วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วิธีตัดต่อวิดีโอ corel video studio x4




คู่มือ วิธีการใช้ โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ Ulead VideoStudio อย่างละเอียด

Ulead นั้นก็สามารถที่จะจับภาพแบบ analog ได้เช่นกัน ในกรณีนี้ คุณจะต้องหาการ์ดจับภาพเช่นการ์ดรับโทรทัศน์ที่เป็นแบบ analog มาใช้งาน การใช้งานนั้นก็เหมือนกับการ firewire นั่นแหล่ะครับ
ส่วนติดต่อกับผู้ใช้    
โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ Ulead VideoStudio
โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ Ulead VideoStudio
1. Step Panel
      กลุ่มของปุ่มที่ใช้สลับไปมาในขั้นตอนต่างๆ ของการตัดต่อวีดีโอ เช่น ต้องการจับภาพจากกล้องวีดีโอก็คลิกปุ่ม Capture หากต้องการแก้ไข/ตัดต่อวีดีโอ คลิกปุ่ม Edit ต้องการใส่ข้อความในวีดีโอ คลิกปุ่ม Title เป็นต้น
2. Menu Bar
     แถบเมนูของชุดคำสั่งต่างๆ เช่น สร้างโครงการใหม่ เปิดโครงการ บันทึกโครงการ เป็นต้น
3. Options Panel
      ส่วนนี้จะมี ปุ่มและข้อมูลอื่นๆ ที่ให้คุณได้ปรับแต่งคลิปที่คุณเลือกไว้ ฟังชั่นก์ต่างๆ ในส่วนนี้จะเปลี่ยนไปตามขั้นตอนที่คุณกำลังทำงานอยู่ เช่น คุณเลือกคลิปวีดีโอ ก็จะมีฟังก์ชั่นต่างๆ สำหรับจัดการกับคลิปวีดีโอ หรือคุณเลือกเสียง ก็จะมีฟังก์ชั่นสำหรับการจัดการเรื่องเสียง เป็นต้น
4. Preview Window
      หน้าต่างแสดงคลิปปัจจุบัน, ตัวกรองวีดีโอ, เอฟเฟ็กต์, หรือตัวหนังสือ ต้องการดูผลลัพธ์ของการตัดต่อต่างๆ สามารถดูได้ในหน้าต่างนี้
5. Navigation Panel
      มีปุ่มสำหรับเล่นคลิปวีดีโอและสำหรับตัดวีดีโอ ในขั้นตอนการจับภาพ, ส่วนนี้จะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ควบคุมกล้องวีดีโอ เช่น เล่นวีดีโอ หยุด หยุดชั่วขณะ กรอไปข้างหน้า กรอกลับ เป็นต้น
6. Library
      เก็บและรวบรวมทุกอย่างไว้ ไม่ว่าจะเป็น วีดีโอ, เสียง, ภาพนิ่ง, เอฟเฟ็กต์ต่างๆ เป็นต้น ทำให้สะดวกในการเรียกใช้งาน
7. Timeline
      แสดงคลิป, ตัวหนังสือและเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ที่อยู่ในโครงการ

Step Panel
            ส่วนนี้เป็นส่วนของขั้นตอนต่างๆ ในการตัดต่อวีดีโอ ขั้นตอนเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องทำทุกขั้นตอน หรือข้ามขั้นตอนใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดต่อวีดีโอของคุณเอง
ขั้นตอนตัดต่อคือ
1.Capture (จับภาพจากกล้อง/ดึงข้อมูลวีดีโอจากแผ่น CD/DVD)
2.Edit (แก้ไข/ตัดต่อ)
3.Effect (ใส่เอ็ฟเฟ็กต์)
4.Overlay (ทำภาพซ้อน)
5.Title (ใส่ตัวหนังสือ)
6.Audio (ใส่ดนตรีประกอบ/บันทึกเสียงบรรยาย)
7.Share (บันทึกวีดีโอที่ตัดต่อแล้ว ลงสื่อต่างๆ)
            ขั้นตอนต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น สามารถข้ามไปยังส่วนอื่นได้ เช่น อาจจะไปใส่ดนตรีประกอบก่อน แล้วมาใส่ตัวหนังสือภายหลังก็ได้ หรือเมื่อตัดต่อเสร็จในข้อ 2 แล้วก็อาจจะไปเลือกข้อ 7 เพื่อเขียนลงแผ่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำครบทุกขั้นตอน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตัดต่อวีดีโออย่างไร และต้องทำอะไรบ้างในการตัดต่อ
ขั้นตอนต่างๆ ในการตัดต่อวีดีโอ
    เมื่อเปิด project ใน Ulead แล้ว ในขั้นตอน Capture นี้ คุณสามารถที่จะบันทึกวีดีโอจากกล้องวีดีโอดิจิตอลเป็นไฟล์ลงในคอมพิวเตอร์ได้ วีดีโอที่บันทึกจากกล้องลงคอมพิวเตอร์นั้น สามารถที่จะบันทึกเป็นไฟล์เพียงไฟล์เดียว หรือให้แยกเป็นไฟล์ได้หลายๆ ไฟล์โดยอัตโนมัติ และในขั้นตอนการจับภาพนี้ นอกจากคุณจับภาพวีดีโอแล้วยังสามารถที่จะบันทึกภาพจากวีดีโอเป็นภาพนิ่งได้อีกด้วย
    ขั้นตอนการแก้ไขและ Timeline นี้ เป็นจุดสำคัญของการใช้ Ulead VideoStudio ในขั้นตอนนี้คุณสามารถที่จะเรียงลำดับคลิปวีดีโอ ที่ถ่ายมาแต่ไม่ได้เรียงลำดับเหตุการณ์กัน ก็มาเรียงลำดับเหตุการณ์ในขั้นตอนนี้ หรือแทรกคลิปวีดีโออื่นๆ เข้ามาในกระบวนการตัดต่อ เช่น หลังจากที่คุณจับภาพมาจากกล้องแล้ว เห็นว่าคลิปวีดีโอที่มีอยู่ในเครื่อง เหมาะสม น่าที่จะนำมาแทรกในบางช่วงของวีดีโอที่คุณกำลังตัดต่อ ก็สามารถทำได้ กรณีที่มีคลิปวีดีโอเพียงไฟล์เดียว เช่น จับภาพวีดีโอมาเป็นไฟล์เดียว ไม่ได้แยกไฟล์เป็นหลายๆ ส่วน ก็สามารถตัดแยก scene วีดีโอได้ เพื่อใส่เอ็ฟเฟ็กต์ระหว่าง scene ลบคลิปวีดีโอที่ไม่ต้องการออก ตัดคลิปวีดีโอบางส่วนที่ถ่ายเสียหรือไม่ต้องการออก และการใส่วีดีโอฟิลเตอร์ (เช่น การใส่ตัวฟิลเตอร์ฝนตกในคลิปวีดีโอ ทำให้คลิปวีดีโอนั้นดูเหมือนมีฝนตกจริงๆ ) ก็สามารถทำได้ในขั้นตอนนี้เช่นกัน
    ในขั้นตอนนี้ ให้คุณสามารถใส่ทรานสิชั่น (transition) ระหว่างคลิปวีดีโอใน project ซึ่งใน Ulead นี้จะมีกลุ่มของทรานสิชั่นต่างๆ ให้เลือกอย่างมากมายใน Library
ทรานสิชั่น เป็นเอ็ฟเฟ็กต์ที่ใส่ไว้ในระหว่างคลิป ทำให้วีดีโอดูน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น ฉากที่ค่อยๆ จางหายไปจนมืด แล้วก็มีฉากถัดไปที่จางแล้วค่อยๆ ชัดเจนขึ้น หรือ ในระหว่างที่มีการเปลี่ยนฉากนั้น จะมีภาพซ้อนกันของทั้งสองฉาก เป็นต้น นี่เป็นการใส่ทรานสิชั่นนั่นเอง
    ขั้นตอนนี้เป็นการซ้อนคลิปวีดีโอบนคลิปวีดีโอที่มีอยู่ เหมือนกับที่เราดูโทรทัศน์ ที่มีการสัมภาษณ์บุคคลเกี่ยวกับดารา แล้วก็มีกรอบเล็กๆ เป็นภาพของดาราที่กำลังดูบุคคลอื่นพูดถึงตนเองอยู่
    ใส่ตัวหนังสือในวีดีโอ เช่น ชื่อเรื่องวีดีโอ แสดงชื่อบุคคล หรือตัวหนังสือปิดท้ายวีดีโอ ใครถ่ายทำ ถ่ายเมื่อไหร่ ที่ไหน เป็นต้น สามารถที่จะสร้างตัวหนังสือแบบเคลื่อนไหวได้ มีมากมากหลายแบบ เช่น ตัวหนังสือลอยจากจอภาพด้านล่างขึ้นไปด้านบน เหมือนกับตัวหนังสือเมื่อดูภาพยนตร์ตอนจบ หรือจะวิ่งจากด้านขวามือมาซ้ายมือ หรือจะเลือกชุดสำเร็จรูปจาก Library ก็ได้
    ขั้นตอนนี้สำหรับใส่ดนตรีประกอบวีดีโอ สามารถเลือกเพลงจากแผ่น CD แล้วบันทึกมาเป็นไฟล์ทำดนตรีประกอบได้ บันทึกเสียงบรรยายวีดีโอ รวมทั้งการปรับแต่งเสียงต่างๆ เช่น ลดเสียงในวีดีโอต้นฉบับในบางช่วงขณะที่บันทึกเสียงบรรยายลงไป เพื่อให้ได้ยินเสียงบรรยายชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรือปรับระดับเสียงของดนตรีประกอบ เป็นต้น
    ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อตัดต่อวีดีโอเสร็จแล้ว ก็จะเป็นสร้างไฟล์วีดีโอสำหรับเผยแพร่ผลงาน สามารถทำได้หลายแบบ เช่น สร้างไฟล์วีดีโอสำหรับเผยแพร่ผลงานบนเว็บ เขียนวีดีโอที่ตัดต่อเสร็จแล้วกลับลงเทปอีกครั้ง เขียนลงแผ่น CD เป็น VCD หรือเขียนลง DVD



วิธีใช้โปรแกรม Ulead Video Studio 11



จับภาพ, แก้ไข, เพิ่ม, และภาพยนตร์ร่วมกันบนเทป, DVD, VideoCD และ Web

ข้อดี
  • จำนวนมากของคุณสมบัติ
  • ที่ดีสำหรับการจับภาพวิดีโอ
  • ความอุดมสมบูรณ์ของตัวช่วยสร้างประโยชน์และแม่แบบสำหรับผู้เริ่มต้น
cons
  • หน่วยความจำมาก
  • มีแนวโน้มที่จะเกิดความผิดพลาด
  • การสนับสนุนด้านเทคนิคที่ไม่น่าเชื่อถือ
โปรแกรมที่ผู้เขียน
Ulead VideoStudio 9 เป็นเรื่องง่ายต่อการใช้งานซอฟต์แวร์ที่จะเปลี่ยนโฮมวิดีโอให้เป็นที่สนุกสนานไปชมภาพยนตร์! สองขั้นตอน DV เพื่อดีวีดีวิซาร์ดสร้างภาพยนตร์เสร็จสมบูรณ์ในแฟลช ที่มีมากกว่า 1,000 เปลี่ยนปรับแต่งชื่อและผลพิเศษเริ่มต้นและทหารผ่านศึกเก๋าเหมือนกันได้อย่างง่ายดายสามารถบรรลุผลที่ไม่ซ้ำกัน รักษาหนังมีค่าของคุณในรูปแบบดีวีดี, ซีดี, เทป, เว็บหรือโทรศัพท์มือถือร่วมกับครอบครัวและเพื่อน ๆ
DV ด่วนสแกนแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่อยู่บนเทป DV ของคุณโดยอัตโนมัติสแกนและให้คุณมีรายการภาพ timecoded ของคลิปทั้งหมดของคุณ การสร้างภาพยนตร์ DVD แกนในนาทีเบ็ดกล้องถ่ายวิดีโอของคุณและเลือกคลิปที่คุณต้องการ ตัวช่วยสร้างไม่เหลือ! มันทำให้คุณมีดีวีดีที่มีเมนูชื่อและเปลี่ยนเพลง
เพิ่มสมาร์ทแพนและซูมไป Pan-Smart สไลด์และซูมอัตโนมัติตระหนักลักษณะที่สำคัญเช่นใบหน้าและกระทะข้ามและตู้มในรายละเอียด Chroma มายากลภาพยนตร์ Key-สร้างยังไง ยิงเรื่องของคุณกับพื้นหลังสีสม่ำเสมอใด ๆ แล้ว "เติม" พื้นหลังที่คุณเลือก
ภาพยนตร์วิซาร์ดเหมาะสำหรับผู้ใช้ใหม่เพื่อแก้ไขวิดีโอ เลือกจากรูปแบบ 30 + ชุดรูปแบบเพื่อเริ่มต้นแล้วให้อัตโนมัติแก้ไขให้แก้ไขก่อนของคุณ คุณจะมีภาพยนตร์ที่สมบูรณ์เป็นเรื่องง่ายเป็น 1, 2, 3 ยังใช้สมาร์ทแพนใหม่และซูมจะช่วยคุณสร้างภาพสไลด์ความบันเทิง VideoStudio แก้ไขทั้งหมดช่วยให้คุณเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่คุณจะต้องผลิตภาพยนตร์ที่บ้านที่ดูดีในขณะที่ใช้งานง่าย, เวิร์กโฟลว์ขั้นตอนโดยขั้นตอน ใช้เวลาของคุณการสร้างสรรค์มากกว่าการเรียนรู้โปรแกรม



เมายาบ้าอาละวาดจุดถังแก๊สเผาบ้าน


เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 ต.ค. พ.ต.ท.สมชาติ สังข์เงิน พนักงานสอบสวน สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้รับแจ้งมีคนคุ้มคลั่งเมายาอาละวาด เผาบ้านเลขที่ 148 หมู่ 11 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบแล้วไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อธิก ลาภานุพัฒน์ ผกก. พ.ต.ท.พิศิษฎ์ พูลทรัพย์ รอง ผกก.ป. นายปราโมทย์ ฉันทมิตร์ นายก อบต.หนองละลอก
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบบรรดาไทยมุงยืนดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบด้านหลังบ้าน-ห้องครัว มีเสียงดังเอะอะโวยวาย มองเห็นคนคุ้มลั่ง มือขวาถือมีดบังตอ มือซ้ายถือเหล็กขันอะไหล่ล้อรถรถยนต์ เดินไปเดินมาภายห้องครัว ทราบชื่อนายอภัย บริบูรณ์มุก อายุ 31 ปี และทำร้ายข้าวของแล้วปาสิ่งของออกมา เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุม พร้อมกับนำถังแก๊สเปิดวาล์วแล้วจุดไฟเผาห้องครัว
เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานรถดับเพลิงของอบต.หนองละลอก เพื่อระดมฉีดน้ำไม่ให้ไฟไหม้ลุกลาม และได้ประสาน พ.ต.ต.ณัฎฐวิชฌ์ ราชแก้ว สว.นปพ.ภ.จว.ระยอง พร้อมด้วยอาวุธปืนอัดลมยางมายิงเพื่อสกัดความคุ้มคลั่ง ต่อมาได้เข้าชาร์จจับกุมไว้ได้

จากการสอบสวนทราบนายอภัยมีอาชีพรับกรีดยาง แล้วพักอยู่กระท่อมในสวนยางพาราคนเดียว และได้เสพยาบ้าจึงเกิดอาการคุ้มคลั่งแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวบ้านของนายสม พงษ์ วิยะโรจน์ทวี เจ้าของบ้านดังกล่าว จากนั้นได้ทำลายข้าวของในห้องครัว จนเหตุการณ์บานปลาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำนายอภัยผู้ก่อเหตุไปสงบสติที่ สภ.บ้านค่าย จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฟันหัวเสี่ยรับซื้อไม้ยางดับต่อหน้าลูก


เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (23 ต.ค.) ร.ต.อ.ปัณฑิวัฒน์  เพชรทองหล่อ  ร้อยเวร สภ.เมืองตรัง  รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 30/7  ถนนน้ำผุดซอย2  ต.ทับเที่ยง จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ภูมิ  บาลทิพย์  รองผกก.ป. ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์รพ.ตรัง  และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง   ที่เกิดเหตุพบศพนายวิสุทธิ์  เซ่งย่อง  อายุ 44 ปี  อาชีพรับจ้างซื้อไม้ยางพารา  มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่ท้ายทอย หลังกกหูด้านซ้าย  รวม 2 แผล เสียชีวิตจมกองเลือด ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว ประมาณ 6 ชั่วโมง โดยข้างศพพบบุตรชายวัย 3 ขวบ ของผู้ตาย กอดศพผู้ตายพลางเขย่าพร้อมเรียกให้ตื่นเป็นที่น่าสลดใจแก่ผู้พบ เห็นอย่างยิ่ง
สอบสวนเบื้องต้นเพื่อนบ้านใกล้เคียง ให้การว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ยังพบเห็นผู้ตายพูดคุยหยอกล้อกับลูกชาย วัย 3 ขวบ อยู่บริเวณหน้าบ้าน  จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  ได้เดินเรียกผู้ตายไปนั่งคุยและดื่มกาแฟตามปกติ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงขึ้นมาดูและพบผู้ตายเสียชีวิตใจลักษณะดังกล่าว  ในชั้นนี้ ตำรวจ  สันนิษฐานคาดว่า  คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี  ก่อนเกิดเหตุได้มาเรียกผู้ตายพร้อมเข้ามานั่งพูดคุยตกลงปัญหาบางอย่างในบ้าน แต่ไม่เป็นผลจึงเกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน ก่อนคนร้ายจะใช้มีดฟันเข้าที่ศรีษะและท้ายทอยของผู้ตายจนเสียชีวิต  ต่อหน้าลูกชายวัย 3 ขวบ  แล้วหลบหนีไป โดยสาเหตุของความขัดแย้งจนนำไปสู่การสังหารน่าจะมาจากเรื่องธุรกิจส่วนตัว  ส่วนประเด็นเรื่องอื่นๆนั้นก็ยังไม่ตัดทิ้ง  อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ลงมือก่อ เหตุ  เพื่อที่จะนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ชาวบ้านไม่พอใจรื้อวัดลังกาเอาวัตถุโบราณไปทิ้ง


เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ ( 23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีประชาชนแสดงความไม่เห็นด้วยกับการบูรณะพระปรางค์ วัดลังกา ในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากพบชิ้นส่วนรูปปั้นเทวรูปโบราณที่ติดอยู่กับองค์พระปรางค์เดิม ถูกทิ้งอยู่ริมถนนหลังสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา โดยชิ้นส่วนที่พบกองรวมกับซากเศษอิฐ ล่าสุดทางอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน นักโบราณคดีชำนาญการ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้ชี้แจงผ่านเฟสบุ๊ค ระบุว่างานบูรณะวัดลังกาแห่งนี้ ผู้รับจ้างได้ก่ออิฐบูรณะในส่วนของฐานปรางค์ผิดไปจากรูปแบบ ผู้ควบคุมงานได้ไปตรวจสอบและสั่งให้มีการรื้ออิฐในส่วนที่ก่อผิดไปจากรูป แบบออก และสั่งให้นำวัสดุที่รื้อ (อิฐปูน) ไปทิ้ง ส่วนปูนปั้นชิ้นดังกล่าว หลังจากการขุดแต่งได้มีการนำมาวางไว้ใกล้กับองค์ปรางค์ และคนงานของผู้รับจ้างได้มีการนำชิ้้นส่วนปูนปั้นชิ้้นนี้ติดไปกับวัสดุที่ รื้อออก และนำไปกองไว้ในส่วนสมเด็จฯ ความผิดพลาดดังกล่าวเกิดขึ้นจากการควบคุมดูแลที่ไม่รัดกุมดีพอ ทั้งฝ่ายผู้รับจ้างและผู้ควบคุมงาน ขณะนี้ทางอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้นำปูนปั้นชิ้นดังกล่าวมา เก็บไว้แล้ว และขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้ ขอบคุณทุกท่านสำหรับความห่วงใยต่อโบราณสถาน ซึ่งต่อไปทางอุทยานฯ จะปรับปรุงการดำเนินงานให้รอบคอบรัดกุมมากยิ่งขึ้น และจะดำเนินการหามาตรการลงโทษสำหรับผู้รับจ้างที่ดำเนินการก่อให้เกิดความ เสียหาย ซึ่งทางอุทยานขออภัยและขอขอบคุณประชาชนที่เป็นหูเป็นตาให้ ซึ่งวัดลังกานี้เป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น.

ยึดทรัพย์ด.ต.ประชาชื่นค้ายา


เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ ( 23 ต.ค.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. พลต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2  พ.ต.อ.จักร อ่อนนิ่ม ผกก.สน.ประชาชื่น  เรียกประชุมชุดสืบสวน เพื่อเร่งรัดการติดตามจับกุม ด.ต. มนัส เสือโพธิ์ ผบ.หมู่ จร. สน.ประชาชื่น  ผู้ต้องหาลักลอบ ขนยาเสพติด 1.28  ล้านเม็ด และ ยาไอซ์ 5 กก. ที่ จ.ลำปาง พร้อมนำตู้เซฟที่ยึดได้จากคอนโดซิตี้โฮม ย่านรัตนาธิเบศร์ มาทำการตรวจสอบ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม จากการตรวจสอบพบ ทองคำแท่ง น้ำหนัก 20 บาท  1 แท่ง อาวุธปืนก๊อก 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 11 มม. 9 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 9 นัด สมุดบัญชีธนาคารระบุชื่อ ด.ต.มนัส เสือโพธิ์  1 เล่ม และระบุชื่อของผู้อื่นอีก 1 เล่ม โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ และเงินสดจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหมด 13 รายการ ซึ่งเอกสารบางส่วนเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นความลับ
พลต.ต.สุธี กล่าวเปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดติดตามทรัพย์สินของ ด.ต.มนัส โดยได้จัดชุดแบ่งงานเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นชุดติดตามทรัพย์สิน และอีกชุดติดตามจับกุมตัว ด.ต.มนัส โดยทรัพย์สินที่ยึดได้เบื้องต้นประกอบด้วย รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน เงินในสมุดบัญชี จำนวนหนึ่ง ที่ดินเชื่อว่าทรัพย์สินของ ด.ต.มนัส ยังมีอีกมาก ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการขยายผลตรวจยึดเพิ่มเติม สำหรับตัว ด.ต.มนัส ได้มีคำสังให้ออกจากราชการไว้ก่อน และทางโรงพักได้ขยายผลติดตามทรัพย์สินบางส่วนที่ยังเหลือ ส่วนพยานหลักฐานยังไม่ครบ ส่วนภรรยานอกสมรสของ ด.ต.มนัส นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล ด้านการติดตามตัวขณะนี้ทางศาลจังหวัดลำปางได้ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาใน เครือข่ายดังกล่าวจำนวน 7 ราย รวมทั้ง ด.ต.มนัส และ อดีตตำรวจสังกัด บช.น.ซึ่งลาจากราชการไปแล้ว 10 ปี คดีนี้ทางจังหวัดลำปางเป็นผู้ดำเนินคดี ในส่วนของโรงพักประชาชื่นและ บช.ปส.ได้ประสานงานกันเพื่อร่วมคบี่คลายคดีนี้.

บุกทลายคลินิกเถื่อนกลางกรุง 4 แห่ง ตะลึงมีอีกเพียบ 70-80 แห่งในกทม.


เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (21 ต.ค.) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.ดส. บช.น.และกำลังตำรวจ กก.ดส.บช.น. เข้าตรวจค้นจับกุมคลินิกผิดกฎระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ทั้งหมด 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.สีกันการแพทย์คลินิกเวชกรรม เลขที่ 311/12 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จับกุมนายจีระสิทธิ์ วิจิตรแพทย์ เจ้าของคลินิก 2.คลินิกสรงประภาการแพทย์ เลขที่ 310/116 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จับกุม น.ส.ขวัญลดา แตงทองคำ อายุประมาณ39 ปี คนดูแล 3.ศิริสุขการแพทย์ เลขที่ 9/56 ถนนช่างอากาศอุทิศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จับกุม นางอัฐชรินทร์ สุดกังวาล อายุ61 ปี คนดูแล และ 4.พร้อมแพทย์คลินิก เลขที่ 87/397 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จับกุมนางนิตยา การะวรรณ อายุ 48ปี คนดูแลคลินิก

นายพสิษฐ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณะสุขได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีการลักลอบเปิดคลิกนิคในพื้นที่ดอนเมือง โดยที่ผู้รักษาโรคไม่ใช่แพทย์ และมีการออกใบรับรองแพทย์ปลอมที่คลิกนิกเหล่านี้ จึงประสานกับ บช.น. และพ.ต.อ.วิวัฒน์ นำกำลังเข้าตรวจสอบ โดยให้สายลับแกล้งทำเป็นปวดท้องเข้าไปรักษา และขอให้ออกใบรับรองแพทย์ให้ ซึ่งทั้ง 4 คลินิกก็ได้ทำการตรวจรักษา วินิจฉัยโรค พร้อมจ่ายยา และออกใบรับรองแพทย์ให้กับสายลับ แต่คนที่ตรวจโรคให้กลับไม่ใช่แพทย์ผู้ที่ขอใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเพียงคนที่ดูแลอยู่ที่คลินิกเท่านั้น จึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้ดำเนินคดี โดยเฉพาะที่คลินิกสรงประภา พบว่าไม่มีใบอนุญาตเปิดคลินิก จึงกลายเป็นคลินิกเถื่อนอย่างชัดเจน และขณะตำรวจเข้าจับกุมแพทย์ของคลินิกดังกล่าวได้ไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน จะสืบสวนและติดตามจับกุมต่อไป นอกจากนี้ยังพบยาที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน และยาที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทที่คลินิกสรงประภาการแพทย์อีกด้วย ส่วนคลินิกที่เหลือมีใบอนุญาตถูกต้อง แต่คนตรวจไม่ใช่แพทย์ถือว่าผิดกฎหมายเหมือนกัน

นายพสิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ กทม. ยังพบว่ามีคลินิกที่กระทำการลักษณะเดียวกันอีกประมาณ 70-80 แห่ง ส่วนทั่วประเทศก็มีประมาณ 100 กว่าแห่ง จะเร่งกวาดล้างจับกุมให้หมดทุกคลินิก และยังตรวจสอบพบด้วยว่า มีข้าราชการใช้ใบรับรองแพทย์ปลอมจากคลินิกเหล่านี้เพื่อลาป่วย แล้วเอาเวลาราชการไปทำอย่างอื่นแทนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจด้วย จึงขอฝากไปยังคลินิกต่าง ๆ ที่กระทำผิดกฎหมายให้หยุดและเลิก ไม่อย่างนั้นจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เบื้องต้นจะดำเนินคดีกับคลิกนิกทั้งหมดในข้อหา ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมแปลงใบรับรองแพทย์ และขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับคลินิกสรงประภาจะเพิ่มข้อหา ประกอบกิจการสถานพยาบาล และลักลอบจำหน่ายยาซูโดอีเฟดรีน โดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มอีก 2 ข้อหา และในวันที่ 22 ต.ค.นี้จะทำเรื่องเสนอ รมว.สธ. เพื่อยื่นเรื่องให้ปิดคลินิกดังกล่าวทั้งหมด และเสนอแพทยสภาให้ดำเนินการกับแพทย์เจ้าของคลิกนิกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมืองเจ้าของท้องที่ดำเนินคดีต่อไป ส่วนแพทย์ที่เป็นผู้ขอใบอนุญาตจะเรียกมาสอบสวน พร้อมสอบปากคำพยานหรือคนที่มาใช้บริการเพิ่มเติมหากพบมีการกระทำผิดอย่าง อื่นอีกก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป.

"ปีเตอร์ ชาน" เบี้ยวให้ข้อมูลลูกทัวร์ติดค้าง


วันนี้ (22 ต.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พ.ต.อ.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบก.ปคบ. กล่าวถึงกรณีนายปีเตอร์ ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน พี.ซี.แอร์ ที่มีปัญหาผู้โดยสารของสายการบินดังกล่าวติดค้างที่สนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นว่า นายปีเตอร์ ชาน ได้นัดหมายกับทางตำรวจไว้ในเวลา 14.00 น.แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย เจ้าตัวไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีคนสนิทของนายปีเตอร์ ชาน ได้ประสานงานกับตำรวจว่า นายปีเตอร์ ชาน ได้เดินทางไปประเทศเกาหลีใต้แล้ปว คงไม่เข้ามาให้ข้อมูลในวันเดียวกันนี้

พ.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของคดีความนั้นยังไม่มีผู้เสียหายรายใดแจ้งความดำเนินคดี เพราะบางส่วนก็อยากเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ บางส่วนก็อยากได้เงินคืน ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะแยกทำคดีเป็น 2 ส่วน คือ 1.จะเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างลูกทัวร์ บริษัททัวร์ และสายการบินพี.ซี.แอร์ เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น และ 2.จะสืบสวนทางลับว่ามีใครเข้าข่ายกระทำความผิดบ้าง โดยจะสืบสวนหาความสัมพันธ์ของบริษัท พี.ซี.แอร์ บริษัท สกายเจ็ท จำกัด ประเทศเกาหลี และบริษัทที่ทำการตลาดให้กับสายการบิน พี.ซี.แอร์ หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา ตัวแทนของสายการบิน พี.ซี.แอร์ บริษัททัวร์ และลูกทัวร์ ได้นัดหมายเจรจากันที่ บก.ปคบ.เพื่อเจรจาตกลงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว โดยทางสายการบินยินดีจะจ่ายเงินค่าเดินทางคืนให้ทั้งหมด โดยขอเวลาภายใน 90 วัน ซึ่งทางบริษัททัวร์และลูกทัวร์ต่างก็พอใจในการเจรจาดังกล่าว

รวบสาวใหญ่ลวงเหยื่อค้ากามบรูไน


เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พ.ต.อ.ประคัลภ์ แสงส่องฟ้า รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม.แถลงข่าวจับกุม นางรุ่งทิวา เพชรล้ำ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 11 ต.นาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1866/2555 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2555 ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการบังคับหญิงอื่นเพื่อค้า ประเวณี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ประคัลภ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก น.ส.ดาว อายุ 20 ปี และ น.ส.เดือน อายุ 20 ปี (ทั้งสองนามสมมติ) เดินทางเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ว่า เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงว่าสามารถพาเดินทางไปทำงานเป็นพนักงานขายเสื้อผ้าที่ ห้างสรรพสินค้าในประเทศบรูไน มีรายได้สูงถึงเดือนละ 30,000-40,000 บาท และทางผู้ต้องหาพร้อมจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ก่อน เมื่อได้ทำงานแล้วค่อยใช้หนี้คืนให้ภายหลัง แต่หลังจากหลงเชื่อเดินทางไปเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา กลับถูกส่งตัวให้กลุ่มผู้ร่วมขบวนการซึ่งมีทั้งชาวไทย ชาวบรูไน และชาวบังคลาเทศ ร่วมกันบังคับให้ค้าประเวณีกับคนงานในเมืองกัวลาเบเลต ประเทศบรูไน

ผู้เสียหายทั้งสองให้การกับพนักงานสอบสวนด้วยว่า ในแต่ละวันต้องให้บริการลูกค้า 6-8 ครั้ง จนทนไม่ไหวและหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากคนไทยที่ทำงานก่อสร้างอยู่ที่ ประเทศบรูไน ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือส่งตัวกลับถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยครั้งแรกที่กลับมาถึงมีความรู้สึกอับอายไม่กล้าแจ้งความตำรวจ จึงไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากนั้นจึงเข้าร้องทุกข์ที่ บก.ปคม.อีกครั้ง ต่อมาชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม.ได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับและสามารถติดตาม จับกุมผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้ดังกล่าว

สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ โดยอ้างว่า น.ส.ดาว เป็นลูกสะใภ้ของตน ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสอง อยากจะไปเที่ยวที่ประเทศบรูไน โดยลูกชายตนทำงานอยู่ที่ประเทศดังกล่าว จึงให้คำแนะนำในการเดินทาง แต่ไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายให้แต่อย่างใด นอกจากนี้ก็ไม่ทราบเรื่องที่ทั้งสอง ถูกบังคับให้ค้าประเวณีที่ประเทศบรูไน อีกด้วย ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป.

เตรียมให้ออกจากราชการผัวสั่งยิงเมียซี 5


เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่กรมการปกครอง นายชวน  ศิรินันท์พร อธิบดีกรมการปกครอง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายสมควร  แก้วเขียน อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน เทียบเท่าปลัดอำเภอ ประจำที่ทำการปกครองคลองเก้า อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จ้างวานมือปืนให้สังหาร น.ส.สุรีย์ ยุวดำรงค์ชัย ภรรยาอายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน ระดับ 5 ประจำหน้าห้องจ่าจังหวัดฉะเชิงเทรา เสียชีวิตคารถเก๋งวีออส ขณะขับรถไปทำงานที่ จ.ฉะเชิงเทรา เหตุเกิดบริเวณทางลงสะพานข้ามคลองหก ถนนปทุมธานี-ลำลูกกา เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตนได้รับรายงานว่ามีการจับกุมผู้จ้างวาน และมือปืนได้ทั้งหมด
โดยทั้งผู้ตายและผู้จ้างวาน ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน และทั้งสองเป็น เป็นข้าราชการในสังกัดกรมการปกครอง ดังนั้นจากนี้จะต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งมาว่ามีการดำเนินคดีอาญา กับบุคคลดังกล่าวแล้ว ทางกรมการปกครอง จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อน  เมื่อมีการสอบสวนวินัยแล้วจะต้องได้รับโทษวินัยร้ายแรง และไล่ออกสถานเดียว เพราะถือเป็นคดีอาญา
เมื่อถามว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ามีการทุจริต ในสำนักบริหารงานทะเบียน นายชวน กล่าวว่าเท่าที่ทราบ เข้าใจว่าสามีอยากได้เงินภรรยา เนื่องจากภรรยาเป็นนายทุน ปล่อยเงินกู้ ซึ่งเป็นมูลฐานที่สำคัญ และสามีมีภรรยาหลายคน จึงต้องการเงินไปให้ภรรยาคนอื่น ส่วนเรื่องการทุจริต ตนเห็นว่าผู้ตายไม่หน้าจะทุจริตในหน้าที่ได้ เพราะทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลแรงงานต่างด้าว ตามที่แรงงานต่างด้าวส่งมาให้ตรวจสอบ ว่ารายชื่อแต่ละชื่อมีตามที่ขึ้นทะเบียนไว้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ตายสามารถที่จะเข้าไปแก้ไขข้อมูลในระบบของข้อมูลต่างด้าว ได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เชื่อว่าไม่ได้ เพราะเป็นเพียงการตรวจสอบข้อมูลชื่อว่ามีอยู่จริงหรือไม่ แต่ไม่สามารถแก้ไขระบบฐานข้อมูลได้ เพราะเป็นข้อมูลที่มาจากอำเภอต่างๆ และถูกจัดเก็บในฐานข้อมูลเท่านั้น
เมื่อถามว่าผู้ตาย เพิ่งถูกย้ายออกจากสำนักทำเบียนคลองเก้า ไปอยู่จ.ฉะเชิงเทรา ในยุคที่นายสุกิจ เจริญรัตนกุล เป็นอธิบดีกรมการปกครอง จะเกี่ยวกับเรื่องการทุจริต หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่มีการสอบสวนเรื่องนี้ ซึ่งตนเชื่อว่าที่ถูกย้าย น่าจะเป็นเพราะมีพฤติกรรมที่เกินตัว เป็นนายทุนออกเงินกู้ อธิบดีกรมการปกครอง คนเก่า จึงมีคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น อย่างไรก็ตาม จากนี้ตนจะมีคำสั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการทุจริต  เพื่อดูว่ามีอะไรที่เป็นการกระทำผิดต่อหน้าที่หรือไม่ แต่จากจุดที่ผู้ตายอยู่ ไม่น่าจะมีการทุจริตได้  แต่ต้องตรวจสอบก่อน
ด้านนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการปกครองท้องที่ (ผอ.สน.ปท.) กล่าวว่า ผู้จ้างวาน เป็นคนที่ขับรถให้ตน  และอยู่มาตั้งแต่ผอ. คนก่อนหน้านี้ โดยที่ผ่านมาก็ดูเป็นคนปกติ แต่มีนิสัยเจ้าชู้  ตนเคยเตือนเรื่องความเจ้าชู้อยู่บ้าง และในวันเกิดเหตุ นายสมควรได้โทรศัพท์ มาหาตนพร้อมทั้งร้องไห้ และบอกตนว่า ภรรยาประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต และต่อมาก็โทรฯมาหาตนอีกครั้งว่าภรรยาถูกยิงเสียชีวิต  ตนรู้สึกเห็นใจและยังไปฟังสวดศพผู้เสียชีวิต แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้

"ห้ามวันศุกร์" ยุทธศาสตร์ป่วนใต้รูปแบบใหม่



“เดลินิวส์ทีวี” เกาะติดกรณีที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ข่มขู่ชาวบ้านในพื้นที่ห้ามค้าขายวันศุกร์ เชิญติดตามได้จากคลิปรายงานพิเศษ

กทม.ลงพื้นที่หาความจริงสุนัขล้มตาย


       
จากกรณีชาวบ้านภายในซอยสะแกงาม 14 แยก 4-7 ย่านแสมดำ กรุงเทพฯ แจ้งให้ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูมาตรวจสอบบ้านเลขที่ 39/175 ว่ามีสุนัขล้มตายเป็นจำนวนมาก ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ต่อมานายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์  พร้อมด้วยนายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ อาสาสมัครฯ รหัสนคร 45 ได้เดินทางมาตรวจสอบพบซากสุนัขนอนตายน้ำลายฟูมปากอยู่ภายในบ้าน นอกจากนั้นยังพบว่านางรอด ทองสะพัด อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านเช่า และเจ้าของสุนัขได้ถูกนำตัวส่ง รพ.สมุทรปู่เจ้า เพื่อรักษาอาการอาเจียน ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่า สุนัขถูกวางยาเบื่อจากเจ้าของสุนัข ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สพญ.เบ็ญจวรรณ สิชฌนาลัย หัวหน้ากลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย นายสัตวแทพย์ศิวะ ไม้สนธิ์ หัวหน้ากลุ่มควบคุมและพักพิงสุนัข สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร พญ.รัตนา มนต์ประจักษ์ ผอ.ศูนย์บริการสาธารณสุข 42 (ถนอม ทองสิมา) สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เดินทางมาตรวจสอบที่บ้านของนางรอด แต่ปรากฏว่าบ้านถูกล็อคประตูจากด้านนอก จึงไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการตายของสุนัขกับนางศุภนิดา ยิ้มละม้าย ประธานกองทุนหมู่บ้านชุมชนศักดิ์มงคลชัย

นายสัตวแพทย์ศิวะ  กล่าวว่า จากการพูดคุยทราบว่า ขณะนี้นางรอดได้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู จากการป่วยเป็นไตวาย จึงไม่มีใครอยู่บ้าน สำหรับสุนัขที่เหลือ ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูโดยนายบิณฑ์ได้ให้ความช่วยเหลือไป 2 ตัว และมีเพื่อนบ้านนำไปฝากที่คลินิกด็อกจำนวน 3 ตัว เพื่อช่วยดูอาการ แต่พบว่าวันนี้ได้ล้มตายลงอีกตัว โดยสัตวแพทย์ระบุว่า จากการตรวจเลือดพบมีอาการติดเชื้อของกลุ่มแบคทีเรียแต่ยังไม่ทราบว่าชนิดใด และไม่พบสารปนเปื้อนของสารอื่นแต่อย่างใด การติดเชื้อนี้ไม่สามารถแพร่จากสัตว์ไปสู่คน อย่างไรก็ตาม จะทำการตรวจหาสาเหตุการตายจากสุนัขที่ยังรักษาอาการป่วยอยู่ที่คลินิคด็อก ย่านเคหะการไฟฟ้า ทั้งนี้จะนำซากสุนัขไปผ่าพิสูจน์อีกด้วย

ทางด้านพญ.รัตนา กล่าวว่า วันนี้พญ.มาลินี  สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ทราบเรื่องการล้มตายของสุนัขเป็นจำนวนมาก จึงรู้สึกเป็นห่วงประชาชนละแวกใกล้เคียง จึงให้ตนลงพื้นที่หาข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุการล้มตายของสุนัขว่าเกิดจากการวางยาเบื่อหนูของเจ้าของบ้าน หรือสุนัขป่วย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่นและหวาดกลัวจนเกินไป ทั้งนี้ตนจะเดินทางไปดูอาการป่วยของนางรอดว่า นอกจากอาการป่วยเป็นไตวาย และความดันแล้ว ยังมีอาการไม่สบายจากการกินยาเบื่อหนูเข้าไปด้วยหรือไม่

ให้ออกจากราชการ"ด.ต."ขนยานรกแหกด่าน


เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยศนายดาบทราบชื่อต่อมาคือ ด.ต.มนัส เสือไพร ตำรวจ สน.ประชาชื่น กับพวกขับรถขนยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด และยาไอซ์อีก 5 กิโลกรัม แหกด่านตรวจบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ จุดตรวจ ต.นาแก อ.งาว จ.ลำปาง จนเสียหลักไปชนบ้านเรือนประชาชน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ส่วนนายดาบหลบหนีไปได้ ว่าขณะนี้ได้สั่งการให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด และเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายดาบคนดังกล่าว รวมถึงบ้านญาติและบ้านเพื่อนทุกคนที่เกี่ยวข้องแล้ว และให้บก.น.2 มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าระยะหลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจของบช.น. เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและปล้นทรัพย์บ่อย จะมีมาตรการเข้มงวดอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งผบช.น. ได้มอบนโยบายกับข้าราชตำรวจทุกนายว่าอย่าไปหากินกับความเดือดร้อนของพี่น้อง ประชาชน ซึ่งตำรวจที่นอกลู่นอกทางยากที่จะควบคุม มันมีอยู่ทั่วไป ไม่ได้มีเฉพาะในพื้นที่นครบาล แต่ก็เป็นส่วนน้อย

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources