วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

จ่อหมายจับยิงยี่ปั๊วหวย "คำรณวิทย์" ฟันธงปมหักยาเสพติด


จากกรณีคนร้ายซิ่งจยย.ประกบยิงนายอดิศร ศรีสุข อายุ 29 ปี เอเย่นต์สลากกินแบ่งรัฐบาล และมีหมายจับเกี่ยวกับคดียาเสพติดในท้องที่ สน.บางพลัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสคารถเบนซ์สปอร์ต รุ่น อี 350 ซีดีไอ สีขาว ทะเบียน สส 6116 กทม. ภายในหมู่บ้านตะวันนา แยก 5-1 ซอยวิภาวดีรังสิต 32 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร นอกจากนี้เพื่อนที่นั่งมาด้วยยังบาดเจ็บอีก 2 คน คือนายอดิศักดิ์ ทองห่อ อายุ 25 ปี นศ.มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และนายพอพล นราศักดิ์ อายุ 25 ปี พนักงานติดตามหนี้สินของบริษัทเอกชนนั้น และประกบยิงนายทัศนนท์ พงษ์อาสา อายุ 28 ปี พยานปากเอกในคดีเสียชีวิตที่ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่สน.หลโยธิน พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. ได้เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง จากนั้นนำวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในร้านสะดวกซื้อ ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุมาเปิดดู พบผู้ต้องสงสัยได้เข้าไปซื้อเบียร์จำนวน 2 กระป๋องก่อนเกิดเหตุ พล.ต.ต.คำรณวิทย์เปิดเผยว่า คดีนี้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีความเกี่ยวพันกับคดีที่ บก.น.7  จับยาบ้าจำนวน 180,000 เม็ด และยาไอซ์จำนวน 4 กก.เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยตัวละครนั้นมีความเชื่องโยงกันของเครือข่ายค้ายาเสพติด และยังพบว่ามีการฆ่าตัดตอนกันเพราะเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายทัศนนท์พยานปากเอกในคดี ที่คนร้ายยิงนายอดิศรได้รับบาดเจ็บพร้อมเพื่อน หลังพยานนำคนเจ็บพร้อมเพื่อน ส่ง รพ.ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ได้ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตใน จ.เพชรบุรี ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกันแน่นอน ตอนนี้ได้มอบหมายให้ทางชุดสืบสวนของกก.สส. น.2 ชุดสืบสวนของสน.พหลโยธิน และชุดสืบสวนของ สส.ภ.7 แบ่งงานกันทำ
ส่วนคดีมีความคืบหน้าไปมากและผลการตรวจจากกองตรวจพิสูจน์หลักฐานอาจล่า ช้าไปบ้าง เพราะติดวันหยุดเสาร์และอาทิตย์  ขณะนี้ได้มุ่งประเด็นไปในแนวทางเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ รีบเข้ามาให้ข้อมูลโดยเร็วก่อนจะถูกฆ่าตัดตอน และขบวนการนี้พบว่าเป็นขบวนการใหญ่ ส่วนมือปืนนั้นเชื่อว่าเป็นกลุ่มมือปืนรับจ้าง ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกเช่นเดียวกัน ส่วนภาพสเก็ตคนร้ายทั้ง 2 คนที่ก่อเหตุยิงนายอดิศรนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าอีกไม่เกิน 2 วันออกหมายจับได้.

แถลงผลจับพนันบอลยูโรจับแล้ว 1,524 ราย


เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 มิ.ย. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น.ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลยูโร 2012 กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการพนันทายผลฟุตบอล ผลการปฏิบัติงานประจำวันที่ (24 มิ.ย.) ที่ผ่านมานั้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 79 ราย เป็นเจ้ามือโต๊ะบอล 1 ราย ส่วนผู้เล่นพนันฟุตบอลอีก 78 ราย ได้เงินสดของกลาง 2,160 บาท และมูลค่ายอดเงินในโพยบอลทั้งหมด 29,000 บาท

พล.ต.ต.สาโรจน์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนัน ตั้งแต่วันที่ 8-23 มิ.ย. ที่ผ่านมา สามารถจับกุมนักพนันได้ทั้งหมด 1,559 ราย ได้ผู้ต้องหา 1,574 คน แบ่งเป็นเจ้ามือ 50 คน ผู้เล่น 1,524 คน รวมทั้งยึดเงินสดของกลางได้ทั้งหมด 158,940 บาท โดยมูลค่าเงินในโพยบอลรวมกว่า 5,372,770 บาท นอกจากนี้ยังมียอดเงินสดในบัญชีอีก 510,000 บาท

ผบช.ภ.2 ยันสั่งเด้ง“ผกก.พัทยา” เซ่นพิษบ่อน


เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 มิ.ย.  พล.ต.ท.ปํญญา มาเม่น ผบช.ภ.2  เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งที่ 224/2555 ลงวันที่ 22 มิ.ย. 55 ถึง พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ให้ไปช่วยราชการที่ บก.อก.ภ.2  เป็นเวลา 60 วัน โดยมีผลตั้งวันที่ 23 มิ.ย. เป็นต้นไป และให้ พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ ผกก.สส.ภ.จ.ชลบุรี ไปรักษาราชการแทน เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง

กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจปราบปรามอบายมุของ พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.ชลบุรี ที่มี พ.ต.ท.วัชเรศร์ น้อยประดิษฐ์ รอง ผกก.ป.สภ.บ่อวิน  เป็นหัวหน้าชุด นำกำลังเข้าจับกุมบ่อนการพนัน ไฮโล-เต๋าปั่น ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยพัทยา 4 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ผู้ต้องหา 74 คน พร้อมอุปกรณ์การเล่นพนันจำนวนหนึ่ง และเงินของกลางจำนวน 37,560 บาท เมื่อกลางดึกวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหาบนชั้น 2 ของ สภ.เมืองพัทยา ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อไฟฟ้าบนโรงพักเกิดดับกะทันหัน ทำให้นักพนันพากันวิ่งหนีไปเกือบหมดเหลือเพียง 13 คนเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่สมควรจะเกิดขึ้นได้ จึงถือเป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ธรรมนูญ อย่างมาก จึงมีคำสั่งย้ายด่วนเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว.

กล้องวงจรปิดจับภาพมือบึ้มคุกสุราษฎร์-จ่อออกหมายจับ


กรณีมีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ลักลอบนำระเบิดสังหารบุคคล แบบเคโม เอ็ม 18 เอ 1 เข้าไปวางที่กำแพงเรือนจำกลางจ.สุราษฎร์ธานี ก่อนกระโดดข้ามรั้วโรงเรียนประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งอยู่ใกล้กันแล้วกดฉนวนระเบิด หวังทำลายกำแพงเรือนจำ แต่แรงระเบิดทำได้เพียงสร้างความเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการวางแผนทำลายกำแพงเรือนจำ เพื่อเปิดทางให้นักโทษคดีอุจฉกรรจ์หลบหนี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ต.ต.วิทูร ธรรมรักษา ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปความคืบหน้าของคดี โดยมีนายสุชิน ดำกระเด็น ผบ.เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมประชุมด้วย โดยได้นำภาพของการประกอบวัตถุระเบิดชนิดสังหารบุคคล แบบเคโม M18A1 มาประกอบการประชุม เพื่อหาแหล่งที่มาของอาวุธ

นอกจากนั้นยังได้มีการแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจติดตามสืบสวนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ที่ได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียนประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ขณะลอบเข้าไปวางระเบิด จนถึงขั้นตอนของการกดระเบิดแล้ววิ่งหลบหนีออกทางประตูหน้าของโรงเรียน โดยพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีลักษณะเป็นชายวัยรุ่นอายุระหว่าง 20-23 ปี รูปร่างสูงโปร่ง ซึ่งสามารถเห็นรูปพรรณและใบหน้าค่อนข้างชัดเจน โดยขณะนี้ชุดสืบสวนของ บก.สส.ภ.8 ได้ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ออกติดตามหาเบาะแสเกี่ยวกับกลุ่มคนร้ายแล้ว คาดว่าจะมีความคืบหน้าและจะออกหมายจับได้ในเร็วๆ นี้

ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รอง ผบก.(ปป.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากเดิมที่มีการเข้าใจว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากการสอบปากคำพยานในครั้งแรกพยานเกิดความสับสน ซึ่งจากการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสืบสวนหาข่าว พบว่ากลุ่มคนร้ายใช้รถโดยสารตุ๊กตุ๊กเป็นยานพาหนะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ และอาจเป็นไปได้ว่ายังมีรถยนต์ของกลุ่มคนร้ายมารอรับ ณ จุดใดจุดหนึ่ง สำหรับแนวทางการสืบสวนขณะนี้ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เร่งนำตัวผู้ขับรถโดยสารตุ๊กตุ๊ก ที่เข้าไปจอดรอรับผู้โดยสารบริเวณหน้าเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี และรถโดยสารที่จอดอยู่บนถนนดอนนก ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ มาสอบสวนปากคำ อย่างไรก็ตามขณะนี้เราพอจะมีเบาะแสเกี่ยวกับรถโดยสารที่รับผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนออกจากที่เกิดเหตุไปแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตามตัว

พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเก็บพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์นั้น ทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้ดำเนินการตรวจเก็บดีเอ็นเอจากหลักฐานวัตถุ คือกระเป๋าเป้ที่คนร้ายใช้ใส่วัตถุระเบิด รวมถึงเสื้อคลุมที่คนร้ายทำหล่นไว้ในที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นยังได้เก็บลายนิ้วมือแฝงที่แผงเหล็ก ซึ่งคนร้ายใช้ปีนข้ามกำแพงไปยังบริเวณโรงเรียนประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุม นายสุชิน ดำกระเด็น ผบ.เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ได้นำภาพด้านในเขตควบคุมผู้ต้องขัง ตรงกับจุดที่มีการวางระเบิดมาแสดงและวิเคราะห์ว่า ถึงแรงระเบิดทำให้กำแพงเสียหายเป็นช่องโหว่ แต่นักโทษที่อยู่ภายในเรือนจำก็ยังไม่สามารถหลบหนีออกทางช่องกำแพงได้ทันที เนื่องจากยังมีรั้วลวดหนามกั้นอยู่อีก 1 ชั้น ทำให้ต้องใช้เวลาในการหลบหนี และจากการวิเคราะห์สาเหตุร่วมกัน คาดว่าอาจจะเป็นการข่มขู่ หรือสร้างสถานการณ์จากกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์จากการลักลอบนำโทรศัพท์เข้าไป ในเรือนจำ เนื่องจากวัตถุระเบิดที่ใช้ไม่มีอานุภาพพอที่จะทำลายกำแพงได้ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาทางเรือนจำได้เข้มงวดและตรวจยึดโทรศัพท์ได้จำนวน หนึ่ง รวมถึงจุดที่มีการวางระเบิด มักถูกใช้เป็นจุดที่ใช้ขว้างส่งโทรศัพท์มือถือเข้าไปภายในเรือนจำอยู่บ่อย ครั้ง จึงมีความเป็นไปได้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ในการส่งมือถือ เข้าเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี มากกว่ากลุ่มที่พยายามช่วยเหลือนักโทษหลบหนี.

ซิ่งปิกอัพอัดต้นไม้ตาย 4เจ็บ 5 สลดมีเด็ก 2ขวบด้วย


เมื่อเวลา  08.30 น.  วันที่  24  มิ.ย.  พ.ต.ท.สุเทพ  ศรีเกษม  สารวัตรเวร สภ.บางคล้า  จ.ฉะเชิงเทรา  ได้รับแจ้งมีรถชนต้นไม้ข้างทางทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็น จำนวนมาก ที่บริเวณหน้าบริษัทไทยแอโรว์  ถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา พนมศาลาคราม  กม.ที่ 9  หมู่  4   ต.เสม็ดใต้  จึงได้ไปสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา โดยในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ตฮ- 6697 กทม. ด้านหน้าชนอัดติดอยู่กับต้นไม้ข้างทางพังยับเยิน  ภายในรถด้านหน้ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน จำนวน 4 คน ซึ่งเป็นชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน และ เด็กชาย อีก 1 คน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายสมดี  สุวรรณพรหม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่  4  ต.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ   เป็นคนขับรถ น.ส.สุดาพร  สีดาบุญ  อายุ  27 ปี  นายนิยม  สุทธินอก  อายุ  29  ปี และเด็กชายไม่ทราบชื่อ  อายุ ประมาณ 2 – 4 ขวบ
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่นั่งมาที่กระบะรถด้านหลัง จำนวน 5 คน กระเด็นตกออกมานอกรถได้รับบาดเจ็บนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด มีนายจำนง  ภูดเปร็ง  อายุ  30  ปี  นางมี  จันทร์ชมพู่  อายุ  34 ปี  นายแสวง  สุดธีพงศ์  อายุ  41  ปี  น.ส.จำนงค์  สุวรรพรม  อายุ  28  ปี และชายไม่ทราบชื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร

สอบสวนเบื้องต้น นายแสวง  ผู้ได้รับบาดเจ็บ  ให้การว่า  ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเป็นช่างร้านตกแต่งรถจักยานยนต์ อยู่ย่านเพชรเกษม  กรุงเทพมหานคร  โดยในช่วงเช้าได้พาเพื่อนๆ  เพื่อไปเที่ยวที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยรถยนต์  จำนวน  3  คัน ซึ่งคันที่ได้มาเกิดอุบัติเหตุได้ออกมาก่อน โดยขับมุ่งหน้าไปทาง อ.พนมสารคาม เพื่อไปจังหวัดปราจีนบุรี  ด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถได้เกิดเสียหลักแล้วพุ่งเข้าชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง จนตัวเองและเพื่อนๆที่นั่งมากระบะหลังกระเด็นตกรถจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและ เสียชีวิตดังกล่าว  เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนขับอาจจะหลับในจนรถเสียหลักพุ่งลงไปชนต้นไม้ ข้างทาง เนื่องจากไม่มีรอยเบรคของรถคันคันที่เกิดอุบัติเหตุ จนทำให้กลายเป็นอุบัติเหตุตายสยองถึง 4 ศพ และได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ดี ตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

เหี้ยม!ฆ่าหนุ่มยัดถังน้ำมันโบกปูนหมกบ่อ


เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (24 มิ.ย.) พ.ต.ท.ทรงวุฒิ นาคมาลี สวส.สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี รับแจ้งพบศพถูกฆ่ายัดถังน้ำมัน 200 ลิตร ในบ่อน้ำกลางสวนมันสำปะหลัง หมู่ 9 ต.หนองสรวง รุดไปตรวสจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมเกียรติ พูลธนะ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วิชัยนาวิน อนันต์ รอง ผกก.(ป.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำลึก 3 เมตร มีกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ หน่วยกู้ภัยจึงลงไปช่วยกันยกถังน้ำมันขึ้นมาตรวจสอบ พบเป็นถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรมีปูนโบกปิดทับ เจ้าหน้าที่จึงใช้ค้อนมาช่วยกันทุบเอาปูนออก พบว่าภายในถังมีศพชายศีรษะทิ่มอยู่ก้นถัง ใส่เสื้อยืดคอกลมลายสี กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัวสีเขียว
สภาพศพกำลังเน่าเปื่อย ใบหน้าถูกตีจนยุบ และมีร่องรอยถูกฟันที่ไหล่ขวา เบื้องต้นคาดผู้เสียชีวิตอายุระหว่าง 30-35 ปี เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 10 วัน จากการสอบสวนนายสัมฤทธิ์ รุ่งรำพรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ให้การว่าก่อนเกิดเหตลูกบ้านคนหนึ่งได้ออกไปหาปลาในบ่อน้ำดังกล่าว และได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพ จึงมาแจ้งให้ตนทราบ จึงไปตรวจสอบและแจ้งตำรวจทราบดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานผู้ตายนั่งถูกฆ่ามาจากที่อื่น จากนั้นนำศพมายัดใส่ถังน้ำมันก่อนโบกปูนปิดทับโยนทิ้งบ่อน้ำ ซึ่งจะสืบสวนว่าผู้ตายเป็นใครต่อไป ส่วนสาเหตุตั้งไว้หลายประเด็นทั้งล้างแค้นส่วนตัว หักหลังในธุรกิจบางอย่าง และฆ่าชิงทรัพย์

ระทึก!ไฟไหม้คลังน้ำมันวอด


เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 24 มิ.ย.) พ.ต.ท.บัญชา คงมั่น สารวัตรเวร สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ ที่บริเวณแคมป์ที่พักคนงานของบริษัทพิสิษฐ์ ก่อสร้าง และขนส่ง รับเหมาก่อสร้างถนนคอนกรีต แยกจากถนนปทุมธานี-บางเลน เข้าไปทางวัดสุทธาวาส หมู่ 5 ต.ลาดหลุมแก้ว ประมาณ 3กม. หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบเพลิงกำลังลูกไหม้คลังเก็บน้ำมันของบริษัทดังกล่าว โดยมีรถดับเพลิงจากเทศบาลใก้ลเคียงประมาณ 10 คัน ช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิง  ซึ่งในขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้ ได้มีเสียงระเบิดของถังน้ำมันดังออกมาเป็นระยะ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องทำงานกันอย่างระมัดระวัง และใช้เวลากว่า 1ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ ได้                                                                     

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าคลังน้ำมันดังกล่าวมีถังน้ำมันขนาดบรรจุประมาณ 20,000 ลิตรอยู่จำนวน4ใบ และถังบรรจุน้ำมันขนาด200ลิตรอีกประมาณ 20-30 ใบ ส่วนปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ทั้งหมด ภายในถังขนาดใหญ่ และขนาด 200ลิตร นั้นจะมีอยู่เท่าไรยังไม่มีใครทราบจำนวนที่แท้จริง เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีเพียงคนงานที่พักอาศัยอยู่ในแคมป์ที่พักเท่านั้น ส่วนทางเจ้าของบริษัททราบชื่อต่อมาคือนายอภิสิษฐ์  จันทรานนท์ นั้นไม่อยู่

พ.ต.ท.นันทรังสรรค์  สอนเจต รอง ผกก.สส.สภ.ลาดหลุมแก้ว ซึ่งได้เดินทางมาที่เกิดเหตุได้เปิดเผยว่า จากการสอบถามคนงานที่อยู่ในแคมป์ที่พักทราบว่า ครั้งแรกได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากคลังน้ำมันเมื่อหันไปดูก็พบแสงเพลิงลุก ไหม้ ตอนแรกก็ได้ช่วยกันเอาสารเคมีไปฉีดดับไฟ  แต่ไม่สามารถดับได้และไฟก็ได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว และเริ่มมีเสียงระเบิดดังขึ้นทุกคนจึงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดกันออกมา ส่วนสาเหตุนั้นคงต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียด และในส่วนของความเสียหายนั้นคงรอสอบสวนนายอภิสิษฐ์ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทว่า จำนวนน้ำมันนั้นมีอยู่เท่าไร ส่วนค่าเสียนอกจากน้ำมัน เบื้องต้นทราบว่าเป็นน้ำมันดีเซล ยังมีตัวโกดัง และบ้านพักของคนงาน อีก6ห้องพร้อมทั้งข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งต้องรอผลของการสอบสวนว่าเบื้องต้นสาเหตุเกิดมาจากอะไร

ปส.โชว์ฟิตยึดยานรกลอตมโหฬาร250ล้านบาท


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ไชยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.ภ.จว.พะเยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันแถลงข่าวจับนายธวัฒชัย หรือสม คำสิงห์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 1 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 37 กิโลกรัม ยาบ้า 639,600 เม็ด รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียนป้ายแดง ฐ 1265 กรุงเทพมหานคร รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว ทะเบียนป้ายแดง  ถ 3847 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด  จุดตรวจสกัดกั้น (นาแก) ได้ออกตรวจตามเส้นทางระหว่างจุดตรวจนาแก จนถึงเขตติดต่อ จ.ลำปางและ จ.พะเยา ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 23 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์จำนวน 2 คัน เป็นรถยนต์ใหม่ติดทะเบียนป้ายแดง จอดอยู่บริเวณข้างทาง บนถนนพหลโยธิน (ขาล่อง) ต.นาแก อ.งาว จ.ลำปาง ห่างจากจุดตรวจนาแกประมาณ 10 กม. พบรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ จอดเปิดไฟกระพริบอยู่ด้านหน้ารถเก๋ง โตโยต้า อัลติส ห่างกันประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่ทั้งสองคันกลับขับหนี
เจ้าหน้าที่จึงรีบติดตามไปพบรถกระบะ แอบขับเข้าไปจอดในปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ ต.นาแก อ.งาว จ.ลำปาง จึงควบคุมตัวนายธวัฒชัย คนขับไว้ได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุดได้ติดตามรถเก๋ง ไปพบว่าคนขับได้ขับรถไปจอดในป่าละเมาะข้างบ้านร้างห่างจากจุดตรวจแม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา ประมาณ 2 กม. และหลบหนีไป จากการตรวจค้นในรถพบยาบ้าซ่อนอยู่ในช่องเก็บของบริเวณคันเกียร์ 1,600 เม็ด ส่วนที่กะโปรงท้ายพบยาบ้า 638,000 เม็ด และยาไอซ์น้ำหนัก 37 กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง แต่ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับของกลางที่พบ ส่วนที่พยายามขับหนี เพราะความกลัวเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาส่งพนักงานสอบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ระทึก! รถปอ.504 ซิ่งพลิกเทกระจาดเจ็บระนาว 32


เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 24 มิ.ย. พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อินทร์เทศ พงส.(สบ2) งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ ทางพิเศษ กก.2  บก.จร. รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถประจำทางพลิกตะแคงบริเวณหน้าบริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบรถประจำทางปรับอากาศสาย 504 วิ่งระหว่างรังสิต-สะพานกรุงเทพ ทะเบียน 14-4132 กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกตะแคงขวา กระจกหน้าแตก มีผู้บาดเจ็บร้องโอดโอยจำนวนมาก จึงรีบปิดการถนน ส่งผลให้การจราจรติดขัดมาก จากนั้นรีบลำเลียงส่ง รพ.วิภาวดี 23 ราย เป็นหญิง 10 ชาย 13 สาหัส 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.มลฤดี หนูเผ่า อายุ 30 ปี ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 9 คนถูกนำส่ง รพ.เปาโลเมมโมเรียม สะพานควาย ซึ่งต่างได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก แพทย์เยียวยาเบื้องต้นแล้วอนุญาตให้กลับบ้านได้
สอบสวนนายนฤชา สิทธิเอียมศักดิ์ อายุ 57 ปี คนขับรถคันดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับมาจากอู่ย่านรังสิต มีผู้โดยสารประมาณ 40 คน แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุกลับถูกรถเก๋งไม่ทราบรายละเอียดพุ่งจากเลนช่องทาง ด่วนมาปาดหน้า จึงหักหลบไปชนขอบทางจนพลิกคว่ำดังกล่าว แต่จากการสอบปากคำผู้โดยสารกลับให้การขัดแย้งกับคนขับ  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินราชการ เสียหายและมีผู้ได้รับอันตรายแก่กายคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

"ปชป."ขู่ร้อง "ป.ป.ช." -ฟันอาญา "ดีเอสไอ" รับคดี "กทม." ต่อสัญญา"บีทีเอส"


วันนี้ ( 24 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งจะประชุมในวันที่ 27มิ.ย.นี้ว่า จะมีการพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ 2 ประเด็นคือ 1.การที่กรุงเทพมหานคร (กทม.)  ให้บริษัทกรุงเทพธนาคม หรือ (เคที)  ว่าจ้างบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซีเดินรถ 30 ปี และ 2.กรณีเงินบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคเพื่อไทยตั้งเรื่องเพื่อกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพื่อนำไปสู่การยุบพรรค
ทั้งนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจในการรับเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาเป็นคดีพิเศษ  แต่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ป.ป.ช.มาตราที่ 66 ที่ให้อำนาจ ป.ป.ช.พิจารณาความผิดของข้าราชการการเมือง   เพราะก่อนหน้านี้เคยมีคดีบรรทัดฐานเช่นเดียวกันเอาไว้ เช่น คดี ซีซีทีวี ของกทม.   โดยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เคยออกมายอมรับเองว่าไม่มีอำนาจรวมทั้ง ดีเอไอ ยังเคยสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกา ในเรื่องทุจริตในสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย กระทรวงมหาดไทย ก็ตอบกลับว่าไม่มีอำนาจเช่นกัน เนื่องจาก ดีเอสไอไม่สามารถพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการการเมืองได้
นายสกลธี กล่าวว่า หากการประชุมในวันที่ 27มิ.ย.ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษมีมติเสียงข้างมากคือ 2 ใน 3 รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นคดีพิเศษ ทางทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์และกทม.ก็จะเดินหน้าร้องต่อ ป.ป.ช.ต่อไปในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกับผู้ลงมติเห็นรับเรื่องดังกล่าว รวมทั้งดำเนินดีอาญาแก่ผู้เกี่ยวข้องด้วย  ทั้งนี้สังเกตได้ว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาของอธิบดีเอสไอมีพฤติกรรมที่รับลูกทาง การเมือง เปรียบได้กับเป็นกรมสอบสวนคดีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าข้าราชการที่ทำในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ มีการก้าวกระโดดในตำแหน่งหน้าที่ เพราะคนที่เคยต่อสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ ได้ดีทุกคน โดยไม่มีใครมีตำแหน่งต่ำกว่าระดับอธิบดีในกระทรวงยุติธรรมสักคน อย่างไรก็ตามยืนยันพรรคประชาธิปัตย์ ไม่กลัวการตรวจสอบ แต่ต้องการเห็นความโปร่งใสและเป็นธรรม อีกทั้งกลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือทางการเมืองทำลาย ฝ่ายตรงข้าม

เสื้อแดงแห่รำลึก 80 ปีประชาธิปไตยไทย รอ "ทักษิณ" วีดีโอลิงค์


วันนี้ (24 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จ การแห่งชาติ (นปช.) บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร เพื่อรำลึกถึงวันคอบรอบ 80 ปีประชาธิปไตยไทย ว่า เริ่มมีการรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเช้าท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่ผู้ร่วมชุมนุมมิได้ท้อต่างพากันนำร่มกันแดดสีแดงกางสลอน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสั่งปิดการจราจรตั้งแต่แยกคอกวัวไปจนถึงแยกผ่าน ฟ้าลีลาศในฝั่งขาออก ส่วนขาเข้ายังปล่อยให้รถสัญจรผ่านได้ โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดชุดปราบจลาจลจำนวน 1,500 นาย เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย คาดว่าผู้ชุมนุมจะทยอยเพิ่มขึ้นตามลำดับ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะวีดีโอลิงค์มายังกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย.

โพลล์หนุน "ยิ่งลักษณ์" นั่งนายกฯ ทำงานบริหารบ้านเมืองต่อไป


วันนี้ ( 24 มิ.ย.) ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง วัดคอการเมืองต่อประเด็นร้อนการทางเมืองและโครงการความร่วมมือขององค์การนา ซ่าในประเทศไทย กรณีศึกษาเฉพาะตัวอย่างคนที่ติดตามข่าวสารการเมืองเป็นประจำ ใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี ศรีสะเกษ ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ นครปฐม สุราษฎร์ธานี ชุมพร และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 1,284 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 18 – 23 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน โดยมีช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7
พบว่าส่วนใหญ่ของกลุ่มคนคอการเมืองหรือร้อยละ 78.2 ระบุการเมืองในเวลานี้ร้อนแรงค่อนข้างมากถึงมากที่สุด เช่น เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ปรองดอง การปรับคณะรัฐมนตรี การชุมนุมประท้วง การเลือกตั้งท้องถิ่น และการเผชิญหน้ากันของฝ่ายสนับสนุนการเมือง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 43.2 ระบุรัฐบาลยังคงคิดถึงและเป็นห่วงดูแลประชาชนค่อนข้างมากถึงมากที่สุด แต่ร้อยละ 30.5 ระบุค่อนข้างน้อยถึงไม่ดูแลเลย ส่วนร้อยละ 26.3 ระบุดูแลระดับปานกลาง

เมื่อถามถึงกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยสนับสนุนรัฐบาลปัจจุบันกำลังรู้สึกผิด หวังต่อท่าทีของคนที่ได้เป็นรัฐมนตรีมีอำนาจอยู่ในเวลานี้หรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.6 ระบุผิดหวังค่อนข้างน้อยถึงไม่ผิดหวังเลย เพราะ เมื่อได้เป็นรัฐบาลก็เป็นรัฐบาลของประชาชนทุกกลุ่ม รัฐบาลทำมาถูกทางแล้ว การช่วยเหลือ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ก็เพราะเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม และเป็นรัฐบาลที่มาจากเสียงของประชาชน อย่างไรก็ตาม จำนวนมากถึงร้อยละ 40.4 ผิดหวังค่อนข้างมาก ถึงมากที่สุด เพราะ ไม่เห็นทำอะไรให้ดีขึ้น มัวแต่แก้ปัญหาให้ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ละเลยปัญหาชาวบ้านที่เคยสนับสนุน และช่วยเหลือจริงแต่ไม่ต่อเนื่อง

แต่เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ควรตัดสินใจอย่างไรในเวลานี้ พบว่า ร้อยละ 45.3 ระบุทำงานต่อไป รองลงมาคือ ร้อยละ 25.6 ระบุปรับคณะรัฐมนตรี ร้อยละ 11.3 ระบุยุบสภาเลือกตั้งใหม่ รองๆ ลงไปคือ ร้อยละ 10.4 ดึงพรรคการเมืองฝ่ายค้านเข้าร่วมรัฐบาล และร้อยละ 7.4 ระบุควรลาออก
เมื่อถามถึงโครงการขององค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกา พบประเด็นที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามว่าประเทศไทยควรมีระบบเตือนภัยทางธรรมชาติ เช่น มรสุม พายุงวงช้าง น้ำท่วม ปัญหาสึนามิ แผ่นดินไหว หรือไม่พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.2 ระบุเห็นด้วยกับระบบเตือนภัย แต่ที่น่าสนใจคือเมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ ถ้ามีชาติใดชาติหนึ่งมาช่วยศึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศของโลกใน ประเทศไทย พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.7 เห็นด้วย และเมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ ที่องค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกาจะใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นศูนย์กลางศึกษาชั้นบรรยากาศของโลก การก่อตัวของก้อนเมฆ มรสุมต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.5 เห็นด้วย

ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า โครงการขององค์การนาซ่าครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญในการทำให้เป็นไปตาม ภารกิจนโยบายสาธารณะระหว่างประเทศ แต่จากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่ายังมีความเป็นไปได้ที่ภารกิจการใช้สนามบินอู่ ตะเภาแบบชั่วคราวขององค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกาสามารถดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นถ้าหากว่า ฝ่ายการเมืองของไทยจริงใจไม่นำประเด็นขัดแย้งในหมู่ประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้อง กับโครงการนี้และองค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกากับรัฐบาลไทยมีการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านภารกิจแห่งรัฐในนโยบาย สาธารณะไว้อย่างครบองค์ประกอบทั้งในเรื่องของการกำหนดปัญหาที่ชัดเจน (Problem Stream) ข้อเสนอโครงการเชิงนโยบาย (Policy-Proposal Stream) และกระแสหลักทางการเมือง (Political Stream) ที่ทุกองค์ประกอบมุ่งสู่เป้าหมายเพื่อมนุษยชาติร่วมกัน แต่เมื่อมีประเด็นปัญหาขัดแย้งเกิดขึ้นที่อาจลุกลามถึงการเมืองระหว่าง ประเทศ จึงน่าพิจารณาข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ดังนี้

ประการแรก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะมีการกำหนดประเด็นสำคัญ (Issue Framing) ไว้เพื่อรณรงค์ล่วงหน้าที่สื่อสารแบบเข้าใจง่ายกับสาธารณชนต่อโครงการนี้ เช่น ประเทศไทยมีโอกาสเปิดศูนย์กลางศึกษาชั้นบรรยากาศของโลกเพื่อมนุษยชาติร่วม กับองค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกา หรือ กำหนดเป็นภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจง่ายว่า ประเทศไทยก้าวล้ำนำวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ใส่ใจศึกษาการก่อตัวของมรสุม พายุงวงช้าง เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประชาชนคนไทยและมวลมนุษยชาติร่วมกับองค์การนา ซ่า สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
ประการที่สอง รัฐบาลไทยต้องหยุดพูดเรื่องวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกาของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะมาพัวพันกับโครงการนี้ ไม่ว่าจะพูดในเชิงปกป้องสหรัฐอเมริกาหรือในเชิงปกป้องตัว พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ก็ตามเพราะฝ่ายรัฐบาลอาจถูกตั้งสมมติฐานได้ว่า รัฐบาลไทยทำให้เป็นประเด็นขัดแย้งขึ้นมาเพื่อต่อรองเสียเอง

ดร.นพดล กล่าวต่อว่า “นักการเมืองที่ดีเขาจะใช้วิถีทางการเมืองเพื่อลดความขัดแย้งไม่ใช่เพิ่ม ความขัดแย้งในสังคม” แต่จากผลสังเกตการณ์พบว่า คุณภาพของนักการเมืองไทยส่วนใหญ่มักไม่ผ่านเกณฑ์นี้ คำพูดคำจาใดจะก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงอย่างไร้เหตุผลนั้นนักการเมืองที่ มีคุณภาพได้มาตรฐานสากลจะไม่ทำกัน และถ้าฝ่ายการเมืองของไทยทำให้สมมติฐานนี้เป็นเรื่องจริงมันก็หนีไม่พ้นสาย ตาของนักวิทยาศาสตร์การเมือง (Political Scientist) ว่านี่คือ ส่วนหนึ่งของทฤษฎีเกม ที่เล่นกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ คือ ทำให้เกิดประเด็นร้อนทางการเมืองขึ้นมาเพื่อดึงความสนใจของสาธารณชนออกจาก จุดอ่อนประเด็นร้อนอื่นที่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลแล้วทำสิ่งต่างๆ ให้บรรลุผลเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องโดยไม่คำนึงถึงจริยธรรมทางการ เมือง

ประการที่สาม สิ่งที่คณะทำงานขององค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกา อาจพลาดไปคือ ในตอนแรกของข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏต่อสาธารณชนคือ ได้มีนายทหารระดับสูงของสหรัฐอเมริกามาเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ทั้งๆ ที่คงมีคนไทยไม่กี่คนจะทราบว่านายทหารระดับสูงท่านนั้นไม่มีอำนาจสั่งการกอง ทัพของสหรัฐ แต่ที่ทำได้มากที่สุดคือนายทหารท่านนั้นมีโอกาสพูดกับประธานาธิบดีของสหรัฐ อเมริกาโดยตรง และเมื่อปรากฏออกมาในรูปของทหารระดับสูงของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวข้องกับเรื่อง นี้ คนไทยส่วนใหญ่และฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ย่อมจะรู้สึกและคิดระแวงไปได้ต่างๆ นานา อาจทำให้สหรัฐอเมริกาสะดุดขาตนเองจนอาจทำให้โครงการที่ถูกอ้างว่าทำเพื่อ มนุษยชาติไม่บรรลุเป้าหมายที่ดีที่สุดที่วางไว้ได้หรือต้องถึงขั้นยกเลิก โครงการไปด้วยเหตุผลเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ ก็น่าคิดต่อว่ามันเป็นโครงการเพื่อมนุษยชาติจริงตามกล่าวอ้างหรือไม่

ประการที่สี่ คณะทำงานโครงการนี้ขององค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกา น่าจะทราบดีว่าการทำโครงการสำคัญระหว่างประเทศที่มีภาษา ทัศนคติและวัฒนธรรมแตกต่างกันนั้นจำเป็นต้องเตรียมการให้พร้อมทั้งในเรื่อง ทรัพยากรที่จำเป็นของโครงการและยุทธศาสตร์การสื่อสารกับมวลชนเพื่อลดแรง เสียดทานจากประชาชนในท้องถิ่น เช่น ควรจะให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นพลเรือนหรือศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ คนไทยรู้จักและเชื่อมั่นศรัทธาเพราะมีผู้เข้าร่วมเป็นคณะทำงานจาก มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายคน เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ออกมาแปลเอกสารสำคัญเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่ประชาชนคนไทยและคนในภูมิภาคนี้จะ ต้องทราบว่าได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากโครงการและจำเป็นต้องพูดถึงผลกระทบทาง อ้อม (Spillovers) ที่อาจเกิดขึ้นจากปฏิบัติการครั้งนี้ในภาษาที่ชาวบ้านทั่วไปเข้าใจง่าย

“ข้อเสนอแนะสุดท้ายคือ ประชาชนคนไทยและฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์น่าจะศึกษาโครงการนี้เบื้องต้นผ่านเว็บไซ ด์ http://espo.nasa.gov/missions/seac4rs/content/SEAC4RS_Home_Page จะพบว่าโครงการนี้มีระยะสั้นระหว่างเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนตุลาคมเท่านั้น แต่ประโยชน์ที่ประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคนี้จะได้นั้นมีคุณค่าต่อแนวทาง ป้องกันและรักษาชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมาก สามารถป้องกันความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้ และแน่นอนว่าถ้าเรารู้และเข้าใจธรรมชาติมากขึ้น เราก็จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน แต่โครงการนี้จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้นี้ได้จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน จากประชาชนคนไทยทุกคน และสหรัฐอเมริกามีประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทยมายาวนานคงไม่ คิดสั้นหลอกลวงคนไทยและนานาชาติจากโครงการเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการนี้กลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนก็ย่อมเป็นเรื่องดีที่องค์การนา ซ่า สหรัฐอเมริกา จะมีโอกาสแสดงบทบาทสำคัญตามหลักจริยธรรมด้านความโปร่งใส (Transparent Performance) ในสายตาของนานาชาติ” ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าว

โยน"เก่ง" ชี้ขาดส่งคนลงเลือกตั้งซ่อม "เด็ดพี่" ยันถอนประกัน "ตู่" ไม่กระทบลงสมัคร ส.ส.


 วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย  กล่าว ถึงกรณีที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ยื่นคำร้องถอนคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.)หรือ คนเสื้อแดงในคดีก่อการร้ายว่า เป็นการใช้กระบวนการตามช่องทางกฎหมายของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายจตุพรสามารถนำข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไปยื่นต่อศาลได้ตามกระบวนการ ยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ประชาชนมองเรื่องนี้อย่างแปลกๆ และน่าจะเป็นครั้งแรกที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ยื่นขอถอนประกันประชาชนและนักการเมืองเอง ทั้งนี้ เห็นว่าถ้าในอนาคตนายจตุพรจะลงส.ส.ก็คิดว่าไม่น่ามีผลกระทบกับนายจตุพร  เพราะ ตามกฎหมายถ้าคำพิพากษาของศาลยังไม่เป็นที่สุดประชาชนที่ถูกกล่าวหาในคดีใดๆ ก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ซึ่งนายจตุพรจะยังคงลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ได้

 โฆษกพรรคเพื่อไทย  ยังกล่าวถึงถามถึงกรณีที่มีข่าวว่านายจตุพร อาจลงสมัคร ส.ส.กทม. แทนนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยที่ถูก กกต.ให้ใบแดงในการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายกำลังรวบรวมข้อเท็จจริงทางกฎหมายเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาล ฎีกาต่อไป ซึ่งพรรคไม่กังวลและขณะนี้ยังไม่ได้เตรียมการว่าจะส่งใครลงสมัครรับเลือก ตั้งแทนนายการุณแต่อย่างใด เพราะต้องรอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาก่อน หากศาลฎีกามีคำพิพากษาในทางลบ พรรคและกรรมการบริหารพรรคก็จะยังให้สิทธิและให้เกียรตินายการุณก่อนที่ใน ฐานะเจ้าของพื้นที่ในการเลือกผู้สมควรลงสมัครส.ส.กทม. เนื่องจากเป็นคนที่ทำงานในพื้นที่มานาน อย่างไรก็ดี หากนายการุณเสนอใครมาลงแทนพรรคและกรรมการบริหารพรรคก็พร้อมเห็นด้วย ซึ่งพรรคต้องรักษาน้ำใจนายการุณไว้ก่อน เพราะนายการุณร่วมหัวจมท้ายกับพรรคมานาน 

เสวนา “100 ปี กบฎประชาธิปไตย ร.ศ. 130-80 ปี ปฏิวัติประชาธิปไตย พ.ศ. 2475”



เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ ( 24 มิ.ย.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเสวนา “100 ปี กบฎประชาธิปไตย ร.ศ. 130 – 80 ปี ปฏิวัติประชาธิปไตย พ.ศ. 2475”  โดยมี เกษียร เตชะพีระ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปาฐกถาเปิดงาน รวมทั้งจัดการอภิปราย “100 ปี กบฎประชาธิปไตย ร.ศ 130” มีผู้เข้าร่วมอาทิ น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ อินทรภิรมย์ นักวิชาการอิสระ นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ คณะบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นายเกษียร กล่าวว่า ประชาธิปไตยไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือตำนานรากฐานประชาธิปไตย ที่เป็นเสมือนภาวะระบอบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีบริบทมาจากความสูญเสียความชอบธรรมชองสังคมไทย ทั้งเศรษฐกิจและสังคม แสดงให้เห็นว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยม แปลงจารีตประวัติศาสตร์มาบัญญัติเป็นรัฐธรรมนูญ โดยใช้จารีตโบราณที่พระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางและเป็นหนึ่งเดียวกับ ชาติ ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพ และเพื่อตัดปัญหาความยุ่งยากของอำนาจ จึงต้องกำหนดผู้ปกครองให้มีเพียงผู้เดียว จึงเป็นสัญญาประชาคมเพื่อยกอำนาจให้กับคนใดคนหนึ่งอย่างเด็ดขาด
ด้าน น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ กล่าวว่า ในเหตุการณ์ ร.ศ 130 เป็นการเริ่มความคิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของสามัญชนโดยชูแนวคิด “ชาติ ศาสนา บ้านเมือง” ในการเปิดโอกาสให้สามัญชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครอง เนื่องจากกลุ่มกลุ่มทหารคณะ ร.ศ. 130 และประชาชนไม่พอใจผู้ปกครองประเทศในขณะนั้นที่ไม่สามารถแก้ปัญหาความเสื่อม โทรมและล้าหลังทางเศรษฐกิจ กองทัพ และบ้านเมือง จึงเป็นฉนวนของความไม่พอใจของทหารและประชาชน ทำให้มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งได้รับอิทธิพลจากประเทศจีน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากถูกจับกุมเสียก่อน เพราะมีลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชไปเป็นการปกครองในรูปแบบอื่น ‬
ขณะที่ นายสุธาชัย กล่าวว่า บริบทที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง เกิดจากวิกฤติภายในประเทศตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ 5 กระทั่งถึงรัชกาลที่ 6 โดยเฉพาะวิกฤตจากภัยธรรมชาติ ที่ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำจนประชาชนมีรายได้น้อย แต่มีการเก็บภาษีมากขึ้นถึง 4 เท่า
ส่วนนายธเนศ กล่าวว่า การปฏิวัติทางความคิดของการเมืองไทย ยังยึดโยงกับประวัติศาสตร์  ซึ่งแตกต่างจากการปฏิวัติในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา ที่มีเส้นแบ่งอย่างชัดเจนจึงไม่ต้องมีการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง อีกหลายครั้ง ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทย ที่ผ่านมา 80 ปี จะเห็นว่าคนไทยต้องออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยหลายครั้ง

จี้ “ปึ้ง” แจง 4 ข้อปมปล่อยมะกันใช้ "อู่ตะเภา"ก่อนเข้าครม.


วันนี้ ( 24 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) สหรัฐขอใช้อู่ตะเภาเพื่อสำรวจสภาพอากาศ ว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าการให้สัมภาษณ์ของ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ มีความสับสน ตนอยากให้นายสุรพงษ์ ตอบคำถาม ว่า 1.ทำไมรัฐบาลต้องให้สหรัฐ เป็นผู้เปิดเผยอธิบายข้อมูลฝ่ายเดียว เช่น ประเทศสิงคโปร์ กัมพูชา ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่น่านน้ำและน่านฟ้าแล้ว แต่ทำไมประเทศไทยในฐานะเจ้าของพื้นที่กลับไม่ถามประเทศดังกล่าวเอง
2.กระทรวงการต่างประเทศได้ประชุมพร้อมกัน 18 หน่วยงานในประเด็นดังกล่าว จึงอยากทราบว่าผลการประชุมเป็นอย่างไร และหน่วยงานทั้งหมดเห็นด้วยกับสหรัฐฯในประเด็นใดบ้าง 3.เมื่อมีการระบุว่าสิงคโปร์ กัมพูชาให้ใช้น่านฟ้า แต่เหตุใดถึงไม่มีการสอบถามไปยังประเทศ มาเลยเซีย พม่า ลาว ที่เป็นทางผ่านการบินด้วย 4.เหตุใด รัฐบาลถึงสร้างความหวังให้สหรัฐฯขนอุปกรณ์ลงเรือมาไทย ตั้งแต่วันที่18พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่ยังไม่มีการลงนามใดๆ แต่คนไทย กลับมาทราบเรื่องนี้ในวันที่ 18มิ.ย.
“อยากถามว่ากรณีนี้ นายสุรพงษ์ ทำเกินอำนาจขอบเขตหรือไม่ หากสามารถตอบได้ชัดเจน ก็ไม่มีใครไปค้าน นอกจากนี้ผมยังจับพิรุธกรณีที่ รมว.ตางประเทศ ระบุจีนให้ สหรัฐเข้ามาตั้งองค์กรนาซ่า มาใช้พื้นที่ เกาะฮ่องกง ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่เคยมีการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าว” นายชวนนท์ กล่าว และว่าเรื่องนี้จึงอยากให้ นายสุรพงษ์สอบถามด้วยตัวเอง อย่าไปเชื่อข้อมูลจากสหรัฐเพียงฝ่ายเดียว เพราะอาจจะบิดเบือนข้อมูล.

“ปชป.” ท้า “ยิ่งลักษณ์-เฉลิม” งัดกฎหมายจัดการเสื้อแดงทำผิด


วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันครบรอบ 80 ปีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ว่า ถึงเวลาที่ประชาชนทุกคนต้องออกมาแสดงพลังปกป้องประเทศ แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือการปราศรัยปลุกระดมของแกนนำเสื้อแดง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประชาชนส่วนใหญ่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างอำนาจต่อรอง ในการเจรจากับอำนาจรัฐไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือตุลาการ องค์กรอิสระ อำนาจอื่นๆในสังคมไทย ต่อรองกับกฎหมาย สร้างอำนาจนอกระบบให้กับตนเอง จึงต้องจับตาดูว่าการปราศรัยในเย็นวันนี้(24 มิ.ย.) จะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ประชาธิปไตยหรือเป็นเพียงการสร้างโอกาสในการปลุก ปั่นบิดเบือนข้อมูลกับประชาชนอีกครั้งหนึ่ง
นายชวนนท์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าขณะนี้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงบางคนอยู่ในสถานการณ์เข้าตาจน เช่น นายจตุพร พรหมพันธ์6 ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ร้องขอให้มีการถอนการประกันตัว รวมถึงการเปิดเผยของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถที่โดนข่มขู่ และมีกระบวนการกดดันศาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะเป็นชนวนอีกประเด็นหนึ่งที่จะสร้างความขัดแย้งและเชื่อว่าแกนนำ ฮาร์ดคอร์คงจะไม่ถอย ซึ่งหากถอยก็จะต้องรับผลกรรมที่ได้กระทำในช่วงที่ผ่านมาแน่นอน ทั้งนี้ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจอย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ขอให้กล้าใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม และขอให้เป็นผู้ที่ออกมาห้ามปรามคนเหล่านี้อย่าสร้างความขัดแย้งและความ รุนแรงให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอีก.

"พท."ย้อนแสบ "มัลลิกา" ยัดข้อหารัฐบาลล้มเหลว


วันนี้ (24 มิ.ย.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงตอบโต้ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาระบุการดำเนินงานของรัฐบาลตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาล้มเหลวถึง 12 ข้อจากนโยบาย 16 ข้อ และสนใจแต่การแก้ปัญหาทางการเมืองให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลชุดนี้ใจกว้างไม่ถือสาเอาความกับคนที่ไม่มีความรู้ ความเข้าใจ ในนโยบายของรัฐแล้ววิพากษ์วิจารณ์ให้เสียหาย และเห็นว่าที่ผ่านมาน.ส.มัลลิกาบอบช้ำมาไม่น้อย มีคดีสะสมระหว่างทางเรื่อยมา ไม่รู้ว่าจะเอาตัวเข้าแลกกับคดี เป็นจอมลงทุนขนาดนี้ทำไม หรือถือว่าในพรรคประชาธิปัตย์อุดมไปด้วยทนายเทวดา เลยไม่สนใจใคร ตนต้องการชี้ให้เห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ของคนพรรคนี้ ที่พอตัวเองทำคนอื่นแล้วบอกว่าไม่เป็นไร แต่พอคนอื่นทำบ้างกลับทำใจไม่ได้
รองโฆษกฯระบุต่อว่า อย่างกรณี กกต.มีมติสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนายการุณ โหสกุล ส.ส.เขต 12 กทม. ยังไม่ข้ามวัน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาบอกทันทีว่าเริ่มมีการข่มขู่หัวคะแนนอย่างชัดเจน และอาจจะมีอนาคตเหมือนกับนายชุติเดช สุวรรณเกิด ที่ถูกยิงเสียชีวิต เพราะกลุ่มอิทธิพลหลายพื้นที่ ที่มีผลประโยชน์ยึดโยงอยู่ในดอนเมืองเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ซึ่งถือเป็นการกลัวล่วงหน้าไปก่อน ทั้งที่ความจริงเห็นแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายแทนคุณเท่านั้นที่ขู่นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ที่ให้ความเห็นว่าการปราศรัยโจมตีกันเป็นเรื่องกติทางการเมือง.

80 ปีประชาธิปไตยไทยยังมีปัญหา


เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการภาคประชาสังคม สภาพัฒนาการเมือง (สพม.)ได้จัดเสวนาการกระจายอำนาจกับการพัฒนาประชาธิปไตยไทยในหัวข้อ “ทิศทางของการกระจายอำนาจของประเทศไทย : อดีต ปัจจุบัน อนาคตความคาดหวังและโอกาสแห่งความสำเร็จ”
โดยนางลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ รองประธานสภาพัฒนาการเมือง คนที่สอง กล่าวว่า 80 ประชาธิปไตยไทยที่ผ่านมายังลุ่มๆดอนๆ เพราะยังมองไม่เห็นการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ทั้งวงจรอุบาทในการซื้อสิทธิขายเสียง ที่ผ่านมามีการนำแผนงานไปบรรจุเพื่อบังคับใช้ทั้งการเขียนเป็นมาตราสวยหรูใน รัฐธรรมนูญแต่ก็ยังไม่เกิดผล
ทั้งนี้ สพม.คิดว่าปัญหาประชาธิปไตยมาจากปัญหาพื้นฐานทางสังคม จากที่ได้ลงไปดูสภาประชาธิปไตยชุมชนใน 76 จังหวัดนั้นพบว่าจังหวัดที่มีความพร้อมและประชาชนตื่นตัวจังหวัดแรกคือ จ.อำนาจเจริญ ที่ประชาชนออกมาประกาศธรรมนูญ จ.อำนาจเจริญ เพื่อจัดการตนเอง เพราะการแก้ไขปัญหาโครงสร้างสังคม หากยังรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางอยู่จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ต้องกระจายอำนาจคืนให้ประชาชน

ด้านนายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า การกระจายอำนาจท้องถิ่นเป็นพื้นฐานสำคัญ เพราะการเลือกตั้งระดับชาติมักมีคะแนนเสียงมากจากการท้องถิ่น ประเทศไทยรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางมากกว่าการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น โดยผูกขาดจากระบบการเมืองระดับชาติ ทำให้มีปัญหากับราชการส่วนกลางโดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากไม่มีความเชื่อมโยงร่วมกัน การบริหารงานบุคคลและการสั่งการของท้องถิ่นถูกครอบงำจากส่วนกลาง ทั้งนี้เราจะเห็นปัญหาหลายอย่างสะท้อนอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดจากนโยบายส่วนกลางที่ลงไปสู่ท้องถิ่น แต่ท้องถิ่นไม่มีอำนาจในการจัดการตนเอง ต้องรออำนาจส่วนกลาง ดังนั้นต้องทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจปกครองตนเองไม่ตกอยู่ในอำนาจฝ่ายการเมือง

ขณะที่ นายอุดร ตันติสุนทร ประธานมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อดีตรมช.มหาดไทยและอดีต ส.ว. กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าองค์กรปกครองท้องถิ่นเป็นฐานรากของ ประชาธิปไตยและเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะทำงานพิเศษที่เชี่ยวชาญเรื่องการ กระจายอำนาจท้องถิ่นแก้ไขปัญหาภายใน 10 ปี เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี เพราะรัฐบาลไม่สามารถทำได้ แต่ท้องถิ่นสามารถทำได้ อีกทั้งส.ส.ไทยหากสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ตนเสนอให้มีส.ส.สัดส่วน 250 คนและส.ส.เขต 250 คน เพราะการบริหารบ้านเมืองมีรัฐมนตรีที่มาจากส.ส.เขตนั้นไม่เพียงพอ ต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ตนอยากให้สภาฯของเราเป็นสภาฯที่มีคุณภาพ

เตือน "ปชป." อย่ายื่นซักฟอกมั่ว โพลล์ชี้ "รัฐบาลปู" ไร้ทุจริต


วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย  นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์  โฆษกพรรคเพื่อไทย  แถลงถึงผลสำรวจของสวนดุสิตโพลล์ ที่ระบุว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นในน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีการทุจริต ร้อยละ 57.8 แสดงให้เห็นว่าตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์  ได้แสดงวุฒิภาวะในการบริหารราชการ โดยเฉพาะการเข้มงวดในนเรื่องของการทุจรติคอร์รัปชั่น ทั้งนี้อยากให้ฝ่ายค้านนำเรื่องนี้ไปพิจารณารวมทั้งตรวจสอบข้อมูลหลักฐานให้ ชัดเจนก่อนที่จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะบางเรื่องอาจเป็นผลพวงเชื่อมโยงโครงการของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา แทนที่จะมาจ้องถล่มรัฐบาล แต่อาจเป็นการถูกน๊อคคาเวทีแทนรัฐบาลก็ได้
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่น.ส.มัลลิกา  บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวโจมตี 12 นโยบายของรัฐบาล และกล่าวหานายกรัฐมนตรีไม่มีวุฒิภาวะในการบริหารราชการว่า เป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง เป็นความพยายามต้องการดิสเครดิตรัฐบาล เพื่อลดความน่าเชื่อถือในการทำงานแก้ปัญหาปากท้องและอุทกภัยให้กับประชาชน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พยายามเล่นเกมทางการเมือง อีกทั้งผลสำรวจจากหลายสำนัก ก็เชื่อมั่นในตัวของนายกรัฐมนตรี ต่อการทำงานแก้ปัญหาให้กับประเทศ ดังนั้นอยากให้ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ อย่ากล่าวโจมตีโดยไม่มีมูลความจริง.

ล้วงคองูเห่าฉกรถหรูลูกชายอดีต "ผบ.ทร."


เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. นายฐิติพันธ์ หรือกอล์ฟ เกยานนท์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/2 ซอยแจ้งวัฒนะ 11 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ ผู้บริหารหนุ่มแห่งคลื่นลูกทุ่งเอฟเอ็ม 88.5 ลูกทุ่งไทยแลนด์เน็ตเวิร์ก และลูกชายของ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ อดีต ผบ.ทร. เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เฉลียว บุญคุ้ม พงส.(สบ1) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่ารถเก๋งสปอร์ต ยี่ห้อนิสสัน จีทีอาร์ สีดำ ทะเบียน ชท 991 กรุงเทพมหานคร ราคาประมาณ 9 ล้านบาท ถูกคนร้ายขโมยไป เหตุเกิดภายในโรงแรมเจ โฮเต็ล ถนนพัทยาเหนือ หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง
นายฐิติพันธ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนอีก 4 คน ขับรถสปอร์ตราคาแพงมาจากกรุงเทพฯ เพื่อร่วมงาน RUSH SUPER RALLY PARTY 2012 หรืองานปาร์ตี้ริมสระน้ำของเหล่าคนที่ชื่นชอบรถสปอร์ตภายในโรงแรมดังกล่าว โดยจอดรถไว้หน้าโรงแรมเช่นเดียวกับรถของบรรดาเพื่อน ๆ ที่ราคาสูงเหมือนกัน ซึ่งช่วงที่จอดอยู่ได้เสียบกุญแจไว้เพื่อชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ เพราะคิดว่าไม่น่าจะหาย จนงานเลิกเวลาประมาณ 5 ทุ่ม เดินลงมายังเห็นรถจอดอยู่ แต่ลืมว่าคากุญแจไว้จึงนั่งรถเพื่อนไปเที่ยวต่อที่ดิฟเฟอร์ผับ กระทั่งร้านเลิกกลับมาก็พบว่ารถถูกขโมยไปแล้ว
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่รีบเดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุ พบนายชูชาติ แก้วตะพาน อายุ 36 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรม ให้การว่า ช่วงประมาณตี 1 เห็นชายไทยสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ใส่เสื้อคลุมสีขาว กางเกงขาสั้นลายพราง เดินขึ้นไปขับรถคันดังกล่าว จึงไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าเป็นเจ้าของรถ
เบื้องต้นคาดเป็นฝีมือแก๊งขโมยรถหรูตามใบสั่งที่ทราบว่าจะมีการรวมตัวของ คนรักรถหรูในโรงแรม จึงเข้ามาโจรกรรม ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างหาเบาะแสเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป.

เสื้อแดงแห่รำลึก 80 ปีประชาธิปไตยไทย รอ "ทักษิณ" วีดีโอลิงค์


วันนี้ (24 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จ การแห่งชาติ (นปช.) บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร เพื่อรำลึกถึงวันคอบรอบ 80 ปีประชาธิปไตยไทย ว่า เริ่มมีการรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเช้าท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่ผู้ร่วมชุมนุมมิได้ท้อต่างพากันนำร่มกันแดดสีแดงกางสลอน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสั่งปิดการจราจรตั้งแต่แยกคอกวัวไปจนถึงแยกผ่าน ฟ้าลีลาศในฝั่งขาออก ส่วนขาเข้ายังปล่อยให้รถสัญจรผ่านได้ โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดชุดปราบจลาจลจำนวน 1,500 นาย เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย คาดว่าผู้ชุมนุมจะทยอยเพิ่มขึ้นตามลำดับ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะวีดีโอลิงค์มายังกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย.

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources