วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รมว.กลาโหมสั่งเช็กบิล มือดีส่งข้อมูลนาซาให้ฝ่ายค้าน



วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการต่อไป หลังจากที่ทางนาซาถอนตัวไม่ใช้สนามบินอู่ตะเภาในการตั้งฐานปฏิบัติการสำรวจ เมฆแล้วว่า ก็คงต้องดูว่าปีหน้าเขาจะติดต่อมาอีกหรือไม่ ถ้าเขาสนใจก็ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ในปีหน้าถ้าเขาสนใจอยู่ แต่ปีนี้ผ่านไปแล้วก็ต้องปล่อยผ่านไปก่อน ถ้าจะขอมาอีกก็ต้องใช้เวลาพอสมควร เขาต้องรู้ว่าสถานภาพประเทศไทยต้องขอล่วงหน้า เพื่อดำเนินตามกรรมวิธีของรัฐบาล เมื่อถามว่าขั้นตอนในสภายังจำเป็นหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเรื่องนี้ถอนออกไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอภิปราย หากขอมาอีกครั้งหนึ่งก็ต้องเอาเข้าสภา คงไม่มีการพิจารณาล่วงหน้า ถ้าเขาไม่ขอมันก็ไม่มีประโยชน์จะเป็นการพิจารณาเก้อ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมการทำรายละเอียดของทั้งของ กองทัพและสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จึงช้า รองนายกฯ กล่าวว่า ข้อมูล สมช.ที่เอามาพูดกันเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว ก่อนที่จะมีการประชุม ครม.สัญจรที่ชลบุรี ถือเป็นข้อมูลของหน่วยปฏิบัติ ไม่ใช่ข้อมูลของฝ่ายนโยบาย แต่เมื่อฟังข้อชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงเกษตรฯ แล้วก็ไม่เใช่ข้อมูลที่ต้องกังวล เรื่องที่บอกว่าข้อกังวล สมช.หรือกองทัพเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ที่จะปฏิบัติหรือแก้ไข เป็นระดับเจ้าหน้าที่ไม่ใช่ระดับนโยบาย แต่ฝ่ายค้านไปยกเอาความรู้สึกของฝ่ายปฏิบัติมาอ้างในเรื่องนโยบาย เมื่อฝ่ายปฏิบัติได้รับทราบเรื่องนโยบายในวันที่นายกฯเรียกประชุมที่โรงแรม รอยัลคลิฟ ที่พัทยาวันนั้นแล้วหน่วยปฏิบัติก็หมดปัญหา สามารถที่จะปรับในเรื่องของการปฏิบัติได้ ตนไม่รู้ว่าใครส่งข้อมูลภายใน สมช.ไปให้อีกฝ่าย จึงต้องตรวจสอบภายใน

ฃเมื่อถามว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนต่อไปหรือไม่การที่จะไปตกลงกับใคร ต้องรีบนำกลับมาพิจารณากันให้ชัดเจนก่อน พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า แน่นอน ซึ่งครั้งนี้สหรัฐฯได้มาติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศเมื่อเร็วๆมานี้ กระทรวงก็รีบร้อนนำเข้าครม.แต่เวลามันไม่พอ ปีต่อไปหากยังมุ่งหมายก็ต้องให้เวลา ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ท้าขึ้นเวทีถกด้วยนั้น ตนไม่ทราบเป็นเรื่องส่วนตัวของทั้ง 2 คน.

“บิ๊กอ๊อด”เผยยังไม่ถอนทหารจาก“เขาพระวิหาร”


วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการเรื่องเขาพระวิหาร ว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมามีการประชุมของคณะทำงานในการปฏิบัติตามข้อสังเกตและคำสั่งของ ศาลซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการสรุปรายงานมา แต่การถอนทหารจะต้องดูแลเรื่องระเบิด ที่ฝังในดินก่อน โดยเห็นว่าควรมีการเคลียร์เรื่องนี้ และต้องดำเนินการที่ละขั้นตอน เมื่อถามว่าจะทันกับที่ศาลโลกพิจารณาหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ศาลโลกต้องรับรู้ว่าขั้นตอนการทำงานเป็นอย่างนี้ จะไปนั่งมองโดยไม่ดูพื้นที่จริงคงไม่ได้ การที่จะถอนหรือปรับกำลังโดยที่กับระเบิดยังอยู่ในพื้นที่มันก็เป็นอันตราย ต่อประชาชน.

“บิ๊กอ๊อด”ยันสถานการณ์ภาคใต้ดีขึ้น


วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนเหตุฆ่ากันตายรายวัน เป็นเพราะว่าผู้ก่อการความไม่สงบใช้โอกาสทำลายเป้าหมายที่อ่อนแอ คือประชาชน ขณะเดียวกันยืนยันว่าพื้นที่ต่าง ๆ ที่หน่วยทหารดูแลสามารถรักษาไว้ได้ โดยเฉพาะงานกาชาดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ราบรื่นดีและไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด

ขณะที่การดำเนินการของเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน ในวงประชุมทั้งศอ.บต.และกอ.รมน.เห็นตรงกันว่าต้องให้แต่ละกระทรวงเข้าไป ดำเนินการอีก 3 เดือน แต่หากไม่ปฏิบัติ งบประมาณใช้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะคืนให้รัฐบาล เพื่อนำไปใช้ในเรื่องที่สำคัญตามยุทธศาสตร์ร่วมต่อไป
เมื่อถามว่าเงื่อนไขความร่วมมือของแต่ละกระทรวงดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า แต่ละกระทรวงเข้าใจภารกิจของตนเองแล้ว และนายกฯเอาจริงเรื่องนี้ แต่กระทรวงไม่ทำตามแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ร่วมที่ตกลงกันไว้ สิ้นปีจะคืนงบประมาณทั้งหมด เพราะต้องการนำงบประมาณมาทำในเรื่องที่มีความต้องการสำคัญ ๆ เช่น จะจัดหาซีซีทีวีให้ครบ ในทุกจุดในภาคใต้ หรือการสร้างทางในพื้นที่
เมื่อถามถึงครูที่เรียกร้องเงินเยียวยารายละ7 ล้านบาท พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ศอ.บต.เริ่มพิจารณาความยุติธรรมในการเยียวยาแล้ว โดยจำนวนเงินพยายามพิจารณาให้เกิดความเป็นธรรมทุกส่วน รวมถึงเหตุการณ์ตากใบและกรือเซะ จะต้องเป็นมาตรฐานต่อไป.

“มาร์ค”หนุน"จ๊ะเอ๋"เดินสายเจรจาถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดอง


วันนี้ (29 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนขอสนับสนุนให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา พูดคุยกับผู้เสนอร่างพ.ร.บ.ปรองดองเพื่อขอให้ถอนออกไปจากการพิจารณาของสภา และขอขอบคุณที่มองเห็นว่าการผลักดันร่างพ.ร.บ.ปรองดองต่อไปจะทำให้เกิดความ ขัดแย้ง ซึ่งการใช้เวลาทบทวนเพื่อให้เกิดการพูดคุยในสังคม เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับที่องค์กรต่างๆ ที่ทำในเรื่องปรองดองเสนอไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสมศักดิ์คิดเรื่องนี้ช้าเกินไปหรือไม่ เพราะเป็นผู้บรรจุร่างดังกล่าวเข้าสภาอย่างรีบเร่ง จนทำให้เกิดปัญหาตามมาจนถึงขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าในช่วงตอนปลายของการขยายสมัยประชุม นายสมศักดิ์ ก็มีจุดยืนชัดว่าจะไม่ให้มีการพิจารณา แต่ก่อนหน้านั้นเหตุเกิดไปแล้วจนเป็นปัญหาว่าขณะนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจที่นาย สมศักดิ์จะหยุดเรื่องนี้ได้ เพราะต้องขอให้ผู้เสนอญัตติเป็นคนถอนร่างฯ และแม้ว่าผู้เสนอญัตติจะถอนร่างฯ ก็ยังทำไม่ได้ต้องขอมติจากที่ประชุมสภาเพื่อให้ความเห็นชอบก่อน หมายความว่าหากนายสมศักดิ์ มีเจตนาดังกล่าวจริง ก็ต้องไปพูดกับเสียงข้างมากให้ยอมรับแนวทางนี้ ซึ่งมีเวลาประมาณ 1 เดือน จึงอยากให้ไปคุยกับเสียงข้างมากให้ได้ข้อยุติ เพราะวันนี้ปัญหาเกิดแล้วหากจะมีคนช่วยแก้ไขให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องตน ก็สนับสนุน

เมื่อถามว่า หากนายสมศักดิ์ทำโดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังไม่หยุดผลักดันเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ และนายสมศักดิ์จะกล้าทำหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะพิสูจน์ด้วยผลที่ออกมา แต่ถ้านายสมศักดิ์มีแนวคิดอย่างนี้ตนก็สนับสนุนและอยากให้เดินหน้าต่อแต่คิด ว่ายาก โดยแนวทางที่จะทำให้สำเร็จได้ต้องเริ่มจากผู้เสนอกฎหมายเสนอเป็นลายลักษณ์ อักษรว่าอยากถอนร่างออกจากที่ประชุม จากนั้นไปเจรจากับเสียงข้างมากให้มีมติชัดเจนว่าไม่เดินเรื่องนี้ต่อ และจะสนับสนุนให้มีการถอนญัตติ ซึ่งเป็นเรื่องที่นายสมศักดิ์ต้องไปเจรจาซึ่งตนรู้ดีว่าไม่ง่าย โดยในขณะนี้ก็ยังมีความกังวลมีความหวาดระแวง แต่ถ้าอยากทำให้ชัดเจนก็ต้องมีการผูกมัดตัวเองให้ชัดว่าจะทำอะไร หากทำเรื่องนี้สำเร็จก็จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าง่ายขึ้น.

"มาร์ค"จี้“ปู”นำโครงการนาซาเข้าสภาตามมติครม.


 

วันนี้ (29 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ กรณี ครม.ไม่อนุมัติให้นาซาใช้สนามบินอู่ตะเภาสำรวจสภาวะเมฆว่า เข้าใจว่าการพิจารณาในครม.เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมารัฐบาลทราบดีว่ามีปัญหาด้านข้อกฎหมายและความมั่นคง จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจไม่ดำเนินการต่อ ส่วนจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ตามมาตรา 179 หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล เพราะหากรัฐบาลมีแนวคิดที่อยากจะเจรจาเพื่อทำโครงการนี้ต่อไป อยากจะฟังข้อมูลจากสภาก็สามารถทำได้ ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยอ้างว่าไม่พูดเรื่องการเมืองนั้น ตนคิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องการเมือง และคนที่เอาเรื่องนี้มาเป็นการเมืองก็มีแต่คนของรัฐบาลเท่านั้น และเมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงเองว่าจะเปิดสภาเพื่อให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ก็ ต้องมาตอบคำถามและชี้แจงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะไม่คิดว่าจะมีรองนายกรัฐมนตรีคนไหนสามารถรับผิดชอบทั้งงานด้านความมั่น คงและวิทยาศาสตร์ได้ อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่ต้องดูให้ครบทุกมิติและเป็นผู้ ตัดสินใจด้วย

ส่วนที่นักวิทยาศาสตร์จะออกมาแสดงความเสียดายโครงการดังกล่าวนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดาแต่เราต้องเทียบประโยชน์ด้านวิทยาศาสตร์กับผลกระทบด้าน อื่นด้วย เพราะรายละเอียดต่างๆ นั้น นักวิทยาศาสตร์ที่ออกมาแสดงความเห็นก็ไม่ทราบทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลดีด้านวิทยาศาตร์กับผลกระทบด้านความ มั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมือง คือรัฐบาลต้องตัดสินใจ และต้องรับผิดชอบและชี้แจงเหตุผลต่อประชาชน

สำหรับกรณีที่นายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า รัฐบาลจะอยู่ยากนั้น นายอภิสิทธิ์ มองว่าเป็นเรื่องภายในของรัฐบาล แต่สำหรับประชาชนอยากได้ยินเรื่องการแก้ปัญหามากกว่า ไม่ใช่จะอยู่ 12 ปี 20 ปี หรือ สิ้นปีนี้ เพราะประชาชนสนใจว่าที่รัฐบาลอยู่ในตำแหน่งจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับ ประชาชนมากกว่า.

“บิ๊กตู่”ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติป้องกันน้ำท่วม


เมื่อวันนี้ (29 มิ.ย.) ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารบก และคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมกองกำลังผาเมือง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งเป็นประธานในพิธีปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 80 พรรษา ในพื้นที่ บ้านสันป่างิ้ว ต.แม่นาเรือ อ.เมือง จ.พะเยา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภารกิจในวันนี้เป็นการตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่กองกำลังป้องกัน ชายแดนใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นกำลังพลของกองทัพภาคที่ 3 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลการทำงานอย่างดีเยี่ยมในเรื่องของการสกัดกั้น การลักลอบนำเข้ายาเสพติด โดยทุกกองกำลังในได้กวดขันตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเรื่องแรงงานต่างด้าว และการกระผิดกฎหมายอื่น ๆโดยกองทัพบกได้สั่งการลงไปชัดเจนให้ทุกกองกำลังมีมาตรการเข้มงวด เพื่อให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน สนับสนุนการปฏิบัติงานภายในประเทศของแต่ละประเทศ โดยไม่สนับสนุนการกระทำใด ๆ ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งในประเทศเพื่อนบ้าน

“ประยุทธ์”โอดนาซาล้มโครงการไทยเสียประโยชน์


วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่องค์การบริหารการบินแงะอวกาศแห่งชาติ (นาซา)ยกเลิกโครงการสำรวจชั้นบรรยากาศที่สนามบินอู่ตะเภาว่า ต้องรอคอยว่านาซ่าจะมาอีกหรือไม่ และต้องเตรียมตั้งหลักให้ดีว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะมีนักวิชาการได้ออกมาระบุว่าโครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ดังนั้นเมื่อมีการยกเลิกประเทศจึงเสียประโยชน์ไป ทั้งนี้หวังว่านาซาจะมาใหม่ในปีหน้า และหากมีการเตรียมการไว้ก่อนจะดี จะได้ไม่มีปัญหาแบบครั้งนี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าฝ่ายความมั่นคงไม่เคยมีข้อขัดแย้งกับใคร และทุกคนต้องทราบ ดีว่าประเทศอยู่ได้ด้วยเพราะอะไร
เมื่อถามว่าการยกเลิกโครงการจะส่งผลกระทบระหว่างกองทัพไทยและกองทัพ สหรัฐฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี กองทัพกับกองทัพคนละเรื่องกัน อย่าเอาทุกเรื่องมาปนกัน ตนบอกแล้วว่าที่คุยกันมาทั้งหมดในเมื่อเขาติดต่อมาจะขอเข้ามาทำงาน รัฐบาลต้องเรียกหน่วยงานทุกหน่วยงานเข้าไปหารือ เมื่อหารือแล้วหาข้อสรุปมาว่าถ้าให้เขามาแล้วจะต้องทำอย่างไรบ้าง กฎหมายว่าอย่างงไร จะไปทำข้อตกลงกันอย่างไร ให้เขาขึ้นหรือลงที่ไหน เวลาเท่าไหร่ ใครจะขึ้นไปด้วย ต้องพูดคุยกันให้จบ ทั้งนี้ตนเชื่อว่าทุกคนหวังดีกับประเทศชาติ วันที่ประชุมหารือกันนายกฯ รัฐมนตรีหลายๆกระทรวง และ ผบ.เหล่าทัพก็อยู่ด้วยและได้ข้อสรุปว่าถ้าดีนำไปสู่ขั้นตอนต่อไป คือการนำเข้า ค.ร.ม.และทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ แต่ทำไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจกัน ประเทศจึงเสียประโยชน์ไปและไม่รู้ว่าใครทำต้องไปหาเอาเอง
เมื่อ ถามว่าต้องทำความเข้าใจกับคนในชาติเพื่อเตรียมรับการเข้ามาของนาซาครั้งต่อ ไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เร่ง แต่คนในชาติต้องพยายามเข้าใจ ตอนนี้คนในชาติบางส่วนพยายามไม่เข้าใจ ซึ่งทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ลำบาก ฝ่ายความมั่นคง ทหาร หรือใครที่ทำต่างก็ลำบากและโดนตำหนิ อย่างนั้นไม่ได้ เพราะชาติบ้านเมืองสำคัญกว่าเรื่องอื่น

 “ผมไม่ได้ขัดแย้งกับใคร แต่ผมทำงานตามข้อเท็จจริง ตามกฎหมาย และขั้นตอน ซึ่งทำตามนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่การที่จะบอกว่ามันผิดหรือไม่ผิดก็ไปว่ากันเอาเองแต่อย่าเอากองทัพเข้าไป ขัดแย้ง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

"บิ๊กตู่"ไม่ติดใจ“ขวัญชัย”ขอโทษ


 

วันที่ 29 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯออกมากล่าวอ้างว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรณ รองผบ.ทบ.อยู่เบื้องหลังการถกล้มรัฐบาลว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนายขวัญชัย เพราะตนชื่อประยุทธ์
ส่วนการที่นายขวัญออกมาขอโทษกองทัพผ่านสื่อแล้วนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อขอโทษแล้วก็น่าจะจบ และไม่ต้องออกมาพูดอีก ทั้งนี้กองทัพมีสายการบังคับบัญชา เมื่อได้สั่งการหรือให้นโยบายอะไรออกไปแล้วทุกคนต้องปฏิบัติตามคำสั่ง พร้อมสั่งการไปด้วยว่ากองทัพจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง
“ผมไม่เคยถาม พล.อ.ดาว์พงษ์ ถึงเรื่องนี้แม้แต่คำเดียว เพราะเชื่อมั่นว่ากำลังพลของกองทัพบกจะไม่ทำอะไรนอกเหนือที่ผมสั่งการ เพราะถ้าทำอย่างนั้นถือเป็นการขัดคำสั่งและเป็นการสร้างความไม่ไว้วางใจ กัน และสิ่งทีพูดจัดเจนอยู่แล้วว่ากองทัพมีบทบาทอย่างไร”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 เมื่อถามว่าแสดงว่ากองทัพได้ถอยออกมาจากเรื่องนี้แล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “ถอยอะไร ผมไม่เคยถอย เพราะไม่เคยเดินเข้าหรือเดินออก แต่อยู่กับที่ บทบาทของกองทัพอยู่ตรงไหนก็ตรงนั้น ไม่เคยถอยเข้าถอยออก แต่สื่อมักจะเป็นคนเอาทหารเข้าไปเกี่ยวข้องทุกครั้งด้วยคำถาม นำมาโยงใยกับการเมืองตลอด แต่ก็ไม่ได้ตำหนิสื่อ เพราะถือเป็นการทำหน้าที่ อยากรู้ไปถามใคร เขาไม่ตอบก็มาถาม ผมก็ตอบให้แต่ไปตัดต่อให้ดี อย่าเอาตรงไหนที่มีปัญหาไปออก เพราะต้องการให้ประชาชนในชาติเขาเข้าใจว่าประเทศชาติคืออะไร แล้วต้องทำตัวอย่างไร ประเทศชาติจะไปทางไหน กองทัพบกอยู่จุดไหน ไม่อย่างนั้นจะวุ่นวายไปหมดและคิดว่าทุกคนคงไม่อยากให้บ้านเมืองเสียหาย เดือนร้อน หรืออยากเดือดร้อน.

กกต.รับรองผลเลือกตั้งนายกอบจ.-ส.อบจ.สุรินทร์


วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุรินทร์ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง จ.สุรินทร์ (กกต.สุรินทร์ )ได้มอบหนังสือรับรองผลการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) สุรินทร์ทั้ง 17 อำเภอ รวม 36 คน ที่มีการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ หัวหน้ากลุ่มรวมพลัง ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์คนใหม่ พร้อมกล่าวว่าขอบคุณชาวจังหวัดสุรินทร์ที่เลือกเป็นนายก อบจ.อีกสมัยและการบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์อีก 4 ปีต่อจากนี้ไป จะทำยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสุรินทร์เป็นศูนย์กลางจังหวัดอีสานใต้ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรม  โดยวางเป้าหมายให้ จ.สุรินทร์เป็นประตูสู่นครวัด นครธม ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ จะนำแถลงนโยบายสู่สภา เพื่อบริหารงานให้จังหวัดสุรินทร์เป็นศูนย์กลางอีสานใต้ต่อไป

“ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์เป็นไป ด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องมีประสิทธิภาพประสิทธิผลและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการและ ประชาชน จึงแต่งตั้งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ดังนี้ นายสุริยะ ร่วมพัฒนา เป็น รองนายกอบจ.สุรินทร์คนที่ 1 นายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ เป็นรองนายก อบจ.สุรินทร์ คนที่ 2และนายอนุชา วัชรศีขร เป็น รองนายกอบจ.สุรินทร์ คนที่ 3 พร้อมเข้าบริหารให้จังหวัดสุรินทร์เป็นเมืองน่าอยู่และน่าลงทุนต่อไป”นายกอบ จ.สุรินทร์ กล่าว

“ซูจี”ลั่นพร้อมเป็นผู้นำพม่า


วันนี้ ( 29 มิ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสว่า นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของพม่า และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2534 กล่าวหลังเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนทวีปยุโรป เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า พร้อมดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศในอนาคต หากได้รับโอกาส

นางซูจียอมรับว่า แม้เธอจะไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ตลอดเวลา แต่ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง จึงเป็นธรรมดาที่ควรจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อรับโอกาสในกระบวนการประชาธิปไตยที่อาจมาเยือนโดยไม่รู้ตัว

ทั้งนี้ พม่ากำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2558 และแน่นอนว่าพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ( เอ็นแอลดี ) จะต้องส่งผู้สมัครลงชิงชัย และนางซูจียืนยันว่า พรรคของเธอจะต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่วินาทีนี้ แต่ผลการเลือกตั้งในอีก 3 ปีจะเป็นตัวตัดสินว่า อนาคตของพม่าจะเดินไปในทิศทางใด

ขณะที่ตามกำหนดการ นางซูจี จะเดินทางกลับถึงพม่าในวันนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางเยือนทวีปยุโรปนาน 2 สัปดาห์ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอร์แลนด์ อังกฤษ และฝรั่งเศส ขณะเดียวกันได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและล้นหลาม จากบรรดาผู้นำของแต่ละประเทศ และประชาชนที่พากันมาเฝ้ารอเพื่อที่จะได้พบเธอ

"บิ๊กตู่"แก้เผ็ดอาชีวะเกเรเป็นทหารไม่ต้องจับสลาก



วันนี้ (29 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะว่า ขณะนี้ได้ประชุมหารือแล้วและมีข้อสรุปว่าจะใช้หลักสูตรคล้าย ๆ กับการเกณฑ์ทหารกองประจำการในการละลายพฤติกรรม โดยเน้นสร้างความเข้าใจในการอยู่ร่วมในสังคม การทำประโยชน์ต่อสังคม รวมทั้งให้เห็นคุณค่าของชีวิตในแต่ละฝ่ายและกลับมาดูครอบครัว เพื่อให้เห็นอกเห็นใจพ่อแม่ที่ส่งให้ไปเรียนหนังสือแล้วไม่เรียน ทำตัวเกเร รวมทั้งสร้างสำนึกในบุญคุณของครูอาจารย์ เชื่อฟัง เคารพ ทำให้สิ่งเหล่านี้ที่มันเคยอยู่ในสังคมไทยในอดีตกลับมา

“วันนี้มันอยู่หรือหายไปผมไม่รู้ ผมคาดหวังว่าจะดีขึ้นและอยากให้เป็นโครงการระยะสั้น เพราะถ้าเป็นโครงการระยะยาวแปลว่ามีคนแบบนี้เยอะ ให้มันสั้น ๆ ทำครั้งสองครั้งจบแล้ว แสดงว่าคนเข้าใจแล้วไม่มีอีก วันนี้ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจกัน รุ่นพี่บอกไว้ว่าอันตราย ไปโรงเรียนต้องพกมีดไว้ เพราะกลัวว่าจะโดนทำร้ายระหว่างทาง ดังนั้นต้องกลับมาสู่สังคมไทยที่พูดกันเข้าใจง่าย ไม่รู้จักแล้วมาฆ่าฟันกัน มันไม่ใช่เรื่อง พวกนี้ต้องขึ้นบัญชีไว้เอาไปเตรียมเป็นทหารถึงเวลาเกณฑ์ทหารพวกนี้รับหมดไม่ ต้องจับฉลาก ดูสิว่าจะเก่งอย่างที่ทำไว้หรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

จับ2โจรฝรั่งลากตู้เอทีเอ็ม อ้างเลียนแบบหนังดัง



วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พล.ต.ท.ดร.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง และ ตำรวจ สภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายเอล็กซ์  มิลเบิร์น อายุ 25 ปี และนายชอน เอิดเวิร์ด เทรซี่ อายุ 34 ปี สองหนุ่มสัญชาติอังกฤษ คนร้ายที่ก่อเหตุขับรถลากตู้เอทีเอ็มธนาคารต่างๆ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ถึง 3 ครั้งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พร้อมของกลางสายพานลากจูงพร้อมตะขอเกี่ยว 1 เส้น

สืบเนื่องจากช่วงกลางดึกวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุกลุ่มคนร้าย 3 คน ร่วมกันก่อเหตุขับรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ทอง ใช้สายพานลากตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาแหลมฉบัง หมู่ 9  ต.ทุ่ง สุขลา อ.ศรีราชา แต่ไม่สามารถชิงเงินสดจำนวนหลายล้านบาทที่อยู่ภายในตู้เอทีเอ็มได้ เนื่องจากสัญญาณเตือนภัยธนาคารทำงาน ทำให้กลุ่มคนร้ายหลบหนีไป

ต่อมาช่วงกลางดึกวันที่ 28 มิ.ย. เกิดเหตุคนร้ายขับรถกระบะนิสสัน นาวาร่า  สีดำ ทะเบียน ผธ 836 ชลบุรี ก่อเหตุลากตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบ่อวิน และล่าสุดช่วงเช้ามืดวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันเป็นครั้งที่ 3 โดยคนร้ายใช้รถลากตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสี่แยกปากร่วม ในพื้นที่ สภ.บ่อวิน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายไม่สามารถนำเงินสดไปได้แม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ในที่สุด

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับเพื่อนชาวอังกฤษที่ยังหลบหนีอีก 1 คน ก่อเหตุจริง โดยใช้วิธีขับรถลากตู้เอทีเอ็มให้หลุดออกมาและพยายามจะชิงเงินสดที่อยู่ภาย ใน ทำมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้เงินเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งวิธีการก่อเหตุเลียนแบบจากภาพยนตร์ดังของฮอลลีวูด เรื่อง "เดอะฟาสท์ แอนด์ ฟิวเรียส" ที่ดารานำในเรื่องใช้วิธีการก่อเหตุปล้นในลักษณะนี้ ส่วนสาเหตุที่ต้องลงมือเนื่องจากพวกตนเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 10 ปี แล้ว แต่ไม่มีงานทำ ประกอบกับเงินเก็บที่มีก็นำไปใช้จ่าย เที่ยวเตร่อย่างฟุ่มเฟือยจนหมดแล้ว จึงตัดสินใจร่วมกันก่อเหตุ จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับจะได้เร่งติดตามเพื่อนร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีอีก 1 ราย มาดำเนินคดี.

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources