วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

ดูหนัง Bangkok Haunted ผีสามบาท HD








CR : 0havingablast0x1

ดูหนัง The Dictator จอมเผด็จการ HD

The Dictator จอมเผด็จการ - ดูหนังออนไลน์




เรื่องย่อ
นายพลอลาดีน (ซาชา บารอน โคเฮน) ผู้ปกครองจอมเผด็จการฝั่งแอฟริกาเหนือ เขาเป็นผู้นำสาธารณรัฐวาดิยา ที่ซึ่งเขาไม่ยอมให้ประชาธิปไตยมากล้ำกราย มันไม่มีวันเกิดขึ้นได้ตราบใดที่เขายังคงเป็นผู้นำอยู่ แต่เมื่อถูกเรียกตัวให้ไปเข้าร่วมการประชุมกับสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา อลาดีนไม่รู้ว่าชีวิตและประเทศของเขาต้องกลับตาลปัตร

อลาดีนถูกลักพาตัว และถูกโกนหนวดเคราจนไม่มีใครจำได้ ไม่มีใครเชื่อว่าเขาคือผู้นำประเทศ เขาจึงกลายเป็นคนเร่ร่อนในถิ่นต่างแดน แต่อลาดีนได้รับความช่วยเหลือจาก โซอี (แอนนา ฟาริซ) หญิงนักต่อสู้เคลื่อนไหวเพื่อสังคม เธอเสนองานและที่พักให้เขา ซึ่งเขาเองก็ไม่มีทางเลือกที่จะปฏิเสธ เพราะเขาไม่ใช่นายพลอลาดีนคนเดิมที่ใคร ๆ รู้จักอีกต่อไป

แต่ในระหว่างที่อยู่อเมริกา อลาดีนพยายามสืบต้นตอว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง แล้วเขาก็ค้นพบว่าคนนั้นคือ ทาเมีย (เบน คิงส์ลีย์) ลุงผู้ไม่น่าไว้ใจของเขานั่นเอง งานนี้อลาดีนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยึดอำนาจคืนมาจากลุงให้ได้

ดูหนัง Jeepers Creepers 2 โฉบกระชากหัว 2 HD

Jeepers Creepers 2 โฉบกระชากหัว 2 - ดูหนังออนไลน์



เท็กการ์ท (รับบทโดย Ray Wise) เห็นปิศาจ ที่มีลักษณะคล้ายหุ่นไล่กา แต่มีปีกหยักกว้างเหมือนค้างคาว บินมาโฉบบิลลี่ ก่อนจะกระตุกหัวลูกชายของเขา ขาดติดเท้ามันออกไปกับตาตัวเอง นี่คือคำสาปของฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวโพด ที่เมื่อครบทุก 23 ปี ปิศาจที่ร่ำลือกันเป็นเรื่องเล่าพื้นบ้าน จะออกอาละวาด…

รถโดยสารของทีมบาสเกตบอลมัธยมแบนนอน ที่มีนักกีฬาและกลุ่มสาวเชียร์ลีดเดอร์ นั่งอยู่เต็มคัน ไม่สามารถเดินทางต่อได้เนื่องจากยางแตก วิทยุไม่สามารถรับคลื่นได้ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือของทุกคน ก็สัญญานขาดหาย คนขับรถจึงเดินเท้า ไปขอความช่วยเหลือจากชาวไร่ข้าวโพด ซึ่งเห็นมากำลังทำงานอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นจะพบของมีคมประหลาดคล้ายรูปดาว เจาะเข้าไปทำให้เนื้อยางรถจนฉีกขาด ขณะเดียวกัน ก็มีรถไอศครีมปริศนามาจอดขวางหน้า โดยในตู้แช่ด้านหลังบรรจุศพไว้เต็มคัน!

เสียงกรีดร้องดังเสียดขึ้น เมื่อผู้ช่วยผู้จัดการทีมถูกเงาดำขนาดใหญ่บินโฉบมา และกระชากหัวของเขาหลุดไป ทุกคนต่างหนีตายขึ้นไปรวมกลุ่มกันอยู่บนรถ และเริ่มคิดแผนการณ์เอาตัวรอดต่างๆ นานา กลับปรากฏว่าไม่มีวิธีใด ที่สามารถหนีรอดจากปิศาจตนนี้ และกลุ่มเพื่อนก็ค่อยตายกันไปทีละคนๆ..

เมื่อหมดทางหนี ผู้รอดที่เหลือน้อยเต็มทีจึงคิดที่จะต่อสู้ และด้วยความช่วยเหลือของครอบครัวเท็กการ์ท ซึ่งมีความแค้นอยู่กับปิศาจ มันจึงเป็นการเผชิญหน้า ที่ต้องกล้าแลกด้วยเลือดและชีวิต

ดูหนัง Shutter กดติดวิญญาณ HD




“ทับทิม” ชวนเที่ยวแบบจุใจ “เส้นทางเศรษฐี คู่ซี้พาตะลุย”


นางเอกสาวตาคม ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ หนึ่งในพิธีกรรายการ “เส้นทางเศรษฐี คู่ซี้พาตะลุย” ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ 17.00-17.30 น. ทางช่อง 7 สี ผลิตโดย บริษัท มีเดีย สตูดิโอฯ มาพร้อมข่าวดีที่จะพาผู้ชมไปร่วมบุกตะลุยพร้อมกันกับ ทริปสุดพิเศษ “ตะลุยจันท์ยันตราด” ที่ตั้งใจจัดขึ้น เพื่อมอบเป็นของขวัญตอบแทนให้กับแฟนรายการที่ติดตามกันมาตลอดอย่างเหนียว แน่นกว่า 5 ปี...

เกี่ยวกับเรื่องนี้พิธีกรสาวสวย ทับทิม อัญรินทร์ เผยว่า “ตะลุยจันท์ยันตราด เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษที่เราขอจัดให้ เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนแฟน ๆ ครั้งนี้จึงถือว่าเป็นของขวัญชิ้นพิเศษที่ทางรายการฯ ตั้งใจที่จะมอบให้ด้วยการพาแฟน ๆ ไปร่วมตะลุย ชม ชิม ช้อป กันแบบจุใจ  2 วัน 1 คืน ซึ่งแฟน ๆ ผู้โชคดีจะได้สนุกสนานเพลิดเพลินกับแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ของเส้นทางจันทบุรี-ตราด ได้ลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อรสเด็ด และยังจะได้ความรู้สู่อาชีพตามแบบฉบับรายการเส้นทางเศรษฐี ด้วยการสัมผัสกับแหล่งอาชีพทำเงินต่าง ๆ ที่น่าสนใจไปด้วยกันกับ ทับทิม พี่ไทด์  และเอี๊ยม รวมถึงดารารับเชิญที่จะมาสร้างสีสันความสนุกสนานแบบจัดเต็มให้กับแฟน ๆ ตลอดทั้งทริป”

 ฝากเชิญชวนด้วยค่ะ ใครที่เป็นแฟนรายการ “เส้นทางเศรษฐี คู่ซี้พาตะลุย” ตัวจริงเสียงจริงต้องขอบอกว่าห้ามพลาด!! เพียงเขียนจดหมายบอกเล่าความประทับใจที่มีต่อรายการมาตลอด 5 ปี ใส่ซองติดแสตมป์และส่งมาที่ ตู้ปณ.72 ปณฝ.บึงทองหลาง กรุงเทพฯ 10242

ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 ก.ย. 55 โดยคณะกรรมการจะพิจารณาจากข้อความที่ประทับใจมากที่สุดจำนวน 10 รางวัล (รางวัลละ 2 ท่าน) และจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในรายการเส้นทางเศรษฐีฯ วันที่ 13 ต.ค. 55 หรือทาง www.medias.co.th  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2370-3315 ส่งกันเข้ามาเยอะ ๆ นะคะ แล้วมาร่วมสนุกกับทริปสุดพิเศษ.

ย้อนรอย..ดาวจรัสแสง 'ภาวนา ชนะจิต' ไข่มุกเอเชีย


เพราะการเสียชีวิตของ “หยิน-ภาวนา ชนะจิต” ที่ตกบ่อน้ำตายภายในบ้านพักของเธอ ยังเป็นปมปริศนา..และมีเงื่อนงำ ญาติพี่น้องของหยิน-ภาวนา ต่างก็ลงความเห็นว่า นี่ไม่ใช่การตายแบบปกติ แต่จะเป็นแบบไหน ก็เป็นเรื่องของการพิสูจน์จากแพทย์นิติเวช
  
และเพื่อเป็นการไว้อาลัย... “หยิน-ภาวนา ชนะจิต” อดีตนางเอกภาพยนตร์ชื่อดัง เจ้าของฉายา “ไข่มุกเอเชีย” เราจะมาย้อนเรื่องราวในชีวิตของเธออีกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว วงการภาพยนตร์ไทยในยุคนั้นมีดาวจรัสแสงเพียงไม่กี่ดวง ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่มีจนล้นวงการฯ “หยิน-ภาวนา” เป็นหนึ่งในดาวจรัสแสงยุคนั้น เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก “แสงสูรย์” ในปี พ.ศ. 2503 จากการชักนำของ “ศิรินทิพย์ ศิริวรรณ” แต่การที่จะทำให้คนดูจดจำชื่อเธอได้ง่าย “ประทีป โกมลภิส” ผู้กำกับภาพยนตร์ “แสงสูรย์” จึงตั้งชื่อด้านการแสดงให้เธอ จากชื่อเดิม “อรัญญาภรณ์ เหล่าแสงทอง” มาเป็น “ภาวนา ชนะจิต”
  
ตลอดชีวิตของการเป็นนางเอกภาพยนตร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2503–2523 “หยิน-ภาวนา” มีผลงานภาพยนตร์กว่า 200 เรื่อง แสดงคู่กับพระเอกชื่อดังในยุคนั้นหลายคน อาทิ มิตร ชัยบัญชา,สมบัติ เมทะนี, ลือชัย นฤนาท, อุเทน บุญยงค์, ยอดชาย เมฆสุวรรณ,สรพงศ์ ชาตรี และได้มีโอกาสแสดงหนังฮ่องกงหลายเรื่อง เพราะพูดภาษากวางตุ้งได้ดี นักแสดงหลายคนที่ได้ร่วมงานกับ “หยิน” จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอเป็นคนที่มีระเบียบวินัยในการทำงาน และตรงต่อเวลา ก่อนจะเข้าฉากทุกครั้ง “หยิน” จะต้องมาเตี๊ยมบทกับพระเอก หรือนักแสดงคนนั้น ๆ ที่จะต้องเข้าฉากด้วยกัน เพื่อเตรียมความพร้อม เวลาถ่ายทำจริงจะได้ไม่ติดขัด และไม่ทำให้กองถ่ายเสียเวลา นี่คือสิ่งที่น่าชื่นชม
   
และเป็นที่รู้กันในหมู่นักแสดงยุคนั้นว่า เธอจะไม่เล่นบทเลิฟซีน จนครั้งหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นกับ “มิตร ชัยบัญชา” พระเอกยอดนิยมในยุคสมัยนั้น ถึงขนาด “มิตร” ประกาศตัดเชือกไม่ขอร่วมงานกับ “หยิน” สาเหตุจากมีบทจูบ ขณะเข้าฉากพระ-นาง หยินเบี่ยงหลบหน้าแบบรังเกียจ “มิตร” ก็เลยโมโหถือว่า รังเกียจกันมากไป ก็เลยประกาศว่า ถ้ามี “มิตร” ต้องไม่มี “ภาวนา” แม้ในเวลาต่อมา “หยิน” ได้ไปขอโทษขอโพยแล้ว มิตรก็ไม่ยอม
           
ทำให้ในช่วงนั้นเอง “หยิน” ไม่มีงานแสดงภาพยนตร์ เพราะไม่มีคนจ้าง (ยุคนั้น มิตร ดังสุด ๆ) จนกระทั่ง “พันคำ” อดีตผู้สร้างและกำกับหนัง ได้เรียกพระเอก “ยอดชาย เมฆสุวรรณ” ไปคุยว่า จะทำหนังเรื่อง “พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ” แล้วให้เอาบทไปอ่าน เสร็จสรรพก็ถามว่า นางเอกควรจะเป็นใคร ระหว่าง “ภาวนา ชนะจิต” กับ “สุภัค ลิขิตกุล” พระเอกยอดชายตอบทันทีว่า “ภาวนา ชนะจิต เท่านั้น” และเมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย คนดูแห่กันไปดูแน่นโรง ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ส่งผลให้ “ยอดชาย เมฆสุวรรณ” กับ “ภาวนา ชนะจิต” กลายเป็นดาราคู่ขวัญของประชาชน ทำให้มีงานหนังแสดงคู่กันตามมาอีก 40 เรื่อง
   
ชื่อเสียงกำลังโด่งดัง งานก็เข้ามาไม่ขาดสาย ในแต่ละวัน “หยิน” จะต้องเดินทางไปถ่ายหนังหลายแห่ง ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน เธอก็ยิ้มตลอด เพราะมีความสุขและสนุกกับการทำงาน ขนาดเล่นหนังได้ค่าตัวบ้างไม่ได้บ้าง เธอก็ไม่เคยปริปากบ่น ตรงกันข้ามค่าตัวที่ได้จากการถ่ายหนัง เรื่องหนึ่งประมาณ 4-5 หมื่นบาท เธอเก็บหอมรอมริบ เพราะรู้คุณค่าของเงิน แล้วก็เอาเงินที่เก็บไว้ไปแอบซื้อที่ดิน เรียกว่าได้ค่าตัวมาปุ๊บ ก็รีบเอาไปซื้อที่ดิน จนทำให้ ณ วันนี้เธอกลายเป็นเศรษฐีที่ดินแบบเงียบ ๆ เพราะไม่ค่อยมีใครรู้
  
“หยิน” เล่นหนังมาจนอายุ 37 ปี รู้สึกว่าตัวเองเริ่มอายุมากขึ้น ประกอบกับผู้สร้างหนังหลายรายก็ติดต่อให้เล่นบทแม่ หรือไม่ก็บทพี่, บทน้า อะไรอย่างนั้น แต่เธอไม่อยากเล่น เพราะอยากให้คนดูหรือแฟนหนัง นึกถึงภาวนาหน้าตาสดใส น่ารัก เธอจึงหยุดงานแสดงหนังไว้ในปี พ.ศ. 2523 ทั้ง ๆ ที่ยังมีหนังเล่นอีกหลายเรื่อง
  
พอโบกมือลางานแสดง “หยิน” ก็หันมาเปิดร้านอาหารสุกี้ แถวจรัญสนิทวงศ์ โดยมีคนพิเศษที่รู้ใจในตอนนั้นคือ “อ.ไพจิตร ศุภวารี” อดีตผู้สร้างหนังและนักปั้นดารา ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน 12 ปี สุดท้ายมีอันต้องเลิกรากัน ด้วยเหตุผลลึก ๆ ที่ไม่อาจบอกใครได้ ที่รู้ ๆ “อ.ไพจิตร” เป็นฝ่ายหิ้วกระเป๋าออกจากบ้าน แต่ทั้งคู่ก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน เจอกันในงานไหนก็ส่งยิ้มให้กัน เลิกกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันได้..จริงมั้ย..
  
ใครที่ใกล้ชิด “หยิน” จะรู้ว่า เป็นผู้หญิงเก่ง, ฉลาด เสียอย่างเป็นคนใจร้อน คิดอะไรก็พูดทันที ไม่ได้ยั้งคิด แต่เป็นคนดีมีน้ำใจ และเป็นคนขี้สงสาร, ใจบุญ ถ้าขับรถอยู่แล้วเห็นแม่ค้าขายของ จะสงสารเขา รีบจอดรถแล้วลงไปเหมาของทั้งหมด เพื่อเอาไปแจกคนอื่น อีกอย่างหนึ่งที่เป็นเรื่องส่วนตัว ทุกครั้งที่ “หยิน” เจออะไรมา พอถึงบ้านจะเขียนบันทึกในสมุดส่วนตัว อาทิ วันนี้ไปไหนเจอคนนู้นคนนี้ หรือเวลาไปซื้อของที่ตลาด เจอของแพงก็จะบ่น ๆ มันชักจะแพงแล้วนะ บางช่วงก็เขียนรำพึงถึงชีวิตตอนเด็ก ถ้าพ่อไม่เอาข้าวมาส่งก็ไม่ได้กิน
  
จำได้ว่าเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา เคยมีผู้ใหญ่ในวงการฯที่ “หยิน” นับถือ และเห็นเธอทำงานมาทั้งชีวิต โดยเฉพาะในช่วงหลัง ๆ ที่หันมาจับธุรกิจที่ดิน ซื้อมาขายไปจนร่ำรวยมหาศาล มีทรัพย์สินทั้งหมดรวม ๆ แล้ว 2,000 ล้านบาท ผู้ใหญ่ท่านนั้นถาม “หยิน”ว่า จะทำไปทำไมมากมาย ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ถึงเวลาสัปเหร่อก็เอาเงินใส่ปาก เธอตอบว่า เพราะเคยจน เคยอดข้าวจนเป็นลม เลยต้องหาตุนไว้ ถ้าแก่แล้วใครจะเลี้ยงดู
  
นี่คือผู้หญิงสู้ชีวิต ..ยอมเหนื่อยแสนเหนื่อย..ให้ได้มาเพื่อสิ่งที่เธอต้องการจริง ๆ
   
ขอให้วิญญาณของ “หยิน-ภาวนา ชนะจิต” จงไปสู่สุคติ..

ปรางค์ ปิ๊กมี่/รายงาน

“โรเบิร์ต แพททินสัน” ควง “เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์” โชว์ตัวอย่างสุดท้าย “แวมไพร์ทไวไลท์ 4 ภาค 2”


สิ้นสุดการรอคอย เมื่อตัวอย่างสุดท้ายของ แวมไพร์ทไวไลท์ 4 เบรคกิ้งดอว์น ภาค 2 ถูกเปิดฉายเป็นครั้งแรกของโลกที่งาน เอ็มทีวีวิดีโอมิวสิคอวอร์ด 2012 โดย โรเบิร์ต แพททินสัน, เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์, ผู้กำกับ บิล คอนดอน รวมถึงทีมนักแสดงเกือบทั้งหมดก็ขึ้นสู่เวที เพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน
ในการเปิดตัวอย่างสุดท้ายของมหากาพย์แวมไพร์
  
เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ที่สุดของงานเลยก็ว่าได้ เมื่อทุกสายตาจับจ้องไปยังทีมนักแสดง หากทว่าไร้เงาสาวเบลล่า เนื่องด้วย คริสเต็น สจ๊วต ติดภารกิจโปรโมตภาพยนตร์ที่เทศกาลหนังโตรอนโต ทำให้เกิดคู่ใหม่สุดเซอร์ไพร้ส์ หลังจากที่ต้องเป็นคู่แข่งทางหัวใจกันมาทุกภาค ในภาคนี้ โรเบิร์ต แพททินสัน จึงควงคู่ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ มาพูดกล่าวแนะนำเพื่อพาผู้ชมเข้าสู่ช่วงแสดงตัวอย่าง โดย เลาท์เนอร์ ก็ได้กล่าวว่า “ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา พวกเราทำงานกันเหมือนครอบครัวเพื่อสร้างทไวไลท์ให้สมกับความคาดหวังของแฟน ๆ ที่สุด” ก่อนที่ แพททินสัน จะกล่าวต่อว่า “มันเป็นการเดินทางที่น่าทึ่งที่สุด พวกเราอยากขอขอบคุณแฟน ๆ ทุกคน สำหรับแรงใจและความทุ่มเทติดตามการผจญภัยครั้งนี้ มันเป็นประสบการณ์ที่ผมจะไม่มีวันลืม”
  
หลังจากแฟรนไชส์ทไวไลท์ทั้ง 4 ภาคที่ผ่านมา สร้างปรากฏการณ์ทำรายได้ไปถล่มทลายไปกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในที่สุดบทสรุปสุดท้ายของมหากาพย์แวมไพร์ ทไวไลท์ ก็กำลังจะมาถึง แวมไพร์ทไวไลท์ 4 เบรคกิ้งดอว์น ภาค 2 เรื่องราวของกลุ่มแวมไพร์จากทั่วโลก ที่ร่วมมือกันเพื่อปกป้อง เรเนสเม่ ลูกสาวของเบลล่าและเอ็ดเวิร์ดจากกลุ่มแวมไพร์ราชวงค์โวลตูรี่ กับสงครามครั้งสุดท้ายที่จะเป็นบทสรุปของทุกสิ่ง และสำหรับแฟน ๆ ในประเทศไทยนั้น 15 พฤศจิ กายน 55 นี้ได้ชมกันอย่างแน่นอนจ้า.

'เอ๊ะ-ศศิกานต์'ลั่นระฆังวิวาห์สิ้นปี


ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ในงานเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ โคเซ่ อินฟินิตี้ เพรสทิจเจิส “เอ๊ะ-ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์” นักแสดงสาวชื่อดังวัย 35 ปี ที่มาร่วมงานด้วยได้เปิดใจว่า เตรียมเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่มชาวอเมริกัน โดมินิก ลีออง อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ โดย เอ๊ะ กล่าวว่า ได้ฤกษ์เป็นวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ที่โรงแรม สวิสโซเทล นายเลิศ ปาร์ค บอกเพียงแค่เพื่อนสนิท ส่วนพิธีในโบสถ์ขอจัดเป็นงานส่วนตัว มีเฉพาะแขกในครอบครัว ซึ่งการแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นการตกลงกันเอง หลายคนมองว่าตัดสินใจค่อนข้างเร็ว แต่คิดว่ามันไม่ได้อยู่ที่เวลา เพราะ 12 ปีที่แล้ว ก็ไม่ได้เป็นตัวบอกอะไร เพราะฉะนั้น 1 ปี ก็ไม่ได้เป็นตัวบอกอะไรเช่นกัน ถ้าคนสองคนตั้งใจที่จะคบกัน ตั้งใจที่จะสร้างครอบครัว และมีลูก ในเมื่อเขาพร้อมเราก็พร้อม

เอ๊ะ กล่าวต่อว่า คิดว่าผู้ชายแบบนี้ยังเหลืออยู่ไม่มาก เขาเป็นผู้ชายที่ขยันทำมาหากิน เป็นคนน่ารัก รักครอบครัว รักคุณแม่ ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ไม่ปาร์ตี้ เป็นคนดีมากที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เขาบอกว่าเขามาเมืองไทยก็ไม่คิดว่าจะมาเจอใครที่นี่เหมือนกัน แต่วันหนึ่งมาเจอผู้หญิงที่เขาอยากใช้ชีวิตร่วมด้วยไปตลอดชีวิต เรื่องอายุเลยไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะสำหรับคนอเมริกันทุกคนเท่ากัน เขาก็โตแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ ส่วนเรื่องงานเขาอยู่ในองค์การสหประชาชาติดูในส่วนเศรษฐกิจของภาคพื้นเอเชีย ด้วยงานถ้าต้องการเลื่อนตำแหน่งก็ต้องมีการย้าย ตนอาจจะต้องย้ายไปด้วย แต่คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ ส่วนแผนฮันนีมูนก็ยังไม่ได้คิดว่าเป็นประเทศไหน แต่อยากไปประเทศที่ยังไม่เคยไป สำหรับแผนมีทายาทคิดว่าแต่งแล้วจะมีเลย กลัวช้าแล้วจะมียาก ก็ตั้งใจว่าจะมีสัก 2 คน ลูกชายกับลูกสาว

สำหรับ เอ๊ะ-ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์ ก่อนหน้านี้เคยวางแผนจะแต่งงานกับนักร้องหนุ่มชื่อดัง “เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” หลังจากคบหาดูใจกันมานานถึง 12 ปี แต่แล้ว กลับต้องเลิกรากันไป.

“จรัมพร” ย้ำผลชันสูตรศพ”ภาวนา”ไม่ถูกฆาตกรรม


วันนี้( 13 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวสรุปผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.อรัญญาภรณ์ เหล่าแสงทอง หรือ ภาวนา ชนะจิต อายุ 69 ปี อดีตดาราชื่อดังว่า ผลการตรวจทางนิติเวชที่สำคัญพบว่า บาดแผลบนใบหน้าเป็นรอยรูปโค้งบริเวณแก้มด้านซ้าย มีรอยฟกช้ำบริเวณใบหน้าและปลายจมูก นอกจากนี้ พบรอยฟกช้ำบริเวณเหงือกตรงกับโคนรากฟัน รวมถึงมีแผลฟกช้ำ และถลอก ตามร่างกายหลายแห่งซึ่งวิเคราะห์แล้วไม่ได้เกิดจากการทำร้าย เนื่องจากเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น  ส่วนสภาพศพภายในนั้นพบว่า ปอดบวมน้ำมาก เส้นเลือกที่ฐานสมองแข็งและหนาตัวร้อยละ 70 พบหย่อมเนื้อตายสีขาวที่ผนังห้องหัวใจล่างซ้าย เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจหนาตัวร้อยละ 50 ส่วนหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจบริเวณขั้วหัวใจค่อนข้างตีบ
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อว่า เมื่อเทียบรอยแผลกับจุดเกิดเหตุสามารถวิเคราะห์การตกลงไปในบ่อของผู้เสีย ชีวิตได้โดย ลักษณะรัศมีห่างระหว่างถังวางบัวห่างจากจุดริมบ่อน้ำที่คาดว่าจะตกลงไปแนว ระนาบประมาณ 120 ซม. เมื่อผู้ตายตกลงในแนวดิ่งระยะก็ห่างประมาณ 130 ซม. โดยที่ผู้ตายสูง 165 ซม. ซึ่งบ่อน้ำมีความสูงประมาณ 190 ซม. ผู้ตายยืนปลายเท้าห่างจากขอบบ่อน้ำดังกล่าวประมาณ 30 ซม. เป็นเหตุผลที่สอดรับกับการสันนิษฐานถึงระหว่างที่ผู้ตายได้นั่งลงบริเวณริม ขอบสระให้อาหารปลา น่าจะเกิดอาการหน้ามืดทำให้ศีรษะทิ่มลงไป จากนั้นคาดว่าผู้ตายเอามือ 2 ข้างจับและปากไปกระแทกขอบกับถังวางบัว  เนื่องจากมีร่องรอยบริเวณที่เหงือก
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวด้วยว่า บริเวณแก้มซ้ายของผู้ตายจะเป็นแผลที่ฉกรรจ์มากกว่าแผลจุดอื่นๆ โดยมีความกว้าง 3.5 ซม. ตรงกันกับวัตถุทรงกระบอกที่ทำจากไม้อัดแช่น้ำม้วนเป็นวงกลม ข้างถังวางบัว  นอกจากนี้ยังพบร่องรอยด้านขวาและซ้ายของขอบถังมีรองรอยของมือที่ไปโดนทำให้ ตะไคร้ของฝาถังหลุดลอกไป  และฝาถังดังกล่าวเคลื่อนไปเล็กน้อย
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะถูกทำร้ายก่อนตกบ่อน้ำ พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า  ลักษณะบาดแผลไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้าย  นอกจากนี้พบว่า ภายในบ้านมีรอยเท้าของผู้ตายเพียงคนเดียว จึงสามารถสันนิษฐานได้ว่า ผู้ตายได้ถือกระจาดให้อาหารปลานิลที่เลี้ยงไว้ หรือเข้ามาไหว้ศาลเจ้าแม่นมสาว ลักษณะนั่งยองๆ นั่งแล้วอาจจะพยายามยืนในท่าขาชิดกันทำให้สมดุลของร่างกายมีปัญหามีลักษณะ โน้มตัวไปข้างหน้า จึงทำให้แรงกดไปอยู่ที่บริเวณนิ้วเท้ามากกว่าส้นเท้า แพทย์ระบุว่าเป็นปกติที่อาจจะทำให้เกิดอาการหน้ามืดได้ โดยเหตุผลที่ผู้ตายมีอาการหน้ามืด พบว่า
ผู้ตายมีกล้ามเนื้อหัวใจตายบางจุด หลอดเลือดหัวใจตีบ ประกอบกับเส้นเลือดฐานสมองมีอาการตีบกว่าร้อยละ 70 โดยผู้ตายได้มีการรับประทานยาแก้ความดันและเบาหวาน ทั้งนี้ เมื่อประมวลทั้งหมด ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่ามีผู้ใดจะเข้ามาทำร้ายร่างกายได้ รวมถึงการสืบสวนสอบสวนทั้งหมดนั้น สามารถตรวจสอบได้ทั้งอ้างถิ่นที่อยู่ของสามีผู้ตายที่อยู่ที่บริเวณจุดอื่น ด้วย ทั้งนี้ ยังต้องรอผลการตรวจชิ้นเนื้อ เลือด และอาหารในกระเพาะว่ามีสารพิษหรือไม่โดยทราบผลสัปดาห์หน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า  พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี เตรียมสอบสวนว่า ทรัพย์สมบัติของผู้ตายจำนวนมากที่มีบุตรบุญธรรมของผู้ตายเป็นผู้ได้รับผล ประโยชน์ จะเป็นมูลเหตุในการฆาตกรรมได้หรือไม่  .

โจรกรุงซิ่งจยย.วิ่งราวกระเป๋าหรูเจ๊ร้านเพชรย่านรัชดา


วันนี้( 13 ก.ย. )ร.ต.ต.ปรีชา พลซา พงส. (สบ 1) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์บริเวณลานจอดรถหน้าร้านอาหารหมูหันสองพี่น้อง ถ.พระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพบผู้เสียหายชื่อ น.ส.นภารัตน์ ธงไชย อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของร้านจูน ขายเพชรและเครื่องประดับย่านรัชดาภิเษก กำลังยืนรอให้การอยู่หน้าบ้าน

สอบสวน น.ส.นภารัตน์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้พาครอบครัวมาร้านอาหารที่ร้านดังกล่าว หลังจากทานอาหารเสร็จ ขณะตนเดินกลับไปที่รถได้ มีคนร้ายเป็นชาย 1 ราย ไม่ทราบการแต่งกาย จำได้แค่เพียงสวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบใช้รถ จยย.แบบผู้หญิงไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น ขับมาประกบด้านหลังก่อนกระชากกระเป๋าสะพายยี่ห้อ บอลี่ สีน้ำตาล ภายในมีเงินสดจำนวนกว่า 100,000 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง บัตรเครดิตรและบัตรเอทีเอ็ม ก่อนที่คนร้ายจะเร่งเครื่องหลบหนีไปทางถนนพระราม 3 มุ่งหน้าคลองเตย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงเร่งแจ้งวิทยุสกัดจับแต่ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจเป็นคนในพื้นที่เพราะรู้เส้นทางหลบหนี อย่างดีซึ่งจะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป.

พนักงานรถไฟพลัดตกโบกี้ถูกทับขาดสองท่อน


วันนี้( 14 ก.ย.) พ.ต.ท.ทรงกลด พัฒนวราภรณ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.นพวงศ์ รับแจ้งเหตุมีชายถูกรถไฟขบวนที่ 144 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ทับเสียชีวิตภายในสถานีรถไฟหัวลำโพง ชานชลาที่ 3 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากท้ายขบวนรถไฟดังกล่าวไปประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพนายทองแดง โยงทองหลาง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245/46 ซอยริมทางรถไฟบางซื่อ แขวงและเขตบางซื่อ เป็นพนักงานการเดินรถ 3 ฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย สภาพศพนอนหงายอยู่บนรางรถไฟ สวมชุดพนักงานการรถไฟสีกากี บริเวณขาทั้งสองข้างมีรอยล้อรถไฟทับจนช่วงหัวเข่าขาดกระเด็นออกจากร่าง โดยขาข้างขวากระเด็นไปอยู่นอกราง ส่วนขาข้างซ้ายติดอยู่ข้างศพ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายมีหน้าที่คอยจัดการรถขบวนต่างๆที่เข้ามาจอดในสถานีหัวลำโพง ก่อนจะลากไปไว้ที่ย่านรถไฟ ซึ่งก่อนเกิดเหตุเพิ่งมาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่เมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงเวลา 03.00 น. หลังจากรถไฟขบวนดังกล่าวเข้ามาจอดที่ในหัวลำโพงเรียบร้อยแล้ว รปภ.ของสถานีก็มาพบศพผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่บนรางเป็นคนแรก โดยที่ไม่มีใครเห็นช่วงจังหวะเกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณด้านหน้าขบวนรถก็ไม่พบร่องรอยการชนแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุที่ผู้ตายพลัดตกจากโบกี้หรือ ลื่นล้มขณะที่รถไฟกำลังเข้าจอดในชานชลา จึงทำให้ถูกทับจนขาขาดเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะส่งศพผู้ตายไปชันสูตรสาเหตุการตายที่สถาบันนิติเวช พร้อมทั้งเรียกพนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าวมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป.

จำคุกอดีตตำรวจไล่ยิงชาวบ้าน


วันนี้ (14 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 803 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  ศาลอ่านคำพิพากษาคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10   เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.ต.ถิรายุ เพ็ชรมีค่า อายุ  29 ปี อดีต ผบ.หมู่กองกำกับการอารักขา 2 บก.อคฝ.(ควบคุมฝูงชน) เป็นจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควรโดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลย เมื่อวันที่  22  มี.ค.  55 สรุปว่า
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2554 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยได้ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เทา พร้อมใช้อาวุธปืนพกออโตเมติกขนาด 9 มม.(LUGER) ทะเบียน กท 5232629ติดตัวไปที่ ถ.พระราม 5 เขตดุสิต และยิงนายสุรเดช  สุขถาวร  ผู้เสียหายที่ 1 ได้รับอันตรายสาหัสและยิง น.ส. นิภาพร  ประเสริฐศรี ผู้เสียหายที่2 ได้รับอันตรายแก่กาย เหตุเกิดที่แขวงสวนจิตรดา เขตดุสิต กทม. ขอให้ลงโทษตาม ป.อาญา มาตรา มาตรา288 ,371, พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ  พ.ศ.2490 มาตรา  8 ทวิ , / ทวิ ก่อนหลบนีไป ต่อมาเจ้าหน้าทีตำรวจสามารถติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ จ.สงขลา พร้อมรถยนต์ และอาวุธปืนของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพ ว่า ขณะก่อเหตุมีอาการมึนเมา จนขาดสติ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐาน ประกอบคำรับสารภาพแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาจำคุกในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นจำคุก 33 ปี 4 เดือน และฐานกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ จำคุก 1  ปี รวมจำคุก 34  ปี  4  เดือน  จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 17  ปี  2  เดือน และให้บวกโทษคดีทำร้ายร่างกายของศาลนี้ที่รอลงอาญาไว้อีก  2 ปี 6 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 19  ปี  8 เดือน
ภายหลังคำพิพากษา ส.ต.ต.ถิรายุ ซึ่งถูกเบิกตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพกล่าวสั้น ๆ ว่า น้อมรับในคำพิพากษา และไม่ติดใจจะอุทธรณ์คดี.

รวบแก๊งยานรกขนยาเสพติด 6 แสนเม็ด


             วันนี้(14 ก.ย.) ที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผกก.สภ.พร้าว พร้อมกำลัง ตร.ภ.5 และ  ตร.สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดมูเซอร์ทางภาคเหนือ ประกอบด้วยผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายสำราญ แสนหลวง อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 235หมู่ 13 ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายพงศภัค เรืองกิจสุวรรณ  หรือ เลายี่ปา อายุ41 บ้านเลขที่ 223/3 หมู่ 13 ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายสมยศ เลาหมี่ อายุ42 ปี บ้านเลขที่ 223/8 หมู่ 13 ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และนายนพพร พนาศิริสมบูรณ์ อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 223/3 หมู่ 13 ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 600,000 เม็ด มูลค่ากว่า 180,000,000 บาท รถยนต์ปิคอัพ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์-ทอง หมายเลขทะเบียน บห 6485 เชียงใหม่ รถยนต์ปิคอัพแคป ยี่ห้อ อีซูซุ สีฟ้า-เทา หมายเลขทะเบียน ผท 8843 เชียงใหม่ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง สามารถจับกุมตัวได้ที่บนถนนบ้านขุนแจ๋ - บ้านเวียงป่าเป้า อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
                  พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ก.ย.   ผกก.สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพ ติดในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังในการตั้งจุดสกัด บนถนนบ้านขุนแจ๋ -บ้านเวียงป่าเป้า อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พบรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน จึงทำการตรวจค้น โดยรถกระบะคันแรก มีนายสำราญ เป็นผู้ขับขี่ และนายพงศภัค นั่งมาด้วย ซึ่งไม่พบสิ่งของผิดกฏหมาย แต่จากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 2 มีประวัติและพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และตรวจค้นรถกระบะคันที่ 2 มีนายสมยศ เป็นผู้ขับขี่ และนายนพพร นั่งมาด้วย ผลการตรวจค้นพบยาบ้า บรรจุอยู่ในตู้เซฟ ในกระเป๋าเป้ จำนวน 6 ใบ มียาบ้ารวม 600,000 เม็ด ซึ่งมีถุงปุ๋ยขี้ไก่เต็มคันรถทับอยู่
                 จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน จึงน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาได้ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติด  แต่ทางนายสำราญ ได้ให้การปฏิเสธ ว่ายาเสพติดดังกล่าวไม่ใช่ของตน ซึ่งอ้างว่าได้ซื้อรถกระบะคันดังกล่าวมาจากเต็นรถแห่งหนึ่ง โดยไม่ทราบว่ามีตู้เซฟ ที่ซ่อนยาเสพติดอยู่ในรถ ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบอีกว่าเครือข่ายยาเสพติดมูเซอร์ รับยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และจะมาจ้างผู้ต้องหาขนยาเสพติด เข้ามาตอนในของประเทศ โดยได้รับค่าจ้าง 500,000 บาท ซึ่งจะนำยาเสพติดมาพักไว้ที่ จ.เชียงใหม่ และในแต่ละครั้งจะมีการขนยาล็อตใหญ่ เพื่อเข้าสู้ตอนในของประเทศ
                พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ  โดยไปรับยาบ้ามาจากแนวชายแดนเพื่อมาส่งยังพื้นที่กทม.และขบวนการค้ายาเสพติด มีวิธีลบเลี่ยงด่านตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจแนบเนียนมากยิ่งขึ้น โดยนายสำราญผู้ต้องหามีขึ้นบัญชีดำอยู่ที่ตำรวจภูธรภาค 5สืบสวนทราบว่าทำมาแล้วหลายครั้ง และมีกลุ่มผู้ร่วมขบวนการอยู่อีก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมนี้ ก็ไม่กังวลว่าจะมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดมากขึ้น เนื่องจากได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามไว้หมดแล้ว ทั้งตำรวจบช.ปส. และหน่วยอื่นๆ ซึ่งคาดว่าขบวนการค้ายาคงหลบหนีไม่พ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่ นอน
ด้าน พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในทางการข่าวของเจ้าหน้าที่พบว่ามีการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาตอนในของประเทศ จำนวนมาก แต่สามารถจับกุมได้เพียงร้อยละ 15 ของยาบ้าที่เล็ดลอดเข้ามาภายในประเทศ ขณะที่เมื่อวานที่ผ่านมา มียาเสพติดล็อตใหญ่ประมาณเกือบล้านเม็ดลำเลียง เข้ามาตอนในของประเทศ แต่ระหว่างติดตามจับกุมผู้ต้องหาไหวตัวทัน จึงยังไม่สามารถจับกุมตัวได้  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายอย่างไรก็ตามจะมีการสืบสวนติดตามจับ กุมเครือข่ายดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป

จ่อแจ้งข้อหาเพิ่มลูกเจ้าสัวซิ่งเฟอร์รารี่ชนตร.ทองหล่อ


         จากกรณีนายยวรยุทธ์ อยู่วิทยา หรือบอส อายุ 27 ปี ลูกชายคนเล็กของนายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถสปอร์ต ยี่ห้อเฟอร์รารี่ พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์สายตรวจจนเป็นเหตุให้ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิต โดยทางพนักงานสอบสวนได้นัดให้นาย วรยุทธ เข้ามารับทราบข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมาแล้วทางทนายของครอบครัวอยู่วิทยาส่งหนังสือมาขอเลื่อนการมารับข้อ กล่าวหาเนื่องจากนายวรยุทธ อยู่ในอาการเครียดจนป่วยแล้วไม่ได้เข้ามาในวันและเวลาดังกล่าวตามที่เสนอ ข่าวไปแล้วนั้น
           ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ย. พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า จากการได้รับหนังสือจากทางทนายของครอบครัวอยู่วิทยา ซึ่งขอเลื่อนการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาของนาย วรยุทธโดยไม่ได้ระบุว่าจะเข้ามารับทราบข้อหาวันไหนนั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังรอผลการตรวจวัดความเร็วของรถคันดังกล่าวจากเจ้า หน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อนำมาประกอบสำนวน ก่อนจะเพิ่มข้อหาอีก 1 ข้อคือขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะออกในช่วงอาทิตย์หน้า อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกทางนาย วรยุทธเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาทั้ง 2 ข้อหาที่สน. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะกำหนดวันเวลาที่แน่นอนอีกครั้ง

ไต่สวนศพลูกจ้างสวนสัตว์ดุสิตถูกยิงช่วงสลายม็อบ


เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ ( 14 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพ คดีหมายเลขดำ อช.8/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรการเสียชีวิตนายมานะ อาจราญ ลูกจ้างของสวนสัตว์ดุสิตแผนกบำรุงรักษา เพื่อทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึงเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150  ซึ่งนายมานะถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53  บริเวณสวนสัตว์ดุสิต ถ.พระราม5 แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กทม.ระหว่างเหตุการณ์กระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อ ต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่บริเวณ ถ.ราชดำเนิน
โดยวันนี้พนักงานอัยการนำพยานขึ้นเบิกความรวม 3 ปาก ประกอบด้วย ร.ต.ต.ณรงค์ คำโพนรัตน์ พนักงานตำรวจ สน.สามเสน เบิกความสรุปว่า วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปยังจุดรวมพล กองร้อยที่ 1 ปราบจลาจล ที่สวนสัตว์ดุสิต ตั้งแต่เวลา 08.00 น. หลังจากนั้นได้รับคำสั่งให้ไปประจำจุดวัดเบญจมบพิตร แต่ทหารที่รักษาการณ์อยู่ที่วัดเบญจมบพิตรไม่ยินยอมให้เข้าไป พยานจึงกลับมาที่สวนสัตว์ดุสิต พบว่าเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในสวนสัตว์ดุสิตเพียง 7 นายจากทั้งหมด 120 นาย โดยตำรวจจะไม่มีอาวุธปืนมีเพียงกระบองเท่านั้น ส่วนพยานทำหน้าที่เฝ้าวิทยุสื่อสารอยู่ที่ลานจอดรถชั้น 1 สวนสัตว์ดุสิต กระทั่งเวลา 23.30 น.ขณะที่กำลังนอนหลับพักผ่อนก็มีกำลังทหารวิ่งเข้ามาหาที่กำบังภายในบริเวณ ลานจอดรถ พยานจึงหมอบลงกับพื้นและได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จากนั้นทหารได้ยิงปืนขึ้นฟ้ามุมเฉียง 45 องศา ขณะที่เสียงปืนดังอยู่นาน30 นาที จึงสงบลง
ด้าน พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง ตำรวจกองกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เบิกความเป็นพยานปากที่สองระบุว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นรอง ผกก.ป.สน.ดุสิต โดยเมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 10 เม.ย.53 ขณะกำลังตรวจท้องที่ย่านราชวัตร ได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่ามีเหตุยิงกันที่รัฐสภา จึงรีบไปที่เกิดเหตุ พบทหาร 30 นายนอนอยู่ในสภาพหมอบบนพื้น ถ.อู่ทองใน เล็งอาวุธปืน เอ็ม 16 ไปยังรัฐสภา พยานจึงสอบถามผู้บังคับบัญชาของทหารทราบว่า มีบุคคลยิงปืนจากทางรัฐสภามายังฝ่ายทหาร ซึ่งทหารเรียกให้บุคคลที่อยู่ภายในรัฐสภาออกมาแต่ไม่มีบุคคลใดออกมา พยานจึงอาสาจะไปเรียกบุคคลเหล่านั้น แต่พบว่าขณะนั้นมีตำรวจประจำรัฐสภา 2 นาย ซึ่งรู้จักกับพยานดี เมื่อตำรวจทั้ง 2 นายออกมา ทหารสั่งให้ยกมือขึ้นกุมศีรษะแล้วเมื่อทหารจะเข้าไปตรวจสอบภายในรัฐสภา ตำรวจประจำอาคารรัฐสภาขอให้ทหารปลดอาวุธก่อน โดยมีทหาร 6 นายเข้าไปตรวจสอบนาน 15 นาทีแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ จากนั้นจึงได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่าพบศพภายในสวนสัตว์ดุสิต พยานและทหารได้ตรวจสอบเหตุการณ์พร้อมกันจนทราบว่าผู้ตายคือนายมานะ แต่ไม่ทราบว่าถูกยิงด้วยสาเหตุใด
ส่วนพยานปากที่สาม คือ นายนภดล ทิพย์ธัญญา พนักงานบำรุงรักษาสัตว์ เบิกความว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ได้รับคำสั่งให้ดูแลความปลอดภัยบริเวณกรงเสือ ติดกับถ.ราชวิถี เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีคนปีนเข้ามาภายในสวนสัตว์ดุสิต จนถึงเวลา 23.30 น.ได้ยินเสียงปืนหลายนัด แต่ไม่ทราบว่ายิงมาจากทิศทางใด หลังจากนั้นได้รับการต่อต่อทางวิทยุสื่อสารว่า นายมานะโดนยิงล้มบริเวณกรงเก้งหม้อที่เป็นบ่อพักเต่ายักษ์ ขณะเดียวกันมีบุคคลแต่งกายคล้ายทหาร 2 นายวิ่งมาขอความช่วยเหลือบอกว่าถูกคนเสื้อแดงไล่ยิงมา พยานกับเพื่อนที่เข้าเวรด้วยกันจึงให้ไปหลบในกรงแพนด้าแดง โดยพยานกับเพื่อนจะเป็นผู้ดูต้นทางให้แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใดตามทหารทั้ง 2 นายมา
ภายหลังไต่สวนพยานเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจะนัดไต่พยานที่เหลือต่อไปตามที่นัดไว้แล้ว.

กรมทรัพยากรน้ำจัดงานวันอนุรักษ์น้ำ


วันนี้( 14ก.ย. )ที่กรมทรัพยากรน้ำ นายนิวัติชัย คัมภีร์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ แถลงข่าวการจัดงานวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 22ก.ย. ที่สนามกีฬากลาง จ.เลย ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย โดยในงานจะมีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แม่ทัพภาคที่2 ผู้ว่าราชการ จ.เลย ร่วมเป็นประธานเปิดงาน นายนิวัติชัย กล่าวว่า งานดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการ “ภูมิรักษ์ พิทักษ์น้ำ” ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 ส.ค.  และยังเป็นการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้องค์กรทุกภาคส่วนประชาชน ให้มีความตระหนักถึงความสำคัญและรู้คุณค่าของแม่น้ำ คู คลองด้วย โดยภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การปลูกต้นไม้ การปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดลงแม่น้ำเลย การแข่งขันทำอาหารจากปลาน้ำจืดและผัก การแสดงนิทรรศการทรัพยากรน้ำ เป็นต้น

Blog Archive

Design Downloaded from ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ | Free Textures | Web Design Resources