วันนี้ (4 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า
พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นอภิปรายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายรัฐมนตรี เป็นหลัก
โดยจะชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวใน 5 ประเด็นคือ 1.โครงการรับจำนำข้าว
ที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง
เคยระบุว่าหากโครงการรับจำนำข้าวเสียหายหรือใช้เงินมากกว่าโครงการประกันราย
ได้ในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะแสดงความรับผิดชอบนั้น
ขณะนี้ตัวเลขจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.)
ระบุว่าโครงการรับจำนำในฤดูที่ผ่านมาต้องแบกรับภาระกว่า 1 แสนล้านบาท
สูงกว่าโครงการประกันรายได้ที่ใช้งบประมาณ 6
หมื่นล้านบาท จึงอยากถามหาความรับผิดชอบจากนายกิตติรัตน์ให้แสดงสปิริต
รักษาคำพูดให้สมกับเป็นลูกผู้ชายว่าจะรับผิดขอบในฐานะที่เป็นรมว.คลังอย่าง
ไร
ประเด็นที่ 2 เรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมาตนและส.ส.ของพรรคได้ลงพื้นที่ จ.สงขลาและนั่งรถต่อไปอ.เบตง จ.ยะลา ได้เห็นถึงความตึงเครียด การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่ศุลาการก็ระบุว่า ทั้งที่เป็นวันหยุดยาวแต่บรรยากาศกลับเงียบเหงานักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่ กล้ามาเที่ยว เพราะสถานการณ์ไม่แน่นอน และรัฐบาลก็ไม่มีท่าทีชัดเจนในการจะแก้ปัญหาได้ ขณะที่ประชาชนก็สะท้อนมาว่ารู้สึกน้อยใจที่รัฐบาลดูไม่เอาจริงกับการดูแล ประชาชนในภาคใต้ เห็นได้จากการแต่งตั้งบุคลากรที่เหมือนไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีความรู้การแก้ปัญหา เห็นประชาชนภาคใต้เป็นเพียงสนามทดลองงานนักการเมือง งานความมั่นคง ใช้คนที่ไม่มีความรู้ ประสบการณ์ แค่อยากจะลองงานเผื่อประสบความสำเร็จอาจจะได้หน้าบ้าง
นอกจากนี้ ประชาชนยังได้พูดถึงการที่พรรคร่วมไป “ร้องเพลงสุขกันเถอะเรา”ในช่วงที่เกิดเหตุ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของประชาชน ดังนั้น อยากให้รัฐบาลตั้งสติ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นปัญหาของประเทศ นายกฯ ต้องตัดสินใจจะดูแลปัญหานี้อย่างไรจะมอบหมายให้กองทัพที่เป็นหน่วยหลักมา ดูแล ก็ต้องตัดวงจรในการส่งคนอื่นเข้าไปสร้างความวุ่นวาย เลิกใช้เวทีนี้ทดลองงานของมือสมัครเล่น
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า 3.ประเด็นเรื่องราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะในภาคใต้ที่ราคายางพาราตกต่ำ แม้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ จะขออนุมัติงบประมาณกว่า 3 หมื่นล้านบาทเพื่อพยุงราคายาง โดยคุยว่าจะทำให้ราคาขึ้นมาที่ 104 บาท สุดท้ายก็ยังทำไม่ได้ชาวสวนยางก็ยังขายยางในราคากิโลกกรัมแค่ประมาณ 80 บาทเท่านั้น ทั้งที่ได้มีการอนุมัติงบประมาณแล้วอยากถามว่าเอาไปทำอะไร ทำไมงบประมาณไม่ถึงมือประชาชน พยุงราคาตามที่สัญญาไม่ได้
4.เรื่องเหตุการณ์น้ำท่วมปี 54 ที่ผ่านมาถึงสาเหตุของน้ำท่วมที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ พยายามบอกว่าน้ำท่วมเป็นเพราะการเก็บน้ำของรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยกล่าวอ้างอิงว่านำมาจากนาซ่านั้น ทั้งที่จริงไม่ใช่แต่เป็นโนอา และเนื้อหายังระบุอีกว่าสาเหตุหลักเกิดจากนโยบายการกักเก็บน้ำในเขื่อนของ รัฐบาลชุดนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีปัญหาการจัดการน้ำล้มเหลวทำให้ประชาชนเสียชีวิตกว่า 800 ศพ รวมทั้งการใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกว่า 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งนายปลอดประสพใช้วิธีการจัดซื้อวิธีพิเศษแบบเดียวกันกับการก่อสร้างสวน สัตว์ไนท์ซาฟารี โดยการประมูลวิธีพิเศษ ไม่มีราคากลาง เอื้อต่อการทุจริตได้ง่าย ทั้งนี้ เราต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทพรรคพวก และญาติของตัวเอง
และ 5.ประเด็นที่รัฐบาลเปิดให้กัมพูชาได้รับสิทธิในการจัดการประชุมมรดกโลกครั้ง ต่อไปแต่เพียงผู้เดียว โดยรัฐบาลชุดนี้เปลี่ยนแปลงนโยบายในการจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้แผน บริหารจัดการรอบปราสาทพระวิหารที่เสนอโดยกัมพูชาขึ้นทะเบียนได้แต่เพียงผู้ เดียว จงใจเปลี่ยนนโยบายที่สุ่มเสี่ยงว่าเราจะแพ้ในเวทีการต่อสู้ปราสาทพระวิหาร ดังนั้น รัฐบาลต้องตอบคำถามว่าถ้าไม่ได้ขายชาติ หรือซูเอี๋ยกับกัมพูชาทำไมถึงยินยอม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่ามีคำสั่งจากนักการเมืองให้กระทรวงการต่างประเทศฟ้องร้องตนใน กรณีนำเอาเอกสารมาเปิดเผย ตนยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่เอกสารที่มีตราครุฑ หรือชั้นความลับ จึงไม่ใช่เรื่องผิด แต่กลับพยายามสั่งข้าราชการหาช่องเล่นงานตน ดังนั้น อยากเตือนว่าพวกท่านกำลังปกปิดสิ่งที่จะทำลายชาติ ปกปิดจดหมายที่มีเนื้อหาแสดงว่าไทยสูญเสียอธิปไตย และผลประโยชน์อย่างมหาศาล ที่ผ่านมาตนไม่เคยเล่นงานข้าราชการ แต่ถ้าจะฟ้องจริงๆ ตนฟ้องกลับคนที่เกี่ยวข้องทุกคน ตั้งแต่ระดับนิติกรจนกระทั่งปลัดกระทรวง อยากเตือนข้าราชการไม่อยากให้ตก เป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง แต่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศกับตน
นายชวนนท์ ยังกล่าวกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่าถ้ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็จะ นำเรื่องการเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาโต้กลับ ว่า สะท้อนการล่มสลายทางความคิดของรัฐบาล เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน แต่คำพูดที่สะท้อนให้เห็นคือรัฐบาลสมองกลวง ไม่มีเรื่องที่เป็นประโยชน์มีสาระมาเสนอกับประชาชน แต่กลับเอาเรื่องไร้สาระที่ไม่เป็นประโยชน์กับประชานแทน มุ่งแต่เอาประเด็นการเมือง
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ทางพรรคจะเน้นที่ตัวนายกฯ เป็นหลัก เนื่องจากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลอยู่ในวิสัยของนายกฯ ที่จะตอบได้ นอกจากนี้ การอภิปรายครั้งนี้เพื่ออยากให้นายกฯ แสดงภาวะผู้นำ การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยบอกว่าไม่ยุ่งเรื่องการเมือง มุ่งแต่ทำงานนั้น ก็คงจะตอบและชี้แจงการอภิปรายได้ ส่วนจะมีรัฐมนตรีตามกระทรวงการต่างๆ หรือไม่นั้น ก็ต้องดูข้อมูลก่อน แต่เราพยายามทำให้มีชื่อน้อยที่สุด เพราะอยากให้นายกฯ ใช้โอกาสนี้แสดงศักยภาพได้เต็มที่ ไม่อยากให้ลิ่วล้อมาตอบแทน ส่วนฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อใดนั้นกำลังประสานงานกับทาง วิปรัฐบาลก่อน ยืนยันว่าการยื่นอภิปรายไม่ได้รังแกนายกฯ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ถ้าคิดว่าเป็นการรังแกก็ควรไปทำอาชีพอื่น” นายชวนนท์ กล่าว.
ประเด็นที่ 2 เรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมาตนและส.ส.ของพรรคได้ลงพื้นที่ จ.สงขลาและนั่งรถต่อไปอ.เบตง จ.ยะลา ได้เห็นถึงความตึงเครียด การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่ศุลาการก็ระบุว่า ทั้งที่เป็นวันหยุดยาวแต่บรรยากาศกลับเงียบเหงานักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่ กล้ามาเที่ยว เพราะสถานการณ์ไม่แน่นอน และรัฐบาลก็ไม่มีท่าทีชัดเจนในการจะแก้ปัญหาได้ ขณะที่ประชาชนก็สะท้อนมาว่ารู้สึกน้อยใจที่รัฐบาลดูไม่เอาจริงกับการดูแล ประชาชนในภาคใต้ เห็นได้จากการแต่งตั้งบุคลากรที่เหมือนไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีความรู้การแก้ปัญหา เห็นประชาชนภาคใต้เป็นเพียงสนามทดลองงานนักการเมือง งานความมั่นคง ใช้คนที่ไม่มีความรู้ ประสบการณ์ แค่อยากจะลองงานเผื่อประสบความสำเร็จอาจจะได้หน้าบ้าง
นอกจากนี้ ประชาชนยังได้พูดถึงการที่พรรคร่วมไป “ร้องเพลงสุขกันเถอะเรา”ในช่วงที่เกิดเหตุ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของประชาชน ดังนั้น อยากให้รัฐบาลตั้งสติ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นปัญหาของประเทศ นายกฯ ต้องตัดสินใจจะดูแลปัญหานี้อย่างไรจะมอบหมายให้กองทัพที่เป็นหน่วยหลักมา ดูแล ก็ต้องตัดวงจรในการส่งคนอื่นเข้าไปสร้างความวุ่นวาย เลิกใช้เวทีนี้ทดลองงานของมือสมัครเล่น
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า 3.ประเด็นเรื่องราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะในภาคใต้ที่ราคายางพาราตกต่ำ แม้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ จะขออนุมัติงบประมาณกว่า 3 หมื่นล้านบาทเพื่อพยุงราคายาง โดยคุยว่าจะทำให้ราคาขึ้นมาที่ 104 บาท สุดท้ายก็ยังทำไม่ได้ชาวสวนยางก็ยังขายยางในราคากิโลกกรัมแค่ประมาณ 80 บาทเท่านั้น ทั้งที่ได้มีการอนุมัติงบประมาณแล้วอยากถามว่าเอาไปทำอะไร ทำไมงบประมาณไม่ถึงมือประชาชน พยุงราคาตามที่สัญญาไม่ได้
4.เรื่องเหตุการณ์น้ำท่วมปี 54 ที่ผ่านมาถึงสาเหตุของน้ำท่วมที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ พยายามบอกว่าน้ำท่วมเป็นเพราะการเก็บน้ำของรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยกล่าวอ้างอิงว่านำมาจากนาซ่านั้น ทั้งที่จริงไม่ใช่แต่เป็นโนอา และเนื้อหายังระบุอีกว่าสาเหตุหลักเกิดจากนโยบายการกักเก็บน้ำในเขื่อนของ รัฐบาลชุดนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีปัญหาการจัดการน้ำล้มเหลวทำให้ประชาชนเสียชีวิตกว่า 800 ศพ รวมทั้งการใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกว่า 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งนายปลอดประสพใช้วิธีการจัดซื้อวิธีพิเศษแบบเดียวกันกับการก่อสร้างสวน สัตว์ไนท์ซาฟารี โดยการประมูลวิธีพิเศษ ไม่มีราคากลาง เอื้อต่อการทุจริตได้ง่าย ทั้งนี้ เราต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทพรรคพวก และญาติของตัวเอง
และ 5.ประเด็นที่รัฐบาลเปิดให้กัมพูชาได้รับสิทธิในการจัดการประชุมมรดกโลกครั้ง ต่อไปแต่เพียงผู้เดียว โดยรัฐบาลชุดนี้เปลี่ยนแปลงนโยบายในการจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้แผน บริหารจัดการรอบปราสาทพระวิหารที่เสนอโดยกัมพูชาขึ้นทะเบียนได้แต่เพียงผู้ เดียว จงใจเปลี่ยนนโยบายที่สุ่มเสี่ยงว่าเราจะแพ้ในเวทีการต่อสู้ปราสาทพระวิหาร ดังนั้น รัฐบาลต้องตอบคำถามว่าถ้าไม่ได้ขายชาติ หรือซูเอี๋ยกับกัมพูชาทำไมถึงยินยอม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่ามีคำสั่งจากนักการเมืองให้กระทรวงการต่างประเทศฟ้องร้องตนใน กรณีนำเอาเอกสารมาเปิดเผย ตนยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่เอกสารที่มีตราครุฑ หรือชั้นความลับ จึงไม่ใช่เรื่องผิด แต่กลับพยายามสั่งข้าราชการหาช่องเล่นงานตน ดังนั้น อยากเตือนว่าพวกท่านกำลังปกปิดสิ่งที่จะทำลายชาติ ปกปิดจดหมายที่มีเนื้อหาแสดงว่าไทยสูญเสียอธิปไตย และผลประโยชน์อย่างมหาศาล ที่ผ่านมาตนไม่เคยเล่นงานข้าราชการ แต่ถ้าจะฟ้องจริงๆ ตนฟ้องกลับคนที่เกี่ยวข้องทุกคน ตั้งแต่ระดับนิติกรจนกระทั่งปลัดกระทรวง อยากเตือนข้าราชการไม่อยากให้ตก เป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง แต่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศกับตน
นายชวนนท์ ยังกล่าวกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่าถ้ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็จะ นำเรื่องการเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาโต้กลับ ว่า สะท้อนการล่มสลายทางความคิดของรัฐบาล เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน แต่คำพูดที่สะท้อนให้เห็นคือรัฐบาลสมองกลวง ไม่มีเรื่องที่เป็นประโยชน์มีสาระมาเสนอกับประชาชน แต่กลับเอาเรื่องไร้สาระที่ไม่เป็นประโยชน์กับประชานแทน มุ่งแต่เอาประเด็นการเมือง
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ทางพรรคจะเน้นที่ตัวนายกฯ เป็นหลัก เนื่องจากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลอยู่ในวิสัยของนายกฯ ที่จะตอบได้ นอกจากนี้ การอภิปรายครั้งนี้เพื่ออยากให้นายกฯ แสดงภาวะผู้นำ การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยบอกว่าไม่ยุ่งเรื่องการเมือง มุ่งแต่ทำงานนั้น ก็คงจะตอบและชี้แจงการอภิปรายได้ ส่วนจะมีรัฐมนตรีตามกระทรวงการต่างๆ หรือไม่นั้น ก็ต้องดูข้อมูลก่อน แต่เราพยายามทำให้มีชื่อน้อยที่สุด เพราะอยากให้นายกฯ ใช้โอกาสนี้แสดงศักยภาพได้เต็มที่ ไม่อยากให้ลิ่วล้อมาตอบแทน ส่วนฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อใดนั้นกำลังประสานงานกับทาง วิปรัฐบาลก่อน ยืนยันว่าการยื่นอภิปรายไม่ได้รังแกนายกฯ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ถ้าคิดว่าเป็นการรังแกก็ควรไปทำอาชีพอื่น” นายชวนนท์ กล่าว.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น