วันนี้( 3 ส.ค.) ที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 บางนา พล.ต.อ พงศพัศ
พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท
เรืองศักดิ์ จริตเอก ผบช.ศ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เดินทางเข้าตรวจสอบความพร้อมสถานที่สอบคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิการ
ศึกษามัธยมปลายหรือเทียบเท่าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนปี 2555 ครั้งใหม่
ซึ่งในวันนี้มีการสอบนายสิบตำรวจ สังกัดฝ่ายอำนวยการ
หลังจากการสอบแข่งขันครั้งก่อนสามารถจับกุมผู้ทุจริตสอบทั่วประเทศได้หลาย
ร้อยราย จนสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ผลการสอบเป็นโมฆะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการสอบครั้งนี้ เป็นการสอบของสายอำนวยการ และ วันที่ 5 ส.ค. เป็นวันสอบของสายป้องกันและปราบปราม สำหรับกรุงเทพมหานครที่เป็นหน่วยกลางมีสนามสอบเพียงแห่งเดียวคือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 วิทยาเขตบางนา มี 13 ห้องสอบ 7 อาคาร โดยผู้สมัครสอบสายอำนวยการทั่วประเทศ 178,645 คน รับ 500 อัตรา สายป้องกันปราบปรามสมัคร 184,000 คน รับ 9,500 อัตรา โดยการสอบจะเริ่มเวลาเดียวกันทั่วประเทศคือ 14.00 - 16.30 น. แต่จะต้องมาถึงสนามสอบก่อนเวลา 12.00 น. เพื่อเข้ารับการตรวจพิสูจน์บุคคล ทั้งการตรวจบัตรประจำตัว พิมพ์ลายนิ้วมือ โดยจะไม่อนุญาตให้เข้าห้องสอบหลัง 13.30 น. เด็ดขาด มีขั้นตอนการตรวจสอบผู้เข้าสอบ โดยเริ่มจากเครื่องเอ็กซเรย์ วอล์คทู ซึ่งผู้เข้าสอบต้องแต่งกายตามระเบียบที่กำหนดให้สวมเสื้อยืดแขนสั้นไม่มีปก กางเกงวอร์ม สวมรองเท้ากีฬา และเตรียมบัตรประจำตัวผู้สอบ บัตรประชาชนให้พร้อม ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารและเครื่องมืออิเลคโทรนิกส์ทุกชนิดเข้าห้องสอบเด็ด ขาด เมื่อเดินผ่านเครื่องเอ็กซเรย์แล้ว หากสัญญาณไม่ดังก็เข้าสอบได้ทัน แต่หากมีเสียงสัญญาณดังขึ้น จนท.จะนำเครื่องสแกนตรวจสอบอีกครั้ง หากพบว่ามีโลหะหรือเครื่องมือสื่อสารจะถูกตัดสิทธิการสอบทันที อย่างไรก็ตามเบื้องต้นไม่พบผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าการสอบครั้งนี้ได้มีการนำอุปกรณ์เทคโนโลยีชนิด ต่างๆ ที่ถูกนำมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการทุจริตระหว่างการสอบ ได้แก่ เครื่องสเปคตรัมอนาลิซิส หรือเครื่องไอทีเอฟ ที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณที่มีการส่งเข้ามาภายนอกอาคารสอบ หากมีคลื่นความถี่แสดงขึ้นมาจะส่งสายตรวจออกไปตรวจสอบทันที เครื่องแจมเมอร์ ที่ใช้ตัดสัญญาณโทรศัพท์ความถี่ 800 900 1800 และ 1900 และเครื่องตัดสัญญาณรีโมทที่ถูกตั้งไว้ตามบริเวณต่างๆ รอบสนามสอบ จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศ ได้นำสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบในห้องสอบ โดยทางกรรมการจะสั่งให้ผู้สอบพับขากางเกงถึงหัวเข่า ถอดรองเท้า-ถุงเท้า จากนั้นกรรมการคุมสอบจะอธิบายขั้นตอนและระเบียบขณะอยู่ในห้องสอบให้ผู้เข้า สอบทราบ และให้พิมพ์ลายนิ้วมือพร้อมเซ็นชื่อกำกับเพื่อใช้ป้องกันการเข้าสอบแทนกัน รวมทั้งเป็นการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ระหว่างการสอบจะมีกรรมการถือเครื่องตรวจโลหะเดินวนรอบแถวที่นั่งสอบตลอดเวลา ประมาณ 9-10 คนต่อห้อง ทั้งนี้ระหว่างการตรวจกรรมการผู้คุมสอบจะสั่งให้ผู้เข้าสอบพักการทำข้อสอบ ด้วยการให้ยืนขึ้นเป็นระยะๆ แล้วกอดอกยืนนิ่งๆ ราว 2-3 นาที เนื่องจากหากมีการส่งสัญญาณเข้ามาจากภายนอก จะเป็นการรบกวนไม่ให้ผู้เข้าสอบจดจำสัญญาณได้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสอบนั้น ทางกรรมการจะไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบไปเข้าห้องน้ำเด็ดขาด แต่หากจำเป็นจริงๆ จะมี รปภ.เป็นคนเดินประกบพาไปตัวต่อตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.ต.อ.พงศพัศ ได้พาคณะสื่อมวลชนตรวจความเรียบร้อยได้มี น.ส.สุภาภรณ์ ดินดำ ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ามาร้องเรียน หลังจากที่เดินทางมาผิดสนาม โดย น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า เดินทางมาจากเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากตรวจสอบสนามสอบในเว๊ปไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าการสอบใหม่ ครั้งนี้คือสนามสอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 วิทยาเขตบางนา แต่เมื่อมาถึงก็ตรวจสอบว่าผังที่นั่งก็ปรากฏว่าไม่มีรายชื่อของตนปรากฏอยู่ สนามสอบที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ไปปรากฏที่สนามสอบที่ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นสนามสอบเดิมจากครั้งที่แล้ว อย่างไรก็ตามทาง รองผบ.ตร.ได้ทำการอนุโลมให้ น.ส.สุภาภรณ์ทำการสอบได้ที่สนามสอบนี้ได้ เนื่องจากเป็นความเข้าใจผิดกัน
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในวันนี้มีผู้เข้าสอบกว่า 178,645 คน จากทั่วประเทศ โดยวางแผนป้องกันการทุจริตการสอบในครั้งนี้ด้วยการจัดให้มีการสอบสถานที่ เดียว มีห้องสอบประมาณ 2,800 ห้องเพื่อให้การควบคุมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาตรวจสอบ ตั้งแต่ก่อนเข้าห้องสอบไปจนถึงขณะทำข้อสอบ เชื่อว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดิมขึ้นมาอีก ส่วนสาเหตุที่เลือกสถานที่สอบเป็นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 วิทยาเขตบางนา เป็นสถานที่สอบกลางนั้น เพราะการสอบครั้งที่ผ่านมามีการจัดสถานที่สอบมากเกินไปจึงไม่สามารถควบคุม การทุจริตได้ทั่วถึง แต่ในครั้งนี้มีสถานที่สอบเพียงแห่งเดียว จะช่วยให้ระบบป้องกันการทุจริตด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีทำได้ทั่วถึง
รองผบ.ตร. กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาการทุจริตโดยการเข้าสอบแทนกันนั้น ในการสอบครั้งนี้ได้เพิ่มมาตรการในการพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้เข้าสอบแต่ละคน สามารถนำไปใช้ตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลหลังการสอบต่อได้ และยังติดตั้งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพผู้เข้าสอบไว้ตลอดเวลา รวมทั้งมีการคุมเข้มเรื่องการออกข้อสอบเพื่อป้องกันข้อสอบรั่วไหลซี่งข้อสอบ มีทั้งหมด8ชุด ทั้งหมก 120ข้อ แบ่งเป็น3หมวดโดยแต่ละหมวดนั้นจะมีจำนวน40ข้อ และมีการคละหน้า คละหมวด คละข้อ คละชุดและในการสอบครั้งนี้หวังว่าให้อยากเป็นครั้งสุดท้ายเพราะสงสารผู้ที่ เข้าสอบนั้นต้องเดินทางมาจากทั่วประเทศจากเหนือสุดถึงใต้สุดของประเทศ ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่น้อยๆจึงอยากให้การสอบครั้งนี้เป็นครั้ง ท้ายเพื่อไม่อยากให้ผู้ที่ทำข้อสอบอย่างตั้งใจไม่ต้องมาเสียเวลากำคนที่โกง การสอบอีก อย่างไรก็ตามทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความจำเป็นต้องตัดสิทธิ์ผู้สอบครั้ง ที่ผ่านมามีจำนวน535 คน เนื่องจากพบว่ามีการทุจริต
ด้าน พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า การป้องกันการทุจริตในครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่กระบวนการออกข้อสอบด้วยการใช้ คอมพิวเตอร์ชุดใหม่ทั้งหมดที่ไม่มีช่องต่อสายสัญญาณ ผู้ออกข้อสอบต้องถูกตรวจสอบด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ว่ามีการนำเครื่องอัดเทป หรือโทรศัพท์มือถือเข้าไปหรือไม่ ในขั้นตอนการพิมพ์ ผู้พิมพ์จะต้องถูกตรวจสอบเช่นเดียวกันเพื่อป้องกันข้อสอบรั่วไหล สำหรับผู้เข้าสอบกับผู้คุมสอบจะถูกตรวจสอบด้วยเครื่องสแกนเช่นเดียวกันเพื่อ ป้องกันไม่ให้มีอุปกรณ์ในการทุจริตหลุดเข้าไปเด็ดขาด ส่วนเครื่องสเปคตรัมอนาลิซิสที่ใช้ตรวจจับสัญญาณที่ถูกส่งมาจากภายนอกนั้น หากตรวจพบสัญญาณ จะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกไปตรวจสอบทิศทางทันทีว่าส่งมาจากจุดไหน เพื่อติดตามตัวผู้ต้องสงสัยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการสอบครั้งนี้ เป็นการสอบของสายอำนวยการ และ วันที่ 5 ส.ค. เป็นวันสอบของสายป้องกันและปราบปราม สำหรับกรุงเทพมหานครที่เป็นหน่วยกลางมีสนามสอบเพียงแห่งเดียวคือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 วิทยาเขตบางนา มี 13 ห้องสอบ 7 อาคาร โดยผู้สมัครสอบสายอำนวยการทั่วประเทศ 178,645 คน รับ 500 อัตรา สายป้องกันปราบปรามสมัคร 184,000 คน รับ 9,500 อัตรา โดยการสอบจะเริ่มเวลาเดียวกันทั่วประเทศคือ 14.00 - 16.30 น. แต่จะต้องมาถึงสนามสอบก่อนเวลา 12.00 น. เพื่อเข้ารับการตรวจพิสูจน์บุคคล ทั้งการตรวจบัตรประจำตัว พิมพ์ลายนิ้วมือ โดยจะไม่อนุญาตให้เข้าห้องสอบหลัง 13.30 น. เด็ดขาด มีขั้นตอนการตรวจสอบผู้เข้าสอบ โดยเริ่มจากเครื่องเอ็กซเรย์ วอล์คทู ซึ่งผู้เข้าสอบต้องแต่งกายตามระเบียบที่กำหนดให้สวมเสื้อยืดแขนสั้นไม่มีปก กางเกงวอร์ม สวมรองเท้ากีฬา และเตรียมบัตรประจำตัวผู้สอบ บัตรประชาชนให้พร้อม ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารและเครื่องมืออิเลคโทรนิกส์ทุกชนิดเข้าห้องสอบเด็ด ขาด เมื่อเดินผ่านเครื่องเอ็กซเรย์แล้ว หากสัญญาณไม่ดังก็เข้าสอบได้ทัน แต่หากมีเสียงสัญญาณดังขึ้น จนท.จะนำเครื่องสแกนตรวจสอบอีกครั้ง หากพบว่ามีโลหะหรือเครื่องมือสื่อสารจะถูกตัดสิทธิการสอบทันที อย่างไรก็ตามเบื้องต้นไม่พบผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าการสอบครั้งนี้ได้มีการนำอุปกรณ์เทคโนโลยีชนิด ต่างๆ ที่ถูกนำมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการทุจริตระหว่างการสอบ ได้แก่ เครื่องสเปคตรัมอนาลิซิส หรือเครื่องไอทีเอฟ ที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณที่มีการส่งเข้ามาภายนอกอาคารสอบ หากมีคลื่นความถี่แสดงขึ้นมาจะส่งสายตรวจออกไปตรวจสอบทันที เครื่องแจมเมอร์ ที่ใช้ตัดสัญญาณโทรศัพท์ความถี่ 800 900 1800 และ 1900 และเครื่องตัดสัญญาณรีโมทที่ถูกตั้งไว้ตามบริเวณต่างๆ รอบสนามสอบ จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศ ได้นำสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบในห้องสอบ โดยทางกรรมการจะสั่งให้ผู้สอบพับขากางเกงถึงหัวเข่า ถอดรองเท้า-ถุงเท้า จากนั้นกรรมการคุมสอบจะอธิบายขั้นตอนและระเบียบขณะอยู่ในห้องสอบให้ผู้เข้า สอบทราบ และให้พิมพ์ลายนิ้วมือพร้อมเซ็นชื่อกำกับเพื่อใช้ป้องกันการเข้าสอบแทนกัน รวมทั้งเป็นการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ระหว่างการสอบจะมีกรรมการถือเครื่องตรวจโลหะเดินวนรอบแถวที่นั่งสอบตลอดเวลา ประมาณ 9-10 คนต่อห้อง ทั้งนี้ระหว่างการตรวจกรรมการผู้คุมสอบจะสั่งให้ผู้เข้าสอบพักการทำข้อสอบ ด้วยการให้ยืนขึ้นเป็นระยะๆ แล้วกอดอกยืนนิ่งๆ ราว 2-3 นาที เนื่องจากหากมีการส่งสัญญาณเข้ามาจากภายนอก จะเป็นการรบกวนไม่ให้ผู้เข้าสอบจดจำสัญญาณได้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสอบนั้น ทางกรรมการจะไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบไปเข้าห้องน้ำเด็ดขาด แต่หากจำเป็นจริงๆ จะมี รปภ.เป็นคนเดินประกบพาไปตัวต่อตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.ต.อ.พงศพัศ ได้พาคณะสื่อมวลชนตรวจความเรียบร้อยได้มี น.ส.สุภาภรณ์ ดินดำ ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ามาร้องเรียน หลังจากที่เดินทางมาผิดสนาม โดย น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า เดินทางมาจากเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากตรวจสอบสนามสอบในเว๊ปไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าการสอบใหม่ ครั้งนี้คือสนามสอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 วิทยาเขตบางนา แต่เมื่อมาถึงก็ตรวจสอบว่าผังที่นั่งก็ปรากฏว่าไม่มีรายชื่อของตนปรากฏอยู่ สนามสอบที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ไปปรากฏที่สนามสอบที่ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นสนามสอบเดิมจากครั้งที่แล้ว อย่างไรก็ตามทาง รองผบ.ตร.ได้ทำการอนุโลมให้ น.ส.สุภาภรณ์ทำการสอบได้ที่สนามสอบนี้ได้ เนื่องจากเป็นความเข้าใจผิดกัน
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในวันนี้มีผู้เข้าสอบกว่า 178,645 คน จากทั่วประเทศ โดยวางแผนป้องกันการทุจริตการสอบในครั้งนี้ด้วยการจัดให้มีการสอบสถานที่ เดียว มีห้องสอบประมาณ 2,800 ห้องเพื่อให้การควบคุมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาตรวจสอบ ตั้งแต่ก่อนเข้าห้องสอบไปจนถึงขณะทำข้อสอบ เชื่อว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดิมขึ้นมาอีก ส่วนสาเหตุที่เลือกสถานที่สอบเป็นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 วิทยาเขตบางนา เป็นสถานที่สอบกลางนั้น เพราะการสอบครั้งที่ผ่านมามีการจัดสถานที่สอบมากเกินไปจึงไม่สามารถควบคุม การทุจริตได้ทั่วถึง แต่ในครั้งนี้มีสถานที่สอบเพียงแห่งเดียว จะช่วยให้ระบบป้องกันการทุจริตด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีทำได้ทั่วถึง
รองผบ.ตร. กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาการทุจริตโดยการเข้าสอบแทนกันนั้น ในการสอบครั้งนี้ได้เพิ่มมาตรการในการพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้เข้าสอบแต่ละคน สามารถนำไปใช้ตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลหลังการสอบต่อได้ และยังติดตั้งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพผู้เข้าสอบไว้ตลอดเวลา รวมทั้งมีการคุมเข้มเรื่องการออกข้อสอบเพื่อป้องกันข้อสอบรั่วไหลซี่งข้อสอบ มีทั้งหมด8ชุด ทั้งหมก 120ข้อ แบ่งเป็น3หมวดโดยแต่ละหมวดนั้นจะมีจำนวน40ข้อ และมีการคละหน้า คละหมวด คละข้อ คละชุดและในการสอบครั้งนี้หวังว่าให้อยากเป็นครั้งสุดท้ายเพราะสงสารผู้ที่ เข้าสอบนั้นต้องเดินทางมาจากทั่วประเทศจากเหนือสุดถึงใต้สุดของประเทศ ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่น้อยๆจึงอยากให้การสอบครั้งนี้เป็นครั้ง ท้ายเพื่อไม่อยากให้ผู้ที่ทำข้อสอบอย่างตั้งใจไม่ต้องมาเสียเวลากำคนที่โกง การสอบอีก อย่างไรก็ตามทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความจำเป็นต้องตัดสิทธิ์ผู้สอบครั้ง ที่ผ่านมามีจำนวน535 คน เนื่องจากพบว่ามีการทุจริต
ด้าน พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า การป้องกันการทุจริตในครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่กระบวนการออกข้อสอบด้วยการใช้ คอมพิวเตอร์ชุดใหม่ทั้งหมดที่ไม่มีช่องต่อสายสัญญาณ ผู้ออกข้อสอบต้องถูกตรวจสอบด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ว่ามีการนำเครื่องอัดเทป หรือโทรศัพท์มือถือเข้าไปหรือไม่ ในขั้นตอนการพิมพ์ ผู้พิมพ์จะต้องถูกตรวจสอบเช่นเดียวกันเพื่อป้องกันข้อสอบรั่วไหล สำหรับผู้เข้าสอบกับผู้คุมสอบจะถูกตรวจสอบด้วยเครื่องสแกนเช่นเดียวกันเพื่อ ป้องกันไม่ให้มีอุปกรณ์ในการทุจริตหลุดเข้าไปเด็ดขาด ส่วนเครื่องสเปคตรัมอนาลิซิสที่ใช้ตรวจจับสัญญาณที่ถูกส่งมาจากภายนอกนั้น หากตรวจพบสัญญาณ จะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกไปตรวจสอบทิศทางทันทีว่าส่งมาจากจุดไหน เพื่อติดตามตัวผู้ต้องสงสัยต่อไป