กลางปี 2552 โอลิมปัสเผยโฉมกล้องดิจิทัล แบบมิเรอร์เลส (ไร้กระจก)เป็นรายแรก ด้วยรูปแบบเป็นคอมแพ็กที่มีความสามารถรองรับมืออาชีพ ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ หลังจากนั้น ตลาดผลิตภัณฑ์กล้องก็เปลี่ยนไป บรรดาเจ้าตลาดอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับโปร หันมาแข่งกันพัฒนากล้องประเภทนี้มากขึ้น
ในมือของโปรไม่จำเป็นต้องใช้ดีเอสแอลอาร์ หรือกล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวตัวใหญ่อีกต่อไป
ในขณะที่โอลิมปัส หัวหอกมิเรอร์เลส ก็ดีดตัวเองให้ล้ำไปอีก ด้วยโอเอ็ม ดี อี เอ็ม ไฟว์ (OLYMPUS OM-D E-M5) ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับการทำตลาดในเมืองไทยของบริษัทโอลิมปัส (ประเทศ ไทย) จำกัด (http://olympusimagingth.com) โดยแผนแรก ๆ มุ่งไปที่กิจกรรมทางการตลาดของกล้องในตระกูลโอเอ็ม-ดี (OM-D) และ เพน (PEN) เพื่อรักษาอันดับหนึ่งของกล้องมิเรอร์เลสที่ครองอยู่
โอเอ็ม ดี อี เอ็ม ไฟว์ เป็นกล้องที่ฝ่ายบริหารของโอลิมปัสให้ความสนใจเป็นพิเศษ ถึงกับส่งฝ่ายบริหารด้านเทคนิคเดินทางมาทำความเข้าใจกับสื่อไทยเป็นรายบุคคล เพื่อย้ำจุดเด่นของกล้อง 3 ประเด็นหลัก คือ 1. ช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีวีเอฟ) ความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล 2. ระบบกันสั่น 5 แกน 3. น้ำหนักเบา มีซีลยางกันละอองน้ำและฝุ่น จึงทำงานได้ท่ามกลางฝนตกหนักและฝุ่นทราย
ผู้ใช้กล้องที่มิใช่ดีเอสแอลอาร์ จะทราบดีว่า ช่องเล็งภาพด้วยตาด้านบนของกล้องดิจิทัล ทำงานได้ช้าเมื่อเทียบกับการมองโดยปกติหรือเล็งผ่านกล้องดีเอสแอลอาร์ แต่ช่องมองภาพอีวีเอฟของ โอเอ็ม ดี อี
เอ็ม ไฟว์ มีประสิทธิภาพ ความฉับไว ไล่ตามดีเอสแอลอาร์ได้ ทั้งสามารถปรับเปลี่ยนแสงสว่างหรือโทนสีผ่านหน้าจอจำลองในช่องมองนั้นได้
ความอัจฉริยะอย่างหนึ่งของกล้องก็คือ หากจะเล็งภาพจากจอสัมผัสขนาด3 นิ้ว ก็ทำได้เหมือนกล้องอื่นทั่วไป แต่ถ้าอยากจะหรี่ตาซ้ายเล็งด้วยสายตาขวา ทันทีที่ยกกล้องขึ้นนาบกับกระบอกตา ระบบจะเปลี่ยนการแสดงผลจากจอภาพเปลี่ยนเป็นช่องมองที่ตาทันที ไม่ต้องกดปุ่มปรับสวิตช์ให้ยุ่งยาก
นอกจากเล็งได้คล่อง ระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ติดมา โอลิมปัสก็อ้างว่าเร็วที่สุดในโลก
ระบบกันสั่น 5 แกนของโอเอ็ม ดี อี เอ็ม ไฟว์ ก็เป็นการปฏิวัติรูปแบบการป้องกันภาพสั่นของกล้องทั่วไป ที่จะป้องกันแนวระนาบและแนวตั้ง แต่ในความเป็นจริง โอกาสการสั่นไหวไม่ได้เกิดแค่ 2 ทิศทาง กล้องรุ่นนี้พัฒนาให้รองรับการสั่นไหวเพิ่มทั้งแนวราบ แนวตั้ง แบบหมุน ช่วยนักถ่ายภาพที่อยู่ในสถานการณ์ถูกเหวี่ยง ถูกชนรอบด้านมั่นใจขึ้น
การกันละอองน้ำและฝุ่นทราย ใช้ซีลยางเป็นเกราะหุ้มรอบตัว จึงไม่ต้องห่วงกับการถ่ายภาพกลางฝนตกหนัก หรืออยากได้ภาพสวยวันสงกรานต์ที่มีคนกระหน่ำสาดน้ำรอบตัว
กล้องรุ่นนี้พัฒนาค่าความไวแสง (ไอเอสโอ)ได้สูงถึง 25600 โดยมีนอยส์หรือสัญญาณรบกวนน้อยที่สุด
เซ็นเซอร์ แบบโฟร์เธิร์ดส์ ขนาด 17.3 x 13 มม.
ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ และโอลิมปัสก็เตรียมเลนส์ระบบโฟร์เธิร์ดส์ และไมโครโฟร์เธิร์ดส์ ให้เลือกมากกว่า 60 รุ่น
น้ำหนักเบา เพียง 425 กรัม ขนาดกว้างยาวสูง 122 x 89 x 43 มม.
ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่ชาร์จครั้งเดียวถ่ายได้สูงสุด 640 ภาพ
คุณสมบัติเหล่านี้ ผู้บริหารโอลิมปัสบอกว่า เทียบได้กับดีเอสแอลอาร์ของมือโปรหลายรุ่น แต่ราคาต่างกันเกือบครึ่ง.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น