เมื่อวันที่ 17 ส.ค. กลุ่มภาคีเครือข่ายประชาชนทนไม่ไหว นำโดยนายสมบูรณ์
ทองบุราณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา พร้อมสมาชิกภาคีจำนวน 150 คน
เดินทางมาชุมนุมบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน เพื่อโจมตีกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาออกวีซ่าให้
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าประเทศได้ โดย
พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐ์ผล ผกก.สน.ลุมพินี นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
สายตรวจ จราจร สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ ปจ.บก.น.5 เข้าไปดูแลความปลอดภัย
นายสมบูรณ์ ได้ขึ้นปราศรัยกล่าวโจมตีนางคริสตี้ เคนนี่ย์ เอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกา ถึงการที่ไม่ตอบคำถามกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้าย ข้ามแดนทวิภาคี เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่ถูกตัดสินว่าเป็นนักโทษหนีคดี จึงไม่ควรได้รับวีซ่าท่องเที่ยวให้เข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ จึงเห็นชัดว่าประเทศสหรัฐอเมริกาไม่มีความเคารพและละเมิดกฎหมายและพันธะกรณี ระหว่าง 2 ประเทศที่ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นได้มีหญิงใช้นามแฝงชื่อ กาแฟดำ ขึ้นอ่านเอกสารที่เตรียมนำมายื่นให้สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งขอเข้าไปยื่นเอกสารภายในสถานทูต โดยมีช่างภาพเข้าไปด้วย แต่ทางสถานทูตได้แจ้งว่า อนุญาตให้นำช่างภาพเข้าไปได้แค่ 2 คน ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงเปลี่ยนข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถาน ทูตออกมารับหนังสือแทน ซึ่งทางสถานทูตก็ตอบรับข้อตกลง แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้ยื่นหนังสื่อแต่อย่างใด ก่อนจะสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย เปิดเพลงให้กลุ่มผู้ชุมนุมฟังเป็นระยะ จนกระทั่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศว่า จะเดินทางไปชุมนุมที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)ในวันที่ 21 ส.ค. ในเวลา 19.00 น.อีกครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไป.
นายสมบูรณ์ ได้ขึ้นปราศรัยกล่าวโจมตีนางคริสตี้ เคนนี่ย์ เอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกา ถึงการที่ไม่ตอบคำถามกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้าย ข้ามแดนทวิภาคี เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่ถูกตัดสินว่าเป็นนักโทษหนีคดี จึงไม่ควรได้รับวีซ่าท่องเที่ยวให้เข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ จึงเห็นชัดว่าประเทศสหรัฐอเมริกาไม่มีความเคารพและละเมิดกฎหมายและพันธะกรณี ระหว่าง 2 ประเทศที่ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นได้มีหญิงใช้นามแฝงชื่อ กาแฟดำ ขึ้นอ่านเอกสารที่เตรียมนำมายื่นให้สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งขอเข้าไปยื่นเอกสารภายในสถานทูต โดยมีช่างภาพเข้าไปด้วย แต่ทางสถานทูตได้แจ้งว่า อนุญาตให้นำช่างภาพเข้าไปได้แค่ 2 คน ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงเปลี่ยนข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถาน ทูตออกมารับหนังสือแทน ซึ่งทางสถานทูตก็ตอบรับข้อตกลง แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้ยื่นหนังสื่อแต่อย่างใด ก่อนจะสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย เปิดเพลงให้กลุ่มผู้ชุมนุมฟังเป็นระยะ จนกระทั่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศว่า จะเดินทางไปชุมนุมที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)ในวันที่ 21 ส.ค. ในเวลา 19.00 น.อีกครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไป.