ความเคลื่อนไหวของนักเตะทีมชาติไทย ที่เข้าแข่งขันฟุตบอล “เอเอฟเอฟ
ซูซูกิคัพ 2012” ซึ่ง “ช้างศึก” ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
ด้วยการบุกไปเยือน “สิงโตทะเล” สิงคโปร์ นัดแรก ในวันที่ 19
ธ.ค.ที่สนามจาลัน เบซาร์ เวลา 19.00 น. (ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด)
ก่อนที่จะกลับมาเตะนัดที่ 2 ที่สนามศุภชลาศัย ในวันที่ 22 ธ.ค.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย
ได้นำนักเตะลงฝึกซ้อมที่สนามแข่งขันจริงที่เป็นหญ้าเทียม
โดยเน้นการจ่ายบอลทำชิ่งเร็ว การขึ้นบอลทางกราบทั้ง 2 ข้าง
การยิงประตูในจังหวะต่างๆ การเล่นลูกตั้งเตะและลูกฟรีคิก
จากนั้น เชเฟอร์ เปิดเผยว่า นักเตะไทยปรับตัวให้เข้ากับสนามหญ้าเทียมได้ดี เพราะส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการเล่นกับสนามแบบนี้มาแล้ว อย่างเช่นในเกมที่บุกไปเยือน ปาเลสไตน์ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 ส่วนการเตะกับ สิงคโปร์ จะใช้นักเตะตัวจริง 11 คนแรก เหมือนการเตะกับ มาเลเซีย เนื่องจาก ดัสกร ทองเหลา กลับมาเล่นได้ตามปกติ ไม่มีอาการบาดเจ็บที่เอวอีกแล้ว นอกจากนี้ได้มีการศึกษาข้อมูลรายละเอียดของ สิงคโปร์ เอาไว้หมด จึงมั่นใจว่าจะบุกมาเอาชนะ “เมอร์ ไลอ้อน” ได้ถึงถิ่น
“ถึงแม้ สิงคโปร์ จะมีทีมเวิร์คที่ดี แต่ก็มีจุดอ่อนคือ เกมรับเล่นกันได้หละหลวมมาก หากใช้เกมทำชิ่งต่อบอลสั้นอย่างรวดเร็ว จะเจาะเข้าไปยิงประตูได้แน่ ส่วนเกมรับคงจะต้องระวังการขึ้นเกมทางกราบซ้าย ซึ่งได้สั่งให้ ปิยพล บรรเทา กับ จักรพันธ์ พรใส ให้คอยวิ่งบีบเกมตั้งแต่แล้ว และจะให้ ชลทิตย์ จันทคาม กับ ภานุพงศ์ วงศ์ษา คอยยืนประกบ อเล็กซานเดอร์ ดูริค กองหน้าร่างโย่งที่จะคอยโหม่งบอลเช็ดให้เพื่อน แต่ก็เชื่อว่า ดูริค ที่มีอายุถึง 42 ปี เมื่อเจอการขึ้นปะทะบ่อยๆ คงจะไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนี้การที่แฟนบอลชาวไทย 180 คน ได้เดินทางตามมาเชียร์ถึง สิงคโปร์ จะเป็นกำลังใจอย่างดีที่ทำให้นักเตะไทยเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้” เชเฟอร์ กล่าว
ราดอจโก้ อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ของทีมชาติสิงคโปร์ กล่าวว่า การพบกันระหว่าง “สิงโต ทะเล” กับ “ช้างศึก” ถือว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในย่านอาเซียน แต่ต้องยอมรับว่า ทีมไทยชุดนี้ มีนักเตะที่สมบูรณ์ มีการบริหารจัดการที่ดี มีโครงสร้างการเล่นและระบบของทีมดี อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ ได้ติดตามและเก็บข้อมูลของไทยไว้ตลอดเหมือนกัน เพราะคิดว่าจะต้องเจอกันแน่ ซึ่งการที่ทีมไทยสามารถเอาชนะ ฟิลิปปินส์ ที่มีผู้เล่นต่างชาติ รูปร่างสูงใหญ่ลงได้ ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่ สิงคโปร์ ได้เล่นในบ้านและจะเปิดเกมรุกสู้ เพื่อกรุยทางไปสู่การเป็นแชมป์ให้ได้
“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงของไทยที่ซัดไปแล้ว 5 ลูก กล่าวว่า ผู้เล่นทุกคนของไทย พร้อมที่จะลงไปเล่นอย่างเต็มที่ แม้จะต้องลงเตะในสนามหญ้าเทียม และลงเล่นในบ้านของ สิงคโปร์ ที่มีแฟนบอลคงส่งเสียงหนุนหลัง แต่หากนักเตะไทยทุกคนเล่นได้เหมือนที่ซ้อมกันมา คือ ต่อบอลสั้น ทำชิ่งได้แม่นยำ และมีสมาธิตลอด จะต้องเอาชนะได้ และหากมีโอกาสยิงประตู จะไม่พลาดอย่างเด็ดขาด เพราะต้องการเอาชนะ สิงคโปร์ ในบ้านให้ได้
สำหรับสถิติที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้บันทึกเอาไว้ในการเจอันระหว่าง “ช้างศึก” กับ “สิงโตทะเล” ตั้งแต่ปี ค.ศ.1957 จนถึงปี ค.ศ. 2012 ปรากฏว่า พบกันมา 57 นัด ทีมชาติไทย ชนะ 31 นัด, เสมอ 14 นัด และ แพ้ 12 นัด ส่วนสถิติที่เจอกันในรายการ “อาเชี่ยนคัพ” เจอกัน 4 ครั้ง ไทย ชนะ 1, เสมอ 2 และ แพ้ 1 นัด คือ ปี ค.ศ.1996 รอบแรก ไทย ชนะ 1-0 , ปี ค.ศ. 2002 รอบแรก เสมอ 1-1 , ปี ค.ศ.2007 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก สิงคโปร์ ชนะ 2-1,นัด 2 เสมอ 1-1 โดย ทีมไทย จะใส่ชุดสีน้ำเงิน ขณะที่ สิงคโปร์ ใส่ชุดแดง และได้ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น 4 คน มาทำหน้าที่ในเกมนี้
นักเตะ 11 คนแรกของไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม กวิน ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), ปิยพล บรรเทา, ภานุพงศ์ วงศ์ษา (กัปตันทีม), ชลทิตย์ จันทคาม, อนุชา กิจพงษ์ศรี, จักรพันธ์ พรใส, อดุล หละโสะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ธีราทร บุญมาทัน, ดัสกร ทองเหลา, ธีรศิลป์ แดงดา
จากนั้น เชเฟอร์ เปิดเผยว่า นักเตะไทยปรับตัวให้เข้ากับสนามหญ้าเทียมได้ดี เพราะส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการเล่นกับสนามแบบนี้มาแล้ว อย่างเช่นในเกมที่บุกไปเยือน ปาเลสไตน์ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 ส่วนการเตะกับ สิงคโปร์ จะใช้นักเตะตัวจริง 11 คนแรก เหมือนการเตะกับ มาเลเซีย เนื่องจาก ดัสกร ทองเหลา กลับมาเล่นได้ตามปกติ ไม่มีอาการบาดเจ็บที่เอวอีกแล้ว นอกจากนี้ได้มีการศึกษาข้อมูลรายละเอียดของ สิงคโปร์ เอาไว้หมด จึงมั่นใจว่าจะบุกมาเอาชนะ “เมอร์ ไลอ้อน” ได้ถึงถิ่น
“ถึงแม้ สิงคโปร์ จะมีทีมเวิร์คที่ดี แต่ก็มีจุดอ่อนคือ เกมรับเล่นกันได้หละหลวมมาก หากใช้เกมทำชิ่งต่อบอลสั้นอย่างรวดเร็ว จะเจาะเข้าไปยิงประตูได้แน่ ส่วนเกมรับคงจะต้องระวังการขึ้นเกมทางกราบซ้าย ซึ่งได้สั่งให้ ปิยพล บรรเทา กับ จักรพันธ์ พรใส ให้คอยวิ่งบีบเกมตั้งแต่แล้ว และจะให้ ชลทิตย์ จันทคาม กับ ภานุพงศ์ วงศ์ษา คอยยืนประกบ อเล็กซานเดอร์ ดูริค กองหน้าร่างโย่งที่จะคอยโหม่งบอลเช็ดให้เพื่อน แต่ก็เชื่อว่า ดูริค ที่มีอายุถึง 42 ปี เมื่อเจอการขึ้นปะทะบ่อยๆ คงจะไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนี้การที่แฟนบอลชาวไทย 180 คน ได้เดินทางตามมาเชียร์ถึง สิงคโปร์ จะเป็นกำลังใจอย่างดีที่ทำให้นักเตะไทยเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้” เชเฟอร์ กล่าว
ราดอจโก้ อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ของทีมชาติสิงคโปร์ กล่าวว่า การพบกันระหว่าง “สิงโต ทะเล” กับ “ช้างศึก” ถือว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในย่านอาเซียน แต่ต้องยอมรับว่า ทีมไทยชุดนี้ มีนักเตะที่สมบูรณ์ มีการบริหารจัดการที่ดี มีโครงสร้างการเล่นและระบบของทีมดี อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ ได้ติดตามและเก็บข้อมูลของไทยไว้ตลอดเหมือนกัน เพราะคิดว่าจะต้องเจอกันแน่ ซึ่งการที่ทีมไทยสามารถเอาชนะ ฟิลิปปินส์ ที่มีผู้เล่นต่างชาติ รูปร่างสูงใหญ่ลงได้ ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่ สิงคโปร์ ได้เล่นในบ้านและจะเปิดเกมรุกสู้ เพื่อกรุยทางไปสู่การเป็นแชมป์ให้ได้
“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงของไทยที่ซัดไปแล้ว 5 ลูก กล่าวว่า ผู้เล่นทุกคนของไทย พร้อมที่จะลงไปเล่นอย่างเต็มที่ แม้จะต้องลงเตะในสนามหญ้าเทียม และลงเล่นในบ้านของ สิงคโปร์ ที่มีแฟนบอลคงส่งเสียงหนุนหลัง แต่หากนักเตะไทยทุกคนเล่นได้เหมือนที่ซ้อมกันมา คือ ต่อบอลสั้น ทำชิ่งได้แม่นยำ และมีสมาธิตลอด จะต้องเอาชนะได้ และหากมีโอกาสยิงประตู จะไม่พลาดอย่างเด็ดขาด เพราะต้องการเอาชนะ สิงคโปร์ ในบ้านให้ได้
สำหรับสถิติที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้บันทึกเอาไว้ในการเจอันระหว่าง “ช้างศึก” กับ “สิงโตทะเล” ตั้งแต่ปี ค.ศ.1957 จนถึงปี ค.ศ. 2012 ปรากฏว่า พบกันมา 57 นัด ทีมชาติไทย ชนะ 31 นัด, เสมอ 14 นัด และ แพ้ 12 นัด ส่วนสถิติที่เจอกันในรายการ “อาเชี่ยนคัพ” เจอกัน 4 ครั้ง ไทย ชนะ 1, เสมอ 2 และ แพ้ 1 นัด คือ ปี ค.ศ.1996 รอบแรก ไทย ชนะ 1-0 , ปี ค.ศ. 2002 รอบแรก เสมอ 1-1 , ปี ค.ศ.2007 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก สิงคโปร์ ชนะ 2-1,นัด 2 เสมอ 1-1 โดย ทีมไทย จะใส่ชุดสีน้ำเงิน ขณะที่ สิงคโปร์ ใส่ชุดแดง และได้ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น 4 คน มาทำหน้าที่ในเกมนี้
นักเตะ 11 คนแรกของไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม กวิน ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), ปิยพล บรรเทา, ภานุพงศ์ วงศ์ษา (กัปตันทีม), ชลทิตย์ จันทคาม, อนุชา กิจพงษ์ศรี, จักรพันธ์ พรใส, อดุล หละโสะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ธีราทร บุญมาทัน, ดัสกร ทองเหลา, ธีรศิลป์ แดงดา
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น