วันนี้ (12 มิ.ย.) พ.ต.ท.มงคล พรมโสภา พงส.(สบ2) สน.สุทธิสาร
นำตัวนายราชันหรือหมู ธีรกิจนุกูล อายุ 49 ปี
ผู้ต้องหาที่นำสารเคมีสาดใส่คนเดินถนนย่านลาดพร้าว สุทธิสาร และสะพานควาย
มาสอบปากคำเพิ่มเติม ภายหลัง พ.ต.ท.ธงชนะ หาญกิตติกาญจนา
รองผกก.สส.สน.สุทธิสาร กล่าวว่า สั่งให้พนักงานสอบสวน
สน.สุทธิสารนำตัวนายราชันส่งฟ้องอัยการศาลแขวงพระนครเหนือ
ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บและข้อหาเสพยาเสพติด
ซึ่งมีโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 4,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นนั้น ทางพนักงานสอบสวนต้องรอผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหาย จากทางแพทย์โรงพยาบาลเปาโล ว่าผลการตรวจหาสารเคมี เป็นชนิดใดและมีผลกับผู้เสียหายมาน้อยขนาดไหน ถ้ามีผลต่อผู้เสียหายมากหรือร้ายแรง ทางพนักงานสอบสวนจะเพิ่มข้อหาเป็นทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ สาหัส ทั้งนี้เมื่อวาน(11 มิ.ย.)ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานจิตแพทย์จากสถาบันกัลยาราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มาตรวจสอบและสอบถามอาการนายราชัน ซึ่งหลังตรวจสอบ ทางจิตแพทย์ระบุว่านายราชันไม่ได้อาการทางประสาทแต่อย่างใด สำหรับสาเหตุที่นายราชันนำสารเคมีไปไล่สาดชาวบ้าน น่าจะมาจากผลข้างเคียงของการเสพยาเสพติดติดต่อกัน 5-6 ปี
ด้าน พ.ต.ท.เสน่ห์ วันทอง สว.สส.สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.สุทธิสาร กำลังจับกุมตัวและค้นห้องพักนายราชัน ในซอยอินทามาระ39 อยู่นั้น นายเอก ธีรกิจนุกุล อายุ 27 ปี บุตรชายของนายราชันเดินเข้ามาที่ห้องพักพอดี ท่าทางมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นร่างกาย พบยาไอซ์ 2 ถุง น้ำหนัก 1.87 กรัม จึงควบคุมตัวมาพร้อมกันเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบสวนนายเอกให้การรับสารภาพว่านำยาไอซ์มาส่งให้นายราชัน ผู้เป็นพ่อเสพ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อหาครอบครองยาไอซ์เพื่อจำหน่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่นายราชันและนายเอกถูกควบคุมตัวอยู่นั้น นางบัวลอย เหลือสุข อายุ 46 ปี ภรรยาของนายราชัน มารดาของนายเอกได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมกับลูกสะใภ้และหลานชาย โดยนางบัวลอย เปิดเผยว่า ได้เลิกรากับนายราชันมาประมาณ 5 ปีแล้ว หลังจากนั้นก็ติดต่อเป็นบางครั้ง กระทั่งมาทราบข่าวว่าถูกจับกุม เพราะน้ำสารเคมีไปไล่สาดชาวบ้านจนเป็นข่าวดัง ซึ่งหลังจากแยกทางกับอดีตสามีก็ไม่ได้ติดต่อกัน จึงไม่ทราบอะไรมากนัก
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.พนักงานสอบสวนควบคุมตัวนายเอก ธีรกิจนุกุล อายุ 27 ปี บุตรชายของนายราชัน ที่ถูกจับกุมข้อหาครอบครองยาไอซ์เพื่อจำหน่าย ไปส่งฝากขังศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเอกไปส่งศาลแล้ว นางบัวลอย ผู้เป็นแม่ก็เดินทางกลับไปพร้อมกับลูกสะใภ้และหลาน โดยไม่ได้พูดจากับนายราชันแต่อย่างใด
จนกระทั่ง เวลา 15.00 น. พ.ต.ท.มงคล พรมโสภา พงส.(สบ2) สน.สุทธิสาร ควบคุมตัวนายราชันหรือหมู ธีรกิจนุกูล อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาที่นำสารเคมีสาดใส่คนเดินถนน ไปยังศาลแขวงพระนครเหนือโดยพนักงานสอบสวนได้นำคำร้องฟื้นฟูแนบในสำนวนการสอบ สวนคดีทำร้ายร่างกาย ส่งให้ศาลพิจารณา เพราะในทางกฎหมายระบุว่า ถ้าผู้ต้องหา ถูกแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ต้องเข้ารับการฟื้นฟู ศาลแขวงพระนครเหนือ พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นำตัวผู้ต้องหาไปรับการฟื้นฟูที่เรือนจำคลอง เปรมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่พนักงานสอบสวนคุมตัวนายราชันมายื่นคำร้องขอส่งตัวไปบำบัด รักษา นายราชันมีสีหน้าเรียบเฉย พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนขอยอมรับผิดที่ได้สาดน้ำล้างห้องน้ำใส่คน 30 ราย ในระหว่างนี้หากศาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตนไปบำบัดรักษาก็ยินดี หลังจากนี้ก็พร้อมที่จะปรับตัวเป็นคนดี อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งทราบว่านายเอก ธีรกิจนุกุล อายุ 27 ปี บุตรชาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งตนมีลูกอีก 2 คนกำลังเรียนอยู่ จึงกังวลเรื่องระยะเวลาที่ต้องอยู่เรือนจำนานเท่าไหร่ โดยในวันนี้ภรรยาตนก็ได้มายื่นคำร้องขอประกันตัว แต่ก็ไม่ได้เจอกัน.
สำหรับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นนั้น ทางพนักงานสอบสวนต้องรอผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหาย จากทางแพทย์โรงพยาบาลเปาโล ว่าผลการตรวจหาสารเคมี เป็นชนิดใดและมีผลกับผู้เสียหายมาน้อยขนาดไหน ถ้ามีผลต่อผู้เสียหายมากหรือร้ายแรง ทางพนักงานสอบสวนจะเพิ่มข้อหาเป็นทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ สาหัส ทั้งนี้เมื่อวาน(11 มิ.ย.)ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานจิตแพทย์จากสถาบันกัลยาราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มาตรวจสอบและสอบถามอาการนายราชัน ซึ่งหลังตรวจสอบ ทางจิตแพทย์ระบุว่านายราชันไม่ได้อาการทางประสาทแต่อย่างใด สำหรับสาเหตุที่นายราชันนำสารเคมีไปไล่สาดชาวบ้าน น่าจะมาจากผลข้างเคียงของการเสพยาเสพติดติดต่อกัน 5-6 ปี
ด้าน พ.ต.ท.เสน่ห์ วันทอง สว.สส.สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.สุทธิสาร กำลังจับกุมตัวและค้นห้องพักนายราชัน ในซอยอินทามาระ39 อยู่นั้น นายเอก ธีรกิจนุกุล อายุ 27 ปี บุตรชายของนายราชันเดินเข้ามาที่ห้องพักพอดี ท่าทางมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นร่างกาย พบยาไอซ์ 2 ถุง น้ำหนัก 1.87 กรัม จึงควบคุมตัวมาพร้อมกันเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบสวนนายเอกให้การรับสารภาพว่านำยาไอซ์มาส่งให้นายราชัน ผู้เป็นพ่อเสพ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อหาครอบครองยาไอซ์เพื่อจำหน่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่นายราชันและนายเอกถูกควบคุมตัวอยู่นั้น นางบัวลอย เหลือสุข อายุ 46 ปี ภรรยาของนายราชัน มารดาของนายเอกได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมกับลูกสะใภ้และหลานชาย โดยนางบัวลอย เปิดเผยว่า ได้เลิกรากับนายราชันมาประมาณ 5 ปีแล้ว หลังจากนั้นก็ติดต่อเป็นบางครั้ง กระทั่งมาทราบข่าวว่าถูกจับกุม เพราะน้ำสารเคมีไปไล่สาดชาวบ้านจนเป็นข่าวดัง ซึ่งหลังจากแยกทางกับอดีตสามีก็ไม่ได้ติดต่อกัน จึงไม่ทราบอะไรมากนัก
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.พนักงานสอบสวนควบคุมตัวนายเอก ธีรกิจนุกุล อายุ 27 ปี บุตรชายของนายราชัน ที่ถูกจับกุมข้อหาครอบครองยาไอซ์เพื่อจำหน่าย ไปส่งฝากขังศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเอกไปส่งศาลแล้ว นางบัวลอย ผู้เป็นแม่ก็เดินทางกลับไปพร้อมกับลูกสะใภ้และหลาน โดยไม่ได้พูดจากับนายราชันแต่อย่างใด
จนกระทั่ง เวลา 15.00 น. พ.ต.ท.มงคล พรมโสภา พงส.(สบ2) สน.สุทธิสาร ควบคุมตัวนายราชันหรือหมู ธีรกิจนุกูล อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาที่นำสารเคมีสาดใส่คนเดินถนน ไปยังศาลแขวงพระนครเหนือโดยพนักงานสอบสวนได้นำคำร้องฟื้นฟูแนบในสำนวนการสอบ สวนคดีทำร้ายร่างกาย ส่งให้ศาลพิจารณา เพราะในทางกฎหมายระบุว่า ถ้าผู้ต้องหา ถูกแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ต้องเข้ารับการฟื้นฟู ศาลแขวงพระนครเหนือ พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นำตัวผู้ต้องหาไปรับการฟื้นฟูที่เรือนจำคลอง เปรมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่พนักงานสอบสวนคุมตัวนายราชันมายื่นคำร้องขอส่งตัวไปบำบัด รักษา นายราชันมีสีหน้าเรียบเฉย พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนขอยอมรับผิดที่ได้สาดน้ำล้างห้องน้ำใส่คน 30 ราย ในระหว่างนี้หากศาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตนไปบำบัดรักษาก็ยินดี หลังจากนี้ก็พร้อมที่จะปรับตัวเป็นคนดี อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งทราบว่านายเอก ธีรกิจนุกุล อายุ 27 ปี บุตรชาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งตนมีลูกอีก 2 คนกำลังเรียนอยู่ จึงกังวลเรื่องระยะเวลาที่ต้องอยู่เรือนจำนานเท่าไหร่ โดยในวันนี้ภรรยาตนก็ได้มายื่นคำร้องขอประกันตัว แต่ก็ไม่ได้เจอกัน.