วันนี้ (29 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ กรณี
ครม.ไม่อนุมัติให้นาซาใช้สนามบินอู่ตะเภาสำรวจสภาวะเมฆว่า
เข้าใจว่าการพิจารณาในครม.เมื่อวันที่ 26
มิ.ย.ที่ผ่านมารัฐบาลทราบดีว่ามีปัญหาด้านข้อกฎหมายและความมั่นคง
จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจไม่ดำเนินการต่อ
ส่วนจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ตามมาตรา 179 หรือไม่นั้น
ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล
เพราะหากรัฐบาลมีแนวคิดที่อยากจะเจรจาเพื่อทำโครงการนี้ต่อไป
อยากจะฟังข้อมูลจากสภาก็สามารถทำได้ ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
โดยอ้างว่าไม่พูดเรื่องการเมืองนั้น ตนคิดว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องของบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องการเมือง
และคนที่เอาเรื่องนี้มาเป็นการเมืองก็มีแต่คนของรัฐบาลเท่านั้น
และเมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงเองว่าจะเปิดสภาเพื่อให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ก็
ต้องมาตอบคำถามและชี้แจงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
เพราะไม่คิดว่าจะมีรองนายกรัฐมนตรีคนไหนสามารถรับผิดชอบทั้งงานด้านความมั่น
คงและวิทยาศาสตร์ได้
อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่ต้องดูให้ครบทุกมิติและเป็นผู้
ตัดสินใจด้วย
ส่วนที่นักวิทยาศาสตร์จะออกมาแสดงความเสียดายโครงการดังกล่าวนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดาแต่เราต้องเทียบประโยชน์ด้านวิทยาศาสตร์กับผลกระทบด้าน อื่นด้วย เพราะรายละเอียดต่างๆ นั้น นักวิทยาศาสตร์ที่ออกมาแสดงความเห็นก็ไม่ทราบทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลดีด้านวิทยาศาตร์กับผลกระทบด้านความ มั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมือง คือรัฐบาลต้องตัดสินใจ และต้องรับผิดชอบและชี้แจงเหตุผลต่อประชาชน
สำหรับกรณีที่นายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า รัฐบาลจะอยู่ยากนั้น นายอภิสิทธิ์ มองว่าเป็นเรื่องภายในของรัฐบาล แต่สำหรับประชาชนอยากได้ยินเรื่องการแก้ปัญหามากกว่า ไม่ใช่จะอยู่ 12 ปี 20 ปี หรือ สิ้นปีนี้ เพราะประชาชนสนใจว่าที่รัฐบาลอยู่ในตำแหน่งจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับ ประชาชนมากกว่า.
ส่วนที่นักวิทยาศาสตร์จะออกมาแสดงความเสียดายโครงการดังกล่าวนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดาแต่เราต้องเทียบประโยชน์ด้านวิทยาศาสตร์กับผลกระทบด้าน อื่นด้วย เพราะรายละเอียดต่างๆ นั้น นักวิทยาศาสตร์ที่ออกมาแสดงความเห็นก็ไม่ทราบทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลดีด้านวิทยาศาตร์กับผลกระทบด้านความ มั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมือง คือรัฐบาลต้องตัดสินใจ และต้องรับผิดชอบและชี้แจงเหตุผลต่อประชาชน
สำหรับกรณีที่นายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า รัฐบาลจะอยู่ยากนั้น นายอภิสิทธิ์ มองว่าเป็นเรื่องภายในของรัฐบาล แต่สำหรับประชาชนอยากได้ยินเรื่องการแก้ปัญหามากกว่า ไม่ใช่จะอยู่ 12 ปี 20 ปี หรือ สิ้นปีนี้ เพราะประชาชนสนใจว่าที่รัฐบาลอยู่ในตำแหน่งจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับ ประชาชนมากกว่า.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น