ผบ.ตร. ร่อนหนังสือคุมเข้มความปลอดภัย3จว.ชายแดนใต้และสงขลา

ผบ.ตร. ร่อนหนังสือ กวดขันความปลอดภัย3จว.ชายแดนใต้และ สงขลา หลังวิสามัญแกนนำความไม่สงบ เตือนบริษัท ห้างร้านเป้าหมายเพิ่มมาตรการระวังตนเอง

วันนี้ ( 20 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  มีหนังสือโทรสารสั่งการในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติด่วนที่สุด ถึงผบช.ศชต. ส. ตชด. สตม. สพฐ. ก. และภ.9 อ้างถึงโทรสาร ตร.ที่ 0009.21 / 1254 ลงวันที่ 1 เม.ย. 55 กำชับแนวทางปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ภ.สงขลา ภายหลังจากในวันที่ 19 เม.ย. บก.ภ.ยะลา ได้เข้าจับกุมและวิสามัญเครือข่ายกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ได้จำนวน 5 คน โดยมีบุคคลเป้าหมายในระดับแกนนำถูกวิสามัญด้วย จึงอาจเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ กระทำการตอบโต้ในรูปแบบต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตทรัพย์สินของทางราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และของประชาชน จึงกำชับการดำเนินการ ดังนี้

ให้หัวหน้าสถานีตำรวจและหัวหน้าหน่วยงานในพื้นที่ทุกแห่งเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการดำเนินการตามแนวทางมาตรการดำเนินการเชิงรุกอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการตรวจตราบุคคล ยานพาหนะ และวัตถุต้องสงสัย ต้องมีฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน เป็นปัจจุบัน และกำชับผู้ปฏิบัติทุกนายให้ใช้ความละเอียดรอบคอบและระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถป้องกัน ตั้งรับ และตอบโต้ทางยุทธวิธี ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งการปฏิบัติในที่ตั้งและการตรวจพื้นที่ รวมถึงการดำเนินวิถีชีวิตประจำวันในทุกกรณี

ทุกหน่วยต้องดำเนินการเชิงรุกด้านการข่าว การสืบสวน และงานชุมชนมวลชนสัมพันธ์ โดยให้มีระบบและวงรอบในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในภาวะปกติ และระบบช่องทางในการแจ้งเตือนกรณีฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนได้อย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ แจ้งเตือนและขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ภาครัฐ พี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าของ ผู้ประกอบการ และภาคเอกชนทุกแห่ง ที่อาจตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุร้าย ให้เพิ่มมาตรการเชิงรุกในการระวังป้องกันตนเอง โดยเฉพาะความพร้อมของโทรทัศน์วงจรปิด และระบบแจ้งเหตุให้มีประสิทธิภาพต่อเนื่องตลอดเวลา

ทั้งนี้ ให้ระดับ ผบช.และผบก. ที่รับผิดชอบ ต้องมอบหมายผู้บังคับบัญชาระดับ รองผบช.หรือรองผบก.ลงไปตรวจสอบความพร้อมของหน่วยงวานที่รับผิดชอบในพื้นที่ตั้งแต่บัดนี้ และเมื่อเกิดเหตุหัวหน้าหน่วยหรือรองหัวหน้าหน่วย จะต้องลงไปอำนวยการปฏิบัติในพื้นที่เกิดเหตุด้วยตนเอง

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News