สั่งขังมาเฟียอิตาลีก่อคดีโชกโชนรอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน

ศาลสั่งขังมาเฟียชาวอิตาเลี่ยน ที่หนีความผิดเข้ามากบดานในประเทศไทย หลังก่อคดีเพียบ ทั้ง ค้ายา ฟอกเงิน และรีดไถ ก่อนนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อรอส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่บ้านเกิด ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

เมื่อเวลา 16.20 น.วันนี้ (20 เม.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งขัง นายวิโต โรแบร์โต ปาลัสโซโล (MR.VITO ROBERTO PALAZZOLO)    จำเลย สัญชาติอิตาลี เพื่อรอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่ศาลเมืองปาแลร์โม ประเทศอิตาลี

โดยอัยการระบุว่า รัฐบาลประเทศอิตาลี ได้มีหนังสือด่วนที่ 824 ลงวันที่ 19 มี.ค.55 ขอให้ส่งตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 มาตรา 8 ,14,15 กลับไปรับโทษของศาลเมืองปาแลร์โม ที่พิพากษาถึงที่สุดจำคุก 9 ปี  ข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการก่ออาชญากรรม เป็นสมาชิกขบวนการมาเฟียนานหลายปี ทั้งการฟอกเงิน จากการค้ายาเสพติด โดยซื้อมอร์ฟีนจากประเทศตุรกี แล้วแปรรูปเป็นเฮโรอีน เพื่อนำไปจำหน่ายที่ร้านพิซซ่าเครือข่าย ในประเทศสหรัฐฯ อีกทั้งจำเลยยังลักลอบส่งยาเสพติดไปจำหน่ายที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์หลายสิบล้านดอลล่าร์ ต่อมาจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวจากศาลสวิสเซอร์แลนด์ และเดินทางเข้าประเทศแอฟริกาใต้โดยใช้พาสปอตปลอม

นอกจากนี้จำเลยยังเกี่ยวข้องกับการบริหารบริษัท รักษาความปลอดภัยเอกชน ที่ก่อตั้งโดยชาวรัสเซีย มีพฤตติการณ์ขูดรีดผู้ค้าชาวอิตาลีในเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ด้วย กระทั่งได้เดินทางข้าประเทศไทยโดยใช้หนังสือเดินทางประเทศแอฟริกาใต้ และพักอยู่ที่ จ.ชลบุรีกระทั่งถูกจับกุมตัวได้

การกระทำของจำเลยเทียบได้กับฐานความผิด อั้งยี่,ซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209,210,211  พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542  ฐานโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำผิดเพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน  พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522  ฯลฯ  ผู้ร้องจึงขอให้ศาลมีคำสั่งขังจำเลยไว้พลางก่อน เพื่อรอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

ท้ายคำร้องพนักงานอัยการ ได้ขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์หลีกเลี่ยง หลบหนีไม่รับโทษตามคำพิพากษา ของศาลเมืองปาแลร์โม  เกรงว่าจะหลบหนีอีก  อีกทั้งจำเลยนี้เป็นที่ต้องกาตัวอย่างมากของรัฐบาลอิตาลี เกรงจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ศาลพิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งให้ขังผู้ต้องหาไว้ตามที่ร้องขอ ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายวิโต ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.

แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th

This entry was posted in News