วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
สารวัตรเฉลิม"แจงปมยังไม่ถอดยศ อดีตนายก"ทักษิณ" ชี้ สังคมไทยยังมีความแตกแยก ไม่อยากให้มีมากขึ้นกว่านี้
วันนี้ (27 พ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม. อยู่บำรุง รองนายกฯลุกขึ้นชี้แจงกรณีการถอดยศของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยอ้างความเห็นของผู้บัญชาการกำลังพลตำรวจ ที่ระบุเหตุผลว่า สาเหตุที่ยังไม่ถอดยศของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะในสังคมยังมีความแตกแยกสูงในหมู่มวลชน ซึ่งเชื่อมโยงถึงกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่ควรเพิ่มประเด็นความแตกแยกในสังคมให้มากขึ้นไปกว่านี้อีก และระเบียบของการถอดยศก็ไม่กำหนดระยะเวลาไว้ สามารถดำเนินการได้ตลอด จึงควรรอให้สถานการณ์ในสังคมไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อนจึงค่อยดำเนินการภาย หลัง และยังมีความเห็นของพล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผช.ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทนผบ.ตร.ในเวลานั้น ระบุว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลฎีกาตัดสินลงโทษเพราะมีส่วนในการลงนามรับรองการซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ ของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร แต่ไม่มีพฤติกรรมใดที่แสดงถึงความเสื่อมเสียต่อการทำหน้าที่ตำรวจและเป็นคน ที่ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติจึงไม่จำเป็นต้องถอดยศ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง และนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นในโครงการต่างๆของรัฐบาลนั้นก็ขอให้เอาหลัก ฐานมามอบให้ตน แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปล่อยปละละเลยจนทำให้เกิดปัญหาการบริหารราชการล้ม เหลว ปล่อยให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น เพราะรัฐบาลตั้งคณะกรรมการกำกับในทุกโครงการ
ผบ.ทบ.สั่ง มทภ.4 ปรับแผนคุมเข้ม รปภ.ครู ใต้ รับ เสียใจครูตายรายวัน ชี้ทางแก้ปัญหาต้องให้ครูนอนโรงเรียน แต่ยอมรับทำได้ยาก
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 332 โรงเรียน
หยุดทำการเรียนการสอน
พร้อมกับปิดโรงเรียนว่าฝ่ายความมั่นคงพยายามแก้ปัญหาทุกครั้ง
แต่ขณะนี้ยังมีการก่อเหตุที่รุนแรงอยู่
โดยครูเป็นเป้าหมายหลักของผู้ก่อความไม่สงบ
เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา
ซึ่งกองทัพให้ความสำคัญมีมาตรการในการจัดชุดรักษาความปลอดภัยครู
และกำหนดเส้นทาง รวมทั้งเวลาในการเดินทาง
แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมามีความบกพร่อง
บางครั้งครูมีธุระส่วนตัวหรือมีความจำเป็นออกนอกเส้นทางหรือนอกเวลาที่กำหนด
“ผมขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย กองทัพบกพยายามหามาตรการในการดูแลและสั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 รวม ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่หามาตรการป้องกัน แต่ขณะนี้เห็นอย่างเดียวว่าถ้าจะให้เกิดความปลอดภัยต้องให้ครูพักที่ โรงเรียน เพื่อลดเป้าหมาย แต่ก็เป็นเรื่องยาก เพราะครูมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ ฝ่ายตรงข้ามพยายามลดความน่าเชื่อถือ และดิสเครดิตเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้การแก้ปัญหามีผลกระทบ แต่เราก็ต้องพยายามลดระดับลงให้ได้ โดยในภาพรวมครูมีจริยธรรมอยู่แล้วก็อยากจะสอนลูกศิษย์ แต่ผู้ก่อความไม่สงบยังใช้วิธีรุนแรง ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน ถ้าให้เพียงแต่เจ้าหน้าที่ทำงานก็จะต้องมีมาตรการและยุทธวิธี ทั้งการใช้กำลังและกฎหมาย แต่ประชาชนไม่ชอบ”ผบ.ทบ.กล่าว
“ผมขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย กองทัพบกพยายามหามาตรการในการดูแลและสั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 รวม ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่หามาตรการป้องกัน แต่ขณะนี้เห็นอย่างเดียวว่าถ้าจะให้เกิดความปลอดภัยต้องให้ครูพักที่ โรงเรียน เพื่อลดเป้าหมาย แต่ก็เป็นเรื่องยาก เพราะครูมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ ฝ่ายตรงข้ามพยายามลดความน่าเชื่อถือ และดิสเครดิตเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้การแก้ปัญหามีผลกระทบ แต่เราก็ต้องพยายามลดระดับลงให้ได้ โดยในภาพรวมครูมีจริยธรรมอยู่แล้วก็อยากจะสอนลูกศิษย์ แต่ผู้ก่อความไม่สงบยังใช้วิธีรุนแรง ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน ถ้าให้เพียงแต่เจ้าหน้าที่ทำงานก็จะต้องมีมาตรการและยุทธวิธี ทั้งการใช้กำลังและกฎหมาย แต่ประชาชนไม่ชอบ”ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า
หากครูเดินทางไปไหนและเกิดความเสี่ยง
แม้จะบอกว่ามีอาวุธปืนสามารถป้องกันตนเองได้ แต่ก็เห็นว่าไม่มีความปลอดภัย
สิ่งเหล่านี้ตนไม่ได้โทษใครและรู้สึกเห็นใจ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีในฐานะ
ผอ.รมน.ได้สั่งการมาแล้ว และตนก็ได้หารือกับแม่ทัพ
ภาคที่ 4 อย่างต่อเนื่องและเข้มงวด
ส่วนมาตรการด้านการข่าวนั้นเราทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อครูและนักเรียน
แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดพื้นที่ไหน
เมื่อมีโอกาสที่จะทำร้ายครูทางกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะทำตามคำสั่งของเขา
ดังนั้นจึงอยากขอร้องให้ครูปฏิบัติตามเวลาช่วงที่เจ้าหน้าที่ได้กำหนดไว้ ส่วนที่ผู้ก่อความไม่สงบอ้างว่าเป็นการล้างแค้นให้อุสตาซที่ถูกฆ่าตายนั้นตนคิดว่าไม่ถูกต้อง และเป็นการสร้างความบาดหมางของคนสองศาสนา ซึ่งความจริงทั้งหมดเกิดจากกลุ่มก่อความไม่สงบที่ก่อความรุนแรงพวกเดียวกันต้องการทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดผลกระทบ
"วิลสา" ได้ประกัน หลังทนายหอบเงินสด 3แสนบาท ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ภาค
7 ระบุเหตุคดีที่มีอัตราโทษเล็กน้อย
ประกอบกับพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดี
อยู่ในความดูแลของตำรวจซึ่งคาดว่าไม่สามารถเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานได้
จากกรณี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ และน.ส.วิลสา
จันทรบัญชร ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร
ซึ่งถูกฝากขังในระหว่างชั้นพิจารณาของศาล โดยศาลจังหวัดเพชรบุรี
ไม่อนุญาตให้ประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีและอาจไปยุ่งเหยิงพยาน
แต่ทีมทนายความของ น.ส.วิลสา ได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลอุธรณ์ภาค 7
ซึ่งต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราวในส่วนของน.ส.วิลสา
จันทรบัญชร เพียงลำพัง
ความคืบหน้าวันนี้(27 พ.ย.) ที่เรือนจำกลางเพชรบุรี เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ทำการปล่อยตัว น.ส.วิลสา ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวตามคำสั่งศาลอุธรณ์ภาค 7 หลังทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 แสนบาท ซึ่งศาลได้พิเคราะห์แล้วว่า เป็นคดีที่มีอัตราโทษเล็กน้อย ประกอบกับพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดี อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งคาดว่าไม่สามารถเข้าไปยุ่งเหยิงกับ พยานได้จึงมีคำสั่งให้ประกันตัวได้ จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างดำเนินคดี
ซึ่งบรรยากาศที่หน้าเรือนจำมีทนายความ และนายแก้ว ลูกน้องคนสนิท ของหมอสุพัฒน์มารอรับที่หน้าเรือนจำ โดย น.ส.วิลสา ไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ต่อสื่อมวลชนพร้อมรีบเดินขึ้นรถออกไปทันที
ความคืบหน้าวันนี้(27 พ.ย.) ที่เรือนจำกลางเพชรบุรี เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ทำการปล่อยตัว น.ส.วิลสา ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวตามคำสั่งศาลอุธรณ์ภาค 7 หลังทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 แสนบาท ซึ่งศาลได้พิเคราะห์แล้วว่า เป็นคดีที่มีอัตราโทษเล็กน้อย ประกอบกับพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดี อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งคาดว่าไม่สามารถเข้าไปยุ่งเหยิงกับ พยานได้จึงมีคำสั่งให้ประกันตัวได้ จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างดำเนินคดี
ซึ่งบรรยากาศที่หน้าเรือนจำมีทนายความ และนายแก้ว ลูกน้องคนสนิท ของหมอสุพัฒน์มารอรับที่หน้าเรือนจำ โดย น.ส.วิลสา ไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ต่อสื่อมวลชนพร้อมรีบเดินขึ้นรถออกไปทันที
รมต.ดาหน้าแจงฝ่ายค้าน “จารุพงศ์”ยันโกงยาปราบศัตรูพืชยุคปชป.
“ปรีชา”พร้อมให้ตรวจสอบงบกรมน้ำ-บาดาล “ชัชชาติ”
ยันไม่รู้จักญาติรับงานขุดลอกคูคลอง “บิ๊กโอ๋” ชี้รัฐใส่ใจปัญหาใต้
วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายานว่า
เหล่าบรรดารัฐมนตรีได้ทยอยลุกขึ้นชี้แจง โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
รมว.มหาดไทย ชี้แจงว่า กรณีการใช้เงินสำรองด้านศัตรูพืชระบาด
เรื่องนี้มีการระบาด 12 จังหวัดด้วยกัน โดยพล.ต.อ.วิโรจน์
เปาอินทร์กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ
สภาผู้แทนราษฎรได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบความจริงว่ามีการจ่ายเงินงบประมาณ 3
ช่วงเวลาที่ระบุว่ามีการทุจริต คือช่วงปีงบประมาณ 2553 วงเงิน 638 ล้าน
ปีงบประมาณ 2554 จำนวน 2,669 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 3,307 ล้านบาท
ซึ่งอยู่ในช่วงของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทยงบประมาณปี 2555
ในส่วนของเงินทดรองราชการนั้น สำนักงบประมาณยังไม่อนุมัติวงเงิน
โดยนายจารุพงศ์ กล่าวอีกว่า ขอบคุณ ส.ส. ประชาธิปัตย์ ที่เปิดเผยการทุจริตช่วงรัฐบาลของท่านเอง อย่างไรก็ตามรัฐบาลนี้ไม่นิ่งนอนใจการตรวจสอบทุจริต หากพบก็จะสอบสวนต่อไป มูลเหตุของการทุจริตเกิดขึ้นได้เป็นเพราะมีระเบียบวิธีปฏิบัติ โดยเริ่มในปี 2552 ที่ให้ผวจ.ใช้เงินทดรองราชการได้ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นในช่วงรัฐบาลประชาธิปัตย์เช่นกัน แต่ใน ในขณะนี้รัฐบาลได้ปรับลดการใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดลงเหลือ 10 ล้าน และถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ให้ใช้วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท
จากนั้นนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าชี้แจงกรณีการใช้งบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ว่า ในเรื่องนี้หาก สตง.ส่งเรื่องมา ก็พร้อมตรวจสอบ ซึ่งตนได้สั่งการให้มีระบบตรวจสอบทางเว็บไซต์ของกรมทรัพยากรน้ำ ถ้าหากมีข้อสงสัยก็เข้าไปตรวจสอบได้ และหากต้องการลงพื้นที่ตรวจสอบตนก็พร้อมลงไปด้วย
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.คมนาคม ได้ลุกขึ้นชี้แจงกรณีที่มีการระบุว่ามีญาติของตนเข้าไปเกี่ยวกับกับการตั้ง บริษัทไปรับงานขุดลอกคูคลองในงบช่วยเหลือน้ำท่วมว่า ยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก และได้ยินชื่อตั้งแต่เกิดมา ส่วนจะเป็นญาติหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะนามสกุลเขียนไม่เหมือนกัน
ขณะที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ชี้แจงกรณีเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ โดยคำสั่งนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ภาคใต้โดยมอบหมายให้ตนมารับผิดชอบเรื่องความมั่นคงและ ถือเป็นวาระเร่งด่วน หมู่บ้านที่มีปัญหาเกิดเหตุมีจำนวน 324 แห่ง คิดเป็น 15%ถือว่า ไม่เลวร้ายกว่าที่คิด ทางหน่วยงานด้านความมั่นคงและ ศอ.บต.ได้ลงไปพัฒนาทำงานคู่กัน ทั้งเชิงรุกและรับ ในเชิงรุกเรื่องการออกไปไล่ล่าน้อยเกินไป เพราะเราห่วงงานเชิงรับมากเนื่องจากไม่มีหน่วยงานอื่นมารับผิดชอบแทนได้ จึงต้องใช้เวลาให้คนมาเปลี่ยน รออีกนิดถ้ามีคนมาเปลี่ยนอาจจะเป็นตำรวจ หรือ อาสาสมัครรักษาดินแดนที่มีขีดความสามารถ
พล.อ.อ. สุกำพล กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ก่อเหตุร้ายคือองค์กรลับไม่เคยประกาศเวลาทำอะไร มีโครงสร้างที่ซับซ้อน มียุทธศาสตร์สำคัญคืออยากให้เหตุร้ายไปสู่ประชาคมโลกภายนอก โดยมีแกนนำ 2,000 คน ฝ่ายปฏิบัติการ7,000 คน แต่ยืนยันรัฐบาลมีนโยบายชัดเจน จะพยายามทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพียงแต่ไม่มีกำลังคนพอเท่านั้น
โดยนายจารุพงศ์ กล่าวอีกว่า ขอบคุณ ส.ส. ประชาธิปัตย์ ที่เปิดเผยการทุจริตช่วงรัฐบาลของท่านเอง อย่างไรก็ตามรัฐบาลนี้ไม่นิ่งนอนใจการตรวจสอบทุจริต หากพบก็จะสอบสวนต่อไป มูลเหตุของการทุจริตเกิดขึ้นได้เป็นเพราะมีระเบียบวิธีปฏิบัติ โดยเริ่มในปี 2552 ที่ให้ผวจ.ใช้เงินทดรองราชการได้ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นในช่วงรัฐบาลประชาธิปัตย์เช่นกัน แต่ใน ในขณะนี้รัฐบาลได้ปรับลดการใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดลงเหลือ 10 ล้าน และถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ให้ใช้วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท
จากนั้นนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าชี้แจงกรณีการใช้งบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ว่า ในเรื่องนี้หาก สตง.ส่งเรื่องมา ก็พร้อมตรวจสอบ ซึ่งตนได้สั่งการให้มีระบบตรวจสอบทางเว็บไซต์ของกรมทรัพยากรน้ำ ถ้าหากมีข้อสงสัยก็เข้าไปตรวจสอบได้ และหากต้องการลงพื้นที่ตรวจสอบตนก็พร้อมลงไปด้วย
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.คมนาคม ได้ลุกขึ้นชี้แจงกรณีที่มีการระบุว่ามีญาติของตนเข้าไปเกี่ยวกับกับการตั้ง บริษัทไปรับงานขุดลอกคูคลองในงบช่วยเหลือน้ำท่วมว่า ยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก และได้ยินชื่อตั้งแต่เกิดมา ส่วนจะเป็นญาติหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะนามสกุลเขียนไม่เหมือนกัน
ขณะที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ชี้แจงกรณีเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ โดยคำสั่งนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ภาคใต้โดยมอบหมายให้ตนมารับผิดชอบเรื่องความมั่นคงและ ถือเป็นวาระเร่งด่วน หมู่บ้านที่มีปัญหาเกิดเหตุมีจำนวน 324 แห่ง คิดเป็น 15%ถือว่า ไม่เลวร้ายกว่าที่คิด ทางหน่วยงานด้านความมั่นคงและ ศอ.บต.ได้ลงไปพัฒนาทำงานคู่กัน ทั้งเชิงรุกและรับ ในเชิงรุกเรื่องการออกไปไล่ล่าน้อยเกินไป เพราะเราห่วงงานเชิงรับมากเนื่องจากไม่มีหน่วยงานอื่นมารับผิดชอบแทนได้ จึงต้องใช้เวลาให้คนมาเปลี่ยน รออีกนิดถ้ามีคนมาเปลี่ยนอาจจะเป็นตำรวจ หรือ อาสาสมัครรักษาดินแดนที่มีขีดความสามารถ
พล.อ.อ. สุกำพล กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ก่อเหตุร้ายคือองค์กรลับไม่เคยประกาศเวลาทำอะไร มีโครงสร้างที่ซับซ้อน มียุทธศาสตร์สำคัญคืออยากให้เหตุร้ายไปสู่ประชาคมโลกภายนอก โดยมีแกนนำ 2,000 คน ฝ่ายปฏิบัติการ7,000 คน แต่ยืนยันรัฐบาลมีนโยบายชัดเจน จะพยายามทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพียงแต่ไม่มีกำลังคนพอเท่านั้น
นายกฯ ลงนามยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงแล้ว มีผล ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ด้านเลขาฯ ครม.ชงเลื่อนประชุม ครม.ไปสัปดาห์หน้า
วันนี้ ( 26 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.30น. ที่อาคารรัฐสภา น.พ.ทศพร เสรีรักษ์
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ได้ลงนามในประกาศเรื่องให้อำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน
ราชอาณาจักร ( กอ.รมน.)
ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดำเนินการในพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อ
ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้แก่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
และเขตดุสิต ระหว่างวันที่ 22-30 พ.ย. สิ้นสุดลง โดย กอ.รมน.ได้รายงานว่า
เนื่องจากเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
อันเป็นเหตุให้มีการประกาศพื้นที่ดังกล่าวนั้น
สามารถดำเนินการแก้ไขได้ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบตามปกติ
นายกรัฐมนตรีจึงอาศัยอำนาจ ตามมาตรา 15 วรรคสอง ของพ.ร.บ.รักษาความมั่นคง
ออกประกาศให้การใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงใน 3 พื้นที่ดังกล่าวสิ้นสุดลง
และมีผลให้บรรดาประกาศ ข้อกำหนดที่นายกรัฐมนตรี และผอ. ศอ.รส.ประกาศ
และออกตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นอันสิ้นสุดลงด้วย
ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. เมื่อถามว่ากลุ่ม
อพส.จะไปดำเนินการฟ้องร้องว่าเจ้าหน้าที่รัฐทำรุนแรงเกินกว่าเหตุกับกลุ่ม
ผู้ชุมนุมจะแก้ปัญหาอย่างไร นพ.ทศพร กล่าวว่า ก็ต้องต่อสู้ไปตามกฎหมาย
แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเกินกว่าเหตุ
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม. เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.สัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้ที่ประชุม ครม.ทราบว่าให้เลื่อนการประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 27 พ.ย.ไปก่อน เนื่องจากติดภารกิจการอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 25-27 พ.ย. และในวันที่ 28 พ.ย. หลังจากที่ช่วงเช้าจะมีการลงมติในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ช่วงบ่ายก็จะมีการอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภาอีก ดังนั้นในสัปดาห์นี้ก็น่าจะไม่มีการประชุม ครม. ซึ่งตนจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้เลื่อนการประชุม ครม.ออกไปในสัปดาห์หน้าทีเดียว ซึ่งน่าจะสะดวกกับทุกฝ่าย แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม. เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.สัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้ที่ประชุม ครม.ทราบว่าให้เลื่อนการประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 27 พ.ย.ไปก่อน เนื่องจากติดภารกิจการอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 25-27 พ.ย. และในวันที่ 28 พ.ย. หลังจากที่ช่วงเช้าจะมีการลงมติในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ช่วงบ่ายก็จะมีการอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภาอีก ดังนั้นในสัปดาห์นี้ก็น่าจะไม่มีการประชุม ครม. ซึ่งตนจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้เลื่อนการประชุม ครม.ออกไปในสัปดาห์หน้าทีเดียว ซึ่งน่าจะสะดวกกับทุกฝ่าย แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
สองคนร้าย ซิ่งเก๋ง บุกยิงขู่หน้าบ้าน "สาธิต ปิตุเตชะ" ส.ส.ระยอง เขต 1
พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โชคดีไม่มีใครอยู่บ้าน
วันนี้(26 พ.ย.) ร.ต.ท.พงษ์ วงศ์ประเสริฐดี พงส.(สบ 1) สภ.เมืองระยอง
รับแจ้งคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงใส่บ้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง เขต 1
พรรคประชาธิปัตย์ ที่บ้านเลขที่ 19 ถนนบางจาก ต.เชิงเนิน อ.เมือง
รีบไปตรวจสอบ พบเพียงปลอกกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอก
จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากนายสาธิต เดินทางมาร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่รัฐสภา กรุงเทพมหานคร โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ขับมาจอดหน้าบ้านหลังนี้ จากนั้นคนร้ายที่นั่งฝั่งซ้าย ได้ลดกระจก พร้อมชักอาวุธปืน ยิงใส่บ้านนายสาธิต 1 นัด ก่อนรีบขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้จากการตรวจสอบไม่พบว่าบ้านหลังนี้ได้รับความเสียหาย และไม่มีคนเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากนายสาธิต เตรียมร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นการยิงข่มขู่ เพื่อหวังผลทางการเมือง อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสืบสวนอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากนายสาธิต เดินทางมาร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่รัฐสภา กรุงเทพมหานคร โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ขับมาจอดหน้าบ้านหลังนี้ จากนั้นคนร้ายที่นั่งฝั่งซ้าย ได้ลดกระจก พร้อมชักอาวุธปืน ยิงใส่บ้านนายสาธิต 1 นัด ก่อนรีบขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้จากการตรวจสอบไม่พบว่าบ้านหลังนี้ได้รับความเสียหาย และไม่มีคนเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากนายสาธิต เตรียมร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นการยิงข่มขู่ เพื่อหวังผลทางการเมือง อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสืบสวนอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ไฟไหม้โรงงานฝึกหัดอาชีพคนพิการเยอรมัน ในเมืองเล็กๆ
ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให่้ผู้พิการถูกไฟคลอกเสียชีวิตอย่างน้อย 14
ศพ บาดเจ็บอีก 7 ราย
วันนี้ (26 พ.ย.) สำนักข่าวเอเอฟพีและเอเอฟพีรายงานจากกรุงเบอร์ลิน
ประเทศเยอรมนี ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานฝึกหัดอาชีพสำหรับคนพิการ
ในเมืองติติเซ-นอยสตัดต์ เมืองเล็กๆ ใกล้เมืองไฟร์บวร์ก ในเขตแบล็ค ฟอเรสต์
ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี ในวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14
ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 7 คน โดยสำนักข่าวท้องถิ่น ดีพีเอ ของเยอรมนี
รายงานว่า เพลิงเริ่มปะทุเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (20.00
น. ตามเวลาในประเทศไทย) แต่กว่าเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงจะดับไฟได้จนสงบ
ก็ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่จากกการเปิดเผยของพยานรายหนึ่ง ระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังในห้องเก็บของ ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้ลามไปยังห้องฝึกงาน และอาคารที่พักของผู้พิการ ซึ่งมีทั้งพิการทางร่างกายและสมองประมาณ 120 คน และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า มีสารเคมีในห้องฝึกอาชีพหรือไม่ เนื่องจากห้องดังกล่าวเป็นห้องสำหรับฝึกอาชีพช่างไม้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เผยอีกว่า หลังไฟลุกไหม้ลาม พนักงานประจำสถานที่และหน่วยกู้ภัย สามารถช่วยเหลือผู้พิการรายอื่นๆ รอดชีวิตได้เป็นจำนวนมาก.
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่จากกการเปิดเผยของพยานรายหนึ่ง ระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังในห้องเก็บของ ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้ลามไปยังห้องฝึกงาน และอาคารที่พักของผู้พิการ ซึ่งมีทั้งพิการทางร่างกายและสมองประมาณ 120 คน และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า มีสารเคมีในห้องฝึกอาชีพหรือไม่ เนื่องจากห้องดังกล่าวเป็นห้องสำหรับฝึกอาชีพช่างไม้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เผยอีกว่า หลังไฟลุกไหม้ลาม พนักงานประจำสถานที่และหน่วยกู้ภัย สามารถช่วยเหลือผู้พิการรายอื่นๆ รอดชีวิตได้เป็นจำนวนมาก.
ตำรวจคลองตัน โชว์ฝีมือ ไล่ตะครุบมือซัลโวเจ้ามือหวยปิงปอง อ้างสาเหตุมาจากผู้ตายมาติดพันภรรยาตนเอง
วันนี้( 26 พ.ย.) พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก. สน.คลองตัน
พ.ต.ท.อภิชาต ทองจันดี พ.ต.ต.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ สว.สส.
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวิรัตน์ ตั๊นเจริญ อายุ 34 ปี
ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงนายสุรศักดิ์ บุญเกิด อายุ 46 ปี
เจ้ามือหวยปิงปอง เสียชีวิตบริเวณที่กลับรถใต้สะพานพระโขนง
แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานภายในวัดชะโงก
ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา จากการสอบสวนนายวิรัตน์
ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว
โดยมีสาเหตุมาจากนายสุรศักดิ์ มาติดพันฉันท์ชู้สาวกับภรรยาของตนเอง
อีกทั้งสืบทราบมาว่าภรรยาถูกนายสุรศักดิ์บังคับข่มขู่ให้ไปหลับนอนด้วย
ยิ่งทำให้เกิดความแค้น จึงได้วางแผนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.สิทธิภาพ กล่าวว่า ผู้ต้องหามีประวัติเคยถูกคุมขัง10 ปี ที่เรือนจำ จ.ฉะเชิงเทรา ในคดีค้ายาเสพติด ก่อนพ้นโทษออกมาได้เมื่อประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมา และทราบเรื่องที่ผู้ตายแอบมีสัมพันธ์กับภรรยา จึงโกรธแค้น และดักซุ่มก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจะได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สิทธิภาพ กล่าวว่า ผู้ต้องหามีประวัติเคยถูกคุมขัง10 ปี ที่เรือนจำ จ.ฉะเชิงเทรา ในคดีค้ายาเสพติด ก่อนพ้นโทษออกมาได้เมื่อประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมา และทราบเรื่องที่ผู้ตายแอบมีสัมพันธ์กับภรรยา จึงโกรธแค้น และดักซุ่มก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจะได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
