วันนี้ (14 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 803 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก
ศาลอ่านคำพิพากษาคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10
เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.ต.ถิรายุ เพ็ชรมีค่า อายุ 29 ปี อดีต
ผบ.หมู่กองกำกับการอารักขา 2 บก.อคฝ.(ควบคุมฝูงชน)
เป็นจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง
หมู่บ้านฯ
โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควรโดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลย
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 55 สรุปว่า
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2554 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยได้ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เทา พร้อมใช้อาวุธปืนพกออโตเมติกขนาด 9 มม.(LUGER) ทะเบียน กท 5232629ติดตัวไปที่ ถ.พระราม 5 เขตดุสิต และยิงนายสุรเดช สุขถาวร ผู้เสียหายที่ 1 ได้รับอันตรายสาหัสและยิง น.ส. นิภาพร ประเสริฐศรี ผู้เสียหายที่2 ได้รับอันตรายแก่กาย เหตุเกิดที่แขวงสวนจิตรดา เขตดุสิต กทม. ขอให้ลงโทษตาม ป.อาญา มาตรา มาตรา288 ,371, พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ , / ทวิ ก่อนหลบนีไป ต่อมาเจ้าหน้าทีตำรวจสามารถติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ จ.สงขลา พร้อมรถยนต์ และอาวุธปืนของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพ ว่า ขณะก่อเหตุมีอาการมึนเมา จนขาดสติ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐาน ประกอบคำรับสารภาพแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาจำคุกในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นจำคุก 33 ปี 4 เดือน และฐานกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 34 ปี 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 17 ปี 2 เดือน และให้บวกโทษคดีทำร้ายร่างกายของศาลนี้ที่รอลงอาญาไว้อีก 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 19 ปี 8 เดือน
ภายหลังคำพิพากษา ส.ต.ต.ถิรายุ ซึ่งถูกเบิกตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพกล่าวสั้น ๆ ว่า น้อมรับในคำพิพากษา และไม่ติดใจจะอุทธรณ์คดี.
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2554 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยได้ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เทา พร้อมใช้อาวุธปืนพกออโตเมติกขนาด 9 มม.(LUGER) ทะเบียน กท 5232629ติดตัวไปที่ ถ.พระราม 5 เขตดุสิต และยิงนายสุรเดช สุขถาวร ผู้เสียหายที่ 1 ได้รับอันตรายสาหัสและยิง น.ส. นิภาพร ประเสริฐศรี ผู้เสียหายที่2 ได้รับอันตรายแก่กาย เหตุเกิดที่แขวงสวนจิตรดา เขตดุสิต กทม. ขอให้ลงโทษตาม ป.อาญา มาตรา มาตรา288 ,371, พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ , / ทวิ ก่อนหลบนีไป ต่อมาเจ้าหน้าทีตำรวจสามารถติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ จ.สงขลา พร้อมรถยนต์ และอาวุธปืนของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพ ว่า ขณะก่อเหตุมีอาการมึนเมา จนขาดสติ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐาน ประกอบคำรับสารภาพแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาจำคุกในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นจำคุก 33 ปี 4 เดือน และฐานกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 34 ปี 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 17 ปี 2 เดือน และให้บวกโทษคดีทำร้ายร่างกายของศาลนี้ที่รอลงอาญาไว้อีก 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 19 ปี 8 เดือน
ภายหลังคำพิพากษา ส.ต.ต.ถิรายุ ซึ่งถูกเบิกตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพกล่าวสั้น ๆ ว่า น้อมรับในคำพิพากษา และไม่ติดใจจะอุทธรณ์คดี.
0 - ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ 083-792-5426:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น