เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (20 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.นิติพันธุ์ โรหิโตปการ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งหลอกขายรถเถื่อนทางอินเตอร์เน็ต ได้ผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายธีระศักดิ์ บุญเลาะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 4 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม และ นายวัชรชัย เหลืองสัมฤทธิ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/958 หมู่ 4 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์โตโยต้าคัมรี่ สีเทา ทะเบียน ศก 8960 กรุงเทพมหานคร รถยนต์โตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียน ฎต 5901 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน ญศ 8494 กรุงเทพมหานคร รถยนต์โตโยต้า ออติส สีเทา ทะเบียน ฐศ 5973 รถยนต์โตโยต้า วีออส สีน้ำตาล ทะเบียน ณช 8728 กรุงเทพมหานคร รถยนต์นิสัน นีโอ สีเทา ทะเบียน สฮ 9176กรุงเทพมหานคร รถยนต์โตโยต้ายาริส สีขาว ทะเบียน ชศ 7513 กรุงเทพมหานคร รถเบนซ์ อี 200 สีเทา ทะเบียน ฆฉ 6202 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู 525 สีเทา ทะเบียน ขจ 8822 กรุงเทพมหานคร รวม 9 คัน
พล.ต.ท.วินัย ผบช.น. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนหลายรายเข้าแจ้งความ ว่าถูกคนร้ายหลอกขายรถยนต์ทางอินเตอร์เน็ต ผ่านทางเว็บไซด์ตลาดรถดอทคอม โดยหลังจากที่จ่ายเงินซื้อรถยนต์ไปแล้วไม่สามารถทำการจดทะเบียนโอนที่กรมการขนส่งได้ เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่ผิดกฎหมาย ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.จึงได้ทำการหาเบาะแสของกลุ่มคนร้าย จนทราบว่ากำลังประกาศขายรถยนต์โตโยต้า ยาริส จึงได้ทำการล่อซื้อที่ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์ จนกระทั่งจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ ส่วนนายเป้ (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกลุจริง) ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ของแก็งดังกล่าวสามารถหลบหนีไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวแล้ว นอกจากนี้ยังได้ทำการล่อซื้อและตรวจยึดรถเบนซ์และรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูอีก 2 คัน ซึ่งเป็นรถหนีภาษีนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ก่อนนำมาสวมทะเบียนและหลอกลวงประชาชน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมออกหมายจับ นายปุณฑริก นาคะศักดิ์เสวี อายุ 30 ปี เจ้าของรถ เพื่อดำเนินคดีด้วย
พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า ขบวนการดังกล่าวจะนำรถที่โจรกรรมนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย รถยนต์ที่ติดไฟแนนซ์และรถยนต์หนีภาษีมาประกาศขายทางอินเตอร์เน็ต โดยจะนำแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมาสวมไว้ มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหมายเลขตัวรถ และยังนำแผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์คันอื่นมาติดไว้ ก่อนจะนำไปหลอกขายทางอินเตอร์เน็ตในราคาถูก จากนั้นจะนัดหมายกับผู้เสียหายเพื่อทำสัญญาซื้อขายและจ่ายเงินสด โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะทำหน้าที่ขับรถของกลางไปให้ผู้เสียหาย อ้างว่าได้ค่าจ้างคันละ 5,000 บาท ส่วนนายทุนจะขับรถยนต์อีกคันตามประกบดูห่างๆ เมื่อขายรถไปแล้วผู้ต้องหาก็จะขึ้นรถยนต์ของนายทุนกลับ สำหรับเอกสารในการซื้อขายรถยนต์กลุ่มผู้ต้องหาจะทำการเซ็นเอกสารโอนลอยไว้ และใช้ชื่อนามสกุลในการทำสัญญาซื้อขายปลอมทั้งหมด เมื่อผู้เสียหายทำการจดทะเบียนที่กรมการขนส่งจึงไม่อาจทำได้
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ารถยนต์ต่างๆมีการโจรกรรมมาจากที่ใดบ้างหรือไม่ ขณะนี้พบว่ารถยนต์โตโยต้า อัลติส ทะเบียน ฐศ 5973 ได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันปลอม และใช้เอกสารราชการปลอมแก่ผู้ต้องหาทั้งสองราย ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติออกหมายจับ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตามอยากฝากประชาสัมพันธ์ ไปถึงประชาชนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายรถยนต์ทางอินเตอร์เน็ต หากจะซื้อขายรถยนต์ให้ไปที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด หากสงสัยหรือพบเบาะแสการทำความผิด ให้แจ้งได้ที่ บก.สส.บช.น. หมายเลขโทรศัพท์ 02-354-5162” ผบช.น. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.วินัย ยังได้นำประกาศจับตามหมายคนร้ายคดีโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาเผยแพร่ จำนวน 71 คน ซึ่งรวบรวมจากทั่วประเทศ เพื่อให้เจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส ซึ่งโครงการ “อันฟอร์เก็ท” ของ บช.น. นั้น พล.ต.ท.วินัย ระบุว่า จับได้กว่า 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว พร้อมบอกด้วยรอยยิ้มว่า “ให้ตำรวจเอาหมายจับไปดู เพื่อจะได้ไปติดตามคนร้าย ดีกว่าเอาเวลาไปดูภาพโป๊ เพราะจะทำให้ฟุ้งซ่าน.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th