วันนี้ (14 ก.ค. ) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม
ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พลาง ทางคลื่นอสมท. 100.5 เมกกะเฮิร์ต ว่า
การปรับกำลังทหารบริเวณเขาพระวิหารครั้งนี้เป็นการทำตามมติศาลโลกครบ1ปีที่
มีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวออกมา ดังนั้นในวันที่ 18 ก.ค. นี้
ทั้งไทยและกัมพูชาจะปรับกำลังทหารพร้อมกัน โดยพล.อ.เตีย บันห์
รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชาจะเดินทางไปที่เขาพระวิหาร
เพื่อทำพิธีถอนทหาร 400 กว่าคนออก แล้วนำตำรวจกว่า 300
คนรวมทั้งตำรวจท่องเที่ยวเข้าไปทำหน้าที่แทน ส่วนตนจะเดินทางไปจ.ศรีสะเกษ
เพื่อเข้าไปในพื้นที่เขาพระวิหารฝั่งของไทยและทำพิธีพร้อมกัน
แต่ยังไม่ได้หารือกันว่า จะไปเจอกันตรงกลางหรือไม่ ขณะนี้กำลังประสานอยู่
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวต่อว่า สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่เขาพระวิหารนั้น ยังไม่ทราบว่าต้องใช้เวลาเท่าใด เพราะไม่รู้ว่ามีกี่ลูก แต่ทั้งนี้ก็มีวิธีการที่ต้องไปคุยกันในรายละเอียด สัปดาห์หน้า ทีมเก็บกู้ทุ่นระเบิดของกัมพูชาจะมาคุยกับเราเรื่องการเริ่มเก็บกู้ใน พื้นที่ปัญหา
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะดึงเรื่องการปรับกำลังบริเวณเขาพระวิหารมาเป็นประเด็นทาง การเมืองว่ามีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า หากมองอย่างนั้น ชาตินี้คงไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ต้องดูเป้าหมายใหญ่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
"นี่ก็เป็นการปรับกำลังชั่วคราว ผมถามว่าการปรับกำลังทหารแล้วเสียดินแดนหรือไม่นั้นมันก็ไม่มี สิ่งเหล่านี้ถามได้ แต่ต้องถามอย่างมีเหตุผล เราก็พร้อมที่จะชี้แจงให้ทราบ" รมว.กลาโหม กล่าว
ส่วนการปรับกำลังจะมีครั้งเดียวหรือจะมีขึ้นอีกหรือไม่นั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ทั้งหลาย อย่าลืมว่าเป้าหมายคือต้องปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาล โลก ทางไทยและกัมพูชาก็ปฏิบัติตาม หลักการคือเราทำให้เหมือนกันและพร้อมกัน ไม่มีใครเอาเปรียบกัน โดยจะปรับใช้กำลังจากทหารเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนแทน แต่ดำเนินการภายใต้การควบคุมทางยุทธการของทหาร
เมื่อถามว่ารัฐบาลชุดนี้สร้างความมั่นใจว่าจะไม่ขนกำลังเข้าไปปะทะกันใน พื้นที่เขาพระวิหารอีก พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า อย่างนั้นคงไม่มีแล้ว เราคงไม่ทำแล้วเพราะอยู่ที่ความเชื่อใจกัน และเราก็ปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลก แต่ศาลโลกจะตัดสินออกมาอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง เหนือการคาดเดา และทางรัฐบาลก็กำลังต่อสู้ทางศาลกันอยู่
เมื่อถามต่อว่า หากศาลโลกมีมติให้ทั้งสองประเทศถอนทหารให้พื้นที่เขาพระวิหารเป็นเขตปลอด ทหารทั้งหมด แม้ว่าไทยจะมีพื้นที่บริเวณนั้นมากกว่า พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ก็ต้องทำเพราะเป็นคำสั่งศาล
เมื่อถามอีกว่า กังวลหรือไม่ว่าประวัติศาสตร์จะจารึกว่าในยุคของพล.อ.อ.สุกำพล เป็นรมว.กลาโหม ไทยต้องถอนทหาร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ถามว่าเป้าหมายใหญ่คืออะไร ไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรี ก็เหมือนกับเวลาเจ้านายสั่งให้ทำ ลูกน้องจะไม่ทำได้อย่างไร มันไม่ได้เกี่ยวว่าถอนทหารแล้วเสียอย่างไร มองต้องมองให้ลึก ถ้ามองอย่างนี้ก็เหมือนหาเรื่อง พื้นฐานของทหารเป็นอย่างไรต้องมองให้ดี แต่เราคุยกับใครต้องทำอย่างไร ต้องรู้เขารู้เรา.
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวต่อว่า สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่เขาพระวิหารนั้น ยังไม่ทราบว่าต้องใช้เวลาเท่าใด เพราะไม่รู้ว่ามีกี่ลูก แต่ทั้งนี้ก็มีวิธีการที่ต้องไปคุยกันในรายละเอียด สัปดาห์หน้า ทีมเก็บกู้ทุ่นระเบิดของกัมพูชาจะมาคุยกับเราเรื่องการเริ่มเก็บกู้ใน พื้นที่ปัญหา
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะดึงเรื่องการปรับกำลังบริเวณเขาพระวิหารมาเป็นประเด็นทาง การเมืองว่ามีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า หากมองอย่างนั้น ชาตินี้คงไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ต้องดูเป้าหมายใหญ่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
"นี่ก็เป็นการปรับกำลังชั่วคราว ผมถามว่าการปรับกำลังทหารแล้วเสียดินแดนหรือไม่นั้นมันก็ไม่มี สิ่งเหล่านี้ถามได้ แต่ต้องถามอย่างมีเหตุผล เราก็พร้อมที่จะชี้แจงให้ทราบ" รมว.กลาโหม กล่าว
ส่วนการปรับกำลังจะมีครั้งเดียวหรือจะมีขึ้นอีกหรือไม่นั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ทั้งหลาย อย่าลืมว่าเป้าหมายคือต้องปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาล โลก ทางไทยและกัมพูชาก็ปฏิบัติตาม หลักการคือเราทำให้เหมือนกันและพร้อมกัน ไม่มีใครเอาเปรียบกัน โดยจะปรับใช้กำลังจากทหารเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนแทน แต่ดำเนินการภายใต้การควบคุมทางยุทธการของทหาร
เมื่อถามว่ารัฐบาลชุดนี้สร้างความมั่นใจว่าจะไม่ขนกำลังเข้าไปปะทะกันใน พื้นที่เขาพระวิหารอีก พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า อย่างนั้นคงไม่มีแล้ว เราคงไม่ทำแล้วเพราะอยู่ที่ความเชื่อใจกัน และเราก็ปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลก แต่ศาลโลกจะตัดสินออกมาอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง เหนือการคาดเดา และทางรัฐบาลก็กำลังต่อสู้ทางศาลกันอยู่
เมื่อถามต่อว่า หากศาลโลกมีมติให้ทั้งสองประเทศถอนทหารให้พื้นที่เขาพระวิหารเป็นเขตปลอด ทหารทั้งหมด แม้ว่าไทยจะมีพื้นที่บริเวณนั้นมากกว่า พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ก็ต้องทำเพราะเป็นคำสั่งศาล
เมื่อถามอีกว่า กังวลหรือไม่ว่าประวัติศาสตร์จะจารึกว่าในยุคของพล.อ.อ.สุกำพล เป็นรมว.กลาโหม ไทยต้องถอนทหาร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ถามว่าเป้าหมายใหญ่คืออะไร ไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรี ก็เหมือนกับเวลาเจ้านายสั่งให้ทำ ลูกน้องจะไม่ทำได้อย่างไร มันไม่ได้เกี่ยวว่าถอนทหารแล้วเสียอย่างไร มองต้องมองให้ลึก ถ้ามองอย่างนี้ก็เหมือนหาเรื่อง พื้นฐานของทหารเป็นอย่างไรต้องมองให้ดี แต่เราคุยกับใครต้องทำอย่างไร ต้องรู้เขารู้เรา.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น