วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ดูหนังออนไลน์ Resident Evil Retribution ผีชีวะ 5 สงครามไวรัสล้างนรก [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Resident Evil Retribution ผีชีวะ 5 สงครามไวรัสล้างนรก [HD Master]



ลุ้นโค้งสุดท้าย "ซุปเปอร์บอร์ด กสทช." อีกไม่นานรู้แน่



วันนี้ ( 18 ธ.ค.) นายอนุรักษ์ นิยมเวช ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความพฤติกรรมและพฤติกรรมทางจริยธรรม บุคคลที่ผ่านการคัดเลือกเป็นกรรมการติดตามและประเมินผลงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือ ซุปเปอร์บอร์ด กสทช. เปิดเผยว่าในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ ทางกรรมาธิการฯ ได้เชิญบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกในรอบแรก จำนวน 10 คนมาชี้แจงถึงข้อร้องเรียนต่างๆ ในประเด็นที่มีผู้ร้องเรียนมา เบื้องต้นเกี่ยวกับคดีความที่มีการฟ้องร้อง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติต้องห้ามของบุคคล โดยเป็นคดีที่ฟ้องร้องทางแพ่งเท่านั้น ทั้งนี้ในการซักถามจะไม่เปิดให้สื่อมวลชนหรือ ส.ว.เข้ารับฟังด้วย

นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางกรรมาธิการฯ ได้กำหนดให้ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นกรรมการติดตามและประเมินผลงาน ของกสทช. ในรอบแรก ทั้ง 10 คน มาแสดงวิสัยทัศน์ต่อ กรรมาธิการฯ รวมถึง ส.ว. และ สื่อมวลชนที่มาสังเกตการณ์ ในวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 10.00 น. หลังจากนั้นประมาณวันที่ 7 ม.ค. หรือ วันที่ 8 ม.ค. จะเป็นการประชุมวุฒิสภาเพื่อลงมติเลือกกรรมการติดตามและประเมินผลงาน กสทช. ในรอบสุดท้าย เพื่อคัดเลือกให้เหลือกรรมการเพื่อทำหน้าที่จำนวน 5 คน.

ครม.รับทราบผลสำรวจความต้องการประชาชน ปี 56


วันนี้ ( 18 ธ.ค.) นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติรับทราบผลการสำรวจความต้องการของประชาชนในปี 2556 ตามที่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ(ไอซีที) โดยกระทรวงไอซีทีรายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจความต้องการของประชาชนในปี 2556 ซึ่งได้ดำเนินการสำรวจมาทุกปี เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนได้สะท้อนปัญหาและความต้องการให้รัฐบาลและหน่วย งานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยข้อมูลที่จะได้เป็นประโยชน์ในการวางแผน และกำหนดนโยบายที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง โดยทำการสำรวจทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีครัวเรือนที่ ถูกเลือกเป็นตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 23,120 ราย โดยเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 1-12 ต.ค. 2555 ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

นพ.ทศพร กล่าวต่อว่า ในรอบปี พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมา ประชาชนระบุว่า ชุมชน / หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน 5 อันดับแรก คือ ปัญหายาเสพติด  น้ำท่วม   ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หนี้สิน  และการจราจรติดขัด   โดยภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติดมากที่สุดร้อยละ 35.3 และ 34.3 ตามลำดับ ขณะที่ปัญหาผลผลิตการเกษตรราคาตกต่ำพบมากที่สุดในภาคใต้ และภาคเหนือ   ส่วนปัญหาหนี้สินพบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด

ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการในปี พ.ศ. 2556 ใน 5 อันดับแรก คือ การแก้ปัญหาของแพง  การแก้ปัญหาหนี้สิน  การแก้ปัญหายาเสพติด   การแก้ปัญหาการจราจรติดขัด และการแก้ปัญหาความยากจน  โดยในทุกภาคประชาชนเกือบครึ่งต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาของแพงมากกว่า เรื่องอื่น 

นอกจากนี้เรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ในปีพ.ศ. 2556 ใน 5 อันดับแรก คือ การแก้ปัญหายาเสพติด  รองลงมา ได้แก่ การแก้ปัญหาน้ำท่วม  การแก้ปัญหาหนี้สิน  การสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  และการแก้ปัญหาการจราจรติดขัด โดยประชาชนในภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในการแก้ปัญหายาเสพติดมาก ที่สุด ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการแก้ปัญหาหนี้สินมากกว่าเรื่อง อื่น ส่วนภาคใต้ คือ การประกันราคาผลผลิตการเกษตรมากที่สุด

อย่างไรก็ตามประชาชนเกือบครึ่ง ระบุว่ามีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการช่วยเหลือ/ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน / พัฒนาประเทศให้ดีขึ้น โดยประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน / พัฒนาประเทศให้ดีขึ้นสูงกว่าภาคอื่น (ร้อยละ 70.1) รองลงมาได้แก่ ภาคเหนือ (ร้อยละ 62.5) ภาคกลาง (ร้อยละ 58.6) และกรุงเทพมหานคร (ร้อยละ 49.1) ส่วนภาคใต้มีความเชื่อมั่นน้อยที่สุด คือ ร้อยละ 40.5 ทั้งนี้อาจเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้

"สดศรี"ชี้ช่องเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญได้แม้ประชามติไม่ผ่าน



วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง และการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงรัฐบาลเตรียมจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ส่วนตัวเห็นว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 165 ให้การทำประชามติเป็นอำนาจของ ครม.และเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ถือเป็นเรื่องที่อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติและประชาชน โดยรวม ตรงตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดให้สามารถทำประชามติได้ จึงอยู่ที่ว่า รัฐบาลจะให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อมีข้อยุติ หรือเพื่อให้คำปรึกษาแก่ครม. เพราะทั้ง 2 กรณีจะใช้จำนวนเสียงจำนวนเสียงของผู้มีสิทธิออกเสียงแตกต่างกัน โดยหากเป็นการ ทำประชามติออกเสียงเพื่อให้มีข้อยุตินั้น ต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมาก ของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงใน เรื่องที่ทำประชามติ และถ้าผลของประชามติในกรณีนี้ออกมาอย่างไรจะผูกพันให้ครม.ต้องปฏิบัติตาม แต่ถ้าเป็นการทำประชามติเพื่อขอคำปรึกษาแก่ครม.ให้ถือเสียงข้างมาก ของผู้มาออกเสียงในการให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในเรื่องที่จะจัดทำ ประชามติ ซึ่งในกรณีนี้ผลที่ออกมาครม.จะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้
          
“กกต.คงจะไปให้คำแนะนำ เป็นพี่เลี้ยงหรือเป็นที่ปรึกษาอะไรกับรัฐบาลไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลตั้งใจจะทำแบบไหน  ตามกฎหมาย กกต.เป็นเพียงผู้รับจ้าง แต่ก็เห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน อีกทั้งเป็นกฎหมายสูงสุดเมื่อจะมีการแก้ไขการจะทำประชามติถามประชาชนก็ควร เป็นการทำในลักษณะหาข้อยุติ มากกว่าที่จะเป็นเรื่องของการขอคำปรึกษา เพราะถ้าจะขอคำปรึกษาควรเป็นประเด็นถามประชาชนว่าควรให้มีการโหวดแก้ไขรัฐ ธรรมนูญในวาระ 3 หรือไม่” นางสดศรี กล่าว

เมื่อถามว่า การทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญของครม.เสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ที่ระบุว่า ให้ ครม.ทำประชามติได้เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารประเทศ เช่น สมควรสร้างแก่งเสือเต้นหรือไม่  นางสดศรี กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองไม่ปกติรัฐบาลถูกฟ้องได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ถ้าไปดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ระบุว่าหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญสมควรที่จะต้องถามประชาชนเสียก่อน ขณะเดียวกันกฎหมายก็เขียนให้อำนาจ การทำประชามติเป็นของรัฐบาล แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของรัฐสภา ดังนั้นจึงต้องแยกกัน ถ้าหากรัฐบาลทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ได้ข้อยุติว่า ไม่สมควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้หมายความว่าสภาจะต้องหยุดโหวดวาระ 3 เพราะเป็นคนละส่วนกัน แต่หากผลการทำประชามติออกมา ประชาชนเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเป็นกำแพงให้รัฐบาลพิงเพื่อเดิน หน้าโหวดการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ต่อไป

"กรณ์"อาจเป็นม้ามืดชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.



วันนี้ ( 18 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา  10.30 น. ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน ได้มีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งนอกจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ ปัจจุบันแล้ว ยังมีอีก 3 รายชื่อ คือ 1. นายประกอบ จิรกิติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอตัวเองเข้ามา ซึ่งที่ประชุมได้เชิญให้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ ในเวลา 17.00 น. วันเดียวกันนี้  2.นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เสนอตัวเองเข้ามาเช่นกัน   โดยที่ประชุมจะเชิญมาแสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 21 ธ.ค. หรือวันที่ 24 ธ.ค.นี้ และ 3.นายอภิชัย เตชะอุบล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่นายอลงกรณ์ เป็นผู้เสนอชื่อ

รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้ที่ประชุมได้เชิญ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เข้าแสดงวิสัยทัศน์ และนโยบายต่างๆ ในช่วงเช้า โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้นำผลการสำรวจความเห็นของคน กทม. เข้ายืนยันต่อประชุมถึงคะแนนนิยม ที่จะทำให้ได้รับชัยชนะ หากพรรคอนุมัติให้ลงสมัคร ซึ่งโพลดังกล่าวทำขึ้นในช่วงวันที่ 12-17 ธ.ค. ที่ผ่านมา  โดยเทียบระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส พบว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ 36  เปอร์เซ็นต์ ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ 35  เปอร์เซ็นต์ ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ 17เปอร์เซ็นต์ ส่วนโพลที่ทำเทียบระหว่าง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. พบว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีคำแนนนิยมอยู่ที่ 35เปอร์เซ็นต์ พล.ต.อ.พงศพัศ อยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์  และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อยู่ที่ 17 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แสดงความมั่นใจว่า จะได้รับการเลือกตั้ง เพราะสามารถสานงานเดิมต่อได้ทันที และเตรียมนโยบายการหาเสียงใหม่เอาไว้แล้ว  อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้รุมซักถามอย่างเคร่งเครียด รวมถึงถามว่า หากพรรคไม่เลือกให้เป็นผู้สมัคร จะหันไปลงสมัครในนามอิสระหรือไม่ ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ตอบว่าไม่ เพราะเป็นคนไม่ทิ้งบ้านหากบ้านไฟไหม้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยของคณะกรรมการคัดเลือกเบื้องต้น  เห็นตรงกันว่าอยากได้ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. มีความใกล้ชิดกับพรรค และสนามเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องเป็นสนามที่สามารถหวังผลการเลือกตั้งส.ส.ใน สมัยหน้าได้ ซึ่งหากประเมินคะแนนนิยมของพรรคจะพบว่า มีคะแนนนิยมคงที่มาโดยตลอดคือ อยู่ที่ 59 เปอร์เซ็นต์  ดังนั้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ตัวผู้สมัครจึงเป็นเพียงองค์ประกอบ หนึ่งเท่านั้น   และจากการดูรายชื่อผู้สมัครที่ 4 คนยังไม่มีใครตอบโจทย์นี้ได้เลย  ดังนั้นคณะกรรมการจึงได้มองไกลไปถึงบุคคลที่ 5 คือนายกรณ์  แม้ว่านายกรณ์ จะไม่เสนอตัวลงสมัคร แต่ก็ถือผู้ที่มีความเหมาะสมคนหนึ่ง ดังนั้นหลังจากที่คณะกรรมการรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์ของบุคคลทั้ง 4 แล้ว จะสรุปข้อดีข้อเสียของแต่ละคน เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริหารพรรคให้พิจารณาต่อไป โดยจะมีการสรุปในวันที่ 24 ธ.ค. และหากพิจารณาแล้วยังไม่มั่นใจใน 4 คน จะมีมติเสนอชื่อนายกรณ์ เข้าไปด้วย เพื่อให้ที่ประชุมกรรรมการบริหารพรรคพิจารณาในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ซึ่งนายกรณ์ ไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะถือเป็นมติที่ประชุมแล้ว

รายงานจาก ส.ส.กทม. กลุ่ม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แจงว่า  ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้รับการคัดเลือก เนื่องจากได้มีการทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่ในพรรค ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายบัญญัติ  เอาไว้แล้ว แต่การที่คณะกรรมการคัดเลือกพยายามเสนอชื่อบุคคลอื่นมาแข่ง ถือเป็นเพียงเกมป่วนประสาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม ความจริงพรรคน่าจะเร่งให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อที่จะเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้ง เพราะ พล.ต.อ.พงศพัศ ก็ไม่ใช่คนไม่มีต้นทุนทางการเมือง และพรรคอย่ามั่นใจในคะแนนนิยมจนเกินไป จนคิดว่าส่งใครลงสมัครแล้วจะได้รับเลือกตั้ง

ไทย-จีนชื่นมื่น นายกฯปูพร้อมหนุนนักลงทุนจีนในไทย



วันนี้ ( 18 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. นายพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน นำนายเฝิง จั่วคู่ อุปนายกสมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งประชาชนจีน และคณะนักธุรกิจชาวจีน เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความสัมพันธ์ไทย-จีน มีความแน่นแฟ้นในทุกมิติ โดยได้ยกระดับความสัมพันธ์ไปสู่หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบ ด้าน และมีการแลกเปลี่ยนการเยือนมาโดยตลอด ทั้งในระดับผู้นำ และนักธุรกิจ ซึ่งอุปนายกสมาคมฯ ได้กล่าวว่าการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างสูง และสร้างความประทับใจให้กับประชาชนจีนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้ชื่นชมนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ ที่แม้ว่าจะต้องเผชิญอุปสรรคต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ และอุทกภัย แต่ทำให้ไทยฝันฝ่าวิกฤตดังกล่าวได้สำเร็จ และยังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณรัฐบาลจีนที่ให้ความสำคัญกับประเทศไทยมาโดย ตลอด ในทุกครั้งที่ไทยประสบปัญหาจีนจะเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือเป็นลำดับแรกเสมอ โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่ไทยประสบปัญหาน้ำท่วม และหวังว่าการเดินทางเยือนไทยของคณะนักธุรกิจจีนครั้งนี้จะเปิดช่องทางการ ค้า การลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น และยืนยันว่ารัฐบาลไทยยินดีและพร้อมสนับสนุนนักลงทุนจีนที่สนใจเข้ามาลงทุน ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุนระหว่างกัน

กรมปกครองยันแก้ปัญหาบัตรประชาชนได้



วันนี้ ( 18 ธ.ค.)  นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ ผอ.สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กล่าวถึงกรณีที่กทม.ระบุว่าต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนแบบชั่วคราว (บัตรเหลือง)ให้กับประชาชนไปก่อนเนื่องจากมีความล่าช้าจากกระทรวงมหาดไทย ที่ส่งมอบบัตรเปล่าสำหรับทำบัตรสมาร์ทการ์ดไม่ทัน ว่า ขณะนี้กระบวนการผลิตบัตรประชาชนของกรมการปกครอง ยังสามารถส่งมอบไปยังสำนักงานเขตได้ตามปกติ ไม่ได้เกิดปัญหาจากการจัดส่งบัตรของบริษัทเอกชนตามที่นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.)ระบุ  มีเพียงแต่ปัญหาบัตรประชาชนที่อยู่ในสต็อกของกรมการปกครองค่อนข้างตึงมือ เนื่องจากเดือน พ.ย.-ธ.ค. ที่ผ่านมา มีการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นบ่อยครั้ง อีกทั้งมีการจัดทำบัตรประชาชนสำหรับเด็ก ทำให้กระบวนการผลิตบัตรประชาชน ที่บริษัทคู่สัญญาเอกชนจะส่งให้ 8-9 แสนใบต่อเดือนไม่เพียงพอ โดยบางพื้นที่ใช้บัตรจำนวนมากถึง 1ล้านใบต่อเดือน ทำให้ต้องนำบัตรจากบางสำนักงานเขต ไปเพิ่มในสำนักงานเขตที่ขาดแคลน ทั้งนี้ กรมการปกครอง ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยรับ-ส่งบัตรเพิ่มอยู่ตลอดเวลา โดยปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วง 3 สัปดาห์นี้เท่านั้น เพราะตั้งแต่เดือนม.ค. 2556 เป็นต้นไป บริษัทเอกชนจะสามารถนำบัตรประชาชนมาส่งได้ตามที่กำหนดไว้กว่า 1 ล้านใบ

“ยืนยันว่าไม่ขาด ทุกวันนี้ กทม.ได้บัตรประชาชนวันละประมาณ 1.3 หมื่นใบ และมีบางเขตที่มีจำนวนบัตรไม่เพียงพอเท่านั้น ซึ่งสำนักบริหารการทะเบียนได้แก้ปัญหาแล้ว ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่นำบัตรจากเขตข้างเคียงเข้าไปส่งในสำนักงานเขตที่ยัง ขาดแคลน และได้ตรวจสอบจำนวนบัตรประชาชนทุกวันว่ามีเขตใด ที่มีความเสี่ยงว่าจะมีจำนวนไม่เพียงพอบ้าง อย่างไรก็ตามจากตัวเลขบัตรที่กรมการปกครองมีอยู่ หากไม่เกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้น ก็น่าจะเพียงพอ และไม่จำเป็นต้องออกใบแทนบัตรประชาชน หรือบัตรเหลืองอย่างที่ปลัดกทม.ระบุ” นายธวัชชัยกล่าว

ผอ.สำนักบริหารการทะเบียนกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นผู้รับผิดชอบการจัดหาบัตรประชาชน ก่อนจะมีการโอนย้ายภารกิจกลับมาที่กรมการปกครอง เมื่อช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา โดยที่กรมการปกครองไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้ จึงได้มีการจัดหาบัตรประชาชนเพิ่มเติม ด้วยการจัดซื้อวิธีพิเศษเมื่อช่วงต้นปี 2555 ที่ผ่านมา ทำให้การจัดส่งบัตรอาจมีปัญหาฉุกละหุกบ้าง เนื่องจากการจัดซื้อวิธีพิเศษ ทำให้บริษัทเอกชนผู้ผลิตต้องกดราคาต่ำลงมา ซึ่งในปี 2556 สถานการณ์จะดีขึ้น เพราะมีการจัดซื้อในรูปแบบอีออคชั่นตามปกติแล้ว

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนบังคลาเทศ


วันนี้ ( 18 ธ.ค.) นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุม ครม.ถึงการเดินทางไปเยือนพม่าเมื่อวานนี้(17ธ.ค.) โดยมีคณะนักธุรกิจเดินทางไปด้วยและการทำงานของคณะทำงานชุดต่างๆก็มีความคืบ หน้าไปมากและไทยกับพม่าก็มีการเจรจากันค่อนข้างลงตัว ในหลักการใหญ่ๆและตอนนี้ที่ต้องทำคือเรื่องของการลงทุน การเชิญชวนนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งในเดือน ม.ค.และ ก.พ.จะชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งในปี 2557 จะเกิดท่าเรือขนาดเล็กขึ้นก่อนท่าเรือน้ำลึกเพื่อใช้ในเบื้องต้น ในการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จะนำมาก่อสร้างท่าเรือใหญ่อีกครั้งหนึ่งและ ในปี 2558 เฟส 1 ของท่าเรือน้ำลึกและถนน 4 เลน ปี2563 เฟสที่ 2 และโครงสร้างพื้นฐานจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งถนนก็จะเป็น 8 เลน รวมทั้งเรื่องความร่วมมือไทยกับเมียนมาร์  ในการสร้างคุณภาพชีวิตให้กับชาวเมียนมาร์ที่อยู่ในพื้นที่นั้น โดยนายกฯได้มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการไปช่วยกัน

น.พ.ทศพร กล่าวต่อว่า เรากำลังจะเดินทางไปประเทศบังกลาเทศ ตามที่นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐบังกลาเทศ เชิญนายกฯเยือนอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 21-22 ธ.ค. ซึ่งเป็นการเยือนในฐานะผู้นำรัฐบาลครั้งแรกของประเทศไทยในรอบ 8 ปี เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต ในบังกลาเทศครบรอบ 40 ปี  ซึ่งมีการเสนอร่างบันทึกความเข้าใจ และครม.ได้ให้ความเห็นชอบในบันทึกความเข้าใจและไม่ได้เป็นหนังสือสัญญาตาม ม.190 โดยมีการเตรียมแถลงการณ์ร่วม สาระสำคัญคือความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุน และเรื่องความเชื่อมโยงเรื่องความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ด้านการศึกษา การติดต่อประชาชนกับประชาชน ความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ ความร่วมมือในระดับภูมิภาค ความร่วมมือในระดับพหุภาคี

“เฉลิม”ชี้ประชามติผ่านเป็นเรื่องยาก


วันนี้ ( 18 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ลาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่อยากแสดงความคิดเห็นในการพิจารณาแนวทางการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 291 เพื่อจะได้ไม่ต้องมีความเห็นอยู่ในบันทึกการประชุม ว่า ไม่ใช่อย่างนั้น ตนไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย แต่เป็นเพราะไม่สบาย โดยมีอาการไอและเจ็บคอมานาน 2 สัปดาห์แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมีความเห็นหรือมติอย่างไร ตนก็ต้องเห็นคล้อยตาม แต่ตนพูดถึงในแง่ของความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ โดยตนดูตัวเลขแล้วเห็นว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมดมีประมาณ 48.3 ล้านคน จึงต้องได้คะแนนเสียงในการลงประชามติประมาณ 24 ล้านคนเศษ ซึ่งตนในฐานะที่เล่นการเมืองมา 30 ปี เห็นว่านี่เป็นเรื่องยาก การเอาอกเอาใจกันนั้นก็ทำได้แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง แต่ตนอยากถามว่าจะเอาคะแนนจำนวนมากนี้มาจากที่ไหน เพราะมันเป็นเรื่องยาก เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ฟันธงแล้วว่าไม่เอาด้วย ดังนั้นเรื่องนี้ต้องอยู่ที่การรณรงค์ทำความเข้าใจกับประชาชน แต่ตนไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้เลย และสุดท้ายตนก็ต้องเหนื่อยด้วย เพราะเคยประกาศแล้วว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ต้องไปเปิดเวทีปราศรัยตามจังหวัดต่างๆในภาคอีสาน

ครม.ยังไม่ได้ข้อสรุปทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ


วันนี้ ( 18 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.15 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม ครม. ว่า  ครม.ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้ทำประชามติ หรือประชาเสวนา แต่มีมติมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำการศึกษาเพิ่มเติมถึงแนวทางการ รับฟังความคิดเห็นประชาชนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะยังมีหลายประเด็นที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งมีขั้นตอนตามกฎหมายที่จะต้องชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ก่อน ส่วนจะใช้เวลาศึกษาอีกนานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคณะทำงานที่ ครม.มอบหมายไป

เมื่อถามว่าที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเป็นเพราะมีรัฐมนตรีบางคนในครม.ไม่เห็น ด้วยกับการให้ทำประชามติหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปฏิเสธว่า ใน ครม.ไม่มีความขัดแย้ง เพราะทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายในการหาแนวทางที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วม วันนี้ถือว่าเราต้องร่วมกันในการคิดทางออกให้กับประเทศ เพราะถ้าจะใช้กลไกของรัฐสภา หลายคนก็มีข้อกังวลใจ แต่ถ้าเราใช้กลไกของประชาชนแล้วยังมีข้อกังวล แล้วจะมีกลไกไหนอีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องมาพูดคุยกัน

“ รัฐบาลก็อยากจะช่วยประสานงาน เพื่อให้ทุกอย่างมีข้อยุติ มีทางออกร่วมกัน และได้รับการยอมรับ ซึ่งการให้ประชาชนมาแสดงความคิดเห็นก็ถือเป็นขั้นตอนตามระบอบประชาธิปไตยที่ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของในการตัดสินใจเลือกอนาคตของประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว เมื่อถามว่ารัฐบาลมีความพร้อมแค่ไหนในการทำประชามติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเป็นเพียงหนึ่งในกลไกที่จะการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง เพราะหากจะทำประชามติจริง ๆ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของ กกต. ซึ่งต้องมีอีกหลายขั้นตอนที่จะต้องถามความเห็นจาก กกต. วุฒิสภา และประธานสภาฯด้วย

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะเริ่มได้เมื่อไหร่ เพราะขณะนี้ฝ่ายค้านเริ่มลงพื้นที่รณรงค์คัดค้านการทำประชามติแก้ไขรัฐ ธรรมนูญแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้เริ่มเลย มติ ครม.ยังเพิ่งให้ไปศึกษาระหว่างการทำประชาเสวนา กับประชามติอยู่เลย เพราะต้องมีรายละเอียดทั้งหัวข้อที่จะตั้งคำถาม และขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งตามหลักแล้วต้องให้ ครม.เห็นชอบก่อน จากนั้นถึงจะไปถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งประธานวุฒิสภา ประธานสภาฯ โดยเฉพาะ กกต. แล้วถึงจะมากำหนดขั้นตอนรายละเอียดอีกที.

“ปู” ไม่สนฉายารัฐบาลจาก ม.เกษตร


วันนี้ ( 18 ธ.ค.)  ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.15น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งฉายารัฐบาล “ละครคนจน” ว่า ก็คงต้องถามกลับว่าคำว่าละครนั้นหมายถึงอย่างไร เพราะในความเป็นจริงแล้วละคร ก็สามารถให้ข้อคิด ข้อเตือนใจและความจริงใจ  ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจในฉายาดังกล่าว แต่เรียนด้วยความจริงใจว่าที่รัฐบาลทำงานมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะทำ ประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน ต้องการดูแลพี่น้องประชาชนตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการมอบหมายงานในความรับผิดชอบของนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายรัฐมนตรี และรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา หลังจากที่ต้องเข้าพักรักษาอาการป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ว่า การมอบหมายงานให้รัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทน เป็นไปตามมติ ครม.ที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ซึ่งมีการมอบหมายงานตามขั้นตอน ซึ่งเบื้องต้นนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รมว.เกษตรและสหกรณ์  ก็จะทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลงานในส่วนของนายชุมพลชั่วคราวไปก่อน ส่วนในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ จะรับผิดชอบแทน.

ครม.ไฟเขียวแต่งตั้งบิ๊กรฟม.หลายตำแหน่ง


วันนี้ ( 18 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยชุดใหม่ แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่จะครบกำหนดวาระการดำรง ตำแหน่งดังกล่าว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ 1. น.ส.รัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานกรรมการ 2. นายพงศธร คุณานุสรณ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 3. นายวินัย ดำรงค์มงคลสกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 4. นายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ  นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.ยังมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรง คุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่ง ชาติ แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยมีรายชื่อ ดังนี้ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย 1.นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ 2.นายสมชัย ทรัพย์เกษม 3.นางประพีร์ สรไกรกิติกูล 4.นายวิบูลย์ หงษ์ศรีจินดา 5.ผศ.กฤตินี ณัฏฐวุฒิสิทธิ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2555 เป็นต้นไป

นายภักดีหาญส์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมครม.ยังมีมติอนุมัติการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับต้น ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ จำนวน 2 ราย ดังนี้ 1.นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และ 2.นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายสมชาย เทียมบุญประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป.

“สุกำพล”ท้า ปชป.คุยกับแม้วแบบเจอหน้า


วันนี้ ( 18 ธ.ค.)  ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน6  (บน.6) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงการลงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า  รัฐบาลได้ทำตามกลไก กฎหมาย กติกาที่มีอยู่ ส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องมีเหตุผลว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่จะไม่เห็นด้วยเพราะอ้างว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อต้องการช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เอาคนๆเดียวเป็นเงื่อนไขและต่อรอง ตนคิดว่าไม่ฉลาด ทุกอย่างเราทำตามกติกาและเปิดเผย  อย่าไปตีตนก่อนไข้ว่าเขาจะแก้อย่างนั้นอย่างนี้แล้วไปลงที่พ.ต.ท.ทักษิณ

“ผมถามว่ากลัวพ.ต.ท.ทักษิณมากหรืออย่างไร หรือเมื่อเห็นรูปแล้วขนหัวลุก มันน่าเกลียด มันไม่ถูกต้อง ต้องดูว่าการแก้ไขจะแก้อะไรและอย่างไร คนแก้หากไม่มีผลดีก็อยู่ไม่ได้เอง เพราะมันมีกติกาที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ชอบไปคาดการณ์ก่อนตลอดเหมือนกับการหาเสียง ทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย ผมขอท้าให้นำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาให้พูดคุยให้เห็นหน้ากัน แต่พรรคประชาธิปัตย์กลัวไม่อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา “ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว

พล.อ.อ. สุกำพล ยังกล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ประชาชนคว่ำประชามตินั้น เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเราก็รู้อยู่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีความเป็นมาอย่างไร  การที่ทำประชามติเพื่อให้ทุกอย่างเป็นศรัทธาส่วนรวม  กติกา เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อมีก็ต้องรักษาไว้ ทุกคนต้องรักษากติกา แม้จะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน อย่าทำอะไรที่แหกคอก เช่นการบอกกับประชาชนว่าอย่าลงประชามติ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ต้องให้ความรู้ได้ว่าไม่เห็นด้วย เพราะสาเหตุใด ควรเห็นด้วยเพราะอะไร คนที่เขาฉลาดเขาก็เลือกเอง  ตนคิดว่ารัฐบาลคงมองอย่างที่ตนมองว่าถ้าอะไรทำแล้วดีขึ้นก็ต้องทำ ถ้าไม่ดีขึ้นก็คงไม่ทำ สำหรับในส่วนของกำลังพลในกองทัพนั้น ถือเป็นเรื่องส่วนตัวและเป็นความคิดเห็นของตัวเอง 1 เสียงเท่ากัน

พนักงานธรรมศาสตร์เฮได้เงินเดือนเพิ่ม


 วันนี้ ( 18 ธ.ค.) ศ.ดร.สมคิด  เลิศไพฑูรย์  อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(กบม.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ประชุมมีมติปรับเงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัยที่ใช้เงินรายได้งบประมาณ แผ่นดินและพนักงานเงินรายได้มหาวิทยาลัย เพื่อให้เหมือนกับข้าราชการ  โดยจะใช้สูตรคำนวณการขึ้นเงินเดือนสูตรเดียวกับของคณะกรรมการข้าราชการ พลเรือน (ก.พ.) คือ ถ้าก.พ.ขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการจาก 10,000 เป็น 15,000 บาท มธ. ก็จะขึ้นเพิ่มให้ข้าราชการจากฐาน 15,000 บาท เพิ่มไปอีก 1.7 เท่าของเงินเดือนข้าราชการ


ศ.ดร.สมคิด กล่าวต่อไป  ทั้งนี้มธ.จะรอให้ ก.พ.จ่ายเงินเดือนให้ข้าราชการก่อน มธ.ถึงจะจ่ายเงินให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยทันที โดยจะมีผลย้อนหลังวันที่ 1 ต.ค. 2555  สำหรับฐานเงินเดือนใหม่ของพนักงานมหาวิทยาลัย ดังนี้ สายวิชาการระดับปริญญาตรีจะได้ประมาณ 17,520 บาท  ปริญญาโทประมาณ 23,720 บาทและ ปริญญาเอกประมาณ 32,300 บาท และจะมีการย้อนหลังไปถึงพนักงานมหาวิทยาลัยที่เข้ามาก่อนด้วย ส่วนผู้ที่เข้ามาใหม่จะรับอัตราใหม่ทันที

ช้างศึกคึก"โก้"พร้อม,"มุ้ย"ลงยิงลอดช่อง


    ความเคลื่อนไหวของนักเตะทีมชาติไทย ที่เข้าแข่งขันฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012” ซึ่ง “ช้างศึก” ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ด้วยการบุกไปเยือน “สิงโตทะเล” สิงคโปร์ นัดแรก ในวันที่ 19 ธ.ค.ที่สนามจาลัน เบซาร์ เวลา 19.00 น. (ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด) ก่อนที่จะกลับมาเตะนัดที่ 2 ที่สนามศุภชลาศัย ในวันที่ 22 ธ.ค. ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ได้นำนักเตะลงฝึกซ้อมที่สนามแข่งขันจริงที่เป็นหญ้าเทียม โดยเน้นการจ่ายบอลทำชิ่งเร็ว การขึ้นบอลทางกราบทั้ง 2 ข้าง การยิงประตูในจังหวะต่างๆ การเล่นลูกตั้งเตะและลูกฟรีคิก
  
    จากนั้น เชเฟอร์ เปิดเผยว่า นักเตะไทยปรับตัวให้เข้ากับสนามหญ้าเทียมได้ดี เพราะส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการเล่นกับสนามแบบนี้มาแล้ว อย่างเช่นในเกมที่บุกไปเยือน ปาเลสไตน์ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 ส่วนการเตะกับ สิงคโปร์ จะใช้นักเตะตัวจริง 11 คนแรก เหมือนการเตะกับ มาเลเซีย เนื่องจาก ดัสกร ทองเหลา กลับมาเล่นได้ตามปกติ ไม่มีอาการบาดเจ็บที่เอวอีกแล้ว นอกจากนี้ได้มีการศึกษาข้อมูลรายละเอียดของ สิงคโปร์ เอาไว้หมด จึงมั่นใจว่าจะบุกมาเอาชนะ “เมอร์ ไลอ้อน” ได้ถึงถิ่น                      
    “ถึงแม้ สิงคโปร์ จะมีทีมเวิร์คที่ดี แต่ก็มีจุดอ่อนคือ เกมรับเล่นกันได้หละหลวมมาก หากใช้เกมทำชิ่งต่อบอลสั้นอย่างรวดเร็ว จะเจาะเข้าไปยิงประตูได้แน่ ส่วนเกมรับคงจะต้องระวังการขึ้นเกมทางกราบซ้าย ซึ่งได้สั่งให้ ปิยพล บรรเทา กับ จักรพันธ์ พรใส ให้คอยวิ่งบีบเกมตั้งแต่แล้ว และจะให้ ชลทิตย์ จันทคาม กับ ภานุพงศ์ วงศ์ษา คอยยืนประกบ อเล็กซานเดอร์ ดูริค กองหน้าร่างโย่งที่จะคอยโหม่งบอลเช็ดให้เพื่อน แต่ก็เชื่อว่า ดูริค ที่มีอายุถึง 42 ปี เมื่อเจอการขึ้นปะทะบ่อยๆ คงจะไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนี้การที่แฟนบอลชาวไทย 180 คน ได้เดินทางตามมาเชียร์ถึง สิงคโปร์ จะเป็นกำลังใจอย่างดีที่ทำให้นักเตะไทยเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้”  เชเฟอร์ กล่าว
  
    ราดอจโก้ อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ของทีมชาติสิงคโปร์ กล่าวว่า การพบกันระหว่าง “สิงโต ทะเล” กับ “ช้างศึก” ถือว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในย่านอาเซียน แต่ต้องยอมรับว่า ทีมไทยชุดนี้ มีนักเตะที่สมบูรณ์ มีการบริหารจัดการที่ดี มีโครงสร้างการเล่นและระบบของทีมดี อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ ได้ติดตามและเก็บข้อมูลของไทยไว้ตลอดเหมือนกัน เพราะคิดว่าจะต้องเจอกันแน่ ซึ่งการที่ทีมไทยสามารถเอาชนะ ฟิลิปปินส์ ที่มีผู้เล่นต่างชาติ รูปร่างสูงใหญ่ลงได้ ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่ สิงคโปร์  ได้เล่นในบ้านและจะเปิดเกมรุกสู้ เพื่อกรุยทางไปสู่การเป็นแชมป์ให้ได้

    “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงของไทยที่ซัดไปแล้ว 5 ลูก กล่าวว่า ผู้เล่นทุกคนของไทย พร้อมที่จะลงไปเล่นอย่างเต็มที่ แม้จะต้องลงเตะในสนามหญ้าเทียม และลงเล่นในบ้านของ สิงคโปร์ ที่มีแฟนบอลคงส่งเสียงหนุนหลัง แต่หากนักเตะไทยทุกคนเล่นได้เหมือนที่ซ้อมกันมา คือ ต่อบอลสั้น ทำชิ่งได้แม่นยำ และมีสมาธิตลอด จะต้องเอาชนะได้ และหากมีโอกาสยิงประตู จะไม่พลาดอย่างเด็ดขาด เพราะต้องการเอาชนะ สิงคโปร์ ในบ้านให้ได้

    สำหรับสถิติที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้บันทึกเอาไว้ในการเจอันระหว่าง “ช้างศึก” กับ “สิงโตทะเล” ตั้งแต่ปี ค.ศ.1957 จนถึงปี ค.ศ. 2012 ปรากฏว่า พบกันมา 57 นัด ทีมชาติไทย ชนะ 31 นัด, เสมอ 14 นัด และ แพ้ 12 นัด ส่วนสถิติที่เจอกันในรายการ “อาเชี่ยนคัพ” เจอกัน 4 ครั้ง ไทย ชนะ 1, เสมอ 2 และ แพ้ 1 นัด คือ ปี ค.ศ.1996 รอบแรก ไทย ชนะ 1-0 , ปี ค.ศ. 2002 รอบแรก เสมอ 1-1 , ปี ค.ศ.2007 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก สิงคโปร์  ชนะ 2-1,นัด 2 เสมอ 1-1 โดย ทีมไทย จะใส่ชุดสีน้ำเงิน ขณะที่ สิงคโปร์ ใส่ชุดแดง และได้ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น 4 คน มาทำหน้าที่ในเกมนี้       

    นักเตะ 11 คนแรกของไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม กวิน ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), ปิยพล บรรเทา, ภานุพงศ์ วงศ์ษา (กัปตันทีม), ชลทิตย์ จันทคาม, อนุชา กิจพงษ์ศรี, จักรพันธ์ พรใส, อดุล หละโสะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ธีราทร บุญมาทัน, ดัสกร ทองเหลา, ธีรศิลป์ แดงดา

รัวอาก้าถล่มรถนายกอบต.กรุงเก่าเจ็บ


เมื่อเวลา 22.00 น. วันนี้ (18 ธ.ค.) พ.ต.ท.จักราช ศรีวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.ภาชี ว่า มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บมารักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน พบ นายบำรุง ก้อนทอง อายุ 56 ปีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระแก้ว อ.ภาชี อยู่บ้านเลขที่ 52 / 1 หมู่  4 ต.พระแก้ว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าเข้าที่แขนซ้ายได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมี น.ส.ภัทราวดี ซอกดุล อายุ 30 ปี นักพัฒนาชุมชน อบต.พระแก้ว อยู่บ้านเลขที่ 2/3 หมู่ 6 ต.หนองน้ำใส อ.ภาชี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่อกขวาทะลุหลัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ราชธานี
จากการสอบสวน นายบำรุง ทราบว่า เพิ่งเดินทางกลับจากร่วมงานศพชาวบ้านที่รู้จักกัน ที่วัดหนองบัว หมู่ 4 ต.พระแก้ว โดยมี น.ส.ภัทราวดี เป็นคนขับรถให้ เมื่อมาถึงบริเวณปากทางเข้าบ้าน ขณะกำลังจะเลี้ยวรถขึ้นถนนคันคลอง ได้มีรถปิกอัพโตโยต้าวีโก้ แบบ 4 ประตู สีดำ วิ่งมาจากอีกฝั่ง แล้วตรงมาปาดหน้า นายบำรุงเห็นท่าไม่ดี จึงใช้อาวุธปืนที่ติดตัวมายิงใส่ทันที ขณะเดียวกันคนร้ายที่อยู่กระบะหลังรถปิกอัพ ที่คาดว่าจะมีกันจำนวน 3 คน ได้ยิงถล่มกลับด้วยอาวุธปืนอาก้าเข้ามาที่รถหลายสิบนับ กระสุนถูกนายบำรุง และน.ส.ภัทราวดีได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้พากันหลบหนีไป
เบื้องต้น นายบำรุง ยังไม่เปิดเผยถึงสาเหตุการถูกลอบยิง แต่เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องการเมืองท้องถิ่น  ต่อมาตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ารถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีน้ำตาล  ของนายบำรุง ถูกยิงด้วยปืนอาก้าหลายสิบนัด จนกระจกแตกทั้งด้านข้างและด้านหน้า และพบปลอกกระสุนตกอยู่จำนวน 7 ปลอก จึงเก็บเป็นหลักฐาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.

3ขวบครึ่งติดในรถเก๋งขาดอากาศตายสลด


เมื่อเวลา 00.15 น. วันนี้ (19 ธ.ค.) ร.ต.ต.ธงชัย ศรีสำโรง พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.บางมด ว่า มีเด็กขาดอากาศหายใจถูกส่งตัวมารักษาแล้วเสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ภายในห้องห้องฉุกเฉินพบศพ ด.ช.พันธวีร์ ยอดทอง หรือ “น้องเหนือ” อายุ 3 ขวบ 6 เดือน สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้าลายการ์ตูน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ตามเนื้อตัวทั้งแขนและขามีร่องรอยคล้ายถูกแดดเผาไหม้จนแดง ปากซีด เบื้องต้นไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง
จากการสอบสวน นายบุญเลิศ ยอดทอง อายุ 65 ปี ปู่ของผู้ตาย ให้การว่า พักอยู่ที่ห้องเลขที่ 214 ชั้น 5 อาคารพีเพิลพาร์คเพลส ซอยอนามัยงามเจริญ 15 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน และเป็นคนเลี้ยงน้องเหนือมาตั้งแต่ยังเล็ก เพราะลูกชายกับลูกสะใภ้ต้องเดินทางไปทำงานที่โรงงานแถวบางบอน โดยลูกชายจะมารับน้องเหนือกลับไปนอนด้วยเฉพาะในคืนวันเสาร์เท่านั้น ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. วานนี้ (18 ธ.ค.) น้องเหนือ บ่นว่าอยากกินเงาะ จึงจูงหลานเดินลงมาหาซื้อเงาะที่รถขายกับข้าว ซึ่งจะมาจอดบริเวณด้านหน้าหอพักทุกวัน แต่พอซื้อเสร็จปรากฏว่าน้องเหนือหายตัวไป จึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ช่วยตามหา แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบไม่พบ
กระทั่งผ่านไปนานกว่า 6 ชั่วโมง มีเพื่อนบ้านได้วิ่งขึ้นไปแจ้งว่า พบน้องเหนือนอนแน่นิ่งอยู่ในห้องโดยสารของรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรล่า สีขาว ทะเบียน 6 ธ - 8773 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่ตรงลานจอดรถหน้าหอพักใกล้ๆ กับจุดที่รถขายกับข้าวมาจอดตามปกติ จึงรีบวิ่งลงมาดู พบว่าน้องเหนือนอนแน่นิ่งอยู่ที่เบาะด้านหลังรถมีอาการปากซีด มือทั้ง 2 ข้างกำแน่น เลยรีบนำส่งที่ รพ.บางมด แต่ก็ไม่ทันการ
ด้าน นายปิยะวิทย์ ลิมสุทธิรัตน์ อายุ 33 ปี เจ้าของรถเก๋งคันที่เกิดเหตุ ให้การว่า พักอยู่กับภรรยาในห้องเลขที่ 236 ชั้น 5 อาคารเดียวกัน ปกติจะใช้รถเก๋งอีกคันหนึ่ง แต่เนื่องจากรถคันที่ใช้ประจำเพิ่งถูกโจรงัดแงะไป จึงนำไปเข้าอู่เพื่อซ่อมประตู แล้วจึงนำรถคันเกิดเหตุนี้มาจอดไว้แทนเผื่อจะใช้งาน แต่พอช่วงหัวค่ำวันที่ 18 ธ.ค. ขณะที่ตนยังทำงานอยู่ ภรรยาได้โทรศัพท์มาบอกว่า มีเด็กเสียชีวิตในรถให้รีบกลับมาดูก็ตกใจมาก เพราะมั่นใจว่าตอนจอดก็ล็อกรถด้วยระบบเซนทรัลล็อกเป็นอย่างดีแล้ว จึงไม่ทราบจริงๆ ว่าเด็กเปิดประตูเข้าไปนอนอยู่ในรถได้อย่างไร
ขณะที่ พ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุการตายของเด็กว่า เป็นอุบัติเหตุจากความซุกซนหรือไม่ เนื่องจากยังต้องรอผลการตรวจสภาพรถคันดังกล่าวอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน อีกทั้งยังต้องดูผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ประกอบกันด้วย เบื้องต้นจึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเชิญตัวผู้ปกครอง เจ้าของรถ และผู้พบศพคนแรก มาสอบปากคำอีกครั้ง ว่าเป็นความประมาทของผู้ใดบ้างหรือไม่ ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 100 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 100 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 98 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 99 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 98 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 99 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 97 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 97 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 95 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 96 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 95 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 96 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 94 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 93 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 92 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 91 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 90 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 89 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 88 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 87 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 86 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 85 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 84 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 83 [HD Master]



ดูหนังออนไลน์ Dragonball Z ดราก้อนบอล Z ตอนที่ 82 [HD Master]



Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources