วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ใจกว้าง - คู่ขนาน



ราวสักสองเดือนที่ผ่านมา ประธานกรรมการและกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หลายท่าน แถลงข่าวพร้อมกับผู้บริหารของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ว่าจะดำเนินการกับสถานีวิทยุชุมชนที่ส่งคลื่นรบกวนวิทยุการบินถ้าพบจะให้ ยุติการออกอากาศ และแก้ไข สถานีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน นอกจากห้ามกระจายเสียง ยังจะดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม 2498
มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
กรรมการท่านหนึ่งบอกว่า จะตั้งทีมขึ้นเพื่อตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำผิด ดูขึงขังน่าเกรงขามจากการสอบถาม พล.อ.อ. ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช.ได้ความว่าส่วนใหญ่ การกระทำผิดเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ผู้บริหารของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า การมาพบ กสทช.ก็เพื่อหารือ ขอให้ประชาสัมพันธ์กับผู้ประกอบการวิทยุชุมชนให้ทราบผลกระทบของสัญญาณวิทยุ ที่ออกไปรบกวนการจราจรทางอากาศ ซึ่งเชื่อว่า ถ้าทำความเข้าใจกันได้ ปัญหาจะลดลง โดยมีสถิติว่าปี 2553 เกิดขึ้น 1,904 ครั้ง พอถึงปี 2554 ก็ลงมาเหลือ 1,781 ครั้ง
บริษัทวิทยุการบินฯพบว่าปัญหารุนแรงขึ้นตั้งแต่ปี 2548 จึงได้ประสานงานหน่วยต่าง ๆ พร้อมกับพยายามแก้ไขเองโดยเมื่อทราบว่าเป็นสถานีใด ก็เข้าไปประสานงาน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะอุปกรณ์ส่งสัญญาณออกอากาศไม่ได้มาตรฐาน เพียงแนะนำปรับตั้งค่าให้ถูกต้อง สถานการณ์ก็
ดีขึ้น
แต่จำนวนของสถานีมีเยอะมากจนตามหาไม่ไหว
ประเด็นที่จะกล่าวถึงก็คือ มีการกระทำผิด การออกอากาศของสถานีวิทยุ ขึ้นไปรบกวนการสื่อสารของวิทยุการบิน บางครั้งได้ยินถึง 10 กม. หรือเพดานบินสูงสุด ซึ่งเป็นไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และพร้อมจะแก้ไข กสทช.จึงควรสร้างกลไกให้เกิดความร่วมมือมากกว่าการข่มขู่ด้วยมาตรการทาง กฎหมายหรือตั้งชุดปฏิบัติการไล่ตรวจจับ
บ้านเมืองเจริญก้าวหน้ามาถึงขั้นมี กสทช.แล้ว ยังจะเอาวิธีเก่า ๆ เอะอะก็ใช้อำนาจกวดขัน จับกุม อยู่อีกหรือ
จะให้ทุกฝ่ายอยู่กันได้อย่างสงบ ก็อย่าใจแคบนักเลย.


แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

คลิปเด่นประจำสัปดาห์



สัปดาห์นี้ขอเน้นคลิปเด่นน่าชมที่เกี่ยวข้องกับเสียงดนตรี เริ่มจากคลิปน่าทึ่ง ชวนอึ้งในความสามารถ จากเรื่อง “แก้วใบเดียวก็เป็นเครื่องดนตรีสุดไพเราะได้!!” เป็นการโชว์พรสวรรค์ของหญิงสาวผู้หนึ่ง เธอถ่ายคลิปลงยูทูบ ขณะกำลังร้องเพลงที่มีชื่อว่า “You’re Gonna Miss Me” ของวง “ลูลู่แอนด์เดอะแลมพ์เชดส์” ความพิเศษของคลิปนี้ไม่ได้อยู่แค่เสียงร้องใส ๆ ของหญิงสาวเท่านั้น แต่สามารถเรียกความสนใจของผู้ชมจำนวนมากได้จากดนตรีที่เธอใช้ประกอบ ซึ่งเป็นเพียงแก้วพลาสติกสีแดงใบใหญ่ใบหนึ่งเท่านั้น
อีกคลิปหากได้ดูคงหุบยิ้มไม่ได้ เพราะเรื่อง “แมวร้องเพลงเคล้าเสียงกีตาร์” เมื่อเจ้าเหมียวได้ยินเสียงกีตาร์ที่เจ้านายบรรเลง ทั้ง ๆ ที่กำลังนอนอยู่ก็จะต้องส่งเสียงร้องครางพร้อมกับอาการสะลึมสะลือ แม้จะดูขี้เกียจขนาดไหน แต่ก็ให้ความร่วมมืออย่างดีช่วยร้องจนจบเพลง และเนื่องจากไม่มีใครฟังภาษาแมวออก บางทีเหมียวอาจอยากบอกแค่ว่า “ไปเล่นไกล ๆ ไป แมวจะนอน”

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

สร้างภูมิต้านภัยไซเบอร์ - ฉลาดทันกาล



อินเทอร์เน็ต เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถกระจายไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว มีบริการ โปรแกรม และกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ทำให้เกิดกระแสการนำระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางใน งานธุรกิจ หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา และบุคคลทั่วไป ทำให้เกิดสังคมออนไลน์ขนาดมหึมาบนโลกไซเบอร์ขึ้น   
   
การใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยขยายตัวสูงขึ้น อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้ง และนับวันก็ยิ่งเข้าถึงได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ตลอดจนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งข้อมูลในปีที่ผ่านมาพบว่า ประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 18 ล้านคน โดยกลุ่มคนที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก เยาวชน และกลุ่มคนทำงาน แต่สิ่งที่ตามมาพร้อม ๆ กับคุณประโยชน์ของวิวัฒนาการอันล้ำสมัยนี้ คือ ภัยสังคมที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ตไปในทางที่ไม่ถูกต้อง อาทิ การติดเกมออนไลน์ การเล่นพนันออนไลน์ และปัญหาเว็บไซต์ลามกต่าง ๆ   
 
อาจารย์อายัติ เอี่ยมบาง ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 (พิษณุโลก–อุตรดิตถ์) ในฐานะวิทยากรการฝึกอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนัก
งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ข้อคิดว่า ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญในการศึกษา โดยเป็นทั้งเครื่องมือในการสอนของครู และเครื่องมือในการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ก็มีทั้งข้อมูลสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ ข้อมูลสารสนเทศที่ไม่เป็นประโยชน์ ที่อาจารย์เรียกว่า “ขยะเทคโนโลยีสารสนเทศ” และกิจกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ ก็ต้องคิดและพิจารณา ซึ่งเราจะต้องพัฒนาให้นักเรียนมีทักษะในการใช้เครื่องมือ การแสวงหาข้อมูลที่ต้องคิด วิเคราะห์ กลั่นกรอง และเลือกเอาข้อมูลที่มีประโยชน์ไปใช้ แต่สิ่งที่ต้องจับตามองขณะนี้ คือ คนไทยมีศักยภาพพื้นฐานที่แข็งแรงพร้อมรับมือกับภัยออนไลน์บนโลกไซเบอร์แล้ว หรือยัง  

“ถือเป็นภารกิจของครู และผู้ปกครอง ที่จะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับการไปสร้างโปรแกรมบล็อกหรือปิดเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ต่าง ๆ เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ แต่เห็นว่าเราควรสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กตั้งแต่ต้นจะดีกว่า ซึ่งครูต้องปลูกฝังทักษะเรื่องนี้ โดยสอดแทรกไปในสื่อการเรียนการสอนทุกวิชา ต้องชี้ให้เด็กเห็น ให้เด็กรู้จักวิเคราะห์ วินิจฉัยสิ่งที่มีอยู่ในโลกไซเบอร์ ถึงแม้ว่าเรื่องนั้น ๆจะไม่ใช่ความจริง หรือเป็นการหลอกลวงก็ตาม แต่สิ่งต่าง ๆ ดังกล่าวเป็นเรื่องที่เด็กจะต้องพบเจอในการใช้ชีวิตจริง ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างทักษะให้เด็กรู้เท่าทัน รู้จักพิจารณาและเลือกใช้อย่างฉลาดแล้ว จะทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตเกิดประโยชน์คุ้มค่าอย่างแท้จริง” อาจารย์อายัติ ชี้แนะ 
    
อาจารย์อายัติ ยังฝากถึงกลุ่มคนบนโลกไซเบอร์ด้วยว่า การใช้อินเทอร์เน็ตให้คุ้มค่านั้น ไม่ใช่หมายถึงคุ้มค่าเงินที่จ่ายเป็นค่าแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไป ทำให้ทุกคนต้องตั้งหน้าตั้งตาช่วย ๆ กันใช้งานตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการแชตพูดคุย การส่งรูปภาพ หรือส่งข้อมูลต่าง ๆ เข้าระบบบนไซเบอร์ เพราะขณะที่ทุกคนกำลังส่งผ่านข้อมูลต่าง ๆ สิ่งเหล่านั้น จะทำให้เกิดการส่งข้อมูลขนาดมหาศาล มีความหนาแน่น
ในระบบจราจรของเครือข่าย ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงาน พลังงานไฟฟ้า ทรัพยากรของโลก โดยไม่เกิดประโยชน์ อีกทั้งเกิดข้อมูลขยะที่ไร้ประโยชน์  ซึ่งขยะสารสนเทศนี้จะทำให้เกิดความสับสน เมื่อเด็กรุ่นหลังต้องการค้นหาข้อมูลในระบบก็จะเสียเวลานานกว่าจะค้นพบ ข้อมูลที่ต้องการถูกต้อง แท้จริง ดังนั้นก่อนส่งข้อมูลเข้าระบบควรหยุดคิด คำนึงถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้นสักนิด    
    
การสร้างภูมิคุ้มกันให้รู้เท่าทัน รู้จักกลั่นกรองด้วยตัวเอง เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจากสังคมออนไลน์  ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันแก่เยาวชน ไทย เพื่อสู้ภัยจากโลกไซเบอร์ได้.
ณัชชารีย์ วิเชียรรัตน์


แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

แอพพ์ฟังวิทยุ - แอพพ์



วิทยุเป็นสื่อที่ง่ายต่อการเข้าถึงและสะดวกในการรับสาร แต่ก็มีข้อจำกัดด้วยขอบเขตรัศมีการส่งคลื่น

อยู่เชียงใหม่อยากฟังรายการของเอฟเอ็มกรุงเทพฯไม่ได้

ปฏิญญา จันทน์ฤาชัย หรือแอ็ตปฏิญญาเจ @patinyaj พนักงาน 3 จี บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) อดีตโปรแกรมเมอร์ นักเขียนแอพพ์บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รับเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะมีสถานีวิทยุหลายแห่งที่ถ่ายทอดเสียงทางอินเทอร์เน็ต ที่ดึงเอามาใช้บนโทรศัพท์และอุปกรณ์มือถือได้ จึงทำแอพพ์สำหรับฟังวิทยุ ในชื่อสยามเรดิโอ (Siam Radio)

ซึ่งคงไม่ยากสำหรับเขา ในการเขียนโปรแกรมเชื่อมโยง จนมีวิทยุที่ฟังได้แล้วถึง 230 สถานี แบ่งหมวดหมู่ไว้ 12 กลุ่ม ได้แก่สถานีวิทยุกรุงเทพฯ รวมสถานีวิทยุในประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ (อีสาน) กรมประชาสัมพันธ์ (เหนือ) กรมประชาสัมพันธ์ (ใต้) กรมประชาสัมพันธ์ (ตะวันออก) กรมประชาสัมพันธ์ (ตะวันตก) อสมท ภาคเหนือ อสมท ภาคอีสาน อสมท ภาคกลาง อสมท ภาคใต้ รวมสถานีวิทยุต่างประเทศ

คุณภาพเสียงของวิทยุจากแอพพ์บนมือถือ หรืออุปกรณ์พกพา ส่วนใหญ่ระดับใกล้เคียงการฟังทางอินเทอร์เน็ต ไม่ติดข้อจำกัดรัศมีการส่งกระจายเสียง ถ้าเน็ตหลุดก็ฟังไม่ได้ ปฏิญญาบอกข้อจำกัดที่เขาเจอ อยู่ที่เว็บของบางสถานี ระบบแอนดรอยด์ อ่านลิงก์ไม่ได้

การบีบอัดไฟล์เสียง ก็มีผลต่อคุณภาพเหมือนกัน

ส่วนการรับฟัง ก็แค่เลือกช่องแล้วกดปุ่มเพลย์ (play) รอสักครู่ ก็จะรับฟังได้ แต่ถ้านานเป็นนาที แสดงว่ามีปัญหา ให้เปลี่ยนไปสถานีอื่น และถ้าจะให้คุณภาพการฟังได้ดังใจ แอนดรอยด์ในเครื่องควรเป็นเวอร์ชั่น 2.3 ขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเป็นรุ่นนี้

การฟังจะมีคุณภาพถ้าเป็นสัญญาณอินเทอร์เน็ต 3 จี หรือไวไฟ

ตอนนี้มีคนดาวน์โหลดไปแล้วกว่าสองหมื่นรายและมีแนวโน้มการฟังผ่านแอพพ์จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
รีบหามาฟังกัน.


แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th





โลกเสมือนเพื่อการต่อสู้ - อีซิติเซ่น



ชุมชนในเมืองใหญ่หลายแห่ง ค่อยเปลี่ยนสภาพความสัมพันธ์จากคนบ้านใกล้ที่ไม่รู้จัก ไม่มีเวลาให้แก่กัน มาสู่ความใกล้ชิด พร้อมจะช่วยเหลือเกื้อกูลหรือต่อสู้ร่วมกันในประเด็นปัญหาสาธารณะที่เข้า มากระทบ ผ่านหน้าเฟซบุ๊กของกลุ่มคนบ้านเรือนเคียง
ในบรรดาชุมชนที่นำโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์เข้ามาใช้เพื่อสานสัมพันธ์ ระดมความคิดความเห็นแก้ปัญหาร่วมกัน พบว่า หมู่บ้านนักกีฬา เขตสะพานสูงเป็นแหล่งที่ใช้เพื่อการนี้อย่างจริงจัง
ไทม์ไลน์ของหมู่บ้านแห่งนี้บอกว่าเริ่มเปิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2554 โดยคณะกรรมการชุมชน ซึ่งมี เบญจวรรณ คมกฤส เป็นประธานและทีมงานช่วยกันจัดทำช่วงแรกยังมีข้อมูลให้ไม่มาก
แต่ในช่วงมหาวิกฤติอุทกภัย ที่น้ำหลากเข้าท่วมหลายชุมชน จะพบการรายงานข้อมูลที่เข้มข้น พร้อมกับใช้เป็นช่องทางระดมทุนและแรงงานกรอกกระสอบทราย พร้อมกับขนไปอุดในจุดเสี่ยง
ที่สุดน้ำหลากมาไม่ถึงชุมชน พ้นความยุ่งยากไปได้ พร้อมกับความรู้จักมักคุ้นของคนบ้านใกล้เรือนเคียงมีมากขึ้น
สถานการณ์ล่าสุด หน้าเฟซบุ๊กของหมู่บ้าน และเวที กลางชุมชน คึกคักอีกรอบ ด้วยประเด็นการต่อสู้ใหม่ กับข้อมูลว่าจะมีนายทุนใกล้ชิดนักการเมือง มีแผนซื้อที่ดินแปลงย่อม ๆ จากการเคหะแห่งชาติ เพื่อเปิดทางเข้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ที่ดินตาบอดแปลงหนึ่ง
ซึ่งอาจส่งผลให้ท่าจอดรถเมล์ต้องย้าย ผู้โดยสารและชาวบ้านจะลำบากมากขึ้น
มีการต่อสู้อย่างเป็นระบบต่อเนื่อง ทั้งการตั้งเต็นท์กลางตลาด การออกเสียงประชาสัมพันธ์ที่ตลาดนัดยามเย็นให้รับรู้ทั่วกัน การขายเสื้อยืดเพื่อประกาศข้อความจุดยืนการต่อสู้
ใช้เฟซบุ๊กทำความเข้าใจพร้อมกับการรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ร่วมชุมชน
ในสายตาคนทั่วไปหรือที่ยังไม่ทราบความชัดเจน ตื้นลึกหนาบาง อาจคิดเห็นไปอย่างหนึ่ง แต่สำหรับคนรักชุมชน คือการร่วมใจกันต่อต้านความไม่ชัดเจนบางประการที่เข้ามาวอแว
แพ้ หรือชนะ ยังไม่มีใครรู้แต่การรวมตัวกันเพื่อชุมชนเกิดขึ้นแล้ว.


แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ปรากฎการณ์ดาราศาสตร์แห่งศตวรรษ ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์



หากไม่ใช่ผู้หลงใหลในท้องฟ้าหรือนักดาราศาสตร์แล้ว คงต้องถามว่าปรากฏการณ์ “ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์” นั้น สำคัญอย่างไร และทำไมถึงห้ามพลาด!!

กับปรากฏการณ์ที่นักดาราศาสตร์เรียกกันว่า “ปรากฏการณ์แห่งศตวรรษ”

“ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา” รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. บอกว่า นี่คือปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าติดตามที่สุดของ ปี 2555 เพราะว่าหาชมได้ยาก ในรอบ 100 ปีจะเกิดขึ้นเพียงแค่  2 ครั้งเท่านั้น แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 8 ปี

และครั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ จะเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2547

หากพลาดชมครั้งนี้ ต้องรอไปอีก 105 ปี ซึ่งเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่มีอายุอยู่ในปัจจุบันนี้คงหมดโอกาสได้ชม

สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ที่ดาวศุกร์เคลื่อนที่ผ่านแนวเส้น ตรงที่เชื่อมระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์ ดาวศุกร์ และโลก เรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกัน

เมื่อสังเกตจากโลกจะเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นจุดกลมเล็กเคลื่อนที่ผ่านดวงอาทิตย์

และถ้าเปรียบเทียบขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์เท่ากับลูกบาสเกตบอล ขนาดของดาวศุกร์ที่ปรากฏจะมีขนาดเพียงแค่เมล็ดถั่วเขียวเท่านั้น

การเคลื่อนที่ของดาวศุกร์จะเริ่มจากขอบด้านตะวันออกของดวงอาทิตย์ไปยังด้านตะวันตก  ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 6 ชั่วโมง

...สังเกตเห็นได้ตั้งแต่ดวงอาทิตย์โผล่พ้นจากขอบฟ้าเวลา 05.49 น. จนถึงเวลาประมาณ 11.49 น. (ตามเวลาประเทศไทย ณ กรุงเทพมหานคร) ของวันที่ 6 มิถุนายน 2555...

ดร.ศรัณย์ บอกว่า นอกจากจะหาชมได้ยากแล้ว ความน่าสนใจของปรากฏการณ์นี้ก็คือ ในอดีตการศึกษาปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ทำให้นักดาราศาสตร์สามารถคำนวณหาระยะทางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ได้
 
...จึงนับเป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ทำให้มนุษย์ทราบขนาดของระบบสุริยะได้เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2312…

และเนื่องจากปรากฏการณ์นี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้มีชีวิต ณ ปัจจุบันจะมีโอกาสได้เห็น โดยเฉพาะนักดาราศาสตร์ที่ศึกษาองค์ความรู้เกี่ยวกับระยะห่างของโลกกับดวง อาทิตย์ หากการสังเกตการณ์ในครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จ ต้องรอไปอีกกว่า 100 ปี ซึ่งจะส่งผลให้การพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับระยะห่างของดวงอาทิตย์ ล่าช้าไปอย่างมาก

แม้ปรากฏการณ์นี้จะดูได้ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย แต่ ดร.ศรัณย์ ย้ำว่าเนื่องจากเป็นการสังเกตดวงอาทิตย์โดยตรง จึงไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า จำเป็นที่ต้องใช้ความระมัดระวังและใช้อุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยสูง

เช่น กล้องโทรทรรศน์ที่ติดแผ่นกรองกรองแสง แว่นดูดวงอาทิตย์ หรือใช้การฉายภาพดวงอาทิตย์บนฉากรับภาพจากกล้องโทรทรรศน์

และขอให้ระมัดระวังการบันทึกภาพดวงอาทิตย์ด้วยกล้องดิจิทัล หรือกล้องจากมือถือ เลนส์ของกล้องต่าง ๆ เหล่านี้มีคุณสมบัติในการรวมแสง การมองภาพที่ส่องจากเลนส์ไปยังดวงอาทิตย์โดยตรง อาจทำให้ตา
บอดได้

สนใจ....ติดตามการถ่ายทอดสดเกาะติดการเกิดปรากฏการณ์ดาราศาสตร์แห่งศตวรรษนี้ ได้ที่ www.narit.or.th


แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

เปิดสเปกแท็บเล็ต ป.1



หลังกระทรวงเทคโนโลยีสาร สนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ลงนามในสัญญาจัดซื้อแท็บเล็ต ป.1 กับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. และคาดว่าในเดือน ก.ค.นี้ เด็ก ป.1 จะได้ใช้งานแล้ว

วันนี้ขอเปิดสเปกแท็บเล็ต ป.1 แบบละเอียด

แท็บเล็ต ป.1 เป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 หน่วยประมวลผล 1.2 กิกะเฮิรตซ์ หน่วยความจำหลัก (แรม) 1 กิกะบิต แบตเตอรี่ลิเธียม 3,600 แอมป์ หน้าจอ 7 นิ้ว  ฮาร์ดดิสก์ 8 กิกะไบต์ 

มี 4 สี คือ แดง น้ำเงิน บรอนซ์เงิน และบรอนซ์ทอง

รับประกันสินค้า 2 ปี ดำเนินการตามมาตรฐานสากล ราคา 82 เหรียญ หรือ ประมาณ 2,400 บาท

ส่วนตำราเรียนที่บรรจุอยู่ในแท็บ เล็ตจะเป็นเนื้อหาที่กระทรวงศึกษาธิการส่งให้กระทรวงไอซีที มีทั้งหมด 5 กลุ่มวิชาเรียน คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคม ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ และ 8 สาระวิชา โดยแบ่งเป็นเนื้อหาสำหรับเรียนเทอม 1 และเทอม 2 รวมทั้งมีเนื้อหาที่เข้าใช้งานได้ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

สุดยอดเทคโนโลยีของเอชพี อัลตร้าบุ๊กสีเงินบางเฉียบ



เป็นเวลาสองวันที่ได้มาเป็นหนึ่งในนักข่าวจากทั่วโลกประมาณ 700 คนที่เอชพี (HP) เชิญมาร่วมงาน เอชพี โกลบอล อินฟลูเอนเซอร์ ซัมมิต 2012 (HP Global Influencer Summit 2012) ณ ศูนย์การแสดงสินค้าเซี่ยงไฮ้ เอกซโป เซ็นเตอร์ เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 9-10 พ.ค. 2555

ภายในงานเอชพีได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งโน้ตบุ๊ก อัลตร้าบุ๊ก และเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรก หลังประกาศควบรวมกลุ่มธุรกิจการพิมพ์และเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ เอชพี อย่างเป็นทางการ

เอชพี ได้เผยโฉมคอมพิวเตอร์ตระกูลอัลตร้าบุ๊ก (Ultrabook) และสลีคบุ๊ก (Sleekbook) รุ่นใหม่ ออกแบบให้บางเฉียบและน้ำหนักเบา

เอชพี เอนวี่ สเปกเตอร์ เอ็กซ์ที (HP ENVY SpectreXT) เป็นอัลตร้าบุ๊กระดับพรีเมี่ยม สำหรับใช้งานแบบอัลตร้าโมบายล์ ให้ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาพ่วงไปกับดีไซน์ที่สวยงาม

เอนวี่ สเปกเตอร์ สร้างกระแสฮือฮาทันทีที่เปิดตัว ด้วยรูปทรงบางสีเงิน จึงถูกตั้งคำถามว่า เลียนแบบแมคบุ๊กแอร์หรือเปล่า ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายออกแบบของเอชพี ตอบเหมือนกันว่า ไม่ได้เลียนแบบใคร การออกแบบอัลตร้าบุ๊กของเอชพีนั้นเด่นที่ดีไซน์และเทคโนโลยีภายในตัวเครื่อง

ขณะนี้สเปกเตอร์มีวางขายแล้วตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ราคา  999.99 ดอลลาร์สหรัฐ

เอชพี เอนวี่ สลีคบุ๊ก (HP ENVY Sleekbook) และ เอชพี เอนวี่ อัลตร้าบุ๊ก (HP ENVY Ultrabook) เน้นดีไซน์และสมรรถนะ เพื่อความบันเทิง  มีจอแสดงผลขนาด 14 และ 15.6 นิ้ว

อัลตร้าบุ๊ก รุ่น เอชพี อีลิทบุ๊ก โฟลิโอ 9470 เอ็ม (HP EliteBook Folio 9470m) สำหรับใช้งานธุรกิจ ซึ่งเอชพี ได้ออกแบบโดยเน้นระบบรักษาความปลอดภัย ใช้ง่าย รองรับการใช้งานด้านไอที

มร.เจมส์ โมตัน รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของเอชพี กล่าวว่า ขณะนี้เอชพีมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอัลตร้าบุ๊กครบที่สุด  สำหรับการใช้งานส่วนบุคคลและองค์กร

ในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป หรือ ตลาดคอน ซูมเมอร์ เอชพีมีโน้ตบุ๊กใหม่ตระกูล เอชพี พาวิลเลี่ยน (HP Pavilion ) ออกแบบแนวโมเสก (Mosaic) เพื่อไม่ให้ซ้ำใคร

ทั้งนี้  การออกแบบ เอชพี โมเสก (HP Mosaic ) เป็นแนวคิดผสมผสานงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ต่อยอดมาจากปรัชญาการออกแบบ “MUSE” ทั้งในด้านทฤษฎีสี การเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยม และรูปทรงที่สวยงาม เพื่อเป็นแนวทางการออกแบบรูปแบบใหม่ เหมือนกับเอาชิ้นส่วนโมเสกเล็ก ๆ มาวางรวมกันจะกลายเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเอชพี
 
เช่น โน้ตบุ๊ก เอชพี พาวิลเลี่ยน เอ็ม 6 ตัวเครื่องเพรียวบาง เหมาะสำหรับพกพาใช้งานภายนอกได้ทั้งวัน เน้นใช้งานแบบโมบิลิตี้  ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมสีเงินขัดลายพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ ไฮเดฟ
ฟินิชั่นขนาด 15.6 นิ้ว และเทคโนโลยีบีท ออดิโอ  พร้อมลำโพงคู่ และซับวูฟเฟอร์

หน่วยประมวลผล มีให้เลือกทั้งอินเทลและเอเอ็มดี  คีย์บอร์ดเรืองแสง และกราฟิกการ์ดแยก เพื่อให้การทำงานที่ต้องการการประมวลผลขั้นสูงทำได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัด ราคาประมาณ  749 ดอลลาร์สหรัฐ  จะวางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้

เอชพี พาวิลเลี่ยน ดีวีซีรีส์  และ เอชพี พาวิลเลี่ยน จีซีรีส์ เน้นรูปแบบเรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพใช้งานครบ โดยโน้ตบุ๊ก เอชพี พาวิลเลี่ยน ดีวีซีรีส์  ตัวเครื่องเพรียวบาง ขอบเรียวมนไร้รอยต่อ แรงบันดาลใจในการออกแบบได้จากหลักพลังงานจลน์ (kinetic energy) ทำให้พาวิลเลี่ยน ดีวี6 และ พาวิลเลี่ยน ดีวี 7  ตัวเครื่องเป็นพื้นผิวโลหะสวยงาม

ส่วน พาวิลเลี่ยน จีซีรีส์ เป็นโน้ตบุ๊ก รูปแบบเรียบง่าย ออกแบบให้ลาดเอียงและเล่นระดับ ใช้โครเมียมมาเน้นความสวยงาม และตัวเครื่องมีให้เลือกหลายสี

ราคาพาวิลเลี่ยน ดีซีรีส์  ประมาณ 699, 749 และ 849 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนจี 6 และจี 4 มีวางจำหน่ายแล้ว

นอกจากนี้ เอชพี ได้เปิดตัวระบบเครื่องลูกข่ายที่มีเทคโนโลยี เพาเวอร์ โอเวอร์ อีเธอร์เน็ต (Power over Ethernet) ใช้ประโยชน์จากสายแลนเพียงสายเดียว โดยเอชพีและ 3 M ได้ทำงานร่วมกัน ออกแบบสายแลนให้เป็นสายไฟและสายแลนในเส้นเดียวกัน เพื่อลดปัญหาเรื่องหาปลั๊กไฟไม่ได้ และลดสายรุงรัง ซึ่งระบบไฟก็จะมาในสายแลน ทำให้การติดตั้งใช้งานทำได้รวดเร็ว

ส่วนเครื่องพิมพ์ เป็นเครื่องพิมพ์โมบายล์แบบออล-อิน-วันเครื่องแรกของโลก สำหรับนักธุรกิจที่ต้องการโซลูชั่นขนาดกะทัดรัดและทนทาน สำหรับการพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสาร สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา

เอชพียืนยันว่า หลังการควบรวมกลุ่มธุรกิจการพิมพ์เข้าด้วยกันจะทำให้เกิดการลงทุนและพัฒนา นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

มิเรอร์เลสที่ท้าทายมือโปร



กลางปี 2552 โอลิมปัสเผยโฉมกล้องดิจิทัล แบบมิเรอร์เลส (ไร้กระจก)เป็นรายแรก ด้วยรูปแบบเป็นคอมแพ็กที่มีความสามารถรองรับมืออาชีพ ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ หลังจากนั้น ตลาดผลิตภัณฑ์กล้องก็เปลี่ยนไป บรรดาเจ้าตลาดอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับโปร หันมาแข่งกันพัฒนากล้องประเภทนี้มากขึ้น

ในมือของโปรไม่จำเป็นต้องใช้ดีเอสแอลอาร์ หรือกล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวตัวใหญ่อีกต่อไป

ในขณะที่โอลิมปัส หัวหอกมิเรอร์เลส ก็ดีดตัวเองให้ล้ำไปอีก ด้วยโอเอ็ม ดี อี เอ็ม ไฟว์ (OLYMPUS OM-D E-M5) ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับการทำตลาดในเมืองไทยของบริษัทโอลิมปัส (ประเทศ ไทย) จำกัด (http://olympusimagingth.com) โดยแผนแรก ๆ มุ่งไปที่กิจกรรมทางการตลาดของกล้องในตระกูลโอเอ็ม-ดี (OM-D) และ เพน (PEN) เพื่อรักษาอันดับหนึ่งของกล้องมิเรอร์เลสที่ครองอยู่

โอเอ็ม ดี อี เอ็ม ไฟว์ เป็นกล้องที่ฝ่ายบริหารของโอลิมปัสให้ความสนใจเป็นพิเศษ ถึงกับส่งฝ่ายบริหารด้านเทคนิคเดินทางมาทำความเข้าใจกับสื่อไทยเป็นรายบุคคล เพื่อย้ำจุดเด่นของกล้อง 3 ประเด็นหลัก คือ 1. ช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีวีเอฟ) ความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล 2. ระบบกันสั่น 5 แกน 3. น้ำหนักเบา มีซีลยางกันละอองน้ำและฝุ่น จึงทำงานได้ท่ามกลางฝนตกหนักและฝุ่นทราย

ผู้ใช้กล้องที่มิใช่ดีเอสแอลอาร์ จะทราบดีว่า ช่องเล็งภาพด้วยตาด้านบนของกล้องดิจิทัล ทำงานได้ช้าเมื่อเทียบกับการมองโดยปกติหรือเล็งผ่านกล้องดีเอสแอลอาร์ แต่ช่องมองภาพอีวีเอฟของ โอเอ็ม ดี อี
เอ็ม ไฟว์ มีประสิทธิภาพ ความฉับไว ไล่ตามดีเอสแอลอาร์ได้ ทั้งสามารถปรับเปลี่ยนแสงสว่างหรือโทนสีผ่านหน้าจอจำลองในช่องมองนั้นได้

ความอัจฉริยะอย่างหนึ่งของกล้องก็คือ หากจะเล็งภาพจากจอสัมผัสขนาด3 นิ้ว ก็ทำได้เหมือนกล้องอื่นทั่วไป แต่ถ้าอยากจะหรี่ตาซ้ายเล็งด้วยสายตาขวา ทันทีที่ยกกล้องขึ้นนาบกับกระบอกตา ระบบจะเปลี่ยนการแสดงผลจากจอภาพเปลี่ยนเป็นช่องมองที่ตาทันที ไม่ต้องกดปุ่มปรับสวิตช์ให้ยุ่งยาก

นอกจากเล็งได้คล่อง ระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ติดมา โอลิมปัสก็อ้างว่าเร็วที่สุดในโลก

ระบบกันสั่น 5 แกนของโอเอ็ม ดี อี เอ็ม ไฟว์ ก็เป็นการปฏิวัติรูปแบบการป้องกันภาพสั่นของกล้องทั่วไป ที่จะป้องกันแนวระนาบและแนวตั้ง แต่ในความเป็นจริง โอกาสการสั่นไหวไม่ได้เกิดแค่ 2 ทิศทาง กล้องรุ่นนี้พัฒนาให้รองรับการสั่นไหวเพิ่มทั้งแนวราบ แนวตั้ง แบบหมุน ช่วยนักถ่ายภาพที่อยู่ในสถานการณ์ถูกเหวี่ยง ถูกชนรอบด้านมั่นใจขึ้น

การกันละอองน้ำและฝุ่นทราย ใช้ซีลยางเป็นเกราะหุ้มรอบตัว จึงไม่ต้องห่วงกับการถ่ายภาพกลางฝนตกหนัก หรืออยากได้ภาพสวยวันสงกรานต์ที่มีคนกระหน่ำสาดน้ำรอบตัว

กล้องรุ่นนี้พัฒนาค่าความไวแสง (ไอเอสโอ)ได้สูงถึง 25600 โดยมีนอยส์หรือสัญญาณรบกวนน้อยที่สุด

เซ็นเซอร์ แบบโฟร์เธิร์ดส์  ขนาด 17.3 x 13 มม.

ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ และโอลิมปัสก็เตรียมเลนส์ระบบโฟร์เธิร์ดส์ และไมโครโฟร์เธิร์ดส์ ให้เลือกมากกว่า 60 รุ่น

น้ำหนักเบา เพียง 425 กรัม ขนาดกว้างยาวสูง 122 x 89 x 43 มม.                   

ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่ชาร์จครั้งเดียวถ่ายได้สูงสุด 640 ภาพ

คุณสมบัติเหล่านี้ ผู้บริหารโอลิมปัสบอกว่า เทียบได้กับดีเอสแอลอาร์ของมือโปรหลายรุ่น แต่ราคาต่างกันเกือบครึ่ง.


แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

โชว์3รูปแบบประมูลใบอนุญาต3จี



ใกล้เข้ามาทุกทีกับความจริงที่คนไทยจะได้ใช้ 3 จีเต็มรูปแบบ ล่าสุดกสทช.ด้านกทค.มีแนวทางของรูปแบบการประมูล 3 จีแล้ว
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) กล่าวถึงแนวทางการออกแบบการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ว่า หากพูดถึงองค์ความรู้ในการประมูลคลื่นความถี่ถือว่าในประเทศไทยยังน้อยมาก ดังนั้นกสทช.ต้องให้ความรู้เกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่ เบื้องต้นโชว์ 3 รูปแบบการประมูล 3 จีที่ใช้กันในหลายประเทศ ก่อนเปิดการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ เพื่อให้บริการ 3 จี ในเดือน ต.ค.นี้
“การพิจารณารูปแบบการประมูลใบอนุญาต 3 จี สำหรับประเทศไทยจะพิจารณาจาก 3 รูปแบบนี้ โดยดูเรื่องการที่ทำให้เกิดแข่งขันในตลาดมากที่สุด และสร้างประสิทธิภาพในการจัดสรรคลื่น เพราะใบอนุญาต 3 จีของไทยมีอายุถึง 15 ปี ซึ่งจะนำเรื่องรูปแบบการประมูลคลื่น 3 จีเข้าที่ประชุมบอร์ด กทค.วันที่ 15 พ.ค.นี้ ก่อนส่งที่ประชุมบอร์ด กสทช.พิจารณาในวันที่ 16 พ.ค.นี้”
ดร.พัชรสุทธิ์ สุจริตตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญและให้คำแนะนำการออกแบบการประมูล บริษัท  แครมตั้น แอสโซซิเอ็ทส์ (Cramton Associates) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้บรรยายเกี่ยวกับการออกแบบการประมูลคลื่นความถี่ ว่า วัตถุประสงค์หลักของการประมูลคลื่นความถี่หลัก ๆ คือ เพื่อการแข่งขันในตลาด สร้างประสิทธิภาพในการจัดสรร และนำรายได้ในการประมูลเข้ารัฐ ซึ่งวัตถุประสงค์ในการสร้างประสิทธิ
ภาพในการจัดสรรจะสอดคล้องกับรายได้ในการประมูลเข้ารัฐ ทว่าก็มีบางประเทศที่ยอมลดเรื่องประสิทธิภาพในการจัดสรรเพื่อนำรายได้เข้า รัฐให้มาก
“ส่วนเรื่องป้องกันการฮั้วประมูลเป็นสิ่งที่ยากและไม่มีวิธีใดที่จะ ป้องกัน แม้ในแต่ละประเทศมีกฎหมายที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันเรื่องนี้ แต่ก็ยังพบผู้ที่ใช้ช่องโหว่กฎหมายเข้ามาฮั้วกันได้”
3 รูปแบบของการประมูล 3จี ที่ กทค.จะนำมาพิจารณา ประกอบด้วย
Simultaneous ascending bid auction เป็นรูปแบบการประมูลที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งเป็นวิธีการประมูลแบบเสนอราคาแข่งขันไปเรื่อย ๆ โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ และผู้ร่วมประมูลต้องเสนอราคาเพื่อรักษาสิทธิของตนทุกรอบ โดยบางประเทศจะมีการเปิดเผยชื่อผู้ประมูลและราคาที่ประมูลระหว่างแข่งขัน ซึ่งวิธีนี้ใช้ในการประมูลคลื่นความถี่ 4 จีของโปรตุเกส อิตาลี และเยอรมนี และเป็นรูปแบบการประมูลที่ประเทศไทยจะใช้ในการประมูล 3 จีครั้งที่แล้ว แต่ต่างตรงที่จะไม่เปิดเผยราคาและชื่อผู้ประมูลระหว่างแข่งขัน
ข้อดี ของการประมูลแบบ Simultaneous ascending bid auction คือ เข้าใจง่าย มีประสิทธิภาพสูงถ้าผู้ประมูลมีจำนวนของคลื่นความถี่ที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว มีการนำไปใช้ในการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ในหลายประเทศ ข้อเสีย คือ ลดความต้องการในการประมูลถ้าผู้ประมูลไม่มีจำนวนคลื่นความถี่ที่ต้องการอยู่ ในใจ
ส่วนรูปแบบการประมูล Simultaneous ascending clock auction มี ผลจากกรณีศึกษา ที่ประเทศอินเดีย ใช้การประมูลแบบเน้นเรื่องราคา (Pricing rule) ซึ่งต้องการนำรายได้เข้ารัฐมาก ๆ ทำให้ประสิทธิภาพในการจัดสรรคลื่นต่ำลง
และ Package Clock Auction เป็นรูปแบบการประมูลที่ใหม่ที่สุด โดยผู้ประมูลสามารถยื่นราคาประมูลของแต่ละแพ็กเกจและสามารถยื่นประมูลกี่ แพ็กเกจก็ได้ ซึ่งประเทศที่ใช้การออกแบบประมูลวิธีนี้ส่วนใหญ่เป็นประเทศในยุโรป
ข้อดี ของการประมูลแบบนี้ คือ เป็นวิธีการประมูลแบบตรงไปตรงมา ไม่เกิดปัญหาการลดความต้องการและความเสี่ยง มีประสิทธิภาพ แต่  ข้อเสีย  คือ มีความซับซ้อน โดยเฉพาะเรื่องของการออกแบบ
เมื่อเปรียบเทียบรูปแบบการประมูล พบว่า การประมูลใบอนุญาตแบบลอตละ5 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 9 ลอต ทำให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด และช่วยกระตุ้นการร่วมประมูลจากผู้เล่นรายใหม่ ๆ แต่มีข้อเสียคือ มีความซับซ้อนทั้งการออกแบบและการนำไปปฏิบัติ
ปลายเดือนนี้ จะได้รู้รูปแบบประมูล 3 จี ไหนที่ กทค. เลือก!
น้ำเพชร จันทา
namphetc@dailynews.co.th
http://twitter.com/phetchan



แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ตำรวจจับขอทานต่างด้าว


วันนี้ (15 พ.ค.) พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทรวรลักษณ์ ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณภัทร จุลละบุษปะ, พ.ต.อ.กัมปนาท โสภโณดร, พ.ต.อ.วุฒิวงศ์ มงคลนาวิน, พ.ต.อ.สุมิตร คุณานุคุณ, พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง, พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบก.สปพ. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้าม ชาติ บก.สปพ. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางนี อายุ 44 ปี นางดา อายุ 27 ปี นายเตี้ย อายุ 50 ปี ทั้งหมดสัญชาติกัมพูชา พร้อมด้วยเด็กสัญชาติกัมพูชา จำนวน 10  คน ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถจับกุมได้ที่ หน้าบริษัท ทิพฟา ไอซีดี จำกัด ถ.ร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง
พ.ต.อ.สุมิตร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชาวกัมพูชานำเด็กไปตระเวนขอทานในย่าน ลาดกระบังเป็นจำนวนมาก จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์จนทราบว่ากลุ่มพบผู้ต้องหาทั้งสามมีพฤติกรรมนำเด็กมา ปล่อยไว้ตามจุดต่างๆเช่น  พัทยา  ตลาดนัดต่างๆในเขตกรุงเทพฯ  และสถานที่ที่มีการจัดงานรื่นเริงในเขตกรุงเทพฯ ก่อนที่จะมารับกลับในช่วงเย็น ก่อนจะนำเงินที่ได้จากการขอทานมาใช้จ่ายกัน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนดำเนินคดีและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

สังคมเสื่อมคลิปเด็กนักเรียนตบกันกลางสนามกีฬา

วันนี้( 15 พ.ค. )ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการเผยแพร่คลิปเด็กหญิงสาวสองคนตบตีทะเลาะวิวาท กันท่ามกลางกลุ่มเพื่อน โดยคลิปดังกล่าวมีการเผยแพร่ผ่านทางเฟสบุ๊กอย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า คลิปดังกล่าวมีผู้ใช้ชื่อว่า Angle KiwKiw'z เป็นผู้โพสคลิปดังกล่าวโดยใช้ชื่อว่าน้องมายด์ ม.3 กับ น้องแอ้ม ม.5 รุ่นน้องไม่เช็ครุ่น ท้าตบรุ่นพี่ ซึ่งคลิปดังกล่าวมีความยาว3นาที 16 วินาที ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบพบว่าคลิปดังกล่าวมีการเผยแพร่ตั้งแต่ เวลา19:44 น.ของวันที่11 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาภายในคลิปปรากฏว่าภาพเนื้อหาเด็กสาวสองคนคือใส่เสื้อสีฟ้าและ เสื้อสีชมพูใชัมือตบตี ใช้เท้าแตะถีบที่ลำตัว ซึ่งบางช่วงของคลิปได้ก็จิกหน้าและกระชากผมตบอย่างไม่ยั้ง ในสถานที่ที่มีความคล้ายคลึงกับสนามกีฬาของจังหวัด ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนของทั้งสองฝ่ายจำนวนมากที่เฝ้าจับตาดูเชิงกันอย่างไม่ คลาดสายตา ก่อนจะแยกย้ายกันกับไป อย่างไรก็ตามจากการจับใจความคลิปดังกล่าวนั้นพบว่า เด็กสาวที่ใส่เสื้อสีฟ้าชื่อมายด์ และเด็กสาวที่ใส่เสื้อสีชมพูชื่อแอ้ม ส่วนสาเหตุที่ตบตีกันนั้นเกิดจากเขม่นกันไม่พอใจที่เด็กหญิงมายด์ซึ่งเป็น รุ่นน้องไม่เคารพเด็กหญิงแอ้มซึ่งเป็นรุ่นพี่
  ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า คลิปดังกล่าวได้ถูกฟอร์เวิร์ดต่อกันไปเรื่อยๆ ทั้งในเมลล์และเว็บไซต์เฟซบุ๊ก รวมทั้งในยูทูปได้ใช้ชื่อว่า War Of Stupid Hoe สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีผู้มาแสดงความเห็นว่าคลิปดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่จ.สตูล เนื่องจากตอนท้ายของคลิปมีหญิงสาวคนหญิงแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียน วิทยาลัยเทคนิคชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สตูล นอกจากนี้บางรายก็แสดงความเห็นว่าในแง่ลบไม่นึกว่าเด็กนักเรียนแค่ระดับ มัธยมต้นจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ พร้อมกับมีการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบหาที่มาที่ไปของคลิ ปอันนี้ รวมทั้งสืบหาตัวเด็กนักเรียนหญิงทั้งหมดในคลิปมาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และป้องปรามเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ต่อไป  

คุกอ่วมแก๊งหม่องหลอกเพื่อนมาทำงาน-เรียกค่าไถ่


วันนี้ (15 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีค้ามนุษย์ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายกะต้อง อายุ 39 ปี ,นายเมด็อก อายุ 34 ปี และนายโมน อายุ 43 ปี ทั้งสามเป็นชาวพม่า ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ ,หน่วงเหนี่ยวกักขัง,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่
            
คำฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 52 ระบุความผิดจำเลยว่า เมื่อเดือน ก.ค.- ส.ค. 52 จำเลยทั้ง 3 คนกับพวกที่ยังหลบหนี ได้ออกอุบายหลอกลวงผู้เสียหายหลายคนที่เป็นชาวพม่าให้เข้ามาทำงานรับจ้างแกะ หัวกุ้งที่ จ.สมุทรสาคร โดยจะให้ค่าจ้างวันละ 200 – 300 บาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ พวกจำเลยกับพาผู้เสียหายไปกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ในห้องเช่าที่ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้วบังคับขู่เข็ญให้ทำงานเป็นลูกเรือประมงหลายวันโดยไม่ได้รับค่าจ้าง และยังกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้เรื่อยมา นอกจากนี้ พวกจำเลยยังได้เรียกเงินค่าไถ่จากญาติของนายจอวินทู หนึ่งในผู้เสียหายจำนวน 15,000 บาท ซึ่งญาติของนายจอวินทู ได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดต่อเด็กเยาวชนและ สตรี(ปดส.)เข้าทำการจับกุมพวกจำเลยได้ พวกจำเลยได้ปฏิเสธ
              
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องพิพากษาให้จำคุกนายกะต้อง จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 16 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ให้จำคุก 19 ปี จำเลยยื่นอุทธรณ์คัดค้าน ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือโดยละเอียดรอบคอบ แล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานเบิกความยืนยันพฤติการณ์และสามารถจด จำใบหน้าของพวกจำเลยได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจำเลยมีลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เชื่อว่าจำเลยกระทำผิดจริง ข้อต่อสู้ของจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้พิพากษาแก้ให้จำ คุกจำเลยที่ 1 รวม 14 ปี 6 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 – 3 ให้จำคุกคนละ 13 ปี 6 เดือน.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

เล็งเช่านิคมลาดกระบังทำสน.ฉลองกรุงชั่วคราว


วันนี้ (14 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)  พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาด้านมลภาวะของสถานีตำรวจนครบาลฉลองกรุง  ว่า เรื่องนีพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) มีความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการตำรวจในโรงพัก ทั้ง 99 นาย ภายหลัง พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู่ช่วย ผบ.ตร.) ได้เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าบริเวณโรงพัก ใกล้บ่อขยะของเอกชนขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพนายตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ จึงสั่งให้ดำเนินการแก้ไขปัญหา 2 ระยะ โดยระยะสั้นให้ย้ายสถานที่ทำการของ สน.ฉลองกรุงจากเดิมไปเช่าอยู่ในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มีพื้นที่ 550 ตารางเมตร เป็นการชั่วคราว 6 เดือน และคาดว่าจะสามารถเปิดรับใช้ประชาชนได้ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนระยะยาวจะพิจารณาหาสถานที่ก่อสร้างโรงพักแห่งใหม่ในพื้นที่ และคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี นอกจากนี้ยังประสานให้สำนักสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจ สอบในพื้นที่ว่าระดับมลพิษอยู่ในขั้นไหนสามารถจะแก้ไขได้หรือไม่เพื่อหาทาง ที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

หนุ่มอัลจีเรียแทงเพื่อนตายคาห้อง


วันนี้ (15 พ.ค.) พ.ต.ต.แดนชัย พันธุ์ชา พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุแทงกันตายในห้องพักแฟลตฟิร์เด๊าส์ เลขที่ 18 หมู่ 1 ซอยประชาอุทิศ 69 แยก 1 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สส.บก.น.8พ.ต.ท.ศุทรา หล่าสกุล สว.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.สามารถ เนียมสร้อย สว.สส.สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นแฟลตแบ่งให้เช่าพักอาศัยสูง 4 ชั้น จากการตรวจสอบห้องเลขที่ 409 ชั้นที่ 4 พบศพชายชาวตะวันออกกลาง อายุประมาณ 40-45 ปี ไม่ทราบชื่อ นอนตะแคงซ้ายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกแทงเข้าตามร่างกายทั้งด้านหน้า แผ่นหลัง แขนและขา จำนวน 18 แผล โดยเฉพาะหน้าท้องถูกปาดเป็นแผลฉกรรจ์จนไส้ทะลักออกมากองกับพื้น เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ชั่วโมงจากการตรวจสอบพบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นทรัพย์สิน  นอกจากนี้ยังพบหนังสือเดินทางระบุชื่อ นายโมฮัมหมัด บูบากัส อายุ 43 ปี สัญชาติอัลจีเรีย และอาวุธมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดยาว 10 เซนติเมตร ตกอยู่กลางห้องเจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายไพโรจน์ นิมา อายุ 36 ปี ผู้ดูแลอาคาร กล่าวว่า ห้องดังกล่าวมีผู้ต้องสงสัยคือ นายโมฮัมหมัด บูบากัส เป็นผู้มาเช่าอาศัยได้นานกว่า 1 ปีแล้ว ปกติผู้ต้องสงสัยรายนี้จะพักอยู่เพียงลำพังโดยเดินทางออกจากห้องไปในช่วง เช้าและกลับมาประมาณ 3-4 ทุ่มของทุกวัน ซึ่งไม่มีใครทราบว่าประกอบอาชีพอะไร จากนั้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมานายโมฮัมหมัด บูบากัส ก็ได้พาผู้ตายซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนกันกลับมาพักที่ห้องด้วย กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 05.00 น.ของวันจันทร์ที่ 14 พ.ค.ก็มีคนได้ยินเสียงคล้ายคนต่อสู้กันในห้องที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีใครเอะใจ และในช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น.ของวันเดียวกันมีคนเห็นนายโมฮัมหมัด บูบากัส ออกจากห้องด้วยท่าทางรีบร้อนก่อนจะล็อคประตูออกจากห้องไป ต่อมาในช่วงสายวันนี้มีผู้เดินผ่านเห็นห้องถูกแม่กุญแจล็อคจากด้านนอกประกอบ กับมีคราบเลือดติดเต็มผ้าม่านและมีกลิ่นเน่าคล้ายซากศพเหม็นโชยออกมาเกรงจะ เกิดเหตุร้าย จึงรีบลงไปตามให้ตนนำอุปกรณ์ขึ้นมาตัดแม่กุญแจเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีศพถูกฆ่า ตายหมกอยู่ในห้องส่วนนายโมฮัมหมัด บูบากัส ก็หายหน้าไปอย่างไร้ร่องรอย    โดยหยิบหนังสือเดินทางไปผิดเล่ม ได้หยิบของผู้ตายไป แต่ของตัวเองดันลืมทิ้งเอาไว้ จึงเชื่อว่าคนร้ายรายนี้คงยังหลบหนีกบดานอยู่ในเมืองไทยไม่สามารถเดินทางไป นอกประเทศได้ซึ่งจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ปอศ.แถลงผลปราบซีดีเถื่อนตั้งแต่ต้นปี


วันนี้(15 พ.ค.)ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ. นายเกียรติคุณ ทักษิณนุกุลวงศ์ ผอ.ฝ่ายปราบปรามและตรวจสอบ บ.จีพาเทนต์ จำกัด ในเครือ บ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) พร้อมศิลปินนักร้องในสังกัดประกอบด้วย ไมค์ ภิรมย์พร ไอซ์ ศรันยู ดิว พงษธร และแอปเปิ้ล อิษฎ์อาณิก รวมทั้งนายวิบูลย์ ลีรัตนขจร ผู้บริหารบริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จํากัด และศิลปินนักแสดงชื่อดังจากไทยทีวีช่อง 3 จอนนี่ แอนโฟเน่ โบ๊ท วิบูลย์นันท์ ซี-ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ นนท์-ภูดิศ สุริยวงศ์ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมแผ่นดีวีดีและซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ในช่วงเดือน ม.ค.55-ปัจจุบัน
พล.ต.ต.โกวิทย์ เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกับหน่วยงานที่ เกี่่ยวข้องดำเนินการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาอย่างจริง และผ่านมาทาง บก.ปอศ.ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการ ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาโดยตลอด ทางบก.ปอศ.มีผลการจับกุมแผ่นซีดี ดีวีดี ละเมิดลิขสิทธ์ได้มากถึงจำนวน 260,145 แผ่น จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 998 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 60 ล้านบาท โดยเฉพาะวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาทางบก.ปอศ.สามารถจับกุมผู้ต้องหาในตลาดบ้านหม้อ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงได้ 2 ราย ยึดของกลางเป็นแผ่นวีซีดี กับดีวีดีละเมิดลิขสิทธิ์ได้มากถึง 26,649 แผ่น ซึ่งในจำนวนนี้มีภาพยนตร์เรื่อง ATM เออรัก เออเร่อ ดีวีดีบันทึกการแสดงคอนเสิร์ตของเบิร์ด ธงไชย วงโปเตโต้ แคลช คอนเสิร์ตเชเเนลทรี 4+1 ซูเปอร์สตาร์ นอกจากนี้ยังมีละครของทางไทยทีวีสีช่อง 3 ที่เพิ่งจบไปเช่น เรื่องแม่ยายที่รัก แหม่มแก้มแดง รักออกอากาศ ฯลฯ อย่างไรก็ตามทาง บก.ปอศ.ขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้ใช้หรือซื้อแผ่นวีซีดี ดีวีดีละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะนอกจากเป็นการส่งเสริมให้มีการกระทำผิดเพิ่มแล้ว ยังได้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพและยังก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจตามมาอีก ด้วย
ขณะที่ไมค์ ภิรมย์พร นักร้องลูกทุ่งชื่อดังกล่าวว่า หลังตนได้มาทำงานเขียนเพลงเอง เป็นโปรดิวเซอร์เอง ทำให้รู้ถึงว่ากระบวนการผลิตนั้นยากทุกขั้นตอน แต่เมื่อตนไปเดินตามงานวัด หรือคอนเสิร์ตกลับมีแฟนเพลงนำแผ่นซีดีของตนที่รวมอยู่กับของคนอื่นในที่วาง ขายในราคา 3 แผ่น 100 มาให้ตนเซ็นชื่อให้ ตนก็ต้องจำใจฝืนเซ็นให้ไป เพราะเชื่อว่าแฟนเพลงเหล่านั้นไม่รู้ว่านั่นคือของปลอม ซึ่งช่วงหลังที่ตนไปเล่นคอนเสิร์ตก็ต้องอธิบายให้กลุ่มแฟนเพลงเข้าใจว่าของ แท้เป็นอย่างไร พร้อมฝากไม่ให้ไปอุดหนุนพ่อค้าที่ขายของปลอม เพราะการทำแบบนั้นจะทำให้เจ้าของผลงานหมดกำลังใจ นอกจากนี้ตนยังเพิ่มช่องทางการขายของแท้ด้วยในการนำซีดีไปขายเองตามงาน คอนเสิร์ตอีกด้วย
ด้านจอนนี่ แอนโฟเน่ ดารานักแสดงชื่อดัง กล่าวว่า หากอยากรู้ว่าผลงานแต่ละชิ้นกว่าจะผลิตออกมาได้นั้นยากเพียงใด ก็ให้ลองมาเป็นผู้ลงทุนหรือผู้ผลิตเองเพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก เช่นการจัดคอนเสิร์ตนั้น จะต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทางทีมงานต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงให้กับต้นสังกัด หรือศิลปินที่แต่งเพลง เรียบเรียงทำนองเอาไว้ ตนมีความคิดที่จัดคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีกับศิลปินไทยร่วมกัน ซึ่งต้องใช้เงินเป็น 10-20 ล้านบาท และถ้าจะทำดีวีดีบันทึกการแสดงสดก็ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับค่ายเหล่านั้น ด้วย แต่หากยังมีการก๊อปปี้้กันอยู่แบบนี้งานคอนเสิร์ตดีๆแบบนี้ก็ไม่อาจจะเกิด ขึ้่นได้ เพราะทำไปก็ไม่คุ้ม เนื่องจากศิลปินเหล่านี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับยอดขายแผ่นผีด้วย.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

มือมืดเผาศาลาหมู่บ้านเสื้อแดงสงขลา


วันนี้ ( 15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน      ลอบวางเพลิงศาลาประจำหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 18/4 หมู่ 2 บ้านแคเหนือ  ต.แค    อ.จะนะ สงขลา  ของ นายอาดีนันท์ บูหัส อายุประมาณ 35 ปี ได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยศาลาดังกล่าวตั้งอยู่ในหมู่บ้านคนเสื้อแดง
หลังจากที่เมื่อวันที่  14พ.ค. ที่ผ่านมา นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช.ได้ไปเป็นประธานเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยต้านภัยยาเสพติด และต่อต้านอำนาจเผด็จการรัฐประหาร ใน อ.จะนะ ซึ่งจุดที่ทำพิธีเปิดอยู่บริเวณศาลาที่ถูกเผา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุเรื่องการเมืองที่กลุ่มการเมืองบางกลุ่มไม่พอใจ การเคลื่อนไหวของกลุ่มแกนนำ นปช.และคนเสื้อแดงในจ.สงขลา ที่พยายามขยายฐานเปิดหมู่บ้านคนเสื้อแดงในจ.สงขลาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การจัดตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงในจ.สงขลา ขณะนี้ได้จัดตั้งแล้วในพื้นที่3 ตำบลคือ ต.ขุนตัดหวาย ต.คู และต.แค อ.จะนะ จ.สงขลา รวม10 หมู่บ้าน
ขณะที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดง เตรียมเปิดหมู่บ้านในพื้นที่ภาคใต้ โดยระบุว่า กังวลว่าจะเป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้กับประชาชน เพราะเป็นการทำเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งสวนทางกับนโยบายรัฐบาลเรื่องการสร้างความปรองดอง ขณะที่ความชัดเจนเรื่องงบประมาณในการจัดกิจกรรมแต่ละครั้งนั้น มีการนำงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชนไปใช้หรือไม่ และมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับงบประมาณที่ใช้ในการจัด กิจกรรมดังกล่าว ว่าได้นำงบประมาณส่วนใดมาใช้ และขอให้รัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ในการปกครองทางการเมืองให้ชัดเจนว่าจะเป็นไป ในทิศทางใด.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

หนุ่มนั่งจิบเหล้าพลาดตกตึกดับ


วันนี้(15 พ.ค.)พ.ต.ต.พิรมย์ เมืองไสย พงส.(สบ2) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุ มีผู้พลัดตกตึกเสียชีวิต ที่อาคาร ทีซี ทาวเวอร์ ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 13 แขวงและเขตห้วยขวาง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.ท.ณพพนธ์ ธนภัคนันท์ สวป.สน. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู  ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 10 ชั้น บริเวณพื้นด้านหลังอาคาร พบศพ นายคมกริช อุ่นเรือน อายุ 29 ปีอยู่บ้านเลขที่ 20/17 หมู่ 8 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นลายพลางทหาร สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตก จากการตรวจสอบที่หน้าต่างบันไดหนีไฟชั้น 7 พบรองเท้าแตะของผู้ตาย และขวดสุราตกอยู่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนางศุภลักษ์ เทพารักษ์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของผู้ตาย ให้การว่า ตนพักอาศัยอยู่กับผู้ตายที่ห้องพัก หมายเลข 436/98 ชั้น 7 โดยผู้ตายทำงานเป็นแคชเชียร์อยู่โต๊ะสนุกเกอร์ในย่านนี้ ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำงาน ปล่อยผู้ตายอยู่ที่ห้องคนเดียว จนกระทั่งมีคนโทรบอกว่าผู้ตายพลัดตกตึกจนเสียชีวิต คาดว่าน่าจะตกมาเอง เพราะไม่ได้มีเรื่องทะเลาะอะไรกันแต่อย่างใด มีเพียงผู้ตายก่อนหน้านี้เคยบ่นกับตนเองว่าเครียดนิดหน่อยเท่านั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคาดว่าผู้ตายน่าจะยกขวดสุราดื่ม ทำให้เสียหลักหงายหลังพลัดตกลงมาเอง ซึ่งจะได้สอบสวนอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ครม.ตั้งงบขาดดุลปี56จำนวน2.4ล้านล้าน


วันนี้ ( 15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประ มาณพ.ศ.2556 ที่ทางสำนักงบประมาณได้จัดทำขึ้น มีสาระสำคัญ ดังนี้ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2556 จำนวน 2,400,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จำนวน 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ  โดยนโยบายงบประมาณปี56 เป็นงบประมาณขาดดุล ที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายของหน่วยงานควบคู่กับการพิ จาณาแหล่งเงินอื่น ได้แก่ เงินกู้ตามพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและ สร้างอนาคตของประเทศ เงินรายได้ และเงินสะสมคงค้างของหน่วยงาน รวมทั้งพิจารณาทบทวนเพื่อปรับลดเป้าหมายการดำเนินงานของหน่วยงานที่มีลำดับ ความสำคัญลดลง หรือหมดความจำเป็นหรือไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและสถานการณ์ปัจจุบัน  และให้ทสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 16 ข้อ
สำหรับงบประมาณปี56 จำนวน 2,400,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,901,911.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2555 จำนวน 61,239.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.3 โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 79.2 ของวงเงินงบประมาณ รายจ่ายลงทุน จำนวน 448,938.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 จำนวน 10,383.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.4 โดยรายจ่ายลงทุนดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 18.7 ของวงเงินงบประมาณ นอกจากนี้ได้กำหนด รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้จำนวน 49,149.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 จำนวน 2,295.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.1 ของวงเงินงบประมาณ
ส่วนหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณสูงสุด 5ลำดับแรก คือ  1.กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 460,075,180,900 บาท คิดเป็นร้อยละ 19.2 ของวงเงินงบประมาณ  2. งบกลาง จำนวน 319,207,000,000 บาท  3.กระทรวงมหาดไทย จำนวน 309,205,167,300 ล้านบาท 3.กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 214,845,460,700 บาท 4.กระทรวงกลาโหม จำนวน 180,,811,381,800 บาท 5. กระทรวงการคลัง จำนวน 179,249,013,800 บาท
นอกจากนี้ในส่วนของประมาณการรายรับรัฐบาลได้ประมาณการรายรับในปี 2556 จำนวน 164,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7 โดยแบ่งเป็นรายได้จากภาษีอากรรวม 168,195.1 หรือร้อยละ 7.7 การขายสิ่งของและบริการ จำนวน 76.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.4 อย่างไรก็ดีคาดว่ารายได้จากการเก็บภาษีรัฐพาณิชย์จะลดลงประมาณ 4,000 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 3.8  และรายได้อื่นๆ  จำนวน 28.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.1
ส่วนภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 56 คาดว่าจะขยายตัวประมาณ ร้อยละ 4-5  อัตราเงินเฟ้อประมาณร้อยละ 3.8   ส่วนภาคการส่งออกคาดว่าจะเป็นแรงสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากการที่เศรษฐกิจของ ประเทศคู่ค้าปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชีย และปัจจัยที่พึงระวังในการบริหารเศรษฐกิจปี56 คือ ราคาสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภคที่อาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประกอบกับ ราคาน้ำมันและราคาวัตถุดิบในตลาดโลกยังคงผันผวนในระดับสูง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ยังมีความเสี่ยงจากปัญหาหนี้สาธารณของกลุ่มประเทศยุโรปที่ยังอยู่ในระดับ สูง.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

“ยงยุทธ” แจง พท.ปรับโครงสร้างแบ่ง 19 โซน


วันนี้(15พ.ค.). ที่พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อตรียมความพร้อมในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 21-23 พ.ค. นี้ มีสมาชิกเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นต้น โดยนายยงยุทธ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ถึงการปรับโครงสร้างพรรคจาก 5 คณะทำงานรายภาค เป็นแบ่งกลุ่มจังหวัด 19 โซน ว่า การปรับโครงสร้างดังกล่าวทางคณะทำงานยุทธศาสตร์ของหารือกันเป็นอย่างดีและ เห็นตรงกันว่าควรปรับเพื่อให้การดูแล ส.ส.เป็นไปอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐมนตรีสามารถลงพื้นที่ดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากที่ผ่านมากรอบการดูแลกว้างทำให้กระจายตัวเกินไป ทั้งนี้เชื่อว่าการแบ่งลักษณะนี้ ไม่เป็นการเปิดช่องให้มีการตั้งกลุ่มการเมืองในพรรคเพื่อต่อรองตำแหน่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้นอย่างที่มีข้อกังวล เพราะรัฐมนตรีจะลงมากำกับอย่างใกล้ชิด แต่ใครจะมองว่าทำให้ต่อรองหรือไม่นั้นคิดว่าขึ้นอยู่กับคนจะมอง หากมองว่าจะทำให้งานกระฉับกระเฉง รวดเร็วขึ้นก็ได้

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

ชาวบ้านรอบนิคมมาบตาพุดร้องกสม.


วันนี้ ( 15 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เนื่องจากเกิดเหตุระเบิด และเพลิงไหม้ บริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ จำกัด และกรณีก๊าซรั่วในโรงงานของบริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมิคัลล์ จำกัด เมื่อว่าวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก  นายสุทธิ กล่าวว่า ทางเครือข่ายขอเสนอให้มีมาตรการการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบจริงจังและ ยั่งยืน ต่อกรณีอุบัติภัยสารเคมี และเปิดเผยข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ทั้งหมดอย่างโปร่งใสต่อสาธารณชน และอยากให้รัฐบาล และโรงงานอุตสาหกรรมนำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ปี 2553-2557 มาบังคับใช้อย่างจริงจัง พร้อมกับฟื้นฟูและบำบัดผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสังคม รวมถึงการสร้างระบบการชดเชย เยียวยาอย่างเป็นระบบ เป็นธรรม และยั่งยืน ต่อผู้ได้รับผลกระทบโดยจะต้องดำเนินคดีทางกฎหมายต่อหน่วยงานที่กระทำผิด ฐานละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงจัดทำประกาศผังเมืองรวมอย่างมีประสิทธิภาพ จัดทำแนวกันชนและแนวป้องกัน อย่างไรก็ตามเครือข่ายเสนอให้ทำบัญชีถือครองวัตถุอันตราย บัญชีการระบายมลพิษ และแจ้งให้สาธารณชนรับทราบพร้อมกับเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการไตรภาคี ที่จะตรวจสอบโรงงานทั้งหมด และให้มีการทบทวนระงับนโยบายการลงทุนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั้งในและนอน อุตสาหกรรมภายในประเทศไทย  ด้านนพ.นิรันดร์ กล่าวว่า ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ติดตามการละเมิดด้านสิทธิชุมชน ในกรณีปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมาตลอด อย่างไรก็ตามข้อเสนอจากกลุ่มเครือข่าย ทางคณะกรรมการสิทธิฯ จะนำเรื่องนี้ไปตรวจสอบต่อไป.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

“เฉลิม” ชี้ผ่ากทม. เพื่อไทยมีลุ้นเก้าอี้ผู้ว่าฯ ปลื้มคุมฝั่งธนฯ


วันนี้ ( 15 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคแบ่ง กทม.ออกเป็น 3 โซนและได้รับมอบหมายให้ดูแลฝั่งธนบุรี ว่า ตนเพิ่งทราบว่าถูกมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ฝั่งธนบุรี ดังนั้นจึงไม่ทราบอำนาจหน้าที่ของประโซนว่าเป็นอย่างไร ครอบคลุมการแบ่งพื้นที่อย่างไร รวมถึงการเสนอชื่อของผู้เหมาะสมลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ แต่ที่มั่นใจ ใจคือพรรคเพื่อไทยจัดระบบนี้ จะทำให้พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.มากขึ้นรวมทั้งโอกาสได้ผู้ว่าฯ กทม.ด้วย เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้แก่พรรคประชาธิปัตย์ทั้งการเลือกตั้ง ส.ส.และผู้ว่าฯ กทม.เป็นเงื่อนไขหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สิ่งนี้อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาเราพ่ายแพ้ในสนาม กทม.อย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่าเคยเสนอให้พรรคแบ่งพื้นที่ กทม.หลายครั้งจนเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เกรงจะเกิดปัญหาซ้ำและได้รับแรงต่อต้านจาก ส.ส. กทม.หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งและการแบ่งพื้นที่ครั้งนี้ไม่น่าจะเกิดปัญหาเชื่อว่าจะ ได้รับความร่วมมือ พื้นที่ๆ ตนดูแลเขาก็ดีใจเพราะจะมีคนปราศรัยให้ และโดยหลักเกณฑ์ต้องให้สิทธิอดีตผู้สมัคร ส.ส.คนเดิมก่อน
เมื่อถามว่าเป็นประธานฝั่งธนฯ มั่นใจว่าเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 28 บางบอน นายวัน อยู่บำรุง บุตรชาย ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจะชนะหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า  ครั้งนี้ดีที่เรามีโอกาสมีเวลาเตรียมตัวนาน คราวที่แล้วก็ไม่น่าแพ้ แต่ส่วนหนึ่งเพราะรู้ล่วงหน้าว่าจะได้ลงสมัครแค่ 2 อาทิตย์ ประชาชนในพื้นที่ก็ไม่มั่นใจในตัวผู้สมัคร

เมื่อถามว่าการปรับโครงสร้างดังกล่าวเพื่อสลายขั้วทางการเมืองหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีขั้ว ไม่มีกลุ่ม ขอให้เชื่อตน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ คิด พรรคเพื่อไทยทำ และมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และตนไม่นอกเส้นเพราะเข้าใจระบบพรรคซึ่งสำคัญที่สุด ดูจากการเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยชนะเพราะบารมี พ.ต.ท.ทักษิณ นโยบายพรรค และความนิยมในตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ทราบทางการเมืองเมื่อถามว่าการปรับโครงสร้างเพื่อรอง รับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กลุ่มนี้เป็นคนมีความรู้ ความสาสามารถ ประสบการณ์ เชื่อว่าจะทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็งขึ้น เพื่อสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ตลอดไป ทั้งนี้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 เป็นคนมีบารมีขยับบ่อยก็เป็นข่าวเหมือนพญาหงส์ กระพือปีกทีเดียวเสียงดังพรึ่บพรั่บ ตนเป็นอีกา กระพือปีกเสียงไม่ดัง.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

"โคทม" เปิดประเด็นถกแถลงยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ


 วันนี้ ( 15 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายโคทม อารียา อาจารย์ประจำสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล  แถลงข่าวภายหลังการประชุมถกแถลงรัฐธรรมนูญ  ว่า ทางสถาบันได้มีการจัดทำโครงการถกแถลงเกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงรัฐ ธรรมนูญ เพื่อหยิบยกบางประเด็นของรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณา หลังจากจัดประชุมกลุ่มเจาะจง 8 ครั้ง โดยมีข้อเสนอ 9 ข้อ อาทิ  การกำหนดที่มาผู้สมัคร ส.ส.จะต้องไม่สังกัดพรรคการเมือง รวมถึงควรจะใช้ระบบเลือกตั้งใดเลือกตั้ง ส.ส.   ความสำคัญของ ส.ว.  ว่าต่อไปควรมีหรือไม่  หรือหากมีแล้วจะทำหน้าที่ มีวาระการดำรงตำแหน่งกี่ปี  รวมทั้งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ควรจะมีมาตรฐานในการดำเนินงานเช่นไร  และกำหนดยุทธศาสตร์ในการดำเนินงาน ควรกำหนดโครงสร้างตุลาการให้ยึดโยงประชาชนมากขึ้นหรือไม่ เช่น การให้วุฒิสภาหรือรัฐสภามีส่วนร่วมในการคัดเลือกประธานศาลฎีกา จากการเสนอชื่อของประธานศาลฎีกา ทั้งนี้ ทางสถาบันจะเริ่มการถกแถลงเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ โดยในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้จะลงพื้นที่ในกลุ่ม 6 จังหวัด  เพื่อเร่งเดินสายทำความเข้าใจกับประชาชนได้แล้วเสร็จโดยเร็วด้วย และในต้นเดือนตุลาคมทางสถาบันก็จะมีการจัดประชุมใหญ่เพื่อสรุปข้อคิดเห็น ก่อนนำเสนอให้สภาร่างรัฐธรรมนูญนำไปประกอบยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป นายโคทม กล่าวว่า ตนไม่คาดหวังว่าข้อเสนอทั้งหมดจะถูกบรรจุอยู่ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่อยากแสดงให้เห็นว่าข้อเสนอเป็นเสียงของประชาชนโดยตรง ไม่ใช่กลุ่มผู้มีอำนาจ ตลอดจนเป็นแนวทางที่เริ่มจากการนำข้อเสนอไปเผยแพร่ให้กับประชาชนเพื่อเป็น ทาง เลือกให้ประชาชนนำไปพิจารณาต่อยอดและมีความพร้อมที่จะตัดสินใจในการเลือก ตั้ง ส.ส.ร. อย่าง ไรก็ตาม การเปิดประเด็นครั้งนี้สามารถป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกใช้เป็นเครื่องมือ เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะไปผูกโยงเพียงแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่า นั้น  ทั้งนี้ หากส.ส.ร. ไม่นำข้อเสนอของทางสถาบันภายหลังจากการจัดเวทีและได้ข้อสรุปทั่วประเทศแล้ว ทางส.ส.ร.ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากข้อสรุปทั้งหมดเป็นความคิดเห็นที่มาจากทุกภาคส่วน.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

พบแล้ว 1 ราย เซ็กซ์หมู่ทหาร ฉาวโฉ่


วันนี้(15 พ.ค.) พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีภาพชายคล้ายทหารมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว ให้สัมภาษณ์ภายหลังเรียกหน่วยต้องสงสัยเข้ามาให้ข้อมูลเพื่อหาตัวผู้กระทำ ความผิดว่า เบื้องต้นทราบตัวผู้ที่กระทำและเป็นคนที่อยู่ในภาพแล้ว 1 ราย ซึ่งเป็นพลทหารที่ยังประจำการอยู่ภายในหน่วย จ.เพชรบูรณ์ ส่วนผู้ที่อยู่ในภาพอื่นๆยังไม่สามารถตรวจสอบได้เป็นใครและสังกัดอยู่หน่วย ไหน ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยต้องสงสัยตรวจสอบที่มาของภาพอีกครั้งว่าเกิดที่จุด ใด บริเวณใดและหน่วยใดเพื่อยืนยันให้ได้ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะตรวจสอบได้ทั้งหมดว่าผู้ที่อยู่ในภาพ นั้นเป็นใคร
พล.อ.ทนงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทางต้นสังกัดของทหารที่ทำความผิดนั้นตั้งคณะกรรมการสอบ สวนเบื้องต้นขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่ทางกฎหมายได้พิจารณาและตรวจสอบว่านอกจากประเด็นที่ ทำให้กองทัพเสื่อมเสียแล้ว ยังสามารถดำเนินการกฎหมายหมายทางทหารในประเด็นอื่นได้หรือไม่ ส่วนทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการไปแล้วเราคงเอาผิดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล คงต้องให้ผู้เสียหายดำเนินการฟ้องเอง ซึ่งหลายๆภาพก็ไม่ใช่สถานที่ราชการทั้งหมด เพราะยังเป็นบ้านพักส่วนตัว และโรงแรม เราก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการเราจะตรวจสอบถึงที่สุดเพื่อหาตัวผู้ กระทำมาลงโทษเพราะทำให้กองทัพเสื่อมเสียชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไม่ได้สั่งการอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะกระบวนการสอบสวน ยังไม่จบกระบวนการจนกว่าจะได้ข้อเท็จจริงให้มากที่สุดและเร็วที่สุด
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า จากผลการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารูปภาพทั้งหมดจำนวน 31 ภาพนั้นพบว่า มีการร่วมเพศในหลายสถานที่ทั้งบ้านพัก โรงแรม และในหน่วยทหาร ซึ่งแต่ละสถานที่ต่างถูกบันทึกภาพในเวลาที่แตกต่างกัน โดยภาพที่เกิดขึ้นในสถานที่คล้ายหน่วยทหารถูกบันทึกภาพเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนว่า เป็นทหารสังกัดหน่วยใด  ส่วนภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านพักเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ เดือนต.ค.ปี54 ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า บ้านพักดังกล่าวเป็นบ้านพักของทหารม้าอยู่บนแหล่งท่องเที่ยวเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ในการดูแลของม.พัน 26 ซึ่งเป็นแหล่งที่พักท่องเที่ยวเปิดให้ข้าราชการทหาร ครอบครัวทหารพักผ่อนในวันหยุด และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาพักในราคาถูกเริ่มต้นตั้งแต่ราคา 300 บาทเป็นต้นไป
แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวอีกว่า จากการสอบสวนพบว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งที่มีความรู้จักสนิทกับทหารได้เข้ามาเช่าบ้านพักดังกล่าว และด้วยความที่สามีภรรยาคู่นี้เป็นคนที่มีรสนิยมชอบการสวิงกิ้งจึงได้ชักชวน ทหารเกณฑ์สังกัดม.พัน26มา ร่วมเพศกับภรรยาตนเอง และได้มีการบันทึกภาพการมีเพศสัมพันธ์จนนำมารูปดังกล่าวมาโพสต์แบ่งปันใน เว็บไซต์เกี่ยวกับสวิงกิ้งจนล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพในโซเชี่ยลมีเดียอย่าง แพร่หลาย  โดยทหารเกณฑ์บางส่วนที่อยู่ในภาพร่วมเพศในบ้านพักขณะนี้ยังอยู่ในราชการอยู่ อย่างไรก็ตามขณะนี้คณะกรรมการกำลังตรวจสอบในประเด็นอื่นด้วยว่า คู่สามีภรรยาเป็นกระบวนการต้องการดิสเครดิตกองทัพทำให้กองทัพเสื่อมเสียชื่อ เสียงหรือไม่ หรือเป็นกระบวนการการทำหนังโป๊

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

มทภ.1ไม่ห่วงแดงชุมนุมใหญ่19 พ.ค.เชื่อตร.ดูแลได้


วันนี้ ( 15 พ.ค.) ที่โรงเรียนวัดโพสพผลเจริญ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทาง พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมครบรอบ 2 ปีในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว  และในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้ประสานเพื่อขอความช่วยเหลือจาก กองทัพภาคที่ 1แต่อย่างใด  สำหรับเรื่องของการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงนั้นเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะต้อง พยายามช่วยกัน ไม่ใช่หน้าที่ของทหารเพียงฝ่ายเดียว หน่วยงานใดที่มีความสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่ก็ต้องช่วยกันให้ทุกอย่าง เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ตนไม่ได้รู้สึกหนักใจ และทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้กำชับให้กำลังพลพยายามทำความเข้าใจในสิ่งต่างๆกับประชาชนในระหว่างการ ปฏิบัติหน้าที่ด้วย.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

นายกฯ ยืนยันไทยพร้อมส่งกองกำลังร่วมปราบโจรสลัด


วันนี้(15พ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเข้าเยี่ยมชมศูนย์บัญชาการกองกำลังผสมทางทะเล ที่กรุงนามานา ระหว่างการเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนเป็นวันที่ 3 นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตรนายกรัฐมนตรี  ได้กล่าวกับผู้บัญชาการศูนย์ฯ ตอนหนึ่งว่า จากที่ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ปัจจุบัน จะเห็นว่าศูนย์บัญชาการกองกำลังผสมทางทะเลมีภารกิจหลักในการทำให้อ่าวเอเดน และชายฝั่งทะเลโซมาเลีย ปลอดภัยจากโจรสลัดและการปล้นสะดมทางทะเล ซึ่งเป็นการดำเนินการตามเป้าประสงค์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จึงขอเสนอแนะให้ทางการบาห์เรนสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อความสงบและสันติภาพในบริเวณ ดังกล่าว สำหรับประเทศไทย เห็นความสำคัญในการเพิ่มเติมความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามโจรสลัด และการปล้นสะดมทางทะเลในบริเวณอ่าวเอเดน และชายฝั่งทะเลโซมาเลีย เนื่องจากไทยก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของการปล้นสะดมเหล่านี้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ขบวนการปล้นสะดมทางทะเลได้ลุกลามมาถึงฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย และจะลามถึงฝั่งตะวันออกในไม่ช้า กองทัพเรือของไทยจึงมีความภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้เข้าร่วมปฏิบัติการ เคลื่อนกำลังพลทั้งสองครั้งของกองบัญชาการกองกำลังผสมทางทะเล และเชื่อมั่นว่าปฏิบัติการของศูนย์ดังกล่าวจะประสบความสำเร็จอย่างดี โดยไทยจะให้การสนับสนุนอยู่อย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การให้การสนับสนุนแก่ศูนย์บัญชาการกองกำลังผสมทางทะเล แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่ชัดเจนของไทยในฐานะสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ในการส่งเสริมให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงในระดับนานาชาติ รวมถึงความมั่นคงและความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งเชื่อมั่นว่าการดำเนินการของศูนย์บัญชาการกองกำลังผสมทางทะเล ความร่วมมือระหว่างกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) และสมาชิกองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) จะเป็นไปได้อย่างดี และจะร่วมกันปราบปรามกลุ่มโจรสลัด และส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงและความปลอดภัยทางทะเลได้ในที่สุด
ทั้งนี้กองกำลังผสมทางทะเลเป็นกรอบความร่วมมือระหว่าง 26 ประเทศ เพื่อเสริมสร้างรักษาความมั่นคงทางทะเล ต่อต้านการก่อการร้ายและโจรสลัดในน่านน้ำของภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของสินค้าพลังงานที่สำคัญที่สุดของโลก ในส่วนของประเทศไทยได้เข้าร่วมในกองกำลังผสมทางทะเลตั้งแต่ปี 2552 โดยกองทัพเรือส่งหมู่เรือปราบโจรสลัดเข้าร่วมลาดตระเวนในบริเวณอ่าวเอเดนและ ชายฝั่งโซมาเลียในปี 2552 และ 2553 และปัจจุบันนายทหารเรือไทยได้รับตำแหน่งผู้บังคับบัญชากองกำลังเฉพาะกิจผสม 151 (Combined Task Force- CTF 151) ภายใต้กองกำลังผสมทางทะเล เพื่อปฏิบัติภารกิจปราบปรามโจรสลัดในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย ระหว่างเดือนมี.ค.-มิ.ย. 2555

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources