วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

"ยู่ยี่" อ่วม! อัยการสั่งตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่ม นำเข้าโคเคนโทษหนักถึงจำคุกตลอดชีวิต


ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (3 ม.ค.) นางชัชชญา เควสต้า รามอส หรือ “ยู่ยี่” อลิสา อินทุสมิต   วัย 40 ปี อดีตนักร้องนักแสดง และนางแบบชื่อดัง ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่ พ.ย.7260/ 55 ฐานมีโคเคน ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2  จำนวน 5 มิลลิกรัม  ไว้ในครอบครองฝ่าฝืนกฎหมาย  หลังจากถูกจับกุมได้ที่สนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 55 ขณะเดินทางกลับจากประเทศเวียดนาม    ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาล ซึ่งอยู่ระหว่างการฝากขังครั้งที่ 5 ของพนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 1 เป็นเวลา 12 วัน ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 55 -10 ม.ค. 56  และใช้เวลาประมาณ 30  นาที โดยศาลนัดอดีตนักร้องชื่อดังให้มารายงานตัวอีกครั้งวันที่ 11 ม.ค. นี้   ซึ่งเป็นการฝากขังครั้งที่ 6  จากนั้น "ยู่ยี่" ได้เดินทางกลับพร้อมสามีทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ และพยายามจะหลบผู้สื่อข่าวและช่างภาพที่มารอทำข่าว

สำหรับคำร้องฝากขังครั้งที่ 5  ของพนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 1     ที่ยื่นต่อศาลเมื่อวันที่  28 ธ.ค. 55 นั้นระบุว่า  หลังจากได้รับสำนวนการสอบสวน จากพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง   พนักงานอัยการ ผู้ร้อง ได้ตรวจพิจารณาสำนวนอย่างละเอียดแล้วเห็นว่า การสอบสวนยังไม่สิ้นกระแสความ เนื่องจาก พฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน นำเข้ามาในราชอาณาจักร และมียาเสพติดให้โทษประเภท  2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4,7,16,17,68 วรรค 2,6 และ 9  มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 20 ปี ถึงจำคุกตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท   ผู้ร้องจึงขอให้พนักงานสอบสวน สน .ดอนเมือง ไปสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา แต่ขณะนี้ผู้ร้องยังไม่ได้รับผลสอบเพิ่มเติม จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้อีก 12วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.  -  10 ม.ค. นี้ ด้วย ศาลพิจารณาแล้ว จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังได้.

หมอจีนคิดวิธีใช้ไอเย็นรักษาโรคมะเร็ง สนใจติดต่อได้ไม่เสียค่าใช้จ่าย


วันนี้ (3 ม.ค.) ที่โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ มร.เผิงเสี่ยวชื่อ หัวหน้าคณะแพทย์รพ.มะเร็งสมัยใหม่กวางโจว สาธารณะรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต”ไทย-จีน”เป็นปีที่ 37 จึงจัดทำโครงการแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงวิชาการด้านการแพทย์ 2 ประเทศ โดยเฉพาะการรักษามะเร็ง เพื่อยกระดับความร่วมมือทางการแพทย์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยคณะแพทย์รพ.มะเร็งสมัยใหม่กวางโจว  ได้ค้นพบวิธีการรักษาแบบใหม่ด้วยการผสมผสานการแพทย์จีนเข้ากับการแพทย์แผน ปัจจุบัน โดยใช้ความเย็นเข้ามาช่วยลดการแพร่กระจายของเซลมะเร็ง โดยการฝังแร่ไอโอดีนกัมมันตภาพ 125 รวมถึงการใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ทำให้เกิดบาดแผลเล็ก สามารถยับยั้งไม่ให้เนื้องอกเติบโตและลุกลามจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ จากสถิติผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาล้วนแต่มีสุขภาพดีขึ้น หากรักษาและดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด โอกาสที่จะรักษาเซลมะเร็งให้หายขาดมีความเป็นไปได้สูง

มร.เผิงเสี่ยวชื่อ กล่าวต่อว่า นอกจากการเข้าร่วมประชุมเชิงวิชาการด้านการแพทย์แล้ว จะเข้าเยี่ยมเยียนผู้ป่วยในประเทศไทยที่เคยเข้ารับการรักษาอาการป่วยโรค มะเร็งกับทางรพ.ด้วย  โดยรพ.เราได้รับการยกย่องว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการพักฟื้น เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เอื้อต่อการรักษาพยาบาลและพักฟื้นจากอาการเจ็บ ป่วย มีภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกสมุนไพร สำหรับผลิตยารักษามะเร็ง ทำให้ชาวต่างชาติทั่วโลกเดินทางมารักษา โดยรพ.มีสาขากว่า 100 แห่งในสาธารณะรัฐประชาชนจีน
ทั้งนี้ระหว่างอยู่ในเมืองไทยยินดีให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้ป่วยโรค มะเร็งและผู้สนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่รพ. มะเร็งสมัยใหม่กวางโจว สำนักงานประเทศไทย เลขที่ 90 อาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์ ชั้น 5 ห้อง อาร์5128-5129 ถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง หรือโทรมานัดหมายล่วงหน้าได้ที่ 082-799-2888 หรือ 02-645-2799

"ปชป."ชี้ปี 56 เผาจริง ชี้วิกฤติเศรษฐกิจพ่นพิษ ยอดตกงานพุ่ง 4 แสนคน


วันนี้(3 ม.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์  น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปี56 จะเป็นปีที่ประชาชนคงไม่สามารถรอความหวังจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และยังถือเป็นปีเผาจริง ไม่ใช่การเผาหลอกเหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากนโยบายประชานิยม 16 นโยบายกำลังจะออกดอกผลที่จะส่อเป็นวิกฤตในปีนี้ อีกทั้งข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) นักวิชาการ และส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง ก็ระบุว่ากลางปี56 จะเป็นช่วงตึงเครียดมากที่สุด โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย.นี้ ประชาชนจะทยอยเกิดปัญหา
นอกจากนี้ ข้อมูลการประมาณการเบื้องต้นของกระทรวงแรงงาน ยังพบว่าจากภาวะเศรษฐกิจ นโยบายการขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท และกรณีที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จะทำให้ปีนี้มีผู้ว่างงาน ประมาณ 350,000-400,000 คน นอกจากนี้ ขณะนี้ในหลายจังหวัด อาทิ สิงห์บุรี ขอนแก่น ศรีสะเกษ พะเยา เป็นต้น โรงงานต่างทยอยปิดกิจการหรือย้ายฐานการผลิตออกไป ส่งผลให้แรงงานจำนวนมากถูกเลิกจ้าง โดยที่ยังไม่มีทางออกและยังไม่มีอาชีพอื่นรองรับ ขณะที่กระทรวงแรงงานแทบจะไม่มีมาตรการมารองรับ หรือเยียวยาที่มีอยู่ก็ทำได้ค่อนข้างล่าช้า ยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าไม่มีทางออก
น.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีโรงงานหลายแห่งกระทำผิดเงื่อนไขของกระทรวงแรงงานด้วยการนำเงินใน ส่วนที่เป็นสวัสดิการของพนักงาน เช่น ค่าทำงานล่วงเวลา(โอที) ค่ารถ ค่าอาหารกลางวัน การจัดรถรับ-ส่งพนักงาน เป็นต้น ไปรวมกับเงินค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท กลายเป็นพนักงานไม่ได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้นจริงๆตามที่รัฐบาลโฆษณาไว้ และต้องเสียสวัสดิการเหล่านี้ไปด้วย จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล และกระทรวงแรงงานเฝ้าติดตามความเป็นไปและผลกระทบต่อโรงงานและผู้ใช้แรงงาน รวมถึงเร่งหามาตรการเสริมเพื่อการเยียวยาหรือรองรับช่วยเหลือแรงงานและผู้ ที่ถูกเลิกจ้าง
อีกทั้งจากข้อมูลของ สอท.ระบุว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ ธุรกิจแบบเอสเอ็มอีจะทยอยเป็นหนี้จนนำไปสู่การปิดกิจการ ตนจึงขอให้นายกรัฐมนตรีหยุดการดำเนินการในเรื่องอื่น เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น ออกไปก่อนแล้วจัดตั้งวอร์รูมเพื่อหามาตรการรองรับปัญหาเหล่านี้ ซึ่งนอกจากนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายงานแก่รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจแล้ว ก็ควรหารือกับภาคเอกชนและสมาคมธุรกิจต่างๆในเรื่องนี้ อีกทั้งควรนำข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบหรือวิเคราะห์โดยคณะ กรรมาธิการ(กมธ.)ของสภาผู้แทนราษฎร ที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจ ไปใช้ในการแก้ปัญหา
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลยังปล่อยให้มีการขึ้นค่าไฟฟ้าทันทีที่เปิดปีใหม่ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการค่าไฟฟ้าฟรี อีกทั้งค่าน้ำมันก็พุ่งสูงขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ รวมถึงราคาสินค้าสูงขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการอ้างว่าเป็นเพราะค่าขนส่งและราคาน้ำมันสูงขึ้น ประกอบการขึ้นค่าจ้างแรงงาน ดังนั้นขณะนี้ไม่ใช่เป็นเพียง“ของแพงทั้งแผ่นดิน” แต่ปี2556 จะเกิดวิกฤต“ของแพงจนแทบไม่มีจะกิน” ตนจึงขอให้รัฐบาลต้องมีมาตรการมาแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าในช่วงครึ่งปีแรก เราคงคาดหวังความสามารถของรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจไม่ได้ จึงขอให้ประชาชนต้องประหยัดมัธยัสถ์ เก็บออม และยึดหลักการใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว.

ผวา "เบบี้คริสตัล" ของเล่นอันตรายระบาด


วันนี้ (3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางตรวจสอบยังโรงเรียนบ้านสวนอุดม  ต.บ้านสวน  อ.เมือง จ.ชลบุรี  หลังรับแจ้งจากคณะครูและผู้ปกครองว่ามีพ่อค้าแม่ค้าร้านหาบเร่แผงลอยนำของ เล่นชื่อ "เบบี้คริสตัล" ซึ่งมีลักษณะยืดพองตัวได้เมื่ออยู่ในน้ำ เหมือนของเล่นตัวดูดน้ำในอดีต  มาขายบริเวณหน้าโรงเรียน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียนจำนวนมาก เกรงว่าเด็กจะนำเข้าปากและกลืนลงคอโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เป็นอันตรายถึง ชีวิต จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบของเล่นชนิดดังกล่าวกำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักเรียน
สำหรับของเล่นชนิดดังกล่าวมีชื่อเรียกว่าเบบี้คริสตัล ลักษณะเป็นเม็ดเล็กขนาดเท่าหัวไม้ขีด  มี 7 สี  ประกอบด้วยสีแดงขาว  เขียว  ส้ม  ฟ้า  ม่วง  และเหลือง  บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ไม่มีฉลากแสดงวิธีการเล่นภาษาไทย และไม่มีฉลากการได้รับอนุญาตผลิตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อนำไปแช่น้ำประมาณ 4 ชั่วโมง จะมีขนาดโตขึ้นเท่าของเล่นลูกเด้งที่จำหน่ายตามท้องตลาด และหากแช่น้ำนานกว่า 4 ชั่วโมงก็จะโตขึ้นเรื่อย ๆ จนเท่าลูกปิงปอง สีสันสวยงามเป็นประกายเหมือนคริสตัล ซึ่งคุณสมบัติข้างต้นส่งผลให้คณะครูและผู้ปกครองเกิดความวิตกเกรงว่านัก เรียนจะเผลอนำเข้าปาก  หรืออาจพลังพลาดเข้าจมูก แล้วไปพองตัวในท้อง อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายหรือถึงแก่ชีวิตได้
ทั้งนี้ นางวรัญญา  ธีรธรรมากร ผอ.โรงเรียนบ้านสวนอุดมวิทยา  กล่าวว่า ของเล่นชนิดนี้ได้รับความนิยมมาเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์แล้ว
และมีแนวโน้มจะได้รับความนิยมไปทั่วจ.ชลบุรี สำหรับทางโรงเรียนเมื่อพบว่าของเล่นดังกล่าวอาจส่งผลเสียหรือเกิดอันตรายแก่ นักเรียนก็ได้กำชับคุณครูให้เข้มงวดตรวจค้นและยึด พร้อมทำความเข้าใจกับนักเรียนถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้น และอยากประสานให้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบข้อมูลและมีมาตรการ จัดการกับของเล่นดังกล่าวโดยเร็วเนื่องจากขณะนี้พบว่าเด็กที่เล่นเป็นเด็ก ชั้นอนุบาลถึงประถมต้นซึ่งเป็นเด็กเล็กและมีโอกาสกินกลืนของเล่นดังกล่าวได้ ง่าย.

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources