ กิตติวโรดม ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการเกษตร ส่วนนักวิชาการสัตวบาล กล่าวว่า เมื่อ 16 ปีที่แล้วมีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศูนย์ศึกษาโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม และถือเป็นที่สุดของชีวิต และเมื่อทราบว่าพระองค์จะเสด็จฯมาที่สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จึงรู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่จะมีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์อีกครั้ง สำหรับตนในฐานะประชาชนคนไทยจะทำหน้าที่ช่วยเหลือเกษตรกรให้ดีที่สุดและเต็ม ความสามารถ เพราะสหกรณ์โคนมหนองโพฯเกิดได้จากพระองค์ท่าน
“ถ้าไม่มีในหลวงก็ไม่มีสหกรณ์ ถ้าไม่มีสหกรณ์ตน ก็ไม่มีอาชีพ และไม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และสิ่งที่จะตอบแทนก็คือ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดในการช่วยเหลือเกษตรกรให้อยู่ดีกินดีและมีความ สุข” นายวุฒิพงษ์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.ขวัญใจ หลวงวิเศษ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/1 หมู่ 8 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี สมาชิกสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี เกษตรกรเลขที่ 7652 นำน้ำนมดิบมาขายให้กับสหกรณ์ฯ กล่าวว่า เมื่อปี 2526 เข้าทำงานที่สหกรณ์โคนมหนองโพฯเป็นปีแรกและได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รู้สึกปลาบปลื้มเป็นที่สุด จากนั้นได้เข้าเฝ้ารับเสด็จฯอีกในปี 2538 และพอทราบว่าพระองค์จะเสด็จฯอีกครั้ง จึงรู้สึกดีใจและตื่นเต้น เพราะอยากเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดและอยากมีโอกาสกราบพระบาทพระองค์ท่าน และสิ่งที่ทำได้คือตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด
วันเดียวกัน มีรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าผู้บริหารระดับสูงได้ประชุมเตรียมความ พร้อม เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินติดตามงานโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขา ชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธราราม จ.ราชบุรี ในวันที่ 15 ก.ค.ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ นายดิสธร รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเดินทางลงพื้นที่ในวันที่ 13 ก.ค. เพื่อเตรียมซักซ้อมในการรับเสด็จฯและทดสอบระยะเวลาพระราชดำเนินทอดพระเนตร ภายในโครงการ รวมทั้งถวายการรับเสด็จพระราชดำเนินไปตรวจเยี่ยมสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์
สำหรับหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนิน มีดังนี้ เวลา 13.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระ บรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราชมาถึงศูนย์ฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังพลับพลาที่ประทับ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เลขาธิการกปร. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เฝ้ารับเสด็จฯในเวลา 13.45 น.
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯทอดพระเนตรนิทรรศการความก้าวหน้าของโครงการฯ ทรงปลูกต้นประดู่ ทอดพระเนตรพื้นที่โครงการพื้นที่การฟื้นฟูดินเสื่อมโทรม จากนั้นเสด็จฯไปยังสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ทอดพระเนตรความคืบหน้าการดำเนินการกิจการสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี และทอดพระเนตรการสาธิตการรีดนมวัว จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังโรงพยาบาลศิริราช ถึงอาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช ในเวลา 19.00 น
สำหรับสภาพพื้นที่เขาชะงุ้มก่อนการดำเนินการตามแนวพระราชดำริ มีสภาพเป็นที่ราบเชิงเขา ด้านทิศเหนือติดกับเขาเขียวและลาดต่ำลงสู่ด้านทิศใต้จรดกับถนนสาย หนองกวาง-เขาน้อย มีความลาดชันตั้งแต่ 1-10 เปอร์เซ็นต์ สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง แต่ไม้ใหญ่ถูกตัดออกไปหมดแล้ว สภาพดินเป็นดินตื้น มีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทรายและกรวดลูกรัง มีการซะล้างพังทลายของดิน จนสูญเสียหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์และใช้ประโยชน์ไม่ได้ ทำให้ไม่เหมะสมใช้ทำการเกษตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและสาธิตทดสอบวิธีการพื้นฟูปรับ ปรุงดินเสื่อมโทรม เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ประโยชน์ได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อเป็นรูป แบบและส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่โครงการได้ ศึกษาเรียนรู้วิธีการจัดการดิน น้ำและพืชอย่างถูกต้องยั่งยืน ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และพัฒนาพื้นที่ให้ใช้ในการเกษตรอย่างเหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ พร้อมกับเป็นแหล่งค้นคว้าศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินเสื่อมโทรม ขณะที่สภาพแวดล้อมทำให้เกิดความยั่งยืนในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรดิน น้ำและป่าไม้ให้เป็นไปตามระบบนิเวศและยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจตาม ธรรมชาติของประชาชนทั่วไปด้วย โดยมีพระราชประสงค์ขยายผลด้านสิ่งแวดล้อมไปยังพื้นที่ใกล้เคียงให้ได้ความ อุดมสมบูรณ์อีก 45,018 ไร่ สำหรับโครงการอื่นที่มีรูปแบบเดียวกันที่กรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพหลักรับ ผิดชอบ เช่นโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นราธิวาส โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา ล้วนเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สัมฤทธิ์ผลและขยายผลไปสู่ เกษตรกร ทำให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นจาก 5 พันกว่าโครงการตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ด้าน นายรอยล จิตรดอน ผอ.สำนักงานสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์และทรงตรัสไว้นานแล้วที่จะเสด็จติดตามงานในพระราชดำริของ พระองค์ หลังจากมีพระพลานามัยแข็งแรงดีขึ้น ซึ่งพระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยที่จะทรงงานในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งและปัญหาด้านเกษตรไว้เป็นอันดับแรก
ที่ฝูงบิน 201 รักษาพระองค์ กองทัพอากาศ พล.อ.ต.สมาน สังขรณ์ ผบ.ศูนย์อำนวยการเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ ประชุมร่วมกับนักบินปฏิบัติภารกิจการบินถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเสด็จทอดพระเนตรโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ จ.ราชบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ หมายเลข 36303 ใช้เป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้จัดเฮลิคอปเตอร์พร้อมนักบิน 3 เครื่องและกองทัพบกจัดเฮลิคอปเตอร์ 1 เครื่องร่วมขบวนเสด็จพระราชดำเนิน โดยมีพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.เป็นผู้อำนวยการเดินทาง และมีพล.อ.ต.ถนอมศักดิ์ เย็นเปี่ยม เป็นนักบิน ที่ 1 น.อ.เสริมเกียรติ ก้อนมณี เป็นนักบินที่ 2 ส่วนเฮลิคอปเตอร์อีก 3 เครื่อง เป็นเฮลิคอปเตอร์ติดตามถวายการบินรับใช้ทั้ง 3 พระองค์
วันเดียวกัน นายนิมิต จันทน์วิมล ผวจ.นครปฐม เปิดเผยว่า ในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินตรวจเยี่ยมโครงการพระราชดำริเขาชะงุ้มและสหกรณ์โคนมหนองโพ จ.ราชุรี จากนั้นเสด็จกลับรพ.ศิริราช โดยรถยนต์พระที่นั่งผ่านอ.เมืองนครปฐม นครชัยศรี สามพราน และพุทธมณฑล ในเวลาประมาณ 18.30 น. ชาวนครปฐมได้จัดทำป้ายข้อความทรงพระเจริญ พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้ง 3 พระองค์ ประดับหน้าสำนักงาน บริษัท ห้างร้านและสถานที่ราชการ ตลอดเส้นทางเสด็จ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และร่วมถวายพระพรชัย ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน.
ขณะเดียวกัน นายดิสธร ได้เน้นย้ำให้ทหารช่าง จ.ราชบุรี สร้างพลับพลาที่ประทับ ที่ดำเนินการก่อสร้างมาแล้ว 4 วันและแล้วเสร็จไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ดัดแปลงจากอาคารศาลาเอนกประสงค์ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.ราชบุรี หลังคามุงด้วยหญ้าแฝก โดยมีจุดให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรเห็นต้นประดู่ที่พระองค์เสด็จมาทรงปลูกเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2539
ส่วนสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว กรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี นำกำลังทหารพร้อมเครื่องจักรกลหนักเข้าปรับพื้นที่เป็นสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ ชั่วคราวอยู่ทางด้านข้างทางเข้าศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขา ชะงุ้มฯ เพื่อให้มีความพร้อมรับเสด็จพระราชดำเนิน อีกทั้งจัดกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่จากโรงเรียนการบินกำแพงแสน ปรับเตรียมพื้นที่สนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ที่บริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียนหนองโพพิทยา เพื่อให้พระองค์ท่านเสด็จมายังสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี
ส่วนที่บริเวณสนามหญ้าในสหกรณ์โคนมหนองโพ ราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ได้จัดเตรียมสร้างพลับพลาที่ประทับ โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาธิการและผังเมือง ฝ่ายพลับพลาที่ประทับ จัดส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการก่อสร้างและประทับรถยนต์พระที่นั่งมายัง พลับพลาที่ประทับ ภายในสหกรณ์โคนมหนองโพ จากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการความเป็นมาของสหกรณ์ ภายใต้ร่มพระบารมี ตลอด 80 ปี และการสาธิตการรีดนมวัว
ด้าน นายวุฒิพงษ์ กิตติวโรดม ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการเกษตร ส่วนนักวิชาการสัตวบาล กล่าวว่า เมื่อ 16 ปีที่แล้วมีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศูนย์ศึกษาโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม และถือเป็นที่สุดของชีวิต และเมื่อทราบว่าพระองค์จะเสด็จฯมาที่สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จึงรู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่จะมีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์อีกครั้ง สำหรับตนในฐานะประชาชนคนไทยจะทำหน้าที่ช่วยเหลือเกษตรกรให้ดีที่สุดและเต็ม ความสามารถ เพราะสหกรณ์โคนมหนองโพฯเกิดได้จากพระองค์ท่าน
“ถ้าไม่มีในหลวงก็ไม่มีสหกรณ์ ถ้าไม่มีสหกรณ์ตน ก็ไม่มีอาชีพ และไม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และสิ่งที่จะตอบแทนก็คือ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดในการช่วยเหลือเกษตรกรให้อยู่ดีกินดีและมีความ สุข” นายวุฒิพงษ์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.ขวัญใจ หลวงวิเศษ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/1 หมู่ 8 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี สมาชิกสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี เกษตรกรเลขที่ 7652 นำน้ำนมดิบมาขายให้กับสหกรณ์ฯ กล่าวว่า เมื่อปี 2526 เข้าทำงานที่สหกรณ์โคนมหนองโพฯเป็นปีแรกและได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รู้สึกปลาบปลื้มเป็นที่สุด จากนั้นได้เข้าเฝ้ารับเสด็จฯอีกในปี 2538 และพอทราบว่าพระองค์จะเสด็จฯอีกครั้ง จึงรู้สึกดีใจและตื่นเต้น เพราะอยากเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดและอยากมีโอกาสกราบพระบาทพระองค์ท่าน และสิ่งที่ทำได้คือตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด
วันเดียวกัน มีรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าผู้บริหารระดับสูงได้ประชุมเตรียมความ พร้อม เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินติดตามงานโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขา ชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธราราม จ.ราชบุรี ในวันที่ 15 ก.ค.ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ นายดิสธร รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเดินทางลงพื้นที่ในวันที่ 13 ก.ค. เพื่อเตรียมซักซ้อมในการรับเสด็จฯและทดสอบระยะเวลาพระราชดำเนินทอดพระเนตร ภายในโครงการ รวมทั้งถวายการรับเสด็จพระราชดำเนินไปตรวจเยี่ยมสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์
สำหรับหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนิน มีดังนี้ เวลา 13.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระ บรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราชมาถึงศูนย์ฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังพลับพลาที่ประทับ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เลขาธิการกปร. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เฝ้ารับเสด็จฯในเวลา 13.45 น.
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯทอดพระเนตรนิทรรศการความก้าวหน้าของโครงการฯ ทรงปลูกต้นประดู่ ทอดพระเนตรพื้นที่โครงการพื้นที่การฟื้นฟูดินเสื่อมโทรม จากนั้นเสด็จฯไปยังสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ทอดพระเนตรความคืบหน้าการดำเนินการกิจการสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี และทอดพระเนตรการสาธิตการรีดนมวัว จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังโรงพยาบาลศิริราช ถึงอาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช ในเวลา 19.00 น
สำหรับสภาพพื้นที่เขาชะงุ้มก่อนการดำเนินการตามแนวพระราชดำริ มีสภาพเป็นที่ราบเชิงเขา ด้านทิศเหนือติดกับเขาเขียวและลาดต่ำลงสู่ด้านทิศใต้จรดกับถนนสาย หนองกวาง-เขาน้อย มีความลาดชันตั้งแต่ 1-10 เปอร์เซ็นต์ สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง แต่ไม้ใหญ่ถูกตัดออกไปหมดแล้ว สภาพดินเป็นดินตื้น มีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทรายและกรวดลูกรัง มีการซะล้างพังทลายของดิน จนสูญเสียหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์และใช้ประโยชน์ไม่ได้ ทำให้ไม่เหมะสมใช้ทำการเกษตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและสาธิตทดสอบวิธีการพื้นฟูปรับ ปรุงดินเสื่อมโทรม เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ประโยชน์ได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อเป็นรูป แบบและส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่โครงการได้ ศึกษาเรียนรู้วิธีการจัดการดิน น้ำและพืชอย่างถูกต้องยั่งยืน ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และพัฒนาพื้นที่ให้ใช้ในการเกษตรอย่างเหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ พร้อมกับเป็นแหล่งค้นคว้าศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินเสื่อมโทรม ขณะที่สภาพแวดล้อมทำให้เกิดความยั่งยืนในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรดิน น้ำและป่าไม้ให้เป็นไปตามระบบนิเวศและยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจตาม ธรรมชาติของประชาชนทั่วไปด้วย โดยมีพระราชประสงค์ขยายผลด้านสิ่งแวดล้อมไปยังพื้นที่ใกล้เคียงให้ได้ความ อุดมสมบูรณ์อีก 45,018 ไร่ สำหรับโครงการอื่นที่มีรูปแบบเดียวกันที่กรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพหลักรับ ผิดชอบ เช่นโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นราธิวาส โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา ล้วนเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สัมฤทธิ์ผลและขยายผลไปสู่ เกษตรกร ทำให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นจาก 5 พันกว่าโครงการตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ด้าน นายรอยล จิตรดอน ผอ.สำนักงานสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์และทรงตรัสไว้นานแล้วที่จะเสด็จติดตามงานในพระราชดำริของ พระองค์ หลังจากมีพระพลานามัยแข็งแรงดีขึ้น ซึ่งพระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยที่จะทรงงานในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งและปัญหาด้านเกษตรไว้เป็นอันดับแรก
ที่ฝูงบิน 201 รักษาพระองค์ กองทัพอากาศ พล.อ.ต.สมาน สังขรณ์ ผบ.ศูนย์อำนวยการเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ ประชุมร่วมกับนักบินปฏิบัติภารกิจการบินถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเสด็จทอดพระเนตรโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ จ.ราชบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ หมายเลข 36303 ใช้เป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้จัดเฮลิคอปเตอร์พร้อมนักบิน 3 เครื่องและกองทัพบกจัดเฮลิคอปเตอร์ 1 เครื่องร่วมขบวนเสด็จพระราชดำเนิน โดยมีพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.เป็นผู้อำนวยการเดินทาง และมีพล.อ.ต.ถนอมศักดิ์ เย็นเปี่ยม เป็นนักบิน ที่ 1 น.อ.เสริมเกียรติ ก้อนมณี เป็นนักบินที่ 2 ส่วนเฮลิคอปเตอร์อีก 3 เครื่อง เป็นเฮลิคอปเตอร์ติดตามถวายการบินรับใช้ทั้ง 3 พระองค์
วันเดียวกัน นายนิมิต จันทน์วิมล ผวจ.นครปฐม เปิดเผยว่า ในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินตรวจเยี่ยมโครงการพระราชดำริเขาชะงุ้มและสหกรณ์โคนมหนองโพ จ.ราชุรี จากนั้นเสด็จกลับรพ.ศิริราช โดยรถยนต์พระที่นั่งผ่านอ.เมืองนครปฐม นครชัยศรี สามพราน และพุทธมณฑล ในเวลาประมาณ 18.30 น. ชาวนครปฐมได้จัดทำป้ายข้อความทรงพระเจริญ พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้ง 3 พระองค์ ประดับหน้าสำนักงาน บริษัท ห้างร้านและสถานที่ราชการ ตลอดเส้นทางเสด็จ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และร่วมถวายพระพรชัย ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน.