วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“จุ๋ย” โต้ควง “กัปตัน” เดินห้าง เชื่อ “เอ้ก” รู้ไม่กลัวเข้าใจผิด


อยู่ ๆ ก็มีคนตาดีเห็นสาว จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา เดินควงกับ กัปตัน-ภูธเนศ หงษ์มานพ ที่ห้างแห่งหนึ่ง งานนี้จุ๋ยเลยขอตอบแบบชิล ชิลว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งข่าวนี้ตัวเองก็ไม่ได้ซีเรียส และไม่กลัว เอ้ก-บุษกร ตันติภนา แฟนสาวของกัปตันเข้าใจผิดด้วย เพราะคิดว่ากัปตันน่าจะอธิบายให้น้องฟังแล้ว

จุ๋ย เผยว่า “จุ๋ยอ่านทวีตอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ไป ไม่รู้จะพูดยังไง มันคงเป็นการเข้าใจผิดบางอย่างหรืออาจจะเป็นกระแสข่าวเกิดขึ้นมา เพราะจุ๋ยไปเล่นให้เอ็กแซ็กท์หรือเปล่าไม่รู้ เพราะไม่มีทางไปเดินด้วยกันจริง ๆ เราไม่ได้ปิดอะไรอยู่แล้ว วันที่พี่อ้อมคลอดน้อง ก็ไปกันหน้าห้องคลอดด้วยกัน ก็ไปกันหลายคน ทั้งพี่พิม พี่ตัน พี่เจี๊ยบ ก็ไปกันหมด เราก็ลงรูปในอินสตาแกรม เราไม่ได้ปิดบังที่จะไปไหนด้วยกัน แต่นี่มันไม่มีจริง ๆ ด้วยการทำงานและการใช้ชีวิตตอนนี้เราก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันแล้ว แล้วมันก็นานมากแล้ว พี่ตันก็มีเอ้กแล้ว แล้วเอ้กก็น่ารัก เจอเราก็ยกมือไหว้ทักทายตลอด ซึ่งมันไม่มีเหตุผลอื่นที่จะไปเดินห้างกับพี่ตัน แต่ถ้าไปเดิน ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะเป็นเพื่อนก๊วนเดียวกันค่ะ” มีข่าวแบบนี้กลัวเอ้กเข้าใจผิดมั้ย? “ไม่เลย เพราะว่าหลังจากมีข่าวเอ้กยังทักจุ๋ย  อยู่เลย และเราก็ไม่ได้คุยกันเรื่องข่าวด้วย เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง พี่ตันก็คงบอกน้องเอ้กไปแล้วด้วยว่าไม่ใช่ เดินกับเอ้กเองหรือเปล่า เขาก็ยังชิล ชิลกันอยู่เลย” เราซีเรียสกับข่าวนี้มั้ย? “ไม่ซีเรียสเลย เรื่องเท่ามด (ยิ้ม) นิดเดียวเอง หนักกว่านี้จุ๋ยยังเจอมาแล้ว เท่านี้ธรรมดามากค่ะ เรื่องงานจุ๋ยยังรู้สึกน่าหนักใจกว่าเรื่องความรักเยอะเลย” เจอกับกัปตันจะเกร็งมั้ย? “ไม่เลยค่ะ เป็นน้องเป็นพี่ที่สบายใจมากค่ะ”

“คิม” รับสัมพันธ์“เจ็ท”พัฒนา โต้มือที่สาม กุ๊บกิ๊บ-มาริโอ้


เปิดตัวว่าคบหาดูใจอยู่กับหนุ่ม เจ็ท-ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช ลูกชายสุดที่รักผู้จัดคนเก่ง จิ๋ม-มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช อยู่แท้ ๆ แต่กลับมีข่าวเมาท์ออกมาว่านางเอกสาว คิมเบอร์ลี่ แอนโวลเทมัส  ไปเป็นมือที่สามเข้าแทรกกลางความรักของพระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ กับหวานใจ กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย ซะได้ เจอตัวสาวคิมเลยต้องรีบถามถึงเรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นยังไง

คิม เผยว่า “หนูไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยค่ะ พี่กุ๊บกิ๊บเหมือนเป็นพี่สาวเรา แล้วกับพี่โอ้ก็ไม่ค่อยได้เจอกันค่ะ เพราะว่าไม่ค่อยได้ร่วมงานกันด้วยค่ะ คิมสนิทกับพี่กิ๊บค่ะเพราะถ่าย “ปัญญาชนก้นครัว” ด้วยกันค่ะ กับพี่โอ้ไม่ค่อยสนิท แต่รู้จักกันค่ะ แต่ว่าไม่ได้สนิทกันแบบในข่าว” แล้วความสัมพันธ์กับเจ็ทเป็นไงบ้าง? “ก็พัฒนาเรื่อย ๆค่ะ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปค่ะ เพราะตอนนี้ถ่ายละคร 2 เรื่อง หนักมากค่ะ 7 วันเลย ไม่ค่อยมีเวลา เวลาเจอกันน้อยมากจากที่ว่าน้อยแล้วก็น้อยลงไปอีก” เขามีบ่น ๆ มั้ย? “ไม่หรอกค่ะ พี่เจ็ทเขาก็เปิดกล้องละครแล้ว ต่างคนต่างทำงานมากกว่า เราอยู่ตรงนี้ก็เข้าใจกันค่ะ” แนวโน้มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมั้ย? “ก็ดีค่ะ เขาก็ใส่ใจเรา เป็นห่วงค่ะ” ข่าวว่าเราสนิทกับอาจิ๋มมาก? “ก็คงเป็นเหมือนลูกสาวมั้งคะ” หลายคนก็ลุ้นให้เปิดตัวสักทีนึง? “โอ๊ย ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปดีกว่าค่ะ” ตอนนี้อยู่ในสถานะไหนแล้ว? “ก็ยังอยากใช้คำว่าพี่น้อง แต่ก็พัฒนาเรื่อย ๆ ค่ะ”.

“ไบรโอนี่”ควงสามีเปิดตัว คิดถึงวงการอยากจับไมค์


ห่างหายไปจากวงการบันเทิงหลายปีสำหรับอดีตนักร้องสาว เคท-ไบรโอนี่ รอดโพธิ์ทอง ซึ่งแฟน ๆ ก็ทราบกันแล้วว่าสาวเคทมีลูกสาวชื่อน้องเทเลอร์ และสามีลูกครึ่งญี่ปุ่น ไดซ์ อีด้า ไคลน์ โดยทำงานเป็นครูสอนโยคะที่อเมริกา ล่าสุดสาวเคทและสามีได้บินกลับไทยเพื่อมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซ็น เตอร์ แอ็ปโซลูทโยคะ ที่อัมรินทร์ พลาซ่า โดยจะกลับมาอยู่ 1 เดือน เลยต้องขออัพเดทชีวิตกันสักหน่อย
เคท-ไบรโอนี่ เปิดเผยว่า “มาไทยสนุกค่ะ ดีใจมากเลยที่ได้เจอทุกคนที่นี่ ได้กลับมาเมืองไทยมาเจอแฟน ๆ แล้วยังพาสามีมาเจอด้วย (หัวเราะ) เขารู้ว่าเป็นนักร้อง แต่ไม่รู้ว่าจะมาเจอแบบนี้แน่นอน จริง ๆ กลับมาไทยทุกปีค่ะ แค่ไม่ได้กลับมาทำงาน 8 ปีแล้วค่ะ คิดถึงมาก ๆ เลย ตอนแรกไม่คิดว่ามีใครคิดถึงจนมาเจอในเฟซบุ๊กว่ามีแฟน ๆ ยังคิดถึงอยู่ รู้เลยว่าต้องกลับมาเจอแฟน ๆ” กลับมาคราวนี้จะมีงานเพลงมั้ย? “ก็อยากนะคะ แต่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำด้านโยคะทำดีวีดีด้วย ถ้ามีโอกาสทำเพลงก็อยากจะทำเหมือนกันค่ะ กับแกรมมี่ก็คุยกันอยู่ตลอดค่ะ อาจจะมี แต่ยังไม่ได้คุยกันค่ะ” พาลูกสาวมาด้วยมั้ย? “ลูกสาวอยู่อเมริกาค่ะ ครั้งนี้เราทำงานเยอะ เลยไม่ได้พามาค่ะ ตอนนี้ 7 ขวบแล้วค่ะ ลูกสาวก็ชอบเล่นโยคะ เขาเก่งมากเลย ยิมนาสติก เต้น เล่นเปียโน กีตาร์ เป็นเด็กที่เก่งมากค่ะ เพลงเขาก็ชอบร้อง แต่ตอนนี้ยังอายอยู่ก็เลยไม่กล้าแสดงออกมาก”
ชีวิตที่โน่นเป็นยังไงบ้าง? “ตั้งใจด้านครอบครัวมาก ตอนนี้เพิ่งซื้อบ้าน พยายามทำให้ชีวิตมีเวลาให้ครอบครัว เราก็ทำงานสอนโยคะ อยากมีน้องอีกค่ะ พยายามอยู่ค่ะเพราะเราก็ตรวจสุขภาพตลอด” โยคะที่สอนในยูทูบคนดูเยอะมาก? “แฮปปี้มากที่คนไทยนิยมโยคะ เพราะเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ต่อชีวิต” เห็นว่าสอนดาราฮอลลีวูดด้วย? “ตื่นเต้นค่ะ มันสอนให้เรารู้ว่าถึงเป็นดาราหรือนักร้องเขาก็ยังเป็นคนที่อยากจะสุขภาพดี แข็งแรงแบบเราบ้าง แต่สอนใครไปบ้างพูดไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ที่เลือกเป็นครูสอนโยคะเพราะอยากเป็นคุณแม่ที่อยู่บ้านสามารถรับส่งลูกที่ โรงเรียน สอนโยคะเราสามารถทำตารางให้ตัวเองมีเวลาได้ค่ะ” คิดจะกลับมาอยู่ไทยถาวรบ้าง มั้ย? “ไม่แน่ใจ แต่รู้ว่าครอบครัวเราจะทำอะไรก็สนับสนุนกันและกันค่ะ” ชีวิตในวงการบันเทิงกับชีวิตการเป็นครูสอนโยคะแตกต่างกันยังไง? “อาจไม่แตกต่างมาก ตอนเด็ก ๆ เราไม่สามารถเข้าใจวิธีการดูแลตัวเองเท่าไหร่ ถ้ามีข่าวอะไรไม่ดีเราก็จะเศร้า ไม่มีความสุข โกรธ พอโตขึ้นแล้วเราสามารถดูแลตัวเองได้มากกว่า อาจจะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นะถ้าพูดถึง สิ่งที่มองเห็นชัด ๆ ก็เรื่องการดูแลตัวเอง โยคะจะทำให้เราดูแลตัวเองอันดับหนึ่ง” ถ้าได้ร่วมงานในวงการบันเทิง? “ยินดีค่ะ อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เราได้เจอมาของการเล่นโยคะ และการอยู่วงการบันเทิง เพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่าเป็นผู้หญิงมันไม่ง่ายนะคะ ซึ่งการเล่นโยคะสามารถช่วยทำให้เราคิดดีกับตัวเองได้”.

อยู่บ้านดูหนัง วันที่ 14 กรกฎาคม 2555


ในยามหน้าฝนแบบนี้ อะไรจะสุขเท่ากับหาผลงานดี ๆ มานั่งชมแบบพร้อมหน้าพร้อมตา นอนตีพุงอยู่บ้าน เพราะออกนอกบ้านก็คงต้องเจอฟ้าฝนไม่เป็นใจ แถมการจราจรติดขัดซะนี่ รีบหาความสนุกมานั่งชมหน้าจอกันดีกว่า....
“จอมโจรสโนว์ไวท์กับราชินีบานฉ่ำ”
แนว เบาสมอง/แฟนตาซี    
นักแสดง จูเลีย โรเบิร์ตส์, ลิลี คอลลินส์, อาร์มี แฮมเมอร์  
ผู้กำกับ ทาร์เซ็ม ซิงห์ 
รีวิว เมื่อ สโนว์ไวท์ใสซ่าปะทะราชินีร้ายรั่ว ใครจะเริ่ดที่สุดในปฐพี!...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ หลังจากพระราชาสิ้นพระชนม์ ราชินีต้องการที่จะช่วงชิงอำนาจมาจากเจ้าหญิง สโนว์ไวท์ ลูกเลี้ยงของเธอ ด้วยการเนรเทศออกไปอยู่นอกอาณาจักร สโนว์ไวท์ต้องออกผจญภัยและท่องไปในดินแดนที่ไม่เคยสัมผัส จนในที่สุดเธอก็ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าชายแอนดรูว์ และคนแคระทั้งเจ็ด ในการที่จะช่วงชิงอาณาจักรกลับคืนมา เตรียมพบกับการผจญภัยที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการที่ไม่สิ้นสุด และแนวทางที่คุณจะไม่เคยเห็นในหนังเทพนิยายมาก่อน พบกับการผจญภัยของสโนว์ไวท์ในดินแดนหิมะ ในผลงานเรื่องนี้ จากวิสัยทัศน์ที่ล้ำเหนือจินตนาการของผู้กำกับดังที่เคยฝากผลงานมาแล้วใน “อิมมอร์ทอลส์”
“หยุดโลกไว้ที่รักเธอ”
แนว โรแมนติก/ชีวิต
นักแสดง เจมส์ ดีอาห์ซีย์, แอนเดรีย ไรซ์โบโรห์, แอบบีย์ คอร์นิช, ออสการ์ ไอแซ็ค
ผู้กำกับ มาดอนน่า 
รีวิว หนังรัก 2 ช่วงเวลา ผ่านมุมมองของผู้หญิงสองคน มาดอนน่า นำความรักของคน 2 คู่ ต่างชนชั้น ที่ไม่แคร์ว่าความรักจะเปลี่ยน แปลงทุกสิ่งรอบตัวไปมากแค่ไหน สิ่งที่พวกเขาต้องการ คือ ขอแค่เพียงมีคำว่า “เรา” คู่รักคู่แรก คือ คู่ของ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 กับสาวอเมริกันหัวสมัยใหม่ที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว วาลลิส ซิมป์สัน ความรักของพวกเขาเปลี่ยนโลกในชั่วข้ามคืนด้วยความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวที่จะ ยืนเคียงข้างคนที่ตัวเองรัก ทำให้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ประกาศสละราชสมบัติผ่านสื่อไปทั่วประเทศด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่มีเหตุผลที่เขาจะครองบัลลังก์ โดยปราศจากหญิงที่รักอยู่เคียงข้าง และเรื่องราวความรักในปัจจุบันระหว่าง วัลลี่ ผู้หญิงที่ร้าวรานกับชีวิตไฮโซและการแต่งงานที่สามีไม่ได้รักเธอแล้ว วันหนึ่งเมื่อวัลลี่ไปดูนิทรรศการของวาลลิสและ เอ็ดเวิร์ดที่ 8 จนทำให้เธอรู้สึกผูกพันกับยามรักษาความปลอดภัยชาวรัสเซีย ชายหนุ่มเงียบ ๆ ที่เก็บรักษาจดหมายรักที่เอ็ดเวิร์ดเขียนหาวาลลิสไว้ โดยใช้ชื่อย่อในจดหมายเพื่อเป็นตัวแทนระหว่างคนทั้งคู่ว่า วี.อี. เมื่อได้อ่านจดหมายเหล่านั้น วัลลี่ก็เริ่มมองเห็นความหมายของความรักที่ว่า จะดีแค่ไหน ที่ถ้ามีใครรักเราได้มากแบบที่เขารักเธอ
“คนเจเนอเรชั่น...แรง”
แนว ชีวิต     
นักแสดง คีอานู รีฟส์, โบจาน่า โนวาโควิค, เจค ฮอฟฟ์แมน
ผู้กำกับ มาร์ค แมนน์
รีวิว ผลงานเรื่องนี้เป็นแนวอินดี้ที่น่าติดตามอีกเรื่อง โดยเรื่องนี้มีนักแสดงที่น่าติดตามดูความสามารถและเป็นขวัญใจสาว ๆ ด้วย ซึ่งได้ คีอานู มาแสดงนำ เชื่อว่าน่าจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมได้เป็นอย่างดี ถึงเรื่องนี้จะไม่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ฉะนั้นใครที่เป็นคอหนังน่าจะซื้อหรือหามานั่งชมกันได้แล้ว การตามติดชีวิตของจอห์น และสองเพื่อนร่วมงานสาวสวยที่ใช้ชีวิตหมิ่นเหม่ หมกมุ่นในเซ็กซ์ ยาเสพติด ที่ในชีวิตประจำวันของพวกเขาจะอยู่ตามบาร์ ท่ามกลางหมู่คนและความวุ่นวายของนครนิวยอร์ก
“โมบี้ ดิ๊ค พันธุ์ยักษ์ใต้สมุทร”
แนว แอ๊คชั่น/ผจญภัย
นักแสดง วิลเลี่ยม เฮิร์ท, อีธาน ฮอว์ค, จิลเลียน แอนด์สัน 
ผู้กำกับ ไมค์ บาร์เกอร์ 
รีวิว จากวรรณกรรมเรื่องดังของโลก ที่ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แอ๊คชั่นระทึกขวัญ และการผจญภัยแห่งปี ค.ศ. 2010 กับเรื่องราวของ กัปตันเอแฮบ ผู้บัญชาการเรือดำน้ำสุดไฮเทค กับความหมกมุ่นเอาชนะในการตามล่าปลาวาฬยักษ์พันธุ์ดึกดำบรรพ์ตัวหนึ่ง ที่เคยทำร้ายเขาอย่างสาหัสมาก่อน เขาต้องการออกทะเลไปจับวาฬที่ชื่อ โมบี้ ดิ๊ค ปลาวาฬปิศาจสีขาวโพลนราวหิมะที่เคยทำขาเขาขาดไปข้างหนึ่ง ผลงานเรื่องนี้กล่าวถึงชีวิตและความเป็นอยู่ของลูกเรือล่าวาฬอย่างสนุกถึงใจ น่าจะถูกใจคอแอ๊คชั่นแน่นอน

“ลิเกคณะ ไชยา มิตรชัย สามพี่น้อง”
แนว ลิเก    
นักแสดง ไชยา มิตรชัย, แอน มิตรชัย, มิตร มิตรชัย
รีวิว เหล่าพ่อยกแม่ยกทั้งหลาย อย่าพลาดผลงานใหม่ล่าสุดของศิลปินลิเกชื่อดังของเมืองไทย ไชยา มิตรชัย ซึ่งครั้งนี้ได้ดึง แอน มิตรชัย และ มิตร มิตรชัย มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานสุดประทับใจ กับความรักอันยิ่งใหญ่ของพี่น้องร่วมสายเลือดใน ลิเกคณะไชยา มิตรชัย เรื่อง สามพี่น้อง หลังจากเกิดแผ่นดินไหว พายุถล่มบ้านเศรษฐีสุธา ครอบครัวแตกแยกและทำให้สามพี่น้องต้องพลัดพรากจากกัน ราชาผู้พี่กลายเป็นจอมโจรที่ภายหลังได้หลงรักหญิงสาวลูกเศรษฐีนามว่า มีนา ราชาผู้พี่จึงหาโอกาสทำความรู้จักในงานเลี้ยงวันเกิด แต่กลับพบว่า มีนา มีผู้หมายปองหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ระวี น้องของราชา เหตุการณ์จะดำเนินอย่างไร โปรดติดตามชม
“บิสกิต แก๊ป พรีเซนต์ เอฟเอฟเค อะฮอลิก คอนเสิร์ต”
แนว บันทึกการแสดงสด    
นักแสดง เฟย์ ฟาง แก้ว   
รีวิว เพิ่งประกาศความมัน พร้อมรวบรวมสาวก เฟย์ ฟาง แก้ว ให้ได้สุดสนุก มัน ซึ้ง หวานเว่อร์ ฯลฯ ทุกอารมณ์ ในคอนเสิร์ตใหญ่ “บิสกิต แก๊ป พรีเซนต์ เอฟเอฟเค อะฮอลิก คอนเสิร์ต” เมื่อกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา งานนี้สาว ๆ เฟย์ ฟาง แก้ว ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ เพลงและเหล่าสาวกชาว “เอฟเอฟเค” ต้องรอนาน โดยพร้อมเพรียงจัดเต็มกันต่อ กับบันทึกการแสดงสดที่เพิ่งผ่านไปหมาด ๆ ซึ่งได้รวบรวมเพลงกว่า 20 เพลง อาทิ เพลง “เลิฟ อะฮอลิก”, “นะครับ นะคร๊าบ”, “มิส คอล มิส ยู”, “ไม่ใช่อิจฉา”, “คำถาม”, “เพื่อนที่เธอไม่รู้ใจ”, “ว้าวุ่น” ฯลฯ ที่ 3 สาว พร้อมศิลปินรับเชิญพิเศษอย่าง ธามไท และ หวาย ปัญญริสา คัดสรรเพื่อสาวกได้สุขสนุกในทุกอารมณ์ ในรูปแบบดีวีดี แถมยังรวบรวมบรรยากาศคอนเสิร์ตในครั้งนี้ในทุก ๆ มุมมอง ทุก ๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ตลอดกว่า 3 ชั่วโมงเต็ม พร้อมภาพเก็บตกอื่น ๆ ที่แฟนเพลง เฟย์ ฟาง แก้ว ไม่ควรพลาดไปสนุกกันต่อถึงบ้าน และประกาศความมันกันอีกครั้ง! โดยสามารถซื้อหาเป็นที่ระลึกได้จากร้านซีดีเพลงชั้นนำทั่วประเทศตั้งแต่ วันนี้เป็นต้นไป

ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ กับความสนุกที่นำมาเสิร์ฟตรงถึงมือผู้ที่ชื่นชอบเสพความสนุกอยู่กับบ้าน....
นายหนุกหนาน

“อ้อม-สุนิสา” ฝันที่รอคอย ได้เป็นมนุษย์เงินเดือนสมใจ - คนดัง หลังฉาก


“ถอย...ดีกว่า ไม่เอา...ดีกว่า เธอเล่นเปลี่ยนใจทุกครั้ง หลังอาหาร   ก็ใครจะไปทานทนได้  ถอย...ดีกว่า ไม่เอา...ดีกว่า”  หลายคนคงจะคุ้นหูกับเพลงนี้เป็นแน่แท้   แม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายปี  เพลงนี้ก็ยังกึกก้องอยู่ในความทรงจำของคนฟังเสมอ โดยเฉพาะเหล่าแฟนคลับของ “อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์” วัย 38 ปี  ผู้หญิงที่มีบุคลิกห้าว ๆ  จนหลายคนฟันธงว่า  เธอเป็นทอม แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว  และคงไม่บ่อยนักที่เราจะได้มานั่งคุยกับเธอแบบส่วนตั๊ว...ส่วนตัว ซึ่งพอนัดหมายได้คิวปุ๊บ  เราก็ไม่รอช้า รีบมาเจอเธอที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แถวอโศก

ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ เริ่มเมาท์กันเลย ไม่ได้เจอ “อ้อม” นาน มั่ก...มาก  ชีวิตชีวาตอนนี้เป็นยังไงบ้าง “ก็สบายดีค่ะ อยู่กับแม่ตามปกติ ชีวิตก็ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมาก ไม่ต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ ที่ไม่ซื้อเพราะว่ากลัวทำ ๆ อยู่ อยากเลิกทำงานจะต้องมามีภาระผ่อนบ้านไม่ชอบ...ไม่ชอบ   แม่บอกซื้ออะไรหน่อยมั้ย ที่เป็นของที่เก็บไว้ได้ ก็บอกไม่ซื้อดีกว่าเพราะถ้าเกิดว่าทำงานแล้วอยากออก เบื่อชีวิตทำงาน ขี้เกียจผ่อนขี้เกียจมีภาระ ก็เลยไม่ทำอะไรเลย  ปกติเมื่อก่อนเปลี่ยนรถ 2-3 ปี เดี๋ยวนี้ไม่ได้เปลี่ยนแม่ไม่ให้เปลี่ยน แม่บอกซื้อรถมีแต่ลด ราคามันตกลงเรื่อย ๆ  ถ้าอยากเปลี่ยนรถอ้อมว่าเปลี่ยนรถไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือทะเลาะกับแม่  ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็หยุดเปลี่ยนดีกว่า  ก็ไม่เดือดร้อนอ้อมก็นั่งมอเตอร์ไซค์”

กิจวัตรประจำวันของ “อ้อม” เป็นยังไง  “ตื่นประมาณ 8 โมง ก็แล้วแต่วันนะ มันจะรู้สึกตัวก่อน 6 โมง 7 โมงครึ่ง  บางวัน 7 โมงครึ่งถ้ามีลูกฮึดจะนั่งสมาธิ ถ้าไม่มีก็หลับจนถึง 8 โมงครึ่งพอถึงตอนนั้นก็จะอืด ๆ ช้า ๆ อ่านหนังสือที่มีอยู่ 2-3 แบบ คือนิยายแปล หนังสืออ่านเล่นประเภทนิทาน หรือเป็นวรรณกรรมเด็ก, หนังสือธรรมะ รู้สึกว่ามีความรู้เข้าหัวบ้าง อย่างน้อยในแต่ละวัน ถ้าไม่ได้นั่งสมาธิไม่ได้สวดมนต์ ก็ขอให้มีความรู้อย่างอื่นเข้าหัวบ้าง แต่ก็อ่านได้ไม่กี่หน้า นะคะ อ่านแล้วก็อ่านซ้ำเพราะมันไม่ค่อยเข้าใจ สติปัญญายังไม่ถึงไหน ต้องอ่านซ้ำไปเรื่อย ๆ”

“ถ้าอยู่บ้านก็จะหาอะไรทานตอนเช้า เพราะเชื่อว่าอาหารมื้อเช้าสำคัญ แล้วก็อาบน้ำ ทำตัวเองให้เรียบร้อยแล้วก็ออกจากบ้าน  จากเมื่อก่อนที่ใช้เวลา 15 นาที ในการทำอะไรทุกอย่างรวมได้หมดแต่ไม่กินข้าว เดี๋ยวนี้กลายเป็นต้องใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมง  กว่าจะเคลื่อนตัวออกมาได้” เป็นเพราะอะไรเหรอ? “เพราะรู้แล้วว่าการรีบมันดี เวลาแต่ละวันมันเยอะ แต่เราจะไม่รู้ตัวเลยว่าประสาทเราเสียไปแล้วตอนเช้า ๆ โดยที่ไม่รู้ตัว คือพอเรารีบมาก ๆ มันเหมือนเราลนลนแล้วล้ก แล้วเราก็จะไปอารมณ์เสียง่ายบนถนน หรือไปอารมณ์เสียง่ายเมื่อเราต้องรอใคร รู้สึกว่าฉันอุตส่าห์รีบทำไมฉันต้องมารอเธอ เขาก็คงนึกก็ไม่ได้ใช้ให้มารอ แต่มันต้องรอ แต่ก็ไม่มีใครใช้ให้เรารีบ แต่เรามักคิดว่าเวลาเรามีค่าเสมอ โดยที่ลืมไปว่าเวลาของคนอื่นเขาก็มีเหมือนกัน  ก็เลยกลายเป็นว่า ก็ค่อย ๆ ไปแต่กะเวลาให้พอดี  มาถึงบริษัทตอกบัตรทัน”

ทุกวันนี้ทำงานตอกบัตรด้วย “ใช่ค่ะ เป็นมนุษย์เงินเดือน  เข้าทำงาน 11 โมง ก็ต้องตอกบัตร 10 โมง 45 อย่างช้า  ถ้าตอกสายจะโดนหักเงินเดือน ที่มันจำเป็นจะต้องตรงวินัย เดี๋ยวเงินเดือนที่มันน้อยอยู่แล้วมันจะน้อยไปกว่านี้ อ้อมเป็นมนุษย์เงินเดือนมาตั้งแต่เป็นดีเจ  นี่คือความใฝ่ฝันของอ้อม มนุษย์เงินเดือนความรู้สึกของอ้อมมันเจ๋งดี มันดูว่าเราได้ใช้วิชาชีพ คือสมมุติว่าร้องเพลงหรือเล่นคอนเสิร์ต ก็ได้เงินเยอะดีนะ เยอะเกินเงินเดือน แต่มันไม่เท่ แต่การมีเงินเดือนรู้สึกว่านี่แหละที่เราเรียนมา เราหาเงินได้จากสิ่งที่เราเรียน ที่แม่ส่งเสียมา จากที่เรานั่งเรียนหลังขดหลังแข็งมากี่ปี อ้อมเรียนด้านวิทยุโทรทัศน์ ก็ได้เอามาใช้ ซึ่งเป็นการเรียนที่ถูกสายถูกกับงาน”

มีนักร้องหลายคนที่เงียบไป พอกลับมาอีกที มักจะมีคอนเสิร์ตของตัวเอง แล้ว “อ้อม” ล่ะ จะมีกับเขาบ้างมั้ย “ไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้นะคะ อ้อมเหนื่อย ขี้เกียจ ถ้าจะพูดกันตรง ๆ ไปแจมนะไหว แต่ให้มารับผิดชอบทั้งคอนเสิร์ตนะไม่ไหว เคยมีคนชวนแต่ปฏิเสธเขาไป คืออ้อมชอบนะเวลาอยู่ห้องซ้อม ชอบเวลาเล่นคอนเสิร์ต แต่อ้อมก็เหนื่อยกับการต้องมาทำทั้งคอนเสิร์ตเพราะอ้อมไม่ได้มีอาชีพนักร้อง เหมือนอย่างคนอื่นเค้า ในปัจจุบันที่เค้าสามารถทุ่มเวลาซ้อมได้เยอะ เค้าไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่อ้อมมีงานประจำไงค่ะ พอเรามีงานประจำ อ้อมรู้สึกว่าอ้อมติดกับคำว่างานประจำ เราต้องรับผิดชอบหน้าที่งานประจำเราให้ดีก่อน อย่างอื่นเป็นงานเสริม”

จากนี้ไปแฟน ๆ จะมีโอกาสได้เห็นผลงานการแสดงของ “อ้อม” บ้างมั้ย  “ยากค่ะ  แหม..คนรุ่นอ้อมเล่นเป็นแม่กันหมดแล้ว  คือละครเป็นอะไรที่น่าเล่น ถ้าบทมันดี  การแสดงไม่ว่าละครหรือหนังสำหรับอ้อมมันมีเสน่ห์ อ้อมว่ามันอยู่ที่บทถ้าบทมันทำให้อ้อมรู้สึกว่า เราได้เปลี่ยนตัวเองแล้วลองสวมบทเป็นคนอื่น ที่เป็นตัวละคร ที่มีความคิดอะไรอีกแบบนึง มันมีเสน่ห์อยู่แล้วค่ะ  คือตัวเราเราเป็นของเรา มันจำเจอยู่แล้ว แต่ตัวละครเหมือนถอดตัวเองออก”

อัพเดทงานบันเทิงตอนนี้หน่อย มีอะไรบ้าง “ถ้าเอาในแง่ของงานอาสาสมัคร ก็จัดรายการวิทยุที่เสถียรธรรมสถาน  เดือนละสองครั้งกับคุณแม่ชีศันสนีย์ ส่วนที่วัดพระรามเก้า  ทำรายการธรรมะ แต่ส่วนตัวทำอีกอย่างคือทำรายการให้ กรีน แชนแนล ชื่อรายการธรรมทัวร์  เป็นรายการท่องเที่ยวกึ่งธรรมะ  ทุกวันพุธ เวลาบ่ายสามโมง แล้วก็มีรายการที่คลื่น 94 อีเอฟเอ็ม ช่วงวิกอโศก เวลาสิบเอ็ดโมง  วันจันทร์-วันศุกร์  ด้วยบุคลิกอ้อมยอมรับว่า อ้อมไม่ใช่คนธรรมะจ๋า  ไม่ได้เป็นแบบธรรมะชุดขาว ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ...ไม่  อ้อมมองว่าเรื่องพวกนี้มันอยู่ในชีวิตของเรา เพราะฉะนั้นทำรายการอ้อมก็ทำให้มันเป็นวิถีของเรา อย่าไปทำอย่างเดียวให้มันมุ่งมั่นขนาดนั้น”

ขอถามเรื่องหัวจิตหัวใจบ้างนะ ชีวิตนี้จะไม่คิดมีครอบครัว (มีคู่ชีวิต) กับเขาบ้างเหรอ?... “อ้อมก็มีนะ  อ้อมยอมรับว่ามีคนคุยด้วย แต่อ้อมไม่นิยมการต้องบอกสื่อ หรือบอกคนว่าเรามีหรือไม่มี อ้อมอาจจะเหมือนนักแสดงรุ่นเก่าก็ได้ ที่เค้าไม่ค่อยพูดเรื่องแบบนี้กัน การไม่พูดมันก็ง่ายกว่า เพราะเดี๋ยวคนชอบไม่ชอบ แล้วก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องสาธารณะซะทุกเรื่อง อ้อมว่าที่รุ่นเก่าเค้าไม่พูดกัน ก็ด้วยเหตุผลเหล่านี้เหมือนกัน จะรักจะเลิกกันมันก็เป็นเรื่องของคนสองคน ที่มันจะทำให้ไปกดดันกันหลาย ๆ อย่าง ก็อยู่เงียบ ๆ ไป” ก็คือไม่ปฏิเสธว่าไม่มี “ใช่ ๆ ไม่ได้ปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะโตป่านนี้ถ้าไม่มีมันก็น่าคิด  เพียงแต่ว่าถ้าไม่มีมันก็คิดได้ว่า นิสัยไม่ดีซะจนไม่มี หรือว่าเลือกแล้วที่จะไม่มี อันนี้มันก็แล้วแต่ อ้อมโตมากับเรื่องที่มันไม่ค่อยพูดนะ ไม่ใช่ว่าพูดไม่ได้ ไม่ใช่ว่าการพูดเป็นสิ่งผิด และหลาย ๆ ครั้งที่เราอยู่วงการนี้ เราก็เห็นอยู่ว่า พูดมันก็ไม่ได้เสีย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าได้ สำหรับบางคน บางคนตอนมีแฟนอยากพูดเหลือเกินอยากบอก เพราะฉะนั้นในเมื่อคุณกล้าบอกเวลาคุณแสดงความรัก ก็ต้องยอมรับเวลาคนถาม”

งั้น..คนพิเศษของ “อ้อม” เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย “อันนี้ก็แล้วแต่จะคิด  ถ้าอ้อมตอบว่าเป็นผู้ชายก็จะไม่เชื่ออ้อม อ้อมตอบเป็นผู้หญิงก็จะหาว่า อ้าว..แล้วที่ผ่านมาไม่เห็นตอบอะไร เพราะฉะนั้นเป็นคำถามที่อ้อมไม่เคยตอบอะไรเลย  เพราะอ้อมเคยประสบมาแล้วว่า อ้อมตอบอะไรอ้อมก็ไม่ได้รับความสำเร็จในการเชื่อ อ้อมก็จะเลี่ยงไม่ตอบ เพราะอะไรเพราะทุกคนมีคำตอบในใจแทนอ้อม อ้อมเคยไม่ได้รับการให้เกียรติในการเชื่อมาแล้ว เพราะฉะนั้นอ้อมก็จะไม่ตอบในคำถามที่อ้อมเคยตอบไปแล้ว และพูดความจริงไปแล้ว แต่ถูกปฏิเสธมาแล้ว   อ้อมว่าพอวิธีคิดมันเปลี่ยน มันทำให้การที่เราใช้ชีวิตกับใครสักคนในการพูดคุยมันเปลี่ยนไปอีกมุมนึง  การเอาแต่ใจบางอย่างมันลดลง”

มีอะไรที่ “อ้อม” อยากจะทำอีกมั้ย “อ้อมชอบชีวิตตอนนี้นะ ทำงานพอประมาณเพื่อที่จะมีรายได้  เหมือนมนุษย์คนอื่นแล้วก็มีเวลาว่างได้หยุดพัก แล้วก็เอาเวลาส่วนหนึ่งคืนให้กับสังคมบ้าง ซึ่งจริง ๆ เป็นคำพูดที่ดูดี แต่จริง ๆ แล้วในขณะที่เราไปทำอย่างนั้น เรากลับเป็นผู้รับมากกว่าเป็นผู้ให้ เพราะว่าเราได้ฝึกนิสัยตัวเอง เหมือนเราไปให้เค้า แต่จริง ๆ แล้วเราไปพัฒนาตัวเองด้วยซ้ำ มันเป็นโรงเรียนที่ทำให้เราได้พัฒนาอย่างไม่ต้องเสียสตางค์ และไม่มีความเจ็บช้ำอะไรเลย”

คุยกำลังเพลินเชียว..เนื้อที่หมดพอดี “อ้อม”อยากจะฝากอะไรถึงแฟน ๆ บ้างมั้ย “อ้อมอยากให้ทุกคนมีความสุข อ้อมเชื่อว่าความสุขหาไม่ยาก ความสุขหาได้ง่าย และการได้หันกลับมามองตัวเอง มันอาจจะทำให้มีความสุขกว่านั่งมองเรื่องคนอื่นก็ได้ บางครั้งการนั่งมองเรื่องคนอื่นเยอะ มันเหมือนไม่สนใจตัวเอง แล้วสุดท้ายเราอาจจะไม่รู้จักตัวเราเองก็ได้ ก็ไม่รู้เหมือนกัน พยายามให้เวลากับตัวเองกันเยอะ ๆ และอาจจะทำให้อะไรบางอย่างในชีวิตมันสบายขึ้น จริง ๆ อ้อมก็พูดไม่ค่อยเป็นหรอก แต่ก็โอเคนะคะ”

ก็โอเคค่ะ..รักนะจุ๊บ ๆ.
“ปรางค์ ปิ๊กมี่”

กระโปรงพองฟู งามอย่าง “เจ้าหญิง”- สตาร์ เทรนดี้


อาทิตย์ที่แล้วสาว ๆ นัยน์ตาเบิกโพลงเพราะนั่งดูชุดหนุ่มหล่อกันไปแล้ว มาวันนี้ “ก้อยโกะ” ขอนำทุกท่านกลับมาสู่ชีวิตจริง มาส่องชุดสาว ๆ กันเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ขอบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะแต่ละคนมาในลุค “เจ้าหญิง” กระโปรงพองฟูหลายชั้นเห็นแล้วถึงกับต้องอุทานว่า “กอร์เจียส!” ไปชมกันเลยดีกว่าว่าแต่ละนางจะเริดขนาดไหน

เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า

“เป็นสาวที่แต่งตัวโทนหวานขึ้นจริง หน้าตาสวย ดูมีออร่าเจ้าหญิง เกรซมาในชุดเกาะอกสีทองปักด้วยลูกไม้และเลื่อมระยับโทนเหลืองทอง กระโปรงพองฟูมีโทนเดียวกัน ถือกระเป๋าคลัตช์ติดคริสตัลสีทอง สวมรองเท้าสีเหลืองพาสเทล สวยตั้งแต่หัวจดเท้า”

ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์

“เป็นคนหน้าสวยสไตล์บาร์บี้ งานนี้ขวัญไม่พลาดที่จะใส่กระโปรงพองฟูมาเช่นกัน ช่วงบนเป็นเกาะอกโทนสีชมพูขาวหวาน เหมาะกับหน้างามแบบตุ๊กตาของเธอ ปิดท้ายด้วยกระโปรงสีชมพูอ่อน เกล้าผมเก็บเรียบร้อย ใส่ต่างหูเพชรคู่ใหญ่ เข้าชุดอย่างดิบดี”
   
ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ

“สาวหมวยหน้าหวานนามว่า “ได๋” มาในชุดเดรสเปิดไหล่สีขาว เน้นดีไซน์เรียบหรูดูดี ดูเผิน ๆ นึกว่าชุดเจ้าสาวซะอีก ทำผมแสก กลางง่าย ๆ แต่เป๊ะ ใส่ต่างหูเพชรขนาดพอเหมาะ ลงตัวไม่แพ้ใคร”

แพท-ณปภา ตันตระกูล

“แพทมาในชุดเก๋ปักเลื่อมสีแชมเปญและเพิ่มจุดเด่นด้วยเลื่อมสีเขียว ชายกระโปรงเริดหรูเมื่อประดับขนนก 3 สีเป็นเขน็ด 3 ชั้น ได้แก่ ชมพูอ่อน-ขาว-เขียว ทำผมเข้ากับชุด ใส่ต่างหูไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป แมตช์กับชุดแบบกำลังดี”
มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง

“มิ้นต์ก็แต่งตัวแนวหวานตลอด ลุคเจ้าหญิงจึงเหมาะกับบุคลิกเธอเหมือนกัน มิ้นต์สวมชุดโทนสีเหลืองอ่อน ช่วงบนเป็นเกาะอกประดับด้วยดอกไม้เล็ก ๆ ทั้งตัว ท่อนล่างเป็นกระโปรงฟูฟ่องเพิ่มความแบ๊วด้วยการประดับดอกไม้แซมลงบนผ้า เกล้าผมเก็บอย่างดีใส่
มงกุฎเพชรและต่างหูคู่พอเหมาะ”

ศรีริต้า เจนเซ่น

“ชุดที่ริต้าใส่เป็นชุดเจ้าปัญหาที่มี ผจก.นางเอก เฌอเบลล์-ลัลลลินณ์ เลือกจะใส่ไปงาน ๆ หนึ่ง แต่ปรากฏว่า จู่ ๆ ก็ไปอยู่ในร่างของริต้าซะนี่ งานนี้เลยตกเป็นข่าวฮือฮาในช่วงนั้น ชุดนี้ทำมาจากขนนกสีขาวทั้งตัว สวยงามอลังการสุด ๆ ริต้าทาเล็บสีฟ้าเพื่อไม่ให้ชุดดูเรียบเกินไป ใส่กำไลข้อมือรูปดอกกุหลาบของแบรนด์ดัง ชุดนี้สวยสุด ๆ”
หยก-ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์

“เล่นแต่บทนางร้ายเปรี้ยว ๆ มาตลอด พอเห็นสาวหยกใส่ชุดหวานปุ๊บรู้สึกไม่ชินตาสักเท่าไหร่ แต่ชุดที่หยกใส่วันนี้ก็ดูงามไม่แพ้ใคร ช่วงบนเป็นชุดเกาะอกสีขาว ท่อนล่างเป็นกระโปรงสีขาวหลายชั้น สวมสร้อยและต่างหูเพชรเหมาะกับชุดที่ใส่”.
ก้อยโกะ

'เดย์ ไทยเทเนี่ยม' ผู้ชายครบสูตร รักเสียงเพลง หลงใหลการแสดง เก่งทำอาหาร - หนุ่มฮอต หนุ่มฮิพ


ถ้าเอ่ยเชื่อ “จำรัส ทัศนละวาด” เชื่อว่าคงไม่คุ้นหูมากนัก เท่ากับ “เดย์ ไทยเทเนี่ยม” 1 ใน 3 ของสมาชิกวงฮิปฮอปชื่อดัง ไทยเทเนี่ยม โดยเฉพาะวงการเพลงที่ชื่อชั้นไม่เป็นสองรองใคร แต่ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด เพราะเขามีความสามารถที่หลากหลาย จนเราอดไม่ได้ที่จะคว้าตัวเขามาคุยแบบเปิดอกทุกเรื่องรวมถึงเรื่องความรัก ที่สาว ๆ อยากรู้ เอาละว่าแล้วไปคุยกับเขาเลยดีกว่า
“งาน งานและงาน”

อัพเดทเรื่องงานกันก่อนดีกว่า ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้างนอกจากงานเพลงกับวงไทยเทเนี่ยม?

“นอกจากงานเพลงของวงแล้ว ตอนนี้ผมก็ทำเสื้อผ้าแบรนด์ 9 face ร่วมกับ ขัน ครับ มีร้านอยู่ที่ โรงหนังลิโด ชั้น 2 กับ ที่ ซอยนิมมานเหมินท์ ชอย11 เชียงใหม่ แล้วมีเปิดร้านอาหารร่วมหุ้นกับเพื่อน ๆ อย่าง เชฟเอียน เชฟพีท ชื่อร้าน สมิทธ อยู่ซอยสุขุมวิท 49 เป็นร้านอาหารประเภท เวิลด์ ฟู้ด ก็แวะไปลองทานดูได้นะครับ แล้วก็ทำรายการอาหารกับเพื่อน เชฟชาลี”

นึกยังไงมาทำรายการอาหาร?

“จะว่าไปแล้วเวลาผมทำอะไรผมก็จะเต็มที่และสนุกกับทุกงานครับ สำหรับการทำรายการอาหารมันเริ่มจากครั้งแรก ผมอยากทำหนังสือ คุก บุ๊ก เพราะผมเคยทำงานที่ร้านอาหารมาก่อน ตั้งแต่สมัยตอนผมอยู่ที่อเมริกา มันเริ่มจากตรงนั้นก่อนที่จะมาเป็นรายการ”

ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเดย์จะเป็นคนชอบทำอาหาร?

“ผมชอบทำอาหาร เป็นคนชอบคิดสูตรอาหารเมนูใหม่ ๆ ขึ้นมา ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ผมเองเป็นคนชอบทานอาหารด้วยไง ชิมมันไปเรื่อย ก็ต่อเนื่องมาจนผมมีสูตรอาหารที่ผมคิดอยู่ก็เยอะ ผมเลยอยากจะทำออกมาเป็นหนังสือ พอดีคุยกับเพื่อนสนิทผมก็คือเชฟชาลี คนที่ทำรายการด้วยกัน ว่าผมอยากจะทำหนังสือ เชฟชาลีก็เลยออกไอเดียว่า เรามาทำเป็นรายการทีวีกันดีกว่า แล้วเราค่อยเก็บสูตรจากรายการมาทำเป็นหนังสือทีหลัง ผมเองคิดโปรเจคท์นี้มาประมาณ 2 ปี กว่าจะสำเร็จออกมา ใช้ชื่อรายการว่า บลิ๊งค์ คิทเช่น หมายความว่า ครัวเงิน ครัวทอง มันดูลงตัวที่เห็นภาพของเราชัดเจน คือ ครัวของคนฮิปฮอปอย่างผม ก็เริ่มออกอากาศไปแล้ว ทุกวันเสาร์ 11 โมงเช้า ทางเคเบิล ช่องยูทูเพลย์ ทีวี ครับ”

“เดอะเลดี้”

นอกจากรายการอาหารแล้วดูเหมือนว่า “เดย์” ก็สนุกกับการแสดงด้วย?

         
“ผมชอบการแสดงนะ นอกจากแสดงในมิวสิกวิดีโอของตัวเองแล้ว ครั้งแรกของการแสดงผมเคยเล่นเป็นพระเอกเอ็มวีของ พี่เจนนิเฟอร์ คิ้ม เพลง miss call หลายคนอาจจะนึกไม่ออก ลองไปย้อนหาดูได้นะครับ เป็นการแสดงที่ไม่ใช่ตัวเราเองเป็นครั้งแรก จากการชวนของ พี่เจนนิเฟอร์ คิ้ม จากงานนั้นมา ผมก็เลยชอบเรื่องการแสดงมาตลอด แต่ติดเรื่องงานเพลงที่เป็นงานหลักของวง ผมก็เลยยังไม่มีโอกาสได้ไปทำงานด้านการแสดงเท่าไหร่นัก มีพี่ ๆ มาชวนไปแจมในหนังบ้าง แบบเป็นแขกรับเชิญ นิด ๆ หน่อย จนกระทั่งมาเจอกับ ลุค เบซอง (ผู้กำกับภาพยนตร์ ฮอลลีวูด ชื่อดัง) และได้มาเล่นในภาพยนตร์เรื่อง เดอะ เลดี้ ครับ”

ร่วมงานกับ ลุค ผู้กำกับฯ ระดับฮอลลีวูดได้ยังไง?

“มีรุ่นพี่ที่ผมนับถือคนนึง ชวนไปแคสติ้งหนังฝรั่ง ที่จะมาถ่ายในบ้านเรา พี่เค้าไม่ได้บอกอะไรเลย ว่าเป็นหนังเรื่องอะไร ใครกำกับ เล่นกับใคร ผมอยากลองก็เลยตัดสินใจไป ไปแคสต์ครั้งแรกก็ยังไม่รู้ดีเทลอะไร จนกระทั่งครั้งที่ 3 เค้าเรียกไป บอกว่าผู้กำกับอยากเจอผม ผู้กำกับเค้าจะบินมาจากเมืองนอก ผมก็โอเค ตัดสินใจไปเจอ ปรากฏว่าผู้กำกับคนนั้นคือ ลุค เบซอง ซึ่ง ลุค เองก็ไม่ทราบมาก่อนว่าผมเป็นใคร เค้าก็คิดว่าผมคือนักแสดงที่มาแคสติ้งงานทั่ว ๆ ไป

หลังจากนั้น เค้าติดต่อกลับมาว่าเค้าตกลงที่จะเลือกผมแสดงในเรื่อง เดอะ เลดี้ นี้ด้วย ผมถึงได้ทราบว่า นี่คือหนังใหญ่ ระดับฮอลลีวูด เรื่องเกี่ยวกับ ออง ซาน ซูจี ที่สำคัญก็คือผมจะได้เล่นร่วมกับ มิเชล โหย่ว ตอนรู้เรื่องผล ผมไปแสดงคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น ก็ดีใจมาก ตื่นเต้นมากที่ได้ทำงานกับมืออาชีพระดับโลกขนาดพวกเค้า ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผมด้วย การทำงานกับทีมงานของลุค ดีมากครับ เป็นประสบการณ์ที่ดี เขาสอนหลายอย่างให้กับผม สนุกมากครับ”

“เมืองคานส์”

เขามีชวนไปเล่นหนังเรื่องใหม่ให้เขาอีกหรือเปล่า?


“หลังจาก เดอะ เลดี้ เค้าก็ชวนครับ แต่ผมไม่มีเวลา มีเรื่องตลกในกองถ่าย เดอะ เลดี้ ตอนที่ไปทำงานด้วยกัน กลางคืนผมจะมีงานคอนเสิร์ตของวงทุกวัน แล้วก็ต้องไปกองถ่ายก่อนคนอื่น เพราะผมมีรอยสักเยอะต้องไปเมคอัพลบรอยสัก พอเวลาพักกองถ่ายทุกครั้ง ผมจะนอนหลับ เพราะนอนน้อย ลุค กับ มิเชล ก็จะงง ว่าทำไมผมนอนตลอดเวลา

แล้วก็มีทีมงานที่เป็นคนไทย เล่าให้เค้าฟังว่า ผมมีคอนเสิร์ตทุกวัน เพราะผมเป็นศิลปินวงไทยเทเนี่ยม เค้าถึงเพิ่งรู้ว่าผมเป็นศิลปินครับ ถ้าผมมีโอกาสอีกครั้ง ผมคงจะกลับไปร่วมงานกับเค้าแน่นอน มิเชล โหย่ว เองก็เพิ่งมาถ่ายทำหนังเรื่องใหม่ของเค้าก็ยังมีพูดคุยกันอยู่ เค้าเป็นคนที่เป็นกันเองมาก และสอนผมในเรื่องการแสดงเยอะมาก ถือเป็นโชคของผมนะครับ”

ทราบว่าได้ไปร่วมงานเทศกาลหนังเมืองคานส์มา?

“ครับ ไปกับดาราอีกหลายท่าน ผมไปในฐานะตัวแทนประเทศไทย ร่วมในคืนของงานไทยไนท์ที่คานส์ครับ”
คุยเรื่องงานมาเยอะแล้วพูดเรื่องหัวใจบ้างได้มั้ย?

“ยินดีครับ สำหรับตอนนี้หลังจากดูเพื่อน ๆ มีแฟนมานาน ผมก็เริ่มมีคนที่ดู ๆ กันอยู่บ้างแล้วครับ แต่ว่ามันยังอยู่ในขั้นตอนเรียกว่า ผมเพิ่งเริ่มต้นแล้วกันนะครับ ถ้าคืบหน้าอะไรมากกว่านี้ผมจะมาอัพเดทให้ทราบกันนะครับ ผมเป็นคนไม่ปิดตัวเองเพียงแต่ว่ามันอาจจะยังไม่ถึงเวลาสำหรับเรา”

แหม...เรียกว่ามาครบสูตรจริง ๆ สำหรับผู้ชายคนนี้ ส่วนเสาร์หน้าขอบอกว่าห้ามพลาด เพราะเราจะไปเปิดใจพิธีกรชื่อดัง ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในความแรง ความเว่อร์ของเขา จะเป็นใครนั้นติดตามอ่านกันเสาร์หน้านะจ๊ะ ห้ามพลาดจริง ๆ.
กาญจนา สิทธิเม่ง รายงาน

วันว่างสวยๆของ“ชมพู่-อารยา” - ฟรีไทม์


เป็นนางเอกคิวทอง ที่ตารางงานแน่นจนแทบไม่มีวันว่าง สำหรับ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต แต่พอมีเวลาปุ๊บ เจ้าตัวก็มักจะแวะเวียนไปที่ร้าน “ไฮฟ์ ซาลอน” ตึกปอติโก้ ซอยหลังสวน เพื่อดูแลความสวยความงาม  วันนี้ “ฟรีไทม์” ก็เลยขอตามติดสาวชมมาทำกิจกรรมวันว่าง รวมถึงแอบดูเคล็บลับการดูแลตัวเองซะหน่อย

ทันทีที่มาถึงสาวชมก็ทักทายทุกคนด้วยความเป็นกันเอง ก่อนจะเริ่มภารกิจแรกด้วยการทำเล็บ ซึ่งสาวชมออกตัวก่อนว่าเป็นคนที่ชอบต่อเล็บ เพราะจะได้ไม่ต้องดูแลมาก และก็ไม่ชอบทาสีประหลาด ๆมาก เพราะจะทำให้ดูสวยงามมี สุขภาพดี พอเลือกสีได้ปุ๊บพนักงานก็ลงมือตกแต่งหนัง และทำสีเล็บให้ทันที พอเล็บสวยสมใจแล้ว ก็เริ่มภารกิจต่อไปด้วยการทำผมซึ่งวันนี้ได้แฮร์สไตลิสต์ชื่อดัง ก้อง-กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา เพื่อนซี้ของสาวชมมาลงมือทำด้วยตัวเอง งานนี้เลยเห็นทั้งคู่ม้วนผมไป เมาท์กันไป อย่างอารมณ์ดี พอทำผมเสร็จปุ๊บ สาวชมเล่าให้ฟังต่อว่า เรื่องของผม เราก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะผมโดนม้วนทุกวัน ยิ่งถ้าถ่ายละคร มันเป็นการทารุณผมมาก วันหนึ่งถ่าย 10 ฉาก เปลี่ยนทรงไปเปลี่ยนทรงมา เดี๋ยวก็ไดร์ เดี๋ยวก็ม้วน ม้วนแล้วก็ถักเปียอีกที ก็ต้องหาเวลาให้อาหารเขาบ้าง”

แหม...ดูแลตัวเองดีอย่างนี้นี่เอง ถึงได้ดูสวยเป๊ะทุกวัน แถมยังเอาชนะใจ หนุ่ม น็อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ ซะอยู่หมัด!!!
การะเกด

หนุ่มหล่อแต่งตัวหลากสไตล์ - สตาร์เทรนดี้


นั่งดูแบบเสื้อผ้าสาว ๆ กันมาก็เยอะจน “ก้อยโกะ” เอียนตาลายแล้ว วีคนี้เลยขอไปส่องเสื้อคุณผู้ชายกันบ้าง แหม!ทำให้ชีวิตดูมีสีสันกระชุ่มกระชวยขึ้นเยอะ งานนี้ขอบอกว่าไม่ธรรมดา หนุ่มหล่อหลายคน แต่งตัวหลายสไตล์มาให้ได้ชมกัน เอ้า!ไปดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละหนุ่มแต่งตัวแซบแค่ไหน             

กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ              
 
“กันมาในชุดกึ่งทางการ เสื้อด้านในเป็นเสื้อสีดำเรียบ ๆ แต่ด้านนอกเป็นสูทสีเทา-ดำ มีสีเหลืองคาดช่วยเพิ่มความสดใส คาดเข็มขัดหลุยส์วิตตอง ใส่กางเกงยีนเข้ารูปช่วยให้ดูทะมัดทะแมง สวมรองเท้าสีน้ำตาล ดูรวม ๆ แล้วโอเค”
ดัง-พันกร บุณยะจินดา             

“ดังมาในมาดเก๋ ๆ ด้านในใส่เสื้อสีดำธรรมดา สวมแจ๊กเกตหนังสีดำลวด ลายเก๋ สวมกางเกงยีนรัดรูปเน้นให้เห็นรูปร่าง ถือกระเป๋าแอร์เมสสีแดงแรงฤทธิ์ ใส่รองเท้าหนังสีน้ำตาล”

ตูมตาม-ยุทธนา เบื้องกลาง              

“ด้านตูมตามแต่งตัวเรียบร้อยเป็นทางการมากกว่าใครเพื่อน ด้านในสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ใส่สูทสีดำทับผูกโบไท สวมกางเกงสีน้ำตาลคาดเข็มขัดหลุยส์วิตตอง เสริมให้ชุดดูหรูหราไม่แพ้ใคร สวมรองเท้าสีน้ำตาลเข้ากับโทนสีกางเกงเป๊ะ ๆ”

ปูไข่-พงศ์สิรี บรรลือวงศ์               

“ปูไข่ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ สวมแจ๊กเกตหนังสีน้ำตาล ดูเท่ไม่แพ้ใคร ใส่กางเกงยีนสีน้ำเงิน คาดเข็มขัดสีน้ำตาลเข้ากับแจ๊กเกตหนังเป็นอย่างดี ใส่รองเท้าสีน้ำตาลเข้ม โดยรวมแล้วแมตช์กับเจ้าตัวเป็นอย่างดี”

พีช-พชร จิราธิวัฒน์              

“เห็นหนุ่มคนนี้แล้วหล่อบาดใจจริง ๆ พีชสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านใน ทับด้วยสูทสีครีมดูเนี้ยบสุด ๆ สวมกางเกงสีดำ สวมรองเท้าหนังสีดำ หวีผมเก็บเรียบร้อย”             
ฮั่น-อิสริยะ ภัทรมานพ              

“ฮั่นมาแนวหล่อสดใส ด้านในใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว สวมแจ๊กเกตสีน้ำเงินอมฟ้าสดใส ติดโบไทโทนสีเดียวกับแจ๊กเกตเป๊ะ ๆ ใส่กางเกงสีดำ รองเท้าสีน้ำเงินอมฟ้าเข้ากับ
แจ๊กเกตเป็นอย่างดี”

แอมป์-สิริพงศ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล              

“แอมป์ใส่เสื้อเชิ้ตขาวด้านในสวมเสื้อยืดสีแดงทับและใส่แจ๊กเกตลายทางยาวสี น้ำเงิน-แดงทับอีกที สวมกางเกงยีนสีน้ำเงิน รองเท้าบู๊ตสีขาว ชุดนี้ลงตัวดูดีไม่แพ้คนอื่น”.
ก้อยโกะ

'เนย' ขอควง 'ป๊อปปี้' ปั้น 'เค้ก ป๊อป' - ฟรีไทม์


ช่วงนี้ฝนตกบ่อยเหลือเกิน วันนี้เราเลยชวน 2 สาว เนย ซินญอริต้า หรือ ลลิตา สิงโตทอง  และสาว ป๊อปปี้-ชัชชญา ส่งเจริญ จากวง ทรี ทู วัน ไปนั่งทำ “เค้ก ป๊อป” ขนมเค้กสไตล์ใหม่ที่ผสมผสานกับอมยิ้ม กันแบบเบา ๆ ณ สตูดิโอของร้าน “ป๊อป มี อัพ” ต้องบอกว่าสองสาวดูตื่นเต้นกับการทำครั้งนี้มาก เพราะเค้กที่ทำเสร็จแล้วนั้นน่ารักและน่ากินสุด ๆ โดยวันนี้ทั้งคู่จะทำเป็นรูปกล่องของขวัญและลูกบอลแฟนซีกัน

ก่อนอื่นขอแนะนำส่วนผสมสักหน่อย ซึ่งก็เป็นของน่ารักกระจุ๊กกระจิ๊กทั้งนั้น ได้แก่ เค้กรสชาติที่เราชื่นชอบ สีผสมอาหารที่นำมาผสมกับช็อกโกแลต ท๊อปปิ้งตกแต่งรูปต่าง ๆ น้ำตาลปั้น น้ำตาลผสมสี ไม้เสียบ และอุปกรณ์ปั้นน้ำตาล

เริ่มที่การทำกล่องของขวัญ ขั้นตอนแรกทั้งสองสาวต้องปั้นเนื้อเค้กให้เป็นรูปเหลี่ยมก่อน ซึ่งต้องบอกว่าปั้นยากพอสมควรเหมือนกัน เนื่องจากเนื้อเค้กร่วนออกมาตลอด แต่ทั้งเนยและป๊อปปี้ก็ไม่ย่อท้อ ตั้งใจปั้นจนได้เป็นรูปทรงที่พอใจ หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนชุบลงในช็อกโกแลตสี ซึ่งถ้าขั้นตอนแรกยากแล้ว ขั้นตอนนี้คงยากยิ่งกว่า เพราะต้องอาศัยความรวดเร็วในการชุบ มิฉะนั้นช็อกโกแลตก็จะแห้งแข็งกลายเป็นก้อน ซึ่งรอบแรกสาวเนยไม่รู้ถึงเทคนิคนี้ เลยได้กล่องของขวัญที่ค่อนข้างจะเละไปสักหน่อย แต่เจ้าตัวก็ไม่ท้อ ลองใหม่อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ก็ได้กล่องที่สวยถูกใจ ด้านฝ่ายสาวป๊อปปี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเหมือนมีพรสวรรค์ด้านนี้โดยเฉพาะ เจ้าตัวเลยชุบสีออกมาได้เรียบเนียนจริง ๆ เสร็จแล้วนำไม้มาเสียบแล้วพักไว้ก่อน

หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนการทำโบติดกล่องของขวัญ งานนี้ต้องใช้น้ำตาลปั้นมารีดให้เป็นแผ่นบาง ๆ จากนั้นก็ต้องค่อย ๆ ตัดออกมาให้เป็นเส้นคล้ายริบบิ้น ทั้งสองสาวก็ขะมักเขม้นในการตัดมาก ๆ เพราะต้องระวังไม่ให้ขาด จากนั้นก็นำโบที่ได้มาพันรอบกล่องของขวัญที่ทำไว้ โดยใช้ช็อกโกแลตขาวเป็นเสมือนกาว ซึ่งก็ผ่านฉลุยทั้งสองคน ได้ของขวัญที่สวยงาม น่ากินอย่างที่ตั้งใจ

แต่งานนี้ดูเหมือนทั้งเนยและป๊อปปี้จะติดลมบนซะแล้ว เพราะทั้งคู่ขอลองทำอีกอันนึง ซึ่งคราวนี้เลือกทำเป็นลูกบอลแฟนซี ที่ดูแล้วน่าจะง่ายกว่าอันแรก เพราะแค่ปั้นเค้กเป็นก้อนกลม ชุบสี แต่คราวนี้ความสนุกจะอยู่ตรงที่การตกแต่งลูกบอลให้สวยงามตามจินตนาการ ซึ่งทั้งสองสาวก็ทำอย่างคล่องแคล่วกันมากขึ้น ดังนั้นทั้งเนยและป๊อปปี้เลยใช้เวลาไม่นานก็ได้ “เค้ก ป๊อป” ออกมาอีกคนละหนึ่งอัน

สาวเนย เปิดใจให้ฟังว่า “วันนี้สนุกมากเลยค่ะ เราเคยเห็นแต่ยังไม่เคยทำ พอมาทำก็รู้สึกว่าของจริงยากมาก ต้องใช้ความประณีตและใจเย็นมากค่ะ ถามว่าขั้นตอนไหนยากที่สุดสำหรับเนย เนยว่าเป็นตอนที่เอาช็อกโกแลตมาชุบเค้ก เพราะหนูก็พังไปอันนึงแล้ว (หัวเราะ) เลยรู้ว่าขั้นตอนนี้ต้องเร็วมากค่ะ คือตอนแรกอยากทำรูปไมค์นะ แต่พอเริ่มปั้นก็รู้ว่าทำไม่ได้แน่ค่ะ เลยพักไว้ก่อน ซึ่งงานนี้ก็ถือว่าเป็นความแปลกใหม่และสามารถสร้างไอเดียที่ดีค่ะ”
  
ด้าน ป๊อปปี้ เสริมว่า “ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะปั้นดินน้ำมันเล่นที่บ้านยังปั้นเป็นรูปไม่ได้เลย (ยิ้ม) พอมาปั้นเป็นของกินน่ารักก็เลยยิ่งยากค่ะ ซึ่งป๊อปปี้ว่ามันยากทุกขั้นตอนเลยนะ เพราะมันต้องใช้สมาธิมากเลย ก็ถือว่าเป็นการฝึกสมาธิของเราด้วยค่ะ”.
อ้อมเอลฟ์

"ณเดชน์" ปัดควง "ญาญ่า" ผูกดวงโต้ฟันค่าตัวโฆษณาปีนี้ 80 ล้าน


แฟนคลับยังไม่เลิกลุ้นตั้งแต่จับคู่กันดังในละคร สำหรับพระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ กับนางเอกสาว ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์  ยิ่งตอนนี้ละคร “ธรณีนี่นี้ใครครอง” ออนแอร์แล้วเคมียังโดนใจคนดูยิ่งเชียร์ให้เป็นแฟนกัน ไหนจะมีคนตาดีเห็นหนุ่มณเดชน์ควง ญาญ่า ไปผูกดวงคู่รักที่วัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร ล่าสุดเจอตัวหนุ่มณเดชน์ในงานแถลงข่าว “ทรูมูฟ เอช ชวนคนไทยทั้งประเทศเปลี่ยนเป็น 3 จีพลัส โทรฯชัด เน็ตแรงทั่วไทย” ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เลยต้องถามถึงเรื่องนี้ พร้อมเรื่องข่าวว่าปีนี้ฟันค่าโฆษณาไปถึง 80 ล้านบาท เจ้าตัวเลยชี้แจงทุกเรื่องให้ฟัง

ณเดชน์ เผยว่า “จริง ๆ ผมเคยไปวัดท่าไม้กับน้องญาญ่า แต่ไม่ได้นัดกันไปเพื่อผูกดวง ตอนนั้นที่ไปก็มีพี่ป๋อพี่เอ๋ไป เราก็นัดกันไปนมัสการพระอาจารย์ครับ ผมเองก็ทำงานหนักพอว่างก็ไปกับคุณแม่ และไปกับญาญ่าและคุณแม่ของญาญ่าด้วยครับ ไม่ได้ไปทำพิธีผูกดวงครับ” มีความเชื่อเรื่องการผูกดวงหรือเปล่า? “ไม่ค่อยนะครับ ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพรหมลิขิตเท่าไหร่” ตอนไปไปด้วยกันหรือว่าแยกกันไป? “จริง ๆ แล้วเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย เราเป็นเพื่อนกันไปด้วยกันก็ไม่เสียหายครับ มีผู้ใหญ่ไปด้วย และเราก็ไม่ได้ไปทำอะไรเสียหายที่วัดครับ เราไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไปเข้าวัดทำบุญครับ” รู้สึกยังไงบ้างที่มีคนเชียร์อยากให้ผูกดวงกัน? “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ตอนนี้ก็เป็นพี่น้องกันครับ ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องอนาคตอะไร ผมว่าบางคนก็รู้สึกอิน บางคนก็เฉย ๆ บางคนก็บอกว่าเล่นกันน่ารักดี เข้ากันได้ดี ตรงนี้ผมว่าแล้วแต่ความคิดของแต่ละคนมากกว่าครับ” มีคนเชียร์เยอะ ๆ แบบนี้มีเผลอใจบ้างมั้ย? “น้องเขาก็น่ารักดี แต่คงไม่จีบหรอก ผมถือว่าเป็นน้องที่น่ารักคนหนึ่งครับ” แต่ก็มีข่าวว่าตอนนี้กำลังคุยกับสาวนอกวงการอยู่? “ไม่มีครับ มีแต่เพื่อน ๆ กันคุยกันครับ แต่ไม่ได้จีบ และที่มีข่าวว่ามีสาว ๆ มาขอเบอร์ผม ไม่มีใครกล้าเข้ามาหาผม (หัวเราะ) เขาก็คงเกร็งและผมก็คงเกร็งไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ตอนนี้โสดครับ ขอเรียนจบก่อนครับ อีก 2 ปี ตอนนี้ปี 3 แล้วครับ” กลัวเรตติ้งตกหรือเปล่า? “ไม่เกี่ยวครับ มันอยู่ที่หลาย ๆ อย่างด้วย เรื่องของเวลาและคนอื่นที่มองเราด้วย รออีกสักพักพร้อมเมื่อไหร่จะบอกครับ ที่ไม่มีแฟนพี่เอ-ศุภชัย ไม่ได้สั่งห้ามครับ พี่เอบอกว่าเราทำงานมาเหนื่อยแล้วความรักแบบเพื่อนหรือแฟนบางทีมันก็จำเป็น มันเป็นการช่วยพูดให้กำลังใจกัน แต่ตอนนี้ถามว่าจะคบใครแบบจริงจัง คงยังครับ ผมเป็นคนค่อนข้างสันโดษเหมือนกันครับ ในบางครั้งเราทำงานเสร็จแล้วก็อยากอยู่คนเดียวบ้าง อีก 2 ปีเรียนจบค่อยว่ากันใหม่ ส่วนกับญาญ่าจะมีพัฒนาหรือเปล่าไม่รู้เหมือนกันเรื่องของเวลาครับ”

ดูเหมือนปีนี้งานโฆษณาเยอะอีกแล้ว? “ก็ไม่ค่อยเยอะนะครับ เป็นสินค้าเดิม ๆ ที่ต่อสัญญาครับ” โดนจัดอันดับให้เป็นนักแสดงชายที่มีรายได้สูงสุด 70-80 ล้านบาท? “โห ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ไม่ถึงจำนวนนี้แน่นอนครับ ถามสรรพากรได้เลย ผมรู้สึกเฉย ๆ กับข่าวนี้นะครับ ก็อยากได้ขนาดนั้นครับ (หัวเราะ) จะเห็นว่าผมทำงานหนัก แต่รายได้ไม่เยอะขนาดนั้นครับ ถือเป็นโชคดีของผมเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ที่ยังทำงานได้อยู่ ต้องขอบคุณลูกค้าและเอเจนซี่ทุกคนที่ให้โอกาสเราครับ”.

"ตุ๊ก" เปิดใจหลังหย่ากับ "บ๊วย"


ผู้สื่อข่าวรายงานมาในวันนี้ (13 ก.ค.) ว่า หลังจาก “บ๊วย-เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” กับ “ตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ” ได้จดทะเบียนหย่ากันไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา   ตุ๊ก-ชนกวนันท์  ได้เปิดใจหลังปิดฉากชีวิตคู่ว่า สภาพจิตใจจริงๆแล้วเป็นปกติ   แต่โดยรวมต้องยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เราอยู่ในช่วงที่อ่อนแอมาระยะนึง แล้วทุกอย่างก็ดำเนินไป ทำทุกอย่างที่เราคิดว่าลูกผู้หญิงคนหนึ่งจะทำให้ถึงที่สุด และพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเราจะทำได้ แล้วเมื่อมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราปรารถนา เมื่อมันจบลง ความอ่อนแอเราก็พับเก็บไป   วันนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องของการโล่งใจแล้วก็สบายใจ  ทุกสถานการณ์น่าจะมีทางออกของมันในทางที่ดีที่สุด ของแต่ละสถานการณ์
เมื่อถามว่า สาเหตุจริงๆของการหย่า มาจากอะไร  ตุ๊ก-ชนกวนันท์ กล่าวว่า ถ้าถามสาเหตุที่แท้จริงตนไม่มี เพราะว่าตนไม่ได้มีความต้องการที่จะจบแบบนี้    แต่ถ้าจะให้พูดชีวิตคู่นั้นจะต้องถูกเห็นชอบด้วยคนสองคน ถ้าแม้เพียงใครคนหนึ่งคิดว่าจะยกเลิกเพราะฉะนั้นอีกคนหนึ่งก็ดำเนินต่อไปไม่ ได้แน่ๆ  คือตนพยายามของตน แต่ถ้าตนยังเห็นแก่ตัวกับความต้องการของตัวเอง แต่ว่าเราไม่ได้มือเปล่า ซ้ายก็ลูกคนหนึ่งขวาก็ลูกอีกคนหนึ่ง  คนหนึ่งก็ยังต้องอุ้มคนหนึ่งก็ยังต้องจูง เพราะฉะนั้นมันจะไปไหนไม่ได้  แล้วก็อาจจะล้มกันทั้งหมด  เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันก็ถึงจุดที่ต้องเคลียร์”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ก่อนหน้านี้บรรยากาศในครอบครัวเหมือนจะดีขึ้นเห็นจากภาพวันเกิดลูก เชื่อว่าวันเกิดปีต่อไปภาพก็จะเป็นอย่างนั้น  ก็คืออย่างที่พี่บ๊วยบอกคือเรายังต้องเป็นพ่อเป็นแม่ เพราะฉะนั้นกิจกรรมนั้นยังต้องดำเนินอยู่ ต่อข้อถามว่า ที่บ๊วยบอกว่า พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน รู้สึกยังไง ตนไม่เชื่อว่าพ่อแม่จะรักลูกไม่เท่ากัน แต่บางครั้งการสัมภาษณ์เหมือนอย่างตอนนี้ด้วย  บางทีคนที่ถูกสัมภาษณ์ก็จะกังวลหลายอย่าง แล้วทุกอย่างมันเร็วและมีความเครียดความกดดัน ตนว่าน่าจะเป็นการพูดเร็วมากกว่า คงจะไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นชัดๆ ก็น่าจะเข้าใจเขา
หลังจากหย่าแล้ว ตกลงเรื่องการดูแลลูกยังไง ตุ๊ก กล่าวว่า ตนเป็นคนดูแลลูกเป็นหลัก แล้วการแบ่งสินสมรสก็ปฏิบัติตามที่เราตกลงกันไว้  เมื่อถามว่ามีข่าวว่า จะหนีไปอยู่ต่างประเทศจริงหรือเปล่า ตุ๊ก กล่าวว่าไปเที่ยวตามปกติกับครอบครัว ไปประมาณ 6 วัน  ข่าวไม่ใช่น้ำท่วมหนีไม่ได้ ไม่มีที่ไหนในโลกที่หนีได้ จะไปวันอาทิตย์นี้ที่เกาหลี
เมื่อถามว่า ลูกรู้เรื่องบ้างหรือเปล่า แม่ม่ายสาว กล่าวว่า ไม่ทราบอะไรชัดเจน  ก็อาจจะแค่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง  ทุกอย่างมันค่อยๆเกิดขึ้นอยู่แล้ว เขาก็ค่อยๆเข้าใจ บางทีก็มีถามบ้างว่า ทำไมแดดดี้ไม่นอนห้องนี้แล้ว  เขามีถามบ้าง แต่ไม่ได้เข้าใจทั้งหมด เราไม่ได้มีอะไรปิดบัง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้าบ๊วยจะแต่งงานใหม่ จะว่ายังไงไหม แม่ม่ายสาว กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในการตัดสินใจของตนอยู่แล้ว โอเค.หรือไม่โอเค ไม่อยู่ในสิทธิ์ของตนอยู่แล้ว  ไม่พูดเรื่องคนอื่นดีกว่า.

รวบเฒ่า 74 ทำอนาจารเด็ก 13 ขวบ‏


วันนี้ (14ก.ค.) พ.ต.อ.สมชาย ชำนิ ผกก.สภ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายแดง(นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาวบ้านหนองผักบุ้ง หมู่ 5 ต.กลางดง อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย เป็นพ่อของ ด.ญ.เอ (นามสมติ) อายุ 13 ปี เข้าแจ้งความต่อ ตำรวจ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ว่าลูกสาวถูก นายดวงคำ แปงดี อายุ 74 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันล่อลวงไปทำอนาจารถึง 2 ครั้ง  
โดยนายแดง ให้การว่า มีอาชีพรับจ้างก่อสร้างทั่วไปได้ค่าแรงวันละ 200 บาท แต่ระยะได้สังเกตเห็นว่า ด.ญ.เอ ลูกสาวมีเงินทองใช้ไม่ขาดสาย ซื้อข้าวของใหม่ๆ จึงสงสัยว่า ลูกสาวเอาเงินจากไหนมาใช้จ่าย ทั้งที่ตนเองเป็นพ่อไม่ได้ให้ไว้มากมายอะไร ประกอบกับสังเกตเห็นนายดวงคำ คอยพูดจาแทะโลมสนิทสนม กับลูกสาวเป็นพิเศษ หลังตนเองและผู้เป็นย่า ช่วยกันซักถาม จนลูกสาวรับสารภาพว่าถูกนายดวงคำ ล่อลวงไปทำอนาจารที่บ้านถึง 2 ครั้งแล้ว และให้เงินมาครั้งละ 300-500 บาท  
จากการสอบถาม ด.ญ.เอ ให้การว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 23 มิ.ย. ขณะเดินไปเก็บหน่อไม้ที่สวนหลังบ้านได้เดินผ่านบ้านของนายดวงคำ นายดวงคำจึงเรียกตนให้มาดูตุ๊กแกที่ห้องน้ำ เมื่อตนเดินเข้าไปดู นายดวงคำเดินตามเข้าไปและปิดประตูบังคับให้ตนแก้ผ้า จากนั้นพยายามที่จะสอดใส่อวัยวะเพศอยู่หลายครั้งตนร้องว่าเจ็บ จึงยอมปล่อย พร้อมทั้งหยิบเงินให้และบอกกับตนว่าอย่าไปบอกใคร ซึ่งหลังจากนั้นก็มาล่อลวงในแบบเดิมอีก 
ต่อมา ตำรวจได้ควบคุมตัวนายดวงคำที่อยู่อาการเมาสุรามาสอบสวน โดยนายดวงคำ ให้การปฏิเสธว่า ตนเองไม่เคยทำอนาจารด.ญ.เอเลย ตนเห็นด.ญ.เอเหมือนลูกหลานจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร แถมตนเองยังเอ็นดูให้เงินด.ญ.เอไปซื้อขนมกินมาตลอดหลายปี คิดว่าผู้ปกครองเด็กคงจะคิดแบล็กเมล์เพื่อต้องการเงิน  
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงส่งตัว ด.ญ.เอ ไปตรวจที่ รพ.ศรีสำโรง ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่าอวัยวะเพศบวมช้ำอย่างหนัก จึงแจ้งข้อหากระทำชำเราด.ญ.อายุไม่เกิน13ปี โดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ดำเนินคดีตามกฎหมาย.

เซลล์ขายการ์ตูนดังผูกคอลาโลก


วันนี้ (14 ก.ค.)พ.ต.ต.ศุภชัย หาญคำหล้า พงส.(สบ2) สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต ภายในห้องหมายเลข 110 ห้องแถวแบ่งให้เช่า ซิลเวอร์เฮ้าส์ เลขที่ 808 ถนนพระราม9 ซอย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.นันทพงศ์ สุขอัจจะสกุล รองผกก.สส.สน.มักกะสัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวแบ่งให้เช่าชั้นเดียวปลูกติดกัน 20 ห้อง ฝั่งซ้าย 10 ห้องฝั่งขวา 10 ห้อง ห้องที่เกิดเหตุ เป็นห้องสุดท้ายของฝั่งขวา เข้าไปด้านในห้องไม่มีร่องรอยการรื้อค้น มีเพียงข้าวของเครื่องใช้ กองหนังสือการ์ตูนและไม้เท้าช่วยพยุง ภายในห้องน้ำพบศพชาย สวมเสื้อยืดสีครีม กางเกงขาสั้น เสียชีวิตในท่านั่งคุกเข่า ใช้เชือกไนล่อนผูกคอกับช่องลมห้องน้ำ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน สภาพศพขึ้นอืด น้ำเหลืองไหลเต็มพื้น ข้างกายมีเศษเก้าอี้พลาสติกแตกกระจาย ทราบชื่อต่อมา นายณัฐพล โชติจันทร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 8 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง  จ.นนทบุรี พนักงานฝ่ายขายหนังสือการ์ตูนและดีวีดีนำเข้าจากต่างประเทศ บริษัททีไอจีเอ จำกัด
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นพนักงานฝ่ายขายนำเข้าหนังสือและดีวีดีการ์ตูนชื่อดังจาก ต่างประเทศ เช่น โคนัน ยูกิ เรฟอีโวลูชั่น และดิ อเวนเจอร์ส เป็นต้น ปกติเป็นคนรักสันโดษ ไม่ค่อยมีเพื่อนฝูง พักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว และมักจะเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง จะออกมาก็เพียงเวลาทำงานเท่านั้น แต่เมื่อไม่นานมานี้ผู้ตายประสบอุบัติเหตุ ทำให้ต้องพักรักษาตัวสักระยะ  ก่อนหน้านี้มีคนพบผู้ตายล่าสุดเมื่อวันที่  5 ก.ค. หลังจากนั้นก็ทราบอีกทีว่าเป็นศพแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศล พร้อมทั้งสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง.

ตร.นิ้วหัก ปากแตก สังเวยคุมตัวฆ่าข่มขืนสาว 17 ทำแผน


วันนี้ (14 ก.ค.)พ.ต.อ.สิริศักดิ์ วาสะศิริ ผกก.สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กว่า 30 นาย ร่วมกันคุมตัว นายกิตติคุณ หรือเอก วงศ์หาจักร อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่า ข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.นุช (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เสียชีวิตคาห้องนอน ภายในบ้านเลขที่ 40 /27 หมู่บ้านชนกานต์ เชิงเขา ซอยนากก หมู่ 5 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค. มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยขณะนำตัวมา ได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าว เดินทางมามุงดูการทำแผนอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางเสียงด่าทอ สาปแช่ง ก่อนจะกรูกันเข้ามารุมประชาทัณฑ์ แต่เจ้าหน้าที่ได้กันตัวผู้ต้องหาไว้ และรีบพาเข้าไปในบ้านทันที จากนั้นได้ขอความร่วมมือกับชาวบ้านที่โกรธแค้น จนสามารถทำแผนเสร็จสิ้น ใช้เวลา 30 นาที ตั้งแต่บุกเข้าไปในห้องเพื่อข่มขืน ฆ่า และรื้อค้นทรัพย์สิน
พ.ต.อ.สิริศักดิ์ กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาล ส่วนศพผู้ตายได้นำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดลัฎฐิวนาราม หรือวัดใต้ ต.ฉลอง จะฌาปนกิจศพในวันที่ 15 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการทำแผน ขณะเจ้าหน้าที่กำลังนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับ ฝูงชนที่รอจังหวะอยู่ ได้ปีนรั้วบ้าน กรูกันเข้ามารุมชกต่อยผู้ต้องหาจนชุลมุนวุ่นวาย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าขัดขวางอีกครั้งจนสำเร็จ ตรวจสอบพบว่า มีตำรวจนอกเครื่องแบบได้รับบาดเจ็บ ปากแตก นิ้วมือหัก 2 นาย.

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources