ราวสักสองเดือนที่ผ่านมา ประธานกรรมการและกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หลายท่าน แถลงข่าวพร้อมกับผู้บริหารของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ว่าจะดำเนินการกับสถานีวิทยุชุมชนที่ส่งคลื่นรบกวนวิทยุการบินถ้าพบจะให้ ยุติการออกอากาศ และแก้ไข สถานีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน นอกจากห้ามกระจายเสียง ยังจะดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม 2498
มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
กรรมการท่านหนึ่งบอกว่า จะตั้งทีมขึ้นเพื่อตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำผิด ดูขึงขังน่าเกรงขามจากการสอบถาม พล.อ.อ. ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช.ได้ความว่าส่วนใหญ่ การกระทำผิดเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ผู้บริหารของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า การมาพบ กสทช.ก็เพื่อหารือ ขอให้ประชาสัมพันธ์กับผู้ประกอบการวิทยุชุมชนให้ทราบผลกระทบของสัญญาณวิทยุ ที่ออกไปรบกวนการจราจรทางอากาศ ซึ่งเชื่อว่า ถ้าทำความเข้าใจกันได้ ปัญหาจะลดลง โดยมีสถิติว่าปี 2553 เกิดขึ้น 1,904 ครั้ง พอถึงปี 2554 ก็ลงมาเหลือ 1,781 ครั้ง
บริษัทวิทยุการบินฯพบว่าปัญหารุนแรงขึ้นตั้งแต่ปี 2548 จึงได้ประสานงานหน่วยต่าง ๆ พร้อมกับพยายามแก้ไขเองโดยเมื่อทราบว่าเป็นสถานีใด ก็เข้าไปประสานงาน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะอุปกรณ์ส่งสัญญาณออกอากาศไม่ได้มาตรฐาน เพียงแนะนำปรับตั้งค่าให้ถูกต้อง สถานการณ์ก็
ดีขึ้น
แต่จำนวนของสถานีมีเยอะมากจนตามหาไม่ไหว
ประเด็นที่จะกล่าวถึงก็คือ มีการกระทำผิด การออกอากาศของสถานีวิทยุ ขึ้นไปรบกวนการสื่อสารของวิทยุการบิน บางครั้งได้ยินถึง 10 กม. หรือเพดานบินสูงสุด ซึ่งเป็นไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และพร้อมจะแก้ไข กสทช.จึงควรสร้างกลไกให้เกิดความร่วมมือมากกว่าการข่มขู่ด้วยมาตรการทาง กฎหมายหรือตั้งชุดปฏิบัติการไล่ตรวจจับ
บ้านเมืองเจริญก้าวหน้ามาถึงขั้นมี กสทช.แล้ว ยังจะเอาวิธีเก่า ๆ เอะอะก็ใช้อำนาจกวดขัน จับกุม อยู่อีกหรือ
จะให้ทุกฝ่ายอยู่กันได้อย่างสงบ ก็อย่าใจแคบนักเลย.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th