วันนี้ (26 มี.ค.) ที่บ้านพักขจรประศาสน์ ถ.สนามบินน้ำ นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะตัวแทนชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนการเมือง รุ่นที่ 7 พร้อมด้วย นพ.วินัย วิริยะกิจจา อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และศิษย์เก่าโรงเรียนการเมือง รุ่นที่ 5, 6, 7 รวมทั้งประชาชนในพื้นที่สนามบินน้ำประมาณ 20 คน เดินทางมามอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจแก่พล.ต.สนั่น ขจรประศาสนต์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
พล.ต.สนั่น กล่าวภายหลังรับมอบดอกไม้ว่า คำถาม 3 ข้อที่ตนเองถามพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง แห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ( กมธ.ปรองดอง )นั้นมีเจตนาสนับสนุนการปรองดองทั้งสิ้น ตนคิดว่า กมธ.ต้องทบทวนผลการวิจัยของคณะวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าว่าครอบคลุมราย ละเอียดทั้งหมดหรือไม่ การวิจัยต้องเป็นการวิจัยอดีต เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นมา 5 ปีต้องไปดูตรงนั้นก่อน นักวิจัยทำวิจัยย้อนหลังตั้งแต่ปี 48 แต่วิจัยไม่ครบถูกขั้นตอน โดยเฉพาะเรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร และคำถามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถามนั้น คณะวิจัยยังตอบไม่ได้ เพราะฉะนั้นตนคิดว่าช้าหน่อยไม่เป็นไร ควรทำความเข้าใจให้กระจ่างก่อนนำเข้าที่ประชุมรัฐสภา เนื่องจากจะยิ่งเร่งความร้าวฉานมากยิ่งขึ้น เพราะหลายฝ่ายยังไม่เห็นด้วย จึงควรระงับไว้ก่อนแล้วมาพูดคุยกันใหม่ นักวิจัยจะได้ไปดำเนินการเพิ่มเติมในสิ่งที่ไม่ได้ทำ
เมื่อ ถามว่า หากผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาแล้วจะทำให้การช่วย เหลือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้กลับประเทศไทยโดยพ้นจากความผิดหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนไม่ขอก้าวล่วงบุคคลใดคนหนึ่ง แต่เรื่องปรองดองยังใช้กฎหมายไม่ได้ ต้องใช้ธรรมชาติบำบัด ที่ทำความเข้าใจกับประชาชนและประชาชนจะเป็นผู้กำหนดเรื่องความปรองดองเอง ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องเล็ก หากเราได้ทำความเข้าใจกันให้ถ่องแท้ การให้อภัยกัน ก้าวข้ามความเครียดแค้นต่างๆ เป็นเรื่องประกอบทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเราต้องพูดกันด้วยหัวใจว่าถึงเวลาสร้างประเทศให้มีความเจริญในอา เซียน และขอให้ลืมอดีตเหตุการณ์ทั้งหลายมาพูดกันให้เข้าใจก็สามารถปรองดองกันได้
พล.ต.สนั่น กล่าวต่อว่า ตนคิดว่านักวิจัยควรจะถอนรายงานผลการวิจัยออกมาก่อน เนื่องจากยังไม่ครอบคลุมสถานการณ์ทั้งหมด อีกทั้งหากถอนรายงานการวิจัยออกมาก่อนก็จะทำให้ กมธ.ไม่สามารถเสนออะไรได้ ทั้งนี้ก็อยู่ที่นักวิจัย หากตัดสินใจว่าความขัดแย้งยังเกิดขึ้นก็ข้อให้ถอนข้อเสนอออกมาก่อน นอกจากนี้แล้วหากเป็นไปตามมารยาทตนก็จะไม่เข้าร่วมประชุมรัฐสภาเพราะตนเป็น พรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่ใช่มติทั้งพรรค
เมื่อถามว่าบรรยากาศ ในขณะนี้จะดีขึ้นหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณได้ส่งสัญญาณออกมาว่าจะกลับประเทศไทยอย่างเท่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้ามาประเทศอย่างเท่ หากกลับมาจริง แนวทางของตนเป็นแนวทางที่เท่ห์ที่สุดและประชาชนก็เห็นด้วยทุกคน เมื่อถามย้ำว่าหมายความว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ต้องรับโทษใช่หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า “ไม่ต้องไปรับหรอก เรื่องเล็กๆน้อยๆ คนปฏิวัติก็ได้รับนิรโทษกรรมเหมือนกัน แต่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องใจเย็นกว่านี้ อย่างเร่งให้คณะโน้นไปทำโน่น คณะนี้ไปทำนี่ มันก็เลยกลายเป็นความขัดแย้งเพิ่มขึ้น”
เมื่อถามว่าต่อว่า พล.อ.สนธิ ระบุว่าจะตอบคำถามเรื่องปฏิวัติก็ต่อเมื่อไม่มีชีวิตอยู่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า “ตอบเถิด เพราะมันไม่ถึงคอขาดบาดตายอะไร คำตอบนี้ไม่ได้ตอบผม แต่ตอบประชาชนคนไทยทั้งประเทศ"
เมื่อ ถามอีกว่าหากที่ประชุมรัฐสภาลงมติรับรองรายงานของ กมธ.จะเกิดอะไรตามมาหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า จะเกิดความไม่ยอมรับมากขึ้น คนที่อยู่กลางๆ หลากสีอาจเกิดความไม่พอใจ ดังนั้นยับยั้งไว้ก่อนดีกว่า ขอให้ใจเย็น พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับมาอย่างเท่ห์ อย่าทำให้ท่ามัวหมอง
ที่ พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า ตามที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 9 คน ลาออกจากกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ( กมธ.ปรองดอง ) นั้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่จริงใจและไม่ตั้งใจจะทำหน้าที่ กมธ.ปรองดองมาตั้งแต่ต้น โดยมีคำตอบไว้ก่อน เมื่อคำตอบไม่ตรงกับสิ่งที่ กมธ.เสียงข้างมากคิด จึงสำแดงธาตุแท้ออกมา ทั้งนี้ตนมองว่าผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าเพียงเล่มเดียวนั้นไม่มีผลทำ ให้ประเทศไทยต้องปรองดอง เป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายแล้วนำมาประเมินเท่านั้น แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการปรองดองก็ขอให้ประกาศจุดยืนออกมา พวกตนจะประกาศไม่ปรองดองกับพรรคประชาธิปัตย์ด้วยเช่นเดียวกัน
นาย จตุพร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายจตุพรไปเจรจาความกับศาลเรื่องประกันตัวผู้ ต้องหากลุ่มเสื้อแดง โดยกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณเอาฐานะอะไรไปมอบให้ผู้ต้องหาไปเจรจากับศาลนั้น นายวิทยาพูดความเท็จ 100 เปอร์เซ็นต์ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยมอบหมายอะไรตน อีกทั้งตนไม่มีสถานะอะไรต้องไปเจรจาด้วย สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวหมายถึงเป็นอำนาจของกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งต้องหารือกันในเรื่องของหลักทรัพย์ที่จะต้องใช้ดำเนินการ แต่พรรคประชาธิปัตย์ทำตัวเป็นเด็กเลี้ยงแกะ บิดเบือนและพยายามขยายสร้างเสียหายต่อกระบวนการตุลาการและตนเอง
นาย จตุพร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งคำถามถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังการฐประหาร 19 ก.ย.49 กับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ตนเห็นว่า พล.ต.สนั่นมีข้อผิดปกติบางอย่าง เพราะ พล.ต.สนั่นตั้งคำถามและเฉลยด้วยตัวเองในวันต่อมา ดังนั้น พล.ต.สนั่นต้องพูดให้ชัดว่าต้องการอะไรในฐานะที่เป็นผู้เริ่มต้นการปรองดอง และขอให้พูดความจริงให้ปรากฏว่าต้องการอะไร เพราะขณะนี้มีความพยายามของคนบางกลุ่มอยากเป็นรัฐบาลด้วยวิธีพิเศษ.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th