วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการต่อไป หลังจากที่ทางนาซาถอนตัวไม่ใช้สนามบินอู่ตะเภาในการตั้งฐานปฏิบัติการสำรวจ เมฆแล้วว่า ก็คงต้องดูว่าปีหน้าเขาจะติดต่อมาอีกหรือไม่ ถ้าเขาสนใจก็ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ในปีหน้าถ้าเขาสนใจอยู่ แต่ปีนี้ผ่านไปแล้วก็ต้องปล่อยผ่านไปก่อน ถ้าจะขอมาอีกก็ต้องใช้เวลาพอสมควร เขาต้องรู้ว่าสถานภาพประเทศไทยต้องขอล่วงหน้า เพื่อดำเนินตามกรรมวิธีของรัฐบาล เมื่อถามว่าขั้นตอนในสภายังจำเป็นหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเรื่องนี้ถอนออกไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอภิปราย หากขอมาอีกครั้งหนึ่งก็ต้องเอาเข้าสภา คงไม่มีการพิจารณาล่วงหน้า ถ้าเขาไม่ขอมันก็ไม่มีประโยชน์จะเป็นการพิจารณาเก้อ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมการทำรายละเอียดของทั้งของ กองทัพและสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จึงช้า รองนายกฯ กล่าวว่า ข้อมูล สมช.ที่เอามาพูดกันเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว ก่อนที่จะมีการประชุม ครม.สัญจรที่ชลบุรี ถือเป็นข้อมูลของหน่วยปฏิบัติ ไม่ใช่ข้อมูลของฝ่ายนโยบาย แต่เมื่อฟังข้อชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงเกษตรฯ แล้วก็ไม่เใช่ข้อมูลที่ต้องกังวล เรื่องที่บอกว่าข้อกังวล สมช.หรือกองทัพเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ที่จะปฏิบัติหรือแก้ไข เป็นระดับเจ้าหน้าที่ไม่ใช่ระดับนโยบาย แต่ฝ่ายค้านไปยกเอาความรู้สึกของฝ่ายปฏิบัติมาอ้างในเรื่องนโยบาย เมื่อฝ่ายปฏิบัติได้รับทราบเรื่องนโยบายในวันที่นายกฯเรียกประชุมที่โรงแรม รอยัลคลิฟ ที่พัทยาวันนั้นแล้วหน่วยปฏิบัติก็หมดปัญหา สามารถที่จะปรับในเรื่องของการปฏิบัติได้ ตนไม่รู้ว่าใครส่งข้อมูลภายใน สมช.ไปให้อีกฝ่าย จึงต้องตรวจสอบภายใน
ฃเมื่อถามว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนต่อไปหรือไม่การที่จะไปตกลงกับใคร ต้องรีบนำกลับมาพิจารณากันให้ชัดเจนก่อน พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า แน่นอน ซึ่งครั้งนี้สหรัฐฯได้มาติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศเมื่อเร็วๆมานี้ กระทรวงก็รีบร้อนนำเข้าครม.แต่เวลามันไม่พอ ปีต่อไปหากยังมุ่งหมายก็ต้องให้เวลา ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ท้าขึ้นเวทีถกด้วยนั้น ตนไม่ทราบเป็นเรื่องส่วนตัวของทั้ง 2 คน.